Responsive image

Saturday, 15 Nov 2025

หน้าแรก > BUSINESS-MARKETING-SME / ธุรกิจ - การตลาด - เอสเอ็มอี


ถกประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความท้าทายที่แบรนด์ต้องเผชิญในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ ขององค์กรต่างประเทศในตลาดประเทศไทย

Thu 15/10/2563


คาริณ โลหิตนาวี ซีอีโอ มิดัส คอมมิวนิเคชั่น ในช่วงสี่ทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยมีความก้าวหน้าอย่างมาก ในด้านการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ โดยเปลี่ยนจากประเทศที่มีรายได้ต่ำไปสู่ประเทศที่มีรายได้ปานกลางจนถึงระดับบน โดยใช้เวลาไม่ถึงชั่วอายุคนการเติบโตทางเศรษฐกิจและโอกาสทั่วประเทศมีให้เห็นมากมาย จากข้อมูลของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยจะเติบโต 3.0% ในปี 2020 รายได้ที่เพิ่มขึ้นในประเทศทำให้ประชากรมีความเชื่อมั่นแง่ดี และความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายก็เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย จากการเพิ่มขึ้นของผู้บริโภคที่มีรายได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีฐานะร่ำรวยได้ใช้จ่ายมากขึ้นเพื่อซื้อประสบการณ์ต่างๆ อาทิ การรับประทานอาหารนอกบ้านและการเดินทางท่องเที่ยว

สถิติข้างต้นพิสูจน์ให้เห็นว่ามีโอกาสมากมายสำหรับแบรนด์ต่างประเทศในประเทศไทย แบรนด์จากต่างประเทศหลายแบรนด์ได้เข้าสู่ตลาดในประเทศไทยแล้ว หรือบางส่วนกำลังพิจารณาที่จะขยายมาสู่ประเทศไทย อาทิ foodpanda Grab Tim Hortons และ Lazada เป็นเพียงชื่อไม่กี่แห่งที่เป็นที่รู้จักในประเทศไทย อย่างไรก็ตามการมีอยู่ของโอกาสที่หลากหลายไม่ได้หมายความว่าการเข้าสู่ตลาดในประเทศไทยนั้นเป็นเรื่องง่ายเสมอไป ตลาดส่วนใหญ่ได้รับการพัฒนาโดยมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคทางวัฒนธรรม การเมือง เทคโนโลยี และภาษา ที่ผู้มาใหม่ทุกคนจะต้องรับมือ

มาดูความท้าทายบางประการที่แบรนด์ต่างประเทศต้องเผชิญกับการขยายตัวในประเทศไทย ดังนี้

1. หากคนไทยไม่รู้จักแบรนด์ ก็ไม่ต้องการแบรนด์นั้นเช่นกัน : จากรายงานของ Santander Trade Report 2019 พบว่าผู้บริโภคชาวไทยเป็นกลุ่มที่ใส่ใจในแบรนด์และภักดีต่อแบรนด์มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยพวกเขายินดีที่จ่ายมากขึ้นสำหรับแบรนด์โปรด แม้ว่าจะมีทางเลือกอื่นที่ถูกกว่ารวมถึงหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงแบรนด์ด้วย พวกเขาภักดีต่อแบรนด์ในประเภทต่างๆ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ สบู่ เครื่องสำอาง ไปจนถึงอาหาร เบียร์ ของว่าง และ อื่นๆ บริษัทที่ตระหนักถึงคุณลักษณะเหล่านี้ สามารถสร้างและใช้ประโยชน์จากตราสินค้าเพื่อสร้างแรงดึงดูดและความภักดีของผู้บริโภคให้มีความแข็งแกร่งได้ แต่ในขณะเดียวกันแบรนด์ก็ต้องครองอันดับหนึ่งหรือสองในหมวดหมู่ของตนเอง เพื่อให้ได้มาซึ่งความภักดีที่แข็งแกร่ง ทัศนคติของผู้บริโภคชาวไทยมักสร้างความท้าทายในการสื่อสารสำหรับแบรนด์ต่างประเทศใหม่ ๆ ที่มีการยอมรับในตลาดไทยต่ำ เนื่องจากผู้ชมชาวไทยจะลังเลที่จะลองแบรนด์ใหม่หากพวกเขาไม่ทราบรายละเอียด หรือมีรายละเอียดที่น่าสนใจมากพอ นอกจากนี้ยังเป็นความท้าทายด้านการประชาสัมพันธ์ ด้วยสื่อมีโอกาสน้อยที่จะครอบคลุมหัวข้อที่พวกเขาไม่เห็นว่าโดดเด่นหรือน่าสนใจสำหรับผู้ชม

2. หากคุณไม่รู้จักคนที่ใช่ คุณจะไปไม่ถึงไหน : สิ่งนี้สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการทำการประชาสัมพันธ์ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปฏิบัติงานด้านประชาสัมพันธ์ และผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อ เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเน้นย้ำเพื่อสร้างความผูกพันระหว่างทั้งสองฝ่าย ความสัมพันธ์ของผู้ปฏิบัติงานกับสื่อไทยนั้นมีความใกล้ชิดและเป็นปฏิปักษ์น้อยกว่าในประเทศแถบตะวันตก โดยสื่อมีความกังขาน้อยกว่า เนื้อหาที่ดียังคงผลักดันการรายงานข่าว แต่โดยรวมแล้วสื่อในประเทศไทยดูเหมือนจะเปิดกว้างมากขึ้นสำหรับกิจกรรมทางการประชาสัมพันธ์ในทุกประเภท และพวกเขาไม่โจมตีแบรนด์มากนัก โดยภาพรวมประเทศไทยให้ค่ากับวัฒนธรรมสำหรับผู้หญิง และด้วยเหตุนี้จึงมีแนวโน้มที่จะให้คุณค่ากับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลด้วย ซึ่งล้วนแล้วแต่มีบทบาทสำคัญในความสัมพันธ์กับสื่อในประเทศไทยมากกว่าในประเทศแถบตะวันตก ในความเป็นจริงเรียกว่าแตกต่างกันอย่างมาก ในประเทศไทยการประชาสัมพันธ์ส่วนใหญ่นั้นขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ส่วนบุคคลกับสื่อและต้องทำให้แน่ใจว่านักข่าวเหล่านี้มีความสุขและได้สิ่งที่ร้องขอ หมายความว่าหากไม่มีความสัมพันธ์ที่มีอยู่เหล่านี้ การเชื่อมต่อกับแบรนด์ใหม่ ๆ จะพบว่าเป็นการยากมากที่จะสร้างการประชาสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดขึ้นได้

3. หากคุณไม่ได้รับการยอมรับบน Facebook ของไทยก็ถือว่าคุณก็ไม่มีตัวตนอยู่จริง : การศึกษาของ Statcounter 2019 พบว่าคนไทยมีใช้โซเชียลมีเดียมาก คนไทยมากกว่า 63% ใช้ Facebook การบริโภคโซเชียลมีเดียที่เพิ่มขึ้นนี้ ทำให้เกิดกระแสใหม่ในประเทศ นั่นคือ micro-influencers ขณะนี้ผู้ชมชาวไทยให้ความไว้วางใจ influencers เหล่านี้ เนื่องจากดูเป็นเรื่องราวส่วนตัวที่พวกเขาเหล่านั้นต้องการแบ่งปันเกี่ยวกับแบรนด์ พวกเขาไว้วางใจและมองหาคำแนะนำรวมถึงบทวิจารณ์ต่างๆ จากคนเหล่านี้ อุตสาหกรรมปัจจุบันได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ในปัจจุบันประเทศไทยมี influencers เกิดขึ้นในหลากหลายหัวข้อต่างๆ เช่น อาหาร ไลฟ์สไตล์ การเดินทาง แฟชั่นการเลี้ยงดู แต่การทำงานร่วมกับ influencers เหล่านี้ จำเป็นต้องมีความรู้อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับตลาดและความสามารถในการจัดการแคมเปญในหลากหลายช่องทางเป็นภาษาไทย การรุกเข้าสู่โลกของ influencers และการสร้างสถานะที่มั่นคงไม่ใช่เรื่องง่าย

4. หากคุณได้รับการรับรองจากดาราฮอลลีวูด หรือผู้คนระดับแนวหน้า ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณพร้อมแล้ว : Micro-influencers อาจมีอิทธิพล แต่คนดังรายใหญ่ก็ยังถือว่าครองใจผู้บริโภคชาวไทยอยู่ แบรนด์ต่างประเทศที่ต้องการวางรากฐานในประเทศไทย ควรพิจารณาการรับรองของคนดังเป็นเครื่องหมายของการยอมรับในประเทศท้องถิ่น แต่มีสิ่งที่น่าสนใจคือผู้ชมชาวไทยมีแนวโน้มที่จะเกี่ยวข้องกับ influencers ในท้องถิ่นมากกว่าคนดังระดับโลก นี่คือเหตุผลที่แบรนด์ระดับโลกที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติที่ได้รับการรับรองอยู่แล้ว อาจต้องคิดถึงกลยุทธ์และข้อความที่จะสื่อสารในระดับท้องถิ่น ดาราท้องถิ่นมีอิทธิพลมากกว่าดาราฮอลลีวูด อาทิ ในเมืองไทย ญาญ่า (อุรัสยาสเปอร์บันด์) ยิ่งใหญ่และมีอิทธิพลมากกว่าเลดี้กาก้า เป็นต้น

นี่เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของความท้าทายที่แบรนด์ต่างประเทศต้องเผชิญในตลาดไทย มีรายการอื่น ๆ อีกมากมายนอกจากนี้ในเรื่องของความท้าทายโดยบางอย่างยังเป็นเรื่องเฉพาะ อุตสาหกรรมบริษัทขายขนมขบเคี้ยวจะประสบปัญหาที่แตกต่างจากบริษัทหรือร้านค้าปลีกแฟชั่น แต่ความจริงที่ว่ามีความท้าทายอยู่ ไม่ได้หมายความว่าการเข้าสู่ตลาดไทยจะเป็นไปไม่ได้ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ความท้าทายใด ๆ สามารถแปรเปลี่ยนเป็นโอกาสได้ สิ่งที่คุณต้องมีคือพันธมิตรในท้องถื่นที่เหมาะสมนั่นเอง

 


Tags : MidasPR คาริณโลหิตนาวีซีอีโอมิดัสคอมมิวนิเคชั่น


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ชวนรับชมรายการ "Once Upon BAAC Time" รายการท่องเที่ยวเชิงเกษตร (Agro Tourism) ที่จะลงพื้นที่บุกชุมชนของลูกค้า ธ.ก.ส. ด้วยการนำเสนอในรูปแบบวิดีโอ VLOG จำนวน 3 ตอน ที่สะท้อนถึงการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ภายใต้แนวคิด ‘เรียนรู้ สนุก ลงมือทำจริง’ ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ในการเข้าถึงการทำเกษตรยุคใหม่ พร้อมผลักดันสินค้าเกษตรไปสู่การรับรู้ในวงกว้าง เพื่อตอกย้ำบทบาทและหน้าที่ในการพัฒนาภาคเกษตรของ ธ.ก.ส. เจาะกลุ่มผู้ชมยุคใหม่เรียนรู้การลงพื้นที่จริง   โดยมีนายไพศาล หงษ์ทอง รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. พร้อมด้วยวง PROXIE ได้แก่ กร วรรณไพโรจน์ , โชกุน - ปวริศร์ ศรีชัยชนะ, อองรี - ออสการ์ เอ็ดเวิร์ด วัตราเศรษฐ์, กัน - รัชชานนท์ เรือนเพ็ชร์, วิคเตอร์ - วรเมธ อนุประพันธ์ และคิม - ปัณณธร จิรศาสตร์ ในโอกาสนี้ ขอเชิญมาร่วมสัมผัสเสน่ห์เฉพาะตัวของทั้ง 3 ชุมชน ประกอบด้วย     ตอนที่ 1 Lemon Me Farm จ.นครปฐม ฟาร์มเลมอนและคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสประสบการณ์การปลูกเลมอนที่เต็มไปด้วยคุณภาพ สะอาดและปลอดภัย   ตอนที่ 2 Air Orchid Farm จ.นครปฐม สวนกล้วยไม้ครบวงจร พื้นที่กว่า 200 ไร่ ผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาสายพันธุ์ กล้วยไม้ในห้องแล็บภายใต้โรงเรือนและการเพาะเลี้ยงที่ได้คุณภาพ และมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practices)   และตอนที่ 3 ไร่สุขพ่วง จ.ราชบุรี แหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรอินทรีย์แบบครบวงจรที่มีวิธีการจัดการแปลงแบบฮูกูลคัลเจอร์ (Hugelkultur) หรือการปลูกพืชบนพื้นดิน และยังมีการต่อยอดการจำหน่ายผลผลิตผ่านการจัดตลาดสุขพ่วง พ่วงสุข   โดยสามารถติดตามรายการ "Once Upon BAAC Time" ได้ทาง YouTube : BAAC Thailand https://www.youtube.com/watch?v=OBViI6FXteY&list=PL7gIwMaiyiX7fsS4XaslxV8p11DR6nniu และ ติดตามข่าวสารผลิตภัณฑ์และบริการอื่น ๆ จาก ธ.ก.ส. ได้ที่ Facebook : ธกส BAAC Thailand LINE : @baacfamily Instagram : @baacthailand X : @baacthailand และ TikTok : @baacthailand

15 Nov 2025

...

นางสาววชิรา การสุทธิ์ รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มการตลาดเพื่อความยั่งยืน เป็นประธานเปิดกิจกรรม School Trip ในโครงการธนาคารโรงเรียน ธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ธนาคารจัดขึ้นเพื่อมอบเป็นสิทธิพิเศษสำหรับสถานศึกษาที่มีผลการดำเนินงานส่งเสริมการออมดีเด่น สามารถจูงใจให้นักเรียนนักศึกษามีปริมาณการออมเติบโตต่อเนื่อง โดยในปี 2568 นี้ ธนาคารจัดเส้นทางทัศนศึกษาโดยรถไฟขบวนพิเศษจากกรุงเทพฯ สู่แหล่งท่องเที่ยว อำเภอหัวหิน เพื่อให้นักเรียนและอาจารย์ของสถานศึกษาได้ร่วมกิจกรรมสันทนาการ เสริมทักษะทางสังคม และการทำงานเป็นทีม ผ่านฐานกิจกรรมสุดสนุกและสร้างสรรค์   พร้อมทั้งเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ทางการเงิน GSB Learning Center ที่ธนาคารออมสินริเริ่มจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจด้านการเงินและการออมแก่เยาวชน โดยมี "โค้ชการเงินมืออาชีพ" (Certified Money Coach by GSB หรือ CMC by GSB) จากธนาคารออมสิน มาร่วมถ่ายทอดความรู้และสร้างสีสันการเรียนรู้ด้านการเงินและการออมตลอดทริป ณ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทั้งนี้ ธนาคารออมสินมุ่งสานต่อภารกิจส่งเสริมการออมด้วยการสร้างเยาวชนนักออมอย่างต่อเนื่อง เพื่อปลูกฝังวินัยการเงินตั้งแต่วัยเรียนและสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนเป็นต้นแบบสู่สังคมแห่งการออมในอนาคต   สถานศึกษาใดสนใจเข้าร่วมโครงการธนาคารโรงเรียน ธนาคารออมสิน สามารถสมัครได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายส่งเสริมการออมและ CSR ธนาคารออมสิน โทร. 0 2299 8000 ต่อ 810712-3    

09 Nov 2025

...

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ขอเชิญร่วมงาน YWCA Diplomatic Charity Bazaar ครั้งที่ 70 งานชอปสินค้านานาชาติเพื่อการกุศลที่รวมกว่า 200 ร้านค้า และกว่า 40 สถานทูตจากทั่วโลก พบกับบูทกรุงเทพประกันภัย (บูท D46) ที่นำเสนอหลากหลายแผนประกันภัยให้เลือกตามความต้องการ พร้อมรับโปรโมชันสุดพิเศษ ได้ที่ CentralWorld Pulse ชั้น 7 ในวันที่ 6 – 9 พฤศจิกายน 2568   นอกจากนี้ บริษัทฯ ขอเชิญร่วมงานไทยเที่ยวนอก ครั้งที่ 5 งานท่องเที่ยวสุดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี พบกับโปรโมชัน “3 ต่อสุดคุ้ม” สำหรับนักเดินทางที่รักการท่องเที่ยว - ลดสูงสุด 18% สำหรับประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ - รับฟรี Starbucks Card มูลค่า 100 บาท เมื่อซื้อประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ ครบทุก 500 บาท (สูงสุด 800 บาท) - พร้อมของสมนาคุณเพิ่มเติมภายในงาน พิเศษสำหรับผู้รักการดำน้ำ บริษัทฯ นำเสนอแผนประกันภัยนักดำน้ำ — ประกันภัยเพื่อการท่องเที่ยวภายในประเทศที่ออกแบบสำหรับนักดำน้ำโดยเฉพาะ ซึ่งกรุงเทพประกันภัยเป็นรายแรกในประเทศไทยที่เสนอผลิตภัณฑ์นี้ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยใต้ท้องทะเล โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาด้านประกันภัยอย่างใกล้ชิด พบกับกรุงเทพประกันภัยได้ที่บูท M44 – M45 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์ 5 – 6 ชั้น LG ในวันที่ 6 – 9 พฤศจิกายน 2568  

08 Nov 2025

...

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นำโดย นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ ประธานกรรมการ  นางยุพา ล่ำซำ  นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นางสลิล ล่ำซำ  นางจันทรา บูรณฤกษ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริษัท นายกนิช บุณยัษฐิติ กรรมการบริษัท  ดร.ณฐพร พันธุ์อุดม กรรมการบริษัท นายภูมิชาย ล่ำซำ ที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ ดร.สุธี โมกขะเวส กรรมการผู้จัดการ  พร้อมด้วยนายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย นางสาววสุมดี วสีนนท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย นางสาวพิมพ์จุฑา สกุนสิทธิ์ธาดา ผู้อำนวยการเขตวัฒนา คณะผู้บริหารเขตวัฒนา  รวมทั้งคณะผู้บริหาร และพนักงาน  บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัทคู่ค้า ลูกค้า และผู้มีจิตศรัทธา ร่วมน้อมถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน  ประจำปี 2568  แด่พระสงฆ์จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส ณ วัดธาตุทอง กรุงเทพมหานคร   ในโอกาสนี้  เมืองไทยประกันชีวิต  ได้มอบเงินบริจาค “ผ้าป่าการศึกษา” ให้แก่ โรงเรียนในพระอุปถัมภ์ของวัดธาตุทอง โดยมี  นางธนาลัย ลิมปรัตนคีรี  ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลวัดธาตุทอง  นายพงศ์พิษณุ สุพรรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนดาราคาม  นายธีระยุทธ สมบูรณ์สุข ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดธาตุทอง  (เรือนเขียวสะอาด)  นายเจษฎา ศรีนวล ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง  ว่าที่พันตรี ดร.ณัฏฐกิตติ์ ชัยเฉลิมมงคล กรรมการบริหารและไวยาวัจกรวัดธาตุทอง ผู้แทนโรงเรียน พระปริยัติธรรมวัดธาตุทอง ร่วมในพิธี  ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายของบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคมในทุกด้าน ให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน.    

05 Nov 2025

Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner