Responsive image

Monday, 01 Dec 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


OCEAN LIFE ไทยสมุทรประกันชีวิต เดินหน้าใช้ความรักดูแลคนไทยด้วย LOVE MINDSET

Fri 31/07/2563


OCEAN LIFE ไทยสมุทรประกันชีวิต เดินหน้าใช้ความรักดูแลคนไทยด้วย LOVE MINDSET
พร้อมยืนยัน “โควิดหยุดเราไม่ได้” ด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลดูแลลูกค้าท่ามกลางวิกฤต

บมจ. ไทยสมุทรประกันชีวิต รักคือพลังของชีวิต โดยคุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์กรรมการผู้จัดการ เผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทใน 5 เดือนแรกของปี 2563 (มกราคม – พฤษภาคม 2563) ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 และวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้บริษัทมีรายได้จากเบี้ยประกันชีวิตรับรวม (Total Premium) จำนวน 5,917 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตติดลบ 1 % ในขณะที่ธุรกิจประกันชีวิตโดยรวมติดลบ 3% และยังคงมีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันชีวิตปีต่อไป (Renewal Premium) เพิ่มขึ้นที่ 4% หรือคิดเป็นจำนวน 4,827 ล้านบาท โดยมีช่องทางตัวแทนเป็นช่องทางหลัก มีเบี้ยประกันรับรวม จำนวน 5,024 ล้านบาท ด้วยอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ที่ 82% ถึงแม้ว่าบริษัทจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายมากมาย แต่ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา บริษัทยังสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ 5.54% และเพื่อตอกย้ำความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจ บริษัทมีเงินสำรองประกันชีวิต 75,030 ล้านบาท สินทรัพย์ 98,472 ล้านบาท และมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio : CAR) 370.36%  

ฝ่าวิกฤตโควิด–19 ด้วย LOVE MINDSET + DIGITAL INSURER

คุณนุสราฯ เผย 2 หมัดเด็ดฝ่าวิกฤตโควิด–19 ซึ่งเปรียบเสมือนพายุลูกใหญ่ หรือ Perfect Strom ที่ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ต้องเผชิญหน้าและฝ่าไปให้ได้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า โควิดหยุดเราไม่ได้ การดูแลลูกค้าจะต้องเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และได้มาตรฐานเท่าเทียมหรือใกล้เคียงกับสถานการณ์ปกติ ข้อแรก คือ LOVE MINDSET วิธีคิดที่มีพื้นฐานจากพลังความรัก ที่ถูกสั่งสมมายาวนาน เป็นแรงผลักดันให้เรารวมใจเป็นหนึ่ง พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนเพื่อเผชิญหน้ากับทุกอุปสรรค เอาชนะทุกความท้าทาย และเป็นแรงบันดาลใจให้เราสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าของเราอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่สอง คือ ความพร้อมในการก้าวสู่ DIGITAL INSURER ซึ่ง OCEAN LIFE ไทยสมุทร ได้เตรียมการล่วงหน้ามาตลอด 5 ปี เมื่อวิกฤตโควิด–19 เข้ามาเป็นตัวเร่ง ทำให้เราสามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างราบรื่น ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนัก สำนักงานใหญ่ของเราทำงาน WORK FROM HOME ได้เกือบ 90% เราใช้ Online Conference ในการประชุมร่วมทั้งภายในและภายนอกองค์กร รวมทั้งใช้ในการอบรมให้ความรู้กับพนักงาน และตัวแทน ในส่วนของสำนักงานสาขาของเรายังคงให้บริการได้ตามปกติโดยมีมาตรการที่เข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยของลูกค้า ตัวแทน และพนักงาน เราสนับสนุนให้ตัวแทนเรียนรู้การขายในรูปแบบ Digital Face to Face ควบคู่ไปกับการสนับสนุนเครื่องมือช่วยขายที่ทันสมัยมุ่งสู่ OCEAN SMART ในขณะเดียวกันเรายังได้สร้างพลังใจในการทำงานด้วยการมอบรางวัลในรูปแบบ Virtual Live Streaming Event อีกด้วย

สำหรับลูกค้า OCEAN LIFE ไทยสมุทร ได้ออก 4 มาตรการดูแลลูกค้า โดยเพิ่มผลประโยชน์พิเศษกรณีติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมบริการ OCEAN LIFE CLAIMS HOTLINE ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านสินไหม ที่คอยดูแลให้บริการลูกค้าและให้คำปรึกษาทุกเรื่องเคลมทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง โทร.0 2207 8888 กด 2 และเพื่อความปลอดภัยจากโควิด-19 เราได้เพิ่มทางเลือกในการชำระเบี้ยประกันที่สะดวกยิ่งขึ้นให้กับลูกค้า ด้วย QR Payment เพียงสแกนผ่าน Mobile Banking บนโทรศัพท์มือถือ พร้อมรับสิทธิ์ลุ้นทองโอชิ หนัก 1 สลึง ทุกเดือน ๆ ละ 10 รางวัล ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-ธันวาคม 2563 เราไม่หยุดที่จะส่งมอบโชคใหญ่ให้ลูกค้า กับโครงการ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ลุ้นโชค 2 ชั้น ปี 2 ผ่าน OCEAN CLUB APP ที่เดินหน้าจัด LIVE EVENT มอบโชคออนไลน์ให้กับลูกค้าและตัวแทนพร้อมกันทั่วประเทศ นอกจากนั้น ยังได้ส่ง Signature Service ใหม่ล่าสุด! OCEAN LIFE MY NURSE บริการดูแลผู้ป่วยยามพักฟื้นที่บ้านด้วยผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ และเพื่อให้ลูกค้าเชื่อมต่อกับเราได้ตลอดเวลา ในการเข้าถึงข้อมูลกรมธรรม์ออนไลน์ ด้วยบริการ OCEAN CONNECT ผ่าน LINE @oceanlife เพื่อเข้าถึงระบบ iService  และครั้งแรกกับ เปิดตัว OCHI Line sticker 16 แบบ สุดน่ารัก!! เพื่อให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้น ในขณะเดียวกันลูกค้ายังสามารถรับสิทธิประโยชน์มากมาย รวมทั้งการสะสม OCHI COIN จากการออกกำลังกายและนอนหลับให้เพียงพอ ผ่าน OCEAN CLUB APP และสามารถติดตามข่าวสาร และกิจกรรมดี ๆ อย่างต่อเนื่องผ่านช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์  

เดินหน้าดูแลสุขภาพคนไทย ส่งแคมเปญ “ปล้น” เตือนคนไทย มะเร็ง...ร้ายไม่แพ้โควิด

OCEAN LIFE ไทยสมุทร ตระหนักดีว่าปัจจุบันคนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพ และสนใจการทำประกันสุขภาพมากขึ้น หลังจากที่โควิด–19 เข้ามาคุกคามทำให้มีผู้เจ็บป่วยและเสียชีวิต ดังนั้นเราจึงต้องการสร้าง LOVE MINDSET ให้ทุกคนหันมารักตัวเองดูแลตัวเอง เพื่อทำในสิ่งที่รัก และทำเพื่อคนที่รักได้เต็มที่ ภายใต้แนวคิด “OCEAN LIFE LOVE YOUR HEALTH – รักเริ่มต้นที่สุขภาพคุณ“ พร้อมแสดงให้เห็นว่ายังมีโรคร้ายที่น่ากลัวกว่าโควิด -19 อย่างมะเร็ง และโรคสมอง ด้วยความยากในการรักษา และค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก ดังนั้น จึงได้เปิดแคมเปญโฆษณาชุด “ปล้น” ภายใต้แนวคิด “เป็นมะเร็ง (หรือโรคสมอง) ก็เหมือนโดนปล้น” โดยมี “มาริโอ้ เมาเร่อ” Brand Ambassador และ “โอชิ” Brand Mascot มาเตือนคนไทยให้เตรียมพร้อมรับมือกับโรคร้ายอย่างมะเร็ง และโรคสมอง ที่เมื่อเป็นแล้วจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจำนวนมหาศาล เหมือนถูกปล้น  ดังนั้น หากไม่อยากโดน “ปล้น” แบบประกัน "ซีไอ ซูเปอร์ โพรเทค" (CI SUPER PROTECT) ช่วยได้ ด้วยความคุ้มครองโรคร้ายในกลุ่มโรคมะเร็ง และโรคสมอง เมื่อตรวจพบรับ 100%  ของจำนวนเงินประกันภัยเท่ากันทุกโรค หรือกรณีเสียชีวิต รับ 100% ของจำนวนเงินประกันภัย เบี้ยประกันภัยไม่สูญเปล่า กรณีไม่เป็นโรคและอยู่จนครบสัญญารับ 100% ของจำนวนเงินประกันภัย จ่ายเบี้ยประกันภัยคงที่ 10 ปี ไม่ปรับเพิ่มตามอายุ รับความคุ้มครองจนถึงอายุ 90 ปี หากเริ่มทำตอนอายุน้อยจะยิ่งคุ้มกว่า ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุสูงสุด 300% ของจำนวนเงินประกันภัยตลอดอายุสัญญา เบี้ยประกันภัยใช้ลดหย่อนภาษีได้เต็มจำนวน ตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด

 

ครั้งแรกกับการเปิดขาย UNIT LINKED ทางเลือกคุ้มครองชีวิตควบการลงทุนในยุคดอกเบี้ยขาลง

คุณนุสราฯ เผยครั้งแรกของ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ที่เปิดขาย โอเชี่ยนไลฟ์ สมาร์ท อินเวสเตอร์ ยูนิต ลิงค์ (99/1) (OCEAN LIFE SMART INVESTOR UNIT LINKED (99/1)) แผนประกันชีวิตควบการลงทุน ชำระเบี้ยประกันภัยเพียงครั้งเดียว รับความคุ้มครองชีวิตตลอดชีพเริ่มต้น 120% ของเบี้ยประกันภัยชำระครั้งเดียว ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักลงทุนรุ่นใหม่ ที่มองหาแบบประกันที่เปิดโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ตามความต้องการของตนเอง จากกองทุนคุณภาพที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีจากผู้เชี่ยวชาญการลงทุนมืออาชีพ มีความยืดหยุ่นสูง ต้องการเพิ่มเงินลงทุนเมื่อไหร่ก็ได้ (Top-Up Premium) สามารถเปลี่ยนกองทุนได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งและไม่มีค่าธรรมเนียม พร้อมคำแนะนำจากทีมที่ปรึกษาทางการเงิน และแอปพลิเคชันช่วยวางแผนที่ทันสมัย เพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะมีเงินก้อนเพื่อมอบให้กับคนที่รัก โอเชี่ยนไลฟ์ สมาร์ท อินเวสเตอร์ ยูนิต ลิงค์ (99/1) รับประกันภัยตั้งแต่อายุ 30 วัน – 70 ปี คุ้มครองชีวิตยาวนานจนถึงอายุ 99 ปี ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาลักษณะของผลิตภัณฑ์ เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงได้ที่  www.ocean.co.th หรือ ติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 0 2207 8888

“โอชิทำดี” ชวนคนไทยระดมทุนสร้างวัคซีนโควิด-19

คุณนุสราฯ กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 พวกเรา OCEAN LIFE ไทยสมุทร ได้ใช้พลังความรัก สนับสนุนแรงกาย แรงใจ จัดทำ DIY Face Shield จำนวนกว่า 1.1 แสนชิ้น เพื่อปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้าทั่วประเทศ พร้อมทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อดูแลและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องชาวไทยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้ง ตู้โอชิปันสุข” จุดนัดพบของผู้ให้และผู้รับ บริเวณหน้าสำนักงานใหญ่ แจกคูปองอาหารเติมพลังให้สู้ต่อ ในกิจกรรม “โอชิชวนชิมให้เพื่อนอิ่มท้อง” กิจกรรม “หน้ากากผ้าจากชุมชน” สร้างรายได้ให้ชุมชนและส่งต่อให้ผู้ที่ขาดแคลน กิจกรรม “รักมังคุดไทย” ช่วยเกษตรกรสวนมังคุดเกษตรอินทรีย์ให้มีที่จัดจำหน่ายสินค้า สนับสนุนรายการ “ตลาดใจ String Combo” บันเทิงมหากุศลตลาดใจ เพื่อระดมทุนซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์  กิจกรรม “โอชิชวนทำดี” จัดทำถุงยังชีพร่วมกับโรงทานเดลิเวอรี่ และลงพื้นที่ช่วยเหลือชุมชนต่าง ๆ ล่าสุด!  กิจกรรม “โอชิชวนทำดี บริจาคเพื่อสร้างวัคซีน โควิด-19” เปิด Mini Concert โดย “มาริโอ้ เมาเร่อ” Brand Ambassador และ “ซาร่า โฮเลอร์” ในรูปแบบ Virtual LIVE Steaming เพื่อสนับสนุนการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 โดยคนไทย เพื่อคนไทย เชิญชวนคนไทยร่วมบริจาคเงินโดยตรงเข้าบัญชี “คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยทุก 1 สลิปที่ บริจาค OCEAN LIFE ไทยสมุทร จะร่วมบริจาคสมทบอีก 100 บาท (สูงสุด 1 ล้านบาท)

ทั้งหมดนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ที่จะยืนยันสร้างความมั่นใจภายใต้สถานการณ์ที่เปราะบางเช่นในปัจจุบันว่า “โควิดหรือวิกฤตอะไรก็หยุดเราไม่ได้” เราจะยังคงเดินหน้าส่งต่อใช้ LOVE MINDSET เป็นแรงบันดาลใจสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันชีวิตที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า พร้อมเชี่อมต่อในทุกมิติเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องตลอดไป ผ่านช่องทางต่าง ๆ OCEAN CLUB APPLICATION / LINE / Facebook / Instagram / Youtube : oceanlife และเว็บไซต์ www.ocean.co.th ติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์  โทร 0 2207 8888

 


Tags : ไทยสมุทรประกันชีวิต นุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ LOVE MINDSET


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

ทิพยประกันภัยเดินหน้าต่อยอดประสบการณ์ด้านประกันภัยรถยนต์ เปิดตัวแคมเปญใหญ่ “TIP MOTOR EXTRA PRO ประกันรถสุดปัง อลังการสุดโปร” ในงาน Motor Expo 2025 เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่มองหาความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ครบวงจร พร้อมคัดสรรผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์หลากหลาย อาทิ TIP Premium Garage Plus, TIP Lady, TIP Rainbow, TIP Up to Mile และประกันรถยนต์ 2+ คุ้มทุน พร้อมทีมให้คำปรึกษา คำนวณเบี้ย และบริการต่ออายุกรมธรรม์ภายในงาน แคมเปญ “TIP MOTOR EXTRA PRO” มอบข้อเสนอสุดคุ้มสำหรับลูกค้า อาทิ • ส่วนลดเบี้ยประกันภัยสูงสุด 15% สำหรับลูกค้าใหม่ • รับของสมนาคุณ รวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท • ลุ้นรับรถยนต์ MITSUBISHI XFORCE รุ่น ULTIMATE มูลค่า 1,059,000 บาท • ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน • พิเศษ! ลูกค้าที่ต่ออายุประกันภัยรถยนต์ภายในงาน รับ บัตร Lotus’s มูลค่าสูงสุด 1,000 บาท ทิพยประกันภัยขอเชิญทุกท่านร่วมรับข้อเสนอสุดพิเศษเฉพาะงาน Motor Expo 2025 ได้ที่บูธ V07–V08 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568

30 Nov 2025

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือ โครงการศึกษาครัวเรือนฐานรากเพื่อสร้างการเข้าถึงแหล่งเงินในระบบ ระหว่าง ธนาคารออมสิน และ สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ เพื่อศึกษาความเป็นอยู่และพฤติกรรมทางการเงินของกลุ่มครัวเรือนฐานรากที่ยังไม่สามารถเข้าถึงการเงินในระบบ ที่จะนำไปสู่การต่อยอดองค์ความรู้ จากการวิจัยในการพัฒนาระบบการเงินที่เหมาะสม ช่วยยกระดับเศรษฐกิจและความเข้มแข็งทางการเงินของภาคครัวเรือนไทย โดยมี นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และ ดร.โสมรัศมิ์ จันทรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าว เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ณ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่   นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ภายใต้บทบาทการเป็น Social Bank ที่มุ่งลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินและสร้างการเข้าถึงแหล่งทุนที่เป็นธรรม ธนาคารเดินหน้าภารกิจหลักที่ 1 ในการสร้างการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบสถาบันการเงิน ซึ่งหากพิจารณาจากสถานการณ์การเข้าถึงสินเชื่อของคนไทย ปัจจุบันยังพบว่าครัวเรือนกว่าร้อยละ 30 ยังอยู่ในกลุ่ม Unserved และ Underserved โดยเป็นผู้มีรายได้น้อยและ/หรือรายได้ไม่แน่นอน ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบจากการขาดประวัติเครดิตทางการเงิน และกว่าครึ่งยังต้องพึ่งพาหนี้นอกระบบเพิ่มขึ้นและต้องเผชิญภาระดอกเบี้ยสูง ดังนั้น เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนบทบาทการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ธนาคารจึงได้จัดตั้งสถาบันวิจัยเศรษฐกิจฐานรากขึ้นเป็นครั้งแรก และได้ร่วมมือกับสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ เพื่อคิกออฟงานวิจัย “โครงการศึกษาครัวเรือนฐานรากเพื่อสร้างการเข้าถึงแหล่งเงินในระบบ” โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายของการศึกษาเป็นผู้เข้าร่วมโครงการสินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส ที่ธนาคารได้ดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี 2568 เพื่อปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ที่มีรายได้ แต่ไม่เคยมีประวัติเครดิตทางการเงิน หรือไม่เคยใช้บริการสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินอย่างน้อย 2 ปี ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ของโครงการนี้มีลักษณะตัวตน หรือ Customer Persona ที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของงานศึกษาวิจัยครั้งนี้ ทั้งนี้ ธนาคารหวังว่าจะสามารถนำผลลัพธ์ของงานวิจัยไปออกแบบเครื่องมือทางการเงิน หรือมาตรการสินเชื่อที่ตรงจุด สามารถตอบโจทย์ความคาดหวัง และสร้างระบบการเงินที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งการพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมาย SDGs และสอดคล้องตามบทบาทของธนาคารเพื่อสังคม   ดร. โสมรัศมิ์ จันทรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ เปิดเผยว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการศึกษาข้อมูลเชิงลึกของลูกหนี้ภายใต้โครงการ “สินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส” ของธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นต้นแบบสินเชื่อดิจิทัลที่เปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้แต่ไม่เคยเข้าถึงสินเชื่อในระบบสามารถกู้เงินได้เป็นครั้งแรก โดยธนาคารออมสินได้ปล่อยสินเชื่อเพื่อช่วยคนไทยสร้างประวัติเครดิตทางการเงินไปแล้วกว่า 200,000 ราย สะท้อนถึงความต้องการเข้าถึงสินเชื่อในระบบที่ยังมีอยู่จำนวนมาก การศึกษาครั้งนี้จึงมุ่งขยาย “ประตูสู่ระบบการเงิน” ให้กว้างขึ้น ผ่านการเก็บข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มคนที่อยู่นอกระบบเป็นครั้งแรก ใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1) ปัญหาเศรษฐกิจการเงิน พฤติกรรมและความต้องการทางการเงิน 2) โมเดลผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยให้ลูกหนี้ชำระคืนได้จริง 3) การทดลองใช้ข้อมูลใหม่และข้อมูลทางเลือกเพื่อค้นหาตัวชี้วัดความเสี่ยงที่แม่นยำยิ่งขึ้นให้กับสถาบันการเงิน 4) การติดตามผลการเข้าถึงสินเชื่อต่อรายได้และคุณภาพชีวิตของลูกหนี้ตลอดระยะเวลา 1 ปี เพื่อนำไปใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสม ซึ่งผลการศึกษาจะช่วยให้ธนาคารออมสินออกแบบผลิตภัณฑ์และกระบวนการพิจารณาสินเชื่อที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น สอดคล้องกับศักยภาพของลูกหนี้ และเพิ่มโอกาสในการชำระคืน   ขณะเดียวกัน สถาบัน ฯ จะมีองค์ความรู้เชิงลึกเพื่อนำไปสนับสนุนนโยบาย Your Data และโครงการ Risk-Based Pricing ของธนาคารแห่งประเทศไทย ช่วยให้สถาบันการเงินประเมินความเสี่ยงได้โปร่งใส เป็นธรรม และเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ “เคยถูกมองไม่เห็น” เข้าสู่ระบบการเงินได้มากขึ้น ถือเป็นก้าวสำคัญที่เปลี่ยนงานวิจัยให้เกิดผลจริงต่อประชาชนฐานราก เสริมรากฐานระบบการเงินที่เข้าถึงง่าย ยั่งยืน และช่วยยกระดับศักยภาพและคุณภาพชีวิตของครัวเรือนไทยได้อย่างมั่นคงในระยะยาว  

30 Nov 2025

...

จากสถานการณ์อุทกภัยส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ของภาคใต้ โดยขณะนี้จังหวัดสงขลาประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน จึงขอแจ้งปิดทำการกรุงเทพประกันภัย สาขาหาดใหญ่ เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยลูกค้าสาขาหาดใหญ่และใกล้เคียงสามารถติดต่อบริการด้านประกันภัยได้ที่ กรุงเทพประกันภัย สาขาสุราษฎร์ธานี โทร. 0 7727 3806 ทั้งนี้ กรุงเทพประกันภัยขอแสดงความห่วงใยและเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคใต้ และเพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อรับคำปรึกษาต่างๆ และแจ้งเคลมสินไหมทดแทนสำหรับบ้านที่อยู่อาศัยและสถานประกอบการ รวมถึงประกันภัยรถยนต์ หรือรับบริการรถยกเพื่อเคลื่อนย้ายรถไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้ที่ช่องทางต่างๆ ดังนี้ - LINE @bangkokinsurance - โทร. 1620 ตลอด 24 ชั่วโมง

25 Nov 2025

...

นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 เห็นชอบให้ดำเนินโครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” เพื่อช่วยยกระดับความสามารถในการหารายได้ของผู้ประกอบการรายเล็กบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งที่เป็นทักษะความรู้ด้านการเงินและด้านดิจิทัล โดยรัฐบาลสนับสนุนเงินเพิ่มสูงสุด 2,000 บาท/ราย สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ Upskill/Reskill และได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งโครงการดังกล่าวมีหน่วยงานพันธมิตรหลายรายเป็นผู้ให้บริการเรียนรู้และพัฒนาทักษะแก่ร้านค้า โดยมีธนาคารออมสินรับผิดชอบการพัฒนาทักษะแก่ผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย “ประเภทบุคคลธรรมดา” หลักสูตร “Smart Finance Upskill : การพัฒนาความรู้ทางการเงินเพื่อร้านค้ารายย่อยโครงการคนละครึ่ง พลัส” สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าบุคคลธรรมดา เน้นให้ความรู้ทางการเงินที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการร้านค้ายุคใหม่ ประกอบด้วยเนื้อหาสำคัญ 4 ด้าน ได้แก่ การทำบัญชี การคิดต้นทุน เทคนิคการตั้งราคาขาย และความรู้ก่อนยื่นขอกู้ พร้อมแบบจำลองการยื่นกู้ให้ผู้ประกอบการได้ฝึกเรียนรู้ด้วยตนเอง และสามารถนำแบบจำลองนั้นไปใช้ประกอบการยื่นกู้กับสถาบันการเงินได้ โดยผู้ที่ได้สมัครเรียนและผ่านการทดสอบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จะได้รับประกาศนียบัตรรับรองการผ่านหลักสูตรเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการรับสิทธิ์เงินเพิ่มสูงสุด 2,000 บาท ร้านค้าที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าเรียนได้แล้วตั้งแต่วันนี้ - 19 ธันวาคม 2568 ที่เว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th ตลอด 24 ชม. โดยผู้ที่สำเร็จหลักสูตรตามเงื่อนไขที่กำหนด จะมีการแจ้งผลการรับสิทธิ์เงินสนับสนุนจากภาครัฐ ผ่านแอปถุงเงินและข้อความ SMS ในวันที่ 23 ธันวาคม 2568 ทั้งนี้ ธนาคารขอแนะนำโปรดหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่มีผู้ใช้งานหนาแน่น ซึ่งอาจทำให้ประสบปัญหาเว็บไซต์ตอบสนองช้ากว่าปกติได้ กรณีประสบปัญหาการใช้บริการ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Smart Finance Upskill และข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโครงการ Upskill/Reskill คนละครึ่ง พลัส สามารถติดต่อที่ GSB Contact Center โทร.1115 กด 7 ตลอด 24 ชม.   นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่สำเร็จหลักสูตร Smart Finance Upskill แล้ว ยังมีสิทธิ์ยื่นขอกู้เงื่อนไขพิเศษกับสินเชื่อ “สร้างงานสร้างอาชีพ พลัส” โดยกดยื่นขอกู้ได้จากหน้าเว็บไซต์หลังเรียนจบหลักสูตร เพื่อเชื่อมต่อกระบวนการยื่นขอกู้ทางแอป MyMo ได้โดยสะดวก ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) = 0.75% ต่อเดือน แบบไม่มีหลักประกัน (Clean Loan) ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2568 ทั้งนี้ ธนาคารพิจารณาให้กู้ตามความจำเป็นเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนหรือเสริมสภาพคล่อง และตามความสามารถในการชำระคืน ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.gsb.or.th    

23 Nov 2025

Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner