Responsive image

Wednesday, 09 Jul 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


อลิอันซ์ อยุธยา เปิดตัวผู้ชนะ หุ่นสวยสุขภาพดี โครงการ Allianz Ayudhya Healthy Champion Challenge 2022

Mon 21/11/2565


บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ตอกย้ำผู้นำประกันชีวิตและสุขภาพ เปิดตัวผู้ชนะจากกิจกรรม Allianz Ayudhya Healthy Champion Challenge 2022 โดยผู้ชนะเลิศสามารถลดน้ำหนักได้สูงถึง 14 กิโลกรัม ภายใน 60 วัน พร้อมคะแนนชี้วัดการมีสุขภาพดี และฟิตหุ่นสวยได้ตามเป้าหมาย รับรางวัลรวมมูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท

พัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานบริหารงานลูกค้า บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า กิจกรรม Allianz Ayudhya Healthy Champion Challenge 2022 ดำเนินมาเป็นเวลารวม 60 วัน มีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 380 คน ชาย 146 คน หญิง 234 คน โดยตลอดระยะเวลาในการดำเนินโครงการ มีกิจกรรมลดไขมันเพื่อสร้างสุขภาพดีอย่างต่อเนื่องซึ่งช่วยกระตุ้นให้หลายคนเริ่มดูแลตัวเองอย่างจริงจัง มีวินัยในการเลือกรับประทานอาหารและออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญเมื่อเกิดผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างที่ดีและตัวชี้วัดทางสุขภาพที่ดี จะเป็นกำลังใจให้แต่ละท่านทำอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นนิสัย และสามารถสร้างสุขภาพที่ดีได้ในระยะยาว อลิอันซ์ อยุธยา ขอแสดงความยินดีกับผู้ร่วมโครงการที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพราะนอกจากจะรับรางวัลใหญ่คือสุขภาพที่ดีแล้ว ยังได้รับรางวัลเป็นเงินสด คอร์สฟิตหุ่นกับโค้ชจัน และแพ็คแกจตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลพญาไทอีกด้วย”

กิจกรรม Allianz Ayudhya Healthy Champion Challenge 2022 เป็นกิจกรรมการแข่งขันลดน้ำหนัก เพื่อสุขภาพที่ดี โดยเชิญชวนชวนลูกค้าประกันชีวิตและลูกค้าประกันภัยทั่วประเทศ อายุระหว่าง 25-60 ปี มีน้ำหนักตั้งแต่ 60 กิโลกรัมขึ้นไป ร่วมภารกิจลดไขมัน ฟิตร่างกาย คืนสู่ความสุขภาพดีใน 60 วัน เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าใส่ใจดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธี และเสริมสร้างสุขภาวะอย่างยั่งยืน โดยมี โค้ชจัน อานันท์  อภินันทน์ เทรนเนอร์ระดับซูเปอร์สตาร์ เป็นผู้ดูแลการลดน้ำหนักอย่างใกล้ชิดตลอด 60 วัน ซึ่งภาพรวมของการแข่งขันเป็นที่น่าพอใจ  โดยสามารถลดน้ำหนัก และดัชนี มวลกายได้ทุกคน มากน้อยแตกต่างกันไป แต่ถือว่าทุกคนได้หันมาใส่ใจดูแลตัวเองและใช้ความรู้จากการร่วมกิจกรรมไปใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ น้ำหนักเฉลี่ยต่อคน ลดลง จาก 75.6 เหลือ 60.5 กิโลกรัม รอบเอวเฉลี่ยต่อคน ลดลง จาก 90.2 เหลือ 83 เซนติเมตร ดัชนีมวลกาย (BMI) เฉลี่ยต่อคนลดลง จาก 27.8 เหลือ 24 ที่สำคัญทุกท่านมีสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากการทำภารกิจประจำวัน และประจำสัปดาห์ ออกกำลังกายตามที่ได้รับมอบมาย ทานอาหารถูกโภชนาการ ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่างๆก็ลดลงไปด้วย เรียกได้ว่าครบวงจร ทุกมิติของการดูแลสุขภาพ ถือว่าเป็นโครงการเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง

 

แชมป์คนรุ่นใหม่สุขภาพดีแห่งปี Allianz Ayudhya Healthy Champion Challenge 2022 Champion

 ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท พร้อมการันตีสุขภาพดีขึ้นเป็นรางวัลใหญ่  โดย

  •   ได้แก่ คุณนงนุช โกสียรัตน์
  • ลดน้ำหนักได้ถึง 14 กิโลกรัม (จาก 72 กิโลกรัม ลดลงเหลือ 58 กิโลกรัม)
  • รอบเอวลดลงถึง 15 ซม. (จาก 87 ซม. เหลือ 72 ซม.) 

ดัชนีมวลกายลดลงจาก 27.10 เหลือ 21.83 จะได้รับถ้วยรางวัล ประกาศนียบัตร เงินสดมูลค่า 30,000 บาท พร้อมคอร์สเทรนส่วนตัวกับโค้ชจัน 10 ครั้ง มูลค่า 30,000 บาท และ แพ็คแกจตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลพญาไท 3 มูลค่า 5,000 บาท  และ กระเป๋าเดินทางจาก BDMS  มูลค่า 2,990 บาท

 

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1  ได้แก่ คุณพิตรพิบูล นัยเกตุ

  • ลดน้ำหนักได้ถึง 13 กิโลกรัม (จาก 85 กิโลกรัม ลดลงเหลือ 72 กิโลกรัม)
  • รอบเอวลดลงถึง 12 ซม. (จาก 90 ซม. เหลือ 78 ซม.) 
  • ดัชนีมวลกายลดลงจาก 26.23 เหลือ 22.22  จะได้รับประกาศนียบัตร  รางวัลเงินสดมูลค่า 20,000 บาท แพ็คแกจตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลพญาไท 3 มูลค่า 4,000 บาท  และ กระเป๋าเดินทางจาก BDMS  มูลค่า 2,990 บาท

 

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2  ได้แก่ คุณสุรชัช สุทัศน์

  • ลดน้ำหนักได้ถึง 11.51 กิโลกรัม (จาก 78.28 กิโลกรัม ลดลงเหลือ 66.77กิโลกรัม)
  • รอบเอวลดลงถึง 9 ซม. (จาก 90 ซม. เหลือ 81 ซม.) 
  • ดัชนีมวลกายลดลงจาก 28.07 เหลือ 23.94 จะได้รับประกาศนียบัตร  รางวัลเงินสดมูลค่า 10,000 บาท

แพ็คแกจตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลพญาไท 3 มูลค่า 3,000 บาท  และ กระเป๋าเดินทางจาก BDMS  มูลค่า 2,990 บาท

Active Awards สำหรับนักเรียนดีเด่น ที่มีความขยัน ส่งภารกิจและร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง จำนวน 10รางวัลได้แก่ คุณ ณฐิตา จูเจริญ, คุณสุมัทรช เดโชสวัสดิ์เพชร, คุณ ภรภาดา รัตนนิธิ, คุณ เกียรติวุฒิ ประเสริฐสุข, คุณ อภินัทธ์ กสิพล, คุณ ปิ่นแก้ว แสงจันทร์, คุณ ไพรัตน์ อ้วนศรีสุวรรณ, คุณ จินดาวิทย์ อิสสระโชติ, คุณ ฐิตา สุทธิสา และ คุณธนานุช สีลาเม ซึ่งจะได้รับ Central Gift Card มูลค่า 1,000 บาท

นอกจากนี้ยังมีในวันงาน จัดให้มีรางวัล Lucky draw 20 รางวัล อาทิ ครอสเทรนส่วนตัวกับโค้ชจัน เสื้อ  Hoodie Olympic บัตรกำนัลเซ็นทรัล บัตรกำนัล Chester’s แก้วน้ำ  ตุ๊กตาหมีสุดน่ารัก เป็นต้น

“ผู้ร่วมกิจกรรมนี้ทุกคนได้เริ่มต้นทำสิ่งดีดีให้กับตนเองแล้ว โดยเฉพาะการออกกำลังกายและการกินอาหารที่มีประโยชน์ ที่ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดูแลตนเอง อลิอันซ์ อยุธยา ขอเป็นกำลังใจให้ทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืนในระยะยาว โดยเราจะมุ่งสร้างสรรค์กิจกรรมที่จะเป็นแรงบันดาลใจในการกระตุ้นให้คนไทย ดูแลตัวเอง ฟิตร่างกาย เพื่อการมีสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน” พัชรา กล่าวทิ้งท้าย


Tags : อลิอันซ์ อยุธยา พัชรา ทวีชัยวัฒนะ โครงการ Allianz Ayudhya Healthy Champion Challenge 2022 อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

  นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เห็นชอบให้ธนาคารออมสินจัดทำมาตรการแก้ไขหนี้รายย่อยในโครงการของรัฐบาลที่ออกมาช่วยประชาชนในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อรายย่อยไม่มีหลักประกัน ที่มีสถานะหนี้เสีย (NPLs) จำนวนรวมกว่า 500,000 บัญชี ให้สามารถหลุดพ้นจากประวัติหนี้เสีย โดยธนาคารจะดำเนินการทันทีเพื่อที่ในอนาคตลูกหนี้จะมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้เร็วขึ้นเมื่อมีความจำเป็น โดยแบ่งการดำเนินการเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ดำเนินการปิดบัญชีหนี้ ตัดหนี้สูญ และไม่ติดตามหนี้ ของลูกหนี้ NPLs จำนวนกว่า 200,000 บัญชี ในโครงการสินเชื่อตามนโยบายรัฐที่ได้รับงบประมาณชดเชยแล้ว ระยะที่ 2 ธนาคารจะทยอยดำเนินการปิดบัญชีหนี้แก่ลูกหนี้ NPLs โครงการสินเชื่อสู้ภัย COVID-19 จำนวนกว่า 300,000 บัญชี ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2568 ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมาธนาคารได้จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยสำหรับมาตรการปลดหนี้สินเชื่อตามโครงการของรัฐบาลที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้แล้วเป็นจำนวนกว่า 1.3 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดหนี้รวมกว่า 11,000 ล้านบาท โดยธนาคารออมสินสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้รายย่อย และช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางให้สามารถประคับประคองสถานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวให้เดินต่อได้ มุ่งเน้นดำเนินการเพียงครั้งเดียวเพื่อไม่ให้ลูกหนี้ต้องเสียวินัยทางการเงิน และยังสามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินได้อีกในอนาคต  

07 Jul 2025

...

    สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้ปรับปรุงแนวทางการคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัยสำหรับสัญญาประกันภัยระยะสั้น พร้อมทั้งทบทวนหลักเกณฑ์การคำนวณเงินกองทุนด้านความเสี่ยง เพื่อยกระดับความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันภัยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยมุ่งเน้นการพิจารณาข้อมูลในระดับประเภทการรับประกันภัยแทนการพิจารณาภาพรวมทั้งบริษัท เพื่อให้การประเมินภาระผูกพันและการจัดสรรเงินกองทุนมีความละเอียด แม่นยำ และสอดคล้องกับลักษณะความเสี่ยงที่แท้จริงยิ่งขึ้น โดยระหว่างวันที่ 6-21 มีนาคม 2568 สำนักงาน คปภ. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจและผู้เกี่ยวข้อง และจัดการประชุมชี้แจงไปเมื่อวันที่ 10-11 มีนาคม 2568 รวมทั้งได้จัดการประชุมกลุ่มย่อยเชิงเทคนิค (Focus Group) เสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 เพื่อรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ทั้งนี้ ในการประชุมฯ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงประกาศที่เกี่ยวข้องกับสำรองเบี้ยประกันภัย ได้แก่ 1. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการส่งรายงานประจำปีการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันวินาศภัย 2. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการส่งรายงานประจำปีการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต และ 3. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดประเภทและชนิดของเงินกองทุน รวมทั้งหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคำนวณเงินกองทุนของบริษัทประกันวินาศภัย สำหรับหลักการที่ได้มีการปรับปรุง คือ ปรับปรุงวิธีการคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัย และเงินกองทุนสำหรับความเสี่ยงจากสำรองเบี้ยประกันภัย จากเดิม พิจารณาที่ระดับผลรวมทั้งหมดของสัญญาประกันภัยระยะสั้น เปลี่ยนเป็น พิจารณาที่ระดับประเภทการรับประกันภัย  ซึ่งสำนักงาน คปภ. จะเผยแพร่ประกาศอย่างเป็นทางการในลำดับถัดไป เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกำหนดในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ดังนั้น บริษัทประกันภัยและผู้ที่เกี่ยวข้อง ควรเตรียมความพร้อมในการดำเนินการ เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ใหม่ได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่วันเริ่มมีผลบังคับใช้

07 Jul 2025

...

  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  ร่วมงาน “มหกรรมการเงินหาดใหญ่” ครั้งที่ 15 (MONEY EXPO 2025 HATYAI) ระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคม 2568 ณ บูธ F3 หาดใหญ่ฮอลล์ ชั้น 5 เซ็นทรัล หาดใหญ่ จ.สงขลา ยกขบวนผลิตภัณฑ์สินเชื่อครอบคลุมทุกกลุ่ม ตอบโจทย์ทุกความต้องการผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไฮไลท์ คือ สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่มและทุกความต้องการเอสเอ็มอีไทย ควบคู่บริการพัฒนาธุรกิจ ผ่านแพลตฟอร์ม “DX by SME D Bank” (dx.smebank.co.th)   ช่วยเสริมศักยภาพกิจการ ครบถ้วนในจุดเดียว ห้ามพลาด! พิเศษเฉพาะภายในงาน เมื่อยื่นขอสินเชื่อ และได้รับอนุมัติทุกวงเงิน รับโปรโมชันเสริมอีก 2 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 : ลดค่าธรรมเนียมวิเคราะห์สินเชื่อ (Front End Fee) สูงสุด 0.25% และต่อที่ 2 : รับบัตรกำนัล มูลค่า 500 บาท พร้อมเล่นเกม ลุ้นรับของที่ระลึกมากมาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

03 Jul 2025

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารประสบความสำเร็จได้รับรางวัลระดับเอเชีย Asia Responsible Enterprise Awards (AREA) 2025 สาขา Social Empowerment จาก MyMo Secure Plus นวัตกรรมความปลอดภัยบน Mobile Banking ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากภัยไซเบอร์ให้ลูกค้า บูรณาการร่วมกับ แคมเปญเตือนภัยมิจฉาชีพ เพื่อสื่อสารสร้างการรับรู้และเสริมภูมิคุ้มกันภัยทางการเงิน พร้อมกันนี้ ธนาคารออมสินยังได้รับรางวัลเกียรติคุณ Silver Emblem of Sustainability ในฐานะองค์กรที่มีความโดดเด่นและมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนในทุกมิติจนได้รับรางวัล AREA มาแล้ว 5 ปี จาก Enterprise Asia องค์กรพัฒนาเอกชนชั้นนำที่ส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการที่มีความรับผิดชอบในเอเชีย เพื่อเชิดชูและให้เกียรติองค์กรธุรกิจที่มีการดำเนินงานตามแนวทาง ESG และเป็นต้นแบบองค์กรชั้นนำในภูมิภาคเอเชียที่ขับเคลื่อนองค์กรสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ     ธนาคารออมสินถือเป็นธนาคารแรกที่พัฒนาโหมดปลอดมิจฉาชีพ ภายใต้ชื่อ MyMo Secure Plus เพื่อช่วยดูแลเงินฝากขั้นสูงสุดให้กับลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มที่ไม่รู้เท่าทันมิจฉาชีพที่เปลี่ยนรูปแบบการหลอกลวงตลอดเวลา ออกแบบโดยเน้นการทำธุรกรรมทางการเงินแบบจำกัดเฉพาะรายการที่จำเป็น อาทิ การโอนเงินไปยังบัญชีตนเองภายในธนาคารและต่างธนาคารที่ลงทะเบียนไว้ และการจำกัดวงเงินในการทำธุรกรรมต่อวัน ทั้งนี้ ธนาคารออมสินไม่เพียงพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นธนาคารแรกที่ดำเนินกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ (IMC) ผ่าน แคมเปญเตือนภัยมิจฉาชีพ ดำเนินการอย่างเข้มข้นผ่านช่องทางการสื่อสารที่ครบวงจร ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ สื่อนอกบ้าน หรืออินฟลูเอนเซอร์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวางและครอบคลุมมากที่สุด เนื่องจากธนาคารตระหนักดีถึงความสูญเสียของประชาชนและวิกฤตของอาชญากรรมออนไลน์ที่นับวันจะทวีความรุนแรงจนกลายเป็นภัยคุกคามระดับประเทศ จึงเป็นความพยายามของธนาคารในการที่จะกระตุ้นเตือนให้ประชาชนรู้เท่าทันกลลวงและไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพทางการเงิน     รางวัลเกียรติคุณ Silver Emblem of Sustainability และ Social Empowerment ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงบทบาทของธนาคารออมสินในฐานะ Social Bank ที่ไม่เพียงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับการให้บริการลูกค้าเท่านั้น แต่ยังขับเคลื่อนการสร้าง Social Impact เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนช่วยบรรเทาปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง ธนาคารยังคงยึดมั่นในหลักการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบตามแนวทาง ESG เพื่อก้าวสู่เป้าหมายความยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคม ตลอดจนเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว  

01 Jul 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner