Responsive image

Sunday, 07 Dec 2025

LATEST NEWS

INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต

...

บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับบริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมออกบูธในงาน Thailand Smart Money 2025 โดยได้รับเกียรติจากคุณวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย คุณรัฐกร อัสดรธีรยุทธ์ ประธานเครือหนังสือพิมพ์ดอกเบี้ย และคุณธรรมรดี ไพรพิรุณโรจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมเปิดบูธอย่างเป็นทางการ   ทิพยประกันภัยตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมประกันภัยไทย ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นประกันภัยรถยนต์ ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย รวมถึงประกันภัยสำหรับธุรกิจ SMEs สะท้อนความมุ่งมั่นในการมอบความอุ่นใจและความคุ้มครองที่คุ้มค่าสูงสุดให้กับลูกค้าในช่วงปลายปี ภายในงาน ทิพยประกันภัยได้จัดแคมเปญพิเศษภายใต้แนวคิด “คุ้มสุดขั้น ประกันสุดคุ้ม” มอบสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิ - ลดเบี้ยประกันภัยสูงสุด 23% - รับของสมนาคุณมูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท - บริการผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน - พิเศษสำหรับลูกค้าที่ต่ออายุประกันภัยทุกประเภท รับบัตรกำนัล Lotus’s มูลค่าสูงสุด 1,000 บาท ทิพยประกันภัยขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าชมบูธทิพยประกันภัย หมายเลข M2 ภายในงาน Thailand Smart Money 2025 ณ BCC Hall ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ตั้งแต่วันที่ 5 – 7 ธันวาคม 2568 เพื่อรับคำปรึกษาด้านประกันภัยและเลือกสรรความคุ้มครองที่เหมาะสม พร้อมรับโปรโมชันสุดพิเศษเฉพาะภายในงานเท่านั้น

07 Dec 2025


...

เมืองไทยประกันชีวิต (MTL) สร้างความภาคภูมิใจอีกครั้ง ด้วยการคว้ารางวัลระดับภูมิภาค “The Digital Insurance APAC 2025 – AI Initiative of the Year” จากผลงาน Chompoo Chatbot นวัตกรรมผู้ช่วยอัจฉริยะ สะท้อนความสำเร็จขององค์กรในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจในยุคดิจิทัล และยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรอย่างรอบด้าน นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “รางวัล The Digital Insurance APAC 2025 – AI Initiative of the Year จากผลงาน Chompoo Chatbot ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเมืองไทยประกันชีวิตในการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญขององค์กร เพื่อพัฒนาและสนับสนุนบุคลากรในสายงานตัวแทน ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของธุรกิจประกันชีวิต โดยมีเป้าหมายให้ตัวแทนทุกคนสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างมีคุณภาพ รวดเร็ว และแม่นยำมากยิ่งขึ้น” Chompoo Chatbot เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่พัฒนาโดยเมืองไทยประกันชีวิต เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยบริการข้อมูลของตัวแทนและนายหน้า บริการข้อมูลอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลิตภัณฑ์ การเคลม การพิจารณารับประกัน ไปจนถึงขั้นตอนการทำงานในทุกช่วงของอาชีพ ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้นเป็นตัวแทน จนถึงการปิดการขาย และช่วยแนะนำเอกสารที่ต้องใช้ ขั้นตอนการทำงาน และตอบทุกคำถามสำคัญที่ตัวแทนต้องรู้ได้ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเทคโนโลยี AI และ Natural Language Processing (NLP) ที่เข้าใจภาษาไทยได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้ “น้องชมพู” สามารถตอบสนองต่อการสื่อสารของผู้ใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ รวดเร็ว และแม่นยำในทุกบริบท   รางวัล “AI Initiative of the Year” ที่ได้รับในปีนี้ นับเป็นเครื่องยืนยันถึงความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมของเมืองไทยประกันชีวิต ที่ไม่เพียงมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีเพื่อความทันสมัย แต่ยังใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้าง “คุณค่า” ให้กับทั้งตัวแทนและลูกค้าในทุกมิติ  ทั้งด้าน นวัตกรรม (Innovation) ที่ตอกย้ำศักยภาพขององค์กรไทยในระดับภูมิภาค ด้าน การพัฒนาบุคลากร (People Development) ที่สะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเสริมพลังและยกระดับคุณภาพการทำงานของบุคลากร และด้าน ความยั่งยืน (Sustainability) ที่แสดงให้เห็นถึงแนวทางของบริษัทในการใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม พร้อมรักษาสมดุลระหว่างเทคโนโลยีกับคุณค่าของบุคลากรอย่างเหมาะสม      ทั้งนี้ นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดร.สุธี โมกขะเวส กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและพนักงานเมืองไทยประกันชีวิต ร่วมแสดงความยินดีในความสำเร็จครั้งสำคัญขององค์กร  โดยในโอกาสนี้ได้มอบหมายให้นางสาวพัชรินทร์ ประทีปธรรม รองกรรมการผู้จัดการ เป็นผู้แทนบริษัทฯ ขึ้นรับมอบรางวัลดังกล่าว ภายในงาน Digital Insurance APAC 2025 ซึ่งเป็นงานระดับโลกของวงการประกันภัย จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมและเชิดชูองค์กรที่มีความโดดเด่นด้าน “การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation)” ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการฮ่องกง (Hong Kong Convention and Exhibition Centre) เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน นายสาระ กล่าวสรุปว่า “เมืองไทยประกันชีวิต ยังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับกระบวนการทำงาน ตลอดจนสนับสนุนการเติบโตของตัวแทนและพนักงานทุกคนอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้วิสัยทัศน์ขององค์กรที่เชื่อมั่นว่า เมื่อคนทำงานด้วยคุณภาพและความสุข ลูกค้าก็จะได้รับความสุขจากการบริการที่ดีที่สุดเช่นเดียวกัน”   #muangthailife #เมืองไทยประกันชีวิต          

05 Dec 2025

...

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงิน จาก Standard & Poor’s หรือ S&P สถาบันการจัดอันดับทางการเงินชั้นนำของโลก ที่ระดับ A- และยืนหยัดมุมมองความน่าเชื่อถือ (Outlook) ของบริษัทฯ ที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable) ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีการบริหารจัดการที่ดี อีกทั้งยังเป็นผู้นำในธุรกิจประกันวินาศภัยที่ยังคงครองความแข็งแกร่งด้านเงินทุน ด้วยเงินกองทุนและสินทรัพย์ที่มั่นคง มีผลประกอบการที่ดี แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง ถือเป็นหนึ่งในบริษัทประกันวินาศภัยของประเทศไทยที่เข้มแข็ง และส่งเสริมสถานะทางการตลาดในธุรกิจประกันวินาศภัยได้อย่างมั่นคง

05 Dec 2025

...

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) มอบหมายให้นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการ ด้านกฎหมายและตรวจสอบ เป็นประธานการประชุม โดยมีนายคณานุสรณ์ เที่ยงตระกูล  ผู้ช่วยเลขาธิการ สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ พร้อมผู้แทนจากภาคธุรกิจประกันภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อ“กำหนดมาตรการช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้” ณ ห้องประชุมสถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง ชั้น 2 สำนักงาน คปภ. ถนนรัชดาภิเษก   นายอดิศรฯ ได้กล่าวว่า ภายหลังเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมากและสร้างความเสียหายต่อรถยนต์เป็นวงกว้าง สำนักงาน คปภ. ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง จึงได้ประสานความร่วมมือกับบริษัทประกันภัยทุกแห่ง เพื่อร่วมกันเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังและทันท่วงที โดยได้ขอความร่วมมือให้ทุกบริษัทประกันภัยจัดส่งรถยกเพื่อเคลื่อนย้ายรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายทุกคันโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และไม่จำกัดว่ารถคันนั้นจะทำประกันภัยกับบริษัทใด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นและช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือได้อย่างเท่าเทียม นายอดิศร ได้กล่าวต่อไปว่า สำหรับมาตรการด้านการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากเหตุอุทกภัย สำนักงาน คปภ. ได้กำหนดมาตรการต่าง ๆ ดังนี้ กรณีประกันภัยรถยนต์ (Motor) สำนักงาน คปภ. ได้กำชับให้บริษัทประกันภัยเร่งรัดการพิจารณาค่าสินไหมทดแทน  ให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้รับการเยียวยาอย่างทันท่วงที โดย 1) กรณีเสียหายสิ้นเชิง (Total Loss) บริษัทประกันภัยจะดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนภายใน 7 วันนับจากวันที่ได้รับเอกสารครบถ้วน โดยจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนเต็มตามทุนประกันที่ระบุไว้ในหน้าตารางกรมธรรม์ หากผู้เอาประกันภัยไม่ประสงค์คืนทุนประกันตามข้อเสนอของบริษัท ผู้เอาประกันภัยสามารถนำรถไปจัดซ่อมเองได้ โดยบริษัทประกันภัยจะดำเนินการจ่ายค่าซ่อมให้ไม่เกิน 70% (ร้อยละเจ็ดสิบ) ของทุนประกัน และคืนเบี้ยคงเหลือตามสัดส่วนจากการยกเลิกกรมธรรม์ให้แก่ผู้เอาประกันภัยด้วย 2) กรณีเสียหายบางส่วน (Partial Loss) บริษัทประกันภัยจะเร่งตรวจสอบ ประเมินความเสียหายและประสานงานกับอู่ซ่อมรถในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณรถที่ได้รับผลกระทบได้อย่างเพียงพอ และเร่งดำเนินการซ่อมแซมให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด สำหรับการประกันวินาศภัยประเภทอื่น (Non-Motor) ในเขตพื้นที่ประสบอุทกภัย หรือได้รับอิทธิพลของพายุ ตามรายงานสถานการณ์สาธารณภัยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย ให้พิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จำนวนเงิน 20,000 บาท และกรมธรรม์ประกันอัคคีภัย หรือกรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน ที่ให้ความคุ้มครองภัยน้ำท่วม ให้พิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จำนวนเงิน 30,000 บาท (ทั้งนี้ ไม่เกินจำนวนเงินความคุ้มครองที่คงเหลืออยู่ตามกรมธรรม์) สำหรับกรณีมีความเสียหายเกินจำนวนดังกล่าวที่ระบุไว้ ให้ผู้เอาประกันภัยส่งเอกสารหลักฐานเพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนตามเงื่อนไขกรมธรรม์และให้บริษัทประกันภัยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนภายใน 3 วัน นับแต่ได้รับเอกสารหลักฐานครบถ้วน ส่วนกรมธรรม์ประเภทอื่น ๆ ให้พิจารณาและเร่งรัดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนโดยเร็ว ภายใต้ระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงและทันท่วงที   สำหรับกรณีการตรวจสอบข้อมูลการเอาประกันภัยของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์อุทกภัยนั้น สำนักงาน คปภ. ได้การบูรณาการความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ นายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และ พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอรายชื่อและเลขบัตรประชาชนของผู้เสียชีวิตที่ผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว ซึ่งสำนักงาน คปภ. จะนำมาใช้ตรวจสอบสิทธิความคุ้มครองประกันภัย ผ่านระบบ IBS (Insurance Bureau System) และประสานไปยังบริษัทประกันภัย เพื่อเร่งให้มีการจ่ายสินไหมทดแทนกับผู้รับประโยชน์หรือทายาทได้เร็วที่สุด ทั้งนี้ ประชาชนที่มีญาติเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวก็สามารถติดต่อเพื่อตรวจสอบการมีประกันภัย ผ่านสายด่วน คปภ. 1186 ซึ่งในขณะนี้ เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความห่วงใยต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ โดยขอเน้นย้ำว่า การออกมาตรการครั้งนี้เป็นการดำเนินการเชิงรุกเพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างเต็มที่ มุ่งให้ผู้เอาประกันภัยได้รับการดูแล คุ้มครองและเยียวยาอย่างรวดเร็วที่สุด พร้อมทั้งกำกับติดตามการปฏิบัติงานของบริษัทประกันภัยทุกแห่งอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มาตรการทุกด้านเกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม และสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ได้รับผลกระทบได้อย่างแท้จริง สะท้อนความมุ่งมั่นของสำนักงาน คปภ. ในการยืนหยัดเคียงข้างประชาชนในทุกสถานการณ์

05 Dec 2025

...

กองทุนประกันวินาศภัยได้จัดโครงการ “กองทุนประกันวินาศภัยพบสื่อมวลชน ประจำปี 2568” ณ ห้องบอลรูม 1 ชั้น 2 โรงแรมชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพ เมื่อวันพุธที่ 3 ธันวาคม 2568 เพื่อเผยแพร่ผลการดำเนินงานตามภารกิจในรอบปี 2568 และรายงานสถานการณ์การชำระหนี้ตามสัญญาประกันภัยให้ประชาชนได้รับทราบอย่างถูกต้องและครบถ้วน รวมถึงทิศทางการดำเนินงานตามแผนงานที่จะขับเคลื่อนต่อในปี 2569 เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่น ให้ประชาชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในธุรกิจประกันวินาศภัย   ผลการดำเนินงานประจำปี 2568 ในปี 2568 กองทุนประกันวินาศภัยได้ปฏิบัติงานในฐานะผู้ชำระบัญชีของบริษัทที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย และบริหารจัดการภาระหนี้จากบริษัทที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตฯ รวมจำนวน 8 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จำนวน 5 บริษัท และบริษัทก่อนช่วงการระบาดอีก 3 บริษัท โดยมีข้อมูลตลอดปี 2568 ดังนี้ 1. กองทุนประกันวินาศภัยได้ขออนุมัติจ่ายเงินให้แก่เจ้าหนี้ซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้ที่เกิดจากการเอาประกันภัยปี 2568 รวมทั้งสิ้น 29,882 คำขอ คิดเป็นวงเงินประมาณ 1,333 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังมีภาระหนี้ที่ต้องดำเนินการ ต่ออีกประมาณ 790,000 ราย รวมมูลค่าประมาณ 70,000 ล้านบาท 2. กองทุนประกันวินาศภัยได้ยื่นเรื่องบริษัท บมจ.เจ้าพระยาประกันภัย เข้าสู่กระบวนการล้มละลายแล้ว ในปี 2568 3. เร่งรัดกระบวนการชำระบัญชีเกี่ยวกับการจำหน่ายทรัพย์สินทั่วประเทศ ในส่วนสังหาริมทรัพย์ ได้ร้อยละ 95 4. ด้านภารกิจประชาสัมพันธ์และการให้ความรู้แก่ประชาชน กองทุนประกันวินาศภัยได้จัดโครงการ สื่อสารเชิงรุกทั้งในส่วนภูมิภาคและส่วนกลางจำนวนมากถึง 12 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมรวม 1,065 ราย และมีระดับความพึงพอใจเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 94.29 ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จในการสร้างการรับรู้และความเข้าใจ   นอกจากนี้ กองทุนประกันวินาศภัยยังได้รับคะแนนประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สูงถึง 91.69 คะแนน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานการบริหารงานภาครัฐให้สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาล   แผนการดำเนินงานประจำปี 2569 สำหรับปี 2569 กองทุนประกันวินาศภัยคาดว่าจะสามารถเร่งรัดการพิจารณาคำทวงหนี้อีกไม่น้อยกว่า 3 แสนราย พร้อมทั้งมีแผนดำเนินโครงการบำรุงระบบคุ้มครองสิทธิเจ้าหนี้ เพื่อสร้างเสถียรภาพในการปฏิบัติงานและสนับสนุน การให้บริการแก่ประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ กองทุนประกันวินาศภัยอยู่ระหว่างดำเนินการจัดจ้างที่ปรึกษาเพื่อการบริหารภาระหนี้และเพื่อให้การดำเนินงานสามารถขับเคลื่อนได้อย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ รวมถึงเร่งจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตฯ ทั้งนี้ กองทุนประกันวินาศภัยยังคาดว่าจะมีการยื่นเรื่องบริษัท ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายเพิ่มได้อีก 1 บริษัทในปี 2569  

04 Dec 2025

...

เอไอเอ ประเทศไทย เดินหน้าสร้างแรงบันดาลใจให้คนเมืองหันมาดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง ด้วยการเปิดตัว “AIA Vitality รูปแบบใหม่” พร้อมแคมเปญกระตุ้นการขยับร่างกายในชีวิตประจำวัน ผ่านสื่อ Out Of Home (OOH) ทั่วกรุงเทพฯ ที่ออกแบบมาเพื่อให้ “สุขภาพดี เริ่มได้ตั้งแต่ก้าวแรก” หนึ่งในไฮไลต์สำคัญ คือสื่อบิลบอร์ดยักษ์บริเวณสถานีรถไฟฟ้าใจกลางกรุงเทพฯ ที่ได้ AIA Vitality Ambassador ‘หมาก ปริญ สุภารัตน์’ มาเติมพลังด้วยท่า “หัวใจสุขภาพดี” เพื่อชวนคนเมืองลุกขึ้นมาขยับแบบง่าย ๆ ในทุกวัน พร้อมส่งข้อความ “AIA Vitality รูปแบบใหม่ รวมสิทธิประโยชน์ให้คุณเลือกได้ทุกเดือน” ด้วย Monthly Rewards และ Vitality Bonus สูงสุด 20% ของเบี้ยประกันภัย* ให้คนไทยได้ทั้งความคุ้มค่าและสุขภาพดีไปพร้อมกัน ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’     นอกจากนี้ AIA Vitality ยังสร้างสีสันด้วย “บันไดสุขภาพ” ที่ปรากฏตัวตามจุดเดินเชื่อมรถไฟฟ้า นำเสนอจำนวนแคลอรีที่เผาผลาญได้ในแต่ละขั้น ชวนให้ทุกคนเลือกเดินมากขึ้น สนุกกับการขยับ และเห็นคุณค่าของการดูแลสุขภาพตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ ใกล้ตัว สะท้อนถึงแนวคิด ‘RETHINK HEALTHY’ สุขภาพดี ไม่ต้องยากอย่างที่คิด เพียงแค่เปลี่ยนพฤติกรรมเล็กน้อยในแต่ละวัน สามารถสร้างสุขภาพที่ดีได้ทันที     ทั้งนี้ เอไอเอ ประเทศไทย มุ่งมั่นต่อยอดสังคมสุขภาพดีของคนเมือง ด้วยโปรแกรม “AIA Vitality รูปแบบใหม่” สำหรับผู้ที่สนใจศึกษารายละเอียดได้ทางเว็บไซต์ https://www.aia.co.th/th/health-wellness/vitality หรือติดต่อตัวแทนประกันชีวิตเอไอเอ   หมายเหตุ:  * สิทธิประโยชน์กรมธรรม์และเงื่อนไขขึ้นอยู่กับแบบประกันที่เข้าร่วมโครงการ AIA Vitality หากไม่มีการเคลม

03 Dec 2025

...

บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำการเป็นผู้นำประกันชีวิต เปิดตัวโครงการ “KTAXA Advisor” Your Future,Your Way “ความสำเร็จ ในแบบที่เป็นคุณ” ที่มุ่งมั่นยกระดับบทบาทของตัวแทนประกันชีวิตให้ก้าวสู่มาตรฐานใหม่ของที่ปรึกษามืออาชีพด้านประกันชีวิต และการเงิน เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำด้านการให้คำปรึกษาด้านประกันชีวิต พร้อมรองรับความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายในปัจจุบัน คุณณัฐพิสิษฐ์ ครุฑครองชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า  “หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ขับเคลื่อนบริษัทฯ ให้ประสบความสำเร็จ คือ กลยุทธ์ของฝ่ายขายผ่านช่องทางตัวแทน ซึ่งในปีนี้เป็นปีแห่งการสนับสนุนและยกระดับให้ฝ่ายขายประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ หรือ “Bigger and Bolder” นอกจากนี้เรายังมุ่งมั่นในการมีลูกค้ามาเป็นที่หนึ่ง หรือ Customer First และอีกหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของบริษัทฯ คือการพัฒนาและเพิ่มจำนวนฝ่ายขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมา บริษัทฯ มีตัวแทนมืออาชีพมากกว่า 13,000 คน และบริษัทฯ มีการส่งเสริมตัวแทนให้ก้าวสู่การเป็นที่ปรึกษาด้านประกันชีวิต และการเงิน โดยตัวแทนที่ติดคุณวุฒิ AXA Prime ซึ่งเป็นคุณวุฒิสูงสุดระดับนานาชาติของแอกซ่า มีจำนวนมากกว่า 700 คน และมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี ซึ่งในปีนี้ บริษัทฯ ได้เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่และผู้ที่สนใจก้าวเข้าสู่อาชีพที่ปรึกษาด้านประกันชีวิต และการเงิน ภายใต้ชื่อโครงการ “KTAXA Advisor”  โดยพร้อมให้การสนับสนุนและพัฒนาทักษะต่างๆ อาทิ การฝึกอบรมที่เข้มข้นตลอดหลักสูตรผ่านทั้งระบบออนไลน์และออฟไลน์ สนับสนุนเครื่องมือดิจิทัลที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย อีกทั้งมุ่งมั่นยกระดับให้ฝ่ายขายประสบความสำเร็จในอาชีพ จนก้าวสู่การเป็นนักขายมืออาชีพ ในแบบที่เป็นตัวเอง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายหลักของบริษัทฯ ในการมีลูกค้ามาเป็นที่หนึ่ง และเคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป”   คุณชัยณรงค์ เอื้อสิทธิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายจัดจำหน่าย กล่าวเสริม “สำหรับโครงการ KTAXA Advisor เป็นโครงการใหม่ของฝ่ายขายผ่านช่องทางตัวแทน ซึ่งมาจากวิสัยทัศน์อันมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่ต้องการยกระดับบทบาทของตัวแทนประกันชีวิต ให้ก้าวสู่มาตรฐานใหม่ของที่ปรึกษามืออาชีพด้านประกันชีวิต และการเงิน เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายในยุคดิจิทัลและเศรษฐกิจที่ซับซ้อนมากขึ้น โครงการดังกล่าวมุ่งเน้นในการสร้างมาตรฐานใหม่ของตัวแทนแบบเต็มเวลา ที่ทำหน้าที่เป็น ที่ปรึกษามืออาชีพด้านประกันชีวิตและการเงิน อย่างครบวงจร เพื่อช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายทางการเงินและสร้างความมั่นคงในทุกช่วงชีวิต โครงการแบ่งเป็น 2 ระดับ เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน คือ KTAXA Advisor สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นในอาชีพที่ปรึกษามืออาชีพด้านประกันชีวิต และการเงิน เป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างอาชีพ พร้อมเข้าร่วมหลักสูตรการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และมีทักษะการสื่อสารที่ยอดเยี่ยม โดยมีแผนรองรับรายได้ที่ 15,000 บาท/ เดือน KTAXA Advisor X สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ทางด้านการวางแผนทางการเงิน ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าระดับ KTAXA Advisor โดยมุ่งเน้นผู้ที่มีศักยภาพในการสร้างเครือข่าย และพร้อมรับบทบาทเป็นผู้นำทีมในอนาคต โดยผ่านการอบรมและการประเมินตามมาตรฐานที่เข้มข้น และมีแผนรองรับรายได้ที่ 30,000 บาท/เดือน บริษัทฯ เชื่อว่า เส้นทางสู่อนาคตความสำเร็จ ไม่มีสูตรเดียว สำหรับทุกคน แต่เรามีเส้นทางที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า แต่ละคน ล้วนมีเป้าหมายและวิธีการประสบความสำเร็จที่แตกต่างกัน ไม่ยึดติดกับสูตรตายตัว ตามสโลแกนที่ว่า Your Future, Your Way “ความสำเร็จ ในแบบที่เป็นคุณ”   คุณกฤช ธีรสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายตัวแทน กล่าวเพิ่มเติม “โครงการ KTAXA Advisor มี 3 จุดเด่นที่สำคัญ กล่าวคือ 1.ความสำเร็จที่เร็วกว่า โดยใช้เวลาเพียง  10 เดือน ซึ่งน้อยกว่าหลักสูตรทั่วไป แต่ยังคงความเข้มข้นและครบถ้วน เพื่อให้ตัวแทนพร้อมทำงานจริงในเวลาที่สั้นที่สุด 2. หลักสูตรดังกล่าว เป็นการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ หรือ Learning Community ที่ทุกคนมีส่วนร่วม ซึ่งครอบคลุมทั้งความรู้ด้านประกันชีวิต การวางแผนการเงิน การเล่นบทบาทสมมุติ หรือ Role Play และการ Coaching เพื่อให้มั่นใจว่าตัวแทนสามารถทำได้จริง อีกทั้งมีหลักสูตรที่ได้รับรองโดยสถาบันชั้นนำ ทั้งนี้ผู้จัดการหน่วยจะได้รับความสำเร็จไปพร้อมๆ กับผู้ที่เข้าร่วมโครงการ และ 3. การต่อยอดสู่การเป็นหัวหน้าหน่วย สร้างเส้นทางอาชีพที่มั่นคง พร้อมรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โครงการนี้ไม่ใช่แค่การสร้างตัวแทน แต่คือการสร้างที่ปรึกษามืออาชีพด้านประกันชีวิต และการเงิน และว่าที่เจ้าของธุรกิจ ซึ่งเราเชื่อว่าด้วย KTAXA Advisor และ KTAXA Advisor X จะทำให้ทุกคนมีเส้นทางอาชีพที่มั่นคง รายได้ที่เติบโต และโอกาสไร้ขีดจำกัด   สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ KTAXA Advisor สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานตัวแทนใกล้บ้านท่าน หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1159 หรือ www.krungthai-axa.co.th  

01 Dec 2025

ECONOMY- FINANCE / เศรษฐกิจ - การเงิน

...

นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า เนื่องในวาระครบรอบ 100 ปี วันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระราชทานกำเนิดคลังออมสินให้เป็นรากฐานการออมของคนไทย สู่การเป็นธนาคารออมสินในปัจจุบัน ธนาคารจึงออกผลิตภัณฑ์เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ “เงินฝาก 100 ปี วันมหาธีรราชเจ้า” เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมสืบสานพระราชปณิธานให้ประชาชนมีหลักประกันทางการเงินที่มั่นคง โดยเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินระยะสั้นพร้อมรับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นตามช่วงเวลา  “เงินฝาก 100 ปี วันมหาธีรราชเจ้า” กำหนดระยะเวลาฝาก 100 วัน อัตราดอกเบี้ยแบบ Step up เฉลี่ย 1.99% ต่อปี (เทียบเท่าเงินฝากประจำ 2.34% ต่อปี) โดยในช่วงวันที่ 98 - 100 ของการฝาก จะได้รับอัตราดอกเบี้ยสูงสุดถึง 25% ต่อปี เปิดรับฝากเฉพาะบุคคลธรรมดา โดยฝากได้ครั้งเดียว ขั้นต่ำ 10,000 บาท และสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาทต่อราย (1 คน ต่อ 1 บัญชี) ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนจองสิทธิ์ฝากเงินได้ตั้งแต่วันที่ 24 - 27 พฤศจิกายน 2568 หรือจนกว่าจะครบวงเงิน ผ่านช่องทางออนไลน์ของธนาคาร ได้แก่ เว็บไซต์ www.gsb.or.th, Line Official : @gsbsociety หรือแอปพลิเคชัน MyMo และนำหลักฐานการจองสิทธิ์ไปฝากเงินที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 25 - 27 พฤศจิกายน 2568 อนึ่ง การออกผลิตภัณฑ์เงินฝากดังกล่าวเป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้โครงการ “ออมสินน้อมรำลึก 100 ปี วันมหาธีรราชเจ้า” นอกเหนือจากกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ พิธีบำเพ็ญกุศล และพิธีบรรพชาอุปสมบท เพื่อให้ประชาชนร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ควบคู่กับการส่งเสริมวินัยการออมผ่านผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษในวาระสำคัญครั้งนี้

25 Nov 2025


...

นางสาววชิรา การสุทธิ์ รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มการตลาดเพื่อความยั่งยืน เป็นประธานเปิดกิจกรรม School Trip ในโครงการธนาคารโรงเรียน ธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ธนาคารจัดขึ้นเพื่อมอบเป็นสิทธิพิเศษสำหรับสถานศึกษาที่มีผลการดำเนินงานส่งเสริมการออมดีเด่น สามารถจูงใจให้นักเรียนนักศึกษามีปริมาณการออมเติบโตต่อเนื่อง โดยในปี 2568 นี้ ธนาคารจัดเส้นทางทัศนศึกษาโดยรถไฟขบวนพิเศษจากกรุงเทพฯ สู่แหล่งท่องเที่ยว อำเภอหัวหิน เพื่อให้นักเรียนและอาจารย์ของสถานศึกษาได้ร่วมกิจกรรมสันทนาการ เสริมทักษะทางสังคม และการทำงานเป็นทีม ผ่านฐานกิจกรรมสุดสนุกและสร้างสรรค์   พร้อมทั้งเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ทางการเงิน GSB Learning Center ที่ธนาคารออมสินริเริ่มจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจด้านการเงินและการออมแก่เยาวชน โดยมี "โค้ชการเงินมืออาชีพ" (Certified Money Coach by GSB หรือ CMC by GSB) จากธนาคารออมสิน มาร่วมถ่ายทอดความรู้และสร้างสีสันการเรียนรู้ด้านการเงินและการออมตลอดทริป ณ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทั้งนี้ ธนาคารออมสินมุ่งสานต่อภารกิจส่งเสริมการออมด้วยการสร้างเยาวชนนักออมอย่างต่อเนื่อง เพื่อปลูกฝังวินัยการเงินตั้งแต่วัยเรียนและสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนเป็นต้นแบบสู่สังคมแห่งการออมในอนาคต   สถานศึกษาใดสนใจเข้าร่วมโครงการธนาคารโรงเรียน ธนาคารออมสิน สามารถสมัครได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายส่งเสริมการออมและ CSR ธนาคารออมสิน โทร. 0 2299 8000 ต่อ 810712-3    

09 Nov 2025

...

นายไพศาล หงษ์ทอง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ขนโปรโมชันพิเศษพร้อมบริการการเงินแบบครบวงจรพบปะพี่น้องภาคเหนือเข้าร่วมงาน Money Expo เชียงใหม่ ครั้งที่ 20 อาทิ ผลิตภัณฑ์เงินฝาก – เงินฝากทองชมพูนุช ฝากเงินขั้นต่ำ 100,000 บาท รวมสูงสุดไม่เกิน 100 ล้านบาท ต่อราย จ่ายดอกเบี้ยเงินฝากล่วงหน้า ณ วันที่ฝากเงิน ร้อยละ 1.40 ต่อปี ระยะเวลาฝาก 7 เดือน สำหรับบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก เปิดรับฝากแล้วตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 4 ธันวาคม 2568 พิเศษ เมื่อฝากตั้งแต่ 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 1,000,000 บาท รับสิทธิ์จุ่ม Art Toy ชุดมังแมว จำนวน 1 จุ่ม (จำกัด 1 คนต่อสิทธิ์) และเมื่อฝากตั้งแต่ 1,000,000 บาทขึ้นไป รับ Art Toy ชุดมังแมว ครบเซต 4 ตัว (จำกัด 1 คน/สิทธิ์) เงินฝากแก้วมรกต ฝากเริ่มต้นเพียง 2,000 บาท รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยเงินฝาก แถมสิทธิประโยชน์ความคุ้มครองอุบัติเหตุสูงสุดถึง 25 เท่าของยอดเงินฝากคงเหลือ วงเงินคุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท เมื่อฝากตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป และคงยอดไว้ 3 เดือน พร้อมสมัครบัตรเดบิตแบบมีประกัน (พลอยไพฑูรย์ หรือบุษย์น้ำทอง) รับเพิ่มสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดมังกรหยก มูลค่า 100 บาท และด้านสลากออมทรัพย์ พบกับสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดขุนแผนมรกต หน่วยละ 2,000 บาท ลุ้นโชคใหญ่ทุกเดือน มูลค่า 40 ล้านบาท และรางวัลอื่น ๆ รวมมูลค่ากว่า 72 ล้านบาทต่อเดือน ถึง 24 ครั้ง เมื่อฝากครบ 2 ปี ได้รับดอกเบี้ยทันทีหน่วยละ 19 บาท หรือคิดเป็น 0.475% และฝาก 1,000 หน่วยขึ้นไป การันตีถูกรางวัลทุกงวด สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดมังกรหยก หน่วยละ 100 บาท ที่ให้ทั้งผลตอบแทนและสิทธิ์ลุ้นรางวัลใหญ่ทุกเดือน เมื่อฝากตั้งแต่ 1,000,000 บาทขึ้นไป รับสิทธิ์จุ่ม Art Toy ชุด AGRI ANIMAL (ทุย นกเอี้ยง ผึ้ง มด กบ ลิง ด้วงกว่าง และผีเสื้อ) จำนวน 1 จุ่ม (จำกัด 1 คน/สิทธิ์) ซึ่งเปิดตัว Art toy ตัวใหม่ “ผีเสื้อ” งานนี้เป็นครั้งแรก หรือเมื่อฝากสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดมังกรหยก หน่วยละ 100 บาท ชุดถุงเงิน หน่วยละ 100 บาท ชุดขวัญถุง หน่วยละ 20 บาท หรือสลากดิจิทัล ธ.ก.ส. หน่วยละ 50 บาท ตั้งแต่ 100,000 บาท แต่ไม่เกิน 590,000 บาท รับกระปุกออมทรัพย์ คุณ ME โชค รุ่นรวยเหลือแจก หรือเมื่อฝากตั้งแต่ 590,000 บาทขึ้นไป รับเลยกระเป๋าอเนกประสงค์ รุ่น Work Hard, Play Harder   นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์เงินฝากสงเคราะห์ชีวิต ทางเลือกในการออมเงินที่มาพร้อมความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี ที่พร้อมนำเสนอโปรโมชันพิเศษและแจกของสมนาคุณ ทั้งกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าเดินทางแม่ลูก จำนวน 1 เซต (ประกอบด้วย 2 ใบ คือ กระเป๋าเดินทาง 4 ล้อลาก ขนาด 20 นิ้ว และกระเป๋าเดินทางแบบหิ้ว ขนาด14 นิ้ว) เป็นต้น ในด้านสินเชื่อ พบกับผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลาย อาทิ สินเชื่อเงินด่วนสิบหมื่น สำหรับสมาชิก อสม. และ อสส. ที่เป็นสมาชิก ฌกส. อสม. วงเงินกู้รายละไม่เกิน 100,000 บาท (นับรวมวงเงินกู้เดิมโครงการสินเชื่อเงินด่วนคนดีและโครงการสินเชื่อเงินด่วนกึ่งแสน) อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 0.50 ต่อเดือน สินเชื่อเคหะเพื่อที่อยู่อาศัย สำหรับข้าราชการและพนักงานองค์กรในหน่วยงานที่มี MOU กับ ธ.ก.ส. วงเงินกู้รายละไม่เกิน 5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 5 ปีแรก เพียงร้อยละ 2.99 ต่อปี และสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์   เพื่อสนับสนุนให้บุคลากรที่เกษียณอายุสามารถสร้างรายได้จากการทำการเกษตร อัตราดอกเบี้ย 5 ปีแรก MRR - 2 ต่อปี     นอกจากโปรโมชันเงินฝากและบริการทางการเงินแล้ว ยังมีการจัดจำหน่ายสินค้าแกลมเกษตรสุดพรีเมียมจากเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. กว่า 70 รายการ ที่มาเปิดให้ผู้ที่สนใจได้เลือกช็อปอย่างเต็มที่ อาทิ ข้าวพร้อมทาน ตราอุ่นอิ่ม จาก สกต.ร้อยเอ็ด สะดวก พกพาง่าย เก็บได้ในอุณหภูมิห้องได้นานถึง 18 เดือน รับประทานได้ทันที ผงโรยข้าว สูตรผักเคลผสมปลาจากวิสาหกิจชุมชนวัยหวาน จากจังหวัดเพชรบุรี สำหรับโรยบนข้าวสวยร้อน ๆ เพิ่มรสชาติอาหารให้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น และเจลลี่สวนปทุมทิพย์ จ.ลำพูน เคี้ยวเพลิน หอม อร่อย ผลิตจากผลไม้แท้ 100% เป็นต้น ทั้งนี้ ภายในงาน ธนาคารยังนำผนังกระปุก ธ.ก.ส. แห่งความทรงจำ รวบรวมกระปุกออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันที่หาดูได้ยากมาให้ประชาชนได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกและเข้าร่วมกิจกรรมในบูธ เพื่อรับของที่ระลึกสุด Exclusive มากมาย ได้ที่บูธ ธ.ก.ส. ณ เชียงใหม่ ฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต วันที่ 7 – 9 พฤศจิกายนนี้  

08 Nov 2025

...

บริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ได้รับคะแนนการประเมินโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย ประจำปี 2568 (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies : CGR) ในระดับดีเลิศ (Excellent) หรือระดับ 5 ดาว จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ผลการประเมินดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักบรรษัทภิบาลที่ดี (Good Corporate Governance) โดยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้น ลูกค้า พนักงาน คู่ค้า ชุมชน และสังคมโดยรวม บีเคไอ โฮลดิ้งส์ มุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการให้สอดคล้องกับแนวทางสากล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย และขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ทั้งในมิติของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

06 Nov 2025

...

ธนาคารออมสิน เปิดตัวกระปุกออมสิน “แสงแห่งการออม” เนื่องในวาระวันออมแห่งชาติ 2568 ดีไซน์รูปแบบใหม่ที่มีลวดลายฉลุรอบตัวกระปุก เมื่อเปิดไฟจะมีแสงสว่างเปล่งประกายออกมารอบด้าน เปรียบเสมือนพลังแห่งการเริ่มต้นการออมที่ค่อย ๆ ส่องนำทางสู่ความมั่นคงทางการเงินและเป็นแรงบันดาลใจให้เริ่มออมตั้งแต่วันนี้ เพื่ออนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน ผู้ที่สนใจสามารถจองสิทธิ์ฝากเงินรับกระปุกออมสิน “แสงแห่งการออม” ได้ตั้งแต่วันที่ 27 – 30 ตุลาคม 2568 ผ่านเว็บไซต์ www.gsb.or.th, Line Official : GSB Society หรือแอปพลิเคชัน MyMo โดยฝากเงินตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป ได้ที่ธนาคารออมสินสาขา แอปพลิเคชัน MyMo หรือเครื่องรับฝากเงิน ADM พร้อมรับกระปุกออมสิน ณ ธนาคารออมสินสาขาที่ลงทะเบียนจองสิทธิ์ไว้ ในวันที่ 31 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน 2568 (จำกัด 1 คน ต่อ 1 สิทธิ์) ของมีจำนวนจำกัด   พร้อมกันนี้ ขอเชิญชวนร่วมเปิดมุมมองใหม่ของการออมในยุคดิจิทัล ในงาน “GSB SAVINGS FORUM 2025” ภายใต้แนวคิด “AI & AOM ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” วันที่ 31 ตุลาคม 2568 ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 6 อาคารออมสินพิพัฒน์ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ พบกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจในการใช้เทคโนโลยี AI กับ การออมมากมาย อาทิ เวทีมินิทอล์ก “ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” จากกูรูชื่อดัง การประกวดออกแบบ “กระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล” ด้วย AI รอบชิงชนะเลิศ และการเปิดตัว “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB รุ่นแรก รวมถึงสิทธิพิเศษสำหรับผู้ลงทะเบียนล่วงหน้าจะได้รับกระปุกออมสิน “แสงแห่งการออม” (จำนวนจำกัด) ลงทะเบียนร่วมงานได้ที่ https://www.zipeventapp.com/e/GSB-Savings-Forum-2025 หรือรับชมสดผ่านเพจเฟซบุ๊ก GSB Society    

28 Oct 2025

...

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) ตอกย้ำการเป็นธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืนที่มุ่งสร้างโอกาสทางการเงินอย่างเท่าเทียมให้กับคนไทยทุกกลุ่ม เดินหน้าสนับสนุนลูกค้ารายย่อยด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อครบวงจร พร้อมข้อเสนอพิเศษส่งท้ายปี ครอบคลุมทั้งสินเชื่อบุคคล สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ และสินเชื่อวงเงินพร้อมใช้ ภายใต้แนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการภาระทางการเงินได้อย่างเหมาะสมและมั่นใจ พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า “ในภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงมีความไม่แน่นอนจากหลายปัจจัย ทั้งต้นทุนการดำรงชีพที่สูงขึ้นและภาวะผันผวนในตลาดโลก กรุงศรีมุ่งมั่นทำหน้าที่เป็นพลังสนับสนุนสำคัญให้กับลูกค้ารายย่อย ด้วยการพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่เข้าถึงง่าย โปร่งใส และสอดคล้องกับความสามารถในการชำระคืนของลูกค้า เราเชื่อว่าการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบไม่เพียงช่วยลดความเปราะบางทางการเงินของครัวเรือน แต่ยังมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการบริโภค การลงทุน และการหมุนเวียนของเศรษฐกิจโดยรวม เพื่อสร้างแรงขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงในระยะยาว” ในโอกาสครบรอบ 80 ปี กรุงศรีได้รวบรวมผลิตภัณฑ์สินเชื่อคุณภาพหลากหลายประเภท เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในทุกช่วงจังหวะชีวิต พร้อมข้อเสนอพิเศษส่งท้ายปีในแคมเปญ “ทุกสินเชื่อ จัดมาครบ ที่กรุงศรี” ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2568 – 30 ธันวาคม 2568 ได้แก่ สินเชื่อบุคคลและสินเชื่อดิจิทัล Krungsri iFIN สำหรับลูกค้าที่ต้องการเงินก้อนเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน หรือต่อยอดโอกาสใหม่ๆ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่โปร่งใสและอนุมัติรวดเร็วผ่านช่องทางดิจิทัล ดอกเบี้ยเริ่มต้น 9.99% ต่อปี 3 เดือนแรก* สินเชื่อโฮมฟอร์แคช สินเชื่อบ้านและรีไฟแนนซ์ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ครัวเรือน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ “โฮมฟอร์แคช” ที่เปิดโอกาสให้เจ้าของบ้านเปลี่ยนสินทรัพย์เป็นทุนเพื่อใช้จ่ายหรือลงทุนในอนาคต รับดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมฟรี! ค่าประเมินหลักประกัน มูลค่า 3,210 บาท และค่าจดจำนองสูงสุด 200,000 บาท* สินเชื่อรถยนต์และมอเตอร์ไซค์จากกรุงศรี ออโต้ ครอบคลุมสินเชื่อรถใหม่และรถมือสอง ดาวน์น้อย ผ่อนสบาย พร้อมรับส่วนลด 0.10% จากอัตราดอกเบี้ยปกติ* และ “คาร์ฟอร์แคช” สำหรับผู้ที่ต้องการเสริมสภาพคล่องอย่างยืดหยุ่น อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ต่ำเริ่มต้น 0.24% ต่อเดือน* พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์เสริม เช่น ประกันคุ้มครองอะไหล่รถยนต์ กรุงศรี ออโต้ โพรเทค ราคาพิเศษ เฉพาะลูกค้าที่เข้าเงื่อนไขแคมเปญฉลองครบรอบ 80 ปี เท่านั้น* สินเชื่อวงเงินพร้อมใช้จากกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ มอบความสะดวกและยืดหยุ่นในการจัดการค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ได้แก่ บัตรกดเงินสดกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ เบิกถอนเงินสดทันใจ สมัครวันนี้ รับสิทธิ์กดเงิน 0% ไม่มีดอกเบี้ย สูงสุด 45 วัน ไม่มีค่าธรรมเนียมเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า 3%* และสินเชื่อเงินก้อนกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ สมัครวันนี้ รับเงินก้อนทันทีดอกเบี้ยพิเศษ สมัครง่าย รู้ผลอนุมัติไว ไม่มีค่าธรรมเนียมเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า 3%* “ด้วยความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยที่ยั่งยืน กรุงศรีพร้อมเดินเคียงข้างลูกค้าในทุกช่วงเวลาของชีวิต ผ่านการส่งเสริมพฤติกรรมทางการเงินที่ยั่งยืน และการเข้าถึงสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อช่วยให้พวกเขาก้าวข้ามความท้าทาย และสร้างการเติบโตที่มั่นคงและคุณค่าที่ยืนยาวต่อสังคมไทย” นายสยาม กล่าวปิดท้าย   ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ https://www.krungsri.com/th/campaigns/all-loan หรือ Krungsri Call Center 1572 หรือ กรุงศรี ออโต้ คอล เซ็นเตอร์ โทร 02-740-7400 หรือ ศูนย์บริการสมาชิกบัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ 02-345-6789 และสาขาธนาคารกรุงศรีอยุธยาทั่วประเทศ *กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว • สินเชื่อส่วนบุคคลกรุงศรี อัตราดอกเบี้ย 21% - 25%  ต่อปี • สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรีไฟแนนซ์ อัตราดอกเบี้ย 3.830% - 5.732% ต่อปี สินเชื่อกรุงศรีโฮมฟอร์แคช อัตราดอกเบี้ย 6.086% - 9.645% ต่อปี ดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก 5.50% ต่อปีสำหรับวงเงินกู้ตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 18 ส.ค. 68 = 6.870% ต่อปี ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ • กรุงศรี คาร์ฟอร์แคช อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก 5.47% - 15% ต่อปี กรุงศรี นิว คาร์ อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก    3.62% - 9.61% ต่อปี กรุงศรี ยูสด์ คาร์ อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก 7.34%-14.70% ต่อปี และกรุงศรี บิ๊ก ไบค์ อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก 6.28% - 23% ต่อปี  • บัตรเครดิตเฟิร์สช้อยส์ : ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี • สินเชื่อส่วนบุคคลเฟิร์สช้อยส์ : อัตราดอกเบี้ยปกติ 25% ต่อปี, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 3% - 25% ต่อปี ศึกษาเงื่อนไข อัตราดอกเบี้ยพิเศษ โปรโมชัน และรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.krungsri.com กรุงศรี บิ๊กไบค์ ให้บริการสินเชื่อโดย บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยามุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน รับผิดชอบต่อสังคม และสนองความต้องการของลูกค้าให้ดีที่สุด  

23 Oct 2025

...

นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินในฐานะสถาบันการออมของคนไทย ตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านการส่งเสริมการออมและให้ความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ธนาคารจึงถือโอกาสในการจัดงานวันออมแห่งชาติ วันที่ 31 ตุลาคม 2568 ยกระดับสู่ GSB SAVINGS FORUM 2025 ภายใต้แนวคิด “AI & AOM ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” เพื่อให้เป็นเวทีในการสื่อสารด้านการออมและจุดประกายการผสานพลังเทคโนโลยี “AI” (Artificial Intelligence) เข้ากับ “AOM” (การออม) อย่างสร้างสรรค์ผ่านกิจกรรมสำคัญ อาทิ มินิทอล์ก “ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” โดยกูรูและเซเลบริตี้ชื่อดัง การประกวดออกแบบ “กระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล” ด้วย AI รอบชิงชนะเลิศ ตลอดจนการเปิดตัว “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB โดยงาน GSB SAVINGS FORUM 2025 ในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีแรก และธนาคารตั้งเป้าจัดเป็นงานประจำทุกปีในวันออมแห่งชาติ เพื่อขับเคลื่อนภารกิจหลักของธนาคารในการให้ความรู้ทางการเงินและเป็นเวทีหลักด้านการส่งเสริมการออมแก่สังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ภายในงานพบกับไฮไลท์ เวทีมินิทอล์ก “ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” เวทีแห่งแรงบันดาลใจจากคนดังหลากหลายเจน ที่จะมาแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์วางแผนการออมและการเงินส่วนบุคคลในโลกดิจิทัล อาทิ คุณหนุ่ย-พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ คุณตั๊ก-มยุรา เศวตศิลา และ คุณธนัชภรณ์ นิชิยาม่า ร่วมสร้างสีสันการเสวนาโดย คุณป๋อมแป๋ม-นิติ ชัยชิตาทร พร้อมรับชมการแข่งขันพรอมพ์ AI เพื่อออกแบบ “กระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล” รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นการแข่งขันของผู้ผ่านเข้ารอบ 50 คน จากผู้ส่งผลงานกว่า 700 ผลงาน โดยธนาคารจัดการประกวดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีในการสร้างแรงบันดาลใจด้านการออม ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 100,000 บาท ตัดสินโดยกูรูวงการ AI และผู้เชี่ยวชาญจากแวดวงโฆษณาชั้นนำของประเทศ อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญคือการเปิดตัว “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB ที่ธนาคารออมสินได้ริเริ่มจัดทำโปรแกรมสร้างผู้เชี่ยวชาญวางแผนการเงิน ร่วมพัฒนาหลักสูตรโดยผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการให้ความรู้ทางการเงิน การออม การลงทุน และการวางแผนเกษียณ โดยมีพนักงานออมสินที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบทั้งข้อเขียนและภาคปฏิบัติ ได้รับการรับรองคุณวุฒิเป็น “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB รุ่นแรก รวม 44 ราย ที่จะทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ทางการเงิน และส่งเสริมให้ประชาชนมีการออมอย่างมีเป้าหมาย ซึ่งพนักงานที่ผ่านการทดสอบในโปรแกรมนี้ จะได้รับการติดเข็มวิทยฐานะ CMC สำหรับใช้แสดงตนเพื่อเป็นการรับรองความรู้ความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป  นอกจากนี้ ธนาคารยังเปิดตัวกระปุกออมสิน “แสงแห่งการออม” ในวาระวันออมแห่งชาติ ดีไซน์ล้ำด้วยลูกเล่นมีไฟส่องสว่างในตัว สำหรับผู้ฝากเงิน 500 บาทขึ้นไป ลงทะเบียนจองสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ www.gsb.or.th, Line Official : GSB Society หรือ แอปพลิเคชัน MyMo ตั้งแต่วันที่ 27 – 30 ตุลาคม 2568 และเปิดให้ฝากเงินได้ที่ธนาคารออมสินสาขา แอปพลิเคชัน MyMo หรือเครื่องรับฝากเงิน ADM พร้อมรับกระปุกออมสิน ณ ธนาคารออมสินสาขาที่ลงทะเบียนจองสิทธิ์ไว้ ในวันที่ 31 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน 2568 (จำกัด 1 คน ต่อ 1 สิทธิ์) ของมีจำนวนจำกัด สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน GSB SAVINGS FORUM 2025 ในวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 6 อาคาร 32 ชั้น ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ สามารถลงทะเบียนได้ทางระบบออนไลน์ https://www.zipeventapp.com/e/GSB-Savings-Forum-2025 ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2568 โดยผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้าจะได้รับกระปุกออมสิน “แสงแห่งการออม” (จำนวนจำกัด) หรือรับชมการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางเพจเฟซบุ๊ก GSB Society

23 Oct 2025

SOCIETY / ภาพข่าว - สังคม - CSR

...

สำนักงา สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ร่วมกับภาคอุตสาหกรรมประกันภัย ระดมพลังภาคส่วนต่าง ๆ ส่งมอบเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ โครงการ “ธารน้ำใจช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้” ของศูนย์อำนวยการช่วยเหลือเครือข่ายวายุภักษ์ กระทรวงการคลัง โดยมี นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. เป็นผู้แทนรับมอบ เพื่อเป็นสื่อกลางในการส่งต่อความช่วยเหลือให้ถึงมือผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็วและทั่วถึง ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ สำนักงาน คปภ. ถนนรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่าการดำเนินการครั้งนี้สำนักงาน คปภ. จับมือภาคอุตสาหกรรมประกันภัยรวมพลังประกันภัยส่งต่อความห่วงใย” โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญเพื่อสนับสนุนมาตรการของกระทรวงการคลังและรัฐบาล ในการ “ช่วยเหลือ” ควบคู่กับมาตรการ “เยียวยา” และ “ฟื้นฟู” เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนและกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาโดยเร็วที่สุด โดยสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน ทั้งในด้านบรรเทาทุกข์ การลดภาระค่าใช้จ่ายเบื้องต้น และการเสริมสร้างความมั่นใจว่าภาคการเงินและการประกันภัยจะเคียงข้างประชาชนในทุกสถานการณ์ การระดมความช่วยเหลือครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากภาคธุรกิจประกันภัยรวมทั้งสิ้น 29 แห่ง ประกอบด้วย สำนักงาน คปภ. สมาคมด้านการประกันภัย 4 สมาคม บริษัทประกันชีวิต 10 แห่ง บริษัทประกันวินาศภัย 7 แห่ง และบริษัทประกันภัย 7 แห่ง โดยได้นำเครื่องอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่ม ยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์สำรองไฟ และสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ ขนย้ายโดยรถบรรทุกและทางเครื่องบินเพื่อส่งมอบให้แก่ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือเครือข่ายวายุภักษ์ ของกระทรวงการคลัง เพื่อนำมอบให้แก่หน่วยงานกระทรวงการคลังในพื้นที่ และจัดสรรให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่าง ๆ ของภาคใต้ เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน คปภ. และภาคธุรกิจประกันภัยมีความห่วงใยต่อความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมส่งกำลังใจและยืนยันว่าอุตสาหกรรมประกันภัยจะทำงานอย่างเต็มกำลัง เพื่อเร่งรัดการจ่ายค่าสินไหมทดแทน และอำนวยความสะดวกด้านประกันภัยในทุกขั้นตอน เพื่อให้ประชาชนและผู้เอาประกันภัยได้รับความคุ้มครอง และการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วที่สุดในสถานการณ์ดังกล่าว โดยหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186   

05 Dec 2025


...

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ลงพื้นที่เยี่ยมและให้กำลังใจลูกค้าและพนักงาน ธ.ก.ส. ผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยได้มอบถุงยังชีพพร้อมสิ่งของจำเป็น อาทิ ข้าวพร้อมทานตราอุ่นอิ่ม ที่สามารถรับประทานได้ทันที สะดวก สะอาด ปลอดภัย พกพาง่าย โดยไม่ต้องอุ่น และสามารถเก็บรักษาได้ในอุณหภูมิห้องนานถึง 18 เดือน น้ำดื่ม ธ.ก.ส. อาหารกระป๋องและผ้าห่ม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและป้องกันอากาศหนาวเย็นเบื้องต้น และยังเดินหน้าดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่องผ่านโครงการช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟู ผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ตามนโยบายรัฐบาล ได้แก่   1) โครงการช่วยเหลือ : พักเงินต้น ยกดอกเบี้ยให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ โดยพักชำระต้นเงินและยกเว้นดอกเบี้ย 1 ล้านบาทต่อราย เป็นระยะเวลา 12 เดือน สำหรับบุคคลทั่วไปและเกษตรกรรายย่อยที่มีสถานะเป็นลูกหนี้บัญชีปกติ และบัญชีลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างปรับปรุงโครงสร้างหนี้และสามารถชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยลูกหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ ยังคงชั้นหนี้เดิมตลอดระยะเวลาการพักชำระหนี้ โดยสามารถยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึง 31 มกราคม 2569   2) โครงการสินเชื่อเพื่อเยียวยา สำหรับลูกค้าเดิมที่เป็นลูกหนี้สถานะบัญชีปกติที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ 12 จังหวัด ให้สามารถกู้เพิ่มได้รายละไม่เกิน 100,000 บาท ดอกเบี้ย 0% เป็นระยะเวลา 12 เดือน และปีที่ 2-3 อัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 6.625% ต่อปี) ระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 3 ปี เพื่อเสริมสภาพคล่องเกษตรกรในด้านค่าใช้จ่ายทั่วไปและค่าลงทุนในการประกอบอาชีพ เช่น ค่าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น โดยสามารถยื่นคำขอเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึง 31 มีนาคม 2569     และ 3) โครงการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟู สำหรับผู้กู้ที่มีสถานะบัญชีปกติ วงเงินสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อรายหรือตามศักยภาพลูกค้า อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน ปีถัดไปอัตราดอกเบี้ย MRR-1 และปีที่ 4 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย MRR ระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 15 ปี เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย โรงเรือนการเกษตร เครื่องมือ เครื่องจักรกลการเกษตร รวมถึงการฟื้นฟูการผลิตที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติหรือภัยพิบัติให้ลูกค้าสามารถฟื้นตัวและกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติโดยสามารถยื่นคำขอเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึง 30 มิถุนายน 2569 สำหรับเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ผู้ประสบภัยสามารถแจ้งความประสงค์เพื่อขอรับการช่วยเหลือตามมาตรการได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile     ทั้งนี้ ธ.ก.ส. พร้อมอยู่เคียงข้างเกษตรกรลูกค้าให้สามารถก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน โดยเตรียมมอบหมายให้พนักงานในพื้นที่ดำเนินการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่อยู่อาศัย ทรัพย์สินและพื้นที่การเกษตรของลูกค้า ทำการรวบรวมข้อมูลเพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือและลดภาระหนี้สินต่อไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาในพื้นที่ หรือ Call Center 02 555 0555 ตลอด 24 ชั่วโมง  

05 Dec 2025

...

บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต รักคือพลังของชีวิต โดย คุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO) ส่งพลังความรักและเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้  มอบถุงยังชีพ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค และของใช้จำเป็น เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยมี คุณอรรถพล อรรถวรเดช รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นผู้รับมอบ ณ อาคาร 150 ปี กระทรวงการคลัง OCEAN LIFE ไทยสมุทร เดินหน้าช่วยเหลือสังคม ภายใต้แนวคิด LOVE MINDSET ซี่งมี Love the World การรักษ์โลกและดูแลสังคม สร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน เพื่อส่งเสริมให้เกิดความสุขที่ยั่งยืน ตอกย้ำการเป็นบริษัทประกันชีวิตที่พร้อมดูแลคนไทยให้ก้าวผ่านทุกวิกฤตด้วยพลังความรัก สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ocean.co.th หรือ ติดต่อ OCEAN LIFE CONTACT CENTER  1503

30 Nov 2025

...

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยนางสาวปวีณา จูชวน (ขวา) ผู้อำนวยการใหญ่ มอบเงินจำนวน 250,000 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ผ่านสภากาชาดไทย โดยมีนายขรรค์ ประจวบเหมาะ (ซ้าย) ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย เป็นผู้รับมอบ ณ สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 การมอบเงินช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นหนึ่งในมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบภัยและลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ โดยบริษัทฯ ยังมีมาตรการช่วยเหลือด้านอื่นๆ เช่น การจัดทำถุงยังชีพเพื่อส่งไปยังพื้นที่ประสบภัยในจังหวัดสงขลา การเชิญชวนพนักงานบริษัทฯ และผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินเพื่อสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงการตั้งจุดบริการแจ้งเคลมสินไหมทดแทนเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในพื้นที่ประสบภัย ทั้งนี้ กรุงเทพประกันภัยขอแสดงความห่วงใยและเป็นกำลังใจให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุภัยพิบัติดังกล่าว และสำหรับลูกค้าที่ประสบภัยสามารถแจ้งเคลมสินไหมทดแทนประกันภัยทรัพย์สินและประกันภัยรถยนต์ หรือรับบริการรถยกเพื่อเคลื่อนย้ายรถได้ที่ช่องทางดังนี้ - LINE @bangkokinsurance - โทร. 1620 ตลอด 24 ชั่วโมง

30 Nov 2025

...

นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ธนาคารออมสินขานรับนโยบายรัฐและกระทรวงการคลัง ระดมความช่วยเหลือพร้อมทีมสนับสนุนลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ได้จัดสรรงบประมาณรวมแล้วกว่า 5.5 ล้านบาท โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่ได้รับผลกระทบรุนแรง จึงเร่งให้ความช่วยเหลือในทุกมิติ ตั้งแต่การตั้ง “โรงครัวออมสิน” ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ซึ่งเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวที่มีผู้ประสบอุทกภัยจำนวนมาก และมีปริมาณอาหารที่ไม่เพียงพอ แต่มีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและอุปกรณ์ในการประกอบอาหาร และเทศบาลเมืองควนลัง ด้วยการสนับสนุนวัตถุดิบสำหรับการประกอบอาหาร เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอาหารปรุงสุกให้เพียงพอ ซึ่งเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่สุด พร้อมสนับสนุนเรือท้องแบน จำนวน 2 ลำ มูลค่า 1 ล้านบาท โดยร่วมกับ บริษัท ซีทโบ๊ต จำกัด และเสื้อชูชีพ ส่งมอบให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา (ปภ.) ใช้ในการขนส่งอาหาร น้ำดื่ม ถุงยังชีพ สิ่งของบรรเทาทุกข์และนำผู้ประสบภัยออกจากบ้านเรือนที่ถูกตัดขาดจากเส้นทางปกติ พร้อมส่งมอบถุงยังชีพและอาหารปรุงสุก   ธนาคารให้ความสำคัญกับการสนับสนุนสิ่งของที่จำเป็น โดยเฉพาะอุปกรณ์ไฟฟ้าสำรองและเครื่องปั่นไฟสำหรับผู้ป่วยที่ต้องพึ่งพาเครื่องมือแพทย์ ยารักษาโรค สิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนอุปกรณ์ทำความสะอาด โดยส่งมอบผ่านหน่วยงานราชการจังหวัด อาทิ สำนักงาน ปภ. จังหวัดสงขลา องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา และศูนย์พักพิงโรงเรียนเทศบาล 5 (วัดหัวป้อมนอก)     ส่วนแผนการให้ความช่วยเหลือในระยะถัดไป ธนาคารยังเตรียมระดมทีมงานและอุปกรณ์เพื่อเดินหน้าภารกิจการฟื้นฟูอย่างเต็มกำลังหลังน้ำลด ในการทำความสะอาดโรงพยาบาลเริ่มต้นที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ โรงเรียน และที่พักอาศัยของประชาชน ตลอดจนการเตรียมซ่อมแซมอาคาร โดย ธนาคารออมสิน ร่วมกับ ชมรมอาสา 76 ระนอง 2 ช่างก่อสร้างดุสิต และโครงการ “ออมสินสารพัดซ่อม” ในการซ่อมแซมเครื่องมือ อุปกรณ์ประกอบอาชีพ เครื่องใช้ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ และอื่น ๆ ของประชาชนที่ได้รับความเสียหายให้สามารถกลับไปใช้งานได้ตามปกติโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้การช่วยเหลือฟื้นฟูเป็นไปอย่างครอบคลุม ธนาคารขอส่งกำลังใจและพร้อมเคียงข้างผู้ประสบภัยทุกสถานการณ์ตามภารกิจธนาคารเพื่อสังคม    

29 Nov 2025

...

กรุงเทพประกันชีวิต เดินหน้าสานต่อพันธกิจองค์กร ส่งมอบความใส่ใจ และห่วงใยแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งใหญ่ในภาคใต้ โดยตัวแทนคณะผู้บริหาร นางสาวศริฐณี ศิริสมบูรณ์ ผู้จัดการอาวุโส ส่วนงานประชาสัมพันธ์และกิจกรรมเพื่อสังคม (ที่ 2 จากซ้าย) ได้ส่งมอบสิ่งของอำนวยความสะดวกต่อการดำรงชีวิต ให้แก่กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ได้แก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารพร้อมทาน อาหารกระป๋อง และเครื่องอุปโภค อาทิ ผ้าอนามัย ผ้าอ้อมสำหรับเด็ก ผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่ เพื่อส่งต่อไปยังประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบ ใน อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อการช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที โดยมี พลเรือตรี ปนิธาน สิทธิโยธาคาร (ที่ 2 จากขวา) รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ เป็นผู้รับมอบ ณ กรมกิจการพลเรือน ทหารเรือ เมื่อเร็วๆ นี้

29 Nov 2025

...

เมืองไทยประกันชีวิต และมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและพนักงานจิตอาสา ร่วมแรงร่วมใจจัดเตรียมถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็น เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือเร่งด่วนและกำลังใจให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในหลายพื้นที่ของภาคกลางและภาคใต้ ผ่านศูนย์อำนวยการช่วยเหลือเครือข่ายวายุภักษ์ กระทรวงการคลัง    ในโอกาสนี้ นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ได้มอบหมายให้ นายปราโมทย์ ศักดิ์กำจร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส  และนายสหพล พลปัถพี  รองกรรมการผู้จัดการ เป็นผู้แทนบริษัทฯ ในการส่งมอบถุงยังชีพจำนวน 1,000 ชุด เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ผ่านศูนย์อำนวยการช่วยเหลือเครือข่ายวายุภักษ์ กระทรวงการคลัง  โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  ดร. เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  นายลวรณ แสงสนิท  ปลัดกระทรวงการคลัง นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) นางสาววสุมดี วสีนนท์ รองเลขาธิการ ด้านกำกับคนกลางและประกันภัยภูมิภาค สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ร่วมรับมอบ ณ อาคาร 150 ปี กระทรวงการคลัง     โครงการดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเมืองไทยประกันชีวิตและมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม ในการร่วมมือกับภาครัฐเพื่อช่วยเหลือประชาชนในยามเดือดร้อน พร้อมยืนเคียงข้างคนไทยในทุกวิกฤต และมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันและความยั่งยืนต่อไปอย่างต่อเนื่อง   #เมืองไทยประกันชีวิต #MuangThaiLife  

27 Nov 2025

BUSINESS-MARKETING-SME / ธุรกิจ - การตลาด - เอสเอ็มอี

...

นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank พร้อมคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม ชื่นชมความสำเร็จของผู้ประกอบการ 3 ราย ต้นแบบการปรับตัวทางธุรกิจ รับขยายตัวของการท่องเที่ยวเมืองรอง ได้แก่ “บริษัท บุญฟู้ดส์ จำกัด” ผู้ผลิตและจำหน่ายลูกอมและขนมอบกรอบ ภายใต้แบรนด์ต่าง ๆ เช่น  คูก้า , พาเหรด, ซอฟท์ไลน์ และหนังไก่กรอบชิกกิ้น กระบวนการผลิตมาตรฐานสากล เหมาะซื้อเป็นของฝาก     “ข้าวใหม่ปลามัน อัมพวา” ร้านอาหารชื่อดังที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพดีจากชุมชน โดยมีเอกลักษณ์การตกแต่งที่ผสมผสานความทันสมัยเข้ากับเสน่ห์ท้องถิ่น ด้วยการใช้ไม้ไผ่ ใบจาก และเครื่องจักสาน รวมถึง มีกิจกรรมรองรับนักท่องเที่ยว     และ “กระจิบ เบด แอนด์ เบรคฟาสต์” โรงแรมและคาเฟ่ บรรยากาศอบอุ่น เงียบสงบ รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อนสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ       ทั้งนี้ SME D Bank พร้อมสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอี ยกระดับกิจการ คว้าโอกาสจากนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง ผ่านแนวทาง “พัฒนาคู่เติมทุน” ได้แก่ ด้าน "การเงิน" พาเข้าถึงสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท นำไปเสริมสภาพคล่อง ลงทุน ขยาย หรือปรับปรุงกิจการ ควบคู่ “การพัฒนา” ธุรกิจครบวงจร ผ่านแพลตฟอร์ม DX by SME D Bank (dx.smebank.co.th) ใช้บริการสะดวกสบาย ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชม.  ช่วยให้กิจการเอสเอ็มอีเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน พร้อมสร้างมูลค่าให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่น ก่อให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ และสร้างอาชีพให้คนในชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม ณ จ.สมุทรสงคราม เมื่อเร็ว ๆ นี้     

23 Nov 2025


...

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ขับเคลื่อนนโยบายรัฐ เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ยกขบวนบริการ “พัฒนาคู่เติมทุน” เสิร์ฟผู้ประกอบการเอสเอ็มอีพื้นที่ภาคใต้ ในงาน “พาแบงก์รัฐ มาช่วยราษฎร์”   ในวันที่ 30 สิงหาคม 2568 เวลา 09.00-12.30 น. ณ  โรงแรมดารา จ.ภูเก็ต ภายในงานพบบริการสินเชื่อเพื่อเอสเอ็มอี อัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี  คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจและทุกความต้องการของเอสเอ็มอี พร้อมทีมให้คำปรึกษา  ยื่นกู้ได้ทันทีภายในงาน  อีกทั้ง รับโปรโมชันเสริมพิเศษ อีก 2 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 เมื่อยื่นขอสินเชื่อและได้รับอนุมัติ รับบัตรกำนัล มูลค่า 500 บาท และ ต่อที่ 2 รับสิทธิ์สมัครใช้บริการแพลตฟอร์ม “DX by SME D Bank” เพื่อยกระดับธุรกิจครบวงจร ฟรี! ห้ามพลาด ขอเชิญผู้ประกอบการ จ.ภูเก็ต และใกล้เคียง เข้าร่วมงานโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น  ลงทะเบียนเข้าร่วมโดยสแกน QR Code ในโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

21 Aug 2025

...

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) บริษัทในกลุ่ม Tidlor Holdings หรือ TIDLOR โดย คุณฐิติเดช ศรีมารยาท ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ เป็นตัวแทนขึ้นรับรางวัล Best Financial Inclusion Initiative in Thailand จากเวที The Asian Banker Thailand Awards 2025 จากความสำเร็จของฟีเจอร์ “โอนเงินสินเชื่อเข้าบัญชีผ่านแอปเงินติดล้อ” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการใช้เทคโนโลยีในการยกระดับการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง เป็นธรรมและโปร่งใส ฟีเจอร์ “โอนเงินสินเชื่อเข้าบัญชีผ่านแอปเงินติดล้อ” ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนยามฉุกเฉินได้สะดวกขึ้น ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องใช้บัตร และไม่ต้องเดินทางไปสาขา ซึ่งผลตอบรับที่ผ่านมาลูกค้ามีการเบิกวงเงินสินเชื่อผ่านฟีเจอร์ดังกล่าวสูงถึง 70% เมื่อเทียบกับช่องทางอื่นๆ และปัจจุบันมีผู้ใช้งานฟีเจอร์นี้แล้วกว่า 480,000 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2568) นอกจากนี้ ยังได้นำแนวคิดการกระตุกพฤติกรรม (Nudge) มาปรับใช้ในขั้นตอนการถอนวงเงิน โดยออกแบบให้มีการแสดงข้อมูลประมาณการดอกเบี้ยรายเดือนที่ลูกค้าอาจต้องจ่ายเพิ่มขึ้น หากมีการถอนเงินจากวงเงินสินเชื่อที่เหลืออยู่ โดยจะแสดงข้อมูลดังกล่าวบนหน้าจอก่อนถึงขั้นตอนยืนยันการทำรายการ เพื่อช่วยให้ลูกค้าพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ การปรับเปลี่ยนนี้แม้จะเล็กน้อย แต่มีผลต่อพฤติกรรมผู้ใช้ โดยจากข้อมูลพบว่าผู้ที่ตั้งใจจะถอนเงิน ใช้เวลาเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 7 วินาทีก่อนยืนยันรายการ สะท้อนถึงการคิดทบทวนก่อนก่อภาระหนี้เพิ่มเติม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายในการส่งเสริมวินัยทางการเงินและการกู้ยืมอย่างเหมาะสม การได้รับรางวัลในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำบทบาทในฐานะผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินที่เข้าถึงง่าย เป็นธรรมและโปร่งใส (The Leading Financial Inclusion Service Provider) พร้อมเดินหน้าเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตทางการเงินของคนไทยอย่างยั่งยืน รวมถึงลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งที่ผ่านมาอาจไม่สามารถเข้าถึงนวัตกรรมและบริการจากธนาคารทั่วไปได้ (Underbanked) รางวัล The Asian Banker Thailand Awards 2025 จัดขึ้นโดย The Asian Banker สื่อในแวดวงการเงินการธนาคารชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย เพื่อมอบรางวัลแก่สถาบันการเงินที่ได้มาตรฐาน มีศักยภาพที่โดดเด่น และส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน สำหรับผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมข้อมูลและเรื่องราวของเงินติดล้อได้ที่ www.tidlor.com และ Facebook Fanpage เงินติดล้อ หรือติดต่อ Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 088-088-0880 ตลอด 24 ชม.

15 Aug 2025

...

  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ร่วมใจปลุกพลังเศรษฐกิจ กระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ จัดเต็มโครงการ “SME D Market” ในวันที่ 29-30 กรกฎาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. สร้างโอกาส เพิ่มยอดขาย ขยายตลาดให้ลูกค้าธนาคาร   และผู้ประกอบการจากหน่วยงานพันธมิตร เปิดพื้นที่ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย ยกขบวนสินค้าดีเอสเอ็มอีกว่า 50 ราย ออกบูธจำหน่ายสินค้าของดีของเด็ดทั่วไทย ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องใช้ และเครื่องประดับ พร้อมเสิร์ฟโปรโมชันสุดปัง ราคาดีมีคุณภาพให้ประชาชนในพื้นที่ เกิดการจับจ่ายใช้สอยคึกคัก แล้วพบกัน ณ บริเวณชั้น 1 สำนักงานใหญ่ SME D Bank อาคาร SME Bank Tower สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357  

27 Jul 2025

...

Tidlor Academy ศูนย์การเรียนรู้ของ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) บริษัทในกลุ่ม Tidlor Holdings (TIDLOR) โดย คุณกาญจน์ณัฐ เฉลิมจุฬามณี ผู้บริหารศูนย์การเรียนรู้เงินติดล้อ (Tidlor Academy) นำทีมงานต้อนรับผู้บริหารและพนักงานจากบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) จำนวนทั้งหมด 39 ท่าน เข้าร่วมกิจกรรม “TIDLOR Culture Wow” เพื่อแบ่งปันและแลกเปลี่ยนแนวทางการสร้างค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร พร้อมเยี่ยมชมแผนกต่างๆ อาทิ ฝ่ายวิเคราะห์และพัฒนา (Analytics & Development) ฝ่ายส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการเงิน (Financial Education หรือ FIN-ED) ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) และฝ่ายนายหน้าประกันภัย “อารีเกเตอร์” (Areegator) แพลตฟอร์มเสนอขายประกันออนไลน์ผ่านสมาชิก นอกจากนี้ ยังได้พูดคุยถาม-ตอบอย่างใกล้ชิดกับคณะผู้บริหารและทีม Culture Gangster เกี่ยวกับแนวทางและวิธีการสร้างวัฒนธรรมองค์กรเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้แข็งแกร่งและยั่งยืน กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น ณ สำนักงานใหญ่ บมจ. เงินติดล้อ อาคารอารีย์ ฮิลล์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้หลักสูตร TIDLOR Culture Wow และ TIDLOR Culture Camp ภายใต้โครงการ TIDLOR Academy จัดขึ้นสำหรับบุคคลและบริษัทภายนอกที่สนใจการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ผ่านแนวคิดและประสบการณ์จริงในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยวัฒนธรรมองค์กรในแบบฉบับเงินติดล้อ เพื่อเป็นแนวทางให้กับหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป สำหรับผู้สนใจออกแบบค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรผ่านเวิร์กช็อปที่สามารถนำไปใช้ได้จริง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ www.tidlor.com/academy หรือสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-792-1990

02 Jul 2025

...

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) บริษัทในกลุ่ม Tidlor Holdings หรือ TIDLOR ประกาศความสำเร็จอีกครั้ง ด้วยการได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน 500 บริษัทชั้นนำที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำปี 2568 จาก Fortune Southeast Asia 500 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของการดำเนินธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถและธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่สามารถสร้างการเติบโตได้เป็นอย่างดีในปีที่ผ่านมา ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนถึงเจตนารมณ์ของบริษัทในการสร้างโอกาสทางการเงิน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการเข้าถึงความคุ้มครองด้านประกันภัยให้กับประชาชนไทยทั่วประเทศ พร้อมมุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับลูกค้า และสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงแก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การจัดอันดับ Fortune Southeast Asia 500 โดยนิตยสารฟอร์จูนในเครือ Time Inc. ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ยอมรับทั่วโลก พิจารณาจากรายได้รวม (Revenue) ของบริษัทจดทะเบียนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ที่มีรายได้สูงสุด 500 อันดับแรก ในปีงบประมาณ 2567 สำหรับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของ TIDLOR ได้ที่เว็บไซต์ www.tidlorinvestor.com

29 Jun 2025

...

SME D Bank เคียงข้างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ทุ่ม 3,500 ล้านบาท ออก 2 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ ได้แก่ “Smile Biz ธุรกิจยิ้มได้ (2568)” และ “จิ๋วสุดแจ๋ว Plus” มุ่งเติมทุนครอบคลุมทุกกลุ่มเอสเอ็มอี นำไปใช้ลงทุน หมุนเวียน เสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ   ควบคู่ยกระดับพัฒนาครบวงจร ช่วยเสริมแกร่ง ยืนหยัดและปรับตัวได้ในช่วงสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัว   นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า ธนาคารมีความห่วงใยผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และคู่ค้าที่เป็น Supply Chain  ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จากความไม่แน่นอนของสงครามการค้า  การล้นทะลักของสินค้าจากต่างประเทศ สถานการณ์ภัยพิบัติ แผ่นดินไหว ส่งผลต่อความเชื่อมั่น รวมถึง ในภาคธุรกิจท่องเที่ยว และเกี่ยวเนื่องที่ได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ดังนั้น SME D Bank   จัดวงเงิน  3,500 ล้านบาท ออก 2 สินเชื่อใหม่ สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในภาคผลิต บริการ และค้าส่งค้าปลีก  ทั้งรายย่อย รายย่อม และรายกลาง ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน นำไปเสริมสภาพคล่องกิจการ สามารถรับมือและก้าวผ่านสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้เหมาะสมและทันท่วงที อีกทั้ง ช่วยรักษาการจ้างงานในภาคธุรกิจเอสเอ็มอี โดยมีจุดเด่นเงื่อนไขผ่อนปรนเปิดกว้าง ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน สามารถใช้ บสย.ค้ำประกันได้  ได้แก่ “สินเชื่อ Smile Biz ธุรกิจยิ้มได้ (2568)” วงเงิน 3,000 ล้านบาท และ “สินเชื่อรายย่อย จิ๋วสุดแจ๋ว Plus” วงเงิน 500 ล้านบาท   สำหรับ “สินเชื่อ Smile Biz ธุรกิจยิ้มได้ (2568)” สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดย่อม และขนาดกลาง ทั้งบุคคลธรรมดา นิติบุคคล ที่มีรายได้ต่อปีเกินกว่า 1.8 ล้านบาท แต่ขาดหลักประกันให้เข้าถึงแหล่งทุน นำไปเสริมสภาพคล่อง  ลงทุน ขยาย ปรับปรุง หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ  เงินทุนหมุนเวียน  วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย เริ่มต้น MLR -1%ต่อปี หรือประมาณ 6.25%ต่อปี (ปัจจุบัน MLR เท่ากับ 7.25%) ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ผ่อนนานสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ปลอดชําระคืนเงินต้นสูงสุด 6 เดือน เปิดรับคำขอกู้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2569 หรือจนกว่าวงเงินสินเชื่อโครงการจะหมด แล้วแต่อย่างหนึ่งอย่างใดจะถึงก่อน   และ “สินเชื่อรายย่อย จิ๋วสุดแจ๋ว Plus”  สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อย (MICRO) ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล ที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 1.8 ล้านบาท แต่ขาดหลักประกันให้เข้าถึงแหล่งทุน นำไปลงทุน ขยาย ปรับปรุง ปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ หรือหมุนเวียนเสริมสภาพคล่องในธุรกิจ   วงเงินกู้ขั้นต่ำ 1  แสนบาท สูงสุดไม่เกิน 5 แสนบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย เริ่มต้น MRR +5.35% ต่อปี หรือประมาณ 12.925% ต่อปี (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 7.575%) ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ผ่อนนานสูงสุดไม่เกิน 5 ปี เปิดรับคำขอกู้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569 หรือจนกว่าวงเงินสินเชื่อโครงการจะหมด แล้วแต่อย่างหนึ่งอย่างใดจะถึงก่อน “ทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ ครอบคลุมการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกกลุ่ม และทุกประเภทในภาคการผลิต บริการ ค้าปลีกและค้าส่ง ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง ร้านค้าออนไลน์  ธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง เช่น ร้านขายของฝาก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ฯลฯ เพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน  นำไปเสริมสภาพคล่อง  หรือมีไว้สำรองเป็นค่าใช้จ่าย ช่วยให้สามารถรับมือกับภาวะเศรษฐกิจได้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ธุรกิจยืนหยัดและปรับตัวได้” นายพิชิต กล่าวเสริม นอกจากนี้ SME D Bank ยังให้บริการด้านการพัฒนาธุรกิจครบวงจรควบคู่ด้วย ผ่านแพลตฟอร์ม DX by SME D Bank (dx.smebank.co.th) ใช้บริการได้สะดวกสบาย ตลอด 24 ชม. มีฟีเจอร์สำคัญ ๆ  เช่น ระบบ  “Business Health Check”  ตรวจสุขภาพทางธุรกิจ  ระบบ E-Learning รวบรวมหลักสูตรความรู้สำคัญ ช่วยเพิ่มศักยภาพการประกอบธุรกิจ เรียนรู้ได้ด้วยตัวเองตลอด 24 ชั่วโมง ระบบ SME D Activity จองเข้าร่วมกิจกรรมเติมความรู้ได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ระบบ SME D Coach มีโค้ชมืออาชีพคอยเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำธุรกิจ  ระบบ SME D Market ช่วยขยายตลาดด้วย E-marketplace หนุนจับคู่ธุรกิจ  และระบบ SME D Privilege  ที่มอบสิทธิประโยชน์พิเศษมากมาย เป็นต้น  ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถแจ้งความประสงค์เข้ารับบริการด้านการเงิน และการพัฒนาจาก SME D Bank ได้ผ่านสาขา SME D Bank ทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น LINE Official Account : SME Development Bank  และ www.smebank.co.th เป็นต้น  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

26 Jun 2025

ราชการ - รัฐวิสาหกิจ / พลังงาน - การเกษตร

...

กบข. คว้ารางวัลรัฐบาลดิจิทัลต่อเนื่องปีที่ 7 สะท้อนความมุ่งมั่นพัฒนาบริการด้านดิจิทัลเพื่อสมาชิก พร้อมชู “My Digital Twins” เครื่องมือวางแผนการเงินที่ช่วยให้เห็นภาพอนาคตอย่างชัดเจน และมั่นใจเกษียณอย่างมีสุข   กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ได้รับรางวัลรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government Awards 2025) ประจำปี 2568 หน่วยงานที่มีการยกระดับองค์กรสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล จากสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. โดยมี นายรณชัย วินทวามร ผู้ช่วยเลขาธิการและผู้บริหารกลุ่มงานบริหารความเสี่ยง เป็นตัวแทน กบข. เข้ารับรางวัลจาก นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล   กบข. ได้รับรางวัลในกลุ่ม “หน่วยงานระดับกรมที่ให้บริการเป็นหลัก” ติดต่อกันเป็นปีที่ 7 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาบริการดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการของสมาชิก และตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลดิจิทัลอย่างแท้จริง ซึ่งหนึ่งในบริการสำคัญที่ช่วยผลักดันความสำเร็จ คือ เมนู My Digital Twins บนแอป กบข. ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้สมาชิกสามารถวางแผนทางการเงินเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้สำหรับวันเกษียณ   โดยล่าสุด กบข. ได้พัฒนาเมนู My Digital Twins เพื่อให้สมาชิกเห็นภาพอนาคตหลังเกษียณอายุราชการได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งการประมาณการรายได้รวม ณ เกษียณ ครอบคลุมทั้งเงินก้อน กบข. และเงินบำนาญจากรัฐ เปรียบเทียบกับระดับเป้าหมายทางการเงิน (Minimum Living Standard : MLS) ทำให้สมาชิกทราบว่าเงินที่มีจะเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตหลังเกษียณหรือใม่ และสามารถวางแผนการเงินได้แม่นยำขึ้น   อย่างไรก็ตาม ระดับเป้าหมายทางการเงิน (MLS) เป็นระดับยอดเงินตามคุณภาพชีวิตที่คาดหวังของสมาชิก ระดับดีมาก (P90) การใช้ชีวิตที่มีอิสระใช้จ่ายไร้กังวล ระดับดี (P75) การใช้ชีวิตที่มีความสุขเพิ่มขึ้นอีกระดับ และระดับพื้นฐาน (P50) การใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ซึ่งข้อมูลปัจจุบัน พบว่า สมาชิกกว่า 78% มีเป้าหมายทางการเงินต่ำกว่าระดับดี ดังนั้น My Digital Twins จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้สมาชิกปรับแผนการลงทุนหรือเพิ่มการออม เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่เหมาะสม กบข. ยังคงมุ่งพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของสมาชิกและสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลดิจิทัลอย่างยั่งยืน  

04 Dec 2025


...

นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือ โครงการศึกษาครัวเรือนฐานรากเพื่อสร้างการเข้าถึงแหล่งเงินในระบบ ระหว่าง ธนาคารออมสิน และ สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ เพื่อศึกษาความเป็นอยู่และพฤติกรรมทางการเงินของกลุ่มครัวเรือนฐานรากที่ยังไม่สามารถเข้าถึงการเงินในระบบ ที่จะนำไปสู่การต่อยอดองค์ความรู้ จากการวิจัยในการพัฒนาระบบการเงินที่เหมาะสม ช่วยยกระดับเศรษฐกิจและความเข้มแข็งทางการเงินของภาคครัวเรือนไทย โดยมี นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และ ดร.โสมรัศมิ์ จันทรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าว เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ณ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่   นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ภายใต้บทบาทการเป็น Social Bank ที่มุ่งลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินและสร้างการเข้าถึงแหล่งทุนที่เป็นธรรม ธนาคารเดินหน้าภารกิจหลักที่ 1 ในการสร้างการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบสถาบันการเงิน ซึ่งหากพิจารณาจากสถานการณ์การเข้าถึงสินเชื่อของคนไทย ปัจจุบันยังพบว่าครัวเรือนกว่าร้อยละ 30 ยังอยู่ในกลุ่ม Unserved และ Underserved โดยเป็นผู้มีรายได้น้อยและ/หรือรายได้ไม่แน่นอน ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบจากการขาดประวัติเครดิตทางการเงิน และกว่าครึ่งยังต้องพึ่งพาหนี้นอกระบบเพิ่มขึ้นและต้องเผชิญภาระดอกเบี้ยสูง ดังนั้น เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนบทบาทการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ธนาคารจึงได้จัดตั้งสถาบันวิจัยเศรษฐกิจฐานรากขึ้นเป็นครั้งแรก และได้ร่วมมือกับสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ เพื่อคิกออฟงานวิจัย “โครงการศึกษาครัวเรือนฐานรากเพื่อสร้างการเข้าถึงแหล่งเงินในระบบ” โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายของการศึกษาเป็นผู้เข้าร่วมโครงการสินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส ที่ธนาคารได้ดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี 2568 เพื่อปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ที่มีรายได้ แต่ไม่เคยมีประวัติเครดิตทางการเงิน หรือไม่เคยใช้บริการสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินอย่างน้อย 2 ปี ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ของโครงการนี้มีลักษณะตัวตน หรือ Customer Persona ที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของงานศึกษาวิจัยครั้งนี้ ทั้งนี้ ธนาคารหวังว่าจะสามารถนำผลลัพธ์ของงานวิจัยไปออกแบบเครื่องมือทางการเงิน หรือมาตรการสินเชื่อที่ตรงจุด สามารถตอบโจทย์ความคาดหวัง และสร้างระบบการเงินที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งการพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมาย SDGs และสอดคล้องตามบทบาทของธนาคารเพื่อสังคม   ดร. โสมรัศมิ์ จันทรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ เปิดเผยว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการศึกษาข้อมูลเชิงลึกของลูกหนี้ภายใต้โครงการ “สินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส” ของธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นต้นแบบสินเชื่อดิจิทัลที่เปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้แต่ไม่เคยเข้าถึงสินเชื่อในระบบสามารถกู้เงินได้เป็นครั้งแรก โดยธนาคารออมสินได้ปล่อยสินเชื่อเพื่อช่วยคนไทยสร้างประวัติเครดิตทางการเงินไปแล้วกว่า 200,000 ราย สะท้อนถึงความต้องการเข้าถึงสินเชื่อในระบบที่ยังมีอยู่จำนวนมาก การศึกษาครั้งนี้จึงมุ่งขยาย “ประตูสู่ระบบการเงิน” ให้กว้างขึ้น ผ่านการเก็บข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มคนที่อยู่นอกระบบเป็นครั้งแรก ใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1) ปัญหาเศรษฐกิจการเงิน พฤติกรรมและความต้องการทางการเงิน 2) โมเดลผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยให้ลูกหนี้ชำระคืนได้จริง 3) การทดลองใช้ข้อมูลใหม่และข้อมูลทางเลือกเพื่อค้นหาตัวชี้วัดความเสี่ยงที่แม่นยำยิ่งขึ้นให้กับสถาบันการเงิน 4) การติดตามผลการเข้าถึงสินเชื่อต่อรายได้และคุณภาพชีวิตของลูกหนี้ตลอดระยะเวลา 1 ปี เพื่อนำไปใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสม ซึ่งผลการศึกษาจะช่วยให้ธนาคารออมสินออกแบบผลิตภัณฑ์และกระบวนการพิจารณาสินเชื่อที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น สอดคล้องกับศักยภาพของลูกหนี้ และเพิ่มโอกาสในการชำระคืน   ขณะเดียวกัน สถาบัน ฯ จะมีองค์ความรู้เชิงลึกเพื่อนำไปสนับสนุนนโยบาย Your Data และโครงการ Risk-Based Pricing ของธนาคารแห่งประเทศไทย ช่วยให้สถาบันการเงินประเมินความเสี่ยงได้โปร่งใส เป็นธรรม และเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ “เคยถูกมองไม่เห็น” เข้าสู่ระบบการเงินได้มากขึ้น ถือเป็นก้าวสำคัญที่เปลี่ยนงานวิจัยให้เกิดผลจริงต่อประชาชนฐานราก เสริมรากฐานระบบการเงินที่เข้าถึงง่าย ยั่งยืน และช่วยยกระดับศักยภาพและคุณภาพชีวิตของครัวเรือนไทยได้อย่างมั่นคงในระยะยาว  

30 Nov 2025

...

กบข. จัดสัมมนาผู้แทนสมาชิก ตอกย้ำยุทธศาสตร์ “เกษียณมีสุข Freedom For Living” ยกระดับความเข้าใจการลงทุน ปรับนิยามสินทรัพย์ให้สอดคล้องสถานการณ์ตลาด พร้อมเปิดตัวแผนการลงทุนใหม่ “แผนเกษียณสบายใจ” และปรับชื่อแผนให้ชัดเจนมากขึ้น   นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า กบข. ได้จัดงานสัมมนาผู้แทนสมาชิก ประจำปี 2568 (รอบพิเศษ) ภายใต้แนวคิด “ร่วมคิด ร่วมขับเคลื่อนกองทุนสู่อนาคต” เพื่อสื่อสารแนวทางการดำเนินงานและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของสินทรัพย์ลงทุน รวมถึงการเลือกแผนการลงทุนอย่างเหมาะสม ตามยุทธศาสตร์ “เกษียณมีสุข Freedom For Living” ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของสมาชิกและความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว   โดยในช่วงที่ผ่านมา ตลาดการลงทุนทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ทั้งจากปัจจัยโครงสร้าง พฤติกรรมสินทรัพย์ และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้สินทรัพย์บางประเภท เช่น ทองคำ เป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันความเสี่ยง ดังนั้น กบข. จึงได้ปรับนิยามสินทรัพย์ใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยแบ่งเป็น สินทรัพย์เชิงรุก (Growth Asset) : เน้นการเติบโตและสร้างผลตอบแทนระยะยาว เช่น หุ้น อสังหาริมทรัพย์ สินค้าโภคภัณฑ์ และสินทรัพย์เชิงรับ (Defensive Asset) : เน้นรักษามูลค่าและลดความผันผวน เช่น ทองคำ พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชน จากเดิมที่ กบข. ใช้นิยามสินทรัพย์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)   “การนิยามสินทรัพย์ใหม่ เพื่อให้สมาชิกเข้าใจธรรมชาติของการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กบข. ต้องการให้สมาชิกเห็นภาพชัดเจนว่า สินทรัพย์เชิงรุกเหมาะสำหรับการสร้างผลตอบแทนระยะยาว ขณะที่สินทรัพย์เชิงรับช่วยรักษามูลค่าและลดความผันผวน การจัดสมดุลระหว่างสองประเภทนี้คือหัวใจของการลงทุนที่มั่นคงและยั่งยืน” นายทรงพล กล่าว   นอกจากนี้ กบข. ได้เปิดตัวแผนการลงทุนใหม่ “แผนเกษียณสบายใจ 2569” ออกแบบมา เพื่อสมาชิกที่จะเกษียณอายุราชการในปี 2569 ที่มีความต้องการรักษาเงินต้น ลดความผันผวนของตลาดลงทุน พร้อมทั้งได้รับสิทธิ์ความคุ้มครองชีวิต ทุนประกัน 1 แสนบาท พร้อมประกาศเปลี่ยนชื่อแผนการลงทุน เพื่อให้สอดคล้องกับนิยามสินทรัพย์การลงทุนใหม่ แผนหลัก เปลี่ยนเป็นแผนลงทุนพื้นฐานทั่วไป แผนหุ้น 35 เปลี่ยนเป็นแผนเชิงรุก 35, แผนหุ้น 65 เปลี่ยนเป็นแผนเชิงรุก 65 การปรับเปลี่ยนด้านการลงทุนในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ กบข. ในการพัฒนาโครงสร้างการลงทุนให้สอดรับอนาคต ตอบโจทย์สมาชิกในทุกช่วงวัย และสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวให้แก่สมาชิก เพื่อให้สมาชิกสามารถเกษียณอย่างมีสุข Freedom For Living

27 Nov 2025

...

นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 เห็นชอบให้ดำเนินโครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” เพื่อช่วยยกระดับความสามารถในการหารายได้ของผู้ประกอบการรายเล็กบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งที่เป็นทักษะความรู้ด้านการเงินและด้านดิจิทัล โดยรัฐบาลสนับสนุนเงินเพิ่มสูงสุด 2,000 บาท/ราย สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ Upskill/Reskill และได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งโครงการดังกล่าวมีหน่วยงานพันธมิตรหลายรายเป็นผู้ให้บริการเรียนรู้และพัฒนาทักษะแก่ร้านค้า โดยมีธนาคารออมสินรับผิดชอบการพัฒนาทักษะแก่ผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย “ประเภทบุคคลธรรมดา” หลักสูตร “Smart Finance Upskill : การพัฒนาความรู้ทางการเงินเพื่อร้านค้ารายย่อยโครงการคนละครึ่ง พลัส” สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าบุคคลธรรมดา เน้นให้ความรู้ทางการเงินที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการร้านค้ายุคใหม่ ประกอบด้วยเนื้อหาสำคัญ 4 ด้าน ได้แก่ การทำบัญชี การคิดต้นทุน เทคนิคการตั้งราคาขาย และความรู้ก่อนยื่นขอกู้ พร้อมแบบจำลองการยื่นกู้ให้ผู้ประกอบการได้ฝึกเรียนรู้ด้วยตนเอง และสามารถนำแบบจำลองนั้นไปใช้ประกอบการยื่นกู้กับสถาบันการเงินได้ โดยผู้ที่ได้สมัครเรียนและผ่านการทดสอบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จะได้รับประกาศนียบัตรรับรองการผ่านหลักสูตรเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการรับสิทธิ์เงินเพิ่มสูงสุด 2,000 บาท ร้านค้าที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าเรียนได้แล้วตั้งแต่วันนี้ - 19 ธันวาคม 2568 ที่เว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th ตลอด 24 ชม. โดยผู้ที่สำเร็จหลักสูตรตามเงื่อนไขที่กำหนด จะมีการแจ้งผลการรับสิทธิ์เงินสนับสนุนจากภาครัฐ ผ่านแอปถุงเงินและข้อความ SMS ในวันที่ 23 ธันวาคม 2568 ทั้งนี้ ธนาคารขอแนะนำโปรดหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่มีผู้ใช้งานหนาแน่น ซึ่งอาจทำให้ประสบปัญหาเว็บไซต์ตอบสนองช้ากว่าปกติได้ กรณีประสบปัญหาการใช้บริการ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Smart Finance Upskill และข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโครงการ Upskill/Reskill คนละครึ่ง พลัส สามารถติดต่อที่ GSB Contact Center โทร.1115 กด 7 ตลอด 24 ชม.   นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่สำเร็จหลักสูตร Smart Finance Upskill แล้ว ยังมีสิทธิ์ยื่นขอกู้เงื่อนไขพิเศษกับสินเชื่อ “สร้างงานสร้างอาชีพ พลัส” โดยกดยื่นขอกู้ได้จากหน้าเว็บไซต์หลังเรียนจบหลักสูตร เพื่อเชื่อมต่อกระบวนการยื่นขอกู้ทางแอป MyMo ได้โดยสะดวก ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) = 0.75% ต่อเดือน แบบไม่มีหลักประกัน (Clean Loan) ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2568 ทั้งนี้ ธนาคารพิจารณาให้กู้ตามความจำเป็นเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนหรือเสริมสภาพคล่อง และตามความสามารถในการชำระคืน ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.gsb.or.th    

23 Nov 2025

...

นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวในงาน “The 15th Annual Thailand Roundtable: Celebrating 30 years of Asset Management and Pensions” ว่า ปัจจุบัน กบข. ได้ปรับแนวทางการจัดกลุ่มสินทรัพย์ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ “สินทรัพย์เชิงรุก (Growth Asset)” ซึ่งเป็นสินทรัพย์เติบโตที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนสูงในระยะยาว และ “สินทรัพย์เชิงรับ (Defensive Asset)” ที่เน้นการรักษามูลค่าและลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน พร้อมเปิดโอกาสให้สมาชิกเลือกแผนการลงทุนได้เอง เช่น แผนวายุภักษ์ และแผนสมดุลตามอายุ ตอบโจทย์สมาชิกที่ไม่เชี่ยวชาญด้านการบริหารพอร์ตด้วยตนเอง โดย กบข. จะบริหารสินทรัพย์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สมาชิก ซึ่ง กบข. มุ่งมั่นส่งเสริมให้สมาชิกสามารถเกษียณอย่างมีสุข โดยเน้น 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ไม่มีหนี้ มีเงินใช้ และมีสุขภาพดี ซึ่ง กบข. ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน My GPF Application ที่มีเครื่องมือวางแผนการเงินส่วนบุคคลที่ช่วยให้สมาชิกสามารถประเมินตนเองได้ว่าจะมีเงินออมที่เพียงพอหรือไม่ และสามารถเกษียณอย่างมีสุข มีอิสรภาพ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี     นอกจากนี้ นางสาวปรีชฎา แพนสิงห์ ผู้ช่วยเลขาธิการและผู้บริหารสายงานยุทธศาสตร์องค์กร และนายคัดเขต บุนนาค ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ยังได้ร่วมเป็นวิทยากร เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการจัดการความเพียงพอของเงินบำนาญสำหรับสังคมสูงวัย และการบริหารพอร์ตการลงทุนระดับโลกในยุคใหม่ โดยงาน “The 15th Annual Thailand Roundtable: Celebrating 30 years of Asset Management and Pensions” จัดโดย นิตยสาร Asia Asset Management เพื่อร่วมถ่ายทอดความรู้ และเปิดโอกาสให้นักลงทุนและผู้จัดการสินทรัพย์ได้มาพบปะพูดคุยกันถึงประเด็นต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรม    

16 Nov 2025

...

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ชวนรับชมรายการ "Once Upon BAAC Time" รายการท่องเที่ยวเชิงเกษตร (Agro Tourism) ที่จะลงพื้นที่บุกชุมชนของลูกค้า ธ.ก.ส. ด้วยการนำเสนอในรูปแบบวิดีโอ VLOG จำนวน 3 ตอน ที่สะท้อนถึงการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ภายใต้แนวคิด ‘เรียนรู้ สนุก ลงมือทำจริง’ ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ในการเข้าถึงการทำเกษตรยุคใหม่ พร้อมผลักดันสินค้าเกษตรไปสู่การรับรู้ในวงกว้าง เพื่อตอกย้ำบทบาทและหน้าที่ในการพัฒนาภาคเกษตรของ ธ.ก.ส. เจาะกลุ่มผู้ชมยุคใหม่เรียนรู้การลงพื้นที่จริง   โดยมีนายไพศาล หงษ์ทอง รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. พร้อมด้วยวง PROXIE ได้แก่ กร วรรณไพโรจน์ , โชกุน - ปวริศร์ ศรีชัยชนะ, อองรี - ออสการ์ เอ็ดเวิร์ด วัตราเศรษฐ์, กัน - รัชชานนท์ เรือนเพ็ชร์, วิคเตอร์ - วรเมธ อนุประพันธ์ และคิม - ปัณณธร จิรศาสตร์ ในโอกาสนี้ ขอเชิญมาร่วมสัมผัสเสน่ห์เฉพาะตัวของทั้ง 3 ชุมชน ประกอบด้วย     ตอนที่ 1 Lemon Me Farm จ.นครปฐม ฟาร์มเลมอนและคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสประสบการณ์การปลูกเลมอนที่เต็มไปด้วยคุณภาพ สะอาดและปลอดภัย   ตอนที่ 2 Air Orchid Farm จ.นครปฐม สวนกล้วยไม้ครบวงจร พื้นที่กว่า 200 ไร่ ผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาสายพันธุ์ กล้วยไม้ในห้องแล็บภายใต้โรงเรือนและการเพาะเลี้ยงที่ได้คุณภาพ และมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practices)   และตอนที่ 3 ไร่สุขพ่วง จ.ราชบุรี แหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรอินทรีย์แบบครบวงจรที่มีวิธีการจัดการแปลงแบบฮูกูลคัลเจอร์ (Hugelkultur) หรือการปลูกพืชบนพื้นดิน และยังมีการต่อยอดการจำหน่ายผลผลิตผ่านการจัดตลาดสุขพ่วง พ่วงสุข   โดยสามารถติดตามรายการ "Once Upon BAAC Time" ได้ทาง YouTube : BAAC Thailand https://www.youtube.com/watch?v=OBViI6FXteY&list=PL7gIwMaiyiX7fsS4XaslxV8p11DR6nniu และ ติดตามข่าวสารผลิตภัณฑ์และบริการอื่น ๆ จาก ธ.ก.ส. ได้ที่ Facebook : ธกส BAAC Thailand LINE : @baacfamily Instagram : @baacthailand X : @baacthailand และ TikTok : @baacthailand

15 Nov 2025

...

นายเสกสรรค์ จันทร์ขวาง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและพนักงาน ธ.ก.ส. ร่วมฟังบรรยายพิเศษ ภายใต้หัวข้อ "Balance & Leadership : ครองตน ครองคน ครองงาน เพื่อเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ตามศาสตร์พระราชา" เนื่องในโอกาสครบรอบวันสถาปนา ธ.ก.ส. ปี 2568 เพื่อส่งเสริมแนวคิดและหลักการดำเนินชีวิตและการทำงานตามศาสตร์พระราชา ซึ่งเน้นการพัฒนาตนเอง การบริหารคน และการทำงานอย่างมีคุณธรรม     สำหรับการบรรยายในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากพลโท บุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ ผ่านแนวคิด “ครองตน ครองคน ครองงาน” แนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาประยุกต์ใช้และขยายผลในการพัฒนาคนและสังคมบนพื้นฐานที่ยั่งยืนจากฐานราก รวมถึงได้ตอบข้อซักถามกับผู้เข้าร่วมรับฟัง เพื่อสะท้อนถึงการทำงานตามหลักการดังกล่าว เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568 ณ ห้องประชุมจำเนียรสาร เกษตรธนากร ชั้น 24 ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ    

28 Oct 2025

TECHNOLOGY - AUTO - PROPERTY

...

บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM ฉลองครบรอบ 25 ปี “SAM ส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทย เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” นำทรัพย์มือสองหรือทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ที่มีศักยภาพตั้งอยู่บนทำเลที่ดีทั่วประเทศ มาเปิดประมูลให้กับผู้ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองและผู้ที่ต้องการทรัพย์เพื่อลงทุนขยายธุรกิจ จำนวน 39 รายการ มูลค่ารวมประมาณ 558 ลบ. อาทิ ที่ดินเปล่า ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด อาคารพาณิชย์ ห้องชุดพักอาศัย อาคารที่พักอาศัย ร้านอาหาร โรงงาน/โกดัง และโรงแรม/รีสอร์ท โดยมีไฮไลท์เด่นสำหรับการประมูลครั้งนี้เป็นทรัพย์เพื่อการลงทุน 3 รายการ ได้แก่  โรงแรม/รีสอร์ท "บ้านพักขามเงิน" เนื้อที่ 5 ไร่ 160 ตร.ว. อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ติดถนนสายหลัก 2 ด้าน ภายในพื้นที่ประกอบด้วยร้านอาหารและบ้านพักตากอากาศ จำนวน 13 หลัง  ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย แหล่งท่องเที่ยว การคมนาคมสะดวก ใกล้โรงพยาบาลชะอำ โรงเรียนเทศบาล 8 สวนสนชะอำ คริสตจักรชะอำ ชายหาดชะอำ ราคาพิเศษเริ่มต้นที่  169.26 ลบ. ร้านอาหาร บนเนื้อที่ขนาดใหญ่ถึง 7 ไร่ 167.4 ตร.ว. ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทรัพย์สินตั้งอยู่ติดถนน 2 ด้าน ในย่านที่อยู่อาศัย และพาณิชยกรรม การคมนาคมสะดวก ใกล้วัดโคกสมานคุณ โรงเรียนวัดโคกสมานคุณ และตลาดกิมหยง ราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 193.72 ลบ.  ที่ดินเปล่ากลางเมืองเชียงราย  เนื้อที่ 11 ไร่ 269.6 ตร.ว. ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ทำเลสวย ติดถนนสายหลักถึง 3 ด้าน ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย การคมนาคมสะดวก ใกล้วัดมิ่งเมือง ที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงราย วิทยาลัยพาณิชยการเชียงราย ราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 83.24 ลบ. นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชันมากมาย อาทิ “SAM ฟรีโอนไม่อั้น” “SAM ทรัพย์มือสองต้องบอกต่อ” เพียงแนะนำทรัพย์ SAM ให้กับเพื่อนหรือคนรู้จัก รับค่าแนะนำสูงสุดถึง 3 ล้านบาทต่อ 1 รายการ (เฉพาะทรัพย์ที่เข้าเงื่อนไข) รวมถึงความร่วมมือกับธนาคารชั้นนำ อย่างธนาคารกรุงเทพ ธนาคารยูโอบี ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต (ttb) ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในการให้บริการด้านสินเชื่อ โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด ตัวอย่างทรัพย์ราคาพิเศษที่น่าสนใจ 1) โรงงาน/โกดัง 7 ชั้นพร้อมดาดฟ้า เนื้อที่ 200 ตร.ว. ถ.พุทธบูชา แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ทรัพย์ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย และพาณิชยกรรม การคมนาคมสะดวก ล้อมรอบด้วยเส้นทางสายหลัก ทั้งจุดขึ้น-ลงทางด่วน ด่านสุขสวัสดิ์ สะพานภูมิพล ถ.กาญจนาภิเษก ถ.พระราม 2 และใกล้กับศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ สวนธนบุรีรมย์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 16.68 ลบ.         2) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พร้อมโรงจอดรถและศาลาพักผ่อน เนื้อที่ 115.5 ตร.ว. โครงการพรอเมนาด โฮม ธนบุรี ถ.พระราม 2 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย สาธารณูปโภคครบครัน การคมนาคมสะดวก ใกล้ตลาดรวยทรัพย์ 555 วัดเลา โรงเรียนรุ่งอรุณ และห้างโฮมโปร พระราม 2 ราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 8.11 ลบ. 3) บ้านชั้นเดียว พร้อมอาคารโรงงาน โรงจอดรถ 2 หลัง ร้านค้า อาคารสำนักงานและอาคารพักอาศัย เนื้อที่ 1 ไร่ 90.6 ตร.ว. ถ.โพรงมะเดื่อ-บ้านไร่ ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย และเกษตรกรรม การคมนาคมสะดวก ใกล้องค์การบริหารส่วนตำบลโพรงมะเดื่อ โรงเรียนวัดโพรงมะเดื่อ วัดโพรงมะเดื่อ ราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 6.42 ลบ. 4) ทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น เนื้อที่ 22.4 ตร.ว. โครงการไพลิน ท่าอิฐ ถ.ท่าอิฐ-ไทรม้า (นบ.4005) ต.บางรักน้อย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย และพาณิชยกรรม การคมนาคมสะดวก ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีรถไฟฟ้าบางรักน้อยท่าอิฐเพียง 1.3 กม.เท่านั้น และยังใกล้ตลาดมณียา ท่าอิฐ สำนักงานเทศบาลตำบลไทรม้า ราคาพิเศษเริ่มต้นที่  5.93 ลบ. 5) อาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่ง เนื้อที่ 19.9 ตร.ว. ทำเลดี ติด ถ.สัจจกุล ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ห่างจากแยกสัจจกุลเพียง 600 ม. ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย การคมนาคมสะดวก ใกล้ที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองหาดใหญ่ และโรงพยาบาลหาดใหญ่ ราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 3.5 ลบ. ทั้งนี้ ผู้สนใจเข้าร่วมประมูลสามารถลงทะเบียนและยื่นซองประมูล พร้อมเอกสารประกอบการประมูลที่กำหนด โดยทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยและเพื่อการลงทุน ราคาไม่เกิน 20 ลบ. (ครั้งที่ 19.1/2568) ภายในวันที่ 15 ต.ค. 2568 และกำหนดเปิดซองประมูลวันที่ 24 ต.ค. 2568 ส่วนทรัพย์ที่มีราคาสูงกว่า 20 ลบ. (ครั้งที่ 19.2/2568) ภายในวันที่ 30 ต.ค. 2568 และกำหนดเปิดซองประมูลวันที่ 7 พ.ย. 2568 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ที่สำนักงานใหญ่ SAM อาคารซันทาวเวอร์ส ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ  หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1443  และดูรายละเอียดทรัพย์สินได้ทางเว็บไซต์ที่ www.sam.or.th  รวมทั้งช่องทางออนไลน์ที่หลากหลายและสะดวกรวดเร็ว โดยแอด ID Line @Samline ติดตาม Facebook /YouTube / TikTok ได้ที่  "SAM บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท"  เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสารดี ๆ จาก SAM

13 Oct 2025


...

“เงินติดล้อ” โดย บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) แจ้งเตือนภัยผู้ประกอบการเต็นท์รถมือสอง เนื่องจากปัจจุบันพบว่ามีกลุ่มผู้ใช้สินเชื่อบางรายนำรถติดสัญญาจำนำทะเบียนรถ ซึ่งมีบริการเสริมในการเบิกถอนวงเงินสินเชื่อ เช่น บัตรกดเงินสด หรือ แอปพลิเคชัน โดยนำรถไปหลอกขายกับเต็นท์รถแต่ไม่แจ้งปิดบัญชีสินเชื่อ ส่งผลให้เต็นท์รถไม่ได้รับเล่มทะเบียนรถตามที่ตกลงไว้กับผู้ขายรถ ทั้งนี้ เพื่อความมั่นใจ “เงินติดล้อ” ขอแนะนำผู้ประกอบการเต็นท์รถ ดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้ 1.ตรวจสอบว่ารถมีเล่มทะเบียนรถตัวจริงหรือไม่ 2.กรณีไม่มีเล่มทะเบียนรถ ตรวจสอบว่ามีสัญญาจำนำทะเบียนรถหรือไม่ 3.หากมีสัญญาจำนำทะเบียนรถ ควรตรวจสอบว่ามีบริการบัตรกดเงินสดหมุนเวียน หรือ แอปพลิเคชัน เพื่อใช้เบิกถอนวงเงินสินเชื่อหรือไม่ 4.กรณีเต็นท์รถตกลงจ่ายหนี้คงค้างส่วนต่างเพื่อปิดบัญชีให้ผู้ขายรถ ควรเน้นย้ำให้ผู้ขายรถดำเนินการแจ้งยืนยันปิดบัญชีสินเชื่อกับไฟแนนซ์ที่ใช้บริการอยู่ เพื่อดำเนินการปิดบัญชี และจัดส่งเล่มทะเบียนรถให้ตามที่อยู่ที่ตกลงไว้ได้ กรณีที่ใช้สินเชื่อกับเงินติดล้อ แนะนำให้เต็นท์รถและลูกค้า ติดต่อปิดบัญชีที่สาขาเงินติดล้อได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้ บัตรกดเงินสดหมุนเวียน ถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้สินเชื่อสามารถกดเงินสดตามวงเงินสินเชื่อทะเบียนรถของตนเองได้สะดวกผ่านตู้ ATM ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำทั่วประเทศ ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สินเชื่อสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนยามฉุกเฉินได้สะดวกยิ่งขึ้น

01 Sep 2025

...

บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM ฉลองครบรอบ 25 ปี “SAM ส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทย เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ชวนนักลงทุนที่ต้องการขยายธุรกิจและผู้สนใจที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง เข้าร่วมประมูลทรัพย์มือสองหรือทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ในทำเลดีทั่วประเทศ จำนวน 33 รายการ มูลค่ารวมประมาณ 247 ลบ. อาทิ ที่ดินเปล่า ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว อาคารพาณิชย์ ห้องชุดพักอาศัย โดยมีไฮไลท์สำคัญสำหรับนักลงทุนเป็นสวนน้ำขนาดใหญ่ ใจกลางเมือง เนื้อที่ 20 ไร่  ประกอบด้วย สวนน้ำเป็นหอ 6 เหลี่ยม เครื่องเล่นสไลเดอร์ อโลฮ่า 2 ตัว  สระว่ายน้ำและสระน้ำวน จำนวน 3 สระ อาคารอาคารบริการ ร้านขายของที่ระลึก ศูนย์อาหาร 2 อาคาร  ห้องน้ำ 4 อาคาร ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย และแหล่งท่องเที่ยว บน ถ.มหาดไทย ต.ท่ามะขาม อ.เมืองกาญจนบุรี  จ.กาญจนบุรี  ใกล้สะพานข้ามแม่น้ำแคว ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ปรับลดราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 83.41 ลบ. นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชันมากมาย อาทิ “SAM ฟรีโอนไม่อั้น” “SAM ทรัพย์มือสองต้องบอกต่อ” เพียงแนะนำทรัพย์ SAM ให้กับเพื่อนหรือคนรู้จัก รับค่าแนะนำสูงสุดถึง 3 ล้านบาทต่อ 1 รายการ (เฉพาะทรัพย์ที่เข้าเงื่อนไข) รวมถึงความร่วมมือกับธนาคารชั้นนำ อย่างธนาคารกรุงเทพ ธนาคารยูโอบี ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต (ttb) ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในการให้บริการด้านสินเชื่อ โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด ตัวอย่างทรัพย์เด่นราคาพิเศษที่น่าสนใจ 1.บ้านเดี่ยว 2 ชั้นหลังมุม เนื้อที่ 57.8 ตร.ว. โครงการเซนโทร วิภาวดี ถ.ช่างอากาศอุทิศ แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย การคมนาคมสะดวก ใกล้กับท่าอากาศยานดอนเมือง จุดขึ้นลงทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ และห่างจากสถานีดอนเมือง รถไฟฟ้าสายสีแดงเพียง 2.7 กม.เท่านั้น นอกจากนี้ยังใกล้กับวัดพรหมรังษี โรงเรียนพระหฤทัย  ดอนเมือง และสำนักงานเขตดอนเมือง ปรับลดราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 8.71 ลบ. 2. บ้านเดี่ยว 2 ชั้นพร้อมบ้านพักคนงาน เนื้อที่ 267.8 ตร.ว. ถ.อนามัยงามเจริญ แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย การคมนาคมเข้าออกได้หลายเส้นทางใกล้ห้างเซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 2 ห้างบิ๊กซี พระราม 2 ห้างโฮมโปร พระราม 2 วัดท่าข้าม โรงเรียนวัดท่าข้าม และวัดเลา ปรับลดราคาพิเศษเริ่มต้นที่  8.83 ลบ.     3. อพาร์ทเมนท์ 4 ชั้น รวม 84 ห้อง เนื้อที่ 131.6 ตร.ว.โครงการไทยธานีคอนโด ถ.พหลโยธิน แขวงคลองถนน เขตบางเขน กรุงเทพฯ ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย ใกล้ตลาดยิ่งเจริญพลาซ่า มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ วิทยาเขตสะพานใหม่  โรงเรียนวัดราษฎร์นิยมธรรม ห่างจากสถานีสะพานใหม่ รถไฟฟ้าสายสีเขียวเพียง 2.3 กม. ปรับลดราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 6.34 ลบ. 4. บ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ 86.3 ตร.ว. โครงการบ้านฟ้าลากูน ถ.เลียบคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย สาธารณูปโภคครบครัน การคมนาคมสะดวก ใกล้โรงพยาบาลเปาโล รังสิต ห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต โรงเรียนอนุบาลรังสิต ปรับลดราคาพิเศษเริ่มต้นที่  5.31 ลบ. 5. บ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ 60.5 ตร.ว. โครงการออลสวีท ภูเก็ตซิตี้-พันวา ถ.ศักดิเดชน์ (ทล.4023) ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านที่อาศัย การคมนาคมสะดวก ใกล้โรงเรียนบ้านอ่าวน้ำบ่อ  และโรงเรียนดาวรุ่งวิทยา  ปรับลดราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 4.71 ลบ.        6. อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 3 คูหา แบ่งเป็น 1 คูหา เนื้อที่ 22.5 ตร.ว. และ 2 คูหาติดกัน เนื้อที่ 45 ตร.วา ถ.โชติวิทยะกุล 3 ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านพาณิชยกรรม สาธารณูปโภคครบครัน ใกล้สถานีขนส่งหาดใหญ่ ห้างเซ็นทรัล หาดใหญ่ และห้างแม็คโคร หาดใหญ่ ปรับลดราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 20.68 ลบ. ทั้งนี้ ผู้สนใจเข้าร่วมประมูลสามารถลงทะเบียนและยื่นซองประมูล พร้อมเอกสารประกอบการประมูลที่กำหนด โดยทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยและเพื่อการลงทุน ราคาไม่เกิน 20 ลบ. (ครั้งที่ 16.1/2568) ภายในวันที่ 1 ก.ย. 2568 และกำหนดเปิดซองประมูลวันที่ 9 ก.ย. 2568 ส่วนทรัพย์ที่มีราคาสูงกว่า 20 ลบ. (ครั้งที่ 16.2/2568) ภายในวันที่ 15 ก.ย. 2568 และกำหนดเปิดซองประมูลวันที่ 22 ก.ย. 2568 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ที่สำนักงานใหญ่ SAM อาคารซันทาวเวอร์ส ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ  หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1443  และดูรายละเอียดทรัพย์สินได้ทางเว็บไซต์ที่ www.sam.or.th  รวมทั้งช่องทางออนไลน์ที่หลากหลายและสะดวกรวดเร็ว โดยแอด ID Line @Samline ติดตาม Facebook /YouTube / TikTok ได้ที่  "SAM บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท"  เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสารดี ๆ จาก SAM

30 Aug 2025

...

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) นำคอนโดมิเนียมมือสองจำนวนกว่า 500 รายการทั่วประเทศ ออกจำหน่ายในงาน“มหกรรมคอนโดมิเนียมออนไลน์ ราคาพิเศษ” ลดราคาสูงสุด 50% จากราคาปกติ ผ่าน Application : GHB ALL HOME ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2568 เวลา 16.30 น. พิเศษ 3 ต่อ! ต่อที่ 1 : สำหรับลูกค้าที่จองซื้อทรัพย์ภายในระยะเวลาการจัดงานและทำสัญญาจะซื้อจะขายภายใน 3 วันทำการ รับบัตรกำนัลแทนเงินสดมูลค่า 1,000 บาท ต่อที่ 2 : สำหรับลูกค้าที่โอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2568 รับบัตรกำนัลแทนเงินสดมูลค่า 1,000 บาท และ ต่อที่ 3 : สำหรับลูกค้าที่จองซื้อทรัพย์ภายในระยะเวลาการจัดงานและยื่นขอสินเชื่อภายใน 45 วัน นับถัดจากวันทำสัญญาจะซื้อจะขายมีสิทธิ์รับสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% คงที่นาน 2 ปีแรก นายวิทยา แสนภักดี รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานปรับโครงสร้างหนี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. จัดงาน “มหกรรมคอนโดมิเนียมออนไลน์ ราคาพิเศษ” โดยนำคอนโดมิเนียมมือสองคุณภาพดี ออกจำหน่ายกว่า 500 รายการทั่วประเทศ ลดราคาสูงสุด 50% จากราคาปกติ ผ่าน Application :  GHB ALL HOME ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2568 เวลา 16.30 น. โดยเป็นคอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 361 รายการ  อาทิ คอนโดมิเนียม ชั้น 20 จาก 26 ชั้น ขนาดเนื้อที่ 32.22 ตารางเมตร ในโครงการริชพาร์ค @เตาปูน เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,610,000 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์ที่อยู่ในเขตเมือง เดินทางได้อย่างสะดวกและมีเส้นทางคมนาคมที่หลากหลาย และคอนโดมิเนียมในส่วนภูมิภาค จำนวน 145 รายการ อาทิ คอนโดมิเนียม ชั้น 3จาก 8 ชั้น ขนาดเนื้อที่ 38.98 ตารางเมตร ในโครงการทรีบูทีคคอนโด 2  อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,700,000 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์ที่เหมาะแก่การซื้อไว้เพื่ออยู่อาศัยหรือเป็นห้องพักตากอากาศ พิเศษ 3 ต่อ! ต่อที่ 1 : สำหรับลูกค้าที่จองซื้อทรัพย์ภายในระยะเวลาการจัดงานและทำสัญญาจะซื้อจะขายภายใน 3 วันทำการ รับบัตรกำนัลแทนเงินสด มูลค่า 1,000 บาท (รางวัลละ 1 ท่าน ต่อ 1 ใบ) จำนวน 100 ใบ (แบ่งเป็นทรัพย์ในเขตกรุงเทพ-ปริมณฑล 50 ใบ และทรัพย์ในเขตภูมิภาค 50 ใบ) ต่อที่ 2 : สำหรับลูกค้าที่โอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2568 รับบัตรกำนัลแทนเงินสดมูลค่า 1,000 บาท (รางวัลละ 1 ท่าน ต่อ 1 ใบ) และ ต่อที่ 3 : สำหรับลูกค้าที่จองซื้อทรัพย์ภายในระยะเวลาการจัดงาน และยื่นขอสินเชื่อภายใน 45 วัน นับถัดจากวันทำสัญญาจะซื้อจะขายมีสิทธิ์รับสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% คงที่นาน 2 ปีแรก สำหรับผู้ที่สนใจสามารถจองซื้อออนไลน์ได้ที่ Application : GHB ALL HOME โดยสามารถรับชมภาพทรัพย์จริงได้ทาง Application : GHB ALL HOME หรือ www.ghbhomecenter.com ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายทรัพย์ NPA ดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินการตามพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ซึ่งลูกค้าที่จองซื้อบ้านมือสอง ธอส. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 กด 5 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือดูข้อมูลบ้านมือสอง ธอส. ได้ที่ www.ghbhomecenter.com, Mobile Application : GHB ALL HOME และ Line Official Account : @GHBALLHOME

12 Aug 2025

...

นิสสันเพิ่มทางเลือกให้กับนิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูงยอดนิยม 3 รุ่นย่อยใหม่ ได้แก่ รุ่นคิงแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT รุ่นดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 6 MT และรุ่นดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT ที่มาพร้อมสมรรถนะแบบ “ทน พร้อม ลุย” กับราคาที่โดนใจ ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้น โทชิฮิโระ ฟูจิคิ ประธานนิสสัน ประเทศไทย และนิสสัน อาเซียน กล่าวว่า “นิสสัน นาวารา เป็นหนึ่งในรถกระบะยอดนิยมรวมถึงรถยนต์รุ่นหลักของนิสสันตลอดหลายปีที่ผ่านมา ด้วยความเชื่อถือ และวางใจได้ กับความทนทาน และมากด้วยประโยชน์ใช้สอย พร้อมดีไซน์ทันสมัย การเปิดตัวนิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูง 3 รุ่นย่อยใหม่นี้ จะเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่กำลังมองหารถกระบะที่ “ทน พร้อม ลุย” ได้เป็นเจ้าของรถกระบะที่สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์ ทั้งการเดินทางสำหรับทุกคนในครอบครัว หรือการใช้งานในด้านธุรกิจ ภายใต้ราคาที่ดีมากๆ” นิสสัน นาวารา ทั้ง 3 รุ่นย่อยใหม่ มาพร้อมราคาที่เร้าใจ ได้แก่ คิงแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT ราคา 758,000 บาท ดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 6MT ราคา 792,000 บาท ดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT ราคา 842,000 บาท   โดยทั้ง 3 รุ่น มาพร้อมสมรรถนะ และความทรงพลัง ในแบบฉบับของรถกระบะยกสูง ด้วยเครื่องยนต์ที่เรียกแรงบิดมหาศาลได้ตั้งแต่ 1,500 รอบต่อนาที โดยรุ่นคิงแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT และ ดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 7AT มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ให้พละกำลัง 190 แรงม้า (PS) แรงบิดมหาศาล 450 นิวตัน-เมตร (Nm)  ขณะที่รุ่น ดับเบิลแค็บ คาลิเบอร์ SL 6MT มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.3 ลิตร เทอร์โบแปรผัน ให้พละกำลัง 160 แรงม้า (PS) แรงบิด 403 นิวตัน-เมตร (Nm) ด้วยพละกำลัง สมรรถนะการใช้งาน และความอเนกประสงค์ ทำให้นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูงเหมาะสำหรับการใช้งานทั้งทางธุรกิจ และการเดินทางสำหรับครอบครัว นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูงทั้ง 3 รุ่นย่อยใหม่ มาพร้อมกระจังหน้าสีดำเสริมความดุดัน กันชนสีเดียวกับตัวรถ ตกแต่งด้วยขอบสีดำสุดเท่ และล้อขนาด 17 นิ้ว นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ กระบะยกสูง 3 รุ่นย่อย ในเกรด SL ยังมาพร้อมความทนทาน ให้ความมั่นใจในทุกสภาพการขับขี่ด้วยสมรรถนะอันโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของนิสสัน นาวารา  ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ ปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลงด้านหลังเป็นแหนบพร้อมโช้คอัพ ระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน และดรัมเบรกด้านหลัง ช่วยหยุดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้จะบรรทุกน้ำหนักมากก็ตาม นอกจากนี้ ยังคงให้ความอุ่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist - HSA) ที่ช่วยป้องกันไม่ให้รถไหลถอยหลังขณะออกตัวบนเนิน ระบบเบรก ABS พร้อม EBD และ BA  ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เทคโนโลยีป้องกันการลื่นไถลขณะถนนลื่น (Active Brake Limited Slip - ABLS)  เทคโนโลยีควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamic Control - VDC)  เทคโนโลยีป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System – TCS)   เทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพของรถ ขณะลากจูง (Trailer Stability Assist - TSA) แผงลวดไล่ฝ้ากระจกหลัง  ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ที่ให้ความปลอดภัย และมองเห็นได้ชัดเจน  และเข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง พร้อมระบบดึงกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติ นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ ทั้ง 3 รุ่นใหม่ เพิ่มความสะดวกสบายและปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise control) ระบบ Push Start และกุญแจรีโมทอัจฉริยะ มีสีตัวถังภายนอกให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีดำ Black Star  สีขาว White Pearl สีเงิน Brilliant Silver สีเทา Twilight Grey และสีทองแดง Forged Copper ทั้งนี้ นิสสันมอบโปรโมชั่นพิเศษฉลองเปิดตัว* สำหรับลูกค้านิสสัน นาวาราทั้ง 3 รุ่นย่อยใหม่ เพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ผ่อนสบาย รายเดือนเริ่มต้นเพียง 4,999 บาท หรือดอกเบี้ยอัตราพิเศษเริ่มต้นที่ 0.89%  พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง หรือเงินดาวน์ต่ำเริ่มต้นเพียง 19,999 บาท ผ่อนนาน 84 เดือน ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมนิสสันทั่วประเทศ หรือ โทร. 0-2401-9600

11 Jul 2025

...

นิสสัน ประเทศไทย จัดงานประชุมผู้จำหน่ายประจำปี 2568 ในธีม “Achieve Together” ขอบคุณผู้จำหน่ายทั่วประเทศที่ได้ร่วมกันสร้างความสำเร็จในปีที่ผ่านมา และตอกย้ำความมุ่งมั่นที่มีต่อประเทศไทย และผู้จำหน่าย ร่วมเดินหน้าสนับสนุนพัฒนาผู้จำหน่ายทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตไปด้วยกัน ผ่านการบริการ และการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ และความพึงพอใจของลูกค้า เสริมสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น    ผู้จำหน่ายเป็นพันธมิตรที่มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจ และความแข็งแกร่งของแบรนด์  นิสสันอย่างต่อเนื่องมาตลอด นิสสันจึงได้จัดงานประชุมผู้จำหน่ายประจำปีเพื่อขอบคุณผู้จำหน่ายที่ได้ทำงานร่วมกัน และทุ่มเทเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าชาวไทย รวมทั้งยืนยันความมุ่งมั่นของนิสสันที่จะสร้างการเติบโตไปพร้อมกับพันธมิตรผู้จำหน่ายทั่วประเทศ กิจกรรมดังกล่าวเปิดโอกาสให้ผู้บริหารนิสสันได้พบปะกับผู้จำหน่าย ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกลยุทธ์ของนิสสัน เทรนด์การตลาด และแนวทางที่จะช่วยให้ผู้จำหน่ายสามารถพัฒนาการบริการ เพื่อยกระดับความพึงพอใจของลูกค้า  ในการประชุมผู้จำหน่ายประจำปี 2025 นิสสันได้ย้ำหัวใจสำคัญของ RE:NISSAN ซึ่งเป็นกลยุทธ์ระดับโลกที่นิสสันประกาศโดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจของนิสสันโดยรวม พร้อมทั้งชี้แจงทิศทางธุรกิจของนิสสันประเทศไทย โดยเป็นการวางแนวทางธุรกิจในประเทศ ทั้งนี้ นิสสันประเทศไทยยังได้เปิดเผยแผนการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ล่วงหน้า เพื่อให้ผู้จำหน่ายมีเวลาเตรียมความพร้อมอย่างเพียงพอสำหรับการเปิดตัว และสามารถส่งมอบความตื่นเต้นรูปแบบใหม่ให้กับลูกค้าชาวไทยได้อย่างต่อเนื่อง โทชิฮิโระ ฟูจิคิ ประธาน นิสสัน ประเทศไทย และนิสสัน อาเซียน กล่าวว่า “นิสสันให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับพันธมิตร และผู้จำหน่ายของเรา ตลอดเวลากว่า 72 ปี ที่ผ่านมา นิสสันอยู่ในประเทศไทย และประสบความสำเร็จมากมาย ซึ่งต้องขอขอบคุณการสนับสนุน และความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้จำหน่ายทุกท่าน และนิสสัน ประเทศไทย จะยังคงมุ่งมั่น เดินหน้าเพื่อสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจในประเทศไทยไปพร้อมกับพันธมิตร และผู้จำหน่ายทุกราย” เครือข่ายผู้จำหน่ายของนิสสันมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ของบริษัท เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน นิสสันได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้ายุคใหม่ เช่น ระบบดิจิทัลที่ถูกพัฒนาให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้คน เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น  โดยระบบเหล่านี้จะช่วยมาเสริมศักยภาพของผู้จำหน่ายในแง่การปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการได้ดียิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต

07 Jun 2025

...

 บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด จัดประชุมผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2568 ภายใต้แนวคิด “Redefining Excellence with Reliability and Trust - ยกระดับความเป็นเลิศ สู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน” แถลงทิศทางการดำเนินธุรกิจและเป้าหมายสำคัญร่วมกับผู้จำหน่ายครอบคลุม 3 ทิศทางหลัก ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และการจำหน่าย การบริการ และการสร้างแบรนด์ ภายใต้แนวคิดสำคัญในการเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer-centric approach) ด้วยการผนึกความร่วมมือกับผู้จำหน่าย เพื่อยกระดับประสบการณ์ที่น่าประทับใจแก่ลูกค้าในทุกทัชพอยต์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของฮอนด้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าและเติบโตเคียงคู่กับสังคมไทย พร้อมยกระดับสู่ความเป็นเลิศแห่งยนตรกรรมอย่างยั่งยืน   นายโคจิ อิวานามิ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวต้อนรับผู้จำหน่ายฯ รวมถึงถ่ายทอดความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนแบรนด์และผลิตภัณฑ์ฮอนด้าในประเทศไทย นายโคจิ อิวานามิ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ผมขอขอบคุณผู้จำหน่ายทุกท่านสำหรับความร่วมมือและการสนับสนุนตลอดปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ฮอนด้า สามารถบรรลุเป้าหมายสำคัญได้ สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้จะให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้า ผ่านการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจในทุกทัชพอยต์ โดยมีผู้จำหน่ายและบุคลากรของผู้จำหน่ายที่เปรียบเสมือนตัวแทนของแบรนด์ที่จะส่งมอบการบริการที่ยอดเยี่ยมไปสู่ลูกค้า เพื่อมอบคุณค่าที่เข้าถึงและผูกพันกับลูกค้าของเราอย่างยั่งยืนต่อไป” ภายในงาน ฮอนด้า ได้ถ่ายทอดทิศทางการดำเนินธุรกิจและเป้าหมายสำคัญกับเครือข่ายผู้จำหน่าย เพื่อตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการร่วมมือเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีเยี่ยมให้แก่ลูกค้า โดยผสานการต่อยอดพื้นฐานจุดแข็งปัจจุบันของฮอนด้า ทั้งด้านความเชื่อมั่นในแบรนด์ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ไลน์อัป e:HEV ที่โดดเด่น และด้านความพึงพอใจของลูกค้า สู่ทิศทางการดำเนินงาน 3 ด้านหลัก ครอบคลุมทั้งด้านผลิตภัณฑ์และการจำหน่าย การบริการ และการสร้างแบรนด์ ดังนี้ ด้านผลิตภัณฑ์และการจำหน่าย เน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้า ควบคู่ไปกับการส่งมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจในทุกเส้นทาง นำโดยไลน์อัปฟูลไฮบริด e:HEV ซึ่งได้รับการยอมรับและพิสูจน์อย่างกว้างขวางถึงความโดดเด่นทั้งด้านสมรรถนะทรงพลัง อัตราเร่งทันใจ การขับขี่ที่นุ่มนวล และอัตราประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม โดยฮอนด้ามีแผนขยายไลน์อัป e:HEV ให้หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ให้ได้สัมผัสกับรถยนต์ไฮบริดจากฮอนด้าอย่างเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น ตอกย้ำความเชื่อมั่นให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์การใช้รถยนต์ไฟฟ้า 100% ของฮอนด้า ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล โดยปัจจุบัน ฮอนด้า มีความพร้อมในการให้บริการและดูแลลูกค้ารถยนต์ Honda e:N1 ทั้งด้านศูนย์บริการที่ได้มาตรฐาน อะไหล่ และช่างผู้เชี่ยวชาญ ผ่านเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศ สะท้อนรากฐานความพร้อมที่มั่นคงในการก้าวเข้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต เครือข่ายผู้จำหน่ายฮอนด้าฯ ทั่วประเทศ ร่วมตอกย้ำความพร้อมในการให้บริการ และดูแลลูกค้ารถยนต์ Honda e:N1 ให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์ใช้รถยนต์ไฟฟ้า 100% ได้อย่างมั่นใจไร้กังวล 2. ด้านการบริการ ตั้งเป้าส่งมอบประสบการณ์ที่เป็นเลิศเน้นลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญแห่งการบริการ โดยมุ่งดูแลลูกค้าปัจจุบันเพื่อความพึงพอใจสูงสุด พร้อมสร้างความรู้สึกภูมิใจในการเลือกใช้รถยนต์ฮอนด้า ด้วยการส่งมอบคุณค่าที่เหนือกว่าตลอดการเป็นเจ้าของในทุกทัชพอยต์ อาทิ การบริการหลังการขายที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นผ่านประสบการณ์ในรูปแบบดิจิทัล การนำเสนอกิจกรรมสุดเอกซ์คลูซีฟให้เข้าร่วมตลอดปี รวมทั้งข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ มุ่งสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจในระยะยาว ด้วยจุดแข็งด้านเครือข่ายผู้จำหน่ายครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 222 แห่ง ที่พร้อมส่งมอบความประทับใจกับบริการหลังการขายภายใต้มาตรฐานเดียวกันโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ ให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าได้รับการบริการอย่างทั่วถึงและดีเยี่ยม และรู้สึกอุ่นใจที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวรถยนต์ฮอนด้า (Honda family) 3. ด้านการสร้างแบรนด์ ในปีนี้ ฮอนด้า ได้เริ่มสื่อสารแบรนด์ภายใต้แนวคิด “Where The Drive Means More ขับเคลื่อนชีวิตไปให้สุดในแบบที่เป็นคุณ” ที่ผสานการสะท้อนความมีรสนิยมและมีชีวิตชีวา เพื่อถ่ายทอดให้เห็นว่ารถยนต์ฮอนด้า เป็นมากกว่ายานพาหนะ เปรียบเสมือนเพื่อนคู่ใจที่วางใจได้ พร้อมเคียงข้างและขับเคลื่อนแรงบันดาลใจ เพื่อส่งมอบความสุขในทุกการเดินทางและทุกช่วงเวลาของชีวิต โดยจะโฟกัสการเสริมสร้างคุณค่าของแบรนด์ที่เชื่อมโยงกับประสบการณ์ในชีวิตประจำวันของลูกค้าในทุกทัชพอยต์ ซึ่งการสื่อสารแบรนด์ดังกล่าว จะได้รับการถ่ายทอดผ่านกิจกรรมต่าง ๆ โดยผู้จำหน่ายจะร่วมเป็นหัวใจสำคัญในการเชื่อมโยงและส่งมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจไปยังลูกค้า ผ่านกิจกรรมสุดเอกซ์คลูซีฟตลอดปี    นายชุน คุโรดะ กรรมการและเจ้าหน้าที่บริหารสายงานขายและบริการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงรายละเอียดทิศทางการดำเนินธุรกิจและเป้าหมายแก่ผู้จำหน่ายฯ   นอกจากการถ่ายทอดทิศทางการดำเนินธุรกิจและเป้าหมาย ภายในงานยังได้มีพิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติให้แก่ผู้จำหน่ายสำหรับผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาที่ร่วมขับเคลื่อนธุรกิจของฮอนด้า และมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้แก่ลูกค้า ครอบคลุมทั้งรางวัลผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมประจำปี รวมถึงรางวัลด้านต่าง ๆ อาทิ ด้านยอดขาย ด้านส่วนแบ่งการตลาด ด้านการบริการหลังการขาย และอื่น ๆ รวม 82 รางวัล   นายพรวุฒิ สารสิน (ที่ 6 จากซ้าย) ประธานคณะกรรมการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมมอบรางวัลผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมประจำปี 2567   พิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติให้แก่ผู้จำหน่ายสำหรับผลการดำเนินงานในปีงบประมาณที่ผ่านมา รวม 82 รางวัล   การจัดประชุมผู้จำหน่ายในครั้งนี้ นับเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของฮอนด้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการอย่างไม่หยุดนิ่ง ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อมุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้าไปอีกขั้น และสร้างความประทับใจตลอดการเป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้า พร้อมเติบโตเคียงข้างคนไทยและสานต่อพันธกิจในการเป็นองค์กรที่สังคมต้องการให้ดำรงอยู่ตลอดไปอย่างยั่งยืน

26 May 2025

Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

ทิพยประกันภัยเดินหน้าต่อยอดประสบการณ์ด้านประกันภัยรถยนต์ เปิดตัวแคมเปญใหญ่ “TIP MOTOR EXTRA PRO ประกันรถสุดปัง อลังการสุดโปร” ในงาน Motor Expo 2025 เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่มองหาความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ครบวงจร พร้อมคัดสรรผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์หลากหลาย อาทิ TIP Premium Garage Plus, TIP Lady, TIP Rainbow, TIP Up to Mile และประกันรถยนต์ 2+ คุ้มทุน พร้อมทีมให้คำปรึกษา คำนวณเบี้ย และบริการต่ออายุกรมธรรม์ภายในงาน แคมเปญ “TIP MOTOR EXTRA PRO” มอบข้อเสนอสุดคุ้มสำหรับลูกค้า อาทิ • ส่วนลดเบี้ยประกันภัยสูงสุด 15% สำหรับลูกค้าใหม่ • รับของสมนาคุณ รวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท • ลุ้นรับรถยนต์ MITSUBISHI XFORCE รุ่น ULTIMATE มูลค่า 1,059,000 บาท • ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน • พิเศษ! ลูกค้าที่ต่ออายุประกันภัยรถยนต์ภายในงาน รับ บัตร Lotus’s มูลค่าสูงสุด 1,000 บาท ทิพยประกันภัยขอเชิญทุกท่านร่วมรับข้อเสนอสุดพิเศษเฉพาะงาน Motor Expo 2025 ได้ที่บูธ V07–V08 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568

30 Nov 2025

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือ โครงการศึกษาครัวเรือนฐานรากเพื่อสร้างการเข้าถึงแหล่งเงินในระบบ ระหว่าง ธนาคารออมสิน และ สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ เพื่อศึกษาความเป็นอยู่และพฤติกรรมทางการเงินของกลุ่มครัวเรือนฐานรากที่ยังไม่สามารถเข้าถึงการเงินในระบบ ที่จะนำไปสู่การต่อยอดองค์ความรู้ จากการวิจัยในการพัฒนาระบบการเงินที่เหมาะสม ช่วยยกระดับเศรษฐกิจและความเข้มแข็งทางการเงินของภาคครัวเรือนไทย โดยมี นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และ ดร.โสมรัศมิ์ จันทรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าว เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ณ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่   นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ภายใต้บทบาทการเป็น Social Bank ที่มุ่งลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินและสร้างการเข้าถึงแหล่งทุนที่เป็นธรรม ธนาคารเดินหน้าภารกิจหลักที่ 1 ในการสร้างการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบสถาบันการเงิน ซึ่งหากพิจารณาจากสถานการณ์การเข้าถึงสินเชื่อของคนไทย ปัจจุบันยังพบว่าครัวเรือนกว่าร้อยละ 30 ยังอยู่ในกลุ่ม Unserved และ Underserved โดยเป็นผู้มีรายได้น้อยและ/หรือรายได้ไม่แน่นอน ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบจากการขาดประวัติเครดิตทางการเงิน และกว่าครึ่งยังต้องพึ่งพาหนี้นอกระบบเพิ่มขึ้นและต้องเผชิญภาระดอกเบี้ยสูง ดังนั้น เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนบทบาทการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ธนาคารจึงได้จัดตั้งสถาบันวิจัยเศรษฐกิจฐานรากขึ้นเป็นครั้งแรก และได้ร่วมมือกับสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ เพื่อคิกออฟงานวิจัย “โครงการศึกษาครัวเรือนฐานรากเพื่อสร้างการเข้าถึงแหล่งเงินในระบบ” โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายของการศึกษาเป็นผู้เข้าร่วมโครงการสินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส ที่ธนาคารได้ดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี 2568 เพื่อปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ที่มีรายได้ แต่ไม่เคยมีประวัติเครดิตทางการเงิน หรือไม่เคยใช้บริการสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินอย่างน้อย 2 ปี ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ของโครงการนี้มีลักษณะตัวตน หรือ Customer Persona ที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของงานศึกษาวิจัยครั้งนี้ ทั้งนี้ ธนาคารหวังว่าจะสามารถนำผลลัพธ์ของงานวิจัยไปออกแบบเครื่องมือทางการเงิน หรือมาตรการสินเชื่อที่ตรงจุด สามารถตอบโจทย์ความคาดหวัง และสร้างระบบการเงินที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งการพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมาย SDGs และสอดคล้องตามบทบาทของธนาคารเพื่อสังคม   ดร. โสมรัศมิ์ จันทรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ เปิดเผยว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการศึกษาข้อมูลเชิงลึกของลูกหนี้ภายใต้โครงการ “สินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส” ของธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นต้นแบบสินเชื่อดิจิทัลที่เปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้แต่ไม่เคยเข้าถึงสินเชื่อในระบบสามารถกู้เงินได้เป็นครั้งแรก โดยธนาคารออมสินได้ปล่อยสินเชื่อเพื่อช่วยคนไทยสร้างประวัติเครดิตทางการเงินไปแล้วกว่า 200,000 ราย สะท้อนถึงความต้องการเข้าถึงสินเชื่อในระบบที่ยังมีอยู่จำนวนมาก การศึกษาครั้งนี้จึงมุ่งขยาย “ประตูสู่ระบบการเงิน” ให้กว้างขึ้น ผ่านการเก็บข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มคนที่อยู่นอกระบบเป็นครั้งแรก ใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1) ปัญหาเศรษฐกิจการเงิน พฤติกรรมและความต้องการทางการเงิน 2) โมเดลผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยให้ลูกหนี้ชำระคืนได้จริง 3) การทดลองใช้ข้อมูลใหม่และข้อมูลทางเลือกเพื่อค้นหาตัวชี้วัดความเสี่ยงที่แม่นยำยิ่งขึ้นให้กับสถาบันการเงิน 4) การติดตามผลการเข้าถึงสินเชื่อต่อรายได้และคุณภาพชีวิตของลูกหนี้ตลอดระยะเวลา 1 ปี เพื่อนำไปใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสม ซึ่งผลการศึกษาจะช่วยให้ธนาคารออมสินออกแบบผลิตภัณฑ์และกระบวนการพิจารณาสินเชื่อที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น สอดคล้องกับศักยภาพของลูกหนี้ และเพิ่มโอกาสในการชำระคืน   ขณะเดียวกัน สถาบัน ฯ จะมีองค์ความรู้เชิงลึกเพื่อนำไปสนับสนุนนโยบาย Your Data และโครงการ Risk-Based Pricing ของธนาคารแห่งประเทศไทย ช่วยให้สถาบันการเงินประเมินความเสี่ยงได้โปร่งใส เป็นธรรม และเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ “เคยถูกมองไม่เห็น” เข้าสู่ระบบการเงินได้มากขึ้น ถือเป็นก้าวสำคัญที่เปลี่ยนงานวิจัยให้เกิดผลจริงต่อประชาชนฐานราก เสริมรากฐานระบบการเงินที่เข้าถึงง่าย ยั่งยืน และช่วยยกระดับศักยภาพและคุณภาพชีวิตของครัวเรือนไทยได้อย่างมั่นคงในระยะยาว  

30 Nov 2025

...

จากสถานการณ์อุทกภัยส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ของภาคใต้ โดยขณะนี้จังหวัดสงขลาประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน จึงขอแจ้งปิดทำการกรุงเทพประกันภัย สาขาหาดใหญ่ เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยลูกค้าสาขาหาดใหญ่และใกล้เคียงสามารถติดต่อบริการด้านประกันภัยได้ที่ กรุงเทพประกันภัย สาขาสุราษฎร์ธานี โทร. 0 7727 3806 ทั้งนี้ กรุงเทพประกันภัยขอแสดงความห่วงใยและเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคใต้ และเพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อรับคำปรึกษาต่างๆ และแจ้งเคลมสินไหมทดแทนสำหรับบ้านที่อยู่อาศัยและสถานประกอบการ รวมถึงประกันภัยรถยนต์ หรือรับบริการรถยกเพื่อเคลื่อนย้ายรถไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้ที่ช่องทางต่างๆ ดังนี้ - LINE @bangkokinsurance - โทร. 1620 ตลอด 24 ชั่วโมง

25 Nov 2025

...

นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 เห็นชอบให้ดำเนินโครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” เพื่อช่วยยกระดับความสามารถในการหารายได้ของผู้ประกอบการรายเล็กบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งที่เป็นทักษะความรู้ด้านการเงินและด้านดิจิทัล โดยรัฐบาลสนับสนุนเงินเพิ่มสูงสุด 2,000 บาท/ราย สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ Upskill/Reskill และได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งโครงการดังกล่าวมีหน่วยงานพันธมิตรหลายรายเป็นผู้ให้บริการเรียนรู้และพัฒนาทักษะแก่ร้านค้า โดยมีธนาคารออมสินรับผิดชอบการพัฒนาทักษะแก่ผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย “ประเภทบุคคลธรรมดา” หลักสูตร “Smart Finance Upskill : การพัฒนาความรู้ทางการเงินเพื่อร้านค้ารายย่อยโครงการคนละครึ่ง พลัส” สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าบุคคลธรรมดา เน้นให้ความรู้ทางการเงินที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการร้านค้ายุคใหม่ ประกอบด้วยเนื้อหาสำคัญ 4 ด้าน ได้แก่ การทำบัญชี การคิดต้นทุน เทคนิคการตั้งราคาขาย และความรู้ก่อนยื่นขอกู้ พร้อมแบบจำลองการยื่นกู้ให้ผู้ประกอบการได้ฝึกเรียนรู้ด้วยตนเอง และสามารถนำแบบจำลองนั้นไปใช้ประกอบการยื่นกู้กับสถาบันการเงินได้ โดยผู้ที่ได้สมัครเรียนและผ่านการทดสอบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จะได้รับประกาศนียบัตรรับรองการผ่านหลักสูตรเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการรับสิทธิ์เงินเพิ่มสูงสุด 2,000 บาท ร้านค้าที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าเรียนได้แล้วตั้งแต่วันนี้ - 19 ธันวาคม 2568 ที่เว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th ตลอด 24 ชม. โดยผู้ที่สำเร็จหลักสูตรตามเงื่อนไขที่กำหนด จะมีการแจ้งผลการรับสิทธิ์เงินสนับสนุนจากภาครัฐ ผ่านแอปถุงเงินและข้อความ SMS ในวันที่ 23 ธันวาคม 2568 ทั้งนี้ ธนาคารขอแนะนำโปรดหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่มีผู้ใช้งานหนาแน่น ซึ่งอาจทำให้ประสบปัญหาเว็บไซต์ตอบสนองช้ากว่าปกติได้ กรณีประสบปัญหาการใช้บริการ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Smart Finance Upskill และข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโครงการ Upskill/Reskill คนละครึ่ง พลัส สามารถติดต่อที่ GSB Contact Center โทร.1115 กด 7 ตลอด 24 ชม.   นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่สำเร็จหลักสูตร Smart Finance Upskill แล้ว ยังมีสิทธิ์ยื่นขอกู้เงื่อนไขพิเศษกับสินเชื่อ “สร้างงานสร้างอาชีพ พลัส” โดยกดยื่นขอกู้ได้จากหน้าเว็บไซต์หลังเรียนจบหลักสูตร เพื่อเชื่อมต่อกระบวนการยื่นขอกู้ทางแอป MyMo ได้โดยสะดวก ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) = 0.75% ต่อเดือน แบบไม่มีหลักประกัน (Clean Loan) ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2568 ทั้งนี้ ธนาคารพิจารณาให้กู้ตามความจำเป็นเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนหรือเสริมสภาพคล่อง และตามความสามารถในการชำระคืน ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.gsb.or.th    

23 Nov 2025

Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner