Responsive image

Tuesday, 30 Dec 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


คปภ. เปิดตัว หลักสูตร “สุดยอดผู้นำวิทยาการประกันภัยระดับสูง (Super วปส.) รุ่นที่ 1” ผนึกกำลังสุดยอด CEO ขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจ - ประกันภัย

Sun 27/09/2563


ดร. สุทธิพล  ทวีชัยการ  เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย  (เลขาธิการ คปภ.)  เป็นประธานในพิธีเปิดการศึกษาอบรมหลักสูตรสุดยอดผู้นำวิทยาการประกันภัยระดับสูง (Thailand Insurance Super Leadership Program) หรือ Super วปส. รุ่นที่ 1 ณ ห้องประชุม สถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง ชั้น 2  เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความคิดสร้างสรรค์เชิงวิเคราะห์  การบริหารความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการประกันชีวิต การประกันวินาศภัย เทคโนโลยี การเงิน การบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ การนำเสนอแนวทางและการประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเสริมสร้างการเป็นผู้นำที่มีคุณธรรมจริยธรรม และการบริหารจัดการเชิงสร้างสรรค์ นำองค์กรไปสู่ความสำเร็จโดยสอดคล้องกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคมของโลก ตลอดจนบูรณาการร่วมกับสำนักงาน คปภ. ในการปฏิรูปอุตสาหกรรมและเพิ่มบทบาทของระบบประกันภัยต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนในยุควิถีชีวิตใหม่ New Normal ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป

ในโอกาสนี้ เลขาธิการ คปภ. ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “นโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนของประเทศกับบทบาทของประกันภัยในยุค New Normal” โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันโลกเกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และวัฒนธรรม ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ซึ่งส่งผลให้แต่ละประเทศทั่วโลกต้องเผชิญกับผลกระทบในหลายมิติ ในขณะที่วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น รัฐบาลจึงมีนโยบายในการออกมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเพื่อลดผลกระทบ โดยมุ่งเน้นไปยังผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ได้แก่ กลุ่ม SMEs และกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รวมถึงการเตรียมความพร้อมโดยการผลักดันการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและเร่งสร้าง Digital Infrastructure ให้เป็นกลไกสำคัญในการปรับเปลี่ยนประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อตอบสนองต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของประชาชนที่มุ่งไปสู่ความต้องการบริการดิจิทัลและ e-Commerce อย่างก้าวกระโดด 

 สำหรับภาคอุตสาหกรรมประกันภัย นอกจากจะสามารถใช้ประโยชน์จาก Digital Infrastructure ที่ทันสมัยสำหรับการดำเนินธุรกิจแล้ว ยังเป็นส่วนที่สำคัญในการร่วมสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้กับประเทศ ทั้งการสร้างระบบฐานข้อมูลด้านการประกันภัยที่เป็น Open Data การเชื่อมโยงข้อมูลกับ Platform ต่าง ๆ และนำข้อมูลและเทคโนโลยีไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการบริการให้ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน อาทิ การประกันภัยโควิด-19 ตลอดจนการสร้างช่องทางและนำเสนอการประกันภัยสู่ประชาชนรากหญ้า อาทิ การประกันภัยพืชผลทางการเกษตรและปศุสัตว์ เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย นอกจากนี้ ยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศที่ถือได้ว่าเป็น financial backup ให้กับภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยผ่านทางผลิตภัณฑ์ประกันภัยในหลายรูปแบบ อาทิ การประกันภัยสินค้า การประกันภัยขนส่ง การประกันภัยธุรกิจหยุดชงัก อีกทั้งเป็นกลไกในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นสำหรับสังคมผู้สูงอายุ (Aging society) โดยสนับสนุนให้ประชาชนมีการวางแผนการออมเพื่อรองรับวัยเกษียณอายุ รวมถึงมีบทบาทในการเป็นผู้ลงทุนสถาบันรายใหญ่ในตลาดตราสารหนี้และตลาดตราสารทุนของประเทศ

 เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ แม้เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกยังติดกับดักของการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 แต่ธุรกิจประกันภัยจะยังคงมีบทบาทสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น สำนักงาน คปภ. โดยสถาบัน วปส.จึงได้จัดอบรมหลักสูตรสุดยอดผู้นำวิทยาการประกันภัยระดับสูง (Thailand Insurance Super Leadership Program) หรือ หลักสูตร Super วปส. รุ่นที่ 1 ซึ่งเป็นรุ่น Limited edition โดยกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่เข้ารับการศึกษาอบรมเป็นผู้บริหารระดับสูง ผู้นำองค์กรจากภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และเป็นศิษย์เก่าหลักสูตรวิทยาการประกันภัยระดับสูง รุ่นที่ 1-9 ที่มีประวัติการเรียนดีเด่น เข้าร่วมกิจกรรมหลักสูตร วปส. อย่างสม่ำเสมอ หรือทำคุณประโยชน์ต่อสำนักงานคปภ. โดยมีเลขาธิการ คปภ.เข้าร่วมศึกษาอบรมในหลักสูตรนี้ด้วย รวมทั้งสิ้น 49 คน

หลักสูตร Super วปส.รุ่น 1 ได้กำหนดหมวดวิชา 6 หมวดที่สำคัญ ได้แก่ 1) มุมมองเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่จะเปลี่ยนแปลงไปภายใต้เศรษฐกิจใหม่ของโลก 2) รูปแบบการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงหลัง COVID-19  3) ดิจิทัลเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีต่อธุรกิจในรูปแบบต่างๆ 4) พฤติกรรมและทัศนคติของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปหลัง COVID-19 5) สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือ ESG – Environmental , Social , Governance กับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และ 6) ทิศทางและอนาคตของอุตสาหกรรมประกันภัย โดยได้จัดปฐมนิเทศนักศึกษา Super วปส. รุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 18-19 กันยายน 2563 ณ โรงแรมอวานี อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี พร้อมทั้งจัดกิจกรรม Workshop Design Thinking เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ และเพื่อให้ผู้เข้ารับการศึกษาอบรมฯ มีส่วนร่วมในการออกแบบธุรกิจและร่วมกันสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการปฏิรูปอุตสาหกรรม เพิ่มบทบาทของระบบประกันภัยต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และการมองอนาคตเชิงกลยุทธ์ภายใต้วิธีการเรียนรู้ Strategic Foresight โดยเน้นการเข้าถึงความต้องการและตอบโจทย์ประชาชนอย่างแท้จริง ผ่านกระบวนการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ วิเคราะห์เชิงวิพากษ์ ผนึกกำลังบูรณาการความคิด และร่วมสรุปแนวความคิดเห็นในแง่มุมต่าง ๆ ทั้งเชิงนโยบายและเชิงปฏิบัติ เพื่อนำมาสู่ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ โดยกำหนดระยะเวลาการศึกษาอบรมตามหลักสูตร ระหว่างเดือนกันยายน-ธันวาคม 2563

 “ความสำเร็จของการศึกษาอบรมตามหลักสูตร Super วปส. นี้ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การทำความรู้จักกันหรือสร้างคอนเนคชั่นของนักศึกษา แต่อยู่ที่ผลของการหลอมรวมความรู้และประสบการณ์ที่ตกผลึกของศิษย์เก่า วปส.ทุกรุ่นที่เป็นสุดยอดผู้นำองค์กรจากภาคส่วนต่าง ๆ อันเกิดจากการสังเคราะห์ภายใต้การเรียนการสอนแบบใหม่การวิเคราะห์เชิงสร้างสรรค์ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้ต่าง ๆ จากมุมมองในแต่ละมิติ ส่งผลให้เกิดข้อเสนอแนะที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนในยุควิถีชีวิตใหม่ (New Normal) และเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและระบบประกันภัยของประเทศได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย


Tags : คปภ.เปิดตัวหลักสูตร ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เปิดตัว หลักสูตร “สุดยอดผู้นำวิทยาการประกันภัยระดับสูง (Super วปส.) รุ่นที่ 1


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น (SOE Awards) ประจำปี 2568 ให้แก่ธนาคารออมสิน โดยมีผู้แทนรับมอบรางวัลได้แก่ รศ.ดร. ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการธนาคารออมสิน พร้อมด้วย นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และผู้บริหาร ซึ่งเป็นปีที่ธนาคารออมสินได้รางวัลในระดับดีเด่นและเกียรติยศ ครบทั้ง 8 ประเภทรางวัลที่ธนาคารได้รับ จัดขึ้นโดยคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2568     นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในปี 2568 นี้ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. ได้พิจารณามอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นแก่ธนาคารออมสิน จำนวน 8 รางวัล ประกอบด้วย 1) รางวัลเกียรติยศรัฐวิสาหกิจยอดเยี่ยม ธนาคารได้รับเป็นปีที่ 3 ต่อเนื่อง โดยเป็นรางวัลที่มอบให้กับรัฐวิสาหกิจที่มีความโดดเด่นและมีมาตรฐานการดำเนินงานทุก ๆ ด้าน สามารถตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของประชาชน     2) รางวัลเกียรติยศคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจดีเด่น ได้รับเป็นปีที่ 3 ต่อเนื่อง จากการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ และผลักดันการบริหารงานให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี 3) รางวัลเกียรติยศการบริหารจัดการองค์กรดีเด่น ได้รับเป็นปีที่ 7 ต่อเนื่อง จากการรักษามาตรฐาน การบริหารจัดการเพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขัน พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำพาองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ   4) รางวัลผู้นำองค์กรดีเด่น ที่มอบให้แก่นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผลงานเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสิน 5) รางวัลการพัฒนาสู่รัฐวิสาหกิจดิจิทัล จากการสร้างสรรค์และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาองค์กร ในมิติต่าง ๆ พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล 6) รางวัลการพัฒนาสู่รัฐวิสาหกิจยั่งยืน จากการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นระบบ จนเกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม     7) รางวัลการดำเนินงานอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น โดยได้รับจากผลงานความสำเร็จของโครงการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบองค์รวม (Holistic Area-Based Development) - โครงการลิบงสุขใจ ออมสินพัฒนา อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 8) รางวัลความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมดีเด่น จากโครงการ GEN AI Branch Assistant : ผู้ช่วยสาขาอัจฉริยะ ที่ธนาคารพัฒนาขึ้นโดยการนำ AI มาใช้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการของสาขา   นับเป็นความภาคภูมิใจและเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของบุคลากรธนาคารออมสินทุกคนในการรักษามาตรฐานการบริหารจัดการองค์กรในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ภายใต้หลักธรรมาภิบาล โปร่งใส และการให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างสมดุล ควบคู่กับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ธนาคารเพื่อสังคม” เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกและความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจและสังคมไทยในระยะยาว    

26 Dec 2025

...

เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมมือกับ เอ ไลฟ์ (ALive Powered by AIA) โดยบริษัท เอไอเอ เวลเนส จำกัด ส่งความห่วงใยถึงคนไทยทั่วประเทศในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2569 มอบแคมเปญ “ฟรี!!! ประกันอุบัติเหตุ กรมธรรม์ประกันภัยอุ่นใจข้ามปี” โดยมอบกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่ (ไมโครอินชัวรันส์) ฟรีให้แก่ประชาชนทั่วไป ระยะเวลาคุ้มครองนาน 30 วัน ด้วยวงเงินคุ้มครองชีวิตสูงถึง 100,000 บาทต่อกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ พร้อมรับผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุตามจำนวนที่จ่ายจริงสูงสุด 5,000 บาท* เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีหลักประกันความคุ้มครองอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมเพิ่มความอุ่นใจสำหรับการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาเพื่อไปฉลองกับครอบครัว ซึ่งแคมเปญดังกล่าวยังเป็นการขานรับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) อีกทั้งยังสานต่อพันธกิจของเอไอเอที่ต้องการสนับสนุนให้ผู้คนกว่าพันล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives ทั้งนี้ สำหรับประชาชนทุกคนที่สนใจขอรับกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มฟรี สามารถลงทะเบียนรับสิทธิออนไลน์ได้ง่าย ๆ เพียงไปที่เว็บไซต์ https://aiathailand.info/panyPR  ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2568 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2569   หมายเหตุ: *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัท เอไอเอ เวลเนส จำกัด กำหนด

20 Dec 2025

...

รายงานข่าวจากธนาคารออมสิน ขอเชิญชวนผู้ประกอบการร้านค้า ประเภทบุคคลธรรมดา ที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” และยังไม่ได้ลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Smart Finance Upskill ขอให้เร่งสมัครผ่านเว็บไซต์ของธนาคารออมสิน www.gsb.or.th ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากขณะนี้เหลือเวลาเพียง 4 วันสุดท้าย ที่สามารถลงทะเบียนและเรียนให้จบหลักสูตร เพื่อรับสิทธิ์เงินสนับสนุนจากภาครัฐ นับจากวันที่พัฒนาทักษะสำเร็จจนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 สูงสุดไม่เกินรายละ 2,000 บาท หลักสูตร Smart Finance Upskill การพัฒนาความรู้ทางการเงินเพื่อร้านค้ารายย่อยโครงการคนละครึ่ง พลัสเป็นการเรียนออนไลน์กับธนาคารออมสิน ภายใต้โครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย ประเภทบุคคลธรรมดา มุ่งเสริมทักษะทางการเงินที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจ ครอบคลุมการทำบัญชี การคิดต้นทุน การตั้งราคาขาย และความรู้ก่อนยื่นขอกู้ ผู้ที่เรียนจบและผ่านเกณฑ์ จะได้รับประกาศนียบัตรและรับสิทธิ์เงินสนับสนุนจากภาครัฐตามเงื่อนไขที่กำหนด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Smart Finance Upskill และข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโครงการ Upskill/Reskill คนละครึ่ง พลัส ที่ GSB Contact Center โทร. 1115 กด 7

19 Dec 2025

...

ธ.ก.ส. เร่งให้ความช่วยเหลือทหาร และ ตชด. วีรบุรุษผู้เสียสละชีวิต จากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศไทย – กัมพูชา โดยให้ความช่วยเหลือกับทหาร และ ตชด. ที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. รวมถึงให้ความช่วยเหลือบิดา - มารดา หรือคู่สมรสที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ของวีรบุรุษผู้เสียสละชีวิต โดยยกหนี้ในส่วนของต้นเงินกู้ทุกสัญญา และยกหนี้ในส่วนของดอกเบี้ยทั้งจำนวน ภายใต้สัญญาที่ใช้แหล่งเงินทุน ธ.ก.ส. เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ลูกหนี้ และลดภาระให้สามารถดำรงชีพต่อไปได้อย่างมั่นคง นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชาได้กลับมาตึงเครียดในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี ตราด และสระแก้ว ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของเกษตรกรลูกค้าของธนาคาร โดยปัจจุบันมีทหารที่เป็นสมาชิกครอบครัวของลูกค้า ธ.ก.ส. เสียชีวิต และเพื่อให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ลูกค้า ธ.ก.ส. และเป็นการลดภาระเพื่อให้สามารถดำรงชีพต่อไปได้อย่างมั่นคง คณะกรรมการธนาคาร โดย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ ธ.ก.ส. ได้มีมติในการประชุมวันนี้ (9 ธันวาคม 2568) ให้ความช่วยเหลือลูกค้า กรณีทหาร หรือตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศไทย – กัมพูชา ที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. รวมถึงให้ความช่วยเหลือแก่บิดา มารดา หรือคู่สมรสที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ของวีรบุรุษผู้เสียสละชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยธนาคารจะยกหนี้ในส่วนของต้นเงินกู้ทุกสัญญา และยกหนี้ในส่วนของดอกเบี้ยค้างรับและดอกเบี้ยปรับทั้งจำนวน ภายใต้สัญญาที่ใช้แหล่งเงินทุน ธ.ก.ส. เป็นกรณีพิเศษ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้ให้ความช่วยเหลือครอบครัวทหารไปแล้ว จำนวน 7 ราย ธ.ก.ส. ขอแสดงความห่วงใยต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา คนข้างหลังไม่ต้องกังวล ธ.ก.ส. อยู่เคียงข้างและพร้อมก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ Call Center 02 555 0555 ตลอด 24 ชั่วโมง  

14 Dec 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner