Responsive image

Thursday, 30 Oct 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


BKI ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับปี 65 เติบโต 5% เน้นลงทุนด้านเทคโนโลยีเพิ่มคุณภาพการบริการ

Tue 15/03/2565


กรุงเทพประกันภัยเผยผลการดำเนินงานปี 2564 มีกำไรสุทธิ 1,055.9 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 61.0 พร้อมจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นทั้งปี 15 บาท/หุ้น ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับในปี 2565 เติบโตร้อยละ 5 โดยเน้นให้ความสำคัญกับคุณภาพการบริการด้วยการลงทุนด้านเทคโนโลยีและพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่รองรับความเสี่ยงและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป

ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยว่า แม้บริษัทฯ จะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจหลายประการในช่วงการระบาดอย่างหนักของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ในปีที่ผ่านมา แต่บริษัทฯ ยังสามารถสร้างเบี้ยประกันภัยรับรวมในปี 2564 สูงถึง 24,511.0 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 7.2 ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตของตลาดประกันวินาศภัย อย่างไรก็ตาม จากการจ่ายค่าสินไหมทดแทนประกันภัย COVID-19 ส่งผลให้บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิจากการรับประกันภัย 383.4 ล้านบาท แต่เมื่อรวมกับรายได้สุทธิจากการลงทุน 1,498.3 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯ ยังคงมีกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ 1,055.9 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 9.92 บาท

สำหรับแนวโน้มของธุรกิจประกันวินาศภัยในปี 2565 ยังคงต้องประสบกับความท้าทาย ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ อาทิ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) สายพันธุ์ Omicron ที่ยังคงมีการระบาดต่อเนื่องและรวดเร็ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตและการใช้จ่ายของประชาชน รวมทั้งส่งผลต่อภาคการท่องเที่ยวที่ยังไม่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อย่างเต็มที่เช่นเดียวกับสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศที่ทำให้การชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน หรือ Supply Chain Disruption ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นไปอีก ต้นทุนการขนส่งสินค้า ราคาพลังงาน และวัตถุดิบในการผลิตมีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง ตลอดจนภาระหนี้ภาคครัวเรือนที่ยังสูง ส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง

 

สำหรับในภาคธุรกิจประกันวินาศภัยนั้น สมาคมประกันวินาศภัยไทยได้มีการประเมินว่า เบี้ยประกันภัยรับรวมในปี 2565 นี้ จะเติบโตร้อยละ 1.5 - 2.5 ด้วยปัจจัยบวกจากการส่งออกของประเทศที่ยังคงเติบโตในระดับสูงแม้จะได้รับผลกระทบบ้างจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศก็ตาม

เช่นเดียวกับภาคธุรกิจขนส่งในประเทศที่เติบโตตามการซื้อสินค้าและขายสินค้าออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลบวกต่อเนื่องในส่วนของประกันภัยมารีน นอกจากนี้ การประกันภัยเดินทาง และประกันภัย Aviation ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาจะเริ่มฟื้นตัวจากภาคการท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ตามปกติภายในช่วงครึ่งปีหลัง เช่นเดียวกับการประกันอัคคีภัยที่จะได้รับประโยชน์จากยอดขายอสังหาริมทรัพย์ที่คาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตอย่างมากจากมาตรการของรัฐบาลเรื่องการลดค่าธรรมเนียมการจดจำนองและการโอน รวมถึงการผ่อนคลายเกณฑ์ Loan To Value Ratio ของธนาคารแห่งประเทศไทย

สำหรับการประกันภัยรถยนต์นั้นจะได้รับประโยชน์จากยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ที่น่าจะเติบโตเป็นบวกเป็นครั้งแรกหลังจากเติบโตติดลบมา 3 ปีติดต่อกัน โดยคาดว่าจะมียอดจำหน่ายเติบโตถึงร้อยละ 13.3 (ข้อมูลจาก Toyota Motor) รวมถึงการแข่งขันด้านอัตราเบี้ยประกันภัยในตลาดประกันภัยรถยนต์ที่น่าจะมีความรุนแรงน้อยลง แต่การใช้รถยนต์และอัตราการเกิดอุบัติเหตุมีแนวโน้มสูงขึ้น จากการเดินทางและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ ด้านประกันภัยเบ็ดเตล็ดนั้นจะได้รับผลบวกจากอัตราเบี้ยประกันภัยต่อในตลาดโลกที่ยังคงมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดปีนี้

 

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจประกันวินาศภัยในปี 2565 อาจได้รับผลกระทบจากเบี้ยประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพที่น่าจะเติบโตติดลบ เนื่องจากการขาดหายไปของเบี้ยประกันภัย COVID-19 ที่มีมูลค่าถึง 6,000 ล้านบาทในปี 2564 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 12 ของเบี้ยประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพทั้งหมด แม้จะได้รับผลบวกจากการที่ประชาชนตระหนักมากขึ้นถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพและค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ หรือ Climate Change ที่มีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ยังจะส่งผลกระทบต่อค่าสินไหมทดแทนของประกันภัยที่คุ้มครองภัยธรรมชาติ ผนวกกับต้นทุนค่าสินไหมทดแทนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากสถานการณ์เงินเฟ้อที่ทำให้ค่าจ้างแรงงาน ค่าอะไหล่รถยนต์ หรือวัสดุก่อสร้างปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งภาคธุรกิจประกันภัยยังต้องปรับการดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับกฎระเบียบใหม่ๆ ของภาครัฐและหน่วยงานกำกับดูแล เช่น พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่จะเริ่มประกาศใช้ในปีนี้ เช่นเดียวกับการดำเนินธุรกิจตามภายใต้หลัก ESG ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อข้อจำกัดในการรับประกันภัยและการลงทุนในธุรกิจบางประเภท

ด้านทิศทางการดำเนินงานของบมจ.กรุงเทพประกันภัย ในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับรวมเติบโตร้อยละ 5.0 ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่สอดคล้องกับปัจจัยท้าทายต่าง ๆ ในปัจจุบัน และให้ความสำคัญอย่างมากต่อการรักษาผลประกอบการด้านการรับประกันภัยซึ่งยังเปราะบางอยู่มากจากผลการรับประกันภัย COVID-19 ที่ยังมีความคุ้มครองอยู่ในปีนี้ อย่างไรก็ตาม จากผลการดำเนินงานในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถเติบโตได้สูงกว่าเป้าหมาย จึงมั่นใจว่าบริษัทฯ จะบรรลุเป้าหมายเบี้ยประกันภัยปีนี้ได้อย่างแน่นอน โดยกลยุทธ์ที่สำคัญยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาบริการหลังการขายให้มีความสะดวกรวดเร็วตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ด้วยมีความเชื่อว่าจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาจะทำให้ผู้บริโภคมีความอ่อนไหวต่อราคาน้อยลง และพิจารณาถึงความมั่นคง ความน่าเชื่อถือ ตลอดจนคุณภาพการบริการของบริษัทประกันภัยมากกว่าการพิจารณาเรื่องเบี้ยประกันภัย ในปี 2565 บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยเพื่อส่งเสริมคุณภาพการให้บริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าและคู่ค้า ตลอดจนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และลดต้นทุนในการดำเนินงานของบริษัทฯ ดังนี้

•การดำเนินโครงการ Core Business System (CBS) ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยร่วมมือกับบริษัท Sapiens International Corporation จากประเทศอิสราเอล ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ประกันภัยชั้นนำระดับโลกที่ช่วยออกแบบและพัฒนาระบบงานหลักของบริษัทฯ ทดแทนระบบเดิม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและออกแบบอย่างเป็นสากล ครอบคลุมการทำงานของหน่วยงานหลัก ทั้งกระบวนการรับประกันภัยจนถึงการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (End-to-end Solutions) รวมถึงระบบการรับประกันภัยต่อซึ่งจะช่วยให้การดำเนินงานของบริษัทฯ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยเสริมการทำงานในด้านการบริหารจัดการข้อมูล และเพิ่มคุณภาพในการให้บริการลูกค้าหรือคู่ค้าได้ดียิ่งขึ้น และสามารถตอบโจทย์ความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าได้อย่างสูงสุด ถือเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศไทย

•การสร้าง Cognitive Insurance Platform ด้วยการนำเทคโนโลยี AI มาวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงผ่านระบบ Digital Service ต่างๆ โดยในปีนี้มีแผนงานพัฒนา Online Website ใหม่ของบริษัทฯ โดยยึดแนวทางการพัฒนาและออกแบบระบบ Customer Data Platform (CDP) เพื่อจัดเก็บข้อมูลลูกค้าจาก Source ต่างๆ รวมถึงพัฒนาระบบการขายประกันออนไลน์ในรูปแบบ Personalize Insurance โดยใช้เครื่องมือ Google Cloud Technology เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการข้อมูล และวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าเพื่อเสนอขายประกันที่ตอบโจทย์และตรงกับ Lifestyle ของลูกค้าแต่ละราย

•แผนงานการขยายพันธมิตรทางธุรกิจกับคู่ค้ารายใหม่ๆ โดยเชื่อมต่อระบบกับคู่ค้าด้วยเทคโนโลยี API ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถขยายช่องทางการสื่อสารที่ให้ความสำคัญของการประกันภัยไปสู่กลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นผ่านเครือข่ายของพันธมิตร

•AI Voice Chatbot กรุงเทพประกันภัยเป็นบริษัทแรกและบริษัทเดียวของไทยที่นำระบบนี้มาให้บริการลูกค้าในการแจ้งเคลมสินไหมทดแทนยานยนต์ ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ใช้ระบบ Inbound Voice Chatbot ให้บริการลูกค้าด้วยน้ำเสียงเสมือนจริง โดยการสอบถามข้อมูลของลูกค้าเบื้องต้นเพื่อให้สามารถส่งข้อมูลไปยังพนักงานที่ให้บริการได้ตรงกับความต้องการได้ทันที และในปีนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาระบบ Outbound Voice Chatbot เพิ่มเติม เพื่อสามารถติดต่อไปยังลูกค้าได้อัตโนมัติ เช่น การเตือนต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย

•บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาเทคโนโลยีเพื่อก้าวเข้าสู่จักรวาล Metaverse เพื่อเป็นการสร้างโอกาสและเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์กลางของการพัฒนาเทคโนโลยีและแลกเปลี่ยนสินค้าบนโลกเสมือนจริง พร้อมขยายศักยภาพด้านเทคโนโลยีและธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับประเทศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรด้าน Metaverse

•สำหรับด้านการขยายตลาด บริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองสอดรับกับรูปแบบของความเสี่ยงภัยใหม่ๆ และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ประกันภัย Motor for EV ที่สนับสนุนการเติบโตของรถ EV และการดำเนินธุรกิจตามแนวคิด ESG, การประกันสุขภาพ Health IPD+OPD ที่ครอบคลุมถึงการให้บริการปรึกษาแพทย์ทางไกล (Telemedicine), การประกันภัยธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม SME Total ให้ความอุ่นใจกับความคุ้มครองภัยต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้กับธุรกิจ และประกันภัยไซเบอร์ที่มุ่งเน้นคุ้มครองความรับผิดของธุรกิจจากการละเมิด พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA Cover) เป็นต้น

ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งกรุงเทพประกันภัยมุ่งมั่นให้ความสำคัญต่อการให้บริการที่มีคุณภาพแก่ลูกค้าและคู่ค้าด้วยการคัดสรรสิ่งที่ดีและตอบโจทย์ทุกความต้องการที่หลากหลายให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุค New Normal อย่างแท้จริง


Tags : BKI กรุงเทพประกันภัย ดร.อภิสิทธิ์อนันตนาถรัตน กรุงเทพประกันภัยเผยผลการดำเนินงานปี2564


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินในฐานะสถาบันการออมของคนไทย ตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านการส่งเสริมการออมและให้ความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ธนาคารจึงถือโอกาสในการจัดงานวันออมแห่งชาติ วันที่ 31 ตุลาคม 2568 ยกระดับสู่ GSB SAVINGS FORUM 2025 ภายใต้แนวคิด “AI & AOM ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” เพื่อให้เป็นเวทีในการสื่อสารด้านการออมและจุดประกายการผสานพลังเทคโนโลยี “AI” (Artificial Intelligence) เข้ากับ “AOM” (การออม) อย่างสร้างสรรค์ผ่านกิจกรรมสำคัญ อาทิ มินิทอล์ก “ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” โดยกูรูและเซเลบริตี้ชื่อดัง การประกวดออกแบบ “กระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล” ด้วย AI รอบชิงชนะเลิศ ตลอดจนการเปิดตัว “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB โดยงาน GSB SAVINGS FORUM 2025 ในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีแรก และธนาคารตั้งเป้าจัดเป็นงานประจำทุกปีในวันออมแห่งชาติ เพื่อขับเคลื่อนภารกิจหลักของธนาคารในการให้ความรู้ทางการเงินและเป็นเวทีหลักด้านการส่งเสริมการออมแก่สังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ภายในงานพบกับไฮไลท์ เวทีมินิทอล์ก “ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” เวทีแห่งแรงบันดาลใจจากคนดังหลากหลายเจน ที่จะมาแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์วางแผนการออมและการเงินส่วนบุคคลในโลกดิจิทัล อาทิ คุณหนุ่ย-พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ คุณตั๊ก-มยุรา เศวตศิลา และ คุณธนัชภรณ์ นิชิยาม่า ร่วมสร้างสีสันการเสวนาโดย คุณป๋อมแป๋ม-นิติ ชัยชิตาทร พร้อมรับชมการแข่งขันพรอมพ์ AI เพื่อออกแบบ “กระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล” รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นการแข่งขันของผู้ผ่านเข้ารอบ 50 คน จากผู้ส่งผลงานกว่า 700 ผลงาน โดยธนาคารจัดการประกวดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีในการสร้างแรงบันดาลใจด้านการออม ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 100,000 บาท ตัดสินโดยกูรูวงการ AI และผู้เชี่ยวชาญจากแวดวงโฆษณาชั้นนำของประเทศ อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญคือการเปิดตัว “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB ที่ธนาคารออมสินได้ริเริ่มจัดทำโปรแกรมสร้างผู้เชี่ยวชาญวางแผนการเงิน ร่วมพัฒนาหลักสูตรโดยผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการให้ความรู้ทางการเงิน การออม การลงทุน และการวางแผนเกษียณ โดยมีพนักงานออมสินที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบทั้งข้อเขียนและภาคปฏิบัติ ได้รับการรับรองคุณวุฒิเป็น “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB รุ่นแรก รวม 44 ราย ที่จะทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ทางการเงิน และส่งเสริมให้ประชาชนมีการออมอย่างมีเป้าหมาย ซึ่งพนักงานที่ผ่านการทดสอบในโปรแกรมนี้ จะได้รับการติดเข็มวิทยฐานะ CMC สำหรับใช้แสดงตนเพื่อเป็นการรับรองความรู้ความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป  นอกจากนี้ ธนาคารยังเปิดตัวกระปุกออมสิน “แสงแห่งการออม” ในวาระวันออมแห่งชาติ ดีไซน์ล้ำด้วยลูกเล่นมีไฟส่องสว่างในตัว สำหรับผู้ฝากเงิน 500 บาทขึ้นไป ลงทะเบียนจองสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ www.gsb.or.th, Line Official : GSB Society หรือ แอปพลิเคชัน MyMo ตั้งแต่วันที่ 27 – 30 ตุลาคม 2568 และเปิดให้ฝากเงินได้ที่ธนาคารออมสินสาขา แอปพลิเคชัน MyMo หรือเครื่องรับฝากเงิน ADM พร้อมรับกระปุกออมสิน ณ ธนาคารออมสินสาขาที่ลงทะเบียนจองสิทธิ์ไว้ ในวันที่ 31 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน 2568 (จำกัด 1 คน ต่อ 1 สิทธิ์) ของมีจำนวนจำกัด สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน GSB SAVINGS FORUM 2025 ในวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 6 อาคาร 32 ชั้น ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ สามารถลงทะเบียนได้ทางระบบออนไลน์ https://www.zipeventapp.com/e/GSB-Savings-Forum-2025 ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2568 โดยผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้าจะได้รับกระปุกออมสิน “แสงแห่งการออม” (จำนวนจำกัด) หรือรับชมการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางเพจเฟซบุ๊ก GSB Society

23 Oct 2025

...

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดย คุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาด จับรายชื่อลูกค้าผู้โชคดีครั้งที่ 1 ภายใต้แคมเปญพิเศษ ฉลองครบรอบ 28 ปี กรุงไทย-แอกซ่า “แจกใหญ่ แจกเต็ม” เพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้าคนสำคัญที่ไว้วางใจให้บริษัทฯ ได้ดูแลให้ความคุ้มครองตลอดมา โดยลูกค้าที่เข้าร่วมแคมเปญเป็นไปตามเงื่อนไขใน ช่วงวันที่ 25 กรกฎาคม – 17 กันยายน 2568  ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ประกาศรายชื่อผู้โชคดีผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ https://www.krungthai-axa.co.th/th/luckydraw-2025-r1-announcement  ซึ่งผู้โชคดีจากแคมเปญดังกล่าวจะได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากผู้แทนบริษัทฯ เพื่อแจ้งรายละเอียดและยืนยันการรับสิทธิ์ สำหรับแคมเปญ “แจกใหญ่ แจกเต็ม” เปิดโอกาสให้ลูกค้าสะสมสิทธิ์และลุ้นรับรางวัลใหญ่จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 โดยกำหนดการจับรางวัลอีก 3 รอบ  ตามรายละเอียดด้านล่างนี้ ครั้งที่ 2: จับรางวัลในวันที่ 24 ตุลาคม 2568          ประกาศรายชื่อผู้โชคดีวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ครั้งที่ 3: จับรางวัลในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568   ประกาศรายชื่อผู้โชคดีวันที่ 1 ธันวาคม 2568 ครั้งที่ 4: จับรางวัลในวันที่ 23 มกราคม 2569        ประกาศรายชื่อผู้โชคดีวันที่ 1 กุมภาพันธ์  2569 หมายเหตุ: ชิ้นส่วนที่เหลือจากการจับรางวัลในแต่ละครั้ง จะถูกนำมารวบรวมเพื่อจับรางวัลในรอบถัดไป ทั้งนี้ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรม การบริการ และผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้ที่ www.krungthai-axa.co.th และศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร.1159

17 Oct 2025

...

นายธีรลักษ์ แสงสนิท รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า คณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ได้มีมติเห็นชอบให้ประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสิน โดยผู้ที่สนใจสามารถยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการสมัครได้ตั้งแต่วันอังคารที่ 14 ตุลาคม - วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2568 สำหรับคุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร กำหนดให้ต้องมีสัญชาติไทย อายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ในวันยื่นใบสมัคร สามารถทำงานให้ธนาคารได้เต็มเวลา และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามประกาศคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สำหรับคุณสมบัติเฉพาะต้องมีความรู้ ความสามารถ ด้านเศรษฐกิจ การเงิน การตลาด และการธนาคารเป็นอย่างดี มีวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการองค์กร มีภาวะความเป็นผู้นำสูง มีความรอบรู้และประสบการณ์ในการบริหารจัดการองค์กร กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กร และมีระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งนั้นรวมกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันยื่นใบสมัคร หรือกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากหน่วยงานภาคเอกชน ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรที่มีรายได้ขององค์กรไม่น้อยกว่า 15,000 ล้านบาทต่อปี หรือเคยบริหารกิจการที่มีสินทรัพย์ขององค์กรไม่น้อยกว่า 200,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ต้องมีระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่า รองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรนั้นต่อเนื่องกันเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันยื่นใบสมัคร สามารถดาวน์โหลดใบสมัครและศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.gsb.or.th โดยยื่นใบสมัครด้วยตนเอง หรือมอบให้ตัวแทนเป็นผู้ยื่น โดยมีหนังสือมอบอำนาจ พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการสมัครได้ที่ ส่วนสรรหาและแต่งตั้งโยกย้าย ฝ่ายบริหารงานทรัพยากรบุคคล อาคาร 32 ชั้น ชั้น 15 ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันอังคารที่ 14 ตุลาคม - วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2568 ระหว่างเวลา 09.00 – 16.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2299-8000 ต่อ 810371 - 74          

11 Oct 2025

...

ธนาคารออมสิน เตรียมจัดงานใหญ่ GSB SAVINGS FORUM 2025 เนื่องในวันออมแห่งชาติ 31 ตุลาคม 2568 ภายใต้แนวคิด “AI & AOM ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” เพื่อเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์ด้านการออมในโลกดิจิทัล สะท้อนการผสานพลัง “AI” (Artificial Intelligence) เข้ากับ “AOM” (การออม) ในการสร้างวินัยทางการเงินและสังคมแห่งการออมที่ยั่งยืน หนึ่งในไฮไลท์สำคัญคือ กิจกรรมประกวดออกแบบ “กระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล” เชิญชวนคนรุ่นใหม่ร่วมสร้างสรรค์งานออกแบบผ่าน AI Generative Tools ถ่ายทอดแนวคิดการออมในมิติใหม่ พร้อมชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 110,000 บาท ตอกย้ำภารกิจสำคัญของธนาคารในการส่งเสริมการออมและสร้างวินัยทางการเงินอย่างต่อเนื่อง กิจกรรมประกวดออกแบบ “กระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล” เปิดรับผลงานจากผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป โดยผู้ที่สนใจสามารถส่งผลงานออกแบบชิ้นงานใดก็ได้ ที่สร้างสรรค์ด้วย AI Generative Tools คนละ 1 ชิ้น ขนาดไฟล์ไม่เกิน 5MB ในรูปแบบ JPEG หรือ PNG ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 15 ตุลาคม 2568 โดยธนาคารจะคัดเลือกและประกาศรายชื่อผู้ที่จะได้เข้าร่วมแข่งขันในวันที่ 21 ตุลาคม 2568 จากนั้นจะจัดการแข่งขันเพื่อเฟ้นหาผู้ชนะเลิศ ในงาน GSB SAVINGS FORUM วันที่ 31 ตุลาคม 2568 (วันออมแห่งชาติ) ณ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ ซึ่งผู้ร่วมแข่งขันจะต้องออกแบบ “กระปุกออมสิน” ภายใต้โจทย์และเวลาที่กำหนดโดยใช้ AI Generative Tools โดยการตัดสินได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจากธนาคารออมสิน และผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าจากวงการ AI และโฆษณา อาทิ คุณเมธากวี สีตบุตร ผู้เชี่ยวชาญด้าน Generative AI และ Trainer ของ MidJourney และ คุณวีรยุทธ์ คุณวิทยไพศาล Executive Producer บริษัท Montage Studio และกรรมการตัดสิน Adman Awards 2023 ทั้งนี้ ผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล จำนวน 50,000 บาท รางวัลที่ 2 จำนวน 30,000 บาท รางวัลที่ 3 จำนวน 20,000 บาท และรางวัล Popular Vote จำนวน 10,000 บาท รวมมูลค่ารางวัลทั้งสิ้น 110,000 บาท ผู้สนใจสามารถสมัครและดูรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านลิงก์หรือสแกนคิวอาร์โค้ด (QR Code) ที่กำหนด   สมัครพร้อมติดตามรายละเอียดและกติกาการแข่งขันเพิ่มเติมได้ที่ Link https://forms.gle/1wHqR8V8e337M8wg8  หรือ QR Code  

06 Oct 2025

Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner