Responsive image

Saturday, 27 Jul 2024

หน้าแรก > INSURANCE/ประกันภัย-ประกันชีวิต


BKI ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับปี 65 เติบโต 5% เน้นลงทุนด้านเทคโนโลยีเพิ่มคุณภาพการบริการ

Tue 15/03/2565


กรุงเทพประกันภัยเผยผลการดำเนินงานปี 2564 มีกำไรสุทธิ 1,055.9 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 61.0 พร้อมจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นทั้งปี 15 บาท/หุ้น ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับในปี 2565 เติบโตร้อยละ 5 โดยเน้นให้ความสำคัญกับคุณภาพการบริการด้วยการลงทุนด้านเทคโนโลยีและพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่รองรับความเสี่ยงและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป

ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยว่า แม้บริษัทฯ จะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจหลายประการในช่วงการระบาดอย่างหนักของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ในปีที่ผ่านมา แต่บริษัทฯ ยังสามารถสร้างเบี้ยประกันภัยรับรวมในปี 2564 สูงถึง 24,511.0 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 7.2 ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตของตลาดประกันวินาศภัย อย่างไรก็ตาม จากการจ่ายค่าสินไหมทดแทนประกันภัย COVID-19 ส่งผลให้บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิจากการรับประกันภัย 383.4 ล้านบาท แต่เมื่อรวมกับรายได้สุทธิจากการลงทุน 1,498.3 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯ ยังคงมีกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ 1,055.9 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 9.92 บาท

สำหรับแนวโน้มของธุรกิจประกันวินาศภัยในปี 2565 ยังคงต้องประสบกับความท้าทาย ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ อาทิ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) สายพันธุ์ Omicron ที่ยังคงมีการระบาดต่อเนื่องและรวดเร็ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตและการใช้จ่ายของประชาชน รวมทั้งส่งผลต่อภาคการท่องเที่ยวที่ยังไม่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อย่างเต็มที่เช่นเดียวกับสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศที่ทำให้การชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน หรือ Supply Chain Disruption ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นไปอีก ต้นทุนการขนส่งสินค้า ราคาพลังงาน และวัตถุดิบในการผลิตมีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง ตลอดจนภาระหนี้ภาคครัวเรือนที่ยังสูง ส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง

 

สำหรับในภาคธุรกิจประกันวินาศภัยนั้น สมาคมประกันวินาศภัยไทยได้มีการประเมินว่า เบี้ยประกันภัยรับรวมในปี 2565 นี้ จะเติบโตร้อยละ 1.5 - 2.5 ด้วยปัจจัยบวกจากการส่งออกของประเทศที่ยังคงเติบโตในระดับสูงแม้จะได้รับผลกระทบบ้างจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศก็ตาม

เช่นเดียวกับภาคธุรกิจขนส่งในประเทศที่เติบโตตามการซื้อสินค้าและขายสินค้าออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลบวกต่อเนื่องในส่วนของประกันภัยมารีน นอกจากนี้ การประกันภัยเดินทาง และประกันภัย Aviation ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาจะเริ่มฟื้นตัวจากภาคการท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ตามปกติภายในช่วงครึ่งปีหลัง เช่นเดียวกับการประกันอัคคีภัยที่จะได้รับประโยชน์จากยอดขายอสังหาริมทรัพย์ที่คาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตอย่างมากจากมาตรการของรัฐบาลเรื่องการลดค่าธรรมเนียมการจดจำนองและการโอน รวมถึงการผ่อนคลายเกณฑ์ Loan To Value Ratio ของธนาคารแห่งประเทศไทย

สำหรับการประกันภัยรถยนต์นั้นจะได้รับประโยชน์จากยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ที่น่าจะเติบโตเป็นบวกเป็นครั้งแรกหลังจากเติบโตติดลบมา 3 ปีติดต่อกัน โดยคาดว่าจะมียอดจำหน่ายเติบโตถึงร้อยละ 13.3 (ข้อมูลจาก Toyota Motor) รวมถึงการแข่งขันด้านอัตราเบี้ยประกันภัยในตลาดประกันภัยรถยนต์ที่น่าจะมีความรุนแรงน้อยลง แต่การใช้รถยนต์และอัตราการเกิดอุบัติเหตุมีแนวโน้มสูงขึ้น จากการเดินทางและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ ด้านประกันภัยเบ็ดเตล็ดนั้นจะได้รับผลบวกจากอัตราเบี้ยประกันภัยต่อในตลาดโลกที่ยังคงมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดปีนี้

 

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจประกันวินาศภัยในปี 2565 อาจได้รับผลกระทบจากเบี้ยประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพที่น่าจะเติบโตติดลบ เนื่องจากการขาดหายไปของเบี้ยประกันภัย COVID-19 ที่มีมูลค่าถึง 6,000 ล้านบาทในปี 2564 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 12 ของเบี้ยประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพทั้งหมด แม้จะได้รับผลบวกจากการที่ประชาชนตระหนักมากขึ้นถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพและค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ หรือ Climate Change ที่มีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ยังจะส่งผลกระทบต่อค่าสินไหมทดแทนของประกันภัยที่คุ้มครองภัยธรรมชาติ ผนวกกับต้นทุนค่าสินไหมทดแทนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากสถานการณ์เงินเฟ้อที่ทำให้ค่าจ้างแรงงาน ค่าอะไหล่รถยนต์ หรือวัสดุก่อสร้างปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งภาคธุรกิจประกันภัยยังต้องปรับการดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับกฎระเบียบใหม่ๆ ของภาครัฐและหน่วยงานกำกับดูแล เช่น พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่จะเริ่มประกาศใช้ในปีนี้ เช่นเดียวกับการดำเนินธุรกิจตามภายใต้หลัก ESG ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อข้อจำกัดในการรับประกันภัยและการลงทุนในธุรกิจบางประเภท

ด้านทิศทางการดำเนินงานของบมจ.กรุงเทพประกันภัย ในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับรวมเติบโตร้อยละ 5.0 ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่สอดคล้องกับปัจจัยท้าทายต่าง ๆ ในปัจจุบัน และให้ความสำคัญอย่างมากต่อการรักษาผลประกอบการด้านการรับประกันภัยซึ่งยังเปราะบางอยู่มากจากผลการรับประกันภัย COVID-19 ที่ยังมีความคุ้มครองอยู่ในปีนี้ อย่างไรก็ตาม จากผลการดำเนินงานในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถเติบโตได้สูงกว่าเป้าหมาย จึงมั่นใจว่าบริษัทฯ จะบรรลุเป้าหมายเบี้ยประกันภัยปีนี้ได้อย่างแน่นอน โดยกลยุทธ์ที่สำคัญยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาบริการหลังการขายให้มีความสะดวกรวดเร็วตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ด้วยมีความเชื่อว่าจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาจะทำให้ผู้บริโภคมีความอ่อนไหวต่อราคาน้อยลง และพิจารณาถึงความมั่นคง ความน่าเชื่อถือ ตลอดจนคุณภาพการบริการของบริษัทประกันภัยมากกว่าการพิจารณาเรื่องเบี้ยประกันภัย ในปี 2565 บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยเพื่อส่งเสริมคุณภาพการให้บริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าและคู่ค้า ตลอดจนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และลดต้นทุนในการดำเนินงานของบริษัทฯ ดังนี้

•การดำเนินโครงการ Core Business System (CBS) ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยร่วมมือกับบริษัท Sapiens International Corporation จากประเทศอิสราเอล ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ประกันภัยชั้นนำระดับโลกที่ช่วยออกแบบและพัฒนาระบบงานหลักของบริษัทฯ ทดแทนระบบเดิม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและออกแบบอย่างเป็นสากล ครอบคลุมการทำงานของหน่วยงานหลัก ทั้งกระบวนการรับประกันภัยจนถึงการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (End-to-end Solutions) รวมถึงระบบการรับประกันภัยต่อซึ่งจะช่วยให้การดำเนินงานของบริษัทฯ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยเสริมการทำงานในด้านการบริหารจัดการข้อมูล และเพิ่มคุณภาพในการให้บริการลูกค้าหรือคู่ค้าได้ดียิ่งขึ้น และสามารถตอบโจทย์ความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าได้อย่างสูงสุด ถือเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศไทย

•การสร้าง Cognitive Insurance Platform ด้วยการนำเทคโนโลยี AI มาวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงผ่านระบบ Digital Service ต่างๆ โดยในปีนี้มีแผนงานพัฒนา Online Website ใหม่ของบริษัทฯ โดยยึดแนวทางการพัฒนาและออกแบบระบบ Customer Data Platform (CDP) เพื่อจัดเก็บข้อมูลลูกค้าจาก Source ต่างๆ รวมถึงพัฒนาระบบการขายประกันออนไลน์ในรูปแบบ Personalize Insurance โดยใช้เครื่องมือ Google Cloud Technology เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการข้อมูล และวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าเพื่อเสนอขายประกันที่ตอบโจทย์และตรงกับ Lifestyle ของลูกค้าแต่ละราย

•แผนงานการขยายพันธมิตรทางธุรกิจกับคู่ค้ารายใหม่ๆ โดยเชื่อมต่อระบบกับคู่ค้าด้วยเทคโนโลยี API ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถขยายช่องทางการสื่อสารที่ให้ความสำคัญของการประกันภัยไปสู่กลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นผ่านเครือข่ายของพันธมิตร

•AI Voice Chatbot กรุงเทพประกันภัยเป็นบริษัทแรกและบริษัทเดียวของไทยที่นำระบบนี้มาให้บริการลูกค้าในการแจ้งเคลมสินไหมทดแทนยานยนต์ ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ใช้ระบบ Inbound Voice Chatbot ให้บริการลูกค้าด้วยน้ำเสียงเสมือนจริง โดยการสอบถามข้อมูลของลูกค้าเบื้องต้นเพื่อให้สามารถส่งข้อมูลไปยังพนักงานที่ให้บริการได้ตรงกับความต้องการได้ทันที และในปีนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาระบบ Outbound Voice Chatbot เพิ่มเติม เพื่อสามารถติดต่อไปยังลูกค้าได้อัตโนมัติ เช่น การเตือนต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย

•บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาเทคโนโลยีเพื่อก้าวเข้าสู่จักรวาล Metaverse เพื่อเป็นการสร้างโอกาสและเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์กลางของการพัฒนาเทคโนโลยีและแลกเปลี่ยนสินค้าบนโลกเสมือนจริง พร้อมขยายศักยภาพด้านเทคโนโลยีและธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับประเทศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรด้าน Metaverse

•สำหรับด้านการขยายตลาด บริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองสอดรับกับรูปแบบของความเสี่ยงภัยใหม่ๆ และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ประกันภัย Motor for EV ที่สนับสนุนการเติบโตของรถ EV และการดำเนินธุรกิจตามแนวคิด ESG, การประกันสุขภาพ Health IPD+OPD ที่ครอบคลุมถึงการให้บริการปรึกษาแพทย์ทางไกล (Telemedicine), การประกันภัยธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม SME Total ให้ความอุ่นใจกับความคุ้มครองภัยต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้กับธุรกิจ และประกันภัยไซเบอร์ที่มุ่งเน้นคุ้มครองความรับผิดของธุรกิจจากการละเมิด พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA Cover) เป็นต้น

ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งกรุงเทพประกันภัยมุ่งมั่นให้ความสำคัญต่อการให้บริการที่มีคุณภาพแก่ลูกค้าและคู่ค้าด้วยการคัดสรรสิ่งที่ดีและตอบโจทย์ทุกความต้องการที่หลากหลายให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุค New Normal อย่างแท้จริง


Tags : BKI กรุงเทพประกันภัย ดร.อภิสิทธิ์อนันตนาถรัตน กรุงเทพประกันภัยเผยผลการดำเนินงานปี2564


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน มอบรางวัลทองคำแท่งหนัก 10 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 26.5 ล้านบาท (ราคา ณ วันที่ 23 เมษายน 2567) ให้แก่ คุณกานดา กาญจนเพิ่มพูน ลูกค้าธนาคารออมสิน สาขาด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี โดยเป็นผู้โชคดีจากการถูกรางวัลสลากออมสินพิเศษ 1 ปี งวดที่ 606 หมวดอักษร G หมายเลขสลาก 8178397 เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 111 ปี ซึ่งมีการออกรางวัลไปเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยคุณกานดา เป็นลูกค้าธนาคารออมสิน และมีการออมเงินกับธนาคารมาอย่างต่อเนื่อง แต่ได้มีการฝากสลากออมสินเพียง 4 ปี หลังทราบข่าวว่ามีการลุ้นรางวัลใหญ่ และเป็นการเก็บออมเงินด้วย จึงอยากเชิญชวนประชาชนให้มาออมเงินด้วยการฝากสลากออมสิน     นอกจากจะได้ลุ้นรางวัลแล้ว การเป็นลูกค้าธนาคารออมสินเท่ากับเราได้ช่วยสังคม ณ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 สำหรับสลากออมสินพิเศษ 1 ปี หน่วยละ 100 บาท ไม่จำกัดวงเงินรับฝากสูงสุด เมื่อฝากครบกำหนด 1 ปี จะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยหน่วยละ 0.25 บาท และยังมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลที่ 1 มูลค่า 10 ล้านบาท และรางวัลอื่น ๆ ได้ทุกวันที่ 16 ของทุกเดือน รวม 12 ครั้ง ผู้สนใจสามารถฝากสลากออมสินได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ และแอป MyMo  

26 Jul 2024

...

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่สมัครและชำระค่าเบี้ยผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบรายปีในปีแรก ตามแผนประกันที่เข้าร่วมรายการ ของ บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ผ่านสาขาธนาคารกรุงศรีอยุธยา ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 – 30 กันยายน 2567 และคำขอเอาประกันได้รับการอนุมัติภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2567 จะได้รับเงินคืนเข้าบัญชีออมทรัพย์ ตามรายละเอียดดังนี้   เบี้ยประกันชีวิต (บาท) ต่อ 1 กรมธรรม์ เงินคืนตามแผนประกัน (บาท) ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ร่วมรายการ ผลิตภัณฑ์ประกัน* 20/5(+), 20/10(+), 18/5, 90/5, 90/10 8,000 - 99,999 300 300 100,000 – 399,999 1,000 1,500 400,000 – 699,999 5,000 15,000 700,000 – 999,999 10,000 20,000 ทุก ๆ 1,000,000 25,000 50,000   นอกจากนี้ ยังจะได้รับสถานะ KRUNGSRI EXCLUSIVE หรือ KRUNGSRI PRIME เมื่อสมัครและชำระเบี้ยประกันชีวิตปีแรกตั้งแต่ 2 แสนบาทขึ้นไป โดยมีรายละเอียดดังนี้ -รับสถานะ KRUNGSRI EXCLUSIVE เป็นระยะเวลา 3 ปี พร้อมรับเอกสิทธิ์เทียบเท่าลูกค้ายอดเงินฝาก และ/หรือเงินลงทุนตั้งแต่ 10 ล้านบาท เมื่อสมัครและชำระเบี้ยประกันชีวิตปีแรก ตั้งแต่ 500,000 บาทขึ้นไป ภายในปีปฏิทินเดียวกัน และภายใต้ชื่อผู้เอาประกันภัยเดียวกัน -หรือรับสถานะ KRUNGSRI PRIME เป็นระยะเวลา 3 ปี พร้อมรับเอกสิทธิ์เทียบเท่าลูกค้ายอดเงินฝาก และ/หรือเงินลงทุนตั้งแต่ 1 ล้านบาท เมื่อสมัครและชำระเบี้ยประกันชีวิตปีแรก ตั้งแต่ 2 แสนบาทแต่ไม่ถึง 5 แสนบาท ภายใต้ชื่อผู้เอาประกันภัยเดียวกันและกรมธรรม์เดียวกัน              

14 Jul 2024

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากปัญหาภัยทุจริตทางการเงินที่มีประชาชนได้รับความเสียหายจากการถูกมิจฉาชีพหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันและถูกดูดเงินออกจากบัญชีธนาคาร ทำให้ต้องสูญเสียทรัพย์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แม้ธนาคารและหน่วยงานต่าง ๆ ได้มีการเตือนภัยประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อช่วยลูกค้าประชาชนลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวงเมื่อทำธุรกรรมผ่านบริการทางการเงินดิจิทัล ธนาคารออมสินจึงได้ยกระดับความปลอดภัยของบริการ Mobile Banking โดยการเพิ่มโหมดบริการ MyMo Secure+ ที่จำกัดการทำธุรกรรมเฉพาะบัญชีของตนเองเท่านั้น กรณีมือถือโดนแฮก หรือโดนควบคุมมือถือผ่านรีโมท มิจฉาชีพก็จะไม่สามารถโอนเงินของเราไปยังบัญชีอื่น หรือบัญชีบุคคลที่ 3 ได้ ถือเป็นการจำกัดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ซึ่งธนาคารออมสินเป็นธนาคารแรกที่ริเริ่มติดตั้งโหมดปลอดมิจฉาชีพสำหรับให้บริการลูกค้าบนแอปพลิเคชัน MyMo Secure+ หรือ MyMo Secure Plus เป็นโหมดบริการบนแอป MyMo ที่ให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการได้ง่าย ๆ และปลอดภัยมากขึ้น เหมาะสำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบางที่อาจตกเป็นเหยื่อภัยทางการเงินได้ง่าย อาทิ ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ไม่รู้เท่าทันมิจฉาชีพ โดยเมื่อลูกค้าเปลี่ยนมาใช้โหมดบริการ MyMo Secure+ จะสามารถใช้บริการที่เน้นการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านบัญชีของตนเองเท่านั้น โดยจำกัดการทำรายการเฉพาะเท่าที่จำเป็น เช่น การโอนเงินไปยังบัญชีตนเองภายในธนาคาร การโอนเงินไปบัญชีต่างธนาคารที่ได้ลงทะเบียนไว้ บัญชีสินเชื่อของตนเอง การชำระค่าสาธารณูปโภค รวมถึงจำกัดวงเงินในการทำธุรกรรมบัญชีตนเองต่างธนาคาร ไม่เกิน 100,000 บาทต่อวัน หรือถอนเงินไม่เกิน 5,000 บาทต่อวัน เป็นต้น โดยลูกค้าเดิมที่ใช้แอป MyMo อยู่แล้ว สามารถเปลี่ยนโหมดเป็น MyMo Secure+ ได้ด้วยตนเองโดยกดที่ปุ่ม MyMo Secure+ มุมขวาบน หรือจากแบนเนอร์หน้าโฮม หรือจากแถบตั้งค่า และเมื่อกดสมัครใช้งานแล้ว จะต้องยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการ หรือการเปลี่ยนโหมด และมีการยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า จึงสมัครใช้บริการสำเร็จ กรณีลูกค้าต้องการเปลี่ยนกลับไปใช้แอป MyMo รูปแบบทั่วไป สามารถติดต่อแจ้งความประสงค์ได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา อนึ่ง การยกระดับแอป MyMo ให้มีโหมดความปลอดภัย เป็นการดำเนินงานโดยสอดคล้องกับมาตรการธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีการยกระดับมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน โดยขอความร่วมมือธนาคารต่าง ๆ ในการป้องกันความเสียหาย และมีผลิตภัณฑ์หรือบริการเพิ่มเติมเพื่อดูแลธุรกรรมของลูกค้าให้ปลอดภัยขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงและลดปัญหาการถูกหลอกลวงออนไลน์ โดยธนาคารออมสิน ได้ให้ความสำคัญในมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของระบบการให้บริการที่ถือเป็นหัวใจหลักของการให้บริการ Mobile Banking มาอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล ด้านการบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ISO/IEC 27001 ในเวอร์ชัน ISO/IEC 27001:2022 (Information Security Management System : ISMS) ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน          

07 Jul 2024

...

อลิอันซ์ อยุธยา ร่วมกับ เรซอัพ เวิร์ค ประกาศความพร้อมเตรียมจัดงานวิ่งแห่งปีที่ทุกคนรอคอย Allianz Ayudhya World Run Thailand Series 2024 ภายใต้แนวคิด “World Run World Heritage” งานวิ่งของคนรักษ์โลก “อนุรักษ์มรดกไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” เชิญชวนนักวิ่ง วิ่งย้อนรอยประวัติศาสตร์ ในบรรยากาศสุดคลาสสิก ชิมอาหารเลิศรส และช้อปสินค้าท้องถิ่น วันที่ 16-17 พฤศจิกายน 2567 ณ ศูนย์ท่องเที่ยวอยุธยา(ศาลากลางเก่า) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา   นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานบริหารงานลูกค้า บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า “งาน “Allianz Ayudhya World Run Thailand Series 2024” ถือเป็นงานวิ่งที่แฟนรายการ Allianz World Run ทุกคนต่างรอคอย เพราะเป็นงานวิ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะในการคัดเลือกเส้นทางวิ่งท่ามกลางธรรมชาติ บรรยากาศดี วิ่งสนุก เดินทางสะดวก และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญยังได้สนับสนุนสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นต่างๆของไทยอีกด้วย ในปีนี้ก็เช่นกัน อลิอันซ์ อยุธยา ได้คัดสรรพื้นที่สุดพิเศษในการจัดงาน โดยได้เปลี่ยนบรรยากาศการวิ่งเข้ามาในพื้นที่ประวัติศาสตร์สำคัญของไทย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้ผู้ร่วมงานได้มีโอกาสชมเส้นทางประวัติศาสตร์ ผ่านจุดสำคัญของเมืองเก่าอยุธยา และพิเศษสุดปีนี้ เราได้เพิ่มระยะทาง 5 กิโลเมตร เพื่อให้นักวิ่งหน้าใหม่ที่อาจจะเพิ่งเริ่มวิ่ง ได้ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย ถือเป็นการเริ่มต้นออกกำลังกายไปด้วยกัน ที่จะได้ทั้งความสุขและสุขภาพที่ดีกลับไป สำหรับงาน “Allianz Ayudhya World Run Thailand Series 2024” จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 16 และวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2567 โดยแบ่งระยะการแข่งขันเป็น 4 ประเภท ได้แก่ แฟมิลี่ฟันรัน 3 กิโลเมตร ในวันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2567 ฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กิโลเมตร มินิมาราธอน 10 กิโลเมตร และระยะทาง 5 กิโลเมตร ในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2567 นอกจากนี้ภายในงานยังมีโซน Expo อิ่มอร่อยกับอาหาร Local สุดอร่อย และสินค้าจากชุมชน ให้ได้เลือกช้อป พร้อมชมมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินยอดนิยม  บริเวณลานกิจกรรมหน้าศาลากลางเก่า สำหรับงานวิ่งนี้ยังคงเป็นงานวิ่งรักษ์โลก โดยเหรียญและโล่รางวัลทำมาจาพลาสติกรีไซเคิล เหมือนเช่นเคย นอกจากนี้เรายังได้เตรียมของที่ระลึกสุดพิเศษ สำหรับ Finisher อีกด้วย” คุณพัชรา กล่าวทิ้งท้าย Allianz Ayudhya World Run Thailand Series 2024 เปิดจำหน่ายบัตรราคา Ealry bird ตั้งแต่วันนี้ – 10 กรกฎาคม 2567 ในราคา 850 บาท สำหรับ การวิ่งฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กิโลเมตร ราคา 650 บาท สำหรับ การวิ่งมินิมาราธอน 10 กิโลเมตร 600 บาท สำหรับ 5 กิโลเมตร พิเศษ! สำหรับนักวิ่งแฟนพันธุ์แท้ ที่เคยร่วมวิ่งกับ Allianz World Run ในระยะ 10 กิโลเมตร และ 21.1 กิโลเมตร รับส่วนลดon top เพิ่มอีก 50 บาท หากคุณเป็นผู้รักสุขภาพ รักการวิ่ง อย่ารอช้า ข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครวิ่งได้ที่ https://race.thai.run/worldrun2024 และสนใจติดตามรายละเอียดงานทั้งหมดได้ที่ Facebook: Worldrun Thailand

05 Jul 2024

Banner Banner Banner

Banner
  ทิศทาง ceothailand.net ในปี 2567  “สื่อออนไลน์ CEO THAILAND”   ในปี 2567 จะเป็นปีที่ผม “นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์” จะมาทำหน้าที่บรรณาธิการบริหารสื่อ CEO THAILAND และผู้บริหารสื่อออนไลน์ ceothailand.net อย่างเต็มที่ หลังจากที่ผ่านมาได้ไปเดินแผนงานทางด้านการเมือง แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงการเลือกตั้งไปแล้วที่ผ่านมา จึงทำให้ช่วงเวลานี้มีเวลาที่จะมาวางแผนในการเดินหน้าธุรกิจสื่อได้มากขึ้น และในช่วงระยะเวลา 1-2 ปีนับจากนี้ จึงขอเข้ามารับหน้าที่สื่อมวลชน ในการเขียนบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ เรื่องราวในแวดวงเศรษฐกิจ-การเงิน และการประกันภัย ในฐานะของคอลัมนิสต์ ตลอดเวลาที่ผมเข้าไปทำงานทางการเมือง ต้องยอมรับว่าวงการข่าวและสื่อสารมวลชนเปลี่ยนไปเร็ว ตลอดเวลา 5 ปี  สื่อออนไลน์ที่รวดเร็วเข้ามาแทนที่สื่อหลักอย่างสื่อสิ่งพิมพ์ (ออฟไลน์)  เราต้องยอมรับในเรื่องความรวดเร็ว แต่ต้องไม่ลืมจุดด้อยของสื่อออนไลน์ คือข้อผิดพลาดในการกลั่นกรองข่าวสาร รวมทั้งบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ที่หายไป และข่าวที่ออกมามีความเหมือนกัน  ไม่แตกต่าง และเป็นเชิงภาพข่าว และกิจกรรมเท่านั้น ดังนั้นในปี 2567 นี้  ในหน้าสื่อออนไลน์ CEO THAILAND ท่านผู้อ่านจะได้สัมผัสกับข่าวสารเชิงวิเคราะห์ เจาะลึกแบบออนไลน์ต่อเนื่องในสื่อ CEO THAILAND รวมทั้งการจัดทำเป็น E-Magazine ใน www.ceothailand.net รวมทั้งการจัดทำเป็นรูปเล่มฉบับพิเศษสลับไปบ้างในเรื่องที่สำคัญๆ น่าสนใจ และเป็นประโยชน์กับประชาชนและสังคม ขอขอบพระคุณท่านลูกค้าและผู้สนับสนุนสื่อด้วยดีเสมอมา ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา และขอขอบพระคุณทุกท่าน รวมทั้งผู้อ่านที่ติดตามสื่อ CEO THAILAND ด้วยดีเสมอมาใน www.ceothailand.net   นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา) บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner