Responsive image

Wednesday, 09 Apr 2025

Tags ที่คล้ายกัน "ดร.สมพร สืบถวิลกุล"
...

10 Sep 2021

...

07 Sep 2021

...

28 Aug 2021

...

16 Aug 2021

...

11 Aug 2021

...

11 Aug 2021

...

07 Aug 2021

...

06 Aug 2021

...

27 Jul 2021

...

24 Jul 2021

...

11 Jul 2021

...

02 Jul 2021

...

27 Jun 2021

...

27 Jun 2021

...

31 May 2021

...

29 May 2021

...

02 May 2021

...

29 Apr 2021

...

29 Apr 2021

...

29 Apr 2021

...

12 Apr 2021

...

05 Mar 2021

...

25 Feb 2021

...

20 Feb 2021

Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ  กรุงเทพประกันชีวิต ขอแสดงความห่วงใยพี่น้องประชาชนต่อกรณีเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศไทยเมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินในวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพและความเป็นอยู่ทั้งของลูกค้าและประชาชน จึงขอส่งกำลังใจให้ทุกท่านผ่านพ้นวิกฤตนี้ในเร็ววัน และด้วยตระหนักถึงความเดือดร้อนและความเสียหายของผู้ประสบภัย จึงขอสนับสนุนและช่วยเหลือลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์ที่ประสบเหตุแผ่นดินไหวโดยมีมาตรการช่วยเหลือด้วย การขยายระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยประกัน สำหรับผู้ถือกรมธรรม์ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว และมีกำหนดชำระเบี้ยตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 – 30 เมษายน 2568  โดยให้สามารถขยายระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันจาก 60 วัน เป็น 90 วัน โดยผู้ถือกรมธรรม์สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-777-8888 ด้วยความใส่ใจ ห่วงใย จากกรุงเทพประกันชีวิต

09 Apr 2025

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า เนื่องในวาระวันคล้ายวันสถาปนาธนาคารออมสิน วันที่ 1 เมษายน 2568 ธนาคารได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการออมให้ประชาชนครั้งใหญ่ ประเดิมด้วยแคมเปญแห่งปี “ออมร้อย ชิงร้อยล้าน” กับสลากออมสินพิเศษ 1 ปี ทั้งแบบใบสลากและสลากดิจิทัล ลุ้นรับรางวัลพิเศษมูลค่ารวม 100 ล้านบาท มอบโชคสำหรับผู้ถูกรางวัลพิเศษ มูลค่า 70 ล้านบาท งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 เพียง 1 รางวัลเท่านั้น และรางวัลพิเศษ มูลค่า 1 ล้านบาท งวดวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 จำนวน 30 รางวัล สำหรับผู้ฝากสลากตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 15 กรกฎาคม 2568 ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาและแอปพลิเคชัน MyMo ทั้งนี้ เมื่อฝากสลากครบกำหนด 1 ปี จะได้รับดอกเบี้ย 0.20 บาทต่อหน่วย และมีสิทธิ์ลุ้นถูกรางวัลที่ 1 มูลค่า 10 ล้านบาท และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมายทุกเดือน โดยดอกเบี้ยและเงินรางวัลสำหรับบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี ธนาคารยังจัดเตรียม “เงินขวัญถุง” มอบให้เด็กที่เกิดในวันคล้ายวันสถาปนาธนาคาร วันที่ 1 เมษายน 2568 จำนวน 500 บาทต่อราย เพื่อเป็นเงินออมตั้งต้นและช่วยปลูกฝังวินัยการออมตั้งแต่แรกเกิด โดยบิดาหรือมารดาของเด็กที่มีสัญชาติไทย สามารถนำสูติบัตรฉบับจริงของเด็ก พร้อมบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของบิดาหรือมารดา มาแสดงตนได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568 และเพื่อสร้างนิสัยการออมให้แก่เยาวชน ธนาคารยังได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝาก Smart Junior เพื่อเด็กและเยาวชนที่มีอายุ 7 – 23 ปี โดยเป็นเงินฝากที่ให้ดอกเบี้ยพิเศษเมื่อฝากเงินอย่างสม่ำเสมอและมียอดเงินฝากคงเหลือเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.50% ต่อปี และสูงสุด 2.10% ต่อปี ตามเงื่อนไขที่กำหนด ระยะเวลาฝากรวม 30 เดือน เปิดบัญชีขั้นต่ำ 1 บาท สูงสุด 100,000 บาท ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.gsb.or.th หรือ GSB Contact Center โทร. 1115  

09 Apr 2025

...

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR สร้างชื่อเสียงระดับเอเชียอีกครั้ง คว้ารางวัลชนะเลิศ “องค์กรด้านการดูแลสวัสดิการและคุณภาพชีวิตพนักงานดีเด่น” หรือ Best Benefits, Wellness and Well-Being Program 2025 จากเวที Retail Banker International Asia Trailblazer Awards 2025 จัดโดยนิตยสาร Retail Banker International (RBI) ประเทศสิงคโปร์ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ บมจ.เงินติดล้อ ในการสร้าง “วัฒนธรรมองค์กร” ที่แข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับการสร้างความสุขและการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับพนักงานมากกว่า 8,000 คน ทั่วประเทศ โดยมีตัวแทนชาวเงินติดล้อขึ้นรับรางวัล ได้แก่ คุณนุชนารถ อาภามงคล ผู้บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคล (ขวา) คุณกาญจน์ณัฐ เฉลิมจุฬามณี ผู้บริหารศูนย์การเรียนรู้เงินติดล้อ (Tidlor Academy) (กลาง) และ คุณกรรณิการ์ นาคิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริหารค่าตอบแทนและสวัสดิการ (ซ้าย) ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บมจ.เงินติดล้อ มุ่งมั่นดูแลพนักงานด้วยความตั้งใจจริง ด้วยความเชื่อว่า เมื่อพนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี ก็จะสามารถเติบโตและส่งต่อสิ่งดีๆ ให้กับผู้อื่นได้ จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของพนักงานในทุกมิติ ทั้งด้านการทำงาน การเงิน เทคโนโลยี และสุขภาพ เพื่อให้พนักงานได้รับโอกาสที่ดีขึ้นในชีวิต จากความตั้งใจนี้ บมจ.เงินติดล้อ จึงออกแบบสวัสดิการที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงให้กับพนักงานอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นค่าตอบแทนที่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โครงการร่วมลงทุนระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง (EJIP) รวมถึงบริการให้คำปรึกษา iSTRONG ที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้พูดคุยกับนักจิตวิทยามืออาชีพโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และไลฟ์โค้ชเพื่อช่วยวางแผนชีวิตและสร้างเส้นทางสู่อนาคตที่มั่นคง นอกจากนี้ ยังให้ความรู้ด้านการเงินตั้งแต่วันแรกของการทำงาน ไปจนถึงการวางแผนเกษียณ เพื่อให้พนักงานมีรากฐานที่มั่นคงและสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจ รางวัลนี้ จึงไม่ใช่เพียงเครื่องหมายแห่งความสำเร็จ แต่เป็นการยืนยันถึงเจตนารมณ์ของ บมจ.เงินติดล้อ ในการดูแลพนักงานด้วยความจริงใจ พร้อมเดินหน้าสร้างโอกาสทางการเงินที่เป็นธรรมและโปร่งใสให้กับผู้คนในสังคม อีกทั้งยังสะท้อนถึงความสำเร็จของการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้เจตนาในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสทางการเงินที่เป็นธรรมและโปร่งใสให้กับประชาชน พร้อมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงประกันภัยได้อย่างทั่วถึง สำหรับผู้สนใจเรื่องราววัฒนธรรมองค์กรในแบบฉบับชาวเงินติดล้อ สามารถติดตามได้ที่ www.tidlor.com/th/news/culture และ Facebook Fan page เงินติดล้อ หรือติดต่อสอบถามได้ที่ Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 088-088-0880 ตลอด 24 ชม.

08 Apr 2025

...

SME D Bank ออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว  ได้แก่ พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย  สูงสุด 12 เดือน  และเติมทุนฉุกเฉิน เพื่อซ่อมแซมฟื้นฟูกิจการ       นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  กล่าวว่า จากการเกิดเหตุแผ่นดินไหวในช่วงบ่ายของวันที่ 28 มีนาคม 2568  ธนาคารห่วงใยลูกค้าและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างยิ่ง  จึงออกมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถกลับมาเดินหน้าธุรกิจได้ในเร็ววัน   ได้แก่  มาตรการ “พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย” สำหรับลูกค้าธนาคารที่ได้รับผลกระทบทางตรงและทางอ้อม ในพื้นที่ประสบภัยพิบัติตามที่ราชการกำหนด  เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ด้วยการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย  สำหรับกลุ่มเงินกู้ยืมแบบมีระยะเวลา (Term loan) สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน สัญญาเบิกเงินทุนหมุนเวียนประเภทตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) และสินเชื่อแฟคตอริ่ง ขยายระยะเวลาชำระตั๋วสัญญาใช้เงินออกไปอีกสูงสุด 180 วัน และสามารถพักชำระดอกเบี้ยได้ มาตรการ “เติมทุนฉุกเฉิน เพื่อซ่อมแซมฟื้นฟูกิจการ”  สำหรับลูกค้าเดิมได้รับผลกระทบทางตรง ที่มีสถานประกอบการตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ภัยพิบัติตามที่ราชการกำหนด  เพื่อให้มีวงเงินกู้ฉุกเฉิน นำไปฟื้นฟูธุรกิจเฉพาะหน้า วงเงินกู้ 10% ของวงเงินเดิม ขั้นต่ำ 30,000 บาท สูงสุด 200,000 บาท (บุคคลธรรมดา สูงสุด 100,000 บาท และนิติบุคคล สูงสุด 200,000 บาท)  อัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี  ระยะเวลากู้ 3 ปี ปลอดชำระเงินต้น 12 เดือน ไม่ต้องมีหลักประกัน    ยกเว้นค่าธรรมเนียม ลดกระบวนการนำส่งเอกสารในการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทางตรงเป็นการเร่งด่วน มาตรการช่วยเหลือครั้งนี้เป็นทางเลือกโดยสมัครใจ  ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ต้องการรับบริการ    แจ้งความประสงค์ได้ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป  ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น สาขาของ SME D Bank ทุกแห่งทั่วประเทศ  ,  LINE Official Account : SME Development Bank  และเว็บไซต์  www.smebank.co.th เป็นต้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

02 Apr 2025

Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner