Responsive image

Wednesday, 19 Feb 2025

Tags ที่คล้ายกัน "สยามซิตี้ประกันภัย"
...

20 Oct 2020

Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

กบข. ร่วมรักษ์โลก งดผลิตใบแจ้งยอดเงินแบบกระดาษ และเปิดให้สมาชิกดาวน์โหลด e-Statement ประจำปี 2567 แล้ว พร้อมจัดทำบัญชีก๊าซเรือนกระจกขององค์กร สนับสนุน Net Zero ของประเทศ   นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า กบข. เปิดให้สมาชิก 1.2 ล้านราย เข้าดาวน์โหลดใบแจ้งยอดเงินสมาชิก ประจำปี 2567 ในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Statement) แล้ว ผ่าน 3 ช่องทางออนไลน์ ดังนี้ 1. My GPF Application 2. My GPF Website และ 3. LINE กบข. @gpfcommunity เข้าผ่านสมาร์ตโฟน เพื่ออำนวยความสะดวกให้สมาชิกเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย โดยนโยบายลดการใช้กระดาษอย่างจริงจังของ กบข. ส่งผลให้สามารถลดการใช้กระดาษได้กว่า 5 ล้านแผ่นต่อปี หรือประมาณ 25 ตัน มีส่วนช่วยลดการตัดต้นไม้กว่า 420 ต้น หรือเทียบเท่ากับช่วยประหยัดน้ำสะอาดได้ 7.86 แสนลิตร และไฟฟ้า 1.02 แสนกิโลวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งจากการลดใช้กระดาษในครั้งนี้สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 52.6 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี สะท้อนถึงความตั้งใจของ กบข. และสมาชิก ในการร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม “กบข. ขอขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรักษ์โลกผ่านการเปลี่ยนมาใช้ e-Statement ช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและมีส่วนช่วยสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน” นายทรงพล กล่าว   นอกจากนี้ ในปี 2568 กบข. ยังคงมุ่งมั่นดำเนินงานควบคู่กับการพัฒนาความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจัดทำบัญชีก๊าซเรือนกระจกเพื่อวัดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร (Carbon Footprint for Organization: CFO) และดำเนินโครงการปรับปรุงระบบบริหารอาคารให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ในปี 2567 กบข. ได้ดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาระบบทำความเย็นและระบบสุขาภิบาลในอาคารสำนักงานที่บริหารเองทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ อาคารอับดุลราฮิม อาคารจีพีเอฟ วิทยุ และอาคารบางกอกซิตี้ ทาวเวอร์ ส่งผลให้สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ถึงปีละ 3.29 แสนกิโลวัตต์-ชั่วโมง และลดการใช้น้ำได้ปีละ 11.25 ล้านลิตร เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2566 ด้านการลงทุน กบข. มุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืน ตามแนวทางการเป็นนักลงทุนสถาบันที่มีความรับผิดชอบ (Principle for Responsible Investment) เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทยในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions)

18 Feb 2025

...

SME D Bank เตรียมเปิดจำหน่ายพันธบัตร  Social Bond  วงเงินรวม 9,000 ล้านบาท  แบ่งเป็นรุ่นอายุ 2 ปี 9 เดือน และรุ่นอายุ 4 ปี กระทรวงคลังค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย ในวันที่ 17 ก.พ. นี้ ผ่านวิธีประมูล e-Bidding  สร้างทางเลือกการลงทุนที่มั่นคงปลอดภัย ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก แจงวัตถุประสงค์ เพื่อระดมทุนนำไปปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้แก่เอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชน ช่วยเสริมศักยภาพ ยกระดับขีดความสามารถการแข่งขัน พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน   นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  เผยว่า ธนาคารเตรียมจำหน่ายพันธบัตร ธพว. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568   โดยกระทรวงการคลังค้ำประกันทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เปิดโอกาสทางเลือกการลงทุนที่มีความมั่นคงปลอดภัยและให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก โดยเป็นพันธบัตรประเภท Social Bond  สำหรับส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ตลอดจนพัฒนาวิสาหกิจชุมชนให้เข้มแข็ง ผ่านการเข้าถึงสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ เพิ่มความสามารถการแข่งขัน ส่งต่อประโยชน์สู่การพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนของประเทศไทย สำหรับวงเงินพันธบัตร ธพว. ครั้งนี้  จำนวน 9,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 2 รุ่นด้วยกัน  ได้แก่ รุ่นอายุ 2 ปี 9 เดือน วงเงิน 5,000 ล้านบาท และรุ่นอายุ 4 ปี วงเงิน 4,000 ล้านบาท  เสนอขายแก่กลุ่มนักลงทุนทั่วไป (Public offering; PO) ทั้งนักลงทุนสถาบัน (II) ผู้ลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth ; HWN) นิติบุคคล และประชาชน  กำหนดประมูลในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 นี้  โดยมีธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นผู้จัดจำหน่ายผ่านระบบ e-Bidding  ให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยมีวิธีการ ดังนี้ 1.จำหน่ายพันธบัตรโดยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนให้แก่ผู้ใช้บริการ e-Bidding  ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการให้บริการธุรกรรมประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding)  พ.ศ. 2546 ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต และสถาบันอื่นๆ ที่มีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย 2.จำหน่ายพันธบัตรโดยวิธีการเสนอซื้อให้แก่ มูลนิธิ สหกรณ์ นิติบุคคลเพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ วรรณคดี การศึกษา สาธารณประโยชน์อื่นๆ โดยมิได้มุ่งหวัง ประโยชน์มาแบ่งปันกัน และกองทุนที่เป็นนิติบุคคลที่ใช้ผลประโยชน์จากต้นเงิน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม  ฝ่ายบริหารเงิน โทร. 02 265 4465 และ 02 265 4469 หรือ Call Center 1357

12 Feb 2025

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า หลังจากที่ธนาคารออมสินประสบความสำเร็จในการริเริ่มพัฒนานำเอา ESG Score มาใช้ประเมินระดับ ESG ของลูกค้าสินเชื่อ เน้นกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ พร้อมทั้งทำโปรแกรม Positive Engagement เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ซึ่งลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ที่ผ่านการประเมินตามเกณฑ์จะได้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นกรณีพิเศษ โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2565 ในปี 2568 นี้ ธนาคารได้ขยายขอบเขตการดำเนินงานให้ครอบคลุมลูกค้ากลุ่มธุรกิจ SME โดยได้เปิดตัว โครงการ Positive Engagement Program ครั้งที่ 1 ภายใต้แนวคิด “SME Gear Up ติดปีกธุรกิจด้วย ESG” มีเป้าหมายเพื่อขยายผลการสร้าง Social Impact และสนับสนุนการดำเนินงานตามแผน Net Zero Roadmap ของธนาคาร โดยตั้งเป้าสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SME มีความรู้ความเข้าใจ และสามารถนำเอากรอบแนวคิด ESG ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนายกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน หรือขยายโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากการที่สถาบันการเงินมีแนวโน้มให้ความสำคัญกับการใช้เกณฑ์ด้านความยั่งยืนในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ตามทิศทางการขับเคลื่อนสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน กิจกรรม SME Gear Up ติดปีกธุรกิจด้วย ESG เปิดให้ผู้ประกอบการ SME ที่ดำเนินงานสอดคล้องหรือมีศักยภาพในการพัฒนาธุรกิจโดยใช้แนวคิด ESG สมัครเข้าร่วมโครงการฯ สำหรับลูกค้าสินเชื่อธุรกิจ SME ของธนาคารออมสิน มีวงเงินสินเชื่อตั้งแต่ 50 – 250 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการ SME ทั่วไป มีรายได้รวม 100 - 500 ล้านบาทต่อปี โดยผู้ประกอบการ SME ที่สมัครและผ่านการคัดเลือกในรอบแรก จะได้เข้าร่วมกิจกรรม SME Onboarding การอบรมให้ความรู้ ความเข้าใจในประเด็น ESG ผ่านมุมมองของธุรกิจ การศึกษา ESG Standard ตลอดจนการรับฟังกรณีศึกษาจากผู้ประกอบการ SME ต้นแบบ (Learn from the lead) ที่มีการดำเนินงานด้าน ESG อย่างเป็นรูปธรรมจนประสบความสำเร็จ และการนำเสนอไอเดียธุรกิจ เพื่อเฟ้นหาสุดยอดไอเดียธุรกิจ SME ลุ้นรับเงินรางวัลรวมมูลค่า 660,000 บาท โดยผู้ประกอบการ SME ที่ร่วมโครงการ ยังจะได้รับสิทธิพิเศษในการทำธุรกรรม/ยื่นสินเชื่อกับธนาคาร พร้อมรับประกาศนียบัตร ตรารับรองคุณวุฒิ และสิทธิพิเศษอื่น ๆ ผู้ประกอบการ SME ที่สนใจ สามารถกรอกแบบฟอร์มใบสมัครออนไลน์ ด้วยการสแกน QR Code บนสื่อประชาสัมพันธ์ของกิจกรรมฯ หรือทางเว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th โดยสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ทั้งนี้ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายพัฒนาเพื่อความยั่งยืน ธนาคารออมสิน โทร 02-299-8000 ต่อ 810319 - 22 หรือ 998892 (ภายในเวลาทำการ)  

05 Feb 2025

...

  รายงานข่าวจากธนาคารออมสินแจ้งว่า ตามที่มีการแพร่ระบาดของมิจฉาชีพรูปแบบใหม่ด้วยการส่งจดหมายปลอม แอบอ้างใช้โลโก้ ชื่อธนาคาร รวมถึงชื่อผู้บริหารของธนาคาร ส่งไปยังลูกค้าประชาชนโดยระบุว่า ไม่สามารถโอนเงินสินเชื่อเข้าบัญชีของลูกค้าได้ เนื่องจากลูกค้ากรอกข้อมูลบัญชีธนาคารไม่ถูกต้อง ทำให้บัญชีถูกอายัด ไม่สามารถทำธุรกรรมใด ๆ ได้จนกว่าจะดำเนินการตามที่มิจฉาชีพแอบอ้าง หากไม่ปฏิบัติตามจะทำให้ไม่ได้รับวงเงินสินเชื่อ รวมถึงมีความผิดตามกฎหมาย ติดแบล็คลิสต์ และถูกยึดทรัพย์ ธนาคารออมสินขอยืนยันว่า “จดหมายดังกล่าวเป็นจดหมายปลอม ธนาคารไม่มีนโยบายส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แจ้งให้ลูกค้าแก้ไขข้อมูลเลขบัญชีทุกกรณี รวมถึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการต่าง ๆ ตามที่ระบุในจดหมายแอบอ้างดังกล่าว” โดยขณะนี้ ธนาคารอยู่ในระหว่างการติดตามสถานการณ์ และดำเนินการทางกฎหมายกับกลุ่มมิจฉาชีพที่แอบอ้างและกระทำการข้างต้น ธนาคารออมสิน จึงขอเน้นย้ำลูกค้าประชาชนถึงสิ่งที่ต้องปฏิบัติก่อนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพรายต่อไป เบอร์แปลก หลอกคุย ตัดสายทิ้ง ลิงก์ไม่กด และเมื่อได้รับการติดต่อโดยอ้างชื่อธนาคาร หรือมีความไม่แน่ใจ ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดด้วยตนเองก่อนทุกครั้งกับช่องทางของธนาคารออมสิน อาทิ เว็บไซต์ www.gsb.or.th, แอปพลิเคชัน MyMo, เฟซบุ๊ก GSB Society, LINE Official Account : GSB NOW และ GSB Contact Center โทร. 1115  

23 Jan 2025

Banner Banner Banner Banner Banner

Banner
  ทิศทาง ceothailand.net ในปี 2567  “สื่อออนไลน์ CEO THAILAND”   ในปี 2567 จะเป็นปีที่ผม “นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์” จะมาทำหน้าที่บรรณาธิการบริหารสื่อ CEO THAILAND และผู้บริหารสื่อออนไลน์ ceothailand.net อย่างเต็มที่ หลังจากที่ผ่านมาได้ไปเดินแผนงานทางด้านการเมือง แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงการเลือกตั้งไปแล้วที่ผ่านมา จึงทำให้ช่วงเวลานี้มีเวลาที่จะมาวางแผนในการเดินหน้าธุรกิจสื่อได้มากขึ้น และในช่วงระยะเวลา 1-2 ปีนับจากนี้ จึงขอเข้ามารับหน้าที่สื่อมวลชน ในการเขียนบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ เรื่องราวในแวดวงเศรษฐกิจ-การเงิน และการประกันภัย ในฐานะของคอลัมนิสต์ ตลอดเวลาที่ผมเข้าไปทำงานทางการเมือง ต้องยอมรับว่าวงการข่าวและสื่อสารมวลชนเปลี่ยนไปเร็ว ตลอดเวลา 5 ปี  สื่อออนไลน์ที่รวดเร็วเข้ามาแทนที่สื่อหลักอย่างสื่อสิ่งพิมพ์ (ออฟไลน์)  เราต้องยอมรับในเรื่องความรวดเร็ว แต่ต้องไม่ลืมจุดด้อยของสื่อออนไลน์ คือข้อผิดพลาดในการกลั่นกรองข่าวสาร รวมทั้งบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ที่หายไป และข่าวที่ออกมามีความเหมือนกัน  ไม่แตกต่าง และเป็นเชิงภาพข่าว และกิจกรรมเท่านั้น ดังนั้นในปี 2567 นี้  ในหน้าสื่อออนไลน์ CEO THAILAND ท่านผู้อ่านจะได้สัมผัสกับข่าวสารเชิงวิเคราะห์ เจาะลึกแบบออนไลน์ต่อเนื่องในสื่อ CEO THAILAND รวมทั้งการจัดทำเป็น E-Magazine ใน www.ceothailand.net รวมทั้งการจัดทำเป็นรูปเล่มฉบับพิเศษสลับไปบ้างในเรื่องที่สำคัญๆ น่าสนใจ และเป็นประโยชน์กับประชาชนและสังคม ขอขอบพระคุณท่านลูกค้าและผู้สนับสนุนสื่อด้วยดีเสมอมา ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา และขอขอบพระคุณทุกท่าน รวมทั้งผู้อ่านที่ติดตามสื่อ CEO THAILAND ด้วยดีเสมอมาใน www.ceothailand.net   นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา) บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner