Responsive image

Monday, 11 Nov 2024

หน้าแรก > ECONOMY-FINANCE/เศรษฐกิจ-การเงิน


ธอส. ฉลองครบรอบการดำเนินงาน 69 ปี ยอดสินเชื่อปล่อยใหม่ 9 เดือนแรกทะลุ 2 แสนล้านบาท

Mon 03/10/2565


ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ครอบรอบวันสถาปนา 69 ปี ในการเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4 ล้านครอบครัว ล่าสุด ณ วันที่ 21 กันยายน 2565 ปล่อยสินเชื่อได้สูงถึง 198,080 ล้านบาท คิดเป็น 87.48% ของเป้าหมายสินเชื่อใหม่ปี 2565 คาดถึงสิ้นเดือนกันยายนปล่อยสินเชื่อเกิน 2 แสนล้านบาท และยืนยันพร้อมตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บ้านไว้ให้นานที่สุดอย่างน้อยถึงสิ้นปี 2565

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า วันที่ 24 กันยายน 2565  เป็นวันครบรอบ 69 ปีในการดำเนินงานของ ธอส. สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” และมีบทบาทในการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ผ่านการปล่อยสินเชื่อให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4 ล้านครอบครัว เช่นเดียวกับในปี 2565 ที่เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องภายหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง ธอส.ได้มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ โดย ณ วันที่ 21 กันยายน 2565 สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้แล้วกว่า 198,080 ล้านบาท จำนวน 154,783 บัญชี คิดเป็น 87.48% ของเป้าหมายสินเชื่อใหม่ ในปี 2565 ที่ตั้งไว้ที่ 226,423 ล้านบาท และคาดว่า ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 จะสามารถปล่อยสินเชื่อได้เกิน 200,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน ซึ่งถือเป็นความสำเร็จจากการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ด้านการขยายสินเชื่อที่อยู่อาศัยแก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย (Social Solution) และกลุ่มรายได้ปานกลางถึงสูง (Business Solution) ด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลาย ขณะที่ยอดสินเชื่อรวม ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2565 อยู่ที่ 1,548,451 ล้านบาท  มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) คิดเป็น 4.41% ของสินเชื่อรวม ปัจจุบัน ธอส. ยังมีสภาพคล่องเพียงพอเพื่อปล่อยสินเชื่อใหม่ได้อย่างต่อเนื่องโดยคาดว่า ณ สิ้นปี 2565 จะปล่อยได้ไม่น้อยกว่า 280,000 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% สู่ระดับ 3.00%-3.25% ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (21 ก.ย. 65) นั้น ธอส. ยังยืนยันว่า พร้อมตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บ้านไว้ให้นานที่สุดอย่างน้อยถึงสิ้นปี 2565 เพื่อแบ่งเบาภาระและให้เวลาลูกค้าในการปรับตัว ซึ่งจะทำให้กระทบต่อต้นทุนของธนาคารเพิ่มขึ้นประมาณ 1,000 ล้านบาท

 

นอกจากนี้ ธอส. ยังมีการปรับปรุงรูปแบบธุรกิจรองรับพฤติกรรมลูกค้าหลังสถานการณ์ COVID-19 ด้วยการพัฒนาการให้บริการด้านดิจิทัล เพื่อไปสู่เป้าหมายการเป็น Digital Bank อย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2565 ไม่ว่าจะเป็น

Application : GHB ALL GEN : Generation ไหนก็ใช้ได้ แอปเดียวครบ จบทุกเรื่อง!! Application ใหม่ของ ธอส. ที่พัฒนาต่อยอดจาก  Application : GHB ALL เพื่อให้มีความทันสมัย ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ Lifestyle แบบ New Normal ของลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย รวบรวมบริการสำคัญสำหรับลูกค้า ธอส. อาทิ การยื่นขอสินเชื่อ ชำระหนี้เงินกู้ ดูใบเสร็จ โอนเงิน เปิดบัญชี และซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. เป็นต้น โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบใช้งานจริงภายในเฟสที่ 1 กับพนักงานของธนาคารทั้งหมด เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเริ่มเปิดให้ลูกค้าประชาชนสามารถดาวน์โหลดใช้งานได้ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป

โครงการจัดเก็บ Electronic File แทนเอกสารสิทธิ์ต้นฉบับ (ธนาคารไม่เก็บโฉนด) : โดยลูกค้าสามารถรับโฉนดที่ดินหรือหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุดฉบับจริงกลับบ้านได้ทันทีในวันที่ทำนิติกรรมการโอนและจดจำนองที่สำนักงานที่ดิน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการเก็บโฉนดที่ดินหรือหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ฉบับจริงไว้กับตัวเองด้วยความภูมิใจและความสุขที่ได้มีบ้าน โดย ธอส. ถือเป็นธนาคารแห่งแรกที่จัดเก็บโฉนดที่ดินหรือหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุดในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์แทนเอกสารสิทธิ์ต้นฉบับ ปัจจุบันมีลูกค้ากลุ่มสวัสดิการที่ทำนิติกรรมหลังวันที่ 24 มิถุนายน 2565 ได้รับโฉนดตัวจริงกลับบ้านแล้วจำนวน 26,766 ราย และจะขยายสู่กลุ่มลูกค้ารายย่อยทั่วไปที่ทำนิติกรรมกับธนาคารตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2565 เป็นต้นไป   

บริการโอนเงินกู้เข้าบัญชีเงินฝากผู้ประกอบการแทนการจัดทำแคชเชียร์เช็ค : บริการที่เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า โดยช่วยลดขั้นตอนและประหยัดเวลาให้กับผู้ขายสามารถรับเงินผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีแทน โดยไม่ต้องเดินทางไปสาขาของธนาคารเพื่อนำแคชเชียร์เช็คที่ได้รับจากธนาคารไปขึ้นเงินเหมือนที่ผ่านมา โดยเริ่มดำเนินการเฟสแรกแล้วตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2565 โดยมีผู้กระกอบการอสังหาริมทรัพย์เข้าร่วมเพื่อรับเงินด้วยการโอนเงินแล้วจำนวน 22 บริษัท 76 โครงการทั่วประเทศ

และในโอกาสครบรอบ 69 ปี ธอส. ยังได้เปิดตัว “พี่โฮม” ในฐานะ Virtual Influencer คนแรกของ ธอส. ชายหนุ่มอารมณ์ดี อบอุ่น ยิ้มง่าย ชอบศึกษาหาความรู้ โดยเฉพาะในเรื่องที่อยู่อาศัย การลงทุน และการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน พร้อมที่จะให้คำปรึกษา และมอบความช่วยเหลือให้กับทุกคนที่อยากมีบ้านด้วยความเต็มใจ เพราะเค้ารู้ดีว่าการมีบ้านคือความสุขของคนทุกคน โดยสามารถติดตาม “พี่โฮม” ได้ที่ช่องทางออนไลน์ของธนาคารสำหรับผู้ที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL และ www.ghbank.co.th


Tags : ธอส ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ฉัตรชัยศิริไล ธอส.ครบรอบ69ปี ธอส.ปล่อยสินเชื่อปี2565


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการ SMEs และลูกค้ารายย่อย หรือผู้ประกอบการอิสระที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยที่ผ่านมา สามารถยื่นขอกู้ในโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) GSB Boost Up ได้ที่ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ อาทิ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และสถาบันการเงินอื่น ๆ ที่เข้าร่วมโครงการ รวมทั้งสิ้น 16 แห่ง โดยทุกสถาบันการเงินได้ร่วมกันขยายความช่วยเหลือแก่ภาคธุรกิจเป็นวงกว้างและทั่วถึงมากที่สุด ผ่านการให้สินเชื่อครอบคลุมผู้ประกอบการ SMEs และรายย่อย ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำไม่เกิน 3.5% ต่อปี ใน 2 ปีแรก สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ให้กู้เพื่อการลงทุนในทรัพย์สินถาวร หรือเสริมสภาพคล่องในการดำเนินกิจการ ที่ไม่ใช่การรีไฟแนนซ์ ยื่นกู้ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง วันที่ 30 ธันวาคม 2568 สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ลูกค้ารายย่อย หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ประสบอุทกภัย ให้กู้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเสริมสภาพคล่องในการฟื้นฟูการดำเนินกิจการ ยื่นกู้ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง วันที่ 30 ธันวาคม 2567 นี้เท่านั้น อนึ่ง โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) GSB Boost Up เป็นการดำเนินตามนโยบายรัฐบาล เพื่อสนับสนุนแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำให้แก่ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ นำไปปล่อยสินเชื่อต่อให้กับผู้ประกอบการ โดยให้กู้ตามความจำเป็นและความสามารถในการชำระหนี้ กำหนดวงเงินกู้สูงสุดรวมทุกสถาบันการเงินไม่เกิน 40 ล้านบาทต่อราย วงเงินกู้รวมในโครงการ 100,000 ล้านบาท เพื่อช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเติบโตไปอย่างยั่งยืน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารออมสินและสถาบันการเงินทุกแห่งที่ร่วมโครงการ

08 Nov 2024

...

  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดกิจกรรมพิเศษ ในโอกาสครบรอบวันสถาปนา ธ.ก.ส. ปีที่ 59 เพื่อเพิ่มโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถซื้อสินค้าเกษตรกรได้มากขึ้น พร้อมกับร่วมเป็นกำลังใจให้แก่เกษตรกรวิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ SME ในการผลิตสินค้าคุณภาพเพื่อต่อยอดโอกาสทางธุรกิจของภาคเกษตรไทยไปสู่สากล โดยมอบโค้ด “BAAC59” สำหรับเป็นส่วนลดพิเศษจำนวน 590 บาท เมื่อสั่งซื้อสินค้า ผลิตภัณฑ์จากเกษตรกรลูกค้าของ ธ.ก.ส. บนเว็บไซต์ thailandpostmart.com รวมขั้นต่ำ 1,000 บาท โดย 1 บัญชี ผู้ซื้อที่ลงทะเบียนเข้าใช้บริการทางเว็บไซต์ดังกล่าว สามารถใช้โค้ดส่วนลดได้ 1 ครั้ง จำกัดสำหรับ 59 สิทธิ์ท่านแรกที่ใช้  ส่วนลด ระหว่าง 1-30 พฤศจิกายนนี้เท่านั้น ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center  02 555 0555     

04 Nov 2024

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รับ 3 รางวัลสุดยอดซีอีโอ “CEO Econmass Awards 2024” จากนางสาวเเพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประธานมอบรางวัลสุดยอดซีอีโอ “CEO Econmass Awards 2024” ซึ่งสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3   โดยรางวัลที่ได้รับ ประกอบด้วย รางวัลสุดยอดซีอีโอรัฐวิสาหกิจ สาขา Social และสาขา Governance และรางวัลสุดยอดซีอีโอขวัญใจสื่อมวลชน (Popular Vote) ด้วยนายวิทัยเป็นผู้บริหารสูงสุดขององค์กรรัฐวิสาหกิจที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในการขับเคลื่อนธนาคารออมสินด้วยยุทธศาสตร์ธนาคารเพื่อสังคม สร้าง Social Impact อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยหลักธรรมาภิบาลในการนำองค์กร ทั้งนี้ รางวัล CEO Econmass Awards 2024 เป็นรางวัลที่ยกย่อง เชิดชูเกียรติผู้บริหารที่นำพาองค์กรจนประสบความสำเร็จ และเติบโตไปพร้อมกับการให้ความสำคัญกับความอย่างยั่งยืน ตามแนวทาง ESG     ตลอดจนเป็นส่วนสำคัญที่จะเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศ และช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง ซึ่งผ่านกระบวนการคัดเลือกตามหลักวิชาการที่เป็นมาตรฐานสากล จากคณะกรรมการคัดเลือกที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ เป็นตัวแทนจาก กกร. สคร. มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน ส่วนรางวัลสุดยอดซีอีโอขวัญใจสื่อมวลชน เป็นการโหวตโดยสมาชิกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ โดยมีผู้บริหารธนาคารออมสินร่วมแสดงความยินดี ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567  

03 Nov 2024

...

  นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายเร่งรัดการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนในการช่วยเหลือประชาชนลดภาระหนี้ โดยเฉพาะผู้มีหนี้ที่เป็นกลุ่มเปราะบาง จึงมอบหมายให้ธนาคารออมสินช่วยเหลือลูกหนี้โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) ที่มีสถานะเป็นหนี้เสีย หรือ NPLs เพื่อไม่ให้เสียประวัติเครดิต และเข้าถึงการกู้เงินในระบบสถาบันการเงินได้เป็นปกติ ซึ่งที่ผ่านมาได้ทยอยจัดสรรงบประมาณชดเชยค่าเสียหายจากหนี้เสียให้ธนาคารมาชำระหนี้แทนลูกหนี้ โดยในปี 2567 ดำเนินการชำระหนี้แทนลูกหนี้แล้ว 2 ครั้ง ช่วยปลดหนี้ให้ลูกหนี้จำนวนกว่า 720,000 ราย และล่าสุด ธนาคารได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจากรัฐบาล จึงดำเนินการชำระหนี้และปิดบัญชีให้ลูกหนี้เพิ่มเติมทันที อีกกว่า 110,000 ราย รวมดำเนินการทั้งสิ้น 3 ครั้ง สามารถปลดหนี้ให้ลูกหนี้ได้แล้วกว่า 830,000 ราย คิดเป็นมูลค่าเงินต้นรวมกว่า 5,800 ล้านบาท ทั้งนี้ ขอขอบคุณรัฐบาลที่ได้สนับสนุนงบประมาณให้ดำเนินการดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลังที่ให้ธนาคารออมสินดำเนินงานโดยไม่เน้นกำไรสูงสุด มีกำไรในระดับที่เหมาะสม (Responsible Profit) และขยายการช่วยเหลือสังคมได้มากขึ้นในทุกมิติ อนึ่ง มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้สถานะ NPLs ของโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 ซึ่งเป็นการช่วยเหลือที่ดำเนินการเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เสียวินัยทางการเงิน โดยรัฐบาลมีนโยบายผลักดันการแก้ปัญหาหนี้ประชาชนทุกกลุ่มให้ประสบความสำเร็จและยั่งยืนเป็นวาระแห่งชาติ  

30 Oct 2024

Banner Banner Banner Banner

Banner
  ทิศทาง ceothailand.net ในปี 2567  “สื่อออนไลน์ CEO THAILAND”   ในปี 2567 จะเป็นปีที่ผม “นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์” จะมาทำหน้าที่บรรณาธิการบริหารสื่อ CEO THAILAND และผู้บริหารสื่อออนไลน์ ceothailand.net อย่างเต็มที่ หลังจากที่ผ่านมาได้ไปเดินแผนงานทางด้านการเมือง แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงการเลือกตั้งไปแล้วที่ผ่านมา จึงทำให้ช่วงเวลานี้มีเวลาที่จะมาวางแผนในการเดินหน้าธุรกิจสื่อได้มากขึ้น และในช่วงระยะเวลา 1-2 ปีนับจากนี้ จึงขอเข้ามารับหน้าที่สื่อมวลชน ในการเขียนบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ เรื่องราวในแวดวงเศรษฐกิจ-การเงิน และการประกันภัย ในฐานะของคอลัมนิสต์ ตลอดเวลาที่ผมเข้าไปทำงานทางการเมือง ต้องยอมรับว่าวงการข่าวและสื่อสารมวลชนเปลี่ยนไปเร็ว ตลอดเวลา 5 ปี  สื่อออนไลน์ที่รวดเร็วเข้ามาแทนที่สื่อหลักอย่างสื่อสิ่งพิมพ์ (ออฟไลน์)  เราต้องยอมรับในเรื่องความรวดเร็ว แต่ต้องไม่ลืมจุดด้อยของสื่อออนไลน์ คือข้อผิดพลาดในการกลั่นกรองข่าวสาร รวมทั้งบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ที่หายไป และข่าวที่ออกมามีความเหมือนกัน  ไม่แตกต่าง และเป็นเชิงภาพข่าว และกิจกรรมเท่านั้น ดังนั้นในปี 2567 นี้  ในหน้าสื่อออนไลน์ CEO THAILAND ท่านผู้อ่านจะได้สัมผัสกับข่าวสารเชิงวิเคราะห์ เจาะลึกแบบออนไลน์ต่อเนื่องในสื่อ CEO THAILAND รวมทั้งการจัดทำเป็น E-Magazine ใน www.ceothailand.net รวมทั้งการจัดทำเป็นรูปเล่มฉบับพิเศษสลับไปบ้างในเรื่องที่สำคัญๆ น่าสนใจ และเป็นประโยชน์กับประชาชนและสังคม ขอขอบพระคุณท่านลูกค้าและผู้สนับสนุนสื่อด้วยดีเสมอมา ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา และขอขอบพระคุณทุกท่าน รวมทั้งผู้อ่านที่ติดตามสื่อ CEO THAILAND ด้วยดีเสมอมาใน www.ceothailand.net   นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา) บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner