Responsive image

Tuesday, 15 Jul 2025

LATEST NEWS

INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต

...

บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต รักคือพลังของชีวิต นำโดยคุณสมชัย อาภรณ์ศิริพงษ์ Deputy Chief Executive Officer ร่วมฉลองและส่งท้ายเดือนแห่งความภาคภูมิใจ Pride Month ด้วยการมอบกรมธรรม์ “Power of Love Equality” ให้แก่ “คุณทนงศักดิ์ บุตรดีศักดิ์ และ คุณต่อสกุล กฤตะเศรณีวัฒน์” ลูกค้าผู้ทำแบบประกัน “เพื่อนคู่ชีวิต B450 (20/15)” กับ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ซึ่งเป็นคู่รักกันมายาวนานกว่า 19 ปี ซึ่งการมอบกรมธรรม์ในครั้งนี้เป็นการแสดงพลังความรัก ความห่วงใย และความเท่าเทียมผ่านการมอบความคุ้มครองชีวิตในรูปแบบที่สะท้อนความเข้าใจและเคารพในทุกความหลากหลายทางเพศ ให้ได้ดูแลกันและกันอย่างมั่นคงตลอดชีวิต    สำหรับแบบประกัน “เพื่อนคู่ชีวิต B450 (20/15)” เป็นประกันออมทรัพย์ที่มีการคุ้มครองชีวิต จ่ายเบี้ยประกันภัย 15 ปี  รับความคุ้มครองชีวิตสูงถึง 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยตลอดอายุสัญญา  ครบกำหนดสัญญารับเงินครบกำหนดสัญญา 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย  สามารถขอทำสัญญาเพิ่มเติมแนบได้ ทั้งสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพ โรคร้ายแรง ชดเชยรายได้ และอุบัติเหตุ เป็นต้น อีกทั้งเบี้ยประกันชีวิตยังสามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้สูงสุด 100,000 บาท อายุรับประกันภัย 15 - 70 ปี ตอบโจทย์ความต้องการของคู่รัก LGBTQ+ ให้สามารถวางแผนอนาคตและปกป้องคนที่รักได้อย่างมั่นใจไม่ต่างจากคู่สมรสทั่วไป สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ocean.co.th/our-products/life-protection/oceanlife-b450     OCEAN LIFE ไทยสมุทร ยึดมั่นในหลักการดำเนินธุรกิจด้วยหัวใจของความรักและความเข้าใจ พร้อมสนับสนุนความเท่าเทียมในทุกมิติของสังคม รวมถึงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของทุกกลุ่มความหลากหลายทางเพศ ภายใต้แนวคิด “รักคือพลังของชีวิต” ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่รูปแบบความรัก แต่คือพลังที่ขับเคลื่อนให้เราดูแลกันและกัน เดินหน้าไปด้วยกันอย่างมั่นคง คู่รัก LGBTQ+ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ocean.co.th/loveequality  หรือ ติดต่อ OCEAN LIFE CONTACT CENTER  1503

15 Jul 2025


...

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จัดงาน “2025 AGENCY LEADER MIDYEAR PLAN” นำโดย คุณแซลลี่ โอฮาร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอกซ่า ภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ และประเทศเกาหลีใต้ (แถวหลัง คนกลาง) พร้อมด้วยคุณณัฐพิสิษฐ์ ครุฑครองชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (แถวหลัง คนที่ 9 จากซ้าย) คุณชัยณรงค์ เอื้อสิทธิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายจัดจำหน่าย (แถวหลัง คนที่ 10 จากขวา) คุณกฤช ธีรสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายตัวแทน (แถวหลัง คนที่ 9 จากขวา) คุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาด (แถวหลัง คนที่ 7 จากซ้าย) และคุณทิพาพันธ์ เฟื่องปัญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายปฏิบัติการ (แถวหลัง คนที่ 5 จากซ้าย) และผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ ร่วมนำทัพนักขาย ก้าวสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนด้วยกลยุทธ์ “Dare To Win” เปิดเกมรุก สู่ชัยชนะ ในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อพิชิตเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2025 นอกจากนี้ภายในงานได้ประกาศเปิดตัวตำแหน่ง Senior Agency Consultant หรือ SAC คนแรกของบริษัท เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เป็นการตอกย้ำจุดยืนการเป็นบริษัทประกันชีวิตชั้นนำ โดยบริษัทฯ มุ่งมั่น สนับสนุน และยกระดับให้ฝ่ายขายประสบความสำเร็จในอาชีพด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตรงตามความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีและเครื่องมือทางดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวก ความรวดเร็วให้แก่ฝ่ายขายและลูกค้า ตามนโยบายของบริษัทฯ ที่จะอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป โดยภายในงานมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งให้ความรู้ และความสนุกสนาน เพื่อส่งเสริมนักขายก้าวสู่การเป็นนักขายมืออาชีพอย่างยั่งยืน ทั้งนี้มีฝ่ายขายระดับผู้จัดการ และผู้อำนวยการ รวมทั้งผู้ที่ติดคุณวุฒิ AXA Prime เข้าร่วมประชุมอย่างคับคั่งกว่า 1,400 ท่าน ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5-6, เมืองทองธานี สำหรับผู้ที่สนใจร่วมงานเป็นตัวแทนกับบริษัทฯ สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานตัวแทนใกล้บ้านท่าน หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1159 หรือสอบถามทางอีเมล customer.care@krungthai-axa.co.th

15 Jul 2025

...

  เมืองไทยประกันชีวิต มุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์การดูแลสุขภาพลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดให้บริการ “ยื่นเคลมผู้ป่วยนอก (OPD)” แบบไม่ต้องสำรองจ่าย ผ่านระบบเครดิตคู่สัญญา (Cashless Claim) กับสถานพยาบาลชั้นนำ เพื่อมอบความสะดวกสบาย อุ่นใจกับค่ารักษาพยาบาล พร้อมเปิดตัว 3 พันธมิตรใหม่ เพิ่มความมั่นใจให้แก่ลูกค้าทุกช่วงเวลาของการดูแลสุขภาพ นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  “ในยุคที่สุขภาพเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญอันดับต้นของชีวิต เมืองไทยประกันชีวิตยังคงมุ่งมั่นพัฒนาและยกระดับการบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เราให้ความสำคัญกับการส่งเสริมคุณภาพการเข้าถึงบริการสุขภาพ ที่ทั้งสะดวก รวดเร็ว และลดภาระทางการเงิน อันเป็นหัวใจของการสร้างความอุ่นใจให้แก่ลูกค้าทุกคน ดังนั้น เมืองไทยประกันชีวิต จึงเดินหน้า สร้างสรรค์บริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าให้มากที่สุด บริการยื่นเคลมการรักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD) ผ่านระบบเครดิตคู่สัญญา (Cashless Claim)  โดยไม่ต้องสำรองจ่ายที่เรานำมาให้บริการในครั้งนี้ คืออีกหนึ่งบทพิสูจน์ของความตั้งใจในการใส่ใจดูแลลูกค้าอย่างแท้จริง ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของการจ่ายค่าสินไหมเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ‘ประสบการณ์ของลูกค้า’ ที่เราพยายามเติมเต็มให้ดีที่สุดในทุกจุดสัมผัสของการบริการ” โดยลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตสามารถใช้บริการยื่นเคลม OPD แบบไม่ต้องสำรองจ่ายตามสิทธิความคุ้มครองของกรมธรรม์ ได้แล้ววันนี้  ณ สถานพยาบาลชั้นนำที่เข้าร่วมโครงการ  โดยล่าสุดมีสถานพยาบาลพันธมิตรใหม่เพิ่มขึ้นอีก 3 แห่ง ได้แก่ 1. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย (อาคารนวัตบริบาล) สำหรับลูกค้าที่มีประกันสุขภาพรายบุคคลและรายกลุ่ม เปิดให้บริการวันจันทร์ – ศุกร์ (เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 08.00 – 16.00  น.  ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถสอบถามข้อมูล และนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ โทร. 02 256 4000  เพื่อเข้ารับบริการตามนัดหมาย ณ จุดตรวจสอบสิทธิ ชั้น 1 อาคารนวัตบริบาล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย 2. ศูนย์สุขภาพเชิงป้องกันและบูรณาการสมดุลชีวิต (SIRIRAJ H SOLUTIONS)  สำหรับลูกค้าที่มีประกันสุขภาพรายบุคคลและรายกลุ่ม เปิดให้บริการ วันจันทร์ - วันอาทิตย์ เวลา 07.00-22.00 น.   สอบถามข้อมูลได้ที่โทรศัพท์  02 414 1144 และเข้ารับบริการได้ ณ ศูนย์สุขภาพเชิงป้องกันและบูรณาการสมดุลชีวิต (SIRIRAJ H SOLUTIONS) ชั้น 5 ICS Lifestyle Complex (ตรงข้าม ICONSIAM)  3. ศูนย์บริการสุขภาพรามาธิบดี พาราไดซ์พาร์ค ซึ่งให้บริการสำหรับประกันสุขภาพรายกลุ่ม เปิดให้บริการวันจันทร์ - วันอาทิตย์ เวลา 08.00-20.00 น.  ยกเว้นช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ โดยสอบถามข้อมูล โทร. 02 201 0640 – 45 หรือติดต่อผ่าน Line Official : @ramaparadise และเข้ารับบริการได้  ณ ศูนย์บริการสุขภาพรามาธิบดี พาราไดซ์พาร์ค ชั้น 3 ศูนย์การค้าพาราไดซ์พาร์ค  สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับบริการจะต้องทำการนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ ตามเบอร์ติดต่อของสถานพยาบาลแต่ละแห่ง  และเงื่อนไขการให้บริการเป็นไปตามที่บริษัทฯ และสถานพยาบาลกำหนด   “เมืองไทยประกันชีวิต มุ่งมั่นพัฒนาบริการและนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อดูแลลูกค้าในทุกมิติของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ การเงิน หรือการบริการ ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด เพราะเรารู้ว่า...ความมั่นใจในวันนี้ คือจุดเริ่มต้นของชีวิตที่มั่นคงในวันข้างหน้า และเราพร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ที่คุณไว้วางใจได้เสมอ เพื่อให้ทุกจังหวะชีวิตของคุณ เต็มไปด้วยความอุ่นใจ ห่วงใยจากเรา” นายสาระ กล่าวสรุป          

14 Jul 2025

...

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา นายชนะพล มหาวงษ์ ผู้จัดการกองทุนประกันวินาศภัยได้มอบหมายให้ นางสาวพิชยาพร ด่านทวีศิลป์ รักษาการหัวหน้ากลุ่มงานสื่อสารองค์กร พร้อมด้วยบุคลากรกองทุนประกันวินาศภัย เข้าร่วมจัดกิจกรรมในโครงการ “ยุวชนนักสื่อสารประกันภัยรุ่นใหม่ ปี 2568 (Insurefluencer the new GEN 2025)” ณ โรงเรียนท่าเรือ “นิตยากุกูล” ตำบลท่าเรือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นางสาววีณาภรณ์ เคารพาพงษ์ รองผู้อำนวยการ กลุ่มงานบริหารกิจการนักเรียน เป็นประธานกล่าวเปิดงาน เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านประกันภัยแก่เยาวชนในพื้นที่   กิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้พื้นฐานด้านระบบประกันภัย ให้แก่เยาวชนคนรุ่นใหม่ พร้อมทั้งส่งเสริมให้นักเรียนสามารถเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดความรู้สู่ครอบครัว ชุมชน และสังคม เพื่อปลูกฝังความเข้าใจถึงความสำคัญของระบบประกันภัยในชีวิตประจำวัน โดย กองทุนประกันวินาศภัย (กปว.) ได้เข้าร่วมจัดกิจกรรมในรูปแบบฐานการเรียนรู้ ที่มุ่งเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับบทบาท หน้าที่ และภารกิจของ กปว. ในการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของเจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย พร้อมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับ “ค่าสินไหมทดแทนที่ล่วงพ้นอายุความ” ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้เอาประกันภัยควรทราบ เพื่อการใช้สิทธิตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง ภายในงานยังประกอบไปด้วยการบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเนื้อหาครอบคลุมหัวข้อสำคัญ เช่น ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับประกันภัย ทักษะการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ ตลอดจนแนวทางการออมเงินอย่างมีวินัย อีกทั้งยังมีการจัดบูธประชาสัมพันธ์จากหลากหลายหน่วยงาน และการเรียนรู้แบบฐานปฏิบัติอีก 4 ฐาน ซึ่งออกแบบมาให้เยาวชนได้มีส่วนร่วมเรียนรู้ผ่านกิจกรรมเชิงปฏิบัติ ทั้งนี้ การมีส่วนร่วมของกองทุนประกันวินาศภัยถือเป็นบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจด้านระบบประกันภัย โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ส่งเสริมทัศนคติที่ดีต่อระบบประกันภัย และมีส่วนช่วยพัฒนาให้ระบบประกันภัยของประเทศมีความมั่นคง และเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพในการดูแลและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง    

11 Jul 2025

...

    สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้ปรับปรุงแนวทางการคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัยสำหรับสัญญาประกันภัยระยะสั้น พร้อมทั้งทบทวนหลักเกณฑ์การคำนวณเงินกองทุนด้านความเสี่ยง เพื่อยกระดับความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันภัยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยมุ่งเน้นการพิจารณาข้อมูลในระดับประเภทการรับประกันภัยแทนการพิจารณาภาพรวมทั้งบริษัท เพื่อให้การประเมินภาระผูกพันและการจัดสรรเงินกองทุนมีความละเอียด แม่นยำ และสอดคล้องกับลักษณะความเสี่ยงที่แท้จริงยิ่งขึ้น โดยระหว่างวันที่ 6-21 มีนาคม 2568 สำนักงาน คปภ. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจและผู้เกี่ยวข้อง และจัดการประชุมชี้แจงไปเมื่อวันที่ 10-11 มีนาคม 2568 รวมทั้งได้จัดการประชุมกลุ่มย่อยเชิงเทคนิค (Focus Group) เสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 เพื่อรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ทั้งนี้ ในการประชุมฯ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงประกาศที่เกี่ยวข้องกับสำรองเบี้ยประกันภัย ได้แก่ 1. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการส่งรายงานประจำปีการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันวินาศภัย 2. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการส่งรายงานประจำปีการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต และ 3. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดประเภทและชนิดของเงินกองทุน รวมทั้งหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคำนวณเงินกองทุนของบริษัทประกันวินาศภัย สำหรับหลักการที่ได้มีการปรับปรุง คือ ปรับปรุงวิธีการคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัย และเงินกองทุนสำหรับความเสี่ยงจากสำรองเบี้ยประกันภัย จากเดิม พิจารณาที่ระดับผลรวมทั้งหมดของสัญญาประกันภัยระยะสั้น เปลี่ยนเป็น พิจารณาที่ระดับประเภทการรับประกันภัย  ซึ่งสำนักงาน คปภ. จะเผยแพร่ประกาศอย่างเป็นทางการในลำดับถัดไป เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกำหนดในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ดังนั้น บริษัทประกันภัยและผู้ที่เกี่ยวข้อง ควรเตรียมความพร้อมในการดำเนินการ เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ใหม่ได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่วันเริ่มมีผลบังคับใช้

07 Jul 2025

...

ไทยประกันชีวิต ตอกย้ำการเป็นแบรนด์ที่สร้างแรงบันดาลใจ เปิดตัวแคมเปญ “ทำโซเชียลให้มีความหมาย” เชิญชวน Content Creator ร่วมเปลี่ยนโลกออนไลน์ จุดประกายการสร้างสรรค์คอนเทนต์สะท้อนคุณค่าของชีวิตและคุณค่าของความรักในแบบของตัวเอง พร้อมจับมือ Tellscore เฟ้นหา Creator ฝีมือดี ชิงรางวัล Best Meaningful Content by Thai Life Insurance จากเวที Thailand Influencer Awards 2025   นายไชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI เปิดเผยว่า ไทยประกันชีวิตนับเป็นผู้บุกเบิกการสร้างแบรนด์ผ่านภาพยนตร์โฆษณา ภายใต้แนวคิดที่มุ่งเน้นให้ทุกคนตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตและคุณค่าของความรัก (Value of Life, Value of Love) ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของแบรนด์ หรือ Brand Purpose ในการเป็นแบรนด์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนในสังคม ผ่านการนำเสนอเนื้อหาในลักษณะที่เข้าถึงใจผู้ชม หรือ Emotional Approach จนทำให้ภาพยนตร์โฆษณาไทยประกันชีวิตกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ได้รับการจดจำ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแบรนด์ไทยประกันชีวิตได้ทำหน้าที่เป็น Content Creator สร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณาที่สะท้อนคุณค่าชีวิตและคุณค่าความรักในหลากหลายมิติมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีต้องยอมรับว่าในปัจจุบันโซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิตของทุกคน ไทยประกันชีวิตจึงต้องการปรับเปลี่ยนแนวทางของแคมเปญโฆษณา เพื่อให้สอดคล้องกับ Media Landscape ที่เปลี่ยนแปลงไป และสอดคล้องกับการเปิดรับสื่อของผู้คนที่มีความหลากหลายมากขึ้น ขณะเดียวกันจะพบว่าคอนเทนต์ที่อยู่ในโซเชียลมีเดียหลายครั้งเป็น Toxic Content ซึ่งกลายเป็นสิ่งชี้นำและส่งผลให้คนในสังคมใช้ชีวิตในทางที่ผิด เราจึงต้องการสร้างคอนเทนต์ที่ดีเพื่อเปลี่ยนโลกโซเชียลให้มีความหมายมากขึ้น ไทยประกันชีวิตจึงปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และแนวทางของแคมเปญโฆษณาในปี 2568 จากเดิมที่แบรนด์เป็นผู้ผลิตเนื้อหาจากอินไซต์ของคน ถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์โฆษณา มาเป็นการเปิดพื้นที่และเปิดโอกาสให้คนในสังคมกลายเป็น Content Creator หรือผู้สร้างสรรค์เนื้อหาที่มีคุณค่าด้วยตัวเอง เพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่มีความหมายในหลากหลายมุมมอง ในลักษณะ “Co-Create With Culture Creators” ผ่านแคมเปญ “ทำโซเชียลให้มีความหมาย”   แคมเปญเริ่มด้วยการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา “รอยสักของแม่” ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ผ่าน โซเชียลมีเดียของบริษัทฯ พร้อมเชิญชวนให้คนทั่วไปสร้างสรรค์เรื่องราวดีๆ ในรูปแบบวิดีโอที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย แล้วโพสต์ลงโซเชียลมีเดียของตนเอง ติดแฮชแท็ก #ทำโซเชียลให้มีความหมาย #ไทยประกันชีวิต ไม่เพียงเท่านั้น Content Creator ที่สร้างสรรค์เรื่องราวดีๆ ยังสามารถร่วมประกวดในกิจกรรม “ทำโซเชียลให้มีความหมาย” ที่ไทยประกันชีวิตร่วมกับ Tellscore ผู้นำแพลตฟอร์มด้าน Influencer Marketing จัดขึ้น เพื่อชิงรางวัล Best Meaningful Content by Thai Life Insurance ในงาน Thailand Influencer Awards 2025 by Tellscore พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท จำนวน 5 รางวัล โดยผู้สนใจสามารถส่งวิดีโอเรื่องราวชีวิตที่มีความหมายได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 และเพื่อตอกย้ำแนวคิดของแคมเปญให้แข็งแรงขึ้น ไทยประกันชีวิตจะปิดท้ายแคมเปญด้วยภาพยนตร์โฆษณาอีก 1 เรื่อง ซึ่งภาพยนตร์โฆษณาทั้งสองเรื่องดังกล่าวได้รับการถ่ายทอดเรื่องราวโดยผู้กำกับมากฝีมือ 2 คน 2 เจนเนอเรชัน คือ คุณต่อ-ธนญชัย ศรศรีวิชัย และคุณอัตต้า-อัตตา เหมวดี  “แคมเปญ “ทำโซเชียลให้มีความหมาย” จึงไม่ใช่เพียงการเปิดตัวหนังโฆษณาเท่านั้น แต่เป็นการ “เปิดพื้นที่” ให้คนในสังคมได้เข้ามาร่วมเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจในแบบของตัวเอง แทนที่จะรับชมเนื้อหาหรือหนังโฆษณาจากไทยประกันชีวิตเท่านั้น รวมถึงยังสามารถร่วมกันแบ่งปันหรือส่งต่อเรื่องราวดีๆ ที่ตนเองสร้างสรรค์ขึ้นบนโซเชียลมีเดีย เพื่อทำให้การใช้โซเชียลมีเดียในทุกวันมีความหมาย ทั้งยังสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นได้ ขณะเดียวกันแคมเปญนี้ยังเป็นการรีเฟรชแบรนด์ไทยประกันชีวิตให้เข้าใกล้คนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้ต้องการให้แบรนด์ “บอก” ว่าอะไรคือความหมายของชีวิต แต่ต้องการพื้นที่ในการ “ค้นพบ” ความหมายของชีวิตในแบบของตัวเอง” นายไชยกล่าว สามารถติดตามชมภาพยนตร์โฆษณาในแคมเปญ “ทำโซเชียลให้มีความหมาย”  ได้ทาง YouTube : Thailifechannel และทุกช่องทาง Social Media ของไทยประกันชีวิต และติดตามรายละเอียดการเข้าร่วมประกวดรางวัล Best Meaningful Content by Thai Life Insurance ได้ทางเว็บไซต์ www.thailife.com หรือทาง Facebook Page: ไทยประกันชีวิต

04 Jul 2025

...

  บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมออกบูทในงานมหกรรมจำหน่ายรถยนต์ครบวงจร FAST Auto Show Thailand 2025   ระหว่างวันที่ 2 – 6 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ฮอลล์ EH 102 - 103  ในงานนี้ บริษัทฯ ได้จัดเต็มโปรโมชันสุดพิเศษ โดยมอบส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยสูงสุด 23% สำหรับผู้ที่ซื้อกรมธรรม์ใหม่ภายในงาน โดยมีทีมงานรับประกันภัยพร้อมบริการให้คำปรึกษา และคำแนะนำเกี่ยวกับแผนประกันภัยที่เหมาะสมกับความคุ้มครองที่หลากหลาย โดยนอกจากประกันภัยรถยนต์แล้วยังมีประกันอัคคีภัย ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันภัยการเดินทาง ประกันภัยสุขภาพ ประกันภัยโรคมะเร็ง และประกันภัยอื่นๆ ที่ให้ความคุ้มครองรองรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า นอกจากนี้ ยังสามารถผ่อนชำระเบี้ยประกันภัย ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน หรือ 10 เดือนผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ พร้อมรับของที่ระลึกที่เตรียมไว้สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ  พบกับกรุงเทพประกันภัยได้ที่บูท B11 ณ ศูนย์ประชุมนิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา ฮอลล์ EH 102 - 103 ในวันที่ 2 - 6 กรกฎาคม 2568    

29 Jun 2025

ECONOMY- FINANCE / เศรษฐกิจ - การเงิน

...

ธ.ก.ส. เปิดตัวเงินฝากออมทรัพย์พิเศษโครงการ “เงินฝากทองเอก” รับดอกเบี้ยล่วงหน้าเข้าบัญชีเงินฝากทันทีตั้งแต่วันที่เริ่มฝากเงิน ฝากขั้นต่ำ 100,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 100 ลบ.ต่อ/ราย ระยะเวลา 9 เดือน รับฝากตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 สิงหาคม 2568 ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ               นายไพศาล หงษ์ทอง รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)  เปิดเผยว่า เพื่อสนับสนุนการออมเงินอย่างต่อเนื่องสำหรับผู้ที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ได้ผลตอบแทนที่แน่นอน ธนาคารจึงได้เปิดตัว “เงินฝากทองเอก” รับดอกเบี้ยร้อยละ 1.60 ต่อปี พิเศษ! รับดอกเบี้ยล่วงหน้าเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์คู่โอนทันทีในวันที่ฝากเงิน ฝากขั้นต่ำครั้งละ 100,000 บาท รวมฝากสูงสุดไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อราย ส่วนลูกค้านิติบุคคลและสถาบันที่ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อหากำไร รับฝากขั้นต่ำ 100,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อรายระยะเวลา 9 เดือน (ครบกำหนดแบบวันชนวัน) สำหรับบุคลธรรมดาไม่เสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากอีกด้วย ส่วนนิติบุคคลเสียภาษีตามประกาศสรรพากรกรณีหากผู้ฝากถอนเงินฝากบางส่วนหรือปิดบัญชีก่อนครบกำหนดระยะเวลาฝาก 9 เดือน ธนาคารจะเรียกคืนดอกเบี้ยเงินฝากเท่ากับดอกเบี้ยเงินฝากล่วงหน้าทั้งหมดของเงินที่ถอน      สำหรับ ลูกค้าที่สนใจออมเงินกับ “เงินฝากทองเอก” สามารถติดต่อเปิดบัญชีได้ที่สาขาของ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 สิงหาคม 2568 หรือธนาคารจะปิดรับฝากก่อนกำหนดเมื่อมีผู้ฝากเงินครบวงเงินรวมโครงการ 50,000 ล้านบาท ทั้งนี้ กรณีลูกค้าเดิมของธนาคารที่ออมเงินกับผลิตภัณฑ์เงินฝากดอกเบี้ยทันใจ (11 เดือน) เงินฝากทองพันชั่ง (8 เดือน) และเป็นบัญชีเงินฝากเจ้าของคนเดียวที่มีสถานะบัญชี Active สามารถใช้สมุดเงินฝากเล่มเดิมเพื่อฝากเงินฝากทองเอกได้ทั้งจำนวนที่ครบกำหนด หรือฝากเงินใหม่เพิ่มอีกได้ขั้นต่ำครั้งละ 100,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อราย ส่วนลูกค้านิติบุคคลและสถาบันที่ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อหากำไร รับฝากขั้นต่ำ 100,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อราย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02 555 0555        

09 Jul 2025


...

  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  ร่วมงาน “มหกรรมการเงินหาดใหญ่” ครั้งที่ 15 (MONEY EXPO 2025 HATYAI) ระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคม 2568 ณ บูธ F3 หาดใหญ่ฮอลล์ ชั้น 5 เซ็นทรัล หาดใหญ่ จ.สงขลา ยกขบวนผลิตภัณฑ์สินเชื่อครอบคลุมทุกกลุ่ม ตอบโจทย์ทุกความต้องการผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไฮไลท์ คือ สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่มและทุกความต้องการเอสเอ็มอีไทย ควบคู่บริการพัฒนาธุรกิจ ผ่านแพลตฟอร์ม “DX by SME D Bank” (dx.smebank.co.th)   ช่วยเสริมศักยภาพกิจการ ครบถ้วนในจุดเดียว ห้ามพลาด! พิเศษเฉพาะภายในงาน เมื่อยื่นขอสินเชื่อ และได้รับอนุมัติทุกวงเงิน รับโปรโมชันเสริมอีก 2 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 : ลดค่าธรรมเนียมวิเคราะห์สินเชื่อ (Front End Fee) สูงสุด 0.25% และต่อที่ 2 : รับบัตรกำนัล มูลค่า 500 บาท พร้อมเล่นเกม ลุ้นรับของที่ระลึกมากมาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

03 Jul 2025

...

ธ.ก.ส. จับมือ บช.สอท. เดินหน้าเสริมแกร่งความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับประชาชนทั่วประเทศ เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “บริการแจ้งเตือนภัยมิจฉาชีพ” บน LINE Official BAAC Family โดยสามารถเช็ก - แจ้ง – เตือนภัยมิจฉาชีพได้สะดวกทุกที่ ทุกเวลา ผ่าน LINE Official BAAC Family โดยไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนการสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการสนับสนุนความรู้ภัยไซเบอร์ให้กับประชาชนในวงกว้าง   นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยไซเบอร์ในปัจจุบันที่มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นและมีรูปแบบที่หลากหลาย อาทิ การหลอกให้โอนเงินล่วงหน้า การหลอกขายสินค้าออนไลน์  เว็บไซต์ปลอมแอบอ้างหน่วยงานรัฐ รวมถึง SMS และ LINE ปลอมแฝงลิงก์มัลแวร์ อันส่งผลกระทบให้ประชาชนได้รับความเสียหายทางทรัพย์สินและชื่อเสียง ธ.ก.ส. จึงร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดตัว “บริการแจ้งเตือนภัยมิจฉาชีพ” ฟีเจอร์ใหม่บน LINE Official “BAAC Family” ซึ่งเป็นหนึ่งในช่องทางการสื่อสารดิจิทัลหลักของธนาคาร ปัจจุบันที่มีผู้ติดตามกว่า 14 ล้านราย เพื่ออำนวยความสะดวกและยกระดับความปลอดภัยให้ประชาชนได้เข้าถึงเครื่องมือในการเช็ก - แจ้ง – เตือนภัยมิจฉาชีพได้สะดวกทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ บัญชีม้าหรือบัญชีปลอมต้องสงสัย เว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัยและอันตราย รวมไปถึงการแจ้งเบาะแสอาชญากรรมให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียลไทม์ แบบ “All in one place” ครบจบในแชตเดียว ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวถือเป็นก้าวแรกของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐในการยกระดับบริการในแพลตฟอร์มดิจิทัลให้เป็นมากกว่าการสื่อสารข้อมูลข่าวสารผลิตภัณฑ์และบริการ   โดยความร่วมมือกับ บช.สอท. ในครั้งนี้ จึงเป็นการพัฒนาบริการที่ ‘ปลอดภัย ใช้ง่าย และเข้าถึงได้จริง’ ที่มีการบูรณาการข้อมูลและเทคโนโลยี เพื่อรับมือกับปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ และยังเป็นต้นแบบของการผนึกกำลังระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เพื่อสร้าง ‘ภูมิคุ้มกันทางดิจิทัล’ ด้วยการวางรากฐานระบบ Early Warning ที่จะช่วยให้คนไทยมีความมั่นใจในการใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัยและรู้เท่าทันภัยไซเบอร์ ซึ่ง ธ.ก.ส. และ บช.สอท. พร้อมเดินหน้าสร้างภูมิคุ้มกันความรู้ด้านภัยไซเบอร์ในวงกว้าง ในการเดินหน้าพัฒนาและยกระดับช่องทางการสื่อสารดิจิทัลต่าง ๆ ของธนาคารไปสู่การเป็นแพลตฟอร์ม ‘Digital Life Partner’ สำหรับประชาชนไทย ที่ไม่ใช่เพียงการให้บริการทางด้านการเงินการธนาคาร แต่ยังครอบคลุมถึงการให้ความรู้ ด้านการบริหารจัดการรายได้ การพัฒนาอาชีพ การดูแลสุขภาพ และความปลอดภัยในด้านทรัพย์สิน เพื่อให้ประชาชนไทยสามารถใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยและมีภูมิคุ้มกันทางการเงินอย่างยั่งยืน   พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดเผยว่า ภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในประเทศไทยทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้ภัยไซเบอร์ไม่เลือกเหยื่อ ทุกคนคือเป้าหมายได้ทันที หากไม่ระวังหรือรู้ไม่เท่าทัน โดยเฉพาะกลุ่มพี่น้องเกษตรกรหรือผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงสูงในการถูกหลอกผ่าน SMS หรือ LINE ที่แอบอ้างว่าเป็นหน่วยงานรัฐ เช่น เงินช่วยเหลือ หรือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ตลอดจนมิจฉาชีพปรับเปลี่ยนวิธีการหลอกลวงอย่างรวดเร็ว เข้าถึงประชาชนได้ทุกกลุ่ม ทุกพื้นที่ ทั้งจากการโทรหลอกลวง พัฒนาไปถึงการใช้เทคโนโลยี Deepfake หรือ AI ปลอมเสียง ปลอมภาพ เพื่อโน้มน้าวให้เหยื่อโอนเงินอย่างแนบเนียน ภารกิจของ บช.สอท. จึงไม่หยุดอยู่เพียงการติดตามจับกุมผู้กระทำผิดหลังเกิดเหตุ แต่ต้องทำให้ประชาชนมี ‘เกราะป้องกันเชิงรุก’ และรู้เท่าทันภัยล่วงหน้า โดยมุ่งสร้างเครื่องมือให้ประชาชนสามารถตรวจสอบ แจ้งเหตุ และรับการแจ้งเตือนภัยไซเบอร์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ซึ่งความร่วมมือกับ ธ.ก.ส. ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายเครือข่ายการป้องกันภัยไซเบอร์สู่กลุ่มประชาชนฐานราก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องเกษตรกร การพัฒนาแพลตฟอร์ม ‘บริการแจ้งเตือนภัยมิจฉาชีพ’ ผ่าน LINE Official BAAC Family ไม่เพียงช่วยให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องทันเวลา แต่ยังเป็นแบบอย่างของการนำเทคโนโลยีมาเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางความรู้ เพื่อให้สังคมไทยสามารถรับมือกับภัยไซเบอร์ได้อย่างยั่งยืน   นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังได้เปิดตัวคอนเทนต์ซีรีส์ “มุกนี้มิจแน่” คอนเทนต์สนุก เสริมภูมิคุ้มกัน ซึ่งเป็นคอนเทนต์วิดีโอสั้นที่รวบรวมสถานการณ์การหลอกลวงแบบต่าง ๆ ที่พบได้จริง พร้อมเฉลยด้วยข้อมูลสั้น ๆ ให้ประชาชน “จำง่าย และนำไปใช้ได้จริง” โดยเตรียมออนแอร์ผ่านช่องทางดิจิทัลหลักของธนาคาร ได้แก่ LINE, TikTok และ Facebook: BAAC Thailand อย่าลืมเช็กก่อนโอน เพื่อป้องกันตนเองจากอาชญากรรมการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ และลดโอกาสในการตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ โดยสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารผลิตภัณฑ์และบริการของ ธ.ก.ส. ได้ทุกช่องทางผ่าน LINE Official BAAC Family,Facebook: ธกส BAAC Thailand, TikTok / Instagram / X: @baacthailand, www.baac.or.th หรือ Call Center โทร. 02 555 0555  

19 Jun 2025

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยตัวเลขความก้าวหน้าบทบาทธนาคารเพื่อสังคม ในการสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินในระบบสถาบันการเงินแก่คนไทยกลุ่ม Unserved – Underserved ที่ยังมีการพึ่งพาแหล่งเงินนอกระบบด้วยมีข้อจำกัดด้านประวัติการเงินส่วนบุคคล และการให้สินเชื่อช่วยเหลือด้านสภาพคล่องแก่กลุ่มเปราะบาง โดยคาดว่าภายในปี 2568 ธนาคารจะสามารถปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ได้กว่า 1 ล้านรายตามเป้าหมาย รวมถึงความสำเร็จด้านการแก้หนี้ที่คาดว่าจะมีลูกหนี้ได้รับความช่วยเหลือผ่านมาตรการต่าง ๆ ที่ธนาคารริเริ่มดำเนินการ และที่เป็นมาตรการตามนโยบายรัฐบาล รวมแล้วเป็นจำนวนกว่า 920,000 บัญชีลูกหนี้  สำหรับนวัตกรรมการเงินเพื่อสังคมของธนาคาร ที่ช่วยสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินในระบบสถาบันการเงิน ประกอบด้วย 1) สินเชื่อสร้างเครดิตสร้างโอกาส สำหรับผู้ไม่มีประวัติเครดิตการเงิน อนุมัติแล้ว 150,000 ราย 2) สินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ อนุมัติแล้ว 240,000 ราย 3) สินเชื่อต้อนรับเปิดเทอม อนุมัติแล้ว 110,000 ราย รวมถึงการให้สินเชื่อแก่ลูกค้ารายย่อย/ฐานราก ได้แก่ สินเชื่อธนาคารประชาชน สินเชื่อฉุกเฉินเพื่อผู้ประสบภัยพิบัติ อนุมัติแล้ว 120,000 ราย รวมจำนวนผู้ได้รับสินเชื่อแล้วทั้งสิ้น 620,000 ราย (ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2568) ทั้งนี้ ธนาคารคาดว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางได้ตามเป้าหมาย 1 ล้านราย ภายในปี 2568 นี้ ด้านภารกิจการแก้หนี้ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ ผ่านหลากหลายโครงการ อาทิ โครงการคุณสู้ เราช่วย ซึ่งธนาคารเป็นผู้มีบทบาทหลักในการขับเคลื่อนตามนโยบายกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ตั้งเป้าช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย/SMEs ลูกหนี้กลุ่มเปราะบางของสถาบันการเงินของรัฐ และลูกหนี้กลุ่ม Non-Bank โดยสามารถช่วยเหลือลูกหนี้แล้วกว่า 190,000 ราย จำนวน 300,000 บัญชีลูกหนี้ คิดเป็น 33% ของผู้ลงทะเบียนที่เป็นลูกหนี้ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันทั้งระบบ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2568) นอกจากนี้ยังมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ธนาคารดำเนินการต่อเนื่อง อาทิ การลดเงินงวด-ขยายระยะเวลาผ่อนชำระของลูกหนี้สถานะปกติ / การลดเงินงวด-ลดดอกเบี้ย-ขยายระยะเวลาผ่อนชำระของลูกหนี้สถานะ NPLs / การบรรเทาภาระหนี้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหว รวมช่วยเหลือบรรเทาภาระลูกหนี้แล้ว จำนวนกว่า 119,000 บัญชี ทั้งนี้ ธนาคารอยู่ระหว่างเตรียมการช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยทำโครงการแก้หนี้ NPLs วงเงินต่ำกว่า 1 แสนบาท ประกอบด้วยการยกหนี้ให้ลูกหนี้สินเชื่อสู้ภัยโควิด และการปิดบัญชีตัดหนี้สูญ (Write Off) รวมจำนวนกว่า 500,000 บัญชี ภายในเดือนกรกฎาคม 2568 นี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาและลดภาระหนี้แก่ลูกหนี้รวมทุกมาตรการได้กว่า 920,000 บัญชี ทั้งนี้ ธนาคารออมสินพร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ตามข้อสั่งการของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อสร้างผลลัพธ์ขยายผลการสร้าง Social Impact ในวงกว้างและหลากหลายมิติทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม

14 Jun 2025

...

SME D Bank ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และลดผลกระทบให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจากสถานการณ์เศรษฐกิจ คิกออฟโครงการ “SME D ให้ใจ ไปถึงถิ่น” ยกทัพทีมงานสาขา พร้อมหน่วยสนับสนุนจากทั่วประเทศ ลงพื้นที่พร้อมกันไปมอบบริการถึงสถานประกอบการ แหล่งการค้า และย่านเศรษฐกิจ ตลอดเดือนมิถุนายน 2568  อำนวยความสะดวกพาเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ เพียง 3%ต่อปี และการพัฒนา ช่วยยกระดับเพิ่มศักยภาพธุรกิจ  นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย" (ธพว.) หรือ SME D Bank   กล่าวว่า  SME D Bank ขานรับนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง ที่ต้องการให้สถาบันการเงินของรัฐ เป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึง ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจ  ทั้งความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีนำเข้าสหรัฐอเมริกา การล้นทะลักของสินค้าจากต่างประเทศ เป็นต้น  ดังนั้น SME D Bank จึงทำงานเชิงรุกด้วยการดำเนินโครงการ “SME D ให้ใจ ไปถึงถิ่น” ยกทัพทีมงานสาขา พร้อมทีมสนับสนุนจากทั่วประเทศ กระจายลงพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อไปมอบบริการสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีถึงสถานประกอบการ รวมถึง แหล่งการค้า และย่านเศรษฐกิจสำคัญต่างๆ ทั่วประเทศ จังหวัดละ 4-5 จุด  ตลอดเดือนมิถุนายน 2568 โดยกำหนดคิกออฟพร้อมกันในวันที่ 7 มิถุนายน 2568      ทั้งนี้ พร้อมให้บริการ ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ของธนาคารในแต่ละพื้นที่อย่างใกล้ชิดและทั่วถึงมากที่สุด  ประกอบด้วยบริการพาถึงเงินทุน ผ่านโครงการสินเชื่อตามนโยบายรัฐ (Public Service Account : PSA) วงเงินรวมกว่า 30,000 ล้านบาท ที่ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจและทุกความต้องการเอสเอ็มอีไทย จุดเด่นอัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3% ปีแรก  ผ่อนนานสูงสุดถึง 10 ปี  และปลอดชำระเงินต้นสูงสุด 12 เดือน สามารถแจ้งความประสงค์ยื่นกู้ได้ทันที หากเอกสารพร้อม รู้ผลการพิจารณาภายใน 10 วันทำการ ประกอบด้วย 1.สินเชื่อ “SME Green Productivity” วงเงินกู้สูงสุด 10 ล้านบาท  สนับสนุนผู้ประกอบการลงทุนติดตั้งระบบอุปกรณ์ โดยเฉพาะแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อช่วยลดต้นทุนค่าพลังงาน และมุ่งสู่ธุรกิจสีเขียว   2.สินเชื่อ "ปลุกพลัง SME"  วงเงินกู้สูงสุด 1.5 ล้านบาท  สำหรับผู้ประกอบการรายเล็กที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 2 ล้านบาท ช่วยต่อยอดเพิ่มสภาพคล่องในธุรกิจ และ 3.สินเชื่อ "Beyond ติดปีก SME"  วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 2 ล้านบาทขึ้นไป  เพื่อเพิ่มศักยภาพยกระดับการดำเนินธุรกิจ  และเสริมสภาพคล่องในธุรกิจ สำหรับวงเงิน 30,000 ล้านบาท ที่จะอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ จะมีส่วนสำคัญผลักดันให้เอสเอ็มอียกระดับเพิ่มศักยภาพ  เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ ในทุกพื้นที่    ตั้งเป้าสนับสนุนเข้าถึงแหล่งทุนได้กว่า 14,000 กิจการ  รักษาการจ้างงานได้ประมาณ 198,000 คน และกระตุ้นเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 160,000 ล้านบาท      อีกทั้ง ยังสนับสนุนด้านการพัฒนา ผ่านแพลตฟอร์ม "DX by SME D Bank" ช่วยเสริมแกร่งครบวงจร สามารถสมัครใช้บริการได้ทันทีเช่นกัน  มีฟังก์ชันสำคัญ เช่น ระบบ  “Business Health Check”  ตรวจสุขภาพทางธุรกิจ  ระบบ E-Learning รวบรวมหลักสูตรความรู้สำคัญ ช่วยเพิ่มศักยภาพการประกอบธุรกิจ เรียนรู้ได้ด้วยตัวเองตลอด 24 ชั่วโมง ระบบ SME D Activity  สามารถจองเข้าร่วมกิจกรรมเติมความรู้ได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ระบบ SME D Coach มีโค้ชมืออาชีพคอยเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำธุรกิจ  ระบบ SME D Market ช่วยขยายตลาดด้วย E-marketplace หนุนจับคู่ธุรกิจ  และระบบ SME D Privilege  ที่มอบสิทธิประโยชน์พิเศษมากมาย การลงพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ธนาคารจะรับแจ้งความต้องการจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอี  ผ่านการลงทะเบียนออนไลน์เพียงสแกน QR Code ด้วยสมาร์ตโฟน และกรอกข้อมูลเข้าระบบ ซึ่งข้อมูลจะถูกส่งไปยังสาขาธนาคารในพื้นที่ที่ผู้ประกอบการระบุทันที จากนั้น เจ้าหน้าที่สาขาจะติดต่อกลับ เพื่อดำเนินการตอบความต้องการต่างๆ ของผู้ประกอบการอย่างฉับไวที่สุด      นอกจากนั้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอียังสามารถแจ้งความประสงค์รับบริการด้านการเงินและการพัฒนาจาก SME D Bank  ได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น สาขาของ SME D Bank ทุกแห่งทั่วประเทศ  ,  LINE Official Account : SME Development Bank  และเว็บไซต์  www.smebank.co.th เป็นต้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

10 Jun 2025

...

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ให้การต้อนรับ เต็งกู ดาโต๊ะ ศรี ซาฟรูล อับดุล อาซิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุน การค้า และอุตสาหกรรม มาเลเซีย (ที่ 2 จากขวา) ในโอกาสที่ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ได้เป็นเจ้าภาพร่วมกับ MATRADE Bangkok  หรือ สำนักงานการค้าภายใต้สถานเอกอัครราชทูตมาเลเซีย จัดการประชุม ‘Roundtable Meeting with Captains of Industry in Thailand’ โดยมีผู้นำภาคอุตสาหกรรมไทยเข้าร่วมงานเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองด้านการลงทุน สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำธุรกิจ ค้นหาโอกาสการลงทุนใหม่ ๆ ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ รวมถึงเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในโอกาสนี้ มีผู้บริหารจากกลุ่มซีไอเอ็มบีและซีไอเอ็มบี ไทย เข้าร่วมงาน ได้แก่ โนแวน อามิรูดิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มซีไอเอ็มบี  (ที่ 2 จากซ้าย) วุธว์ ธนิตติราภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (ซ้าย) และ พอล วอง ชี คิน ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (ขวา) การจัดงานในครั้งนี้ สะท้อนบทบาทของซีไอเอ็มบี ในฐานะตัวกลางสำคัญที่เชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจทั่วอาเซียน พร้อมเดินหน้าสนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนไทย–มาเลเซีย เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในภูมิภาค   นอกจากนี้ MATRADE Bangkok (สำนักงานการค้าภายใต้สถานเอกอัครราชทูตมาเลเซีย) ยังมีบทบาทสำคัญในฐานะเจ้าภาพร่วมในการประชุมโต๊ะกลมในครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศมาเลเซียและประเทศไทย ความริเริ่มนี้สอดคล้องกับเป้าหมายภายใต้คณะกรรมการการค้าร่วม (JTC) ระหว่างสองประเทศที่จัดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งมีเป้าหมายในการยกระดับมูลค่าการค้าทวิภาคีให้แตะระดับ 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2570 โดยการมีส่วนร่วมของ MATRADE Bangkok มีบทบาทสำคัญในการรวบรวมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหลักในอุตสาหกรรมจากทั้งสองประเทศ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสร้างโอกาสใหม่ในการเป็นหุ้นส่วนข้ามพรมแดน งานจัดขึ้นโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ ประเทศไทย    

02 Jun 2025

...

  กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) มอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตร Krungsri Boarding Card เข้าใช้บริการห้องรับรองพิเศษ Miracle Lounge สนามบินสุวรรณภูมิ หรือสนามบินดอนเมือง (เฉพาะเส้นทางบินระหว่างประเทศ) ฟรี! เมื่อมียอดใช้จ่ายสะสมผ่านบัตร Krungsri Boarding Card ภายในเดือนที่ร่วมรายการผ่านช่องทางออนไลน์ หรือที่ร้านค้าผ่านเครื่อง EDC ทั่วโลก ครบ 50,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 – 30 กันยายน 2568 ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ https://www.krungsri.com/th/promotions/cards/hot-promotion/boarding-card-miracle-lounge  

02 Jun 2025

SOCIETY / ภาพข่าว - CSR - ข่าวการเมือง

...

เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นายสุวิรัช พงศ์เสาวภาคย์ (ที่ 6 จากขวา แถวกลาง) ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการภายนอก นำทีมพลังตัวแทนและเพื่อนพนักงานเอไอเอ จำนวนกว่า 60 คน ร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิต เนื่องในวันประกันชีวิตแห่งชาติ ครั้งที่ 24 ประจำปี 2568 โดยได้รับเกียรติจาก นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เป็นประธานในพิธี พร้อมกับร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ณ สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์ เมื่อวันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมา สำหรับกิจกรรมบริจาคโลหิตถือเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเอไอเอ ในการดำเนินธุรกิจโดยยึดหลัก ESG คำนึงถึงการแบ่งปันให้แก่ผู้คนในสังคมไทยและช่วยต่อลมหายใจให้แก่เพื่อนมนุษย์ ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้ยังอยู่ภายใต้แคมเปญ “Rethink Healthy - ปรับความคิดเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น” เพื่อมุ่งสนับสนุนให้ผู้คนกว่าพันล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’ 

15 Jul 2025


...

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank โดย นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT HD เมื่อเร็ว ๆ นี้      

14 Jul 2025

...

นางวิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) นำหน่วยหนุมานทิพยจิตอาสา พร้อมกัลยาณมิตรธรรม จัดโครงการสร้างบุญมหากุศล “พลังบุญทิพยร่วมสร้าง ครั้งที่ 240” เนื่องในวันเข้าพรรษา โดยได้ถวายเทียนพรรษามหาจักรพรรดิแก่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) ในวิหารพระพุทธชินราช และพระอุโบสถ วัดนางพญา จังหวัดพิษณุโลก น้อมถวายเป็นพุทธบูชา สืบสานพระพุทธศาสนา และน้อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว     ในโอกาสนี้ ได้กราบนิมนต์พระเถรานุเถระเจริญพระพุทธมนต์ ถวายเทียนพรรษามหาจักรพรรดิ สูง 180 เซนติเมตร ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม และภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์  ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) จังหวัดพิษณุโลก    

14 Jul 2025

...

ศ. (เชี่ยวชาญพิเศษ) ดร. น.สพ.กรกฎ งานวงศ์พาณิชย์ คณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รับมอบเงินสนับสนุนจำนวน 100,000 บาท และน้ำดื่ม จาก บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยมี นายจิรศักดิ์ เก่งสุวรรณ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการภาค 1 (ภาคเหนือ) ด้านศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทน เป็นผู้แทนมอบ ภายใต้โครงการ "ผู้ช่วยสัตวแพทย์กับงานบริการด้านสุขภาพของช้าง" ซึ่งเป็นการสานต่อโครงการ “รักษ์ช้าง...ยั่งยืน” ของบริษัทฯ โดยการสนับสนุนงบประมาณในครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการบริการตรวจรักษาช้างป่วยในรูปแบบคลินิกเคลื่อนที่ในพื้นที่ภาคเหนือ รวมทั้งพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาสัตวแพทย์และผู้ช่วยสัตวแพทย์ภาคสนามให้พร้อมกับการปฏิบัติงานจริง ตลอดจนสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ชุมชนคนเลี้ยงช้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพิธิมอบจัดขึ้น ณ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่     ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินภารกิจเพื่อการอนุรักษ์และบริบาลช้างไทย ภายใต้โครงการ “รักษ์ช้าง...ยั่งยืน” ร่วมกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และศูนย์สุขภาพช้างและสัตว์ป่า โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงปี 2563 จนถึงปัจจุบัน โดยให้การสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กร ทั้งในช่วงภัยพิบัติและในสถานการณ์ปกติ อาทิ การสนับสนุนปลูกพืชอาหารช้างที่มีคุณภาพ เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนอาหารช้างช่วงวิกฤตการณ์ COVID – 19 การสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาหารและยารักษาโรค ส่งเสริมความรู้ความสามารถของบุคลากรผู้ดูแลช้าง รวมถึงพัฒนาเครือข่ายร่วมมือระหว่างกลุ่มวิริยะจิตอาสากับชุมชน เพื่อสร้างความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ช้างไทยอย่างยั่งยืนสืบต่อไป    

11 Jul 2025

...

  นางวรางค์ ไชยวรรณ กรรมการและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) รับโล่เกียรติยศศิษย์เก่าดีเด่น จากศาสตราจารย์ ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในโอกาสวันสถาปนามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ครบรอบ 91 ปี ในฐานะศิษย์เก่าดีเด่นคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ซึ่งประสบความสำเร็จในวิชาชีพ มีคุณธรรม จริยธรรม และบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม อีกทั้งยังสนับสนุนการดำเนินงาน และเผยแพร่เกียรติคุณให้กับคณะฯ และมหาวิทยาลัยฯ ในด้านต่างๆ จัดโดยสมาคมนักศึกษาเก่าพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

11 Jul 2025

...

บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นำโดย นางสาวจารุวรรณ ลิ้มคุณธรรมโม ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน (ที่ 5 จากขวาล่าง) พร้อมด้วยพนักงานจิตอาสา สานต่อพันธกิจองค์กร “ใส่ใจสังคม” เข้าร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิตเพื่อผู้ป่วยทั่วประเทศ เนื่องในวันประกันชีวิตแห่งชาติครั้งที่ 24 ประจำปี 2568 จัดโดยสำนักงานคปภ สมาคมประกันชีวิตไทย ที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคธุรกิจประกันชีวิตในการช่วยเหลือสังคมผ่านการบริจาคโลหิต ซึ่งเป็นโครงการที่กรุงเทพประกันชีวิตให้ความสำคัญและร่วมกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคมมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เมื่อเร็ว ๆ นี้

10 Jul 2025

...

บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต รักคือพลังของชีวิต โดยคุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO) และคุณสุนันท์ มีสวัสดิ์  ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล  นำคณะผู้บริหารและทีมพนักงานจิตอาสา  เข้าร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิตเนื่องในวันประกันชีวิตแห่งชาติ ครั้งที่ 24 ประจำปี 2568 เพื่อร่วมผนึกพลังความดีจากภาคธุรกิจประกันชีวิตสู่สังคม โดยได้รับเกียรติจากคุณชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เป็นประธานเปิดงาน การร่วมบริจาคโลหิตในครั้งนี้สะท้อนเจตนารมณ์ของ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ในการดำเนินธุรกิจด้วยพลังความรัก พร้อมส่งต่อคุณค่าของชีวิตสู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน อีกทั้งช่วยเพิ่มปริมาณโลหิตสำรองให้กับสภากาชาดไทย ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการรักษาผู้ป่วยที่ต้องได้รับโลหิตอย่างต่อเนื่อง และผู้ที่ประสบอุบัติเหตุซึ่งต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยเร่งด่วนต่อไป   OCEAN LIFE ไทยสมุทรประกันชีวิต ใช้ความรักเป็นพลังขับเคลื่อนองค์กร โดยไม่หยุดพัฒนาในทุกมิติ เพื่อทำให้ประกันชีวิตเป็นเรื่องง่าย ทำให้คนไทยเข้าถึงประโยชน์ของการประกันชีวิตได้มากที่สุด พร้อมแล้วที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลโลกและสังคม เพื่อส่งมอบอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไปได้ใช้ชีวิตอย่างมั่นคง มั่นใจ ปลอดภัย มีความสุข สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ocean.co.th หรือ ติดต่อ OCEAN LIFE CONTACT CENTER  1503    

08 Jul 2025

BUSINESS-MARKETING-SME /ธุรกิจ-การตลาด-ขายตรง-เอสเอ็มอี

...

Tidlor Academy ศูนย์การเรียนรู้ของ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) บริษัทในกลุ่ม Tidlor Holdings (TIDLOR) โดย คุณกาญจน์ณัฐ เฉลิมจุฬามณี ผู้บริหารศูนย์การเรียนรู้เงินติดล้อ (Tidlor Academy) นำทีมงานต้อนรับผู้บริหารและพนักงานจากบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) จำนวนทั้งหมด 39 ท่าน เข้าร่วมกิจกรรม “TIDLOR Culture Wow” เพื่อแบ่งปันและแลกเปลี่ยนแนวทางการสร้างค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร พร้อมเยี่ยมชมแผนกต่างๆ อาทิ ฝ่ายวิเคราะห์และพัฒนา (Analytics & Development) ฝ่ายส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการเงิน (Financial Education หรือ FIN-ED) ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) และฝ่ายนายหน้าประกันภัย “อารีเกเตอร์” (Areegator) แพลตฟอร์มเสนอขายประกันออนไลน์ผ่านสมาชิก นอกจากนี้ ยังได้พูดคุยถาม-ตอบอย่างใกล้ชิดกับคณะผู้บริหารและทีม Culture Gangster เกี่ยวกับแนวทางและวิธีการสร้างวัฒนธรรมองค์กรเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้แข็งแกร่งและยั่งยืน กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น ณ สำนักงานใหญ่ บมจ. เงินติดล้อ อาคารอารีย์ ฮิลล์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้หลักสูตร TIDLOR Culture Wow และ TIDLOR Culture Camp ภายใต้โครงการ TIDLOR Academy จัดขึ้นสำหรับบุคคลและบริษัทภายนอกที่สนใจการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ผ่านแนวคิดและประสบการณ์จริงในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยวัฒนธรรมองค์กรในแบบฉบับเงินติดล้อ เพื่อเป็นแนวทางให้กับหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป สำหรับผู้สนใจออกแบบค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรผ่านเวิร์กช็อปที่สามารถนำไปใช้ได้จริง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ www.tidlor.com/academy หรือสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-792-1990

02 Jul 2025


...

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) บริษัทในกลุ่ม Tidlor Holdings หรือ TIDLOR ประกาศความสำเร็จอีกครั้ง ด้วยการได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน 500 บริษัทชั้นนำที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำปี 2568 จาก Fortune Southeast Asia 500 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของการดำเนินธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถและธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่สามารถสร้างการเติบโตได้เป็นอย่างดีในปีที่ผ่านมา ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนถึงเจตนารมณ์ของบริษัทในการสร้างโอกาสทางการเงิน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการเข้าถึงความคุ้มครองด้านประกันภัยให้กับประชาชนไทยทั่วประเทศ พร้อมมุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับลูกค้า และสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงแก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การจัดอันดับ Fortune Southeast Asia 500 โดยนิตยสารฟอร์จูนในเครือ Time Inc. ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ยอมรับทั่วโลก พิจารณาจากรายได้รวม (Revenue) ของบริษัทจดทะเบียนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ที่มีรายได้สูงสุด 500 อันดับแรก ในปีงบประมาณ 2567 สำหรับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของ TIDLOR ได้ที่เว็บไซต์ www.tidlorinvestor.com

29 Jun 2025

...

SME D Bank เคียงข้างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ทุ่ม 3,500 ล้านบาท ออก 2 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ ได้แก่ “Smile Biz ธุรกิจยิ้มได้ (2568)” และ “จิ๋วสุดแจ๋ว Plus” มุ่งเติมทุนครอบคลุมทุกกลุ่มเอสเอ็มอี นำไปใช้ลงทุน หมุนเวียน เสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ   ควบคู่ยกระดับพัฒนาครบวงจร ช่วยเสริมแกร่ง ยืนหยัดและปรับตัวได้ในช่วงสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัว   นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า ธนาคารมีความห่วงใยผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และคู่ค้าที่เป็น Supply Chain  ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จากความไม่แน่นอนของสงครามการค้า  การล้นทะลักของสินค้าจากต่างประเทศ สถานการณ์ภัยพิบัติ แผ่นดินไหว ส่งผลต่อความเชื่อมั่น รวมถึง ในภาคธุรกิจท่องเที่ยว และเกี่ยวเนื่องที่ได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ดังนั้น SME D Bank   จัดวงเงิน  3,500 ล้านบาท ออก 2 สินเชื่อใหม่ สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในภาคผลิต บริการ และค้าส่งค้าปลีก  ทั้งรายย่อย รายย่อม และรายกลาง ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน นำไปเสริมสภาพคล่องกิจการ สามารถรับมือและก้าวผ่านสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้เหมาะสมและทันท่วงที อีกทั้ง ช่วยรักษาการจ้างงานในภาคธุรกิจเอสเอ็มอี โดยมีจุดเด่นเงื่อนไขผ่อนปรนเปิดกว้าง ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน สามารถใช้ บสย.ค้ำประกันได้  ได้แก่ “สินเชื่อ Smile Biz ธุรกิจยิ้มได้ (2568)” วงเงิน 3,000 ล้านบาท และ “สินเชื่อรายย่อย จิ๋วสุดแจ๋ว Plus” วงเงิน 500 ล้านบาท   สำหรับ “สินเชื่อ Smile Biz ธุรกิจยิ้มได้ (2568)” สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดย่อม และขนาดกลาง ทั้งบุคคลธรรมดา นิติบุคคล ที่มีรายได้ต่อปีเกินกว่า 1.8 ล้านบาท แต่ขาดหลักประกันให้เข้าถึงแหล่งทุน นำไปเสริมสภาพคล่อง  ลงทุน ขยาย ปรับปรุง หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ  เงินทุนหมุนเวียน  วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย เริ่มต้น MLR -1%ต่อปี หรือประมาณ 6.25%ต่อปี (ปัจจุบัน MLR เท่ากับ 7.25%) ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ผ่อนนานสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ปลอดชําระคืนเงินต้นสูงสุด 6 เดือน เปิดรับคำขอกู้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2569 หรือจนกว่าวงเงินสินเชื่อโครงการจะหมด แล้วแต่อย่างหนึ่งอย่างใดจะถึงก่อน   และ “สินเชื่อรายย่อย จิ๋วสุดแจ๋ว Plus”  สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อย (MICRO) ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล ที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 1.8 ล้านบาท แต่ขาดหลักประกันให้เข้าถึงแหล่งทุน นำไปลงทุน ขยาย ปรับปรุง ปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ หรือหมุนเวียนเสริมสภาพคล่องในธุรกิจ   วงเงินกู้ขั้นต่ำ 1  แสนบาท สูงสุดไม่เกิน 5 แสนบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย เริ่มต้น MRR +5.35% ต่อปี หรือประมาณ 12.925% ต่อปี (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 7.575%) ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ผ่อนนานสูงสุดไม่เกิน 5 ปี เปิดรับคำขอกู้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569 หรือจนกว่าวงเงินสินเชื่อโครงการจะหมด แล้วแต่อย่างหนึ่งอย่างใดจะถึงก่อน “ทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ ครอบคลุมการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกกลุ่ม และทุกประเภทในภาคการผลิต บริการ ค้าปลีกและค้าส่ง ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง ร้านค้าออนไลน์  ธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง เช่น ร้านขายของฝาก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ฯลฯ เพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน  นำไปเสริมสภาพคล่อง  หรือมีไว้สำรองเป็นค่าใช้จ่าย ช่วยให้สามารถรับมือกับภาวะเศรษฐกิจได้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ธุรกิจยืนหยัดและปรับตัวได้” นายพิชิต กล่าวเสริม นอกจากนี้ SME D Bank ยังให้บริการด้านการพัฒนาธุรกิจครบวงจรควบคู่ด้วย ผ่านแพลตฟอร์ม DX by SME D Bank (dx.smebank.co.th) ใช้บริการได้สะดวกสบาย ตลอด 24 ชม. มีฟีเจอร์สำคัญ ๆ  เช่น ระบบ  “Business Health Check”  ตรวจสุขภาพทางธุรกิจ  ระบบ E-Learning รวบรวมหลักสูตรความรู้สำคัญ ช่วยเพิ่มศักยภาพการประกอบธุรกิจ เรียนรู้ได้ด้วยตัวเองตลอด 24 ชั่วโมง ระบบ SME D Activity จองเข้าร่วมกิจกรรมเติมความรู้ได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ระบบ SME D Coach มีโค้ชมืออาชีพคอยเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำธุรกิจ  ระบบ SME D Market ช่วยขยายตลาดด้วย E-marketplace หนุนจับคู่ธุรกิจ  และระบบ SME D Privilege  ที่มอบสิทธิประโยชน์พิเศษมากมาย เป็นต้น  ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถแจ้งความประสงค์เข้ารับบริการด้านการเงิน และการพัฒนาจาก SME D Bank ได้ผ่านสาขา SME D Bank ทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น LINE Official Account : SME Development Bank  และ www.smebank.co.th เป็นต้น  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

26 Jun 2025

...

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank คว้ารางวัล Money & Banking Awards 2025 ประเภท “ธนาคารยอดเยี่ยมด้านสินเชื่อเอสเอ็มอีแห่งปี 2568” (Best Service Provider of the Year 2025 – SME Loan) จากวารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ สวนดุสิตโพล ที่ทำการสำรวจความคิดเห็นผู้เข้าชมงาน “มหกรรมการเงิน Money Expo” ทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาค ระหว่างปี 2567-2568 รวม 7 งาน ซึ่งมีสถาบันการเงินต่าง ๆ มาออกบูธให้บริการสินเชื่อเอสเอ็มอีในงานจำนวนมาก   โดย SME D Bank ได้รับผลสำรวจเป็นอันดับหนึ่งของการเป็นธนาคารที่มีบริการยอดเยี่ยมด้านสินเชื่อเอสเอ็มอี นับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน (2566-2568)  เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อเหมาะสมครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ ด้วยไฮไลท์ อัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ตรงความต้องการของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ควบคู่กับมีบริการพัฒนาผู้ประกอบการผ่านแพลตฟอร์ม "DX by SME D Bank" ช่วยเสริมแกร่งครบวงจร และที่สำคัญ เจ้าหน้าที่มอบบริการอย่างดีเยี่ยม ให้ข้อมูลครบถ้วน ดูแลอย่างใกล้ชิด อีกทั้ง มีระบบ SME D Coach เป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำเตรียมพร้อม  จนสามารถพาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุน สร้างความประทับใจ และช่วยยกระดับพัฒนาธุรกิจ เดินหน้าสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน        

19 Jun 2025

...

SME D Bank เผยผลตรวจสุขภาพธุรกิจผู้ประกอบการเอสเอ็มอีผ่านระบบ Business Health Check ในแพลตฟอร์ม “DX by SME D Bank” (dx.smebank.co.th)   พบจุดอ่อนสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านบริหารการเงิน  ด้านจัดการนวัตกรรม-เทคโนโลยี และด้านการตลาด  ประกาศเดินหน้าช่วย “เติมความรู้คู่เงินทุน” เสริมศักยภาพให้เข้มแข็ง ปิดจุดอ่อน สามารถก้าวผ่านอุปสรรคได้ในทุกสถานการณ์   นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า จากที่ SME D Bank มีบริการ “ตรวจสุขภาพทางธุรกิจ” หรือ “Business Health Check”  แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีผ่านแพลตฟอร์ม DX by SME D Bank (dx.smebank.co.th)  เพื่อให้รับรู้ข้อมูลและเข้าใจจุดแข็งและจุดอ่อนในกิจการตัวเอง ก่อนนำไปสู่การเติมทักษะ ปิดจุดอ่อน เสริมจุดแข็งได้ตรงกับความต้องการของแต่ละกิจการ  ทั้งนี้  ระยะเวลาประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้ารับบริการตรวจสุขภาพทางธุรกิจ รวมกว่า 9,200 กิจการ  พบทักษะ 3 ด้านที่เป็นจุดอ่อนสำคัญ ได้แก่  อันดับ 1  ด้านการบริหารจัดการเงิน  ระดับคะแนนประเมินผลอยู่ที่ 1.8 จากคะแนนเต็ม 5 ตามด้วย อันดับ 2  ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี (2.6 คะแนน) และอันดับ 3 ด้านการสื่อสารการตลาด (3.6 คะแนน) โดยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในทุกขนาดธุรกิจ ล้วนมีจุดอ่อนใน 3 ด้านนี้เหมือนกัน แตกต่างกันในรายละเอียดและความซับซ้อนในทักษะที่ต้องพัฒนา   สำหรับด้านการบริหารจัดการเงิน กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย (Micro) มีคะแนนต่ำที่สุด ส่วนใหญ่ยังไม่เห็นความสำคัญของการทำบัญชี ไม่แยกเงินส่วนตัวกับธุรกิจ ไม่เข้าใจหลักการบัญชีเบื้องต้น ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการคำนวณกำไรขาดทุน รวมถึงความสามารถในการเข้าถึงแหล่งทุน  ส่วนกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็ก (Small) มีการบันทึกข้อมูลทางการเงิน แต่ขาดเครื่องมือหรือการลงทุนในระบบบัญชีที่เป็นมาตรฐาน รวมถึงขาดการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อวางแผนระยะยาว ขณะที่ ผู้ประกอบการขนาดกลาง (Medium) ต้องการทักษะการวิเคราะห์ทางการเงินที่ซับซ้อนขึ้น และในหลายกิจการขาดการบูรณาการข้อมูล ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ผู้ประกอบการรายย่อย ไม่รู้ว่ามีเทคโนโลยีอะไรที่ช่วยธุรกิจเล็กๆ ได้บ้าง และยังไม่สามารถเชื่อมโยงการใช้เทคโนโลยีด้านการตลาดได้อย่างเต็มศักยภาพ ส่วนผู้ประกอบการขนาดเล็ก ไม่รู้ว่าเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมรูปแบบใดเหมาะสมกับธุรกิจของตัวเอง และไม่มีแผนหรือนโยบายที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายของธุรกิจ รวมถึงไม่กล้ารับความเสี่ยงที่จะล้มเหลวจากการลงทุนในนวัตกรรม  สำหรับผู้ประกอบการขนาดกลาง ไม่สามารถสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมนวัตกรรมได้อย่างแท้จริง ด้านการสื่อสารการตลาด ผู้ประกอบการรายย่อย  ขาดทักษะในการใช้ Social Media ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับการตลาด รวมถึงไม่เข้าใจการตลาดพื้นฐาน ขณะที่ผู้ประกอบการขนาดเล็ก  ขาดทักษะในการใช้เครื่องมือและการวิเคราะห์ข้อมูลการตลาด ไม่รู้วิธีวัดผลลัพธ์จากการทำการตลาด ทำให้กระทบต่อการวางแผนการตลาดอย่างเป็นระบบ ส่วนผู้ประกอบการขนาดกลาง ขาดการวิเคราะห์ข้อมูลการตลาดเชิงลึกและการบูรณาการข้อมูลจากทุกช่องทาง ทั้งนี้ ผลการตรวจสุขภาพทางธุรกิจ พบว่า ในภาพรวม ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยมีทักษะที่เข้มแข็ง  2 ด้าน ได้แก่ การบริหารประสิทธิภาพการผลิตหรือบริการ และการบริหารจัดการองค์กร ซึ่งเป็นศักยภาพที่ควรเสริมให้แกร่งขึ้นในยุคที่ความไม่แน่นอนสูง การบริหารจัดการต้นทุนทำได้ยากขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการประสิทธิภาพตามแนวทางธุรกิจสีเขียว เพื่อให้กำไรสูงสุดภายใต้เงื่อนไขการปล่อยคาร์บอนต่ำสุด   นายพิชิต กล่าวต่อว่า  จากที่เห็นจุดอ่อนสำคัญของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย  SME D Bank ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐเดินหน้ายกระดับพัฒนาศักยภาพให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ผ่านบริการ “เติมความรู้คู่เงินทุน” ช่วยเสริมศักยภาพในหลากหลายรูปแบบ เพื่อช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ปิดจุดอ่อนใน 3 ด้านดังกล่าว สำหรับด้านการพัฒนาผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน จัดโครงการพัฒนาทั้งออนไซต์ควบคู่ออนไลน์ เช่น โครงการ “ทุนก็มี ภาษีก็รู้ ก้าวสู่ความยั่งยืน” จับมือกรมสรรพากร   ให้ความรู้ด้านการเงิน ในรูปแบบ One Stop Service ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โครงการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยี โครงการสนับสนุนด้านการตลาด เช่น สอนการสร้างคอนเทนต์ด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ กิจการ SME D Market รวมถึง Business Matching ช่วยเพิ่มรายได้ขยายตลาด เป็นต้น อีกทั้ง มีบริการแพลตฟอร์ม DX by SME D Bank (dx.smebank.co.th) ช่วยเพิ่มศักยภาพธุรกิจครบวงจร ใช้บริการได้สะดวกสบาย ตลอด 24 ชม. เช่น  E-Learning รวบรวมหลักสูตรความรู้เพิ่มศักยภาพการประกอบธุรกิจ ทั้งการบริหารจัดการธุรกิจ นวัตกรรม เทคโนโลยี มาตรฐาน การตลาด การเงิน และเตรียมพร้อมเข้าถึงแหล่งเงินทุน  , SME D Coach ที่ปรึกษาและให้คำแนะนำธุรกิจจากโค้ชมืออาชีพ  , E-marketplace ช่วยขยายช่องทางขยายตลาด และเชื่อมโยงจับคู่ธุรกิจ และ Privilege สิทธิประโยชน์เพื่อยกระดับธุรกิจ เป็นต้น ควบคู่กับให้บริการด้านการเงิน ช่วยให้มีสภาพคล่องเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อลงทุน ปรับปรุง ขยายกิจการ  หมุนเวียน หรือลดต้นทุนทางการเงิน เป็นต้น  จุดเด่นอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3%ต่อปี  คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน  ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถแจ้งความประสงค์ใช้บริการด้านการพัฒนาและการเงินได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น  แพลตฟอร์ม DX by SME D Bank , LINE Official Account : SME Development Bank และเว็บไซต์ www.smebank.co.th  เป็นต้น  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357   

24 May 2025

...

  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  เดินหน้าสร้างโอกาสเพิ่มรายได้ขยายตลาดให้แก่ลูกค้าธนาคาร โดยเฉพาะกลุ่มลูกหนี้ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (Special Mention : SM) และผู้ประกอบการกลุ่มเปราะบางจากหน่วยงานพันธมิตร   รวมถึง ยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดจับจ่ายใช้สอย ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง  โดยจัดโครงการ  “SME D Market” เปิดพื้นที่บริเวณชั้น 1  สำนักงานใหญ่ SME D Bank อาคาร SME Bank Tower ให้ผู้ประกอบการมาออกบูธจำหน่ายสินค้าเป็นประจำทุก 2 เดือน ครั้งละ 2 วัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยครั้งนี้ กำหนดจัดในวันที่ 24-25 เมษายน 2568  นี้  เวลา 8.00-16.00 น.  ยกทัพผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกว่า 50 ราย   มาออกบูธพร้อมมอบโปรโมชันรับหน้าร้อนให้ช้อป ชิมอย่างจุใจ  ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องใช้ และเครื่องประดับ  เช่น “ดองบัง” แซลมอนดองซีอิ๊วเกาหลี  , ข้าวมันไก่  “โกป๊อก , โคขุน “จ้าวอาม” เจ้าดังบางขุนนนท์ , น้ำมะพร้าวปั่นนมสด “Coco Layer”  และ ยาสีฟัน “DentaMate” เป็นต้น  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357   

23 Apr 2025

...

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) เดินหน้าให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ด้วยการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อใช้ในการฟื้นฟูกิจการที่ได้รับความเสียหายให้สามารถประกอบอาชีพหรือดำเนินธุรกิจต่อได้ โดยสามารถยื่นขอสินเชื่อดังกล่าวได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2568 – 30 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่าวงเงินโครงการจะหมด   นางสาวดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ธนาคารกรุงศรี ตระหนักถึงความเดือดร้อนและความเสียหายของผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เราขอส่งกำลังใจไปยังทุกท่าน และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างผู้ประกอบการ SME ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ โดยนอกเหนือจากมาตรการช่วยเหลือที่ทางธนาคารกรุงศรีได้นำเสนอให้กับลูกค้าสินเชื่อ SME ของธนาคารไปแล้วก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการลดค่างวดหรือพักเงินต้นสูงสุด 6 เดือน กรุงศรียังพร้อมสนับสนุนสินเชื่อ SME เพื่อผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแนวทางการช่วยเหลือเพิ่มเติมสำหรับ SME ทุกกลุ่ม ทุกขนาด ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติแผ่นดินไหว เพื่อใช้ในการปรับปรุงซ่อมแซมร้านค้าหรือสถานประกอบการ หรือในกรณีที่มีทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบกิจการเสียหาย และต้องการซื้อทรัพย์สินทดแทน รวมทั้งเป็นเงินทุนเพื่อสนับสนุนให้กิจการสามารถกลับมาดำเนินงานต่อได้โดยเร็วที่สุด” สินเชื่อ SME เพื่อผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว เป็นการสนับสนุนเงินทุนให้กับทั้งลูกค้าสินเชื่อ SME ของธนาคารกรุงศรี และลูกค้าใหม่ ในรูปแบบของวงเงินกู้ระยะยาว (Term Loan) ผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 10 ปี วงเงินสูงสุดไม่เกิน 40 ล้านบาท ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ เริ่มต้น 3.5% ต่อปี นาน 24 เดือน โดยมีหลักทรัพย์เป็นประกันสินเชื่อ “กรุงศรีพร้อมเป็นแรงสนับสนุนให้ทุกธุรกิจสามารถฟื้นตัวและเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง เราเชื่อมั่นในพลังของผู้ประกอบการไทย และพร้อมอยู่เคียงข้างในทุกย่างก้าว เพื่อช่วยให้ทุกธุรกิจสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ไปได้” นางสาวดวงกมล กล่าวปิดท้าย สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจ สินเชื่อ SME เพื่อผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว (ลูกค้าสินเชื่อของธนาคารกรุงศรีและลูกค้าใหม่) สามารถติดต่อสอบถามข้อมูล หรือแจ้งความประสงค์ได้ที่ผู้ดูแลความสัมพันธ์ลูกค้าของธนาคาร หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา หรือศูนย์บริการลูกค้าธุรกิจกรุงศรี โทร.02-626-2626 และสำหรับลูกค้าของธนาคารกรุงศรีและบริษัในเครือ ที่ต้องการขอรับความช่วยเหลือผ่านมาตรการช่วยเหลืออื่น ๆ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.krungsri.com/th/about-krungsri/about-us/overview/announce/earthquake-mar2025  

17 Apr 2025

ราชการ - รัฐวิสาหกิจ /ENERGY - พลังงาน

...

กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ร่วมกับ Institutional Investor จัดงาน Thailand Global Investment Workshop 2025 โดยมีนายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และ Mr. Alastair Hills, Head of Asia-Pacific, Institutional Investor ให้เกียรติกล่าวต้อนรับ ภายในงานมีผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์การลงทุนของ กบข. พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจากบริษัทชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์และแลกเปลี่ยนมุมมองเชิงกลยุทธ์ ภายใต้บริบทการลงทุนท่ามกลางสถานการณ์ความผันผวนทางด้านภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจทั่วโลก ครอบคลุมประเด็นสำคัญ อาทิ แนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคและการจัดสรรสินทรัพย์ การบริหารสินทรัพย์ลงทุนตามภูมิภาค และมุมมองการลงทุนใน Private Market เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถนำข้อมูลไปประยุกต์ และปรับแนวทางการลงทุนให้สอดรับกับเป้าหมายระยะยาวอย่างมีประสิทธิภาพ    

11 Jul 2025


...

  นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เห็นชอบให้ธนาคารออมสินจัดทำมาตรการแก้ไขหนี้รายย่อยในโครงการของรัฐบาลที่ออกมาช่วยประชาชนในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อรายย่อยไม่มีหลักประกัน ที่มีสถานะหนี้เสีย (NPLs) จำนวนรวมกว่า 500,000 บัญชี ให้สามารถหลุดพ้นจากประวัติหนี้เสีย โดยธนาคารจะดำเนินการทันทีเพื่อที่ในอนาคตลูกหนี้จะมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้เร็วขึ้นเมื่อมีความจำเป็น โดยแบ่งการดำเนินการเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ดำเนินการปิดบัญชีหนี้ ตัดหนี้สูญ และไม่ติดตามหนี้ ของลูกหนี้ NPLs จำนวนกว่า 200,000 บัญชี ในโครงการสินเชื่อตามนโยบายรัฐที่ได้รับงบประมาณชดเชยแล้ว ระยะที่ 2 ธนาคารจะทยอยดำเนินการปิดบัญชีหนี้แก่ลูกหนี้ NPLs โครงการสินเชื่อสู้ภัย COVID-19 จำนวนกว่า 300,000 บัญชี ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2568 ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมาธนาคารได้จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยสำหรับมาตรการปลดหนี้สินเชื่อตามโครงการของรัฐบาลที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้แล้วเป็นจำนวนกว่า 1.3 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดหนี้รวมกว่า 11,000 ล้านบาท โดยธนาคารออมสินสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้รายย่อย และช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางให้สามารถประคับประคองสถานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวให้เดินต่อได้ มุ่งเน้นดำเนินการเพียงครั้งเดียวเพื่อไม่ให้ลูกหนี้ต้องเสียวินัยทางการเงิน และยังสามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินได้อีกในอนาคต  

07 Jul 2025

...

นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ร่วมเป็นวิทยากรหลักสูตรนักบริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน (นบส.รง.) รุ่นที่ 3 ในหัวข้อ "การบริหารเชิงกลยุทธ์ในหน่วยงาน  ชั้นนำ" ซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบผสมผสาน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับผู้เข้าร่วมอบรม ณ โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ รัชดาฯ   โดยนายทรงพล กล่าวว่า กบข. มีหน้าที่บริหารกองทุนที่เกี่ยวข้องกับเงินของข้าราชการที่เป็นสมาชิก กบข. ซึ่งการเป็นผู้นำองค์กรต้องเริ่มจากพันธกิจและเป้าหมาย วิเคราะห์สถานการณ์ภายนอก และสำรวจความต้องการสมาชิก เพื่อกำหนดนโยบายดำเนินงาน ภายใต้วิสัยทัศน์ Freedom for living เกษียณมีสุข มุ่งให้สมาชิก กบข. ได้ผลตอบแทนดี มีความมั่นคงปลอดหนี้ และมีความสุขหลังเกษียณ พร้อมใส่ใจคุณภาพชีวิตพนักงานในองค์กร พร้อมแลกเปลี่ยนแนวคิดการบริหารองค์กร เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมสามารถนำไปต่อยอดพัฒนาเป็นกลยุทธ์การบริหารงานขององค์กรต่อไป      

26 Jun 2025

...

  นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ในฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ครั้งที่ 2/2568 ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงจากสถาบันการเงินของรัฐ ผู้แทนจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ซึ่งมีธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม โดยที่ประชุมได้รับทราบการดำเนินงานของสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ในประเด็นที่สำคัญ ได้แก่ การมอบนโยบายสถาบันการเงินของรัฐ หนุนธุรกิจรับมือมาตรการภาษีทางการค้า-กระตุ้นเศรษฐกิจ ผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการทั้ง 7 ด้าน ประจำไตรมาส 1/2568 ความคืบหน้าการดำเนินโครงการบูรณาการข้อมูลเพื่อการกำกับดูแล (Regulatory Data Transformation : RDT) สำหรับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงกระบวนการจัดทำ Customer Profiling และการเข้าร่วมแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (Thai CAC) ณ ห้องอัญชัน-สุพรรณิการ์ อาคารเอ็กซิม ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568  

07 Jun 2025

...

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ขานรับนโยบายนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมกรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาท จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ (DC3) เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) ให้กลับมามีความสามารถในการผ่อนชำระเงินงวดได้ตามปกติ เพื่อรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและเงินงวด นานสูงสุด 1 ปี ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการผ่าน Application : GHB ALL BFRIEND และสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน – 31 ธันวาคม 2568   นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากการที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบนโยบายให้สถาบันการเงินของรัฐ ช่วยเหลือภาคธุรกิจไทยที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายกำแพงภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 256 และมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ ให้มีความสามารถในการผ่อนชำระเงินงวด เพื่อรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป ดังนั้น ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” จึงขานรับนโยบายดังกล่าว โดยการช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ให้กับลูกค้าธนาคาร จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ (DC3) สำหรับลูกค้ากลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปีให้กลับมามีความสามารถในการผ่อนชำระเงินงวดได้ตามปกติ เพื่อรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป โดยมีรายละเอียด ดังนี้             เดือนที่ 1 – 6      : คิดอัตราดอกเบี้ย 6 เดือนแรก 0% ต่อปี โดยผ่อนชำระเงินงวดเพียง 1,000 บาทต่อเดือน             เดือนที่ 7 - 9      : ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 1.90 % +100 บาท             เดือนที่ 10 -12   : ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 3.90 % +100 บาท                                       กรณีลูกค้าชำระเกินที่ธนาคารกำหนดให้นำไปตัดดอกเบี้ยค้างชำระ (หากมี) “การจัดทำมาตรการ DC3 ของ ธอส. ในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยลูกค้ารักษาบ้านของตนเองแล้ว ยังเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของไทยให้ปรับตัวลดลงได้ด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลและกระทรวงการคลังให้ความสำคัญ ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวควบคู่ไปกับการจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อรองรับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐ ฯ ซึ่ง ธอส. ได้จัดทำสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำรองรับการปล่อยสินเชื่อใหม่ให้ได้ไม่น้อยกว่า 240,000 ล้านบาทในปีนี้” นายกมลภพ กล่าว   อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ธอส. มีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ กลุ่มลูกค้า NPL อีกจำนวน  4 มาตรการ นอกจากนี้ ธอส. ยังดำเนินการตามนโยบายกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการเปิดขยายเวลาการเข้าร่วม “โครงการคุณสู้ เราช่วย” ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เพื่อช่วยลูกหนี้ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 5 ล้านบาท ทำสัญญาก่อนวันที่ 1 มกราคม 2567 ซึ่งเป็นกลุ่มลูกหนี้ที่ไม่ค้างชำระหรือค้างชำระไม่เกิน 30 วัน แต่เคยมีประวัติการค้างชำระเกิน 30 วัน ก่อนวันที่ 1 พฤศจิกายน  2567 และได้รับการปรับโครงสร้างหนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ให้ได้รับความช่วยเหลือต่อเนื่อง และยังจัดทำมาตรการช่วยเหลือเพื่อบรรเทา ความเดือดร้อนให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมาด้วย ลูกค้าที่สนใจเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ (DC3) สามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการผ่าน Application : GHB ALL BFRIEND และสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน – 31 ธันวาคม 2568 โดยแสดงหลักฐานการได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพ / ธุรกิจ / การค้า หรือจากสภาวะทางเศรษฐกิจ เพื่อประกอบการพิจารณา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th  

02 Jun 2025

...

SME D Bank ขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงการคลัง จับมือหน่วยงานพันธมิตร ดำเนินโครงการ “พาแบงก์รัฐมาช่วยราษฎร์” ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในพื้นที่เข้าถึงแหล่งทุน วงเงินกว่า 30,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3%ปีแรก ผ่อนนาน 10 ปี ควบคู่เสริมแกร่งธุรกิจ ปลุกพลังเศรษฐกิจไทย   นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  กล่าวว่า  จากนโยบายของนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่มอบแนวทางการทำงานให้สถาบันการเงินของรัฐภายใต้กำกับ จับมือกันลงพื้นที่ไปช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในท้องถิ่นต่าง ๆ ให้เข้าถึงการสนับสนุนจากรัฐบาล โดยเฉพาะด้านการเงิน ซึ่งจะสร้างประโยชน์ เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ เงินทุนหมุนเวียนในท้องถิ่น ดังนั้น SME D Bank   ร่วมกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)  จัดโครงการ  “พาแบงก์รัฐมาช่วยราษฎร์” ณ จ.ขอนแก่น  เพื่อนำบริการจาก 3 หน่วยงานมาสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีถึงพื้นที่อย่างครบถ้วนในจุดเดียว      ในงานนี้ SME D Bank ได้นำสินเชื่อเพื่อเอสเอ็มอีไทย วงเงินรวมกว่า 30,000 ล้านบาท  ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจและทุกความต้องการของเอสเอ็มอีมาให้บริการ จุดเด่นอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3%ต่อปี  คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน  ได้แก่  1.สินเชื่อ “SME Green Productivity” วงเงินกู้สูงสุด 10 ล้านบาท  สนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีลงทุนติดตั้งเครื่องจักร ระบบ อุปกรณ์ เพื่อใช้พลังงานสะอาด ดีต่อธุรกิจและดีต่อโลก 2.สินเชื่อ "ปลุกพลัง SME"   วงเงินกู้ต่อรายสูงสุด 1.5 ล้านบาท สนับสนุนผู้ประกอบการรายเล็กเข้าถึงแหล่งทุน และ 3.สินเชื่อ "Beyond ติดปีก SME"  วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท สนับสนุนให้เอสเอ็มอีเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจ     นอกจากนั้น ยังให้บริการด้านการพัฒนาธุรกิจผ่านแพลตฟอร์ม DX by SME D Bank (dx.smebank.co.th) สามารถใช้บริการได้สะดวกสบาย ตลอด 24 ชม. มีฟีเจอร์สำคัญ ๆ  เช่น Business Health Check ระบบตรวจประเมินสุขภาพธุรกิจ , E-Learning รวบรวมหลักสูตรความรู้สำคัญ ช่วยเพิ่มศักยภาพการประกอบธุรกิจ  , SME D Coach ที่ปรึกษาและให้คำแนะนำธุรกิจจากโค้ชมืออาชีพ และ Privilege สิทธิประโยชน์เพื่อยกระดับธุรกิจ เป็นต้น  นอกจากนั้น สนับสนุนด้านการตลาดผ่านกิจกรรมต่างๆ  เช่น พาออกบูธ และจับคู่ธุรกิจ เป็นต้น     ภายในงานได้รับเกียรติจาก  นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธี และกล่าวปาฐกถาพิเศษ  อีกทั้ง มีการมอบป้ายสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในพื้นที่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจาก SME D Bank  รวมถึง  การออกบูธให้คำปรึกษา และแนะนำเข้าถึงแหล่งทุน  โดยมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และใกล้เคียง  เข้าร่วม     ทั้งนี้ SME D Bank พร้อมหน่วยงานพันธมิตร จะดำเนินการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง  สามารถแจ้งความประสงค์เข้ารับบริการด้านการเงิน และการพัฒนาได้ ณ สาขา SME D Bank ทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น LINE Official Account : SME Development Bank  และเว็บไซต์ www.smebank.co.th  เป็นต้น  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357    

31 May 2025

...

  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แจ้งเตือนลูกค้าหลังพบมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ากลุ่มแพลตฟอร์มออนไลน์ในการหารายได้พิเศษต่าง ๆ เพื่อชักจูงลูกค้าธนาคารให้เปิดบัญชีใหม่  โดยมีข้อความการเสนอผลตอบแทนที่สูง ซึ่งปัจจุบันพบว่าบัญชีเงินฝากลูกค้าบางรายเข้าข่ายถูกใช้ทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บัญชีม้า) ส่งผลให้  เกิดความเสียหายต่อลูกค้าเป็นจำนวนมาก จึงขอให้เกษตรกรลูกค้าและประชาชนทั่วไปอย่าหลงเชื่ออย่างเด็ดขาด รวมถึงไม่เปิด บัญชีธนาคารในนามตนเองให้บุคคลอื่นไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คนรู้จักหรือบุคคลที่ไม่คุ้นเคย และระมัดระวังในการให้ข้อมูลส่วนตัว ในสื่อออนไลน์หรือเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ พร้อมทั้งไม่ให้เอกสารสำคัญ เช่น บัตรประชาชน สมุดบัญชีธนาคาร เพราะอาจถูกกลุ่ม มิจฉาชีพหลอกให้เปิดบัญชีม้าและนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้ในทางมิชอบจนทำให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งธนาคารจะดําเนินการ   รวบรวมข้อมูลและดำเนินการเอาผิดตามขั้นตอนทางกฎหมายกับผู้ที่แอบอ้างในลักษณะดังกล่าวต่อไป พร้อมกันนี้ ธ.ก.ส. ขอย้ำเตือนให้ลูกค้าเพิ่มความระมัดระวังในการติดต่อหรือทำธุรกรรมออนไลน์ เนื่องด้วยปัจจุบันมิจฉาชีพมีรูปแบบการหลอกลวงที่หลากหลาย หากไม่แน่ใจในข้อมูลที่ได้รับมา โปรดติดต่อธนาคารโดยตรง หรือสอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ BAAC ศูนย์รับแจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพ Call Center : 02 555 0555 กด 111  ได้ตลอด 24 ชม. และติดตามข้อมูลและข่าวสารด้านผลิตภัณฑ์และบริการผ่านช่องทางการสื่อสารหลักของธนาคาร ได้แก่ เว็บไซต์www.baac.or.th Facebook Page “ธกส BAAC Thailand” LINE Official: @baacfamily และTikTok: baacthailand 

30 May 2025

TECHNOLOGY-AUTO-PROPERTY

...

นิสสันเพิ่มทางเลือกให้กับนิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูงยอดนิยม 3 รุ่นย่อยใหม่ ได้แก่ รุ่นคิงแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT รุ่นดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 6 MT และรุ่นดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT ที่มาพร้อมสมรรถนะแบบ “ทน พร้อม ลุย” กับราคาที่โดนใจ ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้น โทชิฮิโระ ฟูจิคิ ประธานนิสสัน ประเทศไทย และนิสสัน อาเซียน กล่าวว่า “นิสสัน นาวารา เป็นหนึ่งในรถกระบะยอดนิยมรวมถึงรถยนต์รุ่นหลักของนิสสันตลอดหลายปีที่ผ่านมา ด้วยความเชื่อถือ และวางใจได้ กับความทนทาน และมากด้วยประโยชน์ใช้สอย พร้อมดีไซน์ทันสมัย การเปิดตัวนิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูง 3 รุ่นย่อยใหม่นี้ จะเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่กำลังมองหารถกระบะที่ “ทน พร้อม ลุย” ได้เป็นเจ้าของรถกระบะที่สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์ ทั้งการเดินทางสำหรับทุกคนในครอบครัว หรือการใช้งานในด้านธุรกิจ ภายใต้ราคาที่ดีมากๆ” นิสสัน นาวารา ทั้ง 3 รุ่นย่อยใหม่ มาพร้อมราคาที่เร้าใจ ได้แก่ คิงแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT ราคา 758,000 บาท ดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 6MT ราคา 792,000 บาท ดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT ราคา 842,000 บาท   โดยทั้ง 3 รุ่น มาพร้อมสมรรถนะ และความทรงพลัง ในแบบฉบับของรถกระบะยกสูง ด้วยเครื่องยนต์ที่เรียกแรงบิดมหาศาลได้ตั้งแต่ 1,500 รอบต่อนาที โดยรุ่นคิงแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT และ ดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ให้พละกำลัง 190 แรงม้า (PS) แรงบิดมหาศาล 450 นิวตัน-เมตร (Nm)  ขณะที่รุ่น ดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 6MT มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.3 ลิตร เทอร์โบแปรผัน ให้พละกำลัง 160 แรงม้า (PS) แรงบิด 403 นิวตัน-เมตร (Nm) ด้วยพละกำลัง สมรรถนะการใช้งาน และความอเนกประสงค์ ทำให้นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูงเหมาะสำหรับการใช้งานทั้งทางธุรกิจ และการเดินทางสำหรับครอบครัว นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูงทั้ง 3 รุ่นย่อยใหม่ มาพร้อมกระจังหน้าสีดำเสริมความดุดัน กันชนสีเดียวกับตัวรถ ตกแต่งด้วยขอบสีดำสุดเท่ และล้อขนาด 17 นิ้ว นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูง 3 รุ่นย่อย ในเกรด SL ยังมาพร้อมความทนทาน ให้ความมั่นใจในทุกสภาพการขับขี่ด้วยสมรรถนะอันโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของนิสสัน นาวารา  ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ ปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลงด้านหลังเป็นแหนบพร้อมโช้คอัพ ระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน และดรัมเบรกด้านหลัง ช่วยหยุดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้จะบรรทุกน้ำหนักมากก็ตาม นอกจากนี้ ยังคงให้ความอุ่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist - HSA) ที่ช่วยป้องกันไม่ให้รถไหลถอยหลังขณะออกตัวบนเนิน ระบบเบรก ABS พร้อม EBD และ BA  ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เทคโนโลยีป้องกันการลื่นไถลขณะถนนลื่น (Active Brake Limited Slip - ABLS)  เทคโนโลยีควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamic Control - VDC)  เทคโนโลยีป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System – TCS)   เทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพของรถ ขณะลากจูง (Trailer Stability Assist - TSA) แผงลวดไล่ฝ้ากระจกหลัง  ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ที่ให้ความปลอดภัย และมองเห็นได้ชัดเจน  และเข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง พร้อมระบบดึงกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติ นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ ทั้ง 3 รุ่นใหม่ เพิ่มความสะดวกสบายและปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise control) ระบบ Push Start และกุญแจรีโมทอัจฉริยะ มีสีตัวถังภายนอกให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีดำ Black Star  สีขาว White Pearl สีเงิน Brilliant Silver สีเทา Twilight Grey และสีทองแดง Forged Copper ทั้งนี้ นิสสันมอบโปรโมชั่นพิเศษฉลองเปิดตัว* สำหรับลูกค้านิสสัน นาวาราทั้ง 3 รุ่นย่อยใหม่ เพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ผ่อนสบาย รายเดือนเริ่มต้นเพียง 4,999 บาท หรือดอกเบี้ยอัตราพิเศษเริ่มต้นที่ 0.89%  พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง หรือเงินดาวน์ต่ำเริ่มต้นเพียง 19,999 บาท ผ่อนนาน 84 เดือน ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมนิสสันทั่วประเทศ หรือ โทร. 0-2401-9600

11 Jul 2025


...

นิสสัน ประเทศไทย จัดงานประชุมผู้จำหน่ายประจำปี 2568 ในธีม “Achieve Together” ขอบคุณผู้จำหน่ายทั่วประเทศที่ได้ร่วมกันสร้างความสำเร็จในปีที่ผ่านมา และตอกย้ำความมุ่งมั่นที่มีต่อประเทศไทย และผู้จำหน่าย ร่วมเดินหน้าสนับสนุนพัฒนาผู้จำหน่ายทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตไปด้วยกัน ผ่านการบริการ และการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ และความพึงพอใจของลูกค้า เสริมสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น    ผู้จำหน่ายเป็นพันธมิตรที่มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจ และความแข็งแกร่งของแบรนด์  นิสสันอย่างต่อเนื่องมาตลอด นิสสันจึงได้จัดงานประชุมผู้จำหน่ายประจำปีเพื่อขอบคุณผู้จำหน่ายที่ได้ทำงานร่วมกัน และทุ่มเทเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าชาวไทย รวมทั้งยืนยันความมุ่งมั่นของนิสสันที่จะสร้างการเติบโตไปพร้อมกับพันธมิตรผู้จำหน่ายทั่วประเทศ กิจกรรมดังกล่าวเปิดโอกาสให้ผู้บริหารนิสสันได้พบปะกับผู้จำหน่าย ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกลยุทธ์ของนิสสัน เทรนด์การตลาด และแนวทางที่จะช่วยให้ผู้จำหน่ายสามารถพัฒนาการบริการ เพื่อยกระดับความพึงพอใจของลูกค้า  ในการประชุมผู้จำหน่ายประจำปี 2025 นิสสันได้ย้ำหัวใจสำคัญของ RE:NISSAN ซึ่งเป็นกลยุทธ์ระดับโลกที่นิสสันประกาศโดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจของนิสสันโดยรวม พร้อมทั้งชี้แจงทิศทางธุรกิจของนิสสันประเทศไทย โดยเป็นการวางแนวทางธุรกิจในประเทศ ทั้งนี้ นิสสันประเทศไทยยังได้เปิดเผยแผนการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ล่วงหน้า เพื่อให้ผู้จำหน่ายมีเวลาเตรียมความพร้อมอย่างเพียงพอสำหรับการเปิดตัว และสามารถส่งมอบความตื่นเต้นรูปแบบใหม่ให้กับลูกค้าชาวไทยได้อย่างต่อเนื่อง โทชิฮิโระ ฟูจิคิ ประธาน นิสสัน ประเทศไทย และนิสสัน อาเซียน กล่าวว่า “นิสสันให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับพันธมิตร และผู้จำหน่ายของเรา ตลอดเวลากว่า 72 ปี ที่ผ่านมา นิสสันอยู่ในประเทศไทย และประสบความสำเร็จมากมาย ซึ่งต้องขอขอบคุณการสนับสนุน และความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้จำหน่ายทุกท่าน และนิสสัน ประเทศไทย จะยังคงมุ่งมั่น เดินหน้าเพื่อสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจในประเทศไทยไปพร้อมกับพันธมิตร และผู้จำหน่ายทุกราย” เครือข่ายผู้จำหน่ายของนิสสันมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ของบริษัท เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน นิสสันได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้ายุคใหม่ เช่น ระบบดิจิทัลที่ถูกพัฒนาให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้คน เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น  โดยระบบเหล่านี้จะช่วยมาเสริมศักยภาพของผู้จำหน่ายในแง่การปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการได้ดียิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต

07 Jun 2025

...

 บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด จัดประชุมผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2568 ภายใต้แนวคิด “Redefining Excellence with Reliability and Trust - ยกระดับความเป็นเลิศ สู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน” แถลงทิศทางการดำเนินธุรกิจและเป้าหมายสำคัญร่วมกับผู้จำหน่ายครอบคลุม 3 ทิศทางหลัก ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และการจำหน่าย การบริการ และการสร้างแบรนด์ ภายใต้แนวคิดสำคัญในการเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer-centric approach) ด้วยการผนึกความร่วมมือกับผู้จำหน่าย เพื่อยกระดับประสบการณ์ที่น่าประทับใจแก่ลูกค้าในทุกทัชพอยต์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของฮอนด้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าและเติบโตเคียงคู่กับสังคมไทย พร้อมยกระดับสู่ความเป็นเลิศแห่งยนตรกรรมอย่างยั่งยืน   นายโคจิ อิวานามิ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวต้อนรับผู้จำหน่ายฯ รวมถึงถ่ายทอดความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนแบรนด์และผลิตภัณฑ์ฮอนด้าในประเทศไทย นายโคจิ อิวานามิ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ผมขอขอบคุณผู้จำหน่ายทุกท่านสำหรับความร่วมมือและการสนับสนุนตลอดปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ฮอนด้า สามารถบรรลุเป้าหมายสำคัญได้ สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้จะให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้า ผ่านการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจในทุกทัชพอยต์ โดยมีผู้จำหน่ายและบุคลากรของผู้จำหน่ายที่เปรียบเสมือนตัวแทนของแบรนด์ที่จะส่งมอบการบริการที่ยอดเยี่ยมไปสู่ลูกค้า เพื่อมอบคุณค่าที่เข้าถึงและผูกพันกับลูกค้าของเราอย่างยั่งยืนต่อไป” ภายในงาน ฮอนด้า ได้ถ่ายทอดทิศทางการดำเนินธุรกิจและเป้าหมายสำคัญกับเครือข่ายผู้จำหน่าย เพื่อตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการร่วมมือเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีเยี่ยมให้แก่ลูกค้า โดยผสานการต่อยอดพื้นฐานจุดแข็งปัจจุบันของฮอนด้า ทั้งด้านความเชื่อมั่นในแบรนด์ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ไลน์อัป e:HEV ที่โดดเด่น และด้านความพึงพอใจของลูกค้า สู่ทิศทางการดำเนินงาน 3 ด้านหลัก ครอบคลุมทั้งด้านผลิตภัณฑ์และการจำหน่าย การบริการ และการสร้างแบรนด์ ดังนี้ ด้านผลิตภัณฑ์และการจำหน่าย เน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้า ควบคู่ไปกับการส่งมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจในทุกเส้นทาง นำโดยไลน์อัปฟูลไฮบริด e:HEV ซึ่งได้รับการยอมรับและพิสูจน์อย่างกว้างขวางถึงความโดดเด่นทั้งด้านสมรรถนะทรงพลัง อัตราเร่งทันใจ การขับขี่ที่นุ่มนวล และอัตราประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม โดยฮอนด้ามีแผนขยายไลน์อัป e:HEV ให้หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ให้ได้สัมผัสกับรถยนต์ไฮบริดจากฮอนด้าอย่างเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น ตอกย้ำความเชื่อมั่นให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์การใช้รถยนต์ไฟฟ้า 100% ของฮอนด้า ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล โดยปัจจุบัน ฮอนด้า มีความพร้อมในการให้บริการและดูแลลูกค้ารถยนต์ Honda e:N1 ทั้งด้านศูนย์บริการที่ได้มาตรฐาน อะไหล่ และช่างผู้เชี่ยวชาญ ผ่านเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศ สะท้อนรากฐานความพร้อมที่มั่นคงในการก้าวเข้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต เครือข่ายผู้จำหน่ายฮอนด้าฯ ทั่วประเทศ ร่วมตอกย้ำความพร้อมในการให้บริการ และดูแลลูกค้ารถยนต์ Honda e:N1 ให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์ใช้รถยนต์ไฟฟ้า 100% ได้อย่างมั่นใจไร้กังวล 2. ด้านการบริการ ตั้งเป้าส่งมอบประสบการณ์ที่เป็นเลิศเน้นลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญแห่งการบริการ โดยมุ่งดูแลลูกค้าปัจจุบันเพื่อความพึงพอใจสูงสุด พร้อมสร้างความรู้สึกภูมิใจในการเลือกใช้รถยนต์ฮอนด้า ด้วยการส่งมอบคุณค่าที่เหนือกว่าตลอดการเป็นเจ้าของในทุกทัชพอยต์ อาทิ การบริการหลังการขายที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นผ่านประสบการณ์ในรูปแบบดิจิทัล การนำเสนอกิจกรรมสุดเอกซ์คลูซีฟให้เข้าร่วมตลอดปี รวมทั้งข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ มุ่งสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจในระยะยาว ด้วยจุดแข็งด้านเครือข่ายผู้จำหน่ายครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 222 แห่ง ที่พร้อมส่งมอบความประทับใจกับบริการหลังการขายภายใต้มาตรฐานเดียวกันโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ ให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าได้รับการบริการอย่างทั่วถึงและดีเยี่ยม และรู้สึกอุ่นใจที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวรถยนต์ฮอนด้า (Honda family) 3. ด้านการสร้างแบรนด์ ในปีนี้ ฮอนด้า ได้เริ่มสื่อสารแบรนด์ภายใต้แนวคิด “Where The Drive Means More ขับเคลื่อนชีวิตไปให้สุดในแบบที่เป็นคุณ” ที่ผสานการสะท้อนความมีรสนิยมและมีชีวิตชีวา เพื่อถ่ายทอดให้เห็นว่ารถยนต์ฮอนด้า เป็นมากกว่ายานพาหนะ เปรียบเสมือนเพื่อนคู่ใจที่วางใจได้ พร้อมเคียงข้างและขับเคลื่อนแรงบันดาลใจ เพื่อส่งมอบความสุขในทุกการเดินทางและทุกช่วงเวลาของชีวิต โดยจะโฟกัสการเสริมสร้างคุณค่าของแบรนด์ที่เชื่อมโยงกับประสบการณ์ในชีวิตประจำวันของลูกค้าในทุกทัชพอยต์ ซึ่งการสื่อสารแบรนด์ดังกล่าว จะได้รับการถ่ายทอดผ่านกิจกรรมต่าง ๆ โดยผู้จำหน่ายจะร่วมเป็นหัวใจสำคัญในการเชื่อมโยงและส่งมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจไปยังลูกค้า ผ่านกิจกรรมสุดเอกซ์คลูซีฟตลอดปี    นายชุน คุโรดะ กรรมการและเจ้าหน้าที่บริหารสายงานขายและบริการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงรายละเอียดทิศทางการดำเนินธุรกิจและเป้าหมายแก่ผู้จำหน่ายฯ   นอกจากการถ่ายทอดทิศทางการดำเนินธุรกิจและเป้าหมาย ภายในงานยังได้มีพิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติให้แก่ผู้จำหน่ายสำหรับผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาที่ร่วมขับเคลื่อนธุรกิจของฮอนด้า และมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้แก่ลูกค้า ครอบคลุมทั้งรางวัลผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมประจำปี รวมถึงรางวัลด้านต่าง ๆ อาทิ ด้านยอดขาย ด้านส่วนแบ่งการตลาด ด้านการบริการหลังการขาย และอื่น ๆ รวม 82 รางวัล   นายพรวุฒิ สารสิน (ที่ 6 จากซ้าย) ประธานคณะกรรมการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมมอบรางวัลผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมประจำปี 2567   พิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติให้แก่ผู้จำหน่ายสำหรับผลการดำเนินงานในปีงบประมาณที่ผ่านมา รวม 82 รางวัล   การจัดประชุมผู้จำหน่ายในครั้งนี้ นับเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของฮอนด้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการอย่างไม่หยุดนิ่ง ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อมุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้าไปอีกขั้น และสร้างความประทับใจตลอดการเป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้า พร้อมเติบโตเคียงข้างคนไทยและสานต่อพันธกิจในการเป็นองค์กรที่สังคมต้องการให้ดำรงอยู่ตลอดไปอย่างยั่งยืน

26 May 2025

...

นายกฤษณพงศ์ กิจสนาพิทักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM พร้อมผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่ ร่วมงานมหกรรมการเงินกรุงเทพ ครั้งที่ 25 MONEY EXPO 2025 BANGKOK ระหว่างวันที่ 15 – 18 พฤษภาคมนี้ โดยได้รับเกียรติจาก นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง  นายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ และนางสาวภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานร่วมในพิธีเปิดบูท SAM หมายเลข K6 อย่างเป็นทางการ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 – 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี   ทั้งนี้ ภายในบูทลูกค้าจะได้พบกับทรัพย์มือสองหรือทรัพย์สินรอการขาย (NPA) เพื่อที่อยู่อาศัยและเพื่อการลงทุน ทำเลที่ดี ราคาพิเศษทั่วไทย กว่า 4,000 รายการ พร้อมโปรโมชันพิเศษ อาทิ  “SAM Flash Day” แจก Gift Voucher มูลค่าสูงสุด 100,000 บาท โปร “ฟรี! ค่าโอนคนละครึ่ง” ไม่เกิน 1% สำหรับทรัพย์ที่มีราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท และ “ฟรี! โอนไม่อั้น” ไม่เกิน 2% สำหรับทรัพย์ที่มีราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป และบริการสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยพิเศษจากธนาคารชั้นนำ รวมถึงแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้ ของ SAM ได้แก่ มาตรการ “ปรับหนี้มีสุข ผ่อนดีมีลด”และ “SAM จูงใจ ชำระไวในเงื่อนไขสัญญายอม”  นอกจากนี้ ลูกค้าที่เป็นหนี้เสียประเภทบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน ที่มีหนี้ค้างชำระมากกว่า 120 วัน สามารถปรึกษาและรับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ พร้อมสมัครเข้าโครงการ “คลินิกแก้หนี้ by SAM” ได้อีกด้วย    

18 May 2025

...

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดงาน “ประมูลขายบ้านมือสองออนไลน์ ประจำเดือนเมษายน 2568” เมื่อวันศุกร์ที่ 4 เมษายน 2568 ระหว่างเวลา 12.00 - 12.30 น. พร้อมกันทั่วประเทศ ผ่าน  Application : GHB ALL HOME โดยสามารถจำหน่ายบ้านมือสองได้จำนวน 96 รายการ มูลค่ารวม 121.45 ล้านบาท แบ่งเป็น ทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 27 รายการ มูลค่ารวม 35.97 ล้านบาท และในส่วนภูมิภาค จำนวน 69 รายการ มูลค่ารวม 85.48 ล้านบาท โดยรายการทรัพย์ที่ประมูลได้ในราคาต่ำที่สุดเพียง 117,000 บาท เป็นทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม ขนาดเนื้อที่ 20.4 ตารางเมตร ในเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร และทรัพย์ที่ประมูลในราคาสูงสุด เป็นทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยว ขนาดเนื้อที่ 63 ตารางวา ในเขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร โดยประมูลขายได้ในราคา 3,530,000 บาท พิเศษ! ผู้ชนะการประมูลสามารถใช้ “ผลิตภัณฑ์สินเชื่อสำหรับซื้อทรัพย์ NPA พร้อมขายของธนาคาร” โดยได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด นานสูงสุด 24 เดือน (เงื่อนไขเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด) และหากทำนิติกรรมและโอนกรรมสิทธิ์ ภายในวันที่ 2 มิถุนายน 2568 จะได้รับส่วนลด On top เพิ่ม 15% อีกด้วย   โดยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 กด 5 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ดูข้อมูลบ้านมือสอง ธอส. ได้ที่ www.ghbhomecenter.com และ  Application : GHB ALL HOME  

17 Apr 2025

...

บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA ส่งบริษัทย่อย “อมิตา” ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) ร่วมกับ บริษัท โตโยต้า แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง แวร์เฮ้าส์ โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ TMHWST เปิดตัวผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคุณภาพสูง ภายใต้แบรนด์ TerraXell สำหรับรถฟอร์คลิฟต์ไฟฟ้า ยกระดับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ มุ่งเน้นการใช้พลังงานสะอาด   นายฉัตรพล ศรีประทุม (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA ส่งบริษัทย่อย บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด   ลงนาม MOU กับ นายจามีกร เผือกสุวรรณ (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้า แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง แวร์เฮ้าส์ โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด (TMHWST) นายฉัตรพล ศรีประทุม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ อมิตา ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ EA  ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) กับ บริษัท โตโยต้า แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง แวร์เฮ้าส์ โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ TMHWST เพื่อร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (Business Partner) โดยอมิตาดำเนินการพัฒนาแบตเตอรี่ต้นแบบ (Battery Prototype) พร้อมกับการออกแบบ การประกอบ การทดสอบแบตเตอรี่และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการศึกษาด้านเครื่องชาร์จประจุไฟฟ้า (Battery Charger) และระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) สำหรับใช้งานกับรถฟอร์คลิฟต์ไฟฟ้า นำไปสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ทดแทนการใช้แบตเตอรี่ตะกั่วกรดแบบดั้งเดิม TMHWST เป็นผู้พัฒนาตลาดสำหรับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ภายใต้แบรนด์ TerraXell เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และคลังสินค้าที่ต้องการเพิ่มผลิตภาพ ลดต้นทุนการใช้พลังงาน และเพิ่มความปลอดภัยในกระบวนการขนย้ายสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีกำหนดส่งมอบลอตแรกกว่า 100 ลูก ภายในเดือนมีนาคม 2568 พร้อมจำหน่าย-ให้เช่า และบริการหลังการขาย ด้วยแนวคิด "Lithium-ion Battery: The Key to More Productive Operations”   แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคุณภาพสูง แบรนด์ TerraXell สำหรับรถฟอร์คลิฟต์ไฟฟ้า   นายจามีกร เผือกสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้า แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง แวร์เฮ้าส์ โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด (TMHWST) กล่าวว่า ปัจจุบัน พลังงานสะอาดไม่ได้เป็นเพียงทางเลือก แต่เป็นพันธกิจสำคัญที่บริษัทชั้นนำให้ความสำคัญ เพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม TMHWST ในฐานะผู้นำด้านโซลูชันอินทราโลจิสติกส์และการจัดการคลังสินค้า ได้นำเสนอแบรนด์แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน TerraXell เพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมที่ต้องการทั้งประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความคุ้มค่าระยะยาว เสริมศักยภาพให้เครือข่ายธุรกิจเดินหน้าสู่อนาคตอย่างมั่นคง นายฉัตรพล ศรีประทุม กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับบริษัทชั้นนำอย่าง บริษัท โตโยต้า แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง แวร์เฮ้าส์ โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด ความร่วมมือครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพที่มีมาตรฐานระดับโลกของแบตเตอรี่ Amita ที่สามารถตอบโจทย์สำคัญในการขับเคลื่อนการใช้พลังงานสะอาดในอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ พร้อมความเป็นไปได้ในการรีไซเคิลแบตเตอรี่  และการเตรียมความพร้อมด้านคาร์บอนเครดิต”

28 Mar 2025

...

บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า SAM ได้คัดสรรทรัพย์มือสองหรือทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ในส่วนของทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยบนทำเลดีทั่วประเทศ พร้อมปรับลดราคาพิเศษ จำนวน 18 รายการ มูลค่ารวม 60 ลบ.ไม่ว่าจะเป็น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ห้องชุดพักอาศัย อาคารพาณิชย์ และที่ดินเปล่า เพื่อให้ผู้สนใจเข้าร่วมประมูลได้ในวันที่ 7 ม.ค. 2568 ทั้งนี้ ยังได้จัดโปรโมชัน “SAM ทรัพย์มือสองต้องบอกต่อ” เพียงแนะนำทรัพย์ SAM ให้กับเพื่อนหรือคนรู้จัก รับค่าแนะนำสูงสุดถึง 3 ล้านบาทต่อ 1 รายการ (เฉพาะทรัพย์ที่เข้าเงื่อนไข) และ SAM ยังร่วมกับธนาคารชั้นนำ ทั้งธนาคารกรุงเทพ ธนาคารยูโอบี ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต (ttb) ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด ตัวอย่างทรัพย์เด่นราคาพิเศษ 1.ทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ เนื้อที่ 27.7 ตร.ว. โครงการบ้านธรรมชาติ ถ.เพชรเกษม (ทล.4) แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพฯ ทรัพย์ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย ใกล้โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า โรงพยาบาลบุญญาเวช ห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เพชรเกษม 1 ห้างเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เพชรเกษม และห้างโฮมโปร เพชรเกษม ราคาเริ่มต้น 3 ลบ. 2.อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น มีชั้นลอย เนื้อที่ 25.3 ตร.ว. ถ.ติวานนท์ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทรัพย์ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย และพาณิชยกรรม การคมนาคมสะดวก สาธารณูปโภคครบครัน ใกล้โรงเรียนพระหฤทัยนนทบุรี โรงเรียนอนุบาลปาลินา ติวานนท์ และห้างโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ศรีสมาน จากราคา 6.3 ลบ.  ปรับลดลงมาประมาณ 6.7% เหลือราคาพิเศษเริ่มต้น 5.9 ลบ. 3.อาคารพาณิชย์ 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 นอน เนื้อที่ 39.6 ตร.ว. ถ.เทศบาลบำรุง ต.ท้ายช้าง อ.เมืองพังงา จ.พังงา ทรัพย์ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย และพาณิชยกรรม ใกล้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพังงา สหกรณ์ออมทรัพย์ครูพังงา สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดพังงา จากราคา 4.78 ลบ. ปรับลดลงมาประมาณ 12% เหลือราคาพิเศษเริ่มต้น 4.23 ลบ. 4.อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น เนื้อที่ 24.3 ตร.ว. จากราคา 8.33 ลบ. ปรับลดลงมาประมาณ  9% เหลือราคาพิเศษเริ่มต้น 7.64 ลบ. และอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น เนื้อที่ 20 ตร.ว.  จากราคา 8.5 ลบ. ปรับลดลงมาประมาณ 7.8% เหลือราคาพิเศษเริ่มต้น 7.88 ลบ. ทั้งสองทรัพย์ตั้งอยู่ในโครงการทรัพย์แสนล้าน ถ.ราชปาทานุสรณ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต  ใกล้สำนักงานเทศบาลเมืองป่าตอง โรงเรียนเทศบาลเมืองป่าตอง โรงพยาบาลป่าตอง สถานีตำรวจภูธรกระทู้  ห่างจากชายหาดป่าตองเพียง 2 กม. เท่านั้น การจัดประมูลครั้งนี้มีทรัพย์เด่นที่น่าสนใจในทำเลทั่วประเทศอีกหลายรายการ ผู้สนใจเข้าร่วมประมูล ลงทะเบียนและยื่นซองประมูล พร้อมเอกสารประกอบการประมูล ครั้งที่ 14 ภายในวันที่ 30 ธ.ค. 2567 และ กำหนดเปิดซองประมูลวันที่ 7 ม.ค. 2568 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ที่สำนักงานใหญ่ SAM อาคารซันทาวเวอร์ส ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ  หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1443 / 02-686-1888 และดูรายละเอียดทรัพย์สินได้ทางเว็บไซต์ที่ www.sam.or.th  รวมทั้งช่องทางออนไลน์ที่หลากหลายและสะดวกรวดเร็ว โดยแอด ID Line @Samline ติดตาม Facebook Fanpage ทรัพย์มือสองต้อง SAM หรือ SAM NPA Channel บน YouTube เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสารดี ๆ จาก SAM

26 Dec 2024

Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank โดย นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT HD เมื่อเร็ว ๆ นี้      

14 Jul 2025

...

  นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เห็นชอบให้ธนาคารออมสินจัดทำมาตรการแก้ไขหนี้รายย่อยในโครงการของรัฐบาลที่ออกมาช่วยประชาชนในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อรายย่อยไม่มีหลักประกัน ที่มีสถานะหนี้เสีย (NPLs) จำนวนรวมกว่า 500,000 บัญชี ให้สามารถหลุดพ้นจากประวัติหนี้เสีย โดยธนาคารจะดำเนินการทันทีเพื่อที่ในอนาคตลูกหนี้จะมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้เร็วขึ้นเมื่อมีความจำเป็น โดยแบ่งการดำเนินการเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ดำเนินการปิดบัญชีหนี้ ตัดหนี้สูญ และไม่ติดตามหนี้ ของลูกหนี้ NPLs จำนวนกว่า 200,000 บัญชี ในโครงการสินเชื่อตามนโยบายรัฐที่ได้รับงบประมาณชดเชยแล้ว ระยะที่ 2 ธนาคารจะทยอยดำเนินการปิดบัญชีหนี้แก่ลูกหนี้ NPLs โครงการสินเชื่อสู้ภัย COVID-19 จำนวนกว่า 300,000 บัญชี ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2568 ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมาธนาคารได้จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยสำหรับมาตรการปลดหนี้สินเชื่อตามโครงการของรัฐบาลที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้แล้วเป็นจำนวนกว่า 1.3 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดหนี้รวมกว่า 11,000 ล้านบาท โดยธนาคารออมสินสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้รายย่อย และช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางให้สามารถประคับประคองสถานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวให้เดินต่อได้ มุ่งเน้นดำเนินการเพียงครั้งเดียวเพื่อไม่ให้ลูกหนี้ต้องเสียวินัยทางการเงิน และยังสามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินได้อีกในอนาคต  

07 Jul 2025

...

    สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้ปรับปรุงแนวทางการคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัยสำหรับสัญญาประกันภัยระยะสั้น พร้อมทั้งทบทวนหลักเกณฑ์การคำนวณเงินกองทุนด้านความเสี่ยง เพื่อยกระดับความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันภัยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยมุ่งเน้นการพิจารณาข้อมูลในระดับประเภทการรับประกันภัยแทนการพิจารณาภาพรวมทั้งบริษัท เพื่อให้การประเมินภาระผูกพันและการจัดสรรเงินกองทุนมีความละเอียด แม่นยำ และสอดคล้องกับลักษณะความเสี่ยงที่แท้จริงยิ่งขึ้น โดยระหว่างวันที่ 6-21 มีนาคม 2568 สำนักงาน คปภ. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจและผู้เกี่ยวข้อง และจัดการประชุมชี้แจงไปเมื่อวันที่ 10-11 มีนาคม 2568 รวมทั้งได้จัดการประชุมกลุ่มย่อยเชิงเทคนิค (Focus Group) เสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 เพื่อรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ทั้งนี้ ในการประชุมฯ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงประกาศที่เกี่ยวข้องกับสำรองเบี้ยประกันภัย ได้แก่ 1. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการส่งรายงานประจำปีการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันวินาศภัย 2. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการส่งรายงานประจำปีการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต และ 3. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดประเภทและชนิดของเงินกองทุน รวมทั้งหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคำนวณเงินกองทุนของบริษัทประกันวินาศภัย สำหรับหลักการที่ได้มีการปรับปรุง คือ ปรับปรุงวิธีการคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัย และเงินกองทุนสำหรับความเสี่ยงจากสำรองเบี้ยประกันภัย จากเดิม พิจารณาที่ระดับผลรวมทั้งหมดของสัญญาประกันภัยระยะสั้น เปลี่ยนเป็น พิจารณาที่ระดับประเภทการรับประกันภัย  ซึ่งสำนักงาน คปภ. จะเผยแพร่ประกาศอย่างเป็นทางการในลำดับถัดไป เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกำหนดในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ดังนั้น บริษัทประกันภัยและผู้ที่เกี่ยวข้อง ควรเตรียมความพร้อมในการดำเนินการ เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ใหม่ได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่วันเริ่มมีผลบังคับใช้

07 Jul 2025

...

  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  ร่วมงาน “มหกรรมการเงินหาดใหญ่” ครั้งที่ 15 (MONEY EXPO 2025 HATYAI) ระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคม 2568 ณ บูธ F3 หาดใหญ่ฮอลล์ ชั้น 5 เซ็นทรัล หาดใหญ่ จ.สงขลา ยกขบวนผลิตภัณฑ์สินเชื่อครอบคลุมทุกกลุ่ม ตอบโจทย์ทุกความต้องการผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไฮไลท์ คือ สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่มและทุกความต้องการเอสเอ็มอีไทย ควบคู่บริการพัฒนาธุรกิจ ผ่านแพลตฟอร์ม “DX by SME D Bank” (dx.smebank.co.th)   ช่วยเสริมศักยภาพกิจการ ครบถ้วนในจุดเดียว ห้ามพลาด! พิเศษเฉพาะภายในงาน เมื่อยื่นขอสินเชื่อ และได้รับอนุมัติทุกวงเงิน รับโปรโมชันเสริมอีก 2 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 : ลดค่าธรรมเนียมวิเคราะห์สินเชื่อ (Front End Fee) สูงสุด 0.25% และต่อที่ 2 : รับบัตรกำนัล มูลค่า 500 บาท พร้อมเล่นเกม ลุ้นรับของที่ระลึกมากมาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

03 Jul 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner