Responsive image

Wednesday, 15 Oct 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


TQM - BKI จับสัญญาณมนุษย์เงินเดือนยุค Now Normal คัดสรรประกันภัยเน้นโปรดักส์สุขภาพตอบโจทย์ทุกกำลังซื้อ

Sat 29/05/2564


บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ หรือ TQM ร่วมกับบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI ยกขบวนโปรดักส์ประกันภัยที่เข้าถึง Insight คนทำงานกับแคมเปญ ‘ประกันมนุษย์เงินเดือนแบบ Now Normal’ เจาะกลุ่มโปรดักส์จับเทรนด์รักสุขภาพ ด้วยประกันโควิด – แพ้วัคซีน – สุขภาพ - ชดเชยรายได้ หวังเป็นหลักประกันทางเลือกให้ชีวิตมนุษย์เงินเดือนดีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ไวรัสที่ยังระบาดหนัก ผนึกช่องทางบริการที่เน้นซื้อง่ายด้วยระบบออนไลน์ทั้งงานขายและบริการหลังการขาย สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน พร้อมสนับสนุนให้คนไทยรับวัคซีนโควิดอย่างมั่นใจด้วยการมอบประกันแพ้วัคซีนฟรี 100,000 กรมธรรม์ คาดตั้งเป้ายอดขายแคมเปญมนุษย์เงินเดือนแบบ Now Normal’ ทั้งปี 100 ล้านบาท 

ดร.อัญชลิน  พรรณนิภา ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด กล่าวว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ในระลอก 3 นี้นับเป็นการตอกย้ำกระแสการรักสุขภาพของคนไทยที่มีอยู่เดิมให้เกิดความตระหนักมากยิ่งขึ้น ในทุกสาขาอาชีพมีความกังวลใจ หลายคนเริ่มปรับแนวคิดและไลฟ์ไตล์การใช้ชีวิตในแต่ละวันจากแบบเดิมสู่วิถีใหม่อย่างรวดเร็ว รวมถึงการให้ความสำคัญในการวางแผนทางการเงินเพื่อรับมือกับวิกฤตด้านสุขภาพของตนเองและคนใกล้ชิดหากเกิดเหตุกระทันหัน นำมาสู่การที่ กรุงเทพประกันภัย และ TQM ได้ร่วมกันออกแบบแคมเปญ ‘ประกันมนุษย์เงินเดือนแบบ Now Normal’  โดยมุ่งเน้นไปที่โปรดักส์ประกันภัยในหมวดประกันสุขภาพซึ่งเหมาะกับผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มคนวัยทำงาน ทั้งมนุษย์เงินเดือน และมนุษย์ฟรีแลนซ์

ดร.อภิสิทธิ์  อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับแคมเปญนี้เป็นการคัดสรรความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ครบและครอบคลุมด้านสุขภาพของคนทำงานที่อาจมีความเสี่ยงที่จะเผชิญและได้รับผลกระทบในยุคโควิด ซึ่งประกอบด้วย

ประกันโควิดมนุษย์เงินเดือน โปรดักส์ประกันภัยที่เป็นกระแสของคนไทยตั้งแต่เริ่มวิกฤตโควิดจนถึงปัจจุบัน สำหรับในแคมเปญนี้ได้พัฒนาโปรดักส์ประกันภัยโควิดที่ให้ความคุ้มครองครบทุกความต้องการ กรณีตรวจเจอเชื้อโควิดรับเงินก้อน และมีค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองอาการโคม่า ค่าตรวจหาเชื้อโควิดสำหรับคนในครอบครัว ค่าทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคในที่พัก นอกจากนั้น ยังเพิ่มความคุ้มครองกรณีแพ้วัคซีนโควิด ทั้งในส่วนของค่ารักษาพยาบาล และเงินปลอบขวัญ เบี้ยประกันภัย 1,250 บาท คุ้มครองสูงสุด 1,796,000 บาท

ประกันแพ้วัคซีน เพื่อสนับสนุนให้มนุษย์เงินเดือนเข้าถึงวัคซีนป้องกันการติดเชื้อโควิดได้อย่างมั่นใจ จึงมีโปรดักส์ประกันภัยแพ้วัคซีน ที่คุ้มครองกรณีเกิดอาการแพ้วัคซีน โดยมีค่ารักษาพยาบาล เงินปลอบขวัญ และคุ้มครองอาการโคม่า เบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 99 บาท

ประกันภัยสุขภาพเบา เบา ประกันภัยสุขภาพแบบเหมาจ่ายราคาประหยัด เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเมื่อต้องเข้าพักรักษาตัวโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยใน และที่สำคัญเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 2,000 กว่าบาท/ปี

ประกันภัยชดเชยรายได้ระหว่างพักรักษาตัวในโรงพยาบาล การขาดงานสำหรับบางคนอาจหมายถึงการสูญเสียรายได้ในแต่ละวัน แผนประกันภัยนี้จึงเน้นความคุ้มครองเรื่องการชดเชยรายได้ ทั้งกรณีที่ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล และกรณีจากการเจ็บป่วยด้วยโรคและอุบัติเหตุ โดยคุ้มครองสูงสุดวันละ 2,000 บาท สูงสุด 365 วัน และคุ้มครองในห้องผู้ป่วยหนักอีก 6,000 บาท/วัน สูงสุด 30 วัน

ประกันภัยสุขภาพ Health on top เหมาะสำหรับคนทำงานประจำหรือผู้ที่มีประกันหลักอยู่แล้ว เช่น ประกันสุขภาพกลุ่ม ประกันสังคม แต่ต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติมนอกเหนือจากประกันหลัก ด้วยเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 3,000 กว่าบาท/ปี

ด้านดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด กล่าวว่า ไวรัสโควิด-19 ยังคงอยู่ใกล้ตัวเราและสร้างความกังวลใจให้แก่คนทำงานทุกสาขาอาชีพ โปรดักส์ประกันที่ถูกเลือกมาในแคมเปญ ‘ประกันมนุษย์เงินเดือนแบบ Now Normal’ นี้ คือตัวช่วยสำคัญให้คนทำงานทั้งมนุษย์เงินเดือน มนุษย์ฟรีแลนซ์ ได้ใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการความเสี่ยงใน สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนโดยเฉพาะเรื่องสุขภาพที่มักส่งผลกระทบไปยังรายได้หรือเงินเก็บเมื่อเกิดล้มป่วย  โดยในปีนี้ได้ตั้งเป้ายอดขายโครงการมนุษย์เงินดือนไว้ 1,500 ล้านบาท มาจากการขยายงานในกลุ่มของประกันอุบัติและสุขภาพ ซึ่งอยู่ในแคมเปญนี้ประมาณ 100 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจุบันคนไทยเริ่มเกิดกระแสเข้ารับการฉีดวัคซีนมากขึ้น แต่หลายคนก็ยังคงกังวลและลังเลใจไม่น้อยกับความเสี่ยงต่ออาการแพ้วัคซีน TQM จึงได้ร่วมกันจัดทำโครงการมอบประกันภัยแพ้วัคซีนโควิด ที่ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 100,000 บาท โดยจะให้คนไทยทั่วประเทศฟรี จำนวน 100,000 สิทธิ์ สามารถเข้าไปลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ www.tqm.co.th

ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มคนวัยทำงานได้เข้ารับวัคซีนป้องกันโควิดอย่างมั่นใจยิ่งขึ้น TQM จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับมนุษย์เงินเดือนหรือฟรีแลนซ์ที่สนใจซื้อประกันแพ้วัคซีนเพิ่มเติมในแคมเปญประกันมนุษย์เงินเดือนแบบ Now Normal ทุกแผนมอบส่วนลดเพิ่มอีก 20% ตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2564 สามารถเลือกซื้อได้แล้ววันนี้ที่ TQM ช่องทาง www.tqm.co.th Line Official และ Facebook ‘TQM Insurance Broker’ หรือโทรสายด่วน 1737 ตลอด 24 ชั่วโมง ดร.นภัสนันท์กล่าวทิ้งท้าย    

 


Tags : TQM BKI ดร.อัญชลินพรรณนิภา ดร.นภัสนันท์พรรณนิภา ดร.อภิสิทธิ์อนันตนาถรัตน


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

นายธีรลักษ์ แสงสนิท รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า คณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ได้มีมติเห็นชอบให้ประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสิน โดยผู้ที่สนใจสามารถยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการสมัครได้ตั้งแต่วันอังคารที่ 14 ตุลาคม - วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2568 สำหรับคุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร กำหนดให้ต้องมีสัญชาติไทย อายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ในวันยื่นใบสมัคร สามารถทำงานให้ธนาคารได้เต็มเวลา และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามประกาศคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สำหรับคุณสมบัติเฉพาะต้องมีความรู้ ความสามารถ ด้านเศรษฐกิจ การเงิน การตลาด และการธนาคารเป็นอย่างดี มีวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการองค์กร มีภาวะความเป็นผู้นำสูง มีความรอบรู้และประสบการณ์ในการบริหารจัดการองค์กร กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กร และมีระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งนั้นรวมกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันยื่นใบสมัคร หรือกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากหน่วยงานภาคเอกชน ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรที่มีรายได้ขององค์กรไม่น้อยกว่า 15,000 ล้านบาทต่อปี หรือเคยบริหารกิจการที่มีสินทรัพย์ขององค์กรไม่น้อยกว่า 200,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ต้องมีระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่า รองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรนั้นต่อเนื่องกันเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันยื่นใบสมัคร สามารถดาวน์โหลดใบสมัครและศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.gsb.or.th โดยยื่นใบสมัครด้วยตนเอง หรือมอบให้ตัวแทนเป็นผู้ยื่น โดยมีหนังสือมอบอำนาจ พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการสมัครได้ที่ ส่วนสรรหาและแต่งตั้งโยกย้าย ฝ่ายบริหารงานทรัพยากรบุคคล อาคาร 32 ชั้น ชั้น 15 ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันอังคารที่ 14 ตุลาคม - วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2568 ระหว่างเวลา 09.00 – 16.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2299-8000 ต่อ 810371 - 74          

11 Oct 2025

...

ธนาคารออมสิน เตรียมจัดงานใหญ่ GSB SAVINGS FORUM 2025 เนื่องในวันออมแห่งชาติ 31 ตุลาคม 2568 ภายใต้แนวคิด “AI & AOM ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” เพื่อเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์ด้านการออมในโลกดิจิทัล สะท้อนการผสานพลัง “AI” (Artificial Intelligence) เข้ากับ “AOM” (การออม) ในการสร้างวินัยทางการเงินและสังคมแห่งการออมที่ยั่งยืน หนึ่งในไฮไลท์สำคัญคือ กิจกรรมประกวดออกแบบ “กระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล” เชิญชวนคนรุ่นใหม่ร่วมสร้างสรรค์งานออกแบบผ่าน AI Generative Tools ถ่ายทอดแนวคิดการออมในมิติใหม่ พร้อมชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 110,000 บาท ตอกย้ำภารกิจสำคัญของธนาคารในการส่งเสริมการออมและสร้างวินัยทางการเงินอย่างต่อเนื่อง กิจกรรมประกวดออกแบบ “กระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล” เปิดรับผลงานจากผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป โดยผู้ที่สนใจสามารถส่งผลงานออกแบบชิ้นงานใดก็ได้ ที่สร้างสรรค์ด้วย AI Generative Tools คนละ 1 ชิ้น ขนาดไฟล์ไม่เกิน 5MB ในรูปแบบ JPEG หรือ PNG ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 15 ตุลาคม 2568 โดยธนาคารจะคัดเลือกและประกาศรายชื่อผู้ที่จะได้เข้าร่วมแข่งขันในวันที่ 21 ตุลาคม 2568 จากนั้นจะจัดการแข่งขันเพื่อเฟ้นหาผู้ชนะเลิศ ในงาน GSB SAVINGS FORUM วันที่ 31 ตุลาคม 2568 (วันออมแห่งชาติ) ณ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ ซึ่งผู้ร่วมแข่งขันจะต้องออกแบบ “กระปุกออมสิน” ภายใต้โจทย์และเวลาที่กำหนดโดยใช้ AI Generative Tools โดยการตัดสินได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจากธนาคารออมสิน และผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าจากวงการ AI และโฆษณา อาทิ คุณเมธากวี สีตบุตร ผู้เชี่ยวชาญด้าน Generative AI และ Trainer ของ MidJourney และ คุณวีรยุทธ์ คุณวิทยไพศาล Executive Producer บริษัท Montage Studio และกรรมการตัดสิน Adman Awards 2023 ทั้งนี้ ผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล จำนวน 50,000 บาท รางวัลที่ 2 จำนวน 30,000 บาท รางวัลที่ 3 จำนวน 20,000 บาท และรางวัล Popular Vote จำนวน 10,000 บาท รวมมูลค่ารางวัลทั้งสิ้น 110,000 บาท ผู้สนใจสามารถสมัครและดูรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านลิงก์หรือสแกนคิวอาร์โค้ด (QR Code) ที่กำหนด   สมัครพร้อมติดตามรายละเอียดและกติกาการแข่งขันเพิ่มเติมได้ที่ Link https://forms.gle/1wHqR8V8e337M8wg8  หรือ QR Code  

06 Oct 2025

...

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้รับใบประกาศเกียรติคุณชั้นที่ 2 จากสภากาชาดไทย ในฐานะองค์กรที่ให้การสนับสนุนและความร่วมมือในการจัดหาผู้บริจาคโลหิตเป็นหมู่คณะอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการบริจาคโลหิตมาตั้งแต่ปี 2531 และจัดกิจกรรมทุก 3 เดือน เพื่อสนับสนุนการสำรองโลหิตให้เพียงพอสำหรับการรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ ถือเป็นการต่อชีวิตและยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของคนในสังคม ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนนโยบายพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ตลอดระยะเวลากว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา บริษัทฯ มุ่งมั่นสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน ด้วยการเชิญชวนผู้บริหาร พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า ตลอดจนประชาชนทั่วไป เข้าร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิต รวมถึงการบริจาคอวัยวะและดวงตา เพื่อสนับสนุนภารกิจของสภากาชาดไทย อันเป็นการสืบสานเจตนารมณ์แห่งการให้และการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง

06 Oct 2025

...

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดโครงการ “Responsible Voices สำหรับ Finfluencer รุ่นที่ 2” ณ สำนักงาน ก.ล.ต. โดยมีศาสตราจารย์ ดร.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. เป็นประธานในพิธี และได้รับเกียรติจากผู้แทนหน่วยงานกำกับทั้ง 3 หน่วยงานเข้าร่วม ซึ่งเป็นการจัดต่อเนื่องจากความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของรุ่นที่ 1 ที่สิ้นสุดไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยได้คัดเลือก Financial Influencer (Finfluencer) จำนวน 40 คน จากหลากหลายแพลตฟอร์ม เข้าร่วมอบรมในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการให้ข้อมูลด้านการเงิน การลงทุน และการประกันภัย   นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. เปิดเผยว่า โครงการนี้มีเป้าหมายสำคัญในการสร้าง “Finfluencer เชิงบวก”  ที่สามารถนำเสนอข้อมูลด้านประกันภัย การเงิน และการลงทุนได้อย่างถูกต้อง เข้าใจง่าย และตระหนักถึงผลกระทบต่อสังคม  โดยสำนักงาน คปภ. ได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการบ่มเพาะผู้สร้างสรรค์ Content ที่มีความรู้ด้านการประกันภัย เพื่อถ่ายทอดต่อไปยังประชาชนในวงกว้าง ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ผู้แทนสายกลยุทธ์องค์กร เข้าร่วมในพิธีเปิดและกิจกรรมการบรรยาย โดยสำนักงาน คปภ. ยังได้ร่วมจัด Workshop เชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “การสื่อสารด้านการประกันภัยอย่างมีความรับผิดชอบ” เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการผลิตคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน   โครงการ Responsible Voices สำหรับ Finfluencer รุ่นที่ 2 จัดขึ้นภายใต้การร่วมมือของทั้ง 3 หน่วยงานกำกับดูแล โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้ Financial Influencer (Finfluencer) จากภาคการเงิน การลงทุน และประกันภัย มีความรู้ความเข้าใจ และสามารถเผยแพร่ข้อมูลให้แก่ผู้ติดตามได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ยกระดับสู่การเป็น Finfluencer ที่นำเสนอข้อมูลอย่างมีความรับผิดชอบ และคำนึงถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อผู้ติดตามและสังคม รวมทั้งขยายผลสู่การสร้างความตระหนักต่อผู้ประกอบธุรกิจที่มีการสื่อสารผ่าน Finfluencer ซึ่งจากความสำเร็จในรุ่นที่ 1 กลุ่ม Finfluencer ได้ระดมความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ และร่วมกันจัดทำเนื้อหาด้านการเงิน การลงทุน และประกันภัยในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย   โดยผู้ที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการฯ ในรุ่นที่ 1 มีผู้ติดตาม (followers) จำนวนรวมมากกว่า 14 ล้านคน ซึ่งสะท้อนถึงพลังของการสื่อสารและสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ Finfluencer ให้ตระหนักถึงบทบาทของตนเองในการให้ข้อมูลอย่างมีความรับผิดชอบ และมีการช่วยเหลือกันภายในเครือข่าย เพื่อส่งเสริมให้เกิดสังคมการให้ข้อมูลที่มีความรับผิดชอบ พร้อมทั้งร่วมเป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่กระจายข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์จากหน่วยงานกำกับดูแลทั้ง 3 แห่ง ไปสู่ประชาชนในวงกว้าง จึงเป็นที่มาของการดำเนินการต่อเนื่องในรุ่นที่ 2 โดยยังคงยึดเป้าหมายในการส่งเสริมการสื่อสารด้วยเสียงที่สร้างสรรค์และมีความรับผิดชอบ เพื่อเสริมสร้างกลไกการคุ้มครองผู้ลงทุนและประชาชนให้เกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืน   ทั้งนี้ โครงการ Responsible Voices สำหรับ Finfluencer รุ่นที่ 2 จะจัดขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคม และวันที่ 8 ตุลาคม 2568 ณ สำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งเนื้อหาการอบรมแต่ละครั้งจะเป็นการบรรยาย การระดมความคิด และการทำ Workshop โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากทั้ง 3 หน่วยงานกำกับดูแล ครอบคลุมหัวข้อความรู้เกี่ยวกับการสื่อสารด้านการเงิน การลงทุน และการประกันภัยที่เหมาะสม การอัปเดตสถานการณ์ทางการเงิน การลงทุน และประกันภัย เพื่อนำความรู้ความเข้าใจที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ในการจัดทำและนำเสนอ Content ที่ถูกต้อง รวมทั้งสร้างหลักคิดที่ชวนให้ตระหนักรู้เกี่ยวกับการให้ข้อมูลที่บิดเบือนอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย  ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการตามเกณฑ์ที่กำหนดจะได้รับประกาศนียบัตรเพื่อรับรองการเข้าร่วมโครงการ  

06 Oct 2025

Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner