Responsive image

Sunday, 28 Dec 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


TQM อัพเลเวลสู่ “TQMalpha” เดินเกมรุก 3 ธุรกิจแบบครบวงจร ประกัน-การเงิน-เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม ประเดิมธุรกิจใหม่ easy lending เตรียมรุกลงทุนใน Builk สร้างการเติบโตที่ยั่งยืน

Sun 07/08/2565


“TQM” ยกระดับสู่ “TQMalpha” ที่เป็น “มากกว่า” ธุรกิจประกัน รุก 3 กลุ่มธุรกิจ ประกัน การเงิน และเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม มุ่งพัฒนาแบบครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ ผนึกกำลังปลดล็อกทุกข้อจำกัด วางเป้าหมายขยายฐานลูกค้าเพิ่มจาก 4 ล้านรายเป็น 10 ล้านราย ภายใน 5 ปี เดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมลดความเสี่ยงจากความผันผวนทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงรอบด้านที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว

ดร.อัญชลิน พรรณนิภา  ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา ธุรกิจประกันของกลุ่มบริษัท TQM มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ก้าวเป็นผู้นำในตลาดนายหน้าประกันที่ปัจจุบันมีฐานลูกค้ากว่า 4 ล้านราย และมีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าอุตสาหกรรมในภาพรวมทุกปี และจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในหลายด้าน ทำให้ธุรกิจและชีวิตผู้คนมีความเสี่ยงมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสของธุรกิจที่จะปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ในการลดความเสี่ยงลงในทุกด้าน

ดังนั้น TQM จึงจะไม่จำกัดตัวเองอยู่ที่ธุรกิจประกันเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป หากแต่จะนำศักยภาพทางด้านฐานลูกค้า โครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่เตรียมไว้ และความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน  มุ่งดำเนินธุรกิจเชิงรุกขยายสู่ธุรกิจการเงิน เพื่อเป็นเครื่องมือเพิ่มเติมในการลดความเสี่ยงให้กับลูกค้าในอนาคต และธุรกิจเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม ภายใต้ชื่อ TQMalpha” บริษัทเพื่อการลงทุนที่ประกอบไปด้วย 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1.ธุรกิจประกัน 2.ธุรกิจการเงิน 3.ธุรกิจเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม

“TQMalpha จะเข้ามาแทนที่ TQM Corporation เพื่อแสดงเจตนารมณ์ที่จะเป็น “มากกว่า” ธุรกิจประกัน กลายเป็นกลุ่มธุรกิจประกัน การเงิน และเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม เพื่อนำความสะดวก ผลิตภัณฑ์ประกันภัย ประกันชีวิต การเงิน และบริการแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ความสามารถของบุคลากรที่มี และฐานลูกค้าหลายล้านคนที่แข็งแกร่งมาผสมผสานเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในโลกใหม่ เป็นผู้นำในการ “ลดความเสี่ยง” ทางการเงินและชีวิตให้กับลูกค้า ขยายตัวให้ทันเทรนด์หลักที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าให้ได้” ดร.อัญชลิน กล่าว

 

ดร.นภัสนันท์  พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัทโฮลดิ้ง “TQMalpha” ว่า กลุ่มธุรกิจประกัน จะยังขยายงานอย่างแข็งแกร่งและครบวงจร โดยล่าสุดได้ขยายเข้าลงทุนในบริษัท TQR โบรกเกอร์รับประกันภัยต่อ True life โบรกเกอร์ประกันชีวิตแบบกลุ่ม True Extra โบรกเกอร์ประกันภัยแบบกลุ่ม และ TQD ผู้พัฒนาระบบแพลตฟอร์มสนับสนุนงานประกันครบวงจร ส่วนกลุ่มธุรกิจการเงิน ได้ตั้งบริษัท EASY Lending เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล หลังจากเริ่มดำเนินงานก็มีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม จะได้มีการลงนามในสัญญาเพื่อเตรียมเข้าลงทุน 40% ในบริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด (Builk One Group) ทั้งนี้จะเป็นไปตามขั้นตอนกฎระเบียบของหน่วยงานที่กำกับต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเสร็จภายใน 2 เดือน

 

โดย Builk One Group ดำเนินธุรกิจให้บริการและพัฒนาซอฟต์แวร์บริหารธุรกิจสำเร็จรูป รวมถึงบริการอีคอมเมิร์ซสําหรับอุตสาหกรรมก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Construction) และอุตสาหกรรมอื่น (Non-construction) และเป็นหนึ่งในผู้นำการพัฒนาบริการซอฟต์แวร์บริหารธุรกิจ ซึ่งครอบคลุมระบบบริหารทรัพยากรองค์กร (ERP) ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) และบริการซอฟต์แวร์กลุ่ม Construction Technology เพื่อบริหารต้นทุน ระยะเวลา และคุณภาพสำหรับโครงการก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Construction) และโครงการในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น (Non-construction) รวมทั้งการทำ Digital Transformation เชื่อมโยงผู้ที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุตสาหกรรม การลงทุนครั้งนี้เพื่อต่อยอดธุรกิจทางด้านประกันและการเงินบนแพลตฟอร์มของ Builk One Group รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีของบริษัทฯ โดยใช้ความเชี่ยวชาญของ Builk One Group

นอกจากนี้ ยังได้ประกาศเปิดตัว  Surekub ผู้ให้บริการด้าน Digital platform ที่มุ่งทำการตลาดในกลุ่มผู้บริโภค GEN Z ให้บริการด้านผลิตภัณฑ์ประกันภัยในรูปแบบดิจิทัลที่หลากหลาย ให้ลูกค้าได้เลือกใช้บริการได้ตามไลฟ์สไตล์ของตนเอง

         

“TQMalpha จะใช้นโยบายเชิงรุกในการขยายธุรกิจและประสานการให้บริการเป็นหนึ่งเดียว เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้รวดเร็วและตรงความต้องการให้มากที่สุด ขณะที่กลยุทธ์การบริหารธุรกิจจะเป็นการเติบโตแบบยั่งยืนในระยะยาว โดยเน้นการป้องกันความเสี่ยง พร้อมใช้จุดแข็งที่เป็นผู้นำในตลาดนายหน้าประกัน ที่มีฐานลูกค้ากว่า 4 ล้านคน เพื่อขยายไปยังธุรกิจการเงิน และธุรกิจเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่ช่วยเสริมให้สามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้นอีก ประกอบกับ TQMalpha มีพันธมิตรที่เข้าไปร่วมธุรกิจด้วย โดยจะเน้นพันธมิตรที่สามารถเติบโตไปด้วยกัน” 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TQM กล่าวต่อว่า แผนงาน 5 ปี (ปี 2022-2026) ของ TQMalpha  คือ การสร้างมูลค่าของบริษัทจากธุรกิจใหม่ให้มีขนาดทัดเทียมกับธุรกิจประกันเดิมที่ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และสร้างฐานลูกค้าในระบบให้ได้ถึง 10 ล้านราย ผ่าน 3 ธุรกิจข้างต้น รวมถึงขยายฐานสู่ต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยวางเป้าหมายสร้างสัดส่วนรายได้จากธุรกิจประกันที่เป็นธุรกิจหลักอยู่ที่ 50% ของรายได้รวม ขณะที่ธุรกิจการเงินและธุรกิจเทคโนโลยีแพลตฟอร์มจะสร้างรายได้รวมกันในสัดส่วน 50% ของรายได้รวม ซึ่งเชื่อว่าโอกาสการเติบโตของทั้ง 3 ธุรกิจยังมีอยู่สูงมาก แม้แต่ธุรกิจประกันก็ยังเติบโตได้ เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ TQMalpha เติบโตต่อเนื่อง จากเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา มีรายได้รวมสูงถึง 3,427 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 892 ล้านบาท 

“เรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจแบบครบวงจร ตอบโจทย์ของกลุ่มนักลงทุนและผู้ใช้บริการ TQM ที่ไม่จำกัดตัวเองอยู่ที่ธุรกิจประกันเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป หากแต่จะนำศักยภาพทางด้านฐานลูกค้า โครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่เตรียมไว้ และความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน มุ่งทำธุรกิจเชิงรุกเข้าสู่ธุรกิจการเงิน เพื่อเป็นเครื่องมือเพิ่มเติมในการลดความเสี่ยงให้กับลูกค้าในอนาคต และธุรกิจเทคโนโลยีแพลตฟอร์มเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในโลกยุคใหม่ ซึ่งธุรกิจประกันดั้งเดิมไม่อาจตอบสนองได้ครบถ้วน โดยกลุ่มธุรกิจภายใต้โครงสร้างใหม่ของ TQMalpha จะเกิดการทำงานที่ synergy กัน นับเป็นการช่วยปลดล็อกศักยภาพให้เกิดการเติบโตเป็นอย่างมาก” ดร.นภัสนันท์ กล่าวสรุป


Tags : ทีคิวเอ็ม TQM ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น TQMalpha


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น (SOE Awards) ประจำปี 2568 ให้แก่ธนาคารออมสิน โดยมีผู้แทนรับมอบรางวัลได้แก่ รศ.ดร. ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการธนาคารออมสิน พร้อมด้วย นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และผู้บริหาร ซึ่งเป็นปีที่ธนาคารออมสินได้รางวัลในระดับดีเด่นและเกียรติยศ ครบทั้ง 8 ประเภทรางวัลที่ธนาคารได้รับ จัดขึ้นโดยคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2568     นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในปี 2568 นี้ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. ได้พิจารณามอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นแก่ธนาคารออมสิน จำนวน 8 รางวัล ประกอบด้วย 1) รางวัลเกียรติยศรัฐวิสาหกิจยอดเยี่ยม ธนาคารได้รับเป็นปีที่ 3 ต่อเนื่อง โดยเป็นรางวัลที่มอบให้กับรัฐวิสาหกิจที่มีความโดดเด่นและมีมาตรฐานการดำเนินงานทุก ๆ ด้าน สามารถตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของประชาชน     2) รางวัลเกียรติยศคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจดีเด่น ได้รับเป็นปีที่ 3 ต่อเนื่อง จากการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ และผลักดันการบริหารงานให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี 3) รางวัลเกียรติยศการบริหารจัดการองค์กรดีเด่น ได้รับเป็นปีที่ 7 ต่อเนื่อง จากการรักษามาตรฐาน การบริหารจัดการเพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขัน พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำพาองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ   4) รางวัลผู้นำองค์กรดีเด่น ที่มอบให้แก่นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผลงานเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสิน 5) รางวัลการพัฒนาสู่รัฐวิสาหกิจดิจิทัล จากการสร้างสรรค์และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาองค์กร ในมิติต่าง ๆ พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล 6) รางวัลการพัฒนาสู่รัฐวิสาหกิจยั่งยืน จากการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นระบบ จนเกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม     7) รางวัลการดำเนินงานอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น โดยได้รับจากผลงานความสำเร็จของโครงการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบองค์รวม (Holistic Area-Based Development) - โครงการลิบงสุขใจ ออมสินพัฒนา อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 8) รางวัลความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมดีเด่น จากโครงการ GEN AI Branch Assistant : ผู้ช่วยสาขาอัจฉริยะ ที่ธนาคารพัฒนาขึ้นโดยการนำ AI มาใช้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการของสาขา   นับเป็นความภาคภูมิใจและเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของบุคลากรธนาคารออมสินทุกคนในการรักษามาตรฐานการบริหารจัดการองค์กรในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ภายใต้หลักธรรมาภิบาล โปร่งใส และการให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างสมดุล ควบคู่กับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ธนาคารเพื่อสังคม” เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกและความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจและสังคมไทยในระยะยาว    

26 Dec 2025

...

เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมมือกับ เอ ไลฟ์ (ALive Powered by AIA) โดยบริษัท เอไอเอ เวลเนส จำกัด ส่งความห่วงใยถึงคนไทยทั่วประเทศในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2569 มอบแคมเปญ “ฟรี!!! ประกันอุบัติเหตุ กรมธรรม์ประกันภัยอุ่นใจข้ามปี” โดยมอบกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่ (ไมโครอินชัวรันส์) ฟรีให้แก่ประชาชนทั่วไป ระยะเวลาคุ้มครองนาน 30 วัน ด้วยวงเงินคุ้มครองชีวิตสูงถึง 100,000 บาทต่อกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ พร้อมรับผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุตามจำนวนที่จ่ายจริงสูงสุด 5,000 บาท* เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีหลักประกันความคุ้มครองอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมเพิ่มความอุ่นใจสำหรับการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาเพื่อไปฉลองกับครอบครัว ซึ่งแคมเปญดังกล่าวยังเป็นการขานรับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) อีกทั้งยังสานต่อพันธกิจของเอไอเอที่ต้องการสนับสนุนให้ผู้คนกว่าพันล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives ทั้งนี้ สำหรับประชาชนทุกคนที่สนใจขอรับกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มฟรี สามารถลงทะเบียนรับสิทธิออนไลน์ได้ง่าย ๆ เพียงไปที่เว็บไซต์ https://aiathailand.info/panyPR  ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2568 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2569   หมายเหตุ: *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัท เอไอเอ เวลเนส จำกัด กำหนด

20 Dec 2025

...

รายงานข่าวจากธนาคารออมสิน ขอเชิญชวนผู้ประกอบการร้านค้า ประเภทบุคคลธรรมดา ที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” และยังไม่ได้ลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Smart Finance Upskill ขอให้เร่งสมัครผ่านเว็บไซต์ของธนาคารออมสิน www.gsb.or.th ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากขณะนี้เหลือเวลาเพียง 4 วันสุดท้าย ที่สามารถลงทะเบียนและเรียนให้จบหลักสูตร เพื่อรับสิทธิ์เงินสนับสนุนจากภาครัฐ นับจากวันที่พัฒนาทักษะสำเร็จจนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 สูงสุดไม่เกินรายละ 2,000 บาท หลักสูตร Smart Finance Upskill การพัฒนาความรู้ทางการเงินเพื่อร้านค้ารายย่อยโครงการคนละครึ่ง พลัสเป็นการเรียนออนไลน์กับธนาคารออมสิน ภายใต้โครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย ประเภทบุคคลธรรมดา มุ่งเสริมทักษะทางการเงินที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจ ครอบคลุมการทำบัญชี การคิดต้นทุน การตั้งราคาขาย และความรู้ก่อนยื่นขอกู้ ผู้ที่เรียนจบและผ่านเกณฑ์ จะได้รับประกาศนียบัตรและรับสิทธิ์เงินสนับสนุนจากภาครัฐตามเงื่อนไขที่กำหนด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Smart Finance Upskill และข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโครงการ Upskill/Reskill คนละครึ่ง พลัส ที่ GSB Contact Center โทร. 1115 กด 7

19 Dec 2025

...

ธ.ก.ส. เร่งให้ความช่วยเหลือทหาร และ ตชด. วีรบุรุษผู้เสียสละชีวิต จากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศไทย – กัมพูชา โดยให้ความช่วยเหลือกับทหาร และ ตชด. ที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. รวมถึงให้ความช่วยเหลือบิดา - มารดา หรือคู่สมรสที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ของวีรบุรุษผู้เสียสละชีวิต โดยยกหนี้ในส่วนของต้นเงินกู้ทุกสัญญา และยกหนี้ในส่วนของดอกเบี้ยทั้งจำนวน ภายใต้สัญญาที่ใช้แหล่งเงินทุน ธ.ก.ส. เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ลูกหนี้ และลดภาระให้สามารถดำรงชีพต่อไปได้อย่างมั่นคง นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชาได้กลับมาตึงเครียดในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี ตราด และสระแก้ว ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของเกษตรกรลูกค้าของธนาคาร โดยปัจจุบันมีทหารที่เป็นสมาชิกครอบครัวของลูกค้า ธ.ก.ส. เสียชีวิต และเพื่อให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ลูกค้า ธ.ก.ส. และเป็นการลดภาระเพื่อให้สามารถดำรงชีพต่อไปได้อย่างมั่นคง คณะกรรมการธนาคาร โดย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ ธ.ก.ส. ได้มีมติในการประชุมวันนี้ (9 ธันวาคม 2568) ให้ความช่วยเหลือลูกค้า กรณีทหาร หรือตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศไทย – กัมพูชา ที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. รวมถึงให้ความช่วยเหลือแก่บิดา มารดา หรือคู่สมรสที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ของวีรบุรุษผู้เสียสละชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยธนาคารจะยกหนี้ในส่วนของต้นเงินกู้ทุกสัญญา และยกหนี้ในส่วนของดอกเบี้ยค้างรับและดอกเบี้ยปรับทั้งจำนวน ภายใต้สัญญาที่ใช้แหล่งเงินทุน ธ.ก.ส. เป็นกรณีพิเศษ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้ให้ความช่วยเหลือครอบครัวทหารไปแล้ว จำนวน 7 ราย ธ.ก.ส. ขอแสดงความห่วงใยต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา คนข้างหลังไม่ต้องกังวล ธ.ก.ส. อยู่เคียงข้างและพร้อมก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ Call Center 02 555 0555 ตลอด 24 ชั่วโมง  

14 Dec 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner