Responsive image

Thursday, 25 Dec 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


คปภ. เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นเครือข่ายผู้บริโภคประสานเสียง “ค้าน”ยกเลิกคำสั่งที่ 38/2564 หวั่นผู้บริโภคถูกลอยแพ

Fri 21/01/2565


ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้ออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 เพื่อไม่ให้บริษัทประกันภัยบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยแบบเหมาเข่ง และหลังจากที่มีการออกคำสั่งดังกล่าวไปนั้น ปรากฏว่า บริษัทประกันภัยต่างๆ รวมทั้งสมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้ออกมาขานรับและพร้อมยืนยันจะให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันภัยจนสิ้นสุดสัญญาประกันภัย ต่อมาเมื่อช่วงปลายปี 2564 มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งคาดว่าจะมีผลกระทบต่อการจ่ายค่าสินไหมทดแทนของบริษัทประกันภัย ปรากฏว่าสมาคมประกันวินาศภัยไทยได้ทำหนังสืออุทธรณ์การออกคำสั่งที่ 38/2564 ต่อคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (บอร์ด คปภ.) เพื่อเปิดช่องให้บริษัทประกันภัยสามารถบอกเลิกประกันภัยโควิดแบบเจอ จ่าย จบ ได้ ซึ่งสำนักงาน คปภ. อยู่ระหว่างการพิจารณาอุทธรณ์ภายในกรอบระยเวลาเพื่อเสนอความเห็นบอร์ด คปภ. พิจารณาต่อไป และเพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วนสำนักงาน คปภ. จึงได้เชิญตัวแทนเครือข่ายผู้บริโภค ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง ประกอบด้วย นายกสมาคมส่งเสริมและคุ้มครองผู้บริโภค ประธานสมาพันธ์ชมรมคุ้มครองผู้บริโภคกรุงเทพมหานคร ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ผู้แทนสภาองค์กรของผู้บริโภค และประธานมูลนิธิกลุ่มเส้นด้าย มาประชุมร่วมกันเพื่อระดมความเห็นและให้ข้อแนะนำว่าทิศทางการดำเนินการในเรื่องนี้ควรเป็นอย่างไร

นายอุฬาร จิ๋วเจริญ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค มีความเห็นว่า การออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 เป็นการออกคำสั่งที่ถูกต้องและมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งเป็นผู้เอาประกันภัย โดยเห็นว่านายทะเบียนมีอำนาจออกคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าวโดยชอบด้วยกฎหมาย ในส่วนของบริษัทประกันภัยที่ใช้สิทธิในการบอกเลิกสัญญา แม้ว่าในสัญญาประกันภัยจะมีข้อสัญญาให้สามารถบอกเลิกสัญญาได้ก็ตาม แต่เห็นว่ากรณีดังกล่าวต้องเป็นการใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาโดยสุจริตตามมาตรา 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยในขณะเข้าทำสัญญาประกันภัย บริษัทประกันภัยจะต้องคาดหมายได้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดจะมีความรุนแรงแค่ไหน และจะมีผลกระทบทางด้านสาธารณสุขที่บริษัทประกันภัยจะสามารถรับมือได้หรือไม่ บริษัทประกันภัยจะต้องมีการวางแผนรับความเสี่ยงอยู่แล้วก่อนออกผลิตภัณฑ์ โดยไม่สามารถอ้างได้ว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิดมีผลต่อการบริหารความเสี่ยง ภายหลังที่มีการออกผลิตภัณฑ์แล้ว การที่บริษัทประกันภัยเข้าทำสัญญาประกันภัย จึงเป็นการตกลงรับความเสี่ยงจากผลของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ที่สามารถคาดหมายและรับมือไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ซึ่งกรณีนี้ หากนายทะเบียนยินยอมให้บริษัทประกันภัยเลิกสัญญาได้ฝ่ายเดียว ซึ่งขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 5 ก็เท่ากับเป็นการยินยอมให้บริษัทประกันภัยหลอกลวงผู้เอาประกันภัย ซึ่งเป็นผู้บริโภคในการเข้าทำสัญญาเพื่อประโยชน์ฝ่ายเดียวของบริษัท ซึ่งเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตในการบอกเลิกกรมธรรม์ หากมีการยกเลิกคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าว สภาองค์กรของผู้บริโภค และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ก็สามารถเข้าไปช่วยเหลือผู้บริโภคโดยการฟ้องคดีแทนผู้บริโภค เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายเชิงลงโทษให้แก่ผู้บริโภคได้ ตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551

นายคริส โปตระนันทน์ ประธานมูลนิธิกลุ่มเส้นด้าย มีความเห็นว่า กลุ่มเส้นด้ายได้มีการโพสต์ประเด็นการยกเลิกคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 ในเพจเฟซบุ๊กของกลุ่มเส้นด้าย ซึ่งมีผู้ติดตามประมาณ 500,000 ราย และได้รับทราบความคิดเห็นจากประชาชน โดยพบว่าประมาณ 99.50 เปอร์เซ็นต์ ของประชาชนที่แสดงความเห็น ไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้สำนักงาน คปภ. ยกเลิกคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าว และมีหลายความเห็นตอบกลับมาว่า ตอนนี้มีความยากลำบากมากอยู่แล้ว การที่ประกันภัยเข้ามาช่วยเหลือก็สามารถเยียวยาความเสียหายในกรณีที่มีบุคคลในครอบครัวติดเชื้อโควิด ซึ่งถือเป็น Financial Loss เนื่องจากผู้ที่ติดเชื้อจะไม่สามารถทำงานได้ ดังนั้นจึงเห็นว่า สำนักงาน คปภ. ควรยืนตามคำสั่งนายทะเบียนเดิม

ในส่วนของข้อกฎหมายเห็นว่า แม้จะมีการระบุไว้ในข้อสัญญา แต่การบอกเลิกสัญญาในลักษณะดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต หากปล่อยให้บริษัทประกันภัยยกเลิกกรมธรรม์ได้ ก็จะส่งผลให้มีคดีเข้าสู่ศาลเป็นจำนวนมาก โดยก่อนที่บริษัทประกันภัยจะออกผลิตภัณฑ์นี้ บริษัทประกันภัยน่าจะเห็นตัวอย่างการแพร่ระบาดของโรคโควิดจากต่างประเทศมาบ้างแล้ว กรณีนี้ประชาชนจะมองว่า บริษัทประกันภัยแสวงหาแต่ผลกำไร แต่พอบริษัทประกันภัยจะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนจำนวนมากก็จะยกเลิกกรมธรรม์ ซึ่งไม่เป็นธรรมกับประชาชน

อย่างไรก็ดี มีความเห็นของประชาชนส่วนหนึ่งเห็นว่า หากจะมีการเลิกกรมธรรม์และคืนเบี้ยประกันภัย การคืนเบี้ยประกันภัยไม่ควรเป็นการคืนแบบเป็นสัดส่วน (Pro Rata) แต่ควรคืนเบี้ยประกันภัยให้ผู้เอาประกันภัยเต็มจำนวนเสมือนว่าไม่เคยเกิดสัญญาขึ้นเลย เป็นกรณีการเข้าทำสัญญาโดยสำคัญผิดในสาระสำคัญ ซึ่งอาจจะบวกดอกเบี้ยด้วย ในส่วนของข้อกฎหมายเห็นว่า สัญญาประกันภัยเป็นสัญญาสำเร็จรูปที่อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. 2540

นายวิทยา แจ่มกระจ่าง ประธานสมาพันธ์ชมรมคุ้มครองผู้บริโภคกรุงเทพมหานคร มีความเห็นว่กา กรณีดังกล่าวบริษัทประกันภัยอ้างว่าจะฟ้องร้องสำนักงาน คปภ. หากไม่ยอมยกเลิกคำสั่งนายทะเบียน ในมุมกลับกันหากสำนักงาน คปภ. ยกเลิกคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าว ประชาชนก็จะฟ้องร้องสำนักงาน คปภ. เช่นกัน ดังนั้นหากบริษัทประกันภัยเห็นว่า บริษัทสามารถบอกเลิกสัญญาประกันภัยได้ ประชาชนก็อาจจะบอกเลิกสัญญาประกันภัยอื่นๆ ที่ทำกับบริษัทได้เช่นกัน เช่น กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ หรือกรมธรรม์ประกันภัยทรัพย์สิน เป็นต้น ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะเป็นผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง และอาจมีการรณรงค์ไม่ให้ประชาชนทำประกันภัยกับบริษัทประกันภัยดังกล่าว เนื่องจากมีปัญหาในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ดังนั้นจึงไม่เห็นด้วยที่สำนักงาน คปภ. จะยกเลิกคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าว หากสำนักงาน คปภ. ถูกฟ้อง ประชาชนรวมทั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค และสมาพันธ์ชมรมคุ้มครองผู้บริโภคทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดจะยืนเคียงข้างสำนักงาน คปภ. การประกันภัยเป็นการทำสัญญารายปี เมื่อครบกำหนดสัญญาแล้ว บริษัทประกันภัยก็อาจจะไม่ขายกรมธรรม์ประเภทดังกล่าวต่อได้ ซึ่งดีกว่าการยกเลิกกรมธรรม์ ที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน

นายภัทรกร ทีปบุญรัตน์ ผู้แทนจากสภาองค์กรของผู้บริโภค มีความเห็นว่า สนับสนุนให้สำนักงาน คปภ. ไม่ยกเลิกคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าว เพราะหากสำนักงาน คปภ. ยกเลิกคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าว สำนักงาน คปภ. อาจถูกบริษัทประกันภัย 2 บริษัท ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตไปก่อนหน้านี้ฟ้องร้อง เนื่องจากไม่ได้ดำเนินการให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ในส่วนของทางเลือกในการคืนเงินค่าเบี้ยประกันภัย เห็นว่า ควรเสนอทางเลือกให้ผู้บริโภคสามารถขอคืนเบี้ยประกันภัยได้ 5-10 เท่าของจำนวนเบี้ยประกันภัย เพื่อเป็นการจูงใจให้ผู้บริโภคยอมรับเงินค่าเบี้ยประกันภัยจำนวนดังกล่าว และดูแลตนเองไม่ให้ติดเชื้อ COVID-19 ซึ่งเป็นทางเลือกในการแก้ไขปัญหาให้แก่ภาคอุตสาหกรรมได้ และหากผู้บริโภคยอมรับเงื่อนไขข้อนี้ได้ก็จะเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

นางสาวกรกนก ใจแกล้ว ผู้แทนสภาองค์กรของผู้บริโภค มีความเห็นว่า เห็นด้วยกับสำนักงาน คปภ. ที่ไม่ยกเลิกคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าว เพราะการยกเลิกสัญญาประกันภัยเป็นการดำเนินการที่ผิดต่อกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 5 ในเรื่องความสุจริตในการทำสัญญาและขัดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. 2540 โดยขอเสนอแนวทางเพิ่มเติมที่จะทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ว่า กรณีนี้สำนักงาน คปภ. อาจจะมีมาตรการผ่อนปรนระยะเวลาที่บริษัทจะสามารถชดใช้ค่าสินไหมทดแทนที่อาจจะเข้าข่ายเป็นความผิดฐานประวิงการจ่ายค่าสินไหมทดแทน โดยขยายระยะเวลาการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้มากกว่าเดิม โดยให้บริษัทประกันภัยจัดทำรายงานเกี่ยวกับจำนวนผู้เอาประกันภัยที่ทำประกันภัยโควิด-19 ทั้งหมด โดยแบ่งประเภทให้ชัดเจน และมีการแยกจำนวนผู้เอาประกันภัยที่บริษัทประกันภัยยังค้างจ่ายค่าสินไหมทดแทน หรืออยู่ในระหว่างที่กรมธรรม์ประกันภัยยังคงมีความคุ้มครองอยู่เป็นจำนวนเท่าใด ซึ่งจะทำให้บริษัทประกันภัยทราบภาระการจ่ายค่าสินไหมทดแทนทั้งหมด และสามารถวางแผนการจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้ว่า การจ่ายค่าสินไหมทดแทนในอนาคตจะจ่ายเป็นจำนวนเท่าใด และจ่ายในรูปแบบใด โดยการจ่ายค่าสินไหมทดแทนอาจจะมีลำดับคิวการจ่าย โดยมีการแจ้งระยะเวลาในการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เอาประกันภัยทราบอย่างชัดเจน เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทประกันภัยมักจะขอผ่อนผันระยะเวลาการจ่ายค่าสินไหมทดแทน แล้วก็ไม่สามารถจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด

นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ ผู้แทนสภาองค์กรของผู้บริโภค มีความเห็นว่า ขณะนี้กรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 เหลือระยะเวลาความคุ้มครองอยู่อีกไม่มาก และจำนวนการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนก็จะมีไม่มาก เนื่องจากปัจจุบันมีระบบการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ค่อนข้างมาก ดังนั้นจึงไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้บริษัทประกันภัยสามารถยกเลิกสัญญาประกันภัยได้ เพราะเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรมต่อประชาชน และเป็นการสร้างภาระให้แก่ผู้บริโภค โดยบริษัทประกันภัยจะต้องมีการประมาณการค่าสินไหมทดแทนที่บริษัทจะต้องจ่ายให้แก่ผู้เอาประกันภัยไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว เมื่อมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น บริษัทก็ยังคงขายกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 ต่อไป เห็นว่าบริษัทประกันภัยจะต้องรับผิดชอบตามข้อตกลงของสัญญา โดยเห็นว่าระยะเวลาความคุ้มครองยังคงเหลืออยู่ไม่มาก และขณะนี้ประชาชนก็ดำเนินการฟ้องร้องบริษัทประกันภัยอยู่แล้ว หากสำนักงาน คปภ. ยกเลิกคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าว บริษัทประกันภัยก็จะใช้ข้ออ้างที่สำนักงาน คปภ. ยกเลิกคำสั่งนายทะเบียนมาเป็นข้อต่อสู้ต่อประชาชน ซึ่งจะเป็นการสร้างภาระและสร้างปัญหาให้แก่ประชาชนเป็นอย่างยิ่ง

นายพานิชย์ เจริญเผ่า นายกสมาคมส่งเสริมและคุ้มครองผู้บริโภค มีความเห็นว่า ปัจจุบันระยะเวลาความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 จะสิ้นสุดความคุ้มครองทั้งหมดประมาณเดือนมิถุนายน 2565 ในส่วนประเด็นข้อกฎหมายเห็นว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน และเป็นการทำสัญญาด้วยความสมัครใจ ไม่ได้มีการบังคับ บริษัทประกันภัยก็เป็นคู่สัญญาด้วย เรื่องนี้จึงไม่ได้เป็นความผิดของผู้บริโภคแต่อย่างใด
จึงเห็นว่าสำนักงาน คปภ. เป็นผู้รักษาขั้นตอนของกฎหมาย หากสำนักงาน คปภ. กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายก็จะถูกประชาชนฟ้องร้องเช่นกัน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ดังนั้น สำนักงาน คปภ. ไม่ควรยกเลิกคำสั่งนายทะเบียน เนื่องจากการทำสัญญาประกันภัยเป็นความสมัครใจทั้งสองฝ่าย ในปีแรกบริษัทประกันภัยมีรายได้จากการขายกรมธรรม์ประกันภัยประเภทนี้จำนวนมาก จึงไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง โดยที่ประชุมทุกฝ่ายเห็นพ้องตรงกันว่า หากยกเลิกคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 และยินยอมให้บริษัทประกันภัยสามารถยกเลิกกรมธรรม์ต่อผู้เอาประกันภัยทุกรายโดยที่ผู้เอาประกันภัยมิได้กระทำผิดในข้อสาระสำคัญย่อมขัดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. 2540 จะส่งผลให้มีคดีเข้าสู่ศาลเป็นจำนวนมาก เกิดผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการประกันภัย และทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในระบบประกันภัย รวมไปถึงประชาชนก็อาจจะบอกเลิกสัญญาประกันภัยอื่นๆ ที่ทำกับบริษัทประกันภัยได้เช่นกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะเป็นผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง ที่ประชุมจึงมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ ว่าควรยืนตามคำสั่งนายทะเบียนฯ

นอกจากนี้ที่ประชุมได้มีข้อแนะนำแนวทางหรือมาตรการต่างๆ แก้ไขปัญหา 4 มาตรการดังนี้ 1. มาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ โดยอาจจะเป็นการจัดหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้แก่บริษัทประกันภัยเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับบริษัทประกันภัยให้สามารถจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยได้

2. มาตรการผ่อนคลายหลักเกณฑ์การกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการจ่ายค่าสินไหมทดแทน โดยเมื่อมีกรณีที่ผู้เอาประกันภัยใช้สิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ ให้บริษัทประกันภัยสามารถผ่อนจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันภัยแต่ละรายได้

3. มาตรการผ่อนปรนระยะเวลาเพื่อให้บริษัทประกันภัยสามารถยืดหรือขยายระยะเวลาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนและกำหนดระยะเวลาให้ชัดเจน ซึ่งเมื่อมีการขยายระยะเวลาดังกล่าวแล้ว หากบริษัทประกันภัยรายใดไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทนภายในระยะเวลาที่กำหนดจะต้องมีการคิดดอกเบี้ยหรือเงินเพิ่มกรณีผิดนัด หรือเบี้ยปรับเชิงลงโทษเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายค่าสินไหมทดแทนต่อไป

และ 4. มาตรการยื่นข้อเสนอคืนเงินค่าเบี้ยประกันภัยให้กับผู้เอาประกันภัยในจำนวนที่เหมาะสม เช่น การคืนเบี้ยประกันภัยเต็มจำนวนพร้อมดอกเบี้ยหรือคืนเบี้ยประกันภัย จำนวน 5-10 เท่า ของเบี้ยประกันภัยเดิม

ทั้งนี้ จะได้นำข้อแนะนำที่ได้ ประมวลกับข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอความเห็นของสำนักงานฯ ประกอบการพิจารณาของบอร์ด คปภ. ต่อไป


Tags : คปภ. กรมธรรม์ประกันภัย ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ กรมธรรม์ประกัยภัยโควิด-19 โควิด-19 COVID-19


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมมือกับ เอ ไลฟ์ (ALive Powered by AIA) โดยบริษัท เอไอเอ เวลเนส จำกัด ส่งความห่วงใยถึงคนไทยทั่วประเทศในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2569 มอบแคมเปญ “ฟรี!!! ประกันอุบัติเหตุ กรมธรรม์ประกันภัยอุ่นใจข้ามปี” โดยมอบกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่ (ไมโครอินชัวรันส์) ฟรีให้แก่ประชาชนทั่วไป ระยะเวลาคุ้มครองนาน 30 วัน ด้วยวงเงินคุ้มครองชีวิตสูงถึง 100,000 บาทต่อกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ พร้อมรับผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุตามจำนวนที่จ่ายจริงสูงสุด 5,000 บาท* เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีหลักประกันความคุ้มครองอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมเพิ่มความอุ่นใจสำหรับการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาเพื่อไปฉลองกับครอบครัว ซึ่งแคมเปญดังกล่าวยังเป็นการขานรับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) อีกทั้งยังสานต่อพันธกิจของเอไอเอที่ต้องการสนับสนุนให้ผู้คนกว่าพันล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives ทั้งนี้ สำหรับประชาชนทุกคนที่สนใจขอรับกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มฟรี สามารถลงทะเบียนรับสิทธิออนไลน์ได้ง่าย ๆ เพียงไปที่เว็บไซต์ https://aiathailand.info/panyPR  ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2568 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2569   หมายเหตุ: *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัท เอไอเอ เวลเนส จำกัด กำหนด

20 Dec 2025

...

รายงานข่าวจากธนาคารออมสิน ขอเชิญชวนผู้ประกอบการร้านค้า ประเภทบุคคลธรรมดา ที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” และยังไม่ได้ลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Smart Finance Upskill ขอให้เร่งสมัครผ่านเว็บไซต์ของธนาคารออมสิน www.gsb.or.th ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากขณะนี้เหลือเวลาเพียง 4 วันสุดท้าย ที่สามารถลงทะเบียนและเรียนให้จบหลักสูตร เพื่อรับสิทธิ์เงินสนับสนุนจากภาครัฐ นับจากวันที่พัฒนาทักษะสำเร็จจนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 สูงสุดไม่เกินรายละ 2,000 บาท หลักสูตร Smart Finance Upskill การพัฒนาความรู้ทางการเงินเพื่อร้านค้ารายย่อยโครงการคนละครึ่ง พลัสเป็นการเรียนออนไลน์กับธนาคารออมสิน ภายใต้โครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย ประเภทบุคคลธรรมดา มุ่งเสริมทักษะทางการเงินที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจ ครอบคลุมการทำบัญชี การคิดต้นทุน การตั้งราคาขาย และความรู้ก่อนยื่นขอกู้ ผู้ที่เรียนจบและผ่านเกณฑ์ จะได้รับประกาศนียบัตรและรับสิทธิ์เงินสนับสนุนจากภาครัฐตามเงื่อนไขที่กำหนด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Smart Finance Upskill และข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโครงการ Upskill/Reskill คนละครึ่ง พลัส ที่ GSB Contact Center โทร. 1115 กด 7

19 Dec 2025

...

ธ.ก.ส. เร่งให้ความช่วยเหลือทหาร และ ตชด. วีรบุรุษผู้เสียสละชีวิต จากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศไทย – กัมพูชา โดยให้ความช่วยเหลือกับทหาร และ ตชด. ที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. รวมถึงให้ความช่วยเหลือบิดา - มารดา หรือคู่สมรสที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ของวีรบุรุษผู้เสียสละชีวิต โดยยกหนี้ในส่วนของต้นเงินกู้ทุกสัญญา และยกหนี้ในส่วนของดอกเบี้ยทั้งจำนวน ภายใต้สัญญาที่ใช้แหล่งเงินทุน ธ.ก.ส. เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ลูกหนี้ และลดภาระให้สามารถดำรงชีพต่อไปได้อย่างมั่นคง นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชาได้กลับมาตึงเครียดในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี ตราด และสระแก้ว ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของเกษตรกรลูกค้าของธนาคาร โดยปัจจุบันมีทหารที่เป็นสมาชิกครอบครัวของลูกค้า ธ.ก.ส. เสียชีวิต และเพื่อให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ลูกค้า ธ.ก.ส. และเป็นการลดภาระเพื่อให้สามารถดำรงชีพต่อไปได้อย่างมั่นคง คณะกรรมการธนาคาร โดย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ ธ.ก.ส. ได้มีมติในการประชุมวันนี้ (9 ธันวาคม 2568) ให้ความช่วยเหลือลูกค้า กรณีทหาร หรือตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศไทย – กัมพูชา ที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. รวมถึงให้ความช่วยเหลือแก่บิดา มารดา หรือคู่สมรสที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ของวีรบุรุษผู้เสียสละชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยธนาคารจะยกหนี้ในส่วนของต้นเงินกู้ทุกสัญญา และยกหนี้ในส่วนของดอกเบี้ยค้างรับและดอกเบี้ยปรับทั้งจำนวน ภายใต้สัญญาที่ใช้แหล่งเงินทุน ธ.ก.ส. เป็นกรณีพิเศษ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้ให้ความช่วยเหลือครอบครัวทหารไปแล้ว จำนวน 7 ราย ธ.ก.ส. ขอแสดงความห่วงใยต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา คนข้างหลังไม่ต้องกังวล ธ.ก.ส. อยู่เคียงข้างและพร้อมก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ Call Center 02 555 0555 ตลอด 24 ชั่วโมง  

14 Dec 2025

...

บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) รักคือพลังของชีวิต นำโดย คุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO) จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวคอนเสิร์ตใหญ่แห่งปี OCEAN LIFE ไทยสมุทร Presents “NONTIVERSE of LOVE” โดยมี นนท์ ธนนท์ Brand Ambassador  ร่วมถ่ายทอดพลังแห่งความรัก ผ่านคอนเสิร์ตสุดอบอุ่นที่ผสาน โลกความรักของนนท์ ธนนท์ และ โลกความรักของ OCEAN LIFE ไทยสมุทร เข้าด้วยกัน เพื่อมอบเป็นของขวัญแทนคำขอบคุณสำหรับลูกค้า OCEAN LIFE ไทยสมุทร และ  NONTFAM ที่เป็นสมาชิก Ocean Club ในโอกาสครบรอบปีที่ 77 OCEAN LIFE ไทยสมุทร   รักตัวเอง คือจุดเริ่มต้นของทุกความรัก คอนเสิร์ต “NONTIVERSE of LOVE” ต่อยอดจากแนวคิด Love Mindset  รักตัวเอง คือจุดเริ่มต้นของทุกความรัก ซึ่งเป็นหัวใจในการดำเนินงานของ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ที่มุ่งส่งต่อพลังแห่งความรักให้กับทุกคน ผ่าน 3 มิติสำคัญ ได้แก่ Love Your Health รักสุขภาพ ดูแลกายใจให้แข็งแรง ทั้งตัวเองและคนที่รัก Love Your Wealth รักการเงิน วางแผนชีวิตและปิดความเสี่ยงเพื่อความมั่นคงในอนาคต Love the World รักโลกและสังคม ส่งต่อความดี สร้างความยั่งยืนร่วมกัน    NONTIVERSE of LOVE คอนเสิร์ตอบอุ่นแห่งปี 2026 ที่รวม “สองโลกแห่งความรัก” ไว้ในจักรวาลเดียวกัน NONTIVERSE of LOVE ออกแบบบรรยากาศให้ผู้ชมเสมือนหลุดเข้าสู่ “จักรวาลแห่งความรัก” ที่เต็มไปด้วยบทเพลงและเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนกลับมารักและดูแลตัวเองอีกครั้ง พร้อมแขกรับเชิญสุดพิเศษที่จะมาร่วมถ่ายทอดพลังบวกแห่งความรัก จัดขึ้นในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2569 ณ One Bangkok Forum คอนเสิร์ตที่ตั้งใจให้ทุกคนได้รู้สึกถึงความรัก ประทับใจกับช่วงเวลาพิเศษและแขกรับเชิญสุดเซอร์ไพรส์ที่อยากให้รอติดตาม และไม่พลาดไปดูว่าโลกความรักของ “นนท์ ธนนท์” และ โลกความรักของ OCEAN LIFE ไทยสมุทร จะหลอมรวมกันได้ลงตัวอย่างไร เลือกแบบประกันที่ใช่ ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของตัวเอง OCEAN LIFE ไทยสมุทร เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความต้องการของคน Gen Y และพร้อมเป็นตัวช่วยปิดความเสี่ยงที่คน Gen Y อาจมองข้ามไป ในครั้งนี้ เรามอบประกันที่ตอบโจทย์ Gen Y ทั้งออมเงิน คุ้มครองชีวิต คุ้มครองอุบัติเหตุ คุ้มครองสุขภาพ โรคร้ายแรง รวมไปถึงประกันลดหย่อนภาษี ที่ให้เลือกสรรได้อย่างครอบคลุมในทุกมิติ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ocean.co.th/nontiverseoflove 1. โอเชี่ยนไลฟ์ เฟิร์ส เลิฟ 18/10 ประกันสะสมทรัพย์ออนไลน์ไซซ์เล็ก ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่เริ่มทำประกันชีวิตฉบับแรก วางแผนการเงินได้เร็วกว่า เริ่มต้นง่ายเพียงแค่ปีละ 6,000 บาท ชำระเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิตได้ คุ้มครองยาว 18 ปี ชำระเบี้ยประกันภัยเพียง 10 ปี ซื้อง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ รับประกันภัยอายุตั้งแต่ 30 วัน – 45 ปี ชำระเบี้ยประกันภัยรายปี โอเชี่ยนไลฟ์ เฟิร์ส เลิฟ 18/10 ตั้งแต่ 6,000 บาทขึ้นไป จะได้รับบัตรคอนเสิร์ต จำนวน 2 ใบต่อกรมธรรม์ และผู้ที่ชำระเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป จะได้รับบัตรคอนเสิร์ตโซน VIP จำนวน 2 ใบต่อกรมธรรม์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ocean.co.th/our-products/savings/first-love1810 2. ประกันอุบัติเหตุ PA ดีชัวร์ แบบประกันอุบัติเหตุ สำหรับอาชีพอิสระ สบายใจคุ้มครองทั้งค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ รวมถึงมีเงินชดเชยรายได้เมื่อนอนโรงพยาบาล รับประกันภัยบุคคลอายุตั้งแต่ 5 – 60 ปี ชำระเบี้ยประกันภัยรายปี เป็นเวลา 5 ปี ประกันอุบัติเหตุ PA ดีชัวร์ ผู้ที่ชำระเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป จะได้รับบัตรคอนเสิร์ต จำนวน 1 ใบต่อกรมธรรม์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ocean.co.th/our-products/personal-accident/oceanlife-pa-d-sure 3. โครงการ โอชิ สมอล เฮลท์ ประกันสุขภาพไซซ์เล็ก ที่คุ้มครองครบในหนึ่งเดียว ครอบคลุมทุกความต้องการ ทั้งความคุ้มครองชีวิตและความคุ้มครองด้านสุขภาพ จะป่วยเล็กป่วยใหญ่ก็สบายใจหมดห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาล ค่าเบี้ยประกันภัยราคาสบายกระเป๋า รับประกันภัยบุคคลที่มีอายุ 16 - 70 ปี โครงการ โอชิ สมอล เฮลท์ ผู้ที่ชำระเบี้ยประกันภัยรายปีตั้งแต่ 6,000 บาทขึ้นไป จะได้รับบัตรคอนเสิร์ตจำนวน 2 ใบต่อกรมธรรม์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ocean.co.th/our-products/health-insurance/ochi-small-health-package 4. ซีไอ ท็อปทรี เอ็กซ์ตร้า แบบประกันคุ้มครองโรคร้ายแรง ที่คุ้มครองโรคร้ายแรงที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของคนไทย ให้คนทำงานใช้ชีวิตสบายใจแบบ Extra รับประกันภัยบุคคลที่มีอายุ  35 - 60 ปีให้ความคุ้มครอง 7 โรคร้ายแรงที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนไทยสูงสุด 1,000,000 บาท คุ้มครองกรณีเสียชีวิต 50,000 บาท หากเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรับเพิ่มอีก 500,000 บาท หากไม่เคลมตลอด 3 ปี รับเงินคืน 10% ของเบี้ยประกันภัยที่ชำระสะสม ในวันครบกำหนดสัญญา ซีไอ ท็อปทรี เอ็กซ์ตร้า ผู้ที่ชำระเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 3,000 - 5,999 บาท  จะได้รับบัตรคอนเสิร์ต 1 ใบต่อกรมธรรม์ และผู้ที่ชำระเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 6,000 บาทขึ้นไป จะได้รับบัตรคอนเสิร์ตจำนวน 2 ใบต่อกรมธรรม์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ocean.co.th/our-products/health-insurance/ci-small-package 5. โอเชี่ยนไลฟ์ อีซี่ เซฟวิ่ง 11/4 ตัวช่วยในการเก็บออม(1) พร้อมลดหย่อนภาษี โดยมอบความคุ้มครองชีวิต สูงสุด 405% (ระหว่างปีกรมธรรม์ที่ 4 - 11) พร้อมรับเงินคืน 2% ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1 – 10  หากมีชีวิตอยู่จนครบสัญญาจะได้รับเงินครบกำหนดสัญญาอีก 422% รวมรับผลประโยชน์ตลอดอายุสัญญาสูงสุด 442% “โอเชี่ยนไลฟ์ อีซี่ เซฟวิ่ง 11/4”  รับประกันภัยบุคคลอายุตั้งแต่ 30 วัน – 65 ปี ชำระเบี้ยประกันภัยสั้นเพียง 4 ปี รับความคุ้มครองชีวิตยาว 11 ปี ชำระเบี้ยประกันภัยรายปี โอเชี่ยนไลฟ์ อีซี่ เซฟวิ่ง 11/4 ผู้ที่ชำระเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 60,000 – 99,999 บาท จะได้รับบัตรคอนเสิร์ต 1 ใบต่อกรมธรรม์ และผู้ที่ชำระเบี้ยประกันภัย 100,000 บาทขึ้นไป จะได้รับบัตรคอนเสิร์ตจำนวน 2 ใบต่อกรมธรรม์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ocean.co.th/our-products/tax-saving/oceanlife-easy-saving114 โดยสมาชิก Ocean Club ทุกท่านต้องลงทะเบียน Ocean Connect เพื่อสามารถตรวจสอบกรมธรรม์ได้ด้วยตนเอง และรับการแจ้งเตือนชำระเบี้ยประกันภัยปีต่อ ผ่าน LINE Official: @OceanLife หรือ Ocean Club App พร้อมชำระเบี้ยผ่านช่องทางดังกล่าวได้ทันที ทั้งนี้ยังได้รับสิทธิพิเศษจากพันธมิตรชั้นนำและสิทธิเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัท NONTIVERSE of LOVE คอนเสิร์ตสำหรับลูกค้าและ NONTFAM ที่เลือกรับบัตรได้ 2 ทาง  ลูกค้า OCEAN LIFE ไทยสมุทร และ NONTFAM ที่เป็นสมาชิก Ocean Club สามารถเข้าร่วมคอนเสิร์ตได้ 2 ช่องทางพิเศษ ได้แก่   1. LOVE FAST TRACK สำหรับผู้ที่รักตัวเองและพร้อมวางแผนอนาคตด้วยแบบประกันชีวิต เช่น OCEAN LIFE First Love 18/10 และแบบประกันอื่น ๆ ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ จะได้สิทธิ์รับบัตรคอนเสิร์ตแบบไม่ต้องลุ้น พร้อมรับของที่ระลึกและสิทธิพิเศษ NONTFAM BENEFITS จำนวนจำกัด 2. LOVE CHALLENGE สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการร่วมกิจกรรม เพียงเข้าร่วมชาเลนจ์ “รักตัวเอง ด้วย LOVE Mindset Challenge” ผ่าน OCEAN CLUB APP และช่องทางโซเชียลของบริษัท เพื่อสะสมเหรียญ OCHI Coin แลกลุ้นบัตรคอนเสิร์ตและของรางวัลสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก “นนท์ ธนนท์” รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมกิจกรรมเปิดให้ติดตามได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2568 ทางเว็บไซต์และทุกช่องทางโซเชียลของ OCEAN LIFE ไทยสมุทร NONTIVERSE of LOVE - NONTFAM BENEFITS OCEAN LIFE ไทยสมุทร มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า และ NONTFAM ซึ่งเป็นสมาชิก Ocean Club ที่เข้าร่วมกิจกรรม อาทิ Lanyard รักตัวเอง x NONT TANONT, บัตรแข็งและโปสเตอร์ NONTIVERSE of LOVE, ปฏิทิน 12 ways to love yourself, ผ้าห่มรักตัวเอง x NONT TANONT และสิทธิ์ถ่ายภาพกับ นนท์ ธนนท์ สำหรับโซน VIP เท่านั้น สิทธิพิเศษทั้งหมดนี้คือการขอบคุณจากใจ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ที่อยากส่งต่อพลังแห่งความรัก ให้ทุกคนได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์แห่งความสุข ความประทับใจ และแรงบันดาลใจที่จะกลับมารักและดูแลตัวเอง เพื่ออยู่กับคนที่คุณรักไปได้นานที่สุด ก้าวสู่ปีที่ 77 ด้วยพลังแห่งความรัก นี่คืออีกหนึ่งก้าวสำคัญของ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ในโอกาสที่กำลังก้าวสู่ปีที่ 77 ของการดำเนินธุรกิจภายใต้พลังความรัก เรายังคงมุ่งมั่นใช้ความรักเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ เพื่อให้ทุกคนได้อยู่กับคนที่รัก และทำสิ่งที่รักไปได้นานที่สุด และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของสิ่งดี ๆ อีกมากมาย ที่ OCEAN LIFE ไทยสมุทร เตรียมมอบให้คนไทยตลอดปีแห่งการเฉลิมฉลองนี้ OCEAN LIFE ไทยสมุทรประกันชีวิต ใช้ความรักเป็นพลังขับเคลื่อนองค์กร โดยไม่หยุดพัฒนาในทุกมิติ เพื่อทำให้ประกันชีวิตเป็นเรื่องง่าย ทำให้คนไทยเข้าถึงประโยชน์ของการประกันชีวิตได้มากที่สุด พร้อมแล้วที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลโลกและสังคม เพื่อส่งมอบอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไปได้ใช้ชีวิตอย่างมั่นคง มั่นใจ ปลอดภัย มีความสุข สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Ocean Life ไทยสมุทรประกันชีวิต LINE Official: @OceanLife  เว็บไซต์ www.ocean.co.th หรือ ติดต่อ OCEAN LIFE CONTACT CENTER  1503  ข้อควรทราบ :  (1) เป็นการออมเงินในรูปแบบประกันชีวิต • โอเชี่ยนไลฟ์ เฟิร์ส เลิฟ 18/10 และ OCEAN LIFE First Love 18/10 เป็นชื่อทางการตลาดของแบบประกันโอเชี่ยนไลฟ์ โอชิ แพลน 18/10 • โครงการโอชิ สมอล เฮลท์ (Ochi Small Health Package) เป็นชื่อทางการตลาดของแบบประกันโอเชี่ยนไลฟ์ สมาร์ท โพรเทคชั่น 99/99 แนบสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพ สมอล เฮลท์ (Small Health) และบันทึกสลักหลังค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก (OPD) • ซีไอ ท็อปทรีเอ็กซ์ตร้า เป็นชื่อทางการตลาดของแบบประกันโรคร้าย ท็อปทรี เอ็กซ์ตร้า • % หมายถึง เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินเอาประกันภัย • การคำนวณเบี้ยประกันภัยไม่คำนวณเศษเกิน และจะนำเศษเกินไปคำนวณรวมกับกรมธรรม์อื่นไม่ได้ • การรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด • ความคุ้มครองและการจ่ายผลประโยชน์ต่าง ๆ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ • เบี้ยประกันชีวิต/สุขภาพ สามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด • ผู้เอาประกันภัยที่ประสงค์จะนำเบี้ยประกันชีวิต/สุขภาพไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ต้องแจ้งความประสงค์และยินยอมให้บริษัทนำส่งข้อมูลเบี้ยประกันชีวิต/สุขภาพให้กรมสรรพากร • ข้อมูลในเอกสารนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ประกันภัย ผู้ขอเอาประกันภัย/ผู้เอาประกันภัยควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและทำความเข้าใจในรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครอง ผลประโยชน์ และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง เมื่อได้รับกรมธรรม์แล้วโปรดศึกษาเพิ่มเติม

07 Dec 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner