Responsive image

Thursday, 13 Nov 2025

หน้าแรก > BUSINESS-MARKETING-SME / ธุรกิจ - การตลาด - เอสเอ็มอี


W9 Wellness Center ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ครบรอบ 1 ปี เผย 4 เทรนด์ กระตุ้นตลาด Wellness ไทย เปิด 6 ปัญหาสุขภาพฮิตคนไทย

Tue 08/09/2563


W9 Wellness Center ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic)ในโรงพยาบาลพระรามเก้า มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันก่อนการเกิดโรค โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ป้องกัน ครบรอบ 1 ปี เผย 4 เทรนด์กระตุ้น Wellness ในประเทศไทย จากสถิติผู้เข้ารับการปรึกษาส่วนใหญ่กว่า 80-90% มาใช้บริการเมื่อมีปัญหาสุขภาพแล้ว เปิด 6 ปัญหาสุขภาพฮิต พบหลังเกิดภาวะวิกฤตโควิด-19 ระบาดมีจำนวนผู้มาปรึกษาปัญหาเรื่องการเร่งสร้างภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ชูแนวคิด “Healthitude” มีสุขภาพดีได้ง่าย ๆ เมื่อรู้จักตัวเอง พร้อมสร้างทัศนคติในการดูแลสุขภาพ เปิดกลยุทธ์รุกตลาดสุขภาพครึ่งปีหลัง มุ่งสื่อสารสร้างความตระหนักรู้และให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมเชิงป้องกัน เพื่อขานรับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุค New normal คาดตลาดรวมเติบโต 6.30% ทั้งนี้ W9 ตั้งเป้าเติบโตเพิ่มขึ้นเท่าตัวในปีนี้

นายแพทย์พิจักษณ์ วงศ์วิศิษฎ์ ผู้อำนวยการ ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม W9 Wellness Center เปิดเผยเกี่ยวกับ 4 เทรนด์ Wellness หรือ เทรนด์การสร้างสมดุลความสุขชีวิตทุกด้าน ประกอบด้วย เทรนด์สังคมสูงวัย ปัจจุบันประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ โดยคาดว่าในปี 2564 จะมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปเป็นจำนวนถึง 20% ของจำนวนประชากรในประเทศ ในขณะที่ประชากรวัยทำงานมีอัตราลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับอัตราการเกิดใหม่  เทรนด์อายุยืนด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี  ผู้คนสุขภาพดีอายุยืน สามารถใช้ร่างกายได้ดีตามวัย สามารถทำงาน และช่วยเหลือตัวเองได้ โดยได้หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ ความเป็นอยู่ และจิตใจของตัวเอง เนื่องจากตระหนักว่า การมีอายุยืนแต่อุดมไปด้วยโรคเป็นสิ่งไม่พึงปรารถนา  เพราะจะเป็นภาระต่อครอบครัวและสังคม  เทรนด์โภชนาการเฉพาะบุคคล คนสมัยนี้สนใจหาความรู้และให้ความสำคัญกับการดูแลโภชนาการเพิ่มมากขึ้น เลือกรับประทานอาหาร สร้างความสมดุลเฉพาะบุคคลมากขึ้น และ ผู้บริโภคสนใจและใส่ใจสุขภาพเชิงรุก โดยเฉพาะคนยุคใหม่กลุ่มยุคมิลเลนเนียล และเจเนอเรชั่นวาย มีการหาข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพเชิงลึก ทั้งในเรื่องการบริโภคอาหาร การออกกำลังกาย การควบคุมน้ำหนัก ฯลฯ มากขึ้น ประกอบกับปัญหามลภาวะฝุ่น PM 2.5 และการเกิดโรคอุบัติใหม่เชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นอีกตัวแปรสำคัญที่เข้ามากระตุ้นผู้คนให้หันมาให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวมากยิ่งขึ้น

“จากเทรนด์ข้างต้น W9 Wellness มองเห็นว่าการสร้างชีวิตที่สุขสมดุล เพื่อให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีจำเป็นต้องมีการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับทางเลือกของการมีสุขภาพที่ดี เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตที่หลายหลาย การมุ่งเน้นดูแลสุขภาพในภาพรวมของแต่ละบุคคล โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีทางการแพทย์มาประยุกต์ใช้กับการป้องกันสุขภาพเชิงรุก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลสุขภาพ รวมไปถึงการรักษาและฟื้นฟูสุขภาพที่ได้ผลดียิ่งขึ้น เพื่อลดโอกาสเจ็บป่วยและลดการใช้ยา รวมทั้งการดูแลที่ออกแบบเฉพาะบุคคลตามความจำเป็น ทั้งนี้ ในช่วง 1 ปีที่ W9 Wellness Center ได้ใกล้ชิดสุขภาพผู้บริโภค พบว่าผู้ที่มาใช้บริการกว่า 80% มาใช้บริการเนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ โดยเบื้องต้นพบสาเหตุจากการใช้ชีวิตที่ไม่สมดุล ทั้งจากการรับประทานอาหาร การทำงานหนัก การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียดสะสม ฯลฯ ซึ่งล้วนส่งผลต่อการทำงานที่ผิดปกติของระบบการทำงานพื้นฐานต่าง ๆ ของร่างกาย จนอาจเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร ในทางการแพทย์มีการดูแลสุขภาพ 2 รูปแบบ คือ การดูแลสุขภาพเชิงรับ คือเมื่อมีอาการป่วยแล้วจึงเข้ามาปรึกษาและทำการรักษา และการดูแลสุขภาพเชิงรุก หรือเชิงป้องกันโรค ด้วยการดูแลสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ และก่อนที่ร่างกายจะส่งสัญญาณหรือก่อนที่จะเริ่มมีปัญหาสุขภาพ”  นายแพทย์พิจักษณ์ กล่าว

ทั้งนี้ จากสถิติของศูนย์ฯ ช่วงก่อนเกิดโควิด-19 พบผู้มีปัญหาสุขภาพที่มาใช้บริการศูนย์ฯ W9 ด้วย 6 ปัญหาสุขภาพ ได้แก่ 1. ปัญหานอนไม่หลับและมีความเครียด 19.34% 2. ปัญหาผิวและริ้วรอย 19.34% 3. ปัญหาน้ำหนักตัว 18.4% 4. การเสริมภูมิคุ้มกัน 15.57% 5. ปัญหาฮอร์โมน 14.62% และ 6. ความกังวลเกี่ยวกับมะเร็ง 12.73%  นอกจากนี้ ในช่วงที่ไวรัสโควิด–19 แพร่ระบาด พบสถิติคนไทยมาปรึกษาเกี่ยวกับการเสริมภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นเป็น 20.65% แสดงให้เห็นว่าคนไทยตระหนักถึงการดูแลสุขภาพมากขึ้น และมาปรึกษาด้วยปัญหานอนไม่หลับและมีความเครียดเพิ่มขึ้นเป็น20.05% สองปัญหาสุขภาพขยับขึ้นมาเป็น 2 อันดับแรกที่ผู้มาใช้บริการเข้ามารับคำปรึกษาในช่วงนี้ ทั้งนี้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้พฤติกรรมด้านสุขภาพของคนไทยเปลี่ยนไป และเป็นปัจจัยเร่งให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันมากขึ้น จากข้อมูลจีไอเอสคาดว่าตลาด Health and Wellness จะโตถึง 6.30% ทั้งนี้ W9 ตั้งเป้าเติบโตเพิ่มขึ้นเท่าตัวในปี 2563 นี้

อย่างไรก็ดี W9 มุ่งสร้างความสมดุลให้สุขภาพของผู้มาใช้บริการ ภายใต้แนวคิด “Healthitude” ยกระดับ “การป้องกัน” และดูแลสุขภาพผ่านการตรวจสุขภาพเชิงลึก ให้ทราบถึงความสมดุลระบบพื้นฐานที่สำคัญของร่างกาย และจัดโปรแกรมการดูแลสุขภาพองค์รวมแบบเฉพาะบุคคลเพื่อร่วมรักษาโรค ลดความเสี่ยงของการเกิดโรค ชะลอวัย และเพื่อการมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน

 

นายขันธ์พลร์ ซื่อภาคย์ กรรมการบริหาร ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม W9 Wellness Center กล่าวว่า ในปีนี้ทิศทางธุรกิจ Wellness โตไปพร้อมกับกระแสสังคมผู้สูงอายุ สอดรับกับการใช้ชีวิตแบบ New normal ที่ต้องดูแลรักษาสุขภาพ นอกจากการดูแลลูกค้ากลุ่มเดิมแล้ว ยังมุ่งขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มเจนเนอเรชั่นวาย และเน้นการเข้าถึงคนในสังคมมากขึ้นด้วยราคาสมเหตุสมผล จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบโปรแกรมดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล ผ่านการตรวจสุขภาพเชิงลึก ทั้งด้านพันธุกรรม ฮอร์โมน วิตามิน และสารพิษ พร้อมให้คำแนะนำในการช่วยหาสมดุลการใช้ชีวิตเฉพาะบุคคล ปรับเปลี่ยนทัศนคติว่าการดูแลสุขภาพก่อนเกิดโรคเป็นเรื่องที่ทำได้เอง ทำได้ง่าย และทำได้จริง เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนทั้งร่างกายและจิตใจ

“จากผลสำรวจสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ชี้ว่าคนไทย 45.39% หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ เพื่อดูแลสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรงและปรึกษาแพทย์อยู่เสมอ ทำให้เห็นถึงโอกาสการเติบโตในตลาด โดยในช่วงครึ่งปีหลังจะมุ่งเน้นแนวทางของการบริหารงานด้านสุขภาพในแง่สร้างการรับรู้ให้คนไทยได้ตระหนักถึงเรื่องของแนวคิดการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันเพิ่มมากขึ้น ด้วยกลยุทธ์การตลาดเชิงรุก การให้ความรู้ เสริมสร้างความเข้าใจด้านสุขภาพเชิงลึกที่เข้าใจง่าย นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ และคิดค้นนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาเพื่อขานรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุค New normal ในปัจจุบันและอนาคต ควบคู่กับการให้บริการ Wellness ที่ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic) ที่ประกอบด้วย 4 Ps คือ Preventive มุ่งเน้นที่การป้องกันก่อนการเกิดโรค Predictive ใช้การตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการที่แม่นยำในระดับเซลล์ โดยคำนึงถึงปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมร่วมกัน นำมาวิเคราะห์หาต้นตอปัญหาที่แท้จริง Personalized ออกแบบสุขภาพเฉพาะบุคคล โดยใช้ข้อมูลเชิงลึก และ Participatory ประกอบกับการให้คำปรึกษาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ป้องกัน ที่เน้นการมีส่วนร่วมระหว่างแพทย์กับคนไข้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการดูแลรักษาสูงสุด”  นายขันธ์พลร์ กล่าวทิ้งท้าย


Tags : W9WellnessCenter นายแพทย์พิจักษณ์วงศ์วิศิษฎ์ นายขันธ์พลร์ซื่อภาคย์ ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม(Holistic)ในโรงพยาบาลพระรามเก้า


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

นางสาววชิรา การสุทธิ์ รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มการตลาดเพื่อความยั่งยืน เป็นประธานเปิดกิจกรรม School Trip ในโครงการธนาคารโรงเรียน ธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ธนาคารจัดขึ้นเพื่อมอบเป็นสิทธิพิเศษสำหรับสถานศึกษาที่มีผลการดำเนินงานส่งเสริมการออมดีเด่น สามารถจูงใจให้นักเรียนนักศึกษามีปริมาณการออมเติบโตต่อเนื่อง โดยในปี 2568 นี้ ธนาคารจัดเส้นทางทัศนศึกษาโดยรถไฟขบวนพิเศษจากกรุงเทพฯ สู่แหล่งท่องเที่ยว อำเภอหัวหิน เพื่อให้นักเรียนและอาจารย์ของสถานศึกษาได้ร่วมกิจกรรมสันทนาการ เสริมทักษะทางสังคม และการทำงานเป็นทีม ผ่านฐานกิจกรรมสุดสนุกและสร้างสรรค์   พร้อมทั้งเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ทางการเงิน GSB Learning Center ที่ธนาคารออมสินริเริ่มจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจด้านการเงินและการออมแก่เยาวชน โดยมี "โค้ชการเงินมืออาชีพ" (Certified Money Coach by GSB หรือ CMC by GSB) จากธนาคารออมสิน มาร่วมถ่ายทอดความรู้และสร้างสีสันการเรียนรู้ด้านการเงินและการออมตลอดทริป ณ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทั้งนี้ ธนาคารออมสินมุ่งสานต่อภารกิจส่งเสริมการออมด้วยการสร้างเยาวชนนักออมอย่างต่อเนื่อง เพื่อปลูกฝังวินัยการเงินตั้งแต่วัยเรียนและสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนเป็นต้นแบบสู่สังคมแห่งการออมในอนาคต   สถานศึกษาใดสนใจเข้าร่วมโครงการธนาคารโรงเรียน ธนาคารออมสิน สามารถสมัครได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายส่งเสริมการออมและ CSR ธนาคารออมสิน โทร. 0 2299 8000 ต่อ 810712-3    

09 Nov 2025

...

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ขอเชิญร่วมงาน YWCA Diplomatic Charity Bazaar ครั้งที่ 70 งานชอปสินค้านานาชาติเพื่อการกุศลที่รวมกว่า 200 ร้านค้า และกว่า 40 สถานทูตจากทั่วโลก พบกับบูทกรุงเทพประกันภัย (บูท D46) ที่นำเสนอหลากหลายแผนประกันภัยให้เลือกตามความต้องการ พร้อมรับโปรโมชันสุดพิเศษ ได้ที่ CentralWorld Pulse ชั้น 7 ในวันที่ 6 – 9 พฤศจิกายน 2568   นอกจากนี้ บริษัทฯ ขอเชิญร่วมงานไทยเที่ยวนอก ครั้งที่ 5 งานท่องเที่ยวสุดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี พบกับโปรโมชัน “3 ต่อสุดคุ้ม” สำหรับนักเดินทางที่รักการท่องเที่ยว - ลดสูงสุด 18% สำหรับประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ - รับฟรี Starbucks Card มูลค่า 100 บาท เมื่อซื้อประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ ครบทุก 500 บาท (สูงสุด 800 บาท) - พร้อมของสมนาคุณเพิ่มเติมภายในงาน พิเศษสำหรับผู้รักการดำน้ำ บริษัทฯ นำเสนอแผนประกันภัยนักดำน้ำ — ประกันภัยเพื่อการท่องเที่ยวภายในประเทศที่ออกแบบสำหรับนักดำน้ำโดยเฉพาะ ซึ่งกรุงเทพประกันภัยเป็นรายแรกในประเทศไทยที่เสนอผลิตภัณฑ์นี้ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยใต้ท้องทะเล โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาด้านประกันภัยอย่างใกล้ชิด พบกับกรุงเทพประกันภัยได้ที่บูท M44 – M45 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์ 5 – 6 ชั้น LG ในวันที่ 6 – 9 พฤศจิกายน 2568  

08 Nov 2025

...

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นำโดย นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ ประธานกรรมการ  นางยุพา ล่ำซำ  นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นางสลิล ล่ำซำ  นางจันทรา บูรณฤกษ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริษัท นายกนิช บุณยัษฐิติ กรรมการบริษัท  ดร.ณฐพร พันธุ์อุดม กรรมการบริษัท นายภูมิชาย ล่ำซำ ที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ ดร.สุธี โมกขะเวส กรรมการผู้จัดการ  พร้อมด้วยนายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย นางสาววสุมดี วสีนนท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย นางสาวพิมพ์จุฑา สกุนสิทธิ์ธาดา ผู้อำนวยการเขตวัฒนา คณะผู้บริหารเขตวัฒนา  รวมทั้งคณะผู้บริหาร และพนักงาน  บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัทคู่ค้า ลูกค้า และผู้มีจิตศรัทธา ร่วมน้อมถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน  ประจำปี 2568  แด่พระสงฆ์จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส ณ วัดธาตุทอง กรุงเทพมหานคร   ในโอกาสนี้  เมืองไทยประกันชีวิต  ได้มอบเงินบริจาค “ผ้าป่าการศึกษา” ให้แก่ โรงเรียนในพระอุปถัมภ์ของวัดธาตุทอง โดยมี  นางธนาลัย ลิมปรัตนคีรี  ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลวัดธาตุทอง  นายพงศ์พิษณุ สุพรรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนดาราคาม  นายธีระยุทธ สมบูรณ์สุข ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดธาตุทอง  (เรือนเขียวสะอาด)  นายเจษฎา ศรีนวล ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง  ว่าที่พันตรี ดร.ณัฏฐกิตติ์ ชัยเฉลิมมงคล กรรมการบริหารและไวยาวัจกรวัดธาตุทอง ผู้แทนโรงเรียน พระปริยัติธรรมวัดธาตุทอง ร่วมในพิธี  ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายของบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคมในทุกด้าน ให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน.    

05 Nov 2025

...

นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินในฐานะสถาบันการออมของคนไทย ตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านการส่งเสริมการออมและให้ความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ธนาคารจึงถือโอกาสในการจัดงานวันออมแห่งชาติ วันที่ 31 ตุลาคม 2568 ยกระดับสู่ GSB SAVINGS FORUM 2025 ภายใต้แนวคิด “AI & AOM ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” เพื่อให้เป็นเวทีในการสื่อสารด้านการออมและจุดประกายการผสานพลังเทคโนโลยี “AI” (Artificial Intelligence) เข้ากับ “AOM” (การออม) อย่างสร้างสรรค์ผ่านกิจกรรมสำคัญ อาทิ มินิทอล์ก “ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” โดยกูรูและเซเลบริตี้ชื่อดัง การประกวดออกแบบ “กระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล” ด้วย AI รอบชิงชนะเลิศ ตลอดจนการเปิดตัว “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB โดยงาน GSB SAVINGS FORUM 2025 ในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีแรก และธนาคารตั้งเป้าจัดเป็นงานประจำทุกปีในวันออมแห่งชาติ เพื่อขับเคลื่อนภารกิจหลักของธนาคารในการให้ความรู้ทางการเงินและเป็นเวทีหลักด้านการส่งเสริมการออมแก่สังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ภายในงานพบกับไฮไลท์ เวทีมินิทอล์ก “ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” เวทีแห่งแรงบันดาลใจจากคนดังหลากหลายเจน ที่จะมาแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์วางแผนการออมและการเงินส่วนบุคคลในโลกดิจิทัล อาทิ คุณหนุ่ย-พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ คุณตั๊ก-มยุรา เศวตศิลา และ คุณธนัชภรณ์ นิชิยาม่า ร่วมสร้างสีสันการเสวนาโดย คุณป๋อมแป๋ม-นิติ ชัยชิตาทร พร้อมรับชมการแข่งขันพรอมพ์ AI เพื่อออกแบบ “กระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล” รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นการแข่งขันของผู้ผ่านเข้ารอบ 50 คน จากผู้ส่งผลงานกว่า 700 ผลงาน โดยธนาคารจัดการประกวดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีในการสร้างแรงบันดาลใจด้านการออม ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 100,000 บาท ตัดสินโดยกูรูวงการ AI และผู้เชี่ยวชาญจากแวดวงโฆษณาชั้นนำของประเทศ อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญคือการเปิดตัว “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB ที่ธนาคารออมสินได้ริเริ่มจัดทำโปรแกรมสร้างผู้เชี่ยวชาญวางแผนการเงิน ร่วมพัฒนาหลักสูตรโดยผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการให้ความรู้ทางการเงิน การออม การลงทุน และการวางแผนเกษียณ โดยมีพนักงานออมสินที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบทั้งข้อเขียนและภาคปฏิบัติ ได้รับการรับรองคุณวุฒิเป็น “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB รุ่นแรก รวม 44 ราย ที่จะทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ทางการเงิน และส่งเสริมให้ประชาชนมีการออมอย่างมีเป้าหมาย ซึ่งพนักงานที่ผ่านการทดสอบในโปรแกรมนี้ จะได้รับการติดเข็มวิทยฐานะ CMC สำหรับใช้แสดงตนเพื่อเป็นการรับรองความรู้ความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป  นอกจากนี้ ธนาคารยังเปิดตัวกระปุกออมสิน “แสงแห่งการออม” ในวาระวันออมแห่งชาติ ดีไซน์ล้ำด้วยลูกเล่นมีไฟส่องสว่างในตัว สำหรับผู้ฝากเงิน 500 บาทขึ้นไป ลงทะเบียนจองสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ www.gsb.or.th, Line Official : GSB Society หรือ แอปพลิเคชัน MyMo ตั้งแต่วันที่ 27 – 30 ตุลาคม 2568 และเปิดให้ฝากเงินได้ที่ธนาคารออมสินสาขา แอปพลิเคชัน MyMo หรือเครื่องรับฝากเงิน ADM พร้อมรับกระปุกออมสิน ณ ธนาคารออมสินสาขาที่ลงทะเบียนจองสิทธิ์ไว้ ในวันที่ 31 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน 2568 (จำกัด 1 คน ต่อ 1 สิทธิ์) ของมีจำนวนจำกัด สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน GSB SAVINGS FORUM 2025 ในวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 6 อาคาร 32 ชั้น ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ สามารถลงทะเบียนได้ทางระบบออนไลน์ https://www.zipeventapp.com/e/GSB-Savings-Forum-2025 ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2568 โดยผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้าจะได้รับกระปุกออมสิน “แสงแห่งการออม” (จำนวนจำกัด) หรือรับชมการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางเพจเฟซบุ๊ก GSB Society

23 Oct 2025

Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner