Responsive image

Saturday, 02 Aug 2025

เกี่ยวกับเรา


Profile CEO THAILAND Magazine online

www.ceothailand.net

 

เจ้าของ  :  บริษัท เอก-วรา พับลิค รีเรชันส์ จำกัด

ความเป็นมาของสื่อ CEO THAILAND

          เริ่มก่อตั้ง... เมื่อปี 2547 ในนามสื่อรายเดือน “นิตยสาร CEO THAILAND” ซึ่งเป็นสื่อนิตยสารแนวธุรกิจที่เน้นนำเสนอข่าวสาร วิสัยทัศน์ผู้บริหาร และการบริหารองค์กรธุรกิจ ข่าวสารทางด้านธุรกิจ-เศรษฐกิจ การประกันภัย-การเงิน สัดส่วนเนื้อหา 70% , ข่าวราชการ-รัฐวิสาหกิจ-องค์กรอิสระ สัดส่วนเนื้อหา 15%  , เครือข่ายและธุรกิจอื่น ๆ 15%

          “นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์” ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท เอก-วรา พับลิค รีเรชันส์ จำกัด และสื่อ “CEO THAILAND” พร้อมทีมงาน ที่เชี่ยวกรากและมีประสบการณ์ในแวดวงการสื่อสิ่งพิมพ์ และวงการน้ำหมึกมาตั้งแต่ ปี 2533  ได้ร่วมกันจัดทำหนังสือนิตยสาร CEO THAILAND หนังสือแนวธุรกิจ “รายเดือน” ที่เกี่ยวข้องกับผู้บริหารโดยเน้นนำเสนอแนวทางการทำงาน การบริหารงาน และวิสัยทัศน์ในภาคธุรกิจ-เศรษฐกิจ  การประกันภัย-การเงิน  เครือข่ายและธุรกิจอื่น ๆ ทั้งนี้ ในช่วง 6 ปีแรกนั้น  ได้มีการจัดงานสัมมนาครบรอบ 2 ปี ของสื่อ CEO THAILAND   และได้มีการผลิตผลงานหนังสือฉบับพิเศษขึ้น 3 เล่มด้วยกัน   คือ 1) หนังสือ “สุดยอดผู้บริหารประกันภัย - ขายตรง 2004” ,   2) หนังสือ  “สุดยอดนักบริหารแห่งปี 2005”   และ  3) หนังสือ “ฅนแห่งทศวรรษ 2010”    ที่ล้วนเป็นงานเขียนของ   นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ บรรณาธิการบริหาร  กลุ่มสื่อ CEO THAILAND

          ตลอดระยะเวลามากกว่า 20 ปี ของสื่อ CEO THAILAND ได้ทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ในการนำเสนอข่าวสาร เป็นสื่อกลางนำข่าวสารดี ๆ มีคุณประโยชน์ มาเผยแพร่ถ่ายทอดผ่านกลุ่มสื่อ CEO THAILAND ไปสู่กลุ่มผู้บริโภค และกลุ่มมวลชน สาธารณชน ให้ได้รับประโยชน์จากข่าวสารสาระดี ๆ มากมาย

          ที่ผ่านมาของสื่อ CEO THAILAND   นอกจากสร้างสรรค์สื่อสิ่งพิมพ์แล้ว   ทางบริษัท เอก-วรา พับลิค รีเรชันส์ จำกัด   ผู้ผลิตสื่อ CEO THAILAND ยังได้สร้างสรรค์สื่อทีวีอีกด้วย  ได้มีการเผยแพร่บทสัมภาษณ์ของผู้บริหารองค์กรต่าง ๆ มากมาย ผ่านสื่อทีวีรายการ “CEO THAILAND”  

          อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ปัจจุบันที่สื่อต่าง ๆ ได้มีการปรับเปลี่ยนแผนงาน เพื่อให้ตอบรับกับยุคที่เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทกับการรับข่าวสารของผู้บริโภคมากขึ้น หรือเรียกได้ว่าเป็นยุคของสื่อดิจิทัล ดังนั้น สื่อ “CEO THAILAND” จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ก็ต้องถึงยุคการเปลี่ยนผ่านจากสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่อออฟไลน์ มาเป็นสื่อออนไลน์ หรือสื่อดิจิทัล เช่นเดียวกัน 

          ดังนั้น ในปี 2563 เป็นต้นมา สื่อ “CEO THAILAND”    จึงได้มีการปรับเปลี่ยนจากสื่อออฟไลน์  มาเป็นสื่อออนไลน์   ในชื่อว่า   CEO THAILAND Magazine Online  โดยนำเสนอผ่านทางเว็บไซต์ www.ceothailand.net  ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ครอบคลุมทุกกลุ่มมากขึ้น สามารถรับข่าวสารได้อย่างรวดเร็วและกระจายข่าวสารได้อย่างฉับไวมากยิ่งขึ้น

          กลุ่มผู้บริโภค สามารถรับข่าวสารดี ๆ  จากกลุ่มผู้ประกอบการได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น อีกทั้งการรับข่าวสาร-ประชาสัมพันธ์ของบริษัทฯ และองค์กร หรือการเผยแพร่โฆษณาแบนเนอร์ต่าง ๆ ที่ยังสามารถคลิกลิ้งค์เข้าไปดูสาระดี ๆ ยังเว็บไซต์หลักของผู้ประกอบการได้อีกด้วย ซึ่งนับได้ว่าเป็นประโยชน์ที่ดี ที่ได้ทั้งผู้รับข่าวสาร และผู้ถ่ายทอดข่าวสาร คุณประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย ในการเผยแพร่ผ่านช่องทางของสื่อดิจิทัล CEO THAILAND  (www.ceothailand.net)

          นอกจากนี้แล้ว กลุ่มสื่อ “CEO THAILAND” จะมีรายการทีวี “CEO THAILAND” ซึ่งเป็นรายการทีวี ที่นำเสนอสาระข่าวสาร ทั้งด้านธุรกิจ-เศรษฐกิจ-ประกันภัย-การเงิน-SME ฯลฯ มานำเสนอให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยจะเป็นสื่อกลางในการเชื่อมต่อระหว่างผู้ประกอบการไปยังผู้บริโภคให้ได้รับข่าวสารอย่างสร้างสรรค์สังคมต่อไป

          ขอขอบพระคุณทุกท่าน ที่ได้ติดตามข่าวสารสาระดี ๆ จากกลุ่มสื่อ “CEO THAILAND” เสียงตอบรับของพวกท่าน คือส่วนหนึ่งในกำลังใจที่ทำให้พวกเราทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่เข้มแข็งต่อไป

 

ขอคารวะด้วยใจ

กองบรรณาธิการสื่อ CEO THAILAND

 

Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

บอร์ด ธ.ก.ส. มีมติเห็นชอบการให้ความช่วยเหลือครอบครัวทหาร และ ตชด. วีรบุรุษผู้เสียสละชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศไทย – กัมพูชา ที่บิดา - มารดา หรือคู่สมรสเป็นลูกค้า ธ.ก.ส. โดยยกหนี้ในส่วนของต้นเงินกู้ทุกสัญญา และยกหนี้ในส่วนของดอกเบี้ยทั้งจำนวน ภายใต้สัญญาที่ใช้แหล่งเงินทุน ธ.ก.ส. เพื่อให้ความช่วยเหลือและสงเคราะห์ลูกหนี้ และลดภาระให้สามารถดำรงชีพต่อไปได้อย่างมั่นคง นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา อันส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของเกษตรกรลูกค้าของธนาคาร โดยมีทั้งทหารและประชาชนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ตลอดจนที่อยู่อาศัยรวมถึงพื้นที่ทำกินได้รับความเสียหาย และเพื่อให้ความช่วยเหลือและสงเคราะห์ลูกหนี้  และลดภาระให้สามารถดำรงชีพต่อไปได้อย่างมั่นคง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ ธ.ก.ส. เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ กรณีบุตร คู่สมรส ของลูกค้า ธ.ก.ส. ที่เป็นทหาร หรือ ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศไทย – กัมพูชา โดยธนาคารจะยกหนี้ในส่วนของต้นเงินกู้ทุกสัญญา และยกหนี้ในส่วนของดอกเบี้ยค้างรับและดอกเบี้ยปรับทั้งจำนวน ภายใต้สัญญาที่ใช้แหล่งเงินทุน ธ.ก.ส. เป็นกรณีพิเศษ ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ขอแสดงความห่วงใยต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา คนข้างหลังไม่ต้องกังวล ธ.ก.ส. อยู่เคียงข้างและพร้อมก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ Call Center 02 555 0555 ตลอด 24 ชั่วโมง  

01 Aug 2025

...

นายวีระชัย อมรถกลสุเวช รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา รวมถึงเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศที่ยังคงรุนแรงและส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเป็นอยู่ของประชาชนจำนวนมาก ธนาคารออมสินจึงเร่งออกมาตรการ “พักหนี้อัตโนมัติ ไม่คิดดอกเบี้ย” เพื่อช่วยบรรเทาภาระของลูกค้าธนาคารที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งมีอยู่จำนวนกว่า 40,000 บัญชี คิดเป็นเงินต้นกว่า 9,000 ล้านบาท มาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย นาน 3 เดือน – ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น ธนาคารยกให้ ไม่ต้องจ่ายคืน! ครอบคลุมลูกหนี้สินเชื่อทุกกลุ่ม (ยกเว้นบางประเภทตามเงื่อนไข*) โดยมีหลักเกณฑ์สำคัญ คือ พักชำระหนี้อัตโนมัติ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นเวลา 3 เดือน โดยดอกเบี้ยในช่วงเวลาพักหนี้ธนาคารยกให้ทั้งหมด ลูกหนี้ไม่ต้องชำระภายหลัง และเมื่อพักหนี้ครบกำหนด ลูกหนี้ชำระหนี้ตามเงื่อนไขสัญญาเดิม เป็นลูกหนี้ที่มีภูมิลำเนา ที่อยู่อาศัย หรือสถานที่ประกอบอาชีพในพื้นที่ภัยพิบัติตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ธนาคารจะส่ง SMS หรือจดหมาย ส่งตรงถึงผู้ที่ได้รับสิทธิ์ กรณีไม่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการ ลูกหนี้สามารถติดต่อแจ้งสาขาที่สะดวก หรือแจ้งที่ GSB Contact Center โทร. 1115 กรณีลูกหนี้ได้รับ SMS หรือจดหมายจากธนาคาร แต่ไม่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการพักหนี้ สามารถชำระหนี้ได้ตามปกติ ธนาคารจะนำเงินงวดไปตัดลดต้นเงินทั้งจำนวน ธนาคารออมสินขอส่งกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมยืนยันว่าจะอยู่เคียงข้างและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพื่อให้ลูกค้ากลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการฯ ได้ที่เว็บไซต์ www.gsb.or.th *หมายเหตุ : ไม่รวมสินเชื่อบางประเภท เช่น สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่, สินเชื่อชีวิตสุขสันต์, สินเชื่อตามนโยบายรัฐ (PSA) และสินเชื่อสำหรับผู้มีรายได้ประจำ

30 Jul 2025

...

บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP ตอกย้ำความแข็งแกร่งทางธุรกิจในระดับสากล ด้วยการได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงิน (Financial Strength Rating) ที่ระดับ A- (Excellent) จาก AM Best สถาบันจัดอันดับเครดิตชั้นนำระดับโลก ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 พร้อมคงมุมมองมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “การได้รับอันดับเครดิตระดับ A- (Excellent) ต่อเนื่องถึง 7 ปี พร้อมคงมุมมองมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงความมั่นคงทางการเงินของบริษัทฯ การบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ และการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาล” “ความสำเร็จในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทิพยประกันภัยในการยกระดับมาตรฐานองค์กร พร้อมส่งมอบบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกสถานการณ์ โดยไม่หยุดพัฒนาเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ถือหุ้น คู่ค้า และประชาชนอย่างยั่งยืน” การประเมินอันดับเครดิตของ AM Best พิจารณาจากผลการดำเนินงานที่โดดเด่นของทิพยประกันภัย ทั้งในด้านการรับประกันภัย การลงทุน และการบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม แม้เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ซึ่งล้วนตอกย้ำถึงความพร้อมของบริษัทในการดูแลลูกค้าและส่งมอบบริการที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง โดยอันดับเครดิตระดับ A- (Excellent) พร้อมคงมุมมองมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) นี้ ถือเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของทิพยประกันภัยในการยกระดับมาตรฐานองค์กร พัฒนาสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าในทุกมิติ

30 Jul 2025

...

ดร.สมพร  สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) พร้อมคณะผู้บริหาร ร่วมบันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568  เพื่อเทิดพระเกียรติและแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย  

27 Jul 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner