Responsive image

Wednesday, 03 Sep 2025

LATEST NEWS

INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต

...

เอไอเอ ประเทศไทย เปิดตัววิดีโอโฆษณา “AIA Financial Advisor” ชุดใหม่ล่าสุด มุ่งขับเคลื่อนเป้าหมายในการสร้างคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาอาชีพที่ให้อิสระด้านเวลา รายได้ และการเติบโต พร้อมกับการมอบโอกาสและสร้างการรับรู้เกี่ยวกับอาชีพ “ที่ปรึกษาด้านประกันชีวิต การเงิน และสุขภาพ หรือ AIA Financial Advisor (AIA FA)” ให้แก่คนรุ่นใหม่ ซึ่งปัจจุบันนับเป็นอาชีพที่อยู่ในความสนใจของหลายคน ผ่านวิดีโอโฆษณาทั้ง 4 เวอร์ชั่น ที่สร้างสรรค์ขึ้นภายใต้คอนเซปท์ “เปลี่ยนความโป๊ะให้เป็นความเป๊ะ” ถ่ายทอดเรื่องราวในมุมมองชีวิตจริงของคนยุคดิจิทัล ที่ชอบแชร์หรือโพสต์ Lifestyle บนโลกโซเชียล และอยากที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ชีวิตจริงกลับตรงกันข้าม ด้วยความเข้าใจในความต้องการของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง เอไอเอ จึงอยากชวนทุกคนมาสร้างอนาคตที่มั่นคงกับอาชีพ AIA FA เพื่อเปลี่ยนให้ความฝันเป็นความจริง ซึ่งยังเป็นการตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำในธุรกิจและวิสัยทัศน์ที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งของเอไอเอ ด้วยความพร้อมยกระดับตัวแทนสู่การเป็นที่ปรึกษาด้านประกันชีวิต การเงิน และสุขภาพ (AIA FA) มืออาชีพ เพื่อส่งมอบความคุ้มครองและช่วยคนไทยวางแผนชีวิต สุขภาพ และการเงินให้มั่นคงและมั่งคั่งอย่างยั่งยืน ตามคำมั่นสัญญา “Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น”   นางอลิสา สิมะโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “โครงการ AIA FA ไม่ได้เป็นเพียงอาชีพที่ให้รายได้ แต่เป็นอาชีพที่ให้โอกาสในการสร้างชีวิตที่เลือกได้ด้วยตัวเอง ด้วยโครงสร้างผลประโยชน์รายได้ที่ชัดเจน มีแผนรับรองรายได้ 12 เดือน มีโบนัส CAB ทำงาน 5 ปี 5 ล้านบาท* ไม่มีเพดานรายได้ และมีรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่น ทำให้สามารถจัดสรรเวลาตัวเองได้ พร้อมกับมีเครื่องมือดิจิทัลเฉพาะของเอไอเอที่รองรับการทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ให้คุณค่าในเรื่องการใช้ชีวิตควบคู่ไปกับอิสระด้านรายได้และความมั่นคงในชีวิต อีกทั้งอาชีพนี้ยังตอบโจทย์ความต้องการคนรุ่นใหม่ที่อยากประสบความสำเร็จเร็ว หรืออยากมีธุรกิจของตัวเอง โดยสามาถเติบโตเป็นผู้บริหารหน่วยได้เร็วตามความสามารถ หรือเป็นเจ้าของสำนักงานตัวแทนซึ่งเปรียบเสมือนการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง” นางอลิสา เสริมถึงความพร้อมในการพัฒนาตัวแทนว่า “เอไอเอ เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาที่ปรึกษามืออาชีพ โดยเริ่มจัดตั้งโครงการ AIA FA ตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรก ๆ ในตลาดประเทศไทย อีกทั้งยังมีการเปิดศูนย์ฝึกอบรม AIA FA Center กว่า 15 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความพร้อมในการรองรับและพัฒนา AIA FA ให้ประสบความสำเร็จในอาชีพ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมมานานกว่า 16 ปีของเอไอเอ โดยมีทั้งหลักสูตรที่ได้รับรองโดยสถาบันชั้นนำระดับโลก หรือการร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในการพัฒนาหลักสูตรพิเศษด้านการเงิน (สำหรับ FA Prime) หลักสูตรฝึกอบรมเหล่านี้จะช่วยพัฒนาและเสริมทักษะให้ AIA FA เป็นที่ปรึกษามืออาชีพ มีความรู้ครอบคลุมทั้งมิติด้านการวางแผนประกันชีวิตและด้านการเงิน ยิ่งไปกว่านั้น เรามีการนำเทคโลยีทันสมัยอย่าง AI เข้ามาใช้ในการคัดกรอง วิเคราะจุดอ่อนจุดแข็ง และพัฒนาศักยภาพตัวแทนด้วยวิธี Role Play เป็นลูกค้าเสมือนเพื่อให้ตัวแทนได้ฝึกสนทนากับลูกค้า ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจและยกระดับตัวแทนคุณภาพที่สามารถส่งมอบความคุ้มครองให้คนไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในทุกช่วงชีวิต” สำหรับโครงการ AIA FA เปิดรับคนรุ่นใหม่ที่มี วุฒิปริญญาตรีสาขาใดก็ได้ และมองหาอาชีพที่ให้อิสระในการบริหารจัดการเวลาได้ด้วยตัวเอง สามารถสร้างรายได้แบบไร้เพดาน พร้อมโอกาสเติบโตอย่างมืออาชีพ อีกทั้งยังได้ทำงานพร้อมสร้างสมดุลให้กับชีวิต และมีเวลาสำหรับครอบครัว หรือ Passion ของตัวเอง ที่สำคัญโครงการ AIA FA ยังให้ผลตอบแทนพิเศษกับแคมเปญ “โบนัส 5 ปี 5 ล้าน” เพื่อเป็นเป้าหมายความสำเร็จของผู้เข้าร่วมโครงการฯ โดยเอไอเอ อยากเชิญชวนคนรุ่นใหม่ที่สนใจ รับชมวิดีโอโฆษณาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของเอไอเอ ทั้ง Facebook, Instagram, YouTube, TikTok และสื่อประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ หรือคลิกลิงก์ https://youtu.be/Ky66staK19Q ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมหรือสมัครเข้าร่วมโครงการ AIA FA ได้ทางเว็บไซต์ www.aia.co.th/FA

03 Sep 2025


...

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดย คุณพรศักดิ์ สุวรรณทรรภ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายตัวแทน (คนที่ 4 แถวหลัง) นำกองทัพสุดยอดตัวแทน 130 ท่าน เข้ารับรางวัลอันทรงเกียรติ ในงาน GAMA Awards 2025 ซึ่งจัดขึ้นโดย สมาคมผู้บริหารธุรกิจประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน (General Agent & Manager Association Thailand) โดยสุดยอดตัวแทนของกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต สามารถคว้า 4 สาขารางวัล ประกอบด้วย 1. สาขา Excellence Recruitment Award 2. สาขารางวัล Frontline Leader Award 3. สาขารางวัล International Management Award และ 4. สาขารางวัล Master Agency Award & Master Firm Award ณ ห้อง รอยัล จูบิลี่ บอลรูม อิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับรางวัล GAMA Awards เป็นรางวัลเพื่อเชิดชูเกียรติผู้นำผู้สร้างแรงบันดาลใจ และพัฒนาทีมที่ปรึกษาการเงินให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยรางวัลดังกล่าวนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจ และเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวแทนของบริษัทฯ ในการสร้างผลงานที่มีมาตรฐาน พร้อมยกระดับให้ฝ่ายขายประสบความสำเร็จในอาชีพตั้งแต่เริ่มต้น จนก้าวสู่การเป็นนักขายมืออาชีพ ตามนโยบายหลักของบริษัทฯ ที่พร้อมอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป  ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจร่วมงานเป็นตัวแทนกับบริษัทฯ สามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานตัวแทนใกล้บ้านท่าน หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1159  

02 Sep 2025

...

กรุงเทพประกันชีวิต ร่วมกับธนาคารกรุงเทพ เดินหน้าโครงการ ‘Gain & Save รับความคุ้มครองชีวิตพร้อมสิทธิ์ดอกเบี้ยพิเศษ’ เฟส 2 เพื่อเป็นอีกหนึ่งเลือกในการวางแผนการเงินอย่างมั่นคงในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน โดยนำเสนอ 5 แบบประกันชีวิตสะสมทรัพย์ (Gain 1st) ที่ผสานทั้งความคุ้มครองชีวิตและผลตอบแทนที่แน่นอน พร้อมสิทธิประโยชน์พิเศษจากบัญชีเงินฝากประจำ “บัวหลวงซุปเปอร์โบนัส” ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษสูงสุดถึง 3.35% ต่อปี นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนในปัจจุบัน ทำให้ประชาชนให้ความสำคัญกับการวางแผนทางการเงินเพื่อสร้างความมั่นคงมากขึ้น กรุงเทพประกันชีวิตและธนาคารกรุงเทพจึงเดินหน้าโครงการ ‘Gain & Save รับความคุ้มครองชีวิตพร้อมสิทธิ์ดอกเบี้ยพิเศษ’ ต่อเนื่องเป็นเฟสที่ 2 เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์ครบทั้งด้านความคุ้มครองและผลตอบแทนที่มั่นคง ช่วยให้ลูกค้ามีทางเลือกที่เหมาะสมกับเป้าหมายและไลฟ์สไตล์ของตนเอง” โครงการ “Gain & Save” เฟส 2 นำเสนอแบบประกันชีวิตสะสมทรัพย์ที่ได้รับความนิยมจากเฟสแรก 3 แบบ ได้แก่ เกนเฟิสต์ 810 เกนเฟิสต์ สปีดอัพ 15/8 และเกนเฟิสต์ เซฟวิ่งส์ เท็นเอกซ์ 15/10 พร้อมเพิ่มทางเลือกใหม่อีก 2 แบบ ได้แก่ เกนเฟิสต์ 525 (มีเงินปันผล) และเกนเฟิสต์ 650 (มีเงินปันผล) ซึ่งเป็นแบบประกันชีวิตสะสมทรัพย์ที่มีเงินปันผล โดยทั้ง 5 แบบดังกล่าวมอบทั้งผลประโยชน์เมื่อครบสัญญา และมอบเงินคืนระหว่างสัญญาในอัตราที่แน่นอน รวมถึงมีโอกาสได้รับเงินปันผลสำหรับแบบประกันชีวิตสะสมทรัพย์ที่มีเงินปันผล อีกทั้งได้รับความคุ้มครองชีวิต และรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามที่กรมสรรพากรกำหนด โดยลูกค้าที่ชำระเบี้ยประกันภัยรายปีตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไปต่อกรมธรรม์ จะได้รับสิทธิ์เปิดบัญชีเงินฝากประจำ 6 เดือน “บัวหลวงซุปเปอร์โบนัส (2)” โดยฝากเงินได้สูงสุดเท่ากับเบี้ยประกันภัยที่ลูกค้าสมัครทำประกันชีวิต พร้อมรับดอกเบี้ยพิเศษสูงสุด 3.35% ต่อปีโดยอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด สิทธิพิเศษนี้เริ่มตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2568 ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บัวหลวงโฟน โทร. 1333 และบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โทร. 0 2777 8888 หรือ www.bangkoklife.com    

02 Sep 2025

...

เอไอเอ ประเทศไทย ตอกย้ำการเป็นผู้นำในธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ เดินหน้าเปิดศูนย์ฝึกอบรมที่ปรึกษาด้านประกันชีวิต การเงิน และสุขภาพ จังหวัดระยอง (AIA FA Center Rayong) เป็นแห่งที่ 15 ของประเทศไทย เพื่อรองรับอัตราการเติบโตของลูกค้าในพื้นที่ภาคตะวันออก รวมถึงการเติบโตของจำนวน AIA FA ที่มีมากถึง 37% จากจำนวนตัวแทนทั้งหมดในพื้นที่ ซึ่งจากศักยภาพในการเติบโตที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น เอไอเอ ประเทศไทย จึงได้จัดตั้ง ศูนย์ฝึกอบรมที่ปรึกษาด้านประกันชีวิต การเงิน และสุขภาพ จังหวัดระยองขึ้น เพื่อมุ่งผลักดันตัวแทนคุณภาพตามเป้าหมาย     ด้วยการนำเทคโนโลยี AI และเครื่องมือดิจิทัลที่ทันสมัยมาใช้ในการสนับสนุนการฝึกอบรมตัวแทนทั้งรูปแบบการเรียนในห้องเรียน (F2F) และรูปแบบออนไลน์ เพื่อช่วยพัฒนาและยกระดับตัวแทนให้ก้าวสู่การเป็นที่ปรึกษาด้านประกันชีวิต การเงิน และสุขภาพ (AIA FA) อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมคอร์สฝึกอบรมที่เข้มข้นและสอดคล้องกับสถานการณ์ในยุคปัจจุบัน เพื่อช่วยตัวแทนในการนำเสนอแผนประกันที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของลูกค้า สนับสนุนให้ลูกค้าสามารถวางแผนด้านประกันชีวิต สุขภาพ และการเงิน ได้อย่างครบวงจร พร้อมมุ่งส่งเสริมให้ผู้คนกว่าพันล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ตามคำมั่นสัญญา “Healthier, Longer, Better Lives”  

01 Sep 2025

...

  สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้ออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 51/2568  ลงวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เรื่อง ให้แก้ไขแบบ ข้อความ ของกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัย ของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ และกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า โดยกำหนดให้ปรับเพิ่มวงเงินความคุ้มครองสูงสุดต่อครั้งของกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จากเดิม 5 ล้านบาท และ 10 ล้านบาท เป็น 20 ล้านบาท และปรับเพิ่มวงเงินความคุ้มครองสูงสุดต่อครั้ง ของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ และกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า ให้มีจำนวนเงินขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท เพื่อรองรับกรณีเกิดอุบัติเหตุรายใหญ่ที่มีผู้เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงบ่อยครั้ง โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายไพบูลย์ เปี่ยมเมตตา ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย และประธาน คณะทำงานแนวทางพัฒนาการจัดทำกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเกิดอุบัติเหตุรายใหญ่บ่อยครั้ง ส่งผลให้จำนวนเงินความคุ้มครองสูงสุดต่อครั้งของกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งกำหนดไว้เพียง 5 ล้านบาท และ 10 ล้านบาท ต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง รวมถึงกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ และกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า ที่ส่วนใหญ่กำหนดวงเงินความคุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย และอนามัยของบุคคลภายนอกไว้ที่ 10 ล้านบาทต่อครั้ง ไม่เพียงพอต่อการชดใช้  ค่าสินไหมทดแทนตามจำนวนเงินความคุ้มครองสูงสุดต่อคน ที่กำหนดไว้ 500,000 บาท ดังนั้น สำนักงาน คปภ. โดยสายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย จึงได้นำประเด็นดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะทำงานแนวทางพัฒนาการจัดทำกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัย ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ปรับเพิ่มวงเงินความคุ้มครองสูงสุดต่อครั้ง  สำหรับการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เป็น 20 ล้านบาท โดยไม่มีการปรับเพิ่มเบี้ยประกันภัย และให้ปรับเพิ่มวงเงินความคุ้มครองขั้นต่ำต่อครั้ง สำหรับการประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจ เป็น 20 ล้านบาท โดยให้ใช้อัตราเบี้ยประกันภัยเดิมที่กำหนดไว้ในพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัย เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุรายใหญ่ ที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงเกิน 20 รายขึ้นไป มีโอกาสได้รับค่าสินไหมทดแทน  เต็มจำนวนเงินความคุ้มครองสูงสุดต่อคนที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย โดยสาระสำคัญของคำสั่งนายทะเบียนมี ดังนี้ 1. ประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) กำหนดวงเงินความคุ้มครองสูงสุดต่อครั้งเป็น 20 ล้านบาท สำหรับทุกประเภทรถ โดยไม่เพิ่มเบี้ยประกันภัย และให้มีผลบังคับใช้ทันทีกับทุกกรมธรรม์ ทั้งกรมธรรม์ที่ยังมีผลคุ้มครองและกรมธรรม์ที่ทำสัญญาใหม่ โดยกำหนดให้  บริษัทประกันวินาศภัยต้องใช้แบบและข้อความกรมธรรม์ประกันภัยให้เป็นไปตามคำสั่งนายทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป 2. ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ กำหนดวงเงินความคุ้มครองขั้นต่ำต่อครั้งในหมวดความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง ไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท สำหรับทุกประเภทรถ โดยให้เริ่มมีผลใช้บังคับกับกรมธรรม์ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป “แม้ว่าเมื่อปี 2563 สำนักงาน คปภ. ได้ปรับเพิ่มจำนวนเงินความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับในส่วนของการคุ้มครองต่อคนจาก 300,000 บาท เป็น 500,000 บาท แต่ยังคงวงเงินความรับผิดสูงสุดต่อครั้งไม่เกิน 5 ล้านบาทสำหรับรถยนต์นั่งไม่เกิน 7 ที่นั่ง และไม่เกิน 10 ล้านบาทสำหรับรถยนต์นั่งเกิน 7 ที่นั่ง ขณะที่กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจได้มีการปรับเพิ่มจำนวนเงินคุ้มครองขั้นต่ำเป็น 500,000 บาทต่อคน แต่ส่วนใหญ่ยังคงกำหนดวงเงินสูงสุดต่อครั้งไว้ที่ 10 ล้านบาท การออกคำสั่งนายทะเบียนในครั้งนี้ จึงนับเป็นการยกระดับความคุ้มครองให้สอดคล้องกับความเป็นจริงและเพียงพอต่อการดูแลผู้ประสบภัยอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่เป็นภาระเพิ่มขึ้นต่อผู้เอาประกันภัย เนื่องจากไม่มีการปรับเพิ่มเบี้ยประกันภัยแต่อย่างใด”  ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย กล่าวในตอนท้าย

31 Aug 2025

...

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมออกบูทในงาน Nippon Haku Bangkok 2025 งานมหกรรมญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุดในไทย ภายใต้แนวคิด ยิ่งรู้จัก ยิ่งรักญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 29-31 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์ 5-6 ชั้น LG  ในงานนี้ บริษัทฯ ได้จัดเต็มโปรโมชันสุดพิเศษสำหรับผู้ที่มองหาความอุ่นใจในการเดินทางไม่ว่าจะเพื่อการท่องเที่ยวหรือเพื่อการศึกษาในต่างประเทศ  รวมถึงประกันภัยประเภทอื่นๆ เช่น ประกันภัยรถยนต์ ประกันอัคคีภัย ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันภัยสุขภาพ ประกันภัยโรคมะเร็ง ฯลฯ ที่ให้ความคุ้มครองรองรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า โดยมีทีมงานรับประกันภัยพร้อมบริการให้คำปรึกษา และคำแนะนำเกี่ยวกับแผนประกันภัยที่เหมาะสมกับความคุ้มครองที่หลากหลาย โดยมอบส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยสูงสุด 18% สำหรับผู้ที่ซื้อกรมธรรม์ใหม่ภายในงาน นอกจากนี้ ยังสามารถผ่อนชำระเบี้ยประกันภัย ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน หรือ 10 เดือนผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ พร้อมรับของที่ระลึกที่เตรียมไว้สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ  อีกทั้งยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกลุ้นรับของรางวัลพิเศษอีกด้วย พบกับกรุงเทพประกันภัยได้ที่บูท T55 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์ 5-6 ชั้น LG ในวันที่ 29-31 สิงหาคม 2568    

31 Aug 2025

...

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจประกันชีวิตของไทยในเวทีสากล คว้า 2 รางวัลอันทรงเกียรติระดับเอเชีย จากงาน The Asia Pacific Enterprise Awards (APEA) 2025 จัดโดย Enterprise Asia ได้แก่ รางวัล  Master Entrepreneur Award ประเภทผู้นำองค์กรดีเด่นในกลุ่มอุตสาหกรรมการเงินปีที่ 5  ที่มอบแด่ นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งเป็นผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำยุคใหม่ที่สร้างความศรัทธาและความไว้วางใจจากทุกภาคส่วน ผ่านการขับเคลื่อนองค์กรด้วยวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ หลักธรรมาภิบาล และการบริหารที่โปร่งใส ควบคู่กับการพลิกโฉมองค์กรด้วยนวัตกรรมและความเข้าใจผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง จนสามารถสร้าง “มาตรฐานใหม่แห่งความเป็นเลิศ” ให้แก่วงการประกันชีวิตไทย และยกระดับเป็นต้นแบบของผู้นำธุรกิจในเวทีเอเชีย รางวัลนี้จึงมิใช่เพียงเกียรติยศส่วนบุคคล แต่คือสัญลักษณ์แห่งความเชื่อมั่นและบรรทัดฐานใหม่ที่ได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาค     รางวัล Corporate Excellence Award ประเภทความเป็นเลิศทางธุรกิจองค์กร ต่อเนื่อง  เป็นปีที่ 5  ซึ่งถือเป็นอีกความสำคัญที่พิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งและศักยภาพในทุกมิติขององค์กร ทั้งด้านการบริหารจัดการทางการเงินที่มีเสถียรภาพ การส่งมอบนวัตกรรมที่ตอบสนองต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และการยืนหยัดในพันธกิจด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รางวัลนี้ตอกย้ำให้เห็นว่า เมืองไทยประกันชีวิตมิได้มุ่งเพียงการเติบโตเชิงธุรกิจ หากแต่เป็นองค์กรที่มุ่งสร้างความยั่งยืน โดยมีแนวทาง ESG เป็นหัวใจสำคัญ จนสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน และสร้างความสุขอย่างเป็นรูปธรรมในระดับสังคมโดยรวม   ทั้งนี้ความต่อเนื่องและความมั่นคงในการครองรางวัลติดต่อกันถึง 5 ปี นับเป็นเครื่องพิสูจน์และยืนยันถึงความสำเร็จของเมืองไทยประกันชีวิต ซึ่งเกิดจากการวางรากฐานเชิงกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง การพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน และการสร้างวัฒนธรรมที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง ความสำเร็จนี้มิใช่เพียงผลลัพธ์จากโครงการหรือแคมเปญระยะสั้น แต่คือผลสะท้อนของวิสัยทัศน์ที่มั่นคง การขับเคลื่อนองค์กรอย่างต่อเนื่อง และการยืนหยัดบนเส้นทางแห่งความเป็นเลิศในทุกมิติ จนสามารถสร้างผลงานที่จับต้องได้ และเป็นแบบอย่างที่น่าภาคภูมิใจในระดับสากล ตลอดจนองค์กรยังมุ่งพัฒนาดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน อย่างจริงจัง ด้วยการนำเทคโนโลยี AI  Data Analytics และบริการแบบ Straight-Through Processing (STP) มาสร้างมาตรฐานใหม่ของการให้บริการที่รวดเร็ว โปร่งใส และตรงใจลูกค้า ขณะเดียวกันก็ไม่ละทิ้งการดำเนินโครงการเพื่อสังคม ทั้งในด้านการศึกษา สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางอย่างต่อเนื่อง   โดยมี นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)  เป็นผู้รับรางวัล จาก นายพงษ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และ ดร.ฟง ชาน ออน ประธานองค์กร Enterprise Asia ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเตล กรุงเทพฯ โดยมีคณะผู้บริหารเมืองไทยประกันชีวิตร่วมเป็นเกียรติในพิธี เมืองไทยประกันชีวิตยังคงเดินหน้าสานสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างไม่หยุดยั้ง และสร้างความสมดุลระหว่างธุรกิจ ลูกค้า และสังคม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรในการก้าวสู่อนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน  #MuangThaiLife   #เมืองไทยประกันชีวิต                          

31 Aug 2025

ECONOMY- FINANCE / เศรษฐกิจ - การเงิน

...

นายวีระชัย อมรถกลสุเวช รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินพร้อมเดินหน้าเคียงข้างประชาชนและภาคธุรกิจไทย โดยประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25% ต่อปี สอดคล้องกับมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เพื่อช่วยลดภาระทางการเงิน เพิ่มสภาพคล่อง และสนับสนุนการปรับตัวของผู้ประกอบการและประชาชน การปรับลดครั้งนี้เป็นการสานต่อมาตรการช่วยเหลือที่ธนาคารได้ริเริ่มมาก่อนหน้านี้ ซึ่งได้เคยนำร่องลดดอกเบี้ยเงินกู้มาแล้ว 2 ครั้ง ในปี 2568 เพื่อบรรเทาผลกระทบจากต้นทุนทางการเงินและกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในวงกว้าง ทั้งยังสะท้อนการยึดมั่นในแนวทาง “ธนาคารเพื่อสังคม” ที่พร้อมปรับลดกำไรให้อยู่ในระดับเหมาะสม เพื่อขยายความสามารถในการช่วยเหลือภารกิจทางสังคมได้มากขึ้น ธนาคารออมสินจึงประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท ดังนี้ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำสำหรับลูกค้ารายย่อย (MRR) ลดเหลือ 6.295% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำสำหรับลูกค้าสินเชื่อรายใหญ่ (MLR) ลดเหลือ 6.325% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำสำหรับลูกค้าใช้วงเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ลดเหลือ 6.095% ต่อปี ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทั้ง 3 ประเภทของธนาคาร (MRR / MLR / MOR) ยังคงต่ำที่สุดในระบบ เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ทั้งนี้ ธนาคารจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเดิม เพื่อให้ผู้ฝากยังได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมตามภารกิจส่งเสริมการออม ควบคู่กับการสนับสนุนให้เศรษฐกิจปรับตัวรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างภายในประเทศที่กระทบกำลังซื้อและความสามารถในการแข่งขัน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง    

18 Aug 2025


...

นายคาเนทสุกุ มิเกะ (ที่ 6 จากขวา) ประธานกรรมการ MUFG นายโนริอากิ โกโตะ (ที่ 4 จากขวา) ประธานกรรมการ และนายเคนอิจิ ยามาโตะ (ที่ 6 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ (กลาง) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่งานสัมมนาสุดยิ่งใหญ่แห่งปี Krungsri-MUFG Business Forum 2025 ภายใต้แนวคิด “Thriving to Sustainable Future” กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ก้าวสู่ความสำเร็จในวาระครบรอบปีที่ 80 ด้วยวิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็นธนาคารแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน โดยร่วมมือกับ MUFG หนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก  จัดงานสัมมนาสุดยิ่งใหญ่แห่งปี Krungsri-MUFG Business Forum 2025 ภายใต้แนวคิด “Thriving to Sustainable Future” เวทีที่รวบรวมผู้นำจากหลากหลายอุตสาหกรรมมาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและกลยุทธ์การเติบโตท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก พร้อมตอกย้ำพันธกิจระยะยาวร่วมกันของทั้งสององค์กรในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยอย่างยั่งยืน นายคาเนทสุกุ มิเกะ ประธานกรรมการ MUFG กล่าวว่า “ปี 2568 เป็นโอกาสครบรอบ 80 ปีที่กรุงศรีได้ให้บริการลูกค้าทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ในนามของ MUFG ซึ่งเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ขอแสดงความยินดีกับกรุงศรีในวาระนี้         อันเป็นหมุดหมายสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของกรุงศรีต่อการเสริมสร้างเศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แผนธุรกิจระยะกลางของ MUFG (ปีงบประมาณ 2567-2569) การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจของเราในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังคงเป็นเป้าหมายหลักในการขับเคลื่อนการเติบโต โดยประเทศไทยยังคงเป็นตลาดหลักที่มีความสำคัญเชิง          กลยุทธ์ ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาความร่วมมือกับกรุงศรีกว่า 12 ปี เราได้สร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นเสมือนคนในครอบครัว และเราจะยังคงยืนหยัดร่วมกันในการผลักดันการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจไม่เพียงแต่ในประเทศไทย แต่ยังครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาคอีกด้วย”   นายคาเนทสุกุ มิเกะ ประธานกรรมการ MUFG   นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในโอกาสครบรอบ 80 ปีของกรุงศรี สะท้อนถึงเส้นทางการเติบโตของเราตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่เรียบง่ายสู่การเป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับห้าของประเทศไทย และให้บริการลูกค้ากว่า 19 ล้านรายทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน บนเส้นทางดังกล่าว กรุงศรีได้ก้าวข้ามวิกฤติเศรษฐกิจ รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจและสังคมทั่วโลก การยืนหยัดอย่างมั่นคงท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าวได้หล่อหลอมให้กรุงศรีมีความแข็งแกร่ง พร้อมรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนในปัจจุบันทั้งระดับโลกและระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและสภาพภูมิอากาศ”     นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)   “เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กรุงศรีมุ่งเน้นการเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจหลัก (Core Banking) เร่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล สนับสนุนวัฒนธรรมเชิงนวัตกรรม และดำเนินธุรกิจบนความยั่งยืน โดยมีเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Krungsri Net Zero Vision) ภายในปี 2573” กรุงศรี มุ่งมั่นที่จะเป็นธนาคารพันธมิตรที่ลูกค้าธุรกิจไว้วางใจ พร้อมส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงผ่านการดำเนินงานใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ การเชื่อมโยงกลยุทธ์และความร่วมมือ: ขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับนโยบายสำคัญของประเทศไทย พร้อมใช้ประโยชน์จากเครือข่ายระดับโลกของ MUFG เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งรวมถึงการพัฒนาโซลูชันทางการเงิน ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และการขยายความร่วมมือในระดับภูมิภาค เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันให้กับลูกค้าทั่วทั้งอาเซียน นวัตกรรมดิจิทัล: ยกระดับขีดความสามารถให้เหนือกว่าการให้บริการทางการเงินแบบดั้งเดิม ด้วยการลงทุนในโซลูชันดิจิทัล และเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI ควบคู่กับการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบด้าน เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านและการเติบโตของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ พันธกิจด้านความยั่งยืน: บูรณาการแนวคิดด้านความยั่งยืนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจ พร้อมส่งเสริมสังคมที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งนี้ กรุงศรีได้ตั้งเป้าหมายใหม่ที่จะเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินให้แก่โครงการธุรกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืน (SSF) ให้ถึง 250,000 ล้านบาทภายในปี 2573 ตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวและการพัฒนาอย่างยั่งยืน งาน Krungsri-MUFG Business Forum 2025: Thriving to a Sustainable Future” ได้รับเกียรติจากผู้นำด้านเศรษฐกิจ การเงิน และธุรกิจระดับประเทศและระดับโลก มาร่วมแสดงวิสัยทัศน์ และแบ่งปันมุมมองเชิงลึกในการสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน รวมทั้งกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การนำเสนอแผนธุรกิจเพื่อร่วมเปลี่ยนโลกในโครงการ Krungsri ESG Awards และการมอบเกียรติบัตร Krungsri ESG Academy สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจเข้าร่วมแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เป็นต้น ภายในงาน กรุงศรียังได้เน้นย้ำถึงบทบาทผู้นำในการนำเสนอโซลูชันทางการเงินที่สร้างสรรค์ พร้อมแนวทางด้านความยั่งยืน ที่ครอบคลุมมากกว่ากรอบ ESG แบบดั้งเดิม โดยมุ่งมั่นส่งมอบเครื่องมือ พันธมิตร และความมั่นใจให้แก่ลูกค้า เพื่อรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจในยุคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเสริมศักยภาพการแข่งขันในระดับภูมิภาคอาเซียน “งานในวันนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกรุงศรีในการเป็นธนาคารพันธมิตรที่ลูกค้าธุรกิจเชื่อมั่นและไว้วางใจ พร้อมสนับสนุนการเติบโตและปรับตัวของลูกค้าในทุกมิติ เราเชื่อว่าพลังของความร่วมมือ นวัตกรรม รวมถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยึดหลักความยั่งยืน คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงและความซับซ้อนของโลกยุคใหม่ได้อย่างมั่นใจ ตลอด 80 ปีที่ผ่านมากรุงศรีได้เติบโตเคียงข้างภาคธุรกิจและสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง และจะยังคงยึดมั่นในพันธกิจที่จะไม่เพียงแค่ช่วยให้ธุรกิจอยู่รอด แต่จะต้องเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย และพลังในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและรุ่งเรืองไปด้วยกัน” นายยามาโตะ กล่าวปิดท้าย  

12 Aug 2025

...

นายวีระชัย อมรถกลสุเวช รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวในการประชุมผู้บริหารสายงานกิจการสาขา ซึ่งมีผู้บริหารธนาคารทั้งจากส่วนกลาง และสายงานกิจการสาขา กว่า 1,600 คนทั่วประเทศเข้าร่วมงาน เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ จ. เชียงใหม่ เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 เดินหน้าทำธุรกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ธนาคารเพื่อสังคมต่อเนื่อง มั่นใจว่าภายในสิ้นปี 2568 ธนาคารจะสามารถสร้าง Social Impact ได้มากขึ้นตามเป้าหมายเป็นเม็ดเงินไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท   สำหรับนวัตกรรมการเงินเพื่อสังคมในช่วงครึ่งปีหลัง เน้นให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการและลูกค้ารายย่อย สามารถเข้าถึงแหล่งทุนที่ช่วยประคับประคองธุรกิจ และทำให้มีสภาพคล่องเพียงพอรองรับสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนไม่แน่นอนจากปัจจัยภายในและภายนอก ผ่านการให้สินเชื่อที่มอบเงื่อนไขพิเศษเพื่อผู้ประกอบการ ได้แก่ สินเชื่อ GSB Smooth Biz, GSB D-VERs, GSB D-Home และมาตรการลดดอกเบี้ยสูงสุด 3% ต่อปี แก่ลูกค้าธนาคารที่เป็นผู้ส่งออก และ Supply Chain ของผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรง/ทางอ้อม จากมาตรการภาษี Trump Tariff ซึ่งเร็ว ๆ นี้ ธนาคารเตรียมออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมเพื่อลดภาระผู้ประกอบการในเรื่องนี้ พร้อมกับช่วยกระตุ้นภาคธุรกิจที่สำคัญเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมอีกด้วย   นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อช่วยลดภาระรายย่อย ได้แก่ สินเชื่อเคหะรีไฟแนนซ์ อัตราดอกเบี้ย 0% 3 เดือน (เฉลี่ย 3 ปีแรก ดอกเบี้ยต่ำสุดที่ 2.85% ต่อปี) สินเชื่อบ้านเติมตังค์ อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ต่ำสุด 4.99% ต่อปี และ สินเชื่อบ้านแลกเงิน คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 3.59% ต่อปี (6 เดือนแรก) ตลอดจนการเร่งปล่อยสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือกลุ่มฐานราก อาทิ สินเชื่อโครงการธนาคารประชาชน สินเชื่อสร้างเครดิตสร้างโอกาส สินเชื่อสำหรับผู้ไม่เคยมีประวัติเครดิต สินเชื่อส่งดีมีเติมพลัส สนับสนุนลูกค้าดีให้กู้เพิ่มได้ ซึ่งธนาคารคาดว่าตลอดปี 2568 จะสามารถช่วยเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และเพิ่มสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการ รวมถึงลูกค้ารายย่อย ผ่านการปล่อยสินเชื่อวงเงินรวมกว่า 2 แสนล้านบาท     ส่วนด้านเงินฝาก เน้นส่งเสริมการออมแบบมีระยะเวลาและเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นสลากออมสินพิเศษ เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษแบบมีระยะเวลา เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษเพื่อการเกษียณ 10 ปี เงินฝาก Smart Junior เพื่อส่งเสริมการออมในเยาวชน เป็นต้น ตั้งเป้าหมายเม็ดเงินการออมโดยมีเงินฝากเพิ่มสุทธิไม่ต่ำกว่า 65,000 ล้านบาท ภายในปี 2568 ทั้งนี้ ธนาคารออมสินดำเนินธุรกิจเป็นธนาคารเพื่อสังคม หรือ Social Bank ด้วยบทบาทหลัก 4 ด้าน คือ 1) การเปิดโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินในระบบสถาบันการเงิน 2) การแก้ไขปัญหาหนี้ 3) บทบาทการพัฒนาสังคมและชุมชน และ 4) การสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการสร้างสรรค์และขับเคลื่อนงานทั้ง 4 ด้าน โดยอิงแนวคิด Creating Shared Value (CSV) เพื่อให้ธนาคารสามารถทำกำไรทางธุรกิจในระดับที่เหมาะสม ควบคู่กับการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม ที่นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของธุรกิจและสังคมอย่างเป็นรูปธรรม    

08 Aug 2025

...

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  ขอเชิญชวนลูกค้าสินเชื่อของ SME D Bank เปิดใช้บริการ “บัญชีเงินฝาก e-Saving ประเภทไม่มีสมุดคู่ฝาก”  ช่วยให้การทำธุรกรรมเป็นเรื่องสะดวก และปลอดภัย โดยไม่ต้องใช้สมุดคู่ฝาก ลดภาระในการพกพาเอกสาร  โดยสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ทั้งผ่านสาขาธนาคาร และ Mobile Banking   สำหรับบัญชีเงินฝาก e-Saving ฯ ของ SME D Bank  เบื้องต้นรองรับให้บริการกลุ่มลูกค้าสินเชื่อประเภทบุคคลธรรมดา โดยเปิดรับเงินฝากขั้นต่ำเพียง 100 บาท  มีประโยชน์สามารถรองรับการตัดชำระค่างวดสินเชื่ออัตโนมัติ ช่วยเพิ่มความสะดวกและลดความเสี่ยงในการลืมชำระหรือชำระล่าช้า นอกจากนั้น เงินที่ฝากไว้ ยังได้รับดอกเบี้ยเงินฝากในอัตรา 0.50% ต่อปี  จ่ายดอกเบี้ยทบต้นเข้าสู่บัญชีปีละ 2 ครั้ง ในเดือนมิถุนายน และเดือนธันวาคมของทุกปี  สามารถแจ้งความประสงค์เปิดใช้บริการได้ ณ สาขาของ SME D Bank ทั่วประเทศ ตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

05 Aug 2025

...

นายวีระชัย อมรถกลสุเวช รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา รวมถึงเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศที่ยังคงรุนแรงและส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเป็นอยู่ของประชาชนจำนวนมาก ธนาคารออมสินจึงเร่งออกมาตรการ “พักหนี้อัตโนมัติ ไม่คิดดอกเบี้ย” เพื่อช่วยบรรเทาภาระของลูกค้าธนาคารที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งมีอยู่จำนวนกว่า 40,000 บัญชี คิดเป็นเงินต้นกว่า 9,000 ล้านบาท มาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย นาน 3 เดือน – ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น ธนาคารยกให้ ไม่ต้องจ่ายคืน! ครอบคลุมลูกหนี้สินเชื่อทุกกลุ่ม (ยกเว้นบางประเภทตามเงื่อนไข*) โดยมีหลักเกณฑ์สำคัญ คือ พักชำระหนี้อัตโนมัติ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นเวลา 3 เดือน โดยดอกเบี้ยในช่วงเวลาพักหนี้ธนาคารยกให้ทั้งหมด ลูกหนี้ไม่ต้องชำระภายหลัง และเมื่อพักหนี้ครบกำหนด ลูกหนี้ชำระหนี้ตามเงื่อนไขสัญญาเดิม เป็นลูกหนี้ที่มีภูมิลำเนา ที่อยู่อาศัย หรือสถานที่ประกอบอาชีพในพื้นที่ภัยพิบัติตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ธนาคารจะส่ง SMS หรือจดหมาย ส่งตรงถึงผู้ที่ได้รับสิทธิ์ กรณีไม่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการ ลูกหนี้สามารถติดต่อแจ้งสาขาที่สะดวก หรือแจ้งที่ GSB Contact Center โทร. 1115 กรณีลูกหนี้ได้รับ SMS หรือจดหมายจากธนาคาร แต่ไม่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการพักหนี้ สามารถชำระหนี้ได้ตามปกติ ธนาคารจะนำเงินงวดไปตัดลดต้นเงินทั้งจำนวน ธนาคารออมสินขอส่งกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมยืนยันว่าจะอยู่เคียงข้างและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพื่อให้ลูกค้ากลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการฯ ได้ที่เว็บไซต์ www.gsb.or.th *หมายเหตุ : ไม่รวมสินเชื่อบางประเภท เช่น สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่, สินเชื่อชีวิตสุขสันต์, สินเชื่อตามนโยบายรัฐ (PSA) และสินเชื่อสำหรับผู้มีรายได้ประจำ

30 Jul 2025

...

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับลูกค้า กับผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อบ้านสุขสันต์ ปี 2568” สำหรับผู้ที่ต้องการรีไฟแนนซ์ (ไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น) รีไฟแนนซ์พร้อมปลูกสร้าง หรือต่อเติม ซ่อมแซม ซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย พร้อมชำระหนี้เพื่อไถ่ถอนจำนอง โดยผู้ที่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA / MLTA) จะได้รับอัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีแรกเพียง 0.99% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 3.50% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 4.20% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.90%), ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR -1.00% ต่อปี, ลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี และซื้ออุปกรณ์ ฯ / ชำระหนี้ ฯ เท่ากับ MRR (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบันอยู่ที่ 6.495% ต่อปี) ผ่อนชำระนานสูงสุด 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท เงินงวดผ่อนชำระเริ่มต้นเพียงเดือนละ 2,600 บาท ซึ่งจะช่วยลดภาระการผ่อนชำระให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568 สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th  

21 Jul 2025

...

ธ.ก.ส. เปิดตัวเงินฝากออมทรัพย์พิเศษโครงการ “เงินฝากทองเอก” รับดอกเบี้ยล่วงหน้าเข้าบัญชีเงินฝากทันทีตั้งแต่วันที่เริ่มฝากเงิน ฝากขั้นต่ำ 100,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 100 ลบ.ต่อ/ราย ระยะเวลา 9 เดือน รับฝากตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 สิงหาคม 2568 ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ               นายไพศาล หงษ์ทอง รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)  เปิดเผยว่า เพื่อสนับสนุนการออมเงินอย่างต่อเนื่องสำหรับผู้ที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ได้ผลตอบแทนที่แน่นอน ธนาคารจึงได้เปิดตัว “เงินฝากทองเอก” รับดอกเบี้ยร้อยละ 1.60 ต่อปี พิเศษ! รับดอกเบี้ยล่วงหน้าเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์คู่โอนทันทีในวันที่ฝากเงิน ฝากขั้นต่ำครั้งละ 100,000 บาท รวมฝากสูงสุดไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อราย ส่วนลูกค้านิติบุคคลและสถาบันที่ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อหากำไร รับฝากขั้นต่ำ 100,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อรายระยะเวลา 9 เดือน (ครบกำหนดแบบวันชนวัน) สำหรับบุคลธรรมดาไม่เสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากอีกด้วย ส่วนนิติบุคคลเสียภาษีตามประกาศสรรพากรกรณีหากผู้ฝากถอนเงินฝากบางส่วนหรือปิดบัญชีก่อนครบกำหนดระยะเวลาฝาก 9 เดือน ธนาคารจะเรียกคืนดอกเบี้ยเงินฝากเท่ากับดอกเบี้ยเงินฝากล่วงหน้าทั้งหมดของเงินที่ถอน      สำหรับ ลูกค้าที่สนใจออมเงินกับ “เงินฝากทองเอก” สามารถติดต่อเปิดบัญชีได้ที่สาขาของ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 สิงหาคม 2568 หรือธนาคารจะปิดรับฝากก่อนกำหนดเมื่อมีผู้ฝากเงินครบวงเงินรวมโครงการ 50,000 ล้านบาท ทั้งนี้ กรณีลูกค้าเดิมของธนาคารที่ออมเงินกับผลิตภัณฑ์เงินฝากดอกเบี้ยทันใจ (11 เดือน) เงินฝากทองพันชั่ง (8 เดือน) และเป็นบัญชีเงินฝากเจ้าของคนเดียวที่มีสถานะบัญชี Active สามารถใช้สมุดเงินฝากเล่มเดิมเพื่อฝากเงินฝากทองเอกได้ทั้งจำนวนที่ครบกำหนด หรือฝากเงินใหม่เพิ่มอีกได้ขั้นต่ำครั้งละ 100,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อราย ส่วนลูกค้านิติบุคคลและสถาบันที่ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อหากำไร รับฝากขั้นต่ำ 100,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อราย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02 555 0555        

09 Jul 2025

SOCIETY / ภาพข่าว - สังคม - CSR

...

นางสาวไข่มุก จูงใจจารุมาศ ผู้ช่วยผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในฐานะนายกสมาคมสโมสรพนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ส.ธกส.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมการออกกำลังกาย สร้างสุขภาพที่ดีให้กับประชาชน และพนักงาน ธ.ก.ส. รวมถึงร่วมส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่ทายาทของเกษตรกร ส.ธกส. จึงได้จัดงานวิ่งครั้งใหญ่แห่งปี BAAC Charity Run 4th 2025 ในวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2568 ซึ่งจัดต่อเนื่องกันเป็นครั้งที่ 4 โดยมีจุด Start และ Finish ที่ ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ บางเขน กรุงเทพฯ ซึ่งนักวิ่งจะได้วิ่งบนเส้นทางถนนพหลโยธิน - ถนนประเสริฐมนูกิจ 2 ระยะ ได้แก่ ระยะ Fun Run 5 กิโลเมตร และระยะ Mini Marathon 10.5 กิโลเมตร ค่าสมัคร 600 บาท และ VIP ค่าสมัคร 1,000 บาท พร้อมรับของที่ระลึก เสื้อวิ่ง BIB กระเป๋า Shopping bag และรับเหรียญรางวัลทันที เมื่อเข้าเส้นชัยภายในระยะเวลาที่กำหนด พิเศษ!! เหรียญรางวัลปีนี้ ถูกออกแบบมาให้สามารถเชื่อมต่อกับเหรียญรางวัลของงาน BAAC Charity Run ปี 2023 และ 2024 ได้อีกด้วย   สำหรับประเภทการแข่งขันระยะ 10.5 กม. ผู้ชนะการแข่งขัน (บุคคลทั่วไป) Overall ชาย และ หญิง อันดับที่ 1 จะได้รับเงินรางวัลสูงถึง 1 แสนบาท พร้อมตุ๊กตาด้วงน้อย รุ่น Limited Edition ที่จัดทำขึ้นเพื่องานนี้เท่านั้น (ผู้ได้รับรางวัล อันดับที่ 1 Overall แล้วจะไม่มีสิทธิ์รับรางวัลในรุ่นอายุ) นอกจากนี้ ยังมีรางวัลการแข่งขัน (บุคคลทั่วไป) ของระยะ 10.5 กิโลเมตร แบ่งรุ่นอายุเป็น 5 กลุ่ม ทั้งประเภท ชาย และ หญิง ได้แก่ 1) รุ่นอายุไม่เกิน 29 ปี 2) รุ่นอายุ 30 - 39 ปี 3) รุ่นอายุ 40 - 49 ปี 4) รุ่นอายุ 50 - 59 ปี และ 5) รุ่นอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยอันดับ 1 จะได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท อันดับ 2 รับเงินรางวัล 20,000 บาท และอันดับ 3 รับเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมกับได้รับตุ๊กตาด้วงน้อยเช่นกัน ทั้งลำดับ 1 - 3 ทั้งนี้ ผู้ที่วิ่งระยะ 10.5 กิโลเมตร และเข้าเส้นชัยเป็น 100 คนแรก จะได้รับผ้า Finisher สุดพิเศษอีกด้วย รวมถึงยังมีรางวัลวิ่งแฟนซี จำนวน 10 รางวัล รางวัลละ 5,000 บาท สำหรับผู้ที่ออกแบบการแต่งกายสุดสร้างสรรค์และโดนใจกรรมการ (เงื่อนไขอื่น ๆ เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด)     ขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการส่งเสริมให้พนักงาน ธ.ก.ส. ทั่วประเทศได้ออกกำลังกายและมีสุขภาพที่ดีในการทำงานเพื่อเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. จึงได้กำหนดประเภทรางวัลสำหรับพนักงาน ธ.ก.ส. ที่วิ่งในระยะ 10.5 กิโลเมตร แบ่งเป็น รางวัล Overall ชนะเลิศอันดับ 1 ชายและหญิง รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมเงินสนับสนุนการเข้าร่วมงานวิ่งในรายการ Tokyo Marathon 2026 มูลค่า 30,000 บาท และตุ๊กตาด้วงน้อย (พนักงาน ธ.ก.ส. ที่ได้รับรางวัล อันดับที่ 1 Overall แล้วจะไม่มีสิทธิ์รับรางวัลในรุ่นอายุ) อันดับที่ 2 - 6 รับเงินรางวัล 10,000 บาท และอันดับที่ 7 - 16 รับเงินรางวัล 5,000 บาท นอกจากนี้ยังมีรางวัลแบ่งตามรุ่นอายุ 4 กลุ่ม ชายและหญิง ได้แก่ 1) รุ่นอายุไม่เกิน 29 ปี 2) รุ่นอายุ 30 - 39 ปี 3) รุ่นอายุ 40 - 49 ปี และ 4) รุ่นอายุ 50 - 59 ปี โดยอันดับที่ 1 ของแต่ละรุ่นอายุจะได้รับเงินรางวัล 15,000 บาท และตุ๊กตาด้วงน้อย     สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสมัครได้ที่เว็บไซต์ ThaiRun https://race.thai.run/baaccharityrun2025 หรือ Shutterrun https://baaccharityrun.com ตั้งแต่วันที่ 1 - 30 กันยายน 2568 โดยรายได้จากค่าสมัครทั้งหมดจะนำไปมอบเป็นทุนการศึกษาให้แก่ทายาทของเกษตรกร ทั้งนี้ ส.ธกส. ขอสงวนสิทธิ์ปิดรับสมัครก่อนกำหนด หากมีผู้สมัครเต็มจำนวน 4,000 คน และเปิดให้ผู้สมัครรับเสื้อวิ่งได้ด้วยตัวเอง ณ ชั้น 1 อาคารโพเดียม ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ บางเขน กรุงเทพฯ ในระหว่างวันที่ 24 - 25 ตุลาคม 2568 เวลา 08.00 – 16.00 น. สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : ธกส BAAC Thailand และ BAAC Charity Run หรือโทรสอบถาม Call Center โทร 02 555 0555      

03 Sep 2025


...

บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดโครงการ “ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา” ครั้งที่ 55 ภายใต้ธีม “ผู้นำซอฟต์พาวเวอร์ไทย ร้อยใจเพื่อแผ่นดิน” นำคณะผู้เข้าร่วม “นุ่งซิ่น กินทุเรียน” พร้อมเรียนรู้คุณค่าแห่งผ้าซิ่นตีนจก ไท-ยวน ลับแล และวิถีชีวิตชุมชน พร้อมทั้งสืบสานแนวทางศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน เนื่องในโอกาสมหามงคลเดือนสิงหาคม อันเป็นเดือนแห่งวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวงในการฟื้นฟูและส่งเสริม “ผ้าไทย” ให้เป็นเอกลักษณ์ที่ทั่วโลกยอมรับในฐานะ Soft Power ของชาติ การจัดกิจกรรมครั้งนี้จึงเป็นการเชื่อมโยงศาสตร์พระราชาเข้ากับการสืบสานศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น และสร้างความตระหนักถึงพลังของภูมิปัญญาไทยที่สามารถนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ไฮไลท์หลักของการจัดโครงการในครั้งนี้ อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าซิ่นตีนจก ไท-ยวน ลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ แหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาการทอผ้าพื้นเมืองที่สืบทอดมากว่าร้อยปี รวบรวมผ้าซิ่นโบราณล้ำค่าและเรื่องราวการสร้างสรรค์ลวดลายอันประณีต สะท้อนเอกลักษณ์และเสน่ห์วัฒนธรรมไท-ยวนที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และต่อยอดเป็น Soft Power ของไทย ครั้งหนึ่งเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จฯ ณ โรงเรียนพนมมาศ จังหวัดอุตรดิตถ์ ชาวบ้านได้พร้อมใจกันทูลเกล้าฯ ถวายผ้าซิ่นตีนจก และพระพันปีหลวงได้ทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าซิ่นนั้นทันที เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนั้น ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจและสัญลักษณ์แห่งพระราชหฤทัยที่ทรงหวงแหนและส่งเสริมผ้าไทยให้เป็นที่ภาคภูมิใจของคนทั้งชาติ ผู้เข้าร่วมได้ฟังบรรยายจาก “ครูโจ” ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ เกี่ยวกับประวัติและภูมิปัญญาการทอผ้าซิ่นตีนจกอันประณีต ซึ่งไม่เพียงเป็นมรดกทางวัฒนธรรม แต่ยังสะท้อน Soft Power ของไทยที่สามารถสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจและยกระดับชุมชนได้อย่างแท้จริง   คุณวิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การจัดโครงการครั้งนี้ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสะท้อนพลังของศาสตร์พระราชาที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ทั้งในมิติการอนุรักษ์วัฒนธรรม การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และการสร้าง Soft Power ไทย เพราะภูมิปัญญาพื้นบ้าน อย่างผ้าซิ่นตีนจกไม่ใช่เพียงผืนผ้า แต่คือเรื่องราววิถีชีวิตความเป็นอยู่ ความพอเพียง และนวัตกรรมที่เชื่อมร้อยชุมชนเข้ากับการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน” ครั้งนี้ทางโครงการยังได้พาผู้เข้าร่วมไปเยี่ยมชมเขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นเพื่อการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ การชลประทาน และการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำน่าน โครงการที่สืบเนื่องมาจากพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ตลอดระยะเวลากว่า 48 ปีที่ผ่านมา เขื่อนได้มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในภาคเหนือตอนล่าง ทั้งการเกษตร การประมง รวมถึงการท่องเที่ยวชุมชน ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของโครงสร้างพื้นฐานที่สะท้อนพระปรีชาสามารถ และพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในการพัฒนาทรัพยากรน้ำเพื่อประโยชน์สุขของปวงชนอย่างแท้จริง   นอกจากนี้ ทางโครงการยังจัดให้มีการสัมมนาและเวิร์คช็อปเกี่ยวกับศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมแบ่งปันความรู้ อาทิ รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี และอาจารย์อดุลย์ ดาราธรรม ที่ปรึกษาและอดีตนายกสมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย ผู้คิดค้นนวัตกรรมสื่อการสอนสำหรับเยาวชนในศตวรรษที่ 21 หรือ Interactive Board Game หนึ่งเดียวในโลก เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในปี 2030 คณะผู้ร่วมโครงการยังได้ประกอบกิจกรรมทางศาสนา ณ วัดพระแท่นศิลาอาสน์ พระอารามหลวง วัดสำคัญที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยเชื่อกันว่าเป็นพุทธสถานที่พระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ในภัทรกัปนี้เสด็จมาประทับนั่ง และยังเป็นสถานที่ซึ่งพระมหากษัตริย์ทั้งในสมัยกรุงศรีอยุธยาและกรุงรัตนโกสินทร์เสด็จมากราบสักการะสืบต่อกันมา กิจกรรมในครั้งนี้มีพิธีถวายผ้าไตรทรงอธิษฐานจิต ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเทียนพรรษาพระราชทาน เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้เข้าร่วม อีกทั้งยังได้จัดกิจกรรมจิตอาสาเพื่อสังคม อาทิ การมอบหนังสือจาก “โครงการอ่านพลิกชีวิต” ของบริษัท อมรินทร์บุ๊คเซ็นเตอร์ จำกัด ให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และปลูกฝังนิสัยรักการอ่านแก่เยาวชน รวมถึงการมอบทุนการศึกษาจากมูลนิธิธรรมดี เพื่อสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาแก่เด็กนักเรียนในท้องถิ่น อีกทั้งคณะยังได้ร่วมปล่อยปลา 9 สายพันธุ์ จำนวน 9,999 ตัว ณ เขื่อนสิริกิติ์ ในกิจกรรมสร้างมหาทานบารมีครั้งที่ 405 ซึ่งเป็นการสืบสานวัฒนธรรมการทำบุญอันเป็นสิริมงคล ควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำและเสริมสร้างระบบนิเวศให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

03 Sep 2025

...

บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต รักคือพลังของชีวิต โดยคุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าบริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO)  เชิญทุกคนร่วมกิจกรรม “Ocean Life Run with Love @Ocean Marina”  งานวิ่งที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “LOVE MINDSET” โดยทุกขั้นตอนในการจัดงานถูกออกแบบให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างสูงสุด อาทิ เสื้อวิ่งที่มอบให้ผู้สมัครทุกคน ผลิตจากขวดพลาสติกรีไซเคิล (Upcycle) นวัตกรรมที่เปลี่ยนของเหลือใช้ให้กลายเป็นเสื้อวิ่งที่ใส่สบายและรักษ์โลก น้ำดื่มภายในงาน จาก Aluminium Loop กระป๋องอลูมิเนียมที่สามารถนำเข้าระบบรีไซเคิลเพื่อผลิตเป็นกระป๋องใบใหม่อีกครั้งช่วยลดขยะพลาสติกและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ในทุกจุดของงาน ยังเน้นลดการใช้วัสดุแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง พร้อมส่งเสริมการคัดแยกขยะอย่างจริงจัง เพื่อให้ทุกก้าวในระหว่างการวิ่ง เป็นก้าวที่ดีต่อโลก     “Ocean Life Run with Love @Ocean Marina” จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนรักสุขภาพ และช่วยสร้างจิตสำนึกในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อโลกที่ดีกว่าให้กับคนรุ่นต่อไป อีกทั้งนำรายได้จำนวน 1,000,000 บาท บริจาคสมทบทุนให้กับโครงการอาคารศูนย์บูรณาการรักษาโรคมะเร็ง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย  โดยงาน OCEAN LIFE Run With Love 2025 @OCEAN MARINA เปิดรับสมัครนักวิ่งแล้วตั้งแต่วันนี้ - 23 ตุลาคม 2568 ผ่านเว็บไซต์ https://race.thai.run/oceanliferunwithlove สำหรับสมาชิก OCEAN CLUB APP สามารถกดรับส่วนลดเพิ่ม มูลค่า 50 บาท ผ่านทาง Application เพียงดาวน์โหลด https://oceanlifeth.co/ocean-club-app-oceanliferun หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ LINE Official Account: @oceanliferun หรือ https://lin.ee/UPmxYuO    OCEAN LIFE ไทยสมุทรประกันชีวิต ใช้ความรักเป็นพลังขับเคลื่อนองค์กร โดยไม่หยุดพัฒนาในทุกมิติ เพื่อทำให้ประกันชีวิตเป็นเรื่องง่าย ทำให้คนไทยเข้าถึงประโยชน์ของการประกันชีวิตได้มากที่สุด พร้อมแล้วที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลโลกและสังคม เพื่อส่งมอบอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไปได้ใช้ชีวิตอย่างมั่นคง มั่นใจ ปลอดภัย มีความสุข สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ocean.co.th หรือ ติดต่อ OCEAN LIFE CONTACT CENTER  1503

02 Sep 2025

...

เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นางสาวญดา วงศ์ทองคำ รองผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารสิทธิพิเศษและกิจกรรมลูกค้า ร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวสโมสรชลบุรี เอฟซี  สู้ศึกฤดูกาล 2025-2026 ภายใต้แคมเปญ “Racing Sharks : ท้าชิง ท้าชน!” โดยมี น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง ผู้สนับสนุนหลักคู่ใจที่ร่วมเคียงข้างสโมสรมาอย่างยาวนานถึง 25 ปี ร่วมสนับสนุนการกลับมาของ “ฉลามชล” บนเวทีลีกสูงสุดอย่างเต็มภาคภูมิ เพื่อเป้าหมายในการมุ่งส่งต่อแรงบันดาลใจให้คนไทยได้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’ ผ่านกีฬาฟุตบอล ซึ่งเป็นกีฬายอดนิยมของคนไทย และนอกเหนือจากงานแถลงข่าวดังกล่าว ทางสโมสรฯ ยังได้จัดงานเลี้ยง เพื่อขอบคุณแฟนบอล ในงาน ”ฉลามชล คนกันเอง” ท่ามกลางแฟนบอล และพี่น้องประชาชนชาว จ.ชลบุรี ที่ให้ความสนใจ เดินทางเข้ามาร่วมงานอย่างล้นหลาม ภายในงานมีการแถลงข่าวเปิดตัวผู้สนับสนุนประจำฤดูกาลใหม่ การเปิดตัวทีมสตาฟฟ์โค้ช นำโดยผู้จัดการทีม ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น และนักเตะขุมกำลังใหม่ที่ประกอบด้วยแข้งชั้นนำทั้งนักเตะไทยและต่างชาติ ได้แก่ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, อดิศักดิ์ ไกรษร, กิตติพงษ์ แสนสนิท, เควิน เรย์ เมนโดซา และ อูเคอร์ ฟาน ลิงเก้น ทั้งนี้คุณวิทยา คุณปลื้ม หรือ "บิ๊กป็อก" ประธานสโมสร กล่าวอย่างมั่นใจว่า ชลบุรี เอฟซี พร้อมชนทุกทีมในลีกสูงสุด ด้วยความมุ่งมั่นของนักเตะ และแรงสนับสนุนจากแฟนบอลสายเลือดน้ำเงินที่เหนียวแน่น อีกหนึ่งไฮไลต์ประจำทุกปี คือการเปิดตัวชุดแข่งขันใหม่ โดยปีนี้ออกแบบภายใต้แนวคิด “Racing Sharks : ท้าชิง ท้าชน!” ที่สะท้อนลำแสงแห่งความทะเยอทะยาน ไม่เกรงกลัวต่อความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความคึกคักจากแฟนบอลที่ และปิดท้ายค่ำคืนอย่างประทับใจด้วยคอนเสิร์ตริมทะเลจากศิลปินชื่อดัง ได้แก่ Big Ass, พรรณรายพลอยพรายไพลิน และ CandyMan ที่ร่วมสร้างสีสันและพลังให้กับค่ำคืนแห่งศรัทธา ก่อนที่ ชลบุรี เอฟซี จะมุ่งหน้าสู่ฤดูกาลใหม่อย่างยิ่งใหญ่ โดยจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ ลานกิจกรรมริมทะเล เทศบาลตำบลบางทราย จ.ชลบุรี  

02 Sep 2025

...

บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต รักคือพลังของชีวิต โดยคุณสุนันท์ มีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล พร้อมด้วยพนักงานจิตอาสา ได้ร่วมกันส่งมอบถุงผ้าใส่ยา ให้แก่ โรงพยาบาลสวนเบญจกิติเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา โดยได้รับเกียรติจาก คุณศรมิษฐ์ พิสุทธิ์ธนกาญจน์ และคุณนิจศรา พรหมเวียงชัย รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลสวนเบญจกิติเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา เป็นผู้รับมอบ เพื่อนำไปใช้เพื่อดูแลผู้ป่วยและชุมชน การมอบถุงผ้าใส่ยาในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าให้แก่สังคมอย่างยั่งยืน โดยปลูกฝังให้พนักงานมีส่วนร่วมในการแบ่งปันและสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ เพื่อส่วนรวม อีกทั้งยังเป็นการลดใช้พลาสติกและส่งเสริมการใช้สิ่งของที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย OCEAN LIFE ไทยสมุทรประกันชีวิต ใช้ความรักเป็นพลังขับเคลื่อนองค์กร โดยไม่หยุดพัฒนาในทุกมิติ เพื่อทำให้ประกันชีวิตเป็นเรื่องง่าย ทำให้คนไทยเข้าถึงประโยชน์ของการประกันชีวิตได้มากที่สุด พร้อมแล้วที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลโลกและสังคม เพื่อส่งมอบอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไปได้ใช้ชีวิตอย่างมั่นคง มั่นใจ ปลอดภัย มีความสุข สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ocean.co.th หรือ ติดต่อ OCEAN LIFE CONTACT CENTER 1503  

25 Aug 2025

...

พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นผู้แทนรับสิ่งของจำเป็น อาทิ ถุงเท้า จำนวน 3,000 คู่ และชุดชั้นในชาย จำนวน 3,000 ชุด จากคุณปนัดดา ชุติโกมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และคุณศิริขวัญ ทรงสิทธิโชค ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรฯ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เพื่อส่งต่อให้แก่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประเทศตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ณ กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พลตรี ณัฐเดช จันทรางศุ รองแม่ทัพภาคที่ 1 และพลตรี สุรวิชญ์ แดงจันทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 ร่วมเป็นเกียรติและสักขีพยาน สิ่งของที่นำมามอบในครั้งนี้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน ซึ่งมีสภาพอากาศร้อนจัด ฝนตกชุก และภูมิประเทศที่ทุรกันดาร การจัดเตรียมเครื่องแต่งกายที่สะอาดและเหมาะสม ไม่เพียงช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย แต่ยังลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคผิวหนัง และส่งเสริมให้ทหารสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทิพยประกันภัยให้ความสำคัญและตระหนักถึงความเสียสละของกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้า จึงมุ่งมั่นสนับสนุนและดูแลอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติภารกิจอันสำคัญของชาติต่อไป  

21 Aug 2025

...

บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี ประเภท ASEAN Asset Class PLCs จากโครงการ ASEAN Corporate Governance Scorecard (ACGS) ประจำปี 2568 รางวัลนี้ได้รับการสนับสนุนจาก ASEAN Capital Markets Forum (ACMF) และธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เพื่อยกย่องและประกาศเกียรติคุณให้แก่บริษัทจดทะเบียนในภูมิภาคอาเซียนที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดย กรุงเทพประกันชีวิต ได้รับรางวัลประเภท ASEAN Asset Class PLCs ซึ่งมอบให้กับบริษัทที่ได้คะแนนตั้งแต่ 97.50 คะแนนขึ้นไป ซึ่งเป็น 1 ใน 74 บริษัทจดทะเบียนไทยที่ได้รับรางวัลดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ในการมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนบนรากฐานที่มั่นคงทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ด้วยการสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้มีส่วนได้เสียผ่านการดำเนินงานที่เป็นเลิศ เป็นธรรม โปร่งใส และมีการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง  โครงการ ASEAN CG Scorecard เป็นโครงการซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก ASEAN Capital Markets Forum (ACMF) และธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เพื่อยกย่องและประกาศเกียรติคุณให้แก่บริษัทจดทะเบียนในอาเซียนที่ดำเนินธุรกิจตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งของบริษัทตลอดจนห่วงโซ่คุณค่า  

21 Aug 2025

BUSINESS - SME / ธุรกิจ - การตลาด - เอสเอ็มอี

...

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ขับเคลื่อนนโยบายรัฐ เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ยกขบวนบริการ “พัฒนาคู่เติมทุน” เสิร์ฟผู้ประกอบการเอสเอ็มอีพื้นที่ภาคใต้ ในงาน “พาแบงก์รัฐ มาช่วยราษฎร์”   ในวันที่ 30 สิงหาคม 2568 เวลา 09.00-12.30 น. ณ  โรงแรมดารา จ.ภูเก็ต ภายในงานพบบริการสินเชื่อเพื่อเอสเอ็มอี อัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี  คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจและทุกความต้องการของเอสเอ็มอี พร้อมทีมให้คำปรึกษา  ยื่นกู้ได้ทันทีภายในงาน  อีกทั้ง รับโปรโมชันเสริมพิเศษ อีก 2 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 เมื่อยื่นขอสินเชื่อและได้รับอนุมัติ รับบัตรกำนัล มูลค่า 500 บาท และ ต่อที่ 2 รับสิทธิ์สมัครใช้บริการแพลตฟอร์ม “DX by SME D Bank” เพื่อยกระดับธุรกิจครบวงจร ฟรี! ห้ามพลาด ขอเชิญผู้ประกอบการ จ.ภูเก็ต และใกล้เคียง เข้าร่วมงานโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น  ลงทะเบียนเข้าร่วมโดยสแกน QR Code ในโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

21 Aug 2025


...

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) บริษัทในกลุ่ม Tidlor Holdings หรือ TIDLOR โดย คุณฐิติเดช ศรีมารยาท ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ เป็นตัวแทนขึ้นรับรางวัล Best Financial Inclusion Initiative in Thailand จากเวที The Asian Banker Thailand Awards 2025 จากความสำเร็จของฟีเจอร์ “โอนเงินสินเชื่อเข้าบัญชีผ่านแอปเงินติดล้อ” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการใช้เทคโนโลยีในการยกระดับการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง เป็นธรรมและโปร่งใส ฟีเจอร์ “โอนเงินสินเชื่อเข้าบัญชีผ่านแอปเงินติดล้อ” ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนยามฉุกเฉินได้สะดวกขึ้น ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องใช้บัตร และไม่ต้องเดินทางไปสาขา ซึ่งผลตอบรับที่ผ่านมาลูกค้ามีการเบิกวงเงินสินเชื่อผ่านฟีเจอร์ดังกล่าวสูงถึง 70% เมื่อเทียบกับช่องทางอื่นๆ และปัจจุบันมีผู้ใช้งานฟีเจอร์นี้แล้วกว่า 480,000 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2568) นอกจากนี้ ยังได้นำแนวคิดการกระตุกพฤติกรรม (Nudge) มาปรับใช้ในขั้นตอนการถอนวงเงิน โดยออกแบบให้มีการแสดงข้อมูลประมาณการดอกเบี้ยรายเดือนที่ลูกค้าอาจต้องจ่ายเพิ่มขึ้น หากมีการถอนเงินจากวงเงินสินเชื่อที่เหลืออยู่ โดยจะแสดงข้อมูลดังกล่าวบนหน้าจอก่อนถึงขั้นตอนยืนยันการทำรายการ เพื่อช่วยให้ลูกค้าพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ การปรับเปลี่ยนนี้แม้จะเล็กน้อย แต่มีผลต่อพฤติกรรมผู้ใช้ โดยจากข้อมูลพบว่าผู้ที่ตั้งใจจะถอนเงิน ใช้เวลาเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 7 วินาทีก่อนยืนยันรายการ สะท้อนถึงการคิดทบทวนก่อนก่อภาระหนี้เพิ่มเติม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายในการส่งเสริมวินัยทางการเงินและการกู้ยืมอย่างเหมาะสม การได้รับรางวัลในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำบทบาทในฐานะผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินที่เข้าถึงง่าย เป็นธรรมและโปร่งใส (The Leading Financial Inclusion Service Provider) พร้อมเดินหน้าเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตทางการเงินของคนไทยอย่างยั่งยืน รวมถึงลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งที่ผ่านมาอาจไม่สามารถเข้าถึงนวัตกรรมและบริการจากธนาคารทั่วไปได้ (Underbanked) รางวัล The Asian Banker Thailand Awards 2025 จัดขึ้นโดย The Asian Banker สื่อในแวดวงการเงินการธนาคารชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย เพื่อมอบรางวัลแก่สถาบันการเงินที่ได้มาตรฐาน มีศักยภาพที่โดดเด่น และส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน สำหรับผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมข้อมูลและเรื่องราวของเงินติดล้อได้ที่ www.tidlor.com และ Facebook Fanpage เงินติดล้อ หรือติดต่อ Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 088-088-0880 ตลอด 24 ชม.

15 Aug 2025

...

  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ร่วมใจปลุกพลังเศรษฐกิจ กระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ จัดเต็มโครงการ “SME D Market” ในวันที่ 29-30 กรกฎาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. สร้างโอกาส เพิ่มยอดขาย ขยายตลาดให้ลูกค้าธนาคาร   และผู้ประกอบการจากหน่วยงานพันธมิตร เปิดพื้นที่ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย ยกขบวนสินค้าดีเอสเอ็มอีกว่า 50 ราย ออกบูธจำหน่ายสินค้าของดีของเด็ดทั่วไทย ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องใช้ และเครื่องประดับ พร้อมเสิร์ฟโปรโมชันสุดปัง ราคาดีมีคุณภาพให้ประชาชนในพื้นที่ เกิดการจับจ่ายใช้สอยคึกคัก แล้วพบกัน ณ บริเวณชั้น 1 สำนักงานใหญ่ SME D Bank อาคาร SME Bank Tower สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357  

27 Jul 2025

...

Tidlor Academy ศูนย์การเรียนรู้ของ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) บริษัทในกลุ่ม Tidlor Holdings (TIDLOR) โดย คุณกาญจน์ณัฐ เฉลิมจุฬามณี ผู้บริหารศูนย์การเรียนรู้เงินติดล้อ (Tidlor Academy) นำทีมงานต้อนรับผู้บริหารและพนักงานจากบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) จำนวนทั้งหมด 39 ท่าน เข้าร่วมกิจกรรม “TIDLOR Culture Wow” เพื่อแบ่งปันและแลกเปลี่ยนแนวทางการสร้างค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร พร้อมเยี่ยมชมแผนกต่างๆ อาทิ ฝ่ายวิเคราะห์และพัฒนา (Analytics & Development) ฝ่ายส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการเงิน (Financial Education หรือ FIN-ED) ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) และฝ่ายนายหน้าประกันภัย “อารีเกเตอร์” (Areegator) แพลตฟอร์มเสนอขายประกันออนไลน์ผ่านสมาชิก นอกจากนี้ ยังได้พูดคุยถาม-ตอบอย่างใกล้ชิดกับคณะผู้บริหารและทีม Culture Gangster เกี่ยวกับแนวทางและวิธีการสร้างวัฒนธรรมองค์กรเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้แข็งแกร่งและยั่งยืน กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น ณ สำนักงานใหญ่ บมจ. เงินติดล้อ อาคารอารีย์ ฮิลล์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้หลักสูตร TIDLOR Culture Wow และ TIDLOR Culture Camp ภายใต้โครงการ TIDLOR Academy จัดขึ้นสำหรับบุคคลและบริษัทภายนอกที่สนใจการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ผ่านแนวคิดและประสบการณ์จริงในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยวัฒนธรรมองค์กรในแบบฉบับเงินติดล้อ เพื่อเป็นแนวทางให้กับหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป สำหรับผู้สนใจออกแบบค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรผ่านเวิร์กช็อปที่สามารถนำไปใช้ได้จริง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ www.tidlor.com/academy หรือสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-792-1990

02 Jul 2025

...

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) บริษัทในกลุ่ม Tidlor Holdings หรือ TIDLOR ประกาศความสำเร็จอีกครั้ง ด้วยการได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน 500 บริษัทชั้นนำที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำปี 2568 จาก Fortune Southeast Asia 500 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของการดำเนินธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถและธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่สามารถสร้างการเติบโตได้เป็นอย่างดีในปีที่ผ่านมา ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนถึงเจตนารมณ์ของบริษัทในการสร้างโอกาสทางการเงิน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการเข้าถึงความคุ้มครองด้านประกันภัยให้กับประชาชนไทยทั่วประเทศ พร้อมมุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับลูกค้า และสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงแก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การจัดอันดับ Fortune Southeast Asia 500 โดยนิตยสารฟอร์จูนในเครือ Time Inc. ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ยอมรับทั่วโลก พิจารณาจากรายได้รวม (Revenue) ของบริษัทจดทะเบียนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ที่มีรายได้สูงสุด 500 อันดับแรก ในปีงบประมาณ 2567 สำหรับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของ TIDLOR ได้ที่เว็บไซต์ www.tidlorinvestor.com

29 Jun 2025

...

SME D Bank เคียงข้างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ทุ่ม 3,500 ล้านบาท ออก 2 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ ได้แก่ “Smile Biz ธุรกิจยิ้มได้ (2568)” และ “จิ๋วสุดแจ๋ว Plus” มุ่งเติมทุนครอบคลุมทุกกลุ่มเอสเอ็มอี นำไปใช้ลงทุน หมุนเวียน เสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ   ควบคู่ยกระดับพัฒนาครบวงจร ช่วยเสริมแกร่ง ยืนหยัดและปรับตัวได้ในช่วงสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัว   นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า ธนาคารมีความห่วงใยผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และคู่ค้าที่เป็น Supply Chain  ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จากความไม่แน่นอนของสงครามการค้า  การล้นทะลักของสินค้าจากต่างประเทศ สถานการณ์ภัยพิบัติ แผ่นดินไหว ส่งผลต่อความเชื่อมั่น รวมถึง ในภาคธุรกิจท่องเที่ยว และเกี่ยวเนื่องที่ได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ดังนั้น SME D Bank   จัดวงเงิน  3,500 ล้านบาท ออก 2 สินเชื่อใหม่ สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในภาคผลิต บริการ และค้าส่งค้าปลีก  ทั้งรายย่อย รายย่อม และรายกลาง ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน นำไปเสริมสภาพคล่องกิจการ สามารถรับมือและก้าวผ่านสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้เหมาะสมและทันท่วงที อีกทั้ง ช่วยรักษาการจ้างงานในภาคธุรกิจเอสเอ็มอี โดยมีจุดเด่นเงื่อนไขผ่อนปรนเปิดกว้าง ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน สามารถใช้ บสย.ค้ำประกันได้  ได้แก่ “สินเชื่อ Smile Biz ธุรกิจยิ้มได้ (2568)” วงเงิน 3,000 ล้านบาท และ “สินเชื่อรายย่อย จิ๋วสุดแจ๋ว Plus” วงเงิน 500 ล้านบาท   สำหรับ “สินเชื่อ Smile Biz ธุรกิจยิ้มได้ (2568)” สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดย่อม และขนาดกลาง ทั้งบุคคลธรรมดา นิติบุคคล ที่มีรายได้ต่อปีเกินกว่า 1.8 ล้านบาท แต่ขาดหลักประกันให้เข้าถึงแหล่งทุน นำไปเสริมสภาพคล่อง  ลงทุน ขยาย ปรับปรุง หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ  เงินทุนหมุนเวียน  วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย เริ่มต้น MLR -1%ต่อปี หรือประมาณ 6.25%ต่อปี (ปัจจุบัน MLR เท่ากับ 7.25%) ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ผ่อนนานสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ปลอดชําระคืนเงินต้นสูงสุด 6 เดือน เปิดรับคำขอกู้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2569 หรือจนกว่าวงเงินสินเชื่อโครงการจะหมด แล้วแต่อย่างหนึ่งอย่างใดจะถึงก่อน   และ “สินเชื่อรายย่อย จิ๋วสุดแจ๋ว Plus”  สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อย (MICRO) ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล ที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 1.8 ล้านบาท แต่ขาดหลักประกันให้เข้าถึงแหล่งทุน นำไปลงทุน ขยาย ปรับปรุง ปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ หรือหมุนเวียนเสริมสภาพคล่องในธุรกิจ   วงเงินกู้ขั้นต่ำ 1  แสนบาท สูงสุดไม่เกิน 5 แสนบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย เริ่มต้น MRR +5.35% ต่อปี หรือประมาณ 12.925% ต่อปี (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 7.575%) ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ผ่อนนานสูงสุดไม่เกิน 5 ปี เปิดรับคำขอกู้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569 หรือจนกว่าวงเงินสินเชื่อโครงการจะหมด แล้วแต่อย่างหนึ่งอย่างใดจะถึงก่อน “ทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ ครอบคลุมการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกกลุ่ม และทุกประเภทในภาคการผลิต บริการ ค้าปลีกและค้าส่ง ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง ร้านค้าออนไลน์  ธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง เช่น ร้านขายของฝาก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ฯลฯ เพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน  นำไปเสริมสภาพคล่อง  หรือมีไว้สำรองเป็นค่าใช้จ่าย ช่วยให้สามารถรับมือกับภาวะเศรษฐกิจได้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ธุรกิจยืนหยัดและปรับตัวได้” นายพิชิต กล่าวเสริม นอกจากนี้ SME D Bank ยังให้บริการด้านการพัฒนาธุรกิจครบวงจรควบคู่ด้วย ผ่านแพลตฟอร์ม DX by SME D Bank (dx.smebank.co.th) ใช้บริการได้สะดวกสบาย ตลอด 24 ชม. มีฟีเจอร์สำคัญ ๆ  เช่น ระบบ  “Business Health Check”  ตรวจสุขภาพทางธุรกิจ  ระบบ E-Learning รวบรวมหลักสูตรความรู้สำคัญ ช่วยเพิ่มศักยภาพการประกอบธุรกิจ เรียนรู้ได้ด้วยตัวเองตลอด 24 ชั่วโมง ระบบ SME D Activity จองเข้าร่วมกิจกรรมเติมความรู้ได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ระบบ SME D Coach มีโค้ชมืออาชีพคอยเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำธุรกิจ  ระบบ SME D Market ช่วยขยายตลาดด้วย E-marketplace หนุนจับคู่ธุรกิจ  และระบบ SME D Privilege  ที่มอบสิทธิประโยชน์พิเศษมากมาย เป็นต้น  ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถแจ้งความประสงค์เข้ารับบริการด้านการเงิน และการพัฒนาจาก SME D Bank ได้ผ่านสาขา SME D Bank ทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น LINE Official Account : SME Development Bank  และ www.smebank.co.th เป็นต้น  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

26 Jun 2025

...

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank คว้ารางวัล Money & Banking Awards 2025 ประเภท “ธนาคารยอดเยี่ยมด้านสินเชื่อเอสเอ็มอีแห่งปี 2568” (Best Service Provider of the Year 2025 – SME Loan) จากวารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ สวนดุสิตโพล ที่ทำการสำรวจความคิดเห็นผู้เข้าชมงาน “มหกรรมการเงิน Money Expo” ทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาค ระหว่างปี 2567-2568 รวม 7 งาน ซึ่งมีสถาบันการเงินต่าง ๆ มาออกบูธให้บริการสินเชื่อเอสเอ็มอีในงานจำนวนมาก   โดย SME D Bank ได้รับผลสำรวจเป็นอันดับหนึ่งของการเป็นธนาคารที่มีบริการยอดเยี่ยมด้านสินเชื่อเอสเอ็มอี นับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน (2566-2568)  เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อเหมาะสมครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ ด้วยไฮไลท์ อัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ตรงความต้องการของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ควบคู่กับมีบริการพัฒนาผู้ประกอบการผ่านแพลตฟอร์ม "DX by SME D Bank" ช่วยเสริมแกร่งครบวงจร และที่สำคัญ เจ้าหน้าที่มอบบริการอย่างดีเยี่ยม ให้ข้อมูลครบถ้วน ดูแลอย่างใกล้ชิด อีกทั้ง มีระบบ SME D Coach เป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำเตรียมพร้อม  จนสามารถพาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุน สร้างความประทับใจ และช่วยยกระดับพัฒนาธุรกิจ เดินหน้าสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน        

19 Jun 2025

ราชการ - รัฐวิสาหกิจ / พลังงาน - การเกษตร

...

นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เข้าร่วมงาน “Thailand Focus 2025 : Beyond the Challenges” จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ต.ล.ท.) โดยมีนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้กล่าวเปิดงาน   โดยในช่วงเสวนา หัวข้อ Reforming the Market: Capital Markets at an Inflection Point  นายทรงพล ได้แชร์มุมมองที่จะช่วยปฏิรูปตลาดทุนให้ตอบโจทย์นักลงทุนอย่างยั่งยืน ซึ่ง กบข. มีสินทรัพย์การลงทุนประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท มีการกระจายการลงทุนใน 21 สินทรัพย์ทั่วโลก ขณะนี้ กบข. กำลังทบทวนการจัดสรรการลงทุนระยะยาว (SAA) เพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์เติบโตสูง โดยเฉพาะหุ้นไทย ใช้เทคนิคการคัดเลือกหุ้นรายตัว นำเกณฑ์ Set50 Free Float มาเป็นตัวชี้วัด   กบข. ในฐานะนักลงทุนสถาบัน มีความต้องการความเสถียรภาพของภาคการลงทุน มีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ต.ล.ท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่ต้องดำเนินการให้เกิดความชัดเจน รวมถึงบริษัทที่จดทะเบียน นักลงทุน และผู้ที่เกี่ยวข้องในภาคการลงทุน อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามการพัฒนาในด้านต่าง ๆ เพื่อให้เกิดนักลงทุนระยะกลางถึงระยะยาวมากกว่านักลงทุนที่เน้นการซื้อขายระยะสั้น และหวังว่าการดำเนินการของ ก.ล.ต. และ ต.ล.ท. จะสำเร็จในเร็ว ๆ นี้ เพื่อให้ตลาดลงทุนในไทยมีความยั่งยืนในอนาคต  

02 Sep 2025


...

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นประธานในพิธีเปิดการใช้งาน “Go Live โครงการพัฒนา Data Analytics โดยใช้ระบบ Virtual Audit” เพื่อยกระดับกระบวนการตรวจสอบภายในให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้ความเชื่อมั่นของการปฏิบัติงาน โดยตรวจสอบความผิดปกติของข้อมูลการดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง (Continuous Audit) พร้อมทั้งการแจ้งเตือนความผิดปกติให้กับส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขและป้องกันการเกิดความผิดปกติซ้ำได้ นับเป็น  อีกก้าวสำคัญของ ธ.ก.ส. ในการยกระดับการตรวจสอบภายในโดยใช้ระบบ Virtual Audit ครั้งนี้จะเป็นรากฐานสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถของธนาคารเสริมสร้างความเชื่อมั่นขององค์กรต่อไป โดยมีคณะผู้บริหาร พนักงานและส่วนงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรม ณ ห้องโถง ชั้น 2 อาคารทาวเวอร์ ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568    

31 Aug 2025

...

กองทัพอากาศไทยได้ร่วมลงนามจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ซาบ กริพเพน อี/เอฟ (Saab Gripen E/F) รุ่นใหม่จำนวน 4 ลำ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ รุ่น เอฟ414-จีอี-39อี (F414-GE-39E) ที่ล้ำสมัยจากจีอี เอโรสเปซ (GE Aerospace) (NYSE:GE) ภายใต้ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลสวีเดน นายชอว์น วอร์เรน (Shawn Warren) รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายเครื่องยนต์สำหรับการรบและการฝึกบินของ GE Aerospace กล่าวว่า “เครื่องยนต์ F414-GE-39E มอบแรงขับ ความน่าเชื่อถือ และความคล่องตัวที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างขีดความสามารถทางการรบยุคใหม่ เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้สนับสนุนประเทศไทยในการขยายฝูงบิน Gripen ข้อตกลงฉบับนี้ยังคงสานต่อความร่วมมืออันยาวนานระหว่าง GE Aerospace Saab และกองทัพอากาศทั่วโลก” สัญญาฉบับนี้เป็นการสะท้อนถึงการขยายขีดความสามารถของฝูงบินขับไล่สมรรถนะสูง Gripen C/D ของกองทัพอากาศไทย ซึ่งได้เข้าประจำการมาตั้งแต่ปี 2551 โดยใช้เครื่องยนต์อาร์เอ็ม12 (RM12) ของ GE Aerospace ที่พัฒนามาจากรุ่น เอฟ404 (F404) การจัดซื้อครั้งใหม่นี้ทำให้ประเทศไทยกลายประเทศที่สามที่จัดซื้อ Gripen E/F ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ F414-GE-39E ต่อจากสวีเดนและบราซิล และยังเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (APAC) ที่นำเครื่องบินรุ่นนี้เข้าประจำการ จนถึงปัจจุบัน มีการส่งมอบเครื่องยนต์ F414 มากกว่า 1,600 เครื่อง และมียอดชั่วโมงบินสะสมกว่า 5 ล้านชั่วโมง ตระกูลเครื่องยนต์ F414 ยังคงส่งมอบสมรรถนะที่ผ่านการพิสูจน์แล้วในสภาพแวดล้อมที่มีความท้าทายสูง พร้อมสนับสนุนแพลตฟอร์มการรบขั้นสูงทั่วโลก

31 Aug 2025

...

นายไพศาล หงษ์ทอง รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นประธานเปิดงานสัมมนา“BAAC AGRI CONNECT 2025” สานสัมพันธ์ สร้างเครือข่ายทางธุรกิจ ภายใต้หัวข้อ ยกระดับ“เกษตรไทยสู่ยุคใหม่” ด้วยการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ เพื่อเป็นเวทีการแลกเปลี่ยนแนวคิดการดำเนินธุรกิจในอนาคตระหว่าง ธ.ก.ส. และผู้ประกอบการ มุ่งสู่การยกระดับและพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจให้สามารถแข่งขันและเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยเปิดโอกาสใหม่  ให้ผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรไทยเติบโตร่วมกับ ธ.ก.ส. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนการดำเนินงานสู่การเป็นแกนกลางการเกษตร“Essence of Agriculture” โดยมีนางสาวพรหมกร พรหมขัติแก้ว ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส. พร้อมด้วยผู้บริหาร ธ.ก.ส. และผู้ประกอบการธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมการเกษตร ผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออก สหกรณ์ทั้งในภาค และนอกภาคการเกษตร ผู้ประกอบการกลุ่มลูกค้า New Gen และผู้ประกอบการที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส. ในอนาคตเข้าร่วมงานเสวนาจำนวนรวมกว่า  200 คน     ทั้งนี้ ภายในงานมีการบรรยายให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ในหัวข้อ“บทเรียนธุรกิจที่ไม่มีสอนในตำรา รวมถึงกิจกรรม TikTok อย่างง่ายได้เงินแสน และกิจกรรม มัทฉะ กับกระแสสร้างเงินล้าน นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังได้จัดแสดงผลิตภัณฑ์สินค้าแกลมเกษตรสุดพรีเมียมจากเกษตรกรลูกค้า พร้อมจุดให้บริการปรึกษาสินเชื่อบริการทางการเงินพิเศษสำหรับผู้ประกอบการ ระหว่างวันที่ 24-26 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมไบรท์ตัน แกรนด์ พัทยา    ฃ            

30 Aug 2025

...

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รับโล่รางวัล เชิดชูเกียรติ "สถาบันที่มีความดีเด่นทางการเกษตร ประจำปี พ.ศ. 2567" และนางสาวพรหมกร พรหมขัติแก้ว ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส ในฐานะนิสิตเก่าคณะเกษตร มก.รุ่นที่ 46 รับรางวัลนิสิตเก่าดีเด่นคณะเกษตร ประเภทนักบริหารภาครัฐ/ภาครัฐวิสาหกิจ ประจำปี พ.ศ. 2567 จากสมาคมนิสิตเก่าคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในงานรวงทองคืนทุ่ง 2568 – Aggie Day' 68 ครบรอบ 82 ปีแห่งการสถาปนาคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ เพื่อยกย่อง เชิดชูเกียรติ องค์กรและบุคคคที่มีผลงานดีเด่นและมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและส่งเสริมภาคการเกษตร ทั้งด้านงานวิชาการ การวิจัย การบริหารจัดการ และการให้บริการแก่เกษตรกร เพื่อประโยชน์แก่การพัฒนาเกษตรกรรมของประเทศ     ซึ่งสะท้อนบทบาทของ ธ.ก.ส. ในการขับเคลื่อนภาคเกษตรของไทยตามวิสัยทัศน์ในการเป็น “ธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน” โดยมีศาสตราจารย์ ดร.ธีระ สูตะบุตร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล และนายอนันต์ สุวรรณรัตน์  อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอดีตรองประธานคณะกรรมการ ธ.ก.ส. ร่วมแสดงความยินดี เมื่อวันที่  23 สิงหาคม 2568  ณ อาคารสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพฯ             

27 Aug 2025

...

นายไพศาล หงษ์ทอง รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมผู้บริหาร ธ.ก.ส. ฝ่ายกิจการสาขาภาคใต้ตอนบน เข้าร่วมพิธีเปิดงาน “Thailand Smart Money สุราษฎร์ธานี” ครั้งที่ 11 และให้การต้อนรับ นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประธานในพิธีเปิดงาน นายรัฐกร อัสดรธีรยุทธ์ ประธานเครือหนังสือพิมพ์ดอกเบี้ยธุรกิจ ในฐานะประธานการจัดงาน Thailand Smart Money ในโอกาสเยี่ยมชมบูธของ ธ.ก.ส. ซึ่งนำโปรโมชันและบริการสุดพิเศษมาให้บริการประชาชน อาทิ ผลิตภัณฑ์เงินฝาก - สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ที่ฝากแล้วจะได้รับสิทธิ์ลุ้นจุ่ม Art Toy AGRI ANIMAL เหล่าบรรดาสัตว์ในภาคการเกษตรสุดน่ารักชุดใหม่ โดยเปิดตัว “ลิง”  Art Toy ตัวใหม่ล่าสุดที่น่าสะสมในชุด AGRI ANIMAL เพียงฝากสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดมังกรหยก หน่วยละ 100 บาท  ชุดถุงเงิน หน่วยละ 100 บาท ชุดขวัญถุง หน่วยละ 20 บาท หรือสลากดิจิทัล ธ.ก.ส. หน่วยละ 50 บาท ตั้งแต่ 100,000 - 590,000 บาท รับกระปุกออมทรัพย์ คุณ ME โชค รุ่นรวยเหลือแจก หรือเมื่อฝากตั้งแต่ 590,000 บาทขึ้นไป รับเลยกระเป๋าอเนกประสงค์ รุ่น Work Hard, Play Harder   นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังเอาใจคนรักการออมกับเงินฝากทองเอก ฝากเงินขั้นต่ำ 100,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อราย รับดอกเบี้ยร้อยละ 1.60 ต่อปี ระยะเวลา 9 เดือน ล่วงหน้าทันทีตั้งแต่เริ่มฝากเงิน และพิเศษสุดๆเมื่อฝากตั้งแต่ 500,000 - 1,000,000 บาท รับสิทธิ์จุ่ม Art Toy มังแมว จำนวน 1 จุ่ม (จำกัด 1 คนต่อสิทธิ์) และเมื่อฝากตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป รับ Art Toy มังแมว ครบเซต 4 ตัว (จำกัด 1 คน/สิทธิ์) หรือเงินฝากแก้วมรกต ฝากเริ่มต้นเพียง 2,000 บาท รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยเงินฝาก แถมสิทธิประโยชน์ความคุ้มครองอุบัติเหตุสูงสุดถึง 25 เท่า ของยอดเงินฝากคงเหลือ วงเงินคุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท   พร้อมเปิดตัว เงินฝากเต็มร้อย ฝากขั้นต่ำ 10,000 บาทขึ้นไป ไม่จำกัดวงเงินรับฝากสูงสุด รับดอกเบี้ยทุกเดือนในอัตราร้อยละ 1.25 ต่อปี ระยะเวลาโครงการไม่เกิน 100 วัน เปิดรับฝากตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 กันยายนนี้ สำหรับบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากตลอดจนเงินฝากสงเคราะห์ชีวิต ที่คัดโปรโมชันพิเศษมานำเสนอ พร้อมรับของสมนาคุณทั้งกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าผ้าแคนวาส รวมถึงการให้คำปรึกษาด้านการเงิน โชว์รูมสินค้าแกลมเกษตรสุดพรีเมียมจากเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. กว่า 70 รายการ ผนังกระปุก ธ.ก.ส. แห่งความทรงจำรวมกระปุก ออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันที่หาดูได้ยากมาให้ประชาชนได้ถ่ายรูปเป็น ที่ระลึกในงาน “Thailand Smart Moneyสุราษฎร์ธานี” ระหว่างวันที่ 22 - 24 สิงหาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น. ณ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี    

26 Aug 2025

...

วันนี้ (21 สิงหาคม 2568) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ร่วมกับ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการและถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อร่วมกันบูรณาการและถ่ายทอดองค์ความรู้ในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม ในการเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันของเกษตรกรและผู้ประกอบธุรกิจในภาคการเกษตร โดยเฉพาะเกษตรกรรุ่นใหม่ ให้สามารถนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการผลิต การแปรรูป การเพิ่ม ผลผลิต การตลาด ป้องกันบรรเทาปัญหาของเกษตรกร และการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผลผลิตทางการเกษตร ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ประโยชน์จากงานบริการด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี รวมถึงการรับรองมาตรฐานการผลิต เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างมั่งคงและยั่งยืน ซึ่ง ธ.ก.ส. จะสนับสนุนด้านการเข้าถึงแหล่งเงินทุน บริการทางการเงิน พร้อมด้วยองค์ความรู้การประกอบธุรกิจแก่เกษตรกรและผู้ประกอบการ โดยมีนายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธ.ก.ส. และ ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการ วว. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นผู้ลงนาม   นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐที่วิสัยทัศน์ในการเป็น “ธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน” ให้ความสำคัญกับการยกระดับลูกค้าให้มีความแข็งแรง ตามแนวทางในการเป็นแกนกลางการเกษตร (Essence of Agriculture) ด้วยการสนับสนุนทั้งในด้านเงินทุน องค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม การตลาด และการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ ขณะเดียวกันยังร่วมมือกับ วว.มาอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ การถ่ายทอดองค์ความรู้และนวัตกรรม การสนับสนุนเกษตรกรรุ่นใหม่ (Young Smart Farmer) เช่น การสร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัยให้กับผลผลิตทางการเกษตรด้วยการ Repackage และ Redesign พัฒนาและยกระดับสินค้าของลูกค้าเพื่อสร้างแบรนด์ชุมชนไปสู่การเป็นสินค้าเกษตรมูลค่าสูง (Glam Agro)     โดยความสำเร็จล่าสุดที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมจากความร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงาน คือ ผลิตภัณฑ์ข้าวพร้อมทานตรา “อุ่นอิ่ม” จากสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส ร้อยเอ็ด จำกัด (สกต.ร้อยเอ็ด) ซึ่งเกิดขึ้นจากการวิจัยและเทคโนโลยีการแปรรูปด้วยมาตรฐานความปลอดภัยผ่านกระบวนการนำผลผลิตข้าวสารหอมมะลิ GI ทุ่งกุลาร้องไห้ไปสู่การเป็นข้าวพร้อมทาน    โดยใช้เทคโนโลยีการฆ่าเชื้อด้วยความร้อน (Retort Technology) จนนำมาสู่ข้าวพร้อมทานคุณภาพดี อร่อยได้มาตรฐาน สามารถเก็บในอุณหภูมิห้องได้นานถึง 18 เดือน โดยไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ในตู้เย็น ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มเปิดจำหน่ายข้าวพร้อมทานตรา “อุ่นอิ่ม” ทั้งประเภทข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้อง และข้าวไรซ์เบอร์รี ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 ถึงปัจจุบัน  มียอดส่งจำหน่ายได้แล้วมากกว่า 43,000 ถ้วย คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.29 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์เจลลี่มะม่วง จากสวนปทุมทิพย์ จังหวัดลำพูน โดย ธ.ก.ส. ได้ร่วมกับ วว. ในการพัฒนาฉลาก (สติกเกอร์) สำหรับติดบนบรรจุภัณฑ์เยลลี่มะม่วง ให้มีรูปแบบที่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ น่าสนใจ ทันสมัย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และผู้บริโภคจดจำได้ง่าย รวมถึงพัฒนาบรรจุภัณฑ์ขนส่งมะม่วงสำหรับการส่งออก ที่แข็งแรง มีประสิทธิภาพในการกันกระแทก เพื่อรักษาคุณภาพและป้องกันไม่ให้มะม่วงได้รับความเสียหายระหว่างการขนส่ง รวมถึงยังมีลวดลายบนกล่องที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน   ด้าน ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า วัตถุประสงค์สำคัญของความร่วมมือในครั้งนี้ มิได้จำกัดอยู่เพียงการเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการผลิตและการแปรรูปสินค้าเกษตรเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการยกระดับมาตรฐานสินค้า การพัฒนาช่องทางการตลาด การสร้างมูลค่าเพิ่ม และการต่อยอดงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งทุนและบริการทางการเงินที่เหมาะสม เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของเกษตรกรและผู้ประกอบการในทุกระดับ นอกจากนี้ ความร่วมมือดังกล่าวยังมุ่งหวังที่จะสนับสนุนให้เกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน ได้มีโอกาสพัฒนานวัตกรรมที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ควบคู่กับองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ เพื่อให้สามารถสร้างคุณค่าใหม่ ๆ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและสังคม และยังสามารถต่อยอดสู่การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา อันจะเป็นการสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ชุมชนท้องถิ่น และเสริมสร้างรากฐานของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในระดับประเทศ วว. และ ธ.ก.ส. จะได้ร่วมกันผลักดันการวิจัยและพัฒนา ส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและภูมิปัญญาท้องถิ่น ขยายผลนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ ตลอดจนสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อยกระดับสินค้าเกษตรไทยสู่มาตรฐานสากล และสร้างความเข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยืนให้กับเกษตรกรไทย            ทั้งนี้ บันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการและถ่ายทอดเทคโนโลยี ระหว่าง ธ.ก.ส. และ วว. ในครั้งนี้ ยังรวมถึงการสนับสนุนทางด้านการศึกษา ฝึกอบรม จัดประชุมวิชาการ สร้างเครือข่ายกับหน่วยงานต่าง ๆ  ที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ และส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างกัน เป็นต้น  ซึ่งมีกำหนดระยะเวลา 3 ปี โดยมีผู้บริหารจากทั้ง 2 หน่วยงานร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี ณ ห้องประชุมจำเนียรสาร  ชั้น 24 เกษตรธนากร อาคารทาวเวอร์ ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่              

22 Aug 2025

TECHNOLOGY - AUTO - PROPERTY

...

“เงินติดล้อ” โดย บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) แจ้งเตือนภัยผู้ประกอบการเต็นท์รถมือสอง เนื่องจากปัจจุบันพบว่ามีกลุ่มผู้ใช้สินเชื่อบางรายนำรถติดสัญญาจำนำทะเบียนรถ ซึ่งมีบริการเสริมในการเบิกถอนวงเงินสินเชื่อ เช่น บัตรกดเงินสด หรือ แอปพลิเคชัน โดยนำรถไปหลอกขายกับเต็นท์รถแต่ไม่แจ้งปิดบัญชีสินเชื่อ ส่งผลให้เต็นท์รถไม่ได้รับเล่มทะเบียนรถตามที่ตกลงไว้กับผู้ขายรถ ทั้งนี้ เพื่อความมั่นใจ “เงินติดล้อ” ขอแนะนำผู้ประกอบการเต็นท์รถ ดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้ 1.ตรวจสอบว่ารถมีเล่มทะเบียนรถตัวจริงหรือไม่ 2.กรณีไม่มีเล่มทะเบียนรถ ตรวจสอบว่ามีสัญญาจำนำทะเบียนรถหรือไม่ 3.หากมีสัญญาจำนำทะเบียนรถ ควรตรวจสอบว่ามีบริการบัตรกดเงินสดหมุนเวียน หรือ แอปพลิเคชัน เพื่อใช้เบิกถอนวงเงินสินเชื่อหรือไม่ 4.กรณีเต็นท์รถตกลงจ่ายหนี้คงค้างส่วนต่างเพื่อปิดบัญชีให้ผู้ขายรถ ควรเน้นย้ำให้ผู้ขายรถดำเนินการแจ้งยืนยันปิดบัญชีสินเชื่อกับไฟแนนซ์ที่ใช้บริการอยู่ เพื่อดำเนินการปิดบัญชี และจัดส่งเล่มทะเบียนรถให้ตามที่อยู่ที่ตกลงไว้ได้ กรณีที่ใช้สินเชื่อกับเงินติดล้อ แนะนำให้เต็นท์รถและลูกค้า ติดต่อปิดบัญชีที่สาขาเงินติดล้อได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้ บัตรกดเงินสดหมุนเวียน ถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้สินเชื่อสามารถกดเงินสดตามวงเงินสินเชื่อทะเบียนรถของตนเองได้สะดวกผ่านตู้ ATM ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำทั่วประเทศ ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สินเชื่อสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนยามฉุกเฉินได้สะดวกยิ่งขึ้น

01 Sep 2025


...

บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM ฉลองครบรอบ 25 ปี “SAM ส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทย เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ชวนนักลงทุนที่ต้องการขยายธุรกิจและผู้สนใจที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง เข้าร่วมประมูลทรัพย์มือสองหรือทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ในทำเลดีทั่วประเทศ จำนวน 33 รายการ มูลค่ารวมประมาณ 247 ลบ. อาทิ ที่ดินเปล่า ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว อาคารพาณิชย์ ห้องชุดพักอาศัย โดยมีไฮไลท์สำคัญสำหรับนักลงทุนเป็นสวนน้ำขนาดใหญ่ ใจกลางเมือง เนื้อที่ 20 ไร่  ประกอบด้วย สวนน้ำเป็นหอ 6 เหลี่ยม เครื่องเล่นสไลเดอร์ อโลฮ่า 2 ตัว  สระว่ายน้ำและสระน้ำวน จำนวน 3 สระ อาคารอาคารบริการ ร้านขายของที่ระลึก ศูนย์อาหาร 2 อาคาร  ห้องน้ำ 4 อาคาร ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย และแหล่งท่องเที่ยว บน ถ.มหาดไทย ต.ท่ามะขาม อ.เมืองกาญจนบุรี  จ.กาญจนบุรี  ใกล้สะพานข้ามแม่น้ำแคว ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ปรับลดราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 83.41 ลบ. นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชันมากมาย อาทิ “SAM ฟรีโอนไม่อั้น” “SAM ทรัพย์มือสองต้องบอกต่อ” เพียงแนะนำทรัพย์ SAM ให้กับเพื่อนหรือคนรู้จัก รับค่าแนะนำสูงสุดถึง 3 ล้านบาทต่อ 1 รายการ (เฉพาะทรัพย์ที่เข้าเงื่อนไข) รวมถึงความร่วมมือกับธนาคารชั้นนำ อย่างธนาคารกรุงเทพ ธนาคารยูโอบี ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต (ttb) ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในการให้บริการด้านสินเชื่อ โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด ตัวอย่างทรัพย์เด่นราคาพิเศษที่น่าสนใจ 1.บ้านเดี่ยว 2 ชั้นหลังมุม เนื้อที่ 57.8 ตร.ว. โครงการเซนโทร วิภาวดี ถ.ช่างอากาศอุทิศ แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย การคมนาคมสะดวก ใกล้กับท่าอากาศยานดอนเมือง จุดขึ้นลงทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ และห่างจากสถานีดอนเมือง รถไฟฟ้าสายสีแดงเพียง 2.7 กม.เท่านั้น นอกจากนี้ยังใกล้กับวัดพรหมรังษี โรงเรียนพระหฤทัย  ดอนเมือง และสำนักงานเขตดอนเมือง ปรับลดราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 8.71 ลบ. 2. บ้านเดี่ยว 2 ชั้นพร้อมบ้านพักคนงาน เนื้อที่ 267.8 ตร.ว. ถ.อนามัยงามเจริญ แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย การคมนาคมเข้าออกได้หลายเส้นทางใกล้ห้างเซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 2 ห้างบิ๊กซี พระราม 2 ห้างโฮมโปร พระราม 2 วัดท่าข้าม โรงเรียนวัดท่าข้าม และวัดเลา ปรับลดราคาพิเศษเริ่มต้นที่  8.83 ลบ.     3. อพาร์ทเมนท์ 4 ชั้น รวม 84 ห้อง เนื้อที่ 131.6 ตร.ว.โครงการไทยธานีคอนโด ถ.พหลโยธิน แขวงคลองถนน เขตบางเขน กรุงเทพฯ ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย ใกล้ตลาดยิ่งเจริญพลาซ่า มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ วิทยาเขตสะพานใหม่  โรงเรียนวัดราษฎร์นิยมธรรม ห่างจากสถานีสะพานใหม่ รถไฟฟ้าสายสีเขียวเพียง 2.3 กม. ปรับลดราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 6.34 ลบ. 4. บ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ 86.3 ตร.ว. โครงการบ้านฟ้าลากูน ถ.เลียบคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย สาธารณูปโภคครบครัน การคมนาคมสะดวก ใกล้โรงพยาบาลเปาโล รังสิต ห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต โรงเรียนอนุบาลรังสิต ปรับลดราคาพิเศษเริ่มต้นที่  5.31 ลบ. 5. บ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ 60.5 ตร.ว. โครงการออลสวีท ภูเก็ตซิตี้-พันวา ถ.ศักดิเดชน์ (ทล.4023) ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านที่อาศัย การคมนาคมสะดวก ใกล้โรงเรียนบ้านอ่าวน้ำบ่อ  และโรงเรียนดาวรุ่งวิทยา  ปรับลดราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 4.71 ลบ.        6. อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 3 คูหา แบ่งเป็น 1 คูหา เนื้อที่ 22.5 ตร.ว. และ 2 คูหาติดกัน เนื้อที่ 45 ตร.วา ถ.โชติวิทยะกุล 3 ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านพาณิชยกรรม สาธารณูปโภคครบครัน ใกล้สถานีขนส่งหาดใหญ่ ห้างเซ็นทรัล หาดใหญ่ และห้างแม็คโคร หาดใหญ่ ปรับลดราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 20.68 ลบ. ทั้งนี้ ผู้สนใจเข้าร่วมประมูลสามารถลงทะเบียนและยื่นซองประมูล พร้อมเอกสารประกอบการประมูลที่กำหนด โดยทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยและเพื่อการลงทุน ราคาไม่เกิน 20 ลบ. (ครั้งที่ 16.1/2568) ภายในวันที่ 1 ก.ย. 2568 และกำหนดเปิดซองประมูลวันที่ 9 ก.ย. 2568 ส่วนทรัพย์ที่มีราคาสูงกว่า 20 ลบ. (ครั้งที่ 16.2/2568) ภายในวันที่ 15 ก.ย. 2568 และกำหนดเปิดซองประมูลวันที่ 22 ก.ย. 2568 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ที่สำนักงานใหญ่ SAM อาคารซันทาวเวอร์ส ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ  หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1443  และดูรายละเอียดทรัพย์สินได้ทางเว็บไซต์ที่ www.sam.or.th  รวมทั้งช่องทางออนไลน์ที่หลากหลายและสะดวกรวดเร็ว โดยแอด ID Line @Samline ติดตาม Facebook /YouTube / TikTok ได้ที่  "SAM บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท"  เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสารดี ๆ จาก SAM

30 Aug 2025

...

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) นำคอนโดมิเนียมมือสองจำนวนกว่า 500 รายการทั่วประเทศ ออกจำหน่ายในงาน“มหกรรมคอนโดมิเนียมออนไลน์ ราคาพิเศษ” ลดราคาสูงสุด 50% จากราคาปกติ ผ่าน Application : GHB ALL HOME ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2568 เวลา 16.30 น. พิเศษ 3 ต่อ! ต่อที่ 1 : สำหรับลูกค้าที่จองซื้อทรัพย์ภายในระยะเวลาการจัดงานและทำสัญญาจะซื้อจะขายภายใน 3 วันทำการ รับบัตรกำนัลแทนเงินสดมูลค่า 1,000 บาท ต่อที่ 2 : สำหรับลูกค้าที่โอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2568 รับบัตรกำนัลแทนเงินสดมูลค่า 1,000 บาท และ ต่อที่ 3 : สำหรับลูกค้าที่จองซื้อทรัพย์ภายในระยะเวลาการจัดงานและยื่นขอสินเชื่อภายใน 45 วัน นับถัดจากวันทำสัญญาจะซื้อจะขายมีสิทธิ์รับสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% คงที่นาน 2 ปีแรก นายวิทยา แสนภักดี รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานปรับโครงสร้างหนี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. จัดงาน “มหกรรมคอนโดมิเนียมออนไลน์ ราคาพิเศษ” โดยนำคอนโดมิเนียมมือสองคุณภาพดี ออกจำหน่ายกว่า 500 รายการทั่วประเทศ ลดราคาสูงสุด 50% จากราคาปกติ ผ่าน Application :  GHB ALL HOME ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2568 เวลา 16.30 น. โดยเป็นคอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 361 รายการ  อาทิ คอนโดมิเนียม ชั้น 20 จาก 26 ชั้น ขนาดเนื้อที่ 32.22 ตารางเมตร ในโครงการริชพาร์ค @เตาปูน เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,610,000 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์ที่อยู่ในเขตเมือง เดินทางได้อย่างสะดวกและมีเส้นทางคมนาคมที่หลากหลาย และคอนโดมิเนียมในส่วนภูมิภาค จำนวน 145 รายการ อาทิ คอนโดมิเนียม ชั้น 3จาก 8 ชั้น ขนาดเนื้อที่ 38.98 ตารางเมตร ในโครงการทรีบูทีคคอนโด 2  อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,700,000 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์ที่เหมาะแก่การซื้อไว้เพื่ออยู่อาศัยหรือเป็นห้องพักตากอากาศ พิเศษ 3 ต่อ! ต่อที่ 1 : สำหรับลูกค้าที่จองซื้อทรัพย์ภายในระยะเวลาการจัดงานและทำสัญญาจะซื้อจะขายภายใน 3 วันทำการ รับบัตรกำนัลแทนเงินสด มูลค่า 1,000 บาท (รางวัลละ 1 ท่าน ต่อ 1 ใบ) จำนวน 100 ใบ (แบ่งเป็นทรัพย์ในเขตกรุงเทพ-ปริมณฑล 50 ใบ และทรัพย์ในเขตภูมิภาค 50 ใบ) ต่อที่ 2 : สำหรับลูกค้าที่โอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2568 รับบัตรกำนัลแทนเงินสดมูลค่า 1,000 บาท (รางวัลละ 1 ท่าน ต่อ 1 ใบ) และ ต่อที่ 3 : สำหรับลูกค้าที่จองซื้อทรัพย์ภายในระยะเวลาการจัดงาน และยื่นขอสินเชื่อภายใน 45 วัน นับถัดจากวันทำสัญญาจะซื้อจะขายมีสิทธิ์รับสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% คงที่นาน 2 ปีแรก สำหรับผู้ที่สนใจสามารถจองซื้อออนไลน์ได้ที่ Application : GHB ALL HOME โดยสามารถรับชมภาพทรัพย์จริงได้ทาง Application : GHB ALL HOME หรือ www.ghbhomecenter.com ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายทรัพย์ NPA ดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินการตามพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ซึ่งลูกค้าที่จองซื้อบ้านมือสอง ธอส. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 กด 5 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือดูข้อมูลบ้านมือสอง ธอส. ได้ที่ www.ghbhomecenter.com, Mobile Application : GHB ALL HOME และ Line Official Account : @GHBALLHOME

12 Aug 2025

...

นิสสันเพิ่มทางเลือกให้กับนิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูงยอดนิยม 3 รุ่นย่อยใหม่ ได้แก่ รุ่นคิงแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT รุ่นดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 6 MT และรุ่นดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT ที่มาพร้อมสมรรถนะแบบ “ทน พร้อม ลุย” กับราคาที่โดนใจ ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้น โทชิฮิโระ ฟูจิคิ ประธานนิสสัน ประเทศไทย และนิสสัน อาเซียน กล่าวว่า “นิสสัน นาวารา เป็นหนึ่งในรถกระบะยอดนิยมรวมถึงรถยนต์รุ่นหลักของนิสสันตลอดหลายปีที่ผ่านมา ด้วยความเชื่อถือ และวางใจได้ กับความทนทาน และมากด้วยประโยชน์ใช้สอย พร้อมดีไซน์ทันสมัย การเปิดตัวนิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูง 3 รุ่นย่อยใหม่นี้ จะเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่กำลังมองหารถกระบะที่ “ทน พร้อม ลุย” ได้เป็นเจ้าของรถกระบะที่สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์ ทั้งการเดินทางสำหรับทุกคนในครอบครัว หรือการใช้งานในด้านธุรกิจ ภายใต้ราคาที่ดีมากๆ” นิสสัน นาวารา ทั้ง 3 รุ่นย่อยใหม่ มาพร้อมราคาที่เร้าใจ ได้แก่ คิงแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT ราคา 758,000 บาท ดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 6MT ราคา 792,000 บาท ดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT ราคา 842,000 บาท   โดยทั้ง 3 รุ่น มาพร้อมสมรรถนะ และความทรงพลัง ในแบบฉบับของรถกระบะยกสูง ด้วยเครื่องยนต์ที่เรียกแรงบิดมหาศาลได้ตั้งแต่ 1,500 รอบต่อนาที โดยรุ่นคิงแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT และ ดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ให้พละกำลัง 190 แรงม้า (PS) แรงบิดมหาศาล 450 นิวตัน-เมตร (Nm)  ขณะที่รุ่น ดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 6MT มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.3 ลิตร เทอร์โบแปรผัน ให้พละกำลัง 160 แรงม้า (PS) แรงบิด 403 นิวตัน-เมตร (Nm) ด้วยพละกำลัง สมรรถนะการใช้งาน และความอเนกประสงค์ ทำให้นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูงเหมาะสำหรับการใช้งานทั้งทางธุรกิจ และการเดินทางสำหรับครอบครัว นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูงทั้ง 3 รุ่นย่อยใหม่ มาพร้อมกระจังหน้าสีดำเสริมความดุดัน กันชนสีเดียวกับตัวรถ ตกแต่งด้วยขอบสีดำสุดเท่ และล้อขนาด 17 นิ้ว นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูง 3 รุ่นย่อย ในเกรด SL ยังมาพร้อมความทนทาน ให้ความมั่นใจในทุกสภาพการขับขี่ด้วยสมรรถนะอันโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของนิสสัน นาวารา  ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ ปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลงด้านหลังเป็นแหนบพร้อมโช้คอัพ ระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน และดรัมเบรกด้านหลัง ช่วยหยุดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้จะบรรทุกน้ำหนักมากก็ตาม นอกจากนี้ ยังคงให้ความอุ่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist - HSA) ที่ช่วยป้องกันไม่ให้รถไหลถอยหลังขณะออกตัวบนเนิน ระบบเบรก ABS พร้อม EBD และ BA  ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เทคโนโลยีป้องกันการลื่นไถลขณะถนนลื่น (Active Brake Limited Slip - ABLS)  เทคโนโลยีควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamic Control - VDC)  เทคโนโลยีป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System – TCS)   เทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพของรถ ขณะลากจูง (Trailer Stability Assist - TSA) แผงลวดไล่ฝ้ากระจกหลัง  ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ที่ให้ความปลอดภัย และมองเห็นได้ชัดเจน  และเข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง พร้อมระบบดึงกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติ นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ ทั้ง 3 รุ่นใหม่ เพิ่มความสะดวกสบายและปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise control) ระบบ Push Start และกุญแจรีโมทอัจฉริยะ มีสีตัวถังภายนอกให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีดำ Black Star  สีขาว White Pearl สีเงิน Brilliant Silver สีเทา Twilight Grey และสีทองแดง Forged Copper ทั้งนี้ นิสสันมอบโปรโมชั่นพิเศษฉลองเปิดตัว* สำหรับลูกค้านิสสัน นาวาราทั้ง 3 รุ่นย่อยใหม่ เพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ผ่อนสบาย รายเดือนเริ่มต้นเพียง 4,999 บาท หรือดอกเบี้ยอัตราพิเศษเริ่มต้นที่ 0.89%  พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง หรือเงินดาวน์ต่ำเริ่มต้นเพียง 19,999 บาท ผ่อนนาน 84 เดือน ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมนิสสันทั่วประเทศ หรือ โทร. 0-2401-9600

11 Jul 2025

...

นิสสัน ประเทศไทย จัดงานประชุมผู้จำหน่ายประจำปี 2568 ในธีม “Achieve Together” ขอบคุณผู้จำหน่ายทั่วประเทศที่ได้ร่วมกันสร้างความสำเร็จในปีที่ผ่านมา และตอกย้ำความมุ่งมั่นที่มีต่อประเทศไทย และผู้จำหน่าย ร่วมเดินหน้าสนับสนุนพัฒนาผู้จำหน่ายทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตไปด้วยกัน ผ่านการบริการ และการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ และความพึงพอใจของลูกค้า เสริมสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น    ผู้จำหน่ายเป็นพันธมิตรที่มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจ และความแข็งแกร่งของแบรนด์  นิสสันอย่างต่อเนื่องมาตลอด นิสสันจึงได้จัดงานประชุมผู้จำหน่ายประจำปีเพื่อขอบคุณผู้จำหน่ายที่ได้ทำงานร่วมกัน และทุ่มเทเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าชาวไทย รวมทั้งยืนยันความมุ่งมั่นของนิสสันที่จะสร้างการเติบโตไปพร้อมกับพันธมิตรผู้จำหน่ายทั่วประเทศ กิจกรรมดังกล่าวเปิดโอกาสให้ผู้บริหารนิสสันได้พบปะกับผู้จำหน่าย ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกลยุทธ์ของนิสสัน เทรนด์การตลาด และแนวทางที่จะช่วยให้ผู้จำหน่ายสามารถพัฒนาการบริการ เพื่อยกระดับความพึงพอใจของลูกค้า  ในการประชุมผู้จำหน่ายประจำปี 2025 นิสสันได้ย้ำหัวใจสำคัญของ RE:NISSAN ซึ่งเป็นกลยุทธ์ระดับโลกที่นิสสันประกาศโดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจของนิสสันโดยรวม พร้อมทั้งชี้แจงทิศทางธุรกิจของนิสสันประเทศไทย โดยเป็นการวางแนวทางธุรกิจในประเทศ ทั้งนี้ นิสสันประเทศไทยยังได้เปิดเผยแผนการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ล่วงหน้า เพื่อให้ผู้จำหน่ายมีเวลาเตรียมความพร้อมอย่างเพียงพอสำหรับการเปิดตัว และสามารถส่งมอบความตื่นเต้นรูปแบบใหม่ให้กับลูกค้าชาวไทยได้อย่างต่อเนื่อง โทชิฮิโระ ฟูจิคิ ประธาน นิสสัน ประเทศไทย และนิสสัน อาเซียน กล่าวว่า “นิสสันให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับพันธมิตร และผู้จำหน่ายของเรา ตลอดเวลากว่า 72 ปี ที่ผ่านมา นิสสันอยู่ในประเทศไทย และประสบความสำเร็จมากมาย ซึ่งต้องขอขอบคุณการสนับสนุน และความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้จำหน่ายทุกท่าน และนิสสัน ประเทศไทย จะยังคงมุ่งมั่น เดินหน้าเพื่อสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจในประเทศไทยไปพร้อมกับพันธมิตร และผู้จำหน่ายทุกราย” เครือข่ายผู้จำหน่ายของนิสสันมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ของบริษัท เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน นิสสันได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้ายุคใหม่ เช่น ระบบดิจิทัลที่ถูกพัฒนาให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้คน เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น  โดยระบบเหล่านี้จะช่วยมาเสริมศักยภาพของผู้จำหน่ายในแง่การปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการได้ดียิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต

07 Jun 2025

...

 บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด จัดประชุมผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2568 ภายใต้แนวคิด “Redefining Excellence with Reliability and Trust - ยกระดับความเป็นเลิศ สู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน” แถลงทิศทางการดำเนินธุรกิจและเป้าหมายสำคัญร่วมกับผู้จำหน่ายครอบคลุม 3 ทิศทางหลัก ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และการจำหน่าย การบริการ และการสร้างแบรนด์ ภายใต้แนวคิดสำคัญในการเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer-centric approach) ด้วยการผนึกความร่วมมือกับผู้จำหน่าย เพื่อยกระดับประสบการณ์ที่น่าประทับใจแก่ลูกค้าในทุกทัชพอยต์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของฮอนด้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าและเติบโตเคียงคู่กับสังคมไทย พร้อมยกระดับสู่ความเป็นเลิศแห่งยนตรกรรมอย่างยั่งยืน   นายโคจิ อิวานามิ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวต้อนรับผู้จำหน่ายฯ รวมถึงถ่ายทอดความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนแบรนด์และผลิตภัณฑ์ฮอนด้าในประเทศไทย นายโคจิ อิวานามิ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ผมขอขอบคุณผู้จำหน่ายทุกท่านสำหรับความร่วมมือและการสนับสนุนตลอดปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ฮอนด้า สามารถบรรลุเป้าหมายสำคัญได้ สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้จะให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้า ผ่านการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจในทุกทัชพอยต์ โดยมีผู้จำหน่ายและบุคลากรของผู้จำหน่ายที่เปรียบเสมือนตัวแทนของแบรนด์ที่จะส่งมอบการบริการที่ยอดเยี่ยมไปสู่ลูกค้า เพื่อมอบคุณค่าที่เข้าถึงและผูกพันกับลูกค้าของเราอย่างยั่งยืนต่อไป” ภายในงาน ฮอนด้า ได้ถ่ายทอดทิศทางการดำเนินธุรกิจและเป้าหมายสำคัญกับเครือข่ายผู้จำหน่าย เพื่อตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการร่วมมือเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีเยี่ยมให้แก่ลูกค้า โดยผสานการต่อยอดพื้นฐานจุดแข็งปัจจุบันของฮอนด้า ทั้งด้านความเชื่อมั่นในแบรนด์ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ไลน์อัป e:HEV ที่โดดเด่น และด้านความพึงพอใจของลูกค้า สู่ทิศทางการดำเนินงาน 3 ด้านหลัก ครอบคลุมทั้งด้านผลิตภัณฑ์และการจำหน่าย การบริการ และการสร้างแบรนด์ ดังนี้ ด้านผลิตภัณฑ์และการจำหน่าย เน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้า ควบคู่ไปกับการส่งมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจในทุกเส้นทาง นำโดยไลน์อัปฟูลไฮบริด e:HEV ซึ่งได้รับการยอมรับและพิสูจน์อย่างกว้างขวางถึงความโดดเด่นทั้งด้านสมรรถนะทรงพลัง อัตราเร่งทันใจ การขับขี่ที่นุ่มนวล และอัตราประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม โดยฮอนด้ามีแผนขยายไลน์อัป e:HEV ให้หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ให้ได้สัมผัสกับรถยนต์ไฮบริดจากฮอนด้าอย่างเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น ตอกย้ำความเชื่อมั่นให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์การใช้รถยนต์ไฟฟ้า 100% ของฮอนด้า ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล โดยปัจจุบัน ฮอนด้า มีความพร้อมในการให้บริการและดูแลลูกค้ารถยนต์ Honda e:N1 ทั้งด้านศูนย์บริการที่ได้มาตรฐาน อะไหล่ และช่างผู้เชี่ยวชาญ ผ่านเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศ สะท้อนรากฐานความพร้อมที่มั่นคงในการก้าวเข้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต เครือข่ายผู้จำหน่ายฮอนด้าฯ ทั่วประเทศ ร่วมตอกย้ำความพร้อมในการให้บริการ และดูแลลูกค้ารถยนต์ Honda e:N1 ให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์ใช้รถยนต์ไฟฟ้า 100% ได้อย่างมั่นใจไร้กังวล 2. ด้านการบริการ ตั้งเป้าส่งมอบประสบการณ์ที่เป็นเลิศเน้นลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญแห่งการบริการ โดยมุ่งดูแลลูกค้าปัจจุบันเพื่อความพึงพอใจสูงสุด พร้อมสร้างความรู้สึกภูมิใจในการเลือกใช้รถยนต์ฮอนด้า ด้วยการส่งมอบคุณค่าที่เหนือกว่าตลอดการเป็นเจ้าของในทุกทัชพอยต์ อาทิ การบริการหลังการขายที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นผ่านประสบการณ์ในรูปแบบดิจิทัล การนำเสนอกิจกรรมสุดเอกซ์คลูซีฟให้เข้าร่วมตลอดปี รวมทั้งข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ มุ่งสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจในระยะยาว ด้วยจุดแข็งด้านเครือข่ายผู้จำหน่ายครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 222 แห่ง ที่พร้อมส่งมอบความประทับใจกับบริการหลังการขายภายใต้มาตรฐานเดียวกันโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ ให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าได้รับการบริการอย่างทั่วถึงและดีเยี่ยม และรู้สึกอุ่นใจที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวรถยนต์ฮอนด้า (Honda family) 3. ด้านการสร้างแบรนด์ ในปีนี้ ฮอนด้า ได้เริ่มสื่อสารแบรนด์ภายใต้แนวคิด “Where The Drive Means More ขับเคลื่อนชีวิตไปให้สุดในแบบที่เป็นคุณ” ที่ผสานการสะท้อนความมีรสนิยมและมีชีวิตชีวา เพื่อถ่ายทอดให้เห็นว่ารถยนต์ฮอนด้า เป็นมากกว่ายานพาหนะ เปรียบเสมือนเพื่อนคู่ใจที่วางใจได้ พร้อมเคียงข้างและขับเคลื่อนแรงบันดาลใจ เพื่อส่งมอบความสุขในทุกการเดินทางและทุกช่วงเวลาของชีวิต โดยจะโฟกัสการเสริมสร้างคุณค่าของแบรนด์ที่เชื่อมโยงกับประสบการณ์ในชีวิตประจำวันของลูกค้าในทุกทัชพอยต์ ซึ่งการสื่อสารแบรนด์ดังกล่าว จะได้รับการถ่ายทอดผ่านกิจกรรมต่าง ๆ โดยผู้จำหน่ายจะร่วมเป็นหัวใจสำคัญในการเชื่อมโยงและส่งมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจไปยังลูกค้า ผ่านกิจกรรมสุดเอกซ์คลูซีฟตลอดปี    นายชุน คุโรดะ กรรมการและเจ้าหน้าที่บริหารสายงานขายและบริการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงรายละเอียดทิศทางการดำเนินธุรกิจและเป้าหมายแก่ผู้จำหน่ายฯ   นอกจากการถ่ายทอดทิศทางการดำเนินธุรกิจและเป้าหมาย ภายในงานยังได้มีพิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติให้แก่ผู้จำหน่ายสำหรับผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาที่ร่วมขับเคลื่อนธุรกิจของฮอนด้า และมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้แก่ลูกค้า ครอบคลุมทั้งรางวัลผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมประจำปี รวมถึงรางวัลด้านต่าง ๆ อาทิ ด้านยอดขาย ด้านส่วนแบ่งการตลาด ด้านการบริการหลังการขาย และอื่น ๆ รวม 82 รางวัล   นายพรวุฒิ สารสิน (ที่ 6 จากซ้าย) ประธานคณะกรรมการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมมอบรางวัลผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมประจำปี 2567   พิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติให้แก่ผู้จำหน่ายสำหรับผลการดำเนินงานในปีงบประมาณที่ผ่านมา รวม 82 รางวัล   การจัดประชุมผู้จำหน่ายในครั้งนี้ นับเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของฮอนด้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการอย่างไม่หยุดนิ่ง ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อมุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้าไปอีกขั้น และสร้างความประทับใจตลอดการเป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้า พร้อมเติบโตเคียงข้างคนไทยและสานต่อพันธกิจในการเป็นองค์กรที่สังคมต้องการให้ดำรงอยู่ตลอดไปอย่างยั่งยืน

26 May 2025

...

นายกฤษณพงศ์ กิจสนาพิทักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM พร้อมผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่ ร่วมงานมหกรรมการเงินกรุงเทพ ครั้งที่ 25 MONEY EXPO 2025 BANGKOK ระหว่างวันที่ 15 – 18 พฤษภาคมนี้ โดยได้รับเกียรติจาก นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง  นายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ และนางสาวภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานร่วมในพิธีเปิดบูท SAM หมายเลข K6 อย่างเป็นทางการ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 – 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี   ทั้งนี้ ภายในบูทลูกค้าจะได้พบกับทรัพย์มือสองหรือทรัพย์สินรอการขาย (NPA) เพื่อที่อยู่อาศัยและเพื่อการลงทุน ทำเลที่ดี ราคาพิเศษทั่วไทย กว่า 4,000 รายการ พร้อมโปรโมชันพิเศษ อาทิ  “SAM Flash Day” แจก Gift Voucher มูลค่าสูงสุด 100,000 บาท โปร “ฟรี! ค่าโอนคนละครึ่ง” ไม่เกิน 1% สำหรับทรัพย์ที่มีราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท และ “ฟรี! โอนไม่อั้น” ไม่เกิน 2% สำหรับทรัพย์ที่มีราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป และบริการสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยพิเศษจากธนาคารชั้นนำ รวมถึงแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้ ของ SAM ได้แก่ มาตรการ “ปรับหนี้มีสุข ผ่อนดีมีลด”และ “SAM จูงใจ ชำระไวในเงื่อนไขสัญญายอม”  นอกจากนี้ ลูกค้าที่เป็นหนี้เสียประเภทบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน ที่มีหนี้ค้างชำระมากกว่า 120 วัน สามารถปรึกษาและรับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ พร้อมสมัครเข้าโครงการ “คลินิกแก้หนี้ by SAM” ได้อีกด้วย    

18 May 2025

Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

  สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้ออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 51/2568  ลงวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เรื่อง ให้แก้ไขแบบ ข้อความ ของกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัย ของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ และกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า โดยกำหนดให้ปรับเพิ่มวงเงินความคุ้มครองสูงสุดต่อครั้งของกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จากเดิม 5 ล้านบาท และ 10 ล้านบาท เป็น 20 ล้านบาท และปรับเพิ่มวงเงินความคุ้มครองสูงสุดต่อครั้ง ของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ และกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า ให้มีจำนวนเงินขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท เพื่อรองรับกรณีเกิดอุบัติเหตุรายใหญ่ที่มีผู้เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงบ่อยครั้ง โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายไพบูลย์ เปี่ยมเมตตา ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย และประธาน คณะทำงานแนวทางพัฒนาการจัดทำกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเกิดอุบัติเหตุรายใหญ่บ่อยครั้ง ส่งผลให้จำนวนเงินความคุ้มครองสูงสุดต่อครั้งของกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งกำหนดไว้เพียง 5 ล้านบาท และ 10 ล้านบาท ต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง รวมถึงกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ และกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า ที่ส่วนใหญ่กำหนดวงเงินความคุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย และอนามัยของบุคคลภายนอกไว้ที่ 10 ล้านบาทต่อครั้ง ไม่เพียงพอต่อการชดใช้  ค่าสินไหมทดแทนตามจำนวนเงินความคุ้มครองสูงสุดต่อคน ที่กำหนดไว้ 500,000 บาท ดังนั้น สำนักงาน คปภ. โดยสายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย จึงได้นำประเด็นดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะทำงานแนวทางพัฒนาการจัดทำกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัย ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ปรับเพิ่มวงเงินความคุ้มครองสูงสุดต่อครั้ง  สำหรับการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เป็น 20 ล้านบาท โดยไม่มีการปรับเพิ่มเบี้ยประกันภัย และให้ปรับเพิ่มวงเงินความคุ้มครองขั้นต่ำต่อครั้ง สำหรับการประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจ เป็น 20 ล้านบาท โดยให้ใช้อัตราเบี้ยประกันภัยเดิมที่กำหนดไว้ในพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัย เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุรายใหญ่ ที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงเกิน 20 รายขึ้นไป มีโอกาสได้รับค่าสินไหมทดแทน  เต็มจำนวนเงินความคุ้มครองสูงสุดต่อคนที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย โดยสาระสำคัญของคำสั่งนายทะเบียนมี ดังนี้ 1. ประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) กำหนดวงเงินความคุ้มครองสูงสุดต่อครั้งเป็น 20 ล้านบาท สำหรับทุกประเภทรถ โดยไม่เพิ่มเบี้ยประกันภัย และให้มีผลบังคับใช้ทันทีกับทุกกรมธรรม์ ทั้งกรมธรรม์ที่ยังมีผลคุ้มครองและกรมธรรม์ที่ทำสัญญาใหม่ โดยกำหนดให้  บริษัทประกันวินาศภัยต้องใช้แบบและข้อความกรมธรรม์ประกันภัยให้เป็นไปตามคำสั่งนายทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป 2. ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ กำหนดวงเงินความคุ้มครองขั้นต่ำต่อครั้งในหมวดความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง ไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท สำหรับทุกประเภทรถ โดยให้เริ่มมีผลใช้บังคับกับกรมธรรม์ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป “แม้ว่าเมื่อปี 2563 สำนักงาน คปภ. ได้ปรับเพิ่มจำนวนเงินความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับในส่วนของการคุ้มครองต่อคนจาก 300,000 บาท เป็น 500,000 บาท แต่ยังคงวงเงินความรับผิดสูงสุดต่อครั้งไม่เกิน 5 ล้านบาทสำหรับรถยนต์นั่งไม่เกิน 7 ที่นั่ง และไม่เกิน 10 ล้านบาทสำหรับรถยนต์นั่งเกิน 7 ที่นั่ง ขณะที่กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจได้มีการปรับเพิ่มจำนวนเงินคุ้มครองขั้นต่ำเป็น 500,000 บาทต่อคน แต่ส่วนใหญ่ยังคงกำหนดวงเงินสูงสุดต่อครั้งไว้ที่ 10 ล้านบาท การออกคำสั่งนายทะเบียนในครั้งนี้ จึงนับเป็นการยกระดับความคุ้มครองให้สอดคล้องกับความเป็นจริงและเพียงพอต่อการดูแลผู้ประสบภัยอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่เป็นภาระเพิ่มขึ้นต่อผู้เอาประกันภัย เนื่องจากไม่มีการปรับเพิ่มเบี้ยประกันภัยแต่อย่างใด”  ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย กล่าวในตอนท้าย

31 Aug 2025

...

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นประธานในพิธีเปิดการใช้งาน “Go Live โครงการพัฒนา Data Analytics โดยใช้ระบบ Virtual Audit” เพื่อยกระดับกระบวนการตรวจสอบภายในให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้ความเชื่อมั่นของการปฏิบัติงาน โดยตรวจสอบความผิดปกติของข้อมูลการดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง (Continuous Audit) พร้อมทั้งการแจ้งเตือนความผิดปกติให้กับส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขและป้องกันการเกิดความผิดปกติซ้ำได้ นับเป็น  อีกก้าวสำคัญของ ธ.ก.ส. ในการยกระดับการตรวจสอบภายในโดยใช้ระบบ Virtual Audit ครั้งนี้จะเป็นรากฐานสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถของธนาคารเสริมสร้างความเชื่อมั่นขององค์กรต่อไป โดยมีคณะผู้บริหาร พนักงานและส่วนงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรม ณ ห้องโถง ชั้น 2 อาคารทาวเวอร์ ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568    

31 Aug 2025

...

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รับโล่รางวัล เชิดชูเกียรติ "สถาบันที่มีความดีเด่นทางการเกษตร ประจำปี พ.ศ. 2567" และนางสาวพรหมกร พรหมขัติแก้ว ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส ในฐานะนิสิตเก่าคณะเกษตร มก.รุ่นที่ 46 รับรางวัลนิสิตเก่าดีเด่นคณะเกษตร ประเภทนักบริหารภาครัฐ/ภาครัฐวิสาหกิจ ประจำปี พ.ศ. 2567 จากสมาคมนิสิตเก่าคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในงานรวงทองคืนทุ่ง 2568 – Aggie Day' 68 ครบรอบ 82 ปีแห่งการสถาปนาคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ เพื่อยกย่อง เชิดชูเกียรติ องค์กรและบุคคคที่มีผลงานดีเด่นและมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและส่งเสริมภาคการเกษตร ทั้งด้านงานวิชาการ การวิจัย การบริหารจัดการ และการให้บริการแก่เกษตรกร เพื่อประโยชน์แก่การพัฒนาเกษตรกรรมของประเทศ     ซึ่งสะท้อนบทบาทของ ธ.ก.ส. ในการขับเคลื่อนภาคเกษตรของไทยตามวิสัยทัศน์ในการเป็น “ธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน” โดยมีศาสตราจารย์ ดร.ธีระ สูตะบุตร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล และนายอนันต์ สุวรรณรัตน์  อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอดีตรองประธานคณะกรรมการ ธ.ก.ส. ร่วมแสดงความยินดี เมื่อวันที่  23 สิงหาคม 2568  ณ อาคารสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพฯ             

27 Aug 2025

...

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ขับเคลื่อนนโยบายรัฐ เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ยกขบวนบริการ “พัฒนาคู่เติมทุน” เสิร์ฟผู้ประกอบการเอสเอ็มอีพื้นที่ภาคใต้ ในงาน “พาแบงก์รัฐ มาช่วยราษฎร์”   ในวันที่ 30 สิงหาคม 2568 เวลา 09.00-12.30 น. ณ  โรงแรมดารา จ.ภูเก็ต ภายในงานพบบริการสินเชื่อเพื่อเอสเอ็มอี อัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี  คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจและทุกความต้องการของเอสเอ็มอี พร้อมทีมให้คำปรึกษา  ยื่นกู้ได้ทันทีภายในงาน  อีกทั้ง รับโปรโมชันเสริมพิเศษ อีก 2 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 เมื่อยื่นขอสินเชื่อและได้รับอนุมัติ รับบัตรกำนัล มูลค่า 500 บาท และ ต่อที่ 2 รับสิทธิ์สมัครใช้บริการแพลตฟอร์ม “DX by SME D Bank” เพื่อยกระดับธุรกิจครบวงจร ฟรี! ห้ามพลาด ขอเชิญผู้ประกอบการ จ.ภูเก็ต และใกล้เคียง เข้าร่วมงานโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น  ลงทะเบียนเข้าร่วมโดยสแกน QR Code ในโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

21 Aug 2025

Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner