Responsive image

Saturday, 13 Dec 2025

หน้าแรก > ECONOMY- FINANCE / เศรษฐกิจ - การเงิน


เอไอเอ ประเทศไทย เปิดเวที “AIA Wealth Forum 2023” เชิญกูรูด้านการลงทุนชั้นนำระดับโลก แนะแนวทางบริหารพอร์ตในยุคผันผวน ผ่านการวางแผนการเงินระยะยาว

Tue 26/09/2566


เอไอเอ ประเทศไทย ผู้นำด้านประกันชีวิต สุขภาพ และยูนิต ลิงค์ เปิดเวทีต้อนรับพันธมิตรด้านการลงทุนระดับโลก ในงาน AIA Wealth Forum 2023 – Stability in Chaos” ซึ่งเอไอเอจัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยมุ่งให้ความรู้และสร้างความเข้าใจด้านการวางแผนการเงินในระยะยาว เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีอย่างยั่งยืน ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจทั่วโลก ให้คนไทยได้ดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นคงและมีความมั่งคั่ง ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งโซลูชันด้านการเงินที่เป็นมากกว่าผลิตภัณฑ์ ตามกลยุทธ์ AIA Total Wealth Solution เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านการวางแผนการเงินและการลงทุนแบบครบวงจรให้กับคนไทย ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’

 

โดยในงานได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนทั้งในระดับประเทศและระดับโลกมาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และอัพเดตทิศทางการลงทุนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ประกอบด้วย นายแอนดี้ บัดเด้น Investment Director จาก Capital Group และ นายเจเรมี บัตเตอร์เวิธ Vice President and Investment Strategist จาก Wellington Management ร่วมด้วย ดร.สมจินต์ ศรไพศาล ประธานสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย และนายสุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) โดยได้ นายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย เป็นประธานกล่าวเปิดงาน ร่วมด้วย นายชรีคานท์ ชรีนิวาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการลงทุนธุรกิจยูนิต ลิงค์ กลุ่มบริษัทเอไอเอ ซึ่ง AIA Wealth Forum 2023 จัดขึ้น ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17กันยายน 2566 ที่ผ่านมา

นายแอนดี้ บัดเด้น Investment Director จาก Capital Group กล่าวว่า “เรากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของโลกที่มีลักษณะพิเศษได้แก่ ภาวะเงินเฟ้อสูง การปรับตัวของมิติภูมิรัฐศาสตร์ และจุดสิ้นสุดของยุคดอกเบี้ยต่ำ สิ่งที่เราเคยรับรู้ว่าเป็นตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนโลกในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จะไม่ได้เป็นแบบนั้นอีกแล้วในทศวรรษหน้า ตลอดจนวิกฤตโควิดเองนั้นไม่อาจนับว่าเป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นตามวัฏจักรอีกต่อไป เนื่องจากที่ผ่านมาโควิดเป็นต้นเหตุที่ทำให้ตลาดโลกหยุดชะงักและพังทลายไม่เป็นชิ้นดี ส่งผลให้เกิดการเติบโตที่ไม่สอดคล้องกันของเศรษฐกิจ บางภาคอุตสาหกรรมเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่บางภาคอุตสาหกรรมกลับยังคงความแข็งแกร่ง ตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่ฟื้นตัวได้จากภาวะถดถอย ด้วยความรวดเร็วที่แตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค

“สำหรับแนวทางการลงทุนในยุคนี้จำเป็นต้องเน้นการลงทุนแบบยืดหยุ่น ไม่สามารถยึดติดอยู่กับการลงทุนใน “หุ้นเติบโต” (Growth stock) หรือ “หุ้นคุณค่า” (Value stock) อย่างใดอย่างหนึ่งได้ นักลงทุนควรมองถึงการเติบโตของธุรกิจ และการประเมินมูลค่าหุ้นเป็นสำคัญ มีการวิจัยเชิงลึกถึงธุรกิจที่จะเข้าไปลงทุนให้ดี รวมทั้งต้องศึกษาถึงโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นด้านทีมผู้บริหาร ผลิตภัณฑ์ รายได้ การบริหารจัดการต้นทุน ตลอดจนวิเคราะห์หุ้นเป็นรายตัว และมองหาบริษัทที่มีแนวโน้มจะได้รับประโยชน์ในระยะยาวจากการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ”

นายเจเรมี บัตเตอร์เวิธ Vice President and Investment Strategist จาก Wellington Management ได้แสดงความเห็นว่า “สภาวะทางเศรษฐกิจได้มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านโครงสร้าง  ในยุคสมัยนี้ถ้าเราเลือกพิจารณาแค่เพียงระหว่าง "หุ้นมูลค่า” หรือ “หุ้นเติบโต" อาจทำให้ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงได้เท่าที่ควร เพราะทำให้เรามองข้ามปัจจัยอื่น ๆ ที่สำคัญ เช่น คุณภาพ หรือโมเมนตัมของหุ้น นอกจากนี้ ข้อมูลในอดีตยังชี้ให้เห็นว่า ความเสี่ยงเฉพาะตัวของธุรกิจเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบมากที่สุดต่อผลประกอบการและผลตอบแทนจากการลงทุน ดังนั้นการวิจัยอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับธุรกิจที่จะเข้าไปลงทุน จึงช่วยสร้างความแตกต่างได้สูงสุดด้านผลตอบแทนจากการลงทุน”

“ทั้งนี้ หลักการที่แนะนำสำหรับนักลงทุนนอกเหนือไปจากการพิจารณาในเรื่องผลประกอบการแล้ว ยังควรพิจารณาถึงด้านธรรมาภิบาลของธุรกิจด้วย ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่มักมองข้ามจุดนี้ไป บริษัทที่ทำกำไรได้สูงเกินกว่าต้นทุนของเงินลงทุน มักจะมีอิสระที่จะเปิดรับแนวทางปฏิบัติในระดับโลกด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) บริษัทเหล่านี้มักนำกำไรมาลงทุนต่อเพื่อให้ความสามารถในการแข่งขันห่างจากคู่แข่งมากขึ้น พร้อมไปกับส่งเสริมด้านธรรมาภิบาล ส่งผลให้องค์กรมีความแข็งแกร่งมากขึ้นด้วยต้นทุนของเงินลงทุนที่ต่ำลงไปอีก  นำมาซึ่งผลตอบแทนในตลาดหุ้นที่ดีเหนือคู่แข่งในที่สุด”

ดร.สมจินต์ ศรไพศาล ประธานสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย กล่าวว่า “จะเห็นว่าตลาดหุ้นของไทยนั้นได้ผ่านช่วงเวลาที่ผันผวนและยากลำบากมานาน โดยเฉพาะหลังจากช่วงโควิด 19 ซึ่งความไม่แน่นอนก็คงยังมีอยู่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการบริหารประเทศ และนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาล โดยปัจจัยที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญนั้นก็คือการท่องเที่ยวและการส่งออก ซึ่งสองปัจจัยนี้ยังเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม นั่นคือจำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัว แต่การส่งออกยังคงชะลอตัว เนื่องมาจากเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แข็งแกร่งอย่างที่คาดหวัง แต่โดยภาพรวมของตลาดหุ้นไทยนั้น ยังมีปัจจัยบวกหลายอย่าง เช่น การเมืองที่มีความชัดเจนขึ้น การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน และการอุปโภคบริโภคที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง

“อย่างไรก็ตาม การลงทุนที่ดีนั้นต้องมีการจัดทัพลงทุนที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ และมีการกระจายความเสี่ยง รวมถึงการสร้างความมั่งคั่ง สร้างกระแสเงิน และที่สำคัญคือจะต้องคุ้มครองเงินต้น และเพิ่มสภาพคล่องด้วย”

ด้าน นายสุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) เผยว่า “ณ ตอนนี้นับว่าเป็นรุ่งอรุณใหม่ของตลาดหุ้นไทย เนื่องจากได้ผ่านพ้นวิกฤตของโควิด 19 มาแล้ว อีกทั้งมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ แม้ว่าจะยังมีปัจจัยเสี่ยงหลายปัจจัยที่ยังกดดันสภาวการณ์ลงทุน ซึ่งล้วนส่งผลต่อการตัดสินใจด้านการลงทุนของเราทุกคนอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยสำหรับ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) นั้น เราเป็น บลจ. ที่มีนโยบายการบริหารเงินลงทุนแบบนักลงทุนสถาบัน เพื่อมุ่งให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว ซึ่งเราเป็น บลจ. อันดับต้น ๆ ของประเทศ โดยมีหน้าที่บริหารเงินให้กับเอไอเอ ประเทศไทย และลูกค้าที่ถือกรมธรรม์เอไอเอ ยูนิต ลิงค์

 

“สำหรับงาน AIA Wealth Forum นี้เป็นงานที่เราจัดมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเอไอเอ ในการนำเสนอการบริการที่เหนือระดับทั้งในด้านการประกันชีวิตและการลงทุนให้กับลูกค้าทุกท่าน โดยมุ่งดูแลไม่เพียงเฉพาะด้านสุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการดูแลสุขภาพทางการเงิน เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าที่ถือกรมธรรม์เอไอเอ ยูนิต ลิงค์ มีสุขภาพที่แข็งแรงรอบด้าน พร้อมเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนด้วยการเข้าถึงการลงทุนระดับสากล ด้วยการเลือกลงทุนในกองทุน AIA Global Allocation Funds และกองทุน AIA Asset Allocation Funds ที่ได้จับมือกับพันธมิตรด้านการลงทุนระดับโลก ทั้ง BlackRock, Capital Group, Baillie Gifford และ Wellington Management เพื่อช่วยขยายศักยภาพด้านการลงทุนให้ก้าวสู่ระดับสากล ตลอดจนสามารถตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการส่งต่อความมั่นคง หรือแผนเก็บเงินยามเกษียณ ช่วยให้ลูกค้ายูนิต ลิงค์ ของเอไอเอ ประเทศไทย ได้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives”

ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่สนใจประกันชีวิตควบการลงทุน (เอไอเอ ยูนิต ลิงค์) สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.aia.co.th/th/our-products/unit-link.html หรือ AIA Call Center 1581 หรือติดต่อตัวแทนประกันชีวิตเอไอเอ ประเทศไทย

 


Tags : เอไอเอ ประเทศไทย เอไอเอ AIA แอนดี้ บัดเด้น เจเรมี บัตเตอร์เวิธ ดร.สมจินต์ ศรไพศาล นิคฮิล แอดวานี ชรีคานท์ ชรีนิวาส


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) รักคือพลังของชีวิต นำโดย คุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO) จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวคอนเสิร์ตใหญ่แห่งปี OCEAN LIFE ไทยสมุทร Presents “NONTIVERSE of LOVE” โดยมี นนท์ ธนนท์ Brand Ambassador  ร่วมถ่ายทอดพลังแห่งความรัก ผ่านคอนเสิร์ตสุดอบอุ่นที่ผสาน โลกความรักของนนท์ ธนนท์ และ โลกความรักของ OCEAN LIFE ไทยสมุทร เข้าด้วยกัน เพื่อมอบเป็นของขวัญแทนคำขอบคุณสำหรับลูกค้า OCEAN LIFE ไทยสมุทร และ  NONTFAM ที่เป็นสมาชิก Ocean Club ในโอกาสครบรอบปีที่ 77 OCEAN LIFE ไทยสมุทร   รักตัวเอง คือจุดเริ่มต้นของทุกความรัก คอนเสิร์ต “NONTIVERSE of LOVE” ต่อยอดจากแนวคิด Love Mindset  รักตัวเอง คือจุดเริ่มต้นของทุกความรัก ซึ่งเป็นหัวใจในการดำเนินงานของ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ที่มุ่งส่งต่อพลังแห่งความรักให้กับทุกคน ผ่าน 3 มิติสำคัญ ได้แก่ Love Your Health รักสุขภาพ ดูแลกายใจให้แข็งแรง ทั้งตัวเองและคนที่รัก Love Your Wealth รักการเงิน วางแผนชีวิตและปิดความเสี่ยงเพื่อความมั่นคงในอนาคต Love the World รักโลกและสังคม ส่งต่อความดี สร้างความยั่งยืนร่วมกัน    NONTIVERSE of LOVE คอนเสิร์ตอบอุ่นแห่งปี 2026 ที่รวม “สองโลกแห่งความรัก” ไว้ในจักรวาลเดียวกัน NONTIVERSE of LOVE ออกแบบบรรยากาศให้ผู้ชมเสมือนหลุดเข้าสู่ “จักรวาลแห่งความรัก” ที่เต็มไปด้วยบทเพลงและเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนกลับมารักและดูแลตัวเองอีกครั้ง พร้อมแขกรับเชิญสุดพิเศษที่จะมาร่วมถ่ายทอดพลังบวกแห่งความรัก จัดขึ้นในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2569 ณ One Bangkok Forum คอนเสิร์ตที่ตั้งใจให้ทุกคนได้รู้สึกถึงความรัก ประทับใจกับช่วงเวลาพิเศษและแขกรับเชิญสุดเซอร์ไพรส์ที่อยากให้รอติดตาม และไม่พลาดไปดูว่าโลกความรักของ “นนท์ ธนนท์” และ โลกความรักของ OCEAN LIFE ไทยสมุทร จะหลอมรวมกันได้ลงตัวอย่างไร เลือกแบบประกันที่ใช่ ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของตัวเอง OCEAN LIFE ไทยสมุทร เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความต้องการของคน Gen Y และพร้อมเป็นตัวช่วยปิดความเสี่ยงที่คน Gen Y อาจมองข้ามไป ในครั้งนี้ เรามอบประกันที่ตอบโจทย์ Gen Y ทั้งออมเงิน คุ้มครองชีวิต คุ้มครองอุบัติเหตุ คุ้มครองสุขภาพ โรคร้ายแรง รวมไปถึงประกันลดหย่อนภาษี ที่ให้เลือกสรรได้อย่างครอบคลุมในทุกมิติ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ocean.co.th/nontiverseoflove 1. โอเชี่ยนไลฟ์ เฟิร์ส เลิฟ 18/10 ประกันสะสมทรัพย์ออนไลน์ไซซ์เล็ก ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่เริ่มทำประกันชีวิตฉบับแรก วางแผนการเงินได้เร็วกว่า เริ่มต้นง่ายเพียงแค่ปีละ 6,000 บาท ชำระเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิตได้ คุ้มครองยาว 18 ปี ชำระเบี้ยประกันภัยเพียง 10 ปี ซื้อง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ รับประกันภัยอายุตั้งแต่ 30 วัน – 45 ปี ชำระเบี้ยประกันภัยรายปี โอเชี่ยนไลฟ์ เฟิร์ส เลิฟ 18/10 ตั้งแต่ 6,000 บาทขึ้นไป จะได้รับบัตรคอนเสิร์ต จำนวน 2 ใบต่อกรมธรรม์ และผู้ที่ชำระเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป จะได้รับบัตรคอนเสิร์ตโซน VIP จำนวน 2 ใบต่อกรมธรรม์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ocean.co.th/our-products/savings/first-love1810 2. ประกันอุบัติเหตุ PA ดีชัวร์ แบบประกันอุบัติเหตุ สำหรับอาชีพอิสระ สบายใจคุ้มครองทั้งค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ รวมถึงมีเงินชดเชยรายได้เมื่อนอนโรงพยาบาล รับประกันภัยบุคคลอายุตั้งแต่ 5 – 60 ปี ชำระเบี้ยประกันภัยรายปี เป็นเวลา 5 ปี ประกันอุบัติเหตุ PA ดีชัวร์ ผู้ที่ชำระเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป จะได้รับบัตรคอนเสิร์ต จำนวน 1 ใบต่อกรมธรรม์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ocean.co.th/our-products/personal-accident/oceanlife-pa-d-sure 3. โครงการ โอชิ สมอล เฮลท์ ประกันสุขภาพไซซ์เล็ก ที่คุ้มครองครบในหนึ่งเดียว ครอบคลุมทุกความต้องการ ทั้งความคุ้มครองชีวิตและความคุ้มครองด้านสุขภาพ จะป่วยเล็กป่วยใหญ่ก็สบายใจหมดห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาล ค่าเบี้ยประกันภัยราคาสบายกระเป๋า รับประกันภัยบุคคลที่มีอายุ 16 - 70 ปี โครงการ โอชิ สมอล เฮลท์ ผู้ที่ชำระเบี้ยประกันภัยรายปีตั้งแต่ 6,000 บาทขึ้นไป จะได้รับบัตรคอนเสิร์ตจำนวน 2 ใบต่อกรมธรรม์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ocean.co.th/our-products/health-insurance/ochi-small-health-package 4. ซีไอ ท็อปทรี เอ็กซ์ตร้า แบบประกันคุ้มครองโรคร้ายแรง ที่คุ้มครองโรคร้ายแรงที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของคนไทย ให้คนทำงานใช้ชีวิตสบายใจแบบ Extra รับประกันภัยบุคคลที่มีอายุ  35 - 60 ปีให้ความคุ้มครอง 7 โรคร้ายแรงที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนไทยสูงสุด 1,000,000 บาท คุ้มครองกรณีเสียชีวิต 50,000 บาท หากเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรับเพิ่มอีก 500,000 บาท หากไม่เคลมตลอด 3 ปี รับเงินคืน 10% ของเบี้ยประกันภัยที่ชำระสะสม ในวันครบกำหนดสัญญา ซีไอ ท็อปทรี เอ็กซ์ตร้า ผู้ที่ชำระเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 3,000 - 5,999 บาท  จะได้รับบัตรคอนเสิร์ต 1 ใบต่อกรมธรรม์ และผู้ที่ชำระเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 6,000 บาทขึ้นไป จะได้รับบัตรคอนเสิร์ตจำนวน 2 ใบต่อกรมธรรม์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ocean.co.th/our-products/health-insurance/ci-small-package 5. โอเชี่ยนไลฟ์ อีซี่ เซฟวิ่ง 11/4 ตัวช่วยในการเก็บออม(1) พร้อมลดหย่อนภาษี โดยมอบความคุ้มครองชีวิต สูงสุด 405% (ระหว่างปีกรมธรรม์ที่ 4 - 11) พร้อมรับเงินคืน 2% ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1 – 10  หากมีชีวิตอยู่จนครบสัญญาจะได้รับเงินครบกำหนดสัญญาอีก 422% รวมรับผลประโยชน์ตลอดอายุสัญญาสูงสุด 442% “โอเชี่ยนไลฟ์ อีซี่ เซฟวิ่ง 11/4”  รับประกันภัยบุคคลอายุตั้งแต่ 30 วัน – 65 ปี ชำระเบี้ยประกันภัยสั้นเพียง 4 ปี รับความคุ้มครองชีวิตยาว 11 ปี ชำระเบี้ยประกันภัยรายปี โอเชี่ยนไลฟ์ อีซี่ เซฟวิ่ง 11/4 ผู้ที่ชำระเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 60,000 – 99,999 บาท จะได้รับบัตรคอนเสิร์ต 1 ใบต่อกรมธรรม์ และผู้ที่ชำระเบี้ยประกันภัย 100,000 บาทขึ้นไป จะได้รับบัตรคอนเสิร์ตจำนวน 2 ใบต่อกรมธรรม์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ocean.co.th/our-products/tax-saving/oceanlife-easy-saving114 โดยสมาชิก Ocean Club ทุกท่านต้องลงทะเบียน Ocean Connect เพื่อสามารถตรวจสอบกรมธรรม์ได้ด้วยตนเอง และรับการแจ้งเตือนชำระเบี้ยประกันภัยปีต่อ ผ่าน LINE Official: @OceanLife หรือ Ocean Club App พร้อมชำระเบี้ยผ่านช่องทางดังกล่าวได้ทันที ทั้งนี้ยังได้รับสิทธิพิเศษจากพันธมิตรชั้นนำและสิทธิเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัท NONTIVERSE of LOVE คอนเสิร์ตสำหรับลูกค้าและ NONTFAM ที่เลือกรับบัตรได้ 2 ทาง  ลูกค้า OCEAN LIFE ไทยสมุทร และ NONTFAM ที่เป็นสมาชิก Ocean Club สามารถเข้าร่วมคอนเสิร์ตได้ 2 ช่องทางพิเศษ ได้แก่   1. LOVE FAST TRACK สำหรับผู้ที่รักตัวเองและพร้อมวางแผนอนาคตด้วยแบบประกันชีวิต เช่น OCEAN LIFE First Love 18/10 และแบบประกันอื่น ๆ ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ จะได้สิทธิ์รับบัตรคอนเสิร์ตแบบไม่ต้องลุ้น พร้อมรับของที่ระลึกและสิทธิพิเศษ NONTFAM BENEFITS จำนวนจำกัด 2. LOVE CHALLENGE สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการร่วมกิจกรรม เพียงเข้าร่วมชาเลนจ์ “รักตัวเอง ด้วย LOVE Mindset Challenge” ผ่าน OCEAN CLUB APP และช่องทางโซเชียลของบริษัท เพื่อสะสมเหรียญ OCHI Coin แลกลุ้นบัตรคอนเสิร์ตและของรางวัลสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก “นนท์ ธนนท์” รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมกิจกรรมเปิดให้ติดตามได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2568 ทางเว็บไซต์และทุกช่องทางโซเชียลของ OCEAN LIFE ไทยสมุทร NONTIVERSE of LOVE - NONTFAM BENEFITS OCEAN LIFE ไทยสมุทร มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า และ NONTFAM ซึ่งเป็นสมาชิก Ocean Club ที่เข้าร่วมกิจกรรม อาทิ Lanyard รักตัวเอง x NONT TANONT, บัตรแข็งและโปสเตอร์ NONTIVERSE of LOVE, ปฏิทิน 12 ways to love yourself, ผ้าห่มรักตัวเอง x NONT TANONT และสิทธิ์ถ่ายภาพกับ นนท์ ธนนท์ สำหรับโซน VIP เท่านั้น สิทธิพิเศษทั้งหมดนี้คือการขอบคุณจากใจ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ที่อยากส่งต่อพลังแห่งความรัก ให้ทุกคนได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์แห่งความสุข ความประทับใจ และแรงบันดาลใจที่จะกลับมารักและดูแลตัวเอง เพื่ออยู่กับคนที่คุณรักไปได้นานที่สุด ก้าวสู่ปีที่ 77 ด้วยพลังแห่งความรัก นี่คืออีกหนึ่งก้าวสำคัญของ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ในโอกาสที่กำลังก้าวสู่ปีที่ 77 ของการดำเนินธุรกิจภายใต้พลังความรัก เรายังคงมุ่งมั่นใช้ความรักเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ เพื่อให้ทุกคนได้อยู่กับคนที่รัก และทำสิ่งที่รักไปได้นานที่สุด และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของสิ่งดี ๆ อีกมากมาย ที่ OCEAN LIFE ไทยสมุทร เตรียมมอบให้คนไทยตลอดปีแห่งการเฉลิมฉลองนี้ OCEAN LIFE ไทยสมุทรประกันชีวิต ใช้ความรักเป็นพลังขับเคลื่อนองค์กร โดยไม่หยุดพัฒนาในทุกมิติ เพื่อทำให้ประกันชีวิตเป็นเรื่องง่าย ทำให้คนไทยเข้าถึงประโยชน์ของการประกันชีวิตได้มากที่สุด พร้อมแล้วที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลโลกและสังคม เพื่อส่งมอบอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไปได้ใช้ชีวิตอย่างมั่นคง มั่นใจ ปลอดภัย มีความสุข สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Ocean Life ไทยสมุทรประกันชีวิต LINE Official: @OceanLife  เว็บไซต์ www.ocean.co.th หรือ ติดต่อ OCEAN LIFE CONTACT CENTER  1503  ข้อควรทราบ :  (1) เป็นการออมเงินในรูปแบบประกันชีวิต • โอเชี่ยนไลฟ์ เฟิร์ส เลิฟ 18/10 และ OCEAN LIFE First Love 18/10 เป็นชื่อทางการตลาดของแบบประกันโอเชี่ยนไลฟ์ โอชิ แพลน 18/10 • โครงการโอชิ สมอล เฮลท์ (Ochi Small Health Package) เป็นชื่อทางการตลาดของแบบประกันโอเชี่ยนไลฟ์ สมาร์ท โพรเทคชั่น 99/99 แนบสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพ สมอล เฮลท์ (Small Health) และบันทึกสลักหลังค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก (OPD) • ซีไอ ท็อปทรีเอ็กซ์ตร้า เป็นชื่อทางการตลาดของแบบประกันโรคร้าย ท็อปทรี เอ็กซ์ตร้า • % หมายถึง เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินเอาประกันภัย • การคำนวณเบี้ยประกันภัยไม่คำนวณเศษเกิน และจะนำเศษเกินไปคำนวณรวมกับกรมธรรม์อื่นไม่ได้ • การรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด • ความคุ้มครองและการจ่ายผลประโยชน์ต่าง ๆ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ • เบี้ยประกันชีวิต/สุขภาพ สามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด • ผู้เอาประกันภัยที่ประสงค์จะนำเบี้ยประกันชีวิต/สุขภาพไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ต้องแจ้งความประสงค์และยินยอมให้บริษัทนำส่งข้อมูลเบี้ยประกันชีวิต/สุขภาพให้กรมสรรพากร • ข้อมูลในเอกสารนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ประกันภัย ผู้ขอเอาประกันภัย/ผู้เอาประกันภัยควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและทำความเข้าใจในรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครอง ผลประโยชน์ และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง เมื่อได้รับกรมธรรม์แล้วโปรดศึกษาเพิ่มเติม

07 Dec 2025

...

บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โดย นายพุทธรักษ์ ทิพชัชวาลวงศ์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานคณิตศาสตร์ประกันภัย (ลำดับที่ 5 จากขวา) นางสาวนัทธกัญญ์ แซ่ก้วย ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ (ลำดับที่ 4 จากขวา) ร่วมมอบผ้าห่มและน้ำดื่มให้แก่ นายฉันทพัฒน์ ทิวทิพย์สกุล หัวหน้าอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จุดสน.สมเด็จเจ้าพระยา (ลำดับที่ 5 จากซ้าย) เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องชาวหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 ณ สำนักงานใหญ่ บมจ.ทิพยประกันชีวิต

07 Dec 2025

...

ทิพยประกันภัยเดินหน้าต่อยอดประสบการณ์ด้านประกันภัยรถยนต์ เปิดตัวแคมเปญใหญ่ “TIP MOTOR EXTRA PRO ประกันรถสุดปัง อลังการสุดโปร” ในงาน Motor Expo 2025 เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่มองหาความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ครบวงจร พร้อมคัดสรรผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์หลากหลาย อาทิ TIP Premium Garage Plus, TIP Lady, TIP Rainbow, TIP Up to Mile และประกันรถยนต์ 2+ คุ้มทุน พร้อมทีมให้คำปรึกษา คำนวณเบี้ย และบริการต่ออายุกรมธรรม์ภายในงาน แคมเปญ “TIP MOTOR EXTRA PRO” มอบข้อเสนอสุดคุ้มสำหรับลูกค้า อาทิ • ส่วนลดเบี้ยประกันภัยสูงสุด 15% สำหรับลูกค้าใหม่ • รับของสมนาคุณ รวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท • ลุ้นรับรถยนต์ MITSUBISHI XFORCE รุ่น ULTIMATE มูลค่า 1,059,000 บาท • ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน • พิเศษ! ลูกค้าที่ต่ออายุประกันภัยรถยนต์ภายในงาน รับ บัตร Lotus’s มูลค่าสูงสุด 1,000 บาท ทิพยประกันภัยขอเชิญทุกท่านร่วมรับข้อเสนอสุดพิเศษเฉพาะงาน Motor Expo 2025 ได้ที่บูธ V07–V08 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568

30 Nov 2025

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือ โครงการศึกษาครัวเรือนฐานรากเพื่อสร้างการเข้าถึงแหล่งเงินในระบบ ระหว่าง ธนาคารออมสิน และ สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ เพื่อศึกษาความเป็นอยู่และพฤติกรรมทางการเงินของกลุ่มครัวเรือนฐานรากที่ยังไม่สามารถเข้าถึงการเงินในระบบ ที่จะนำไปสู่การต่อยอดองค์ความรู้ จากการวิจัยในการพัฒนาระบบการเงินที่เหมาะสม ช่วยยกระดับเศรษฐกิจและความเข้มแข็งทางการเงินของภาคครัวเรือนไทย โดยมี นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และ ดร.โสมรัศมิ์ จันทรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าว เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ณ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่   นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ภายใต้บทบาทการเป็น Social Bank ที่มุ่งลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินและสร้างการเข้าถึงแหล่งทุนที่เป็นธรรม ธนาคารเดินหน้าภารกิจหลักที่ 1 ในการสร้างการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบสถาบันการเงิน ซึ่งหากพิจารณาจากสถานการณ์การเข้าถึงสินเชื่อของคนไทย ปัจจุบันยังพบว่าครัวเรือนกว่าร้อยละ 30 ยังอยู่ในกลุ่ม Unserved และ Underserved โดยเป็นผู้มีรายได้น้อยและ/หรือรายได้ไม่แน่นอน ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบจากการขาดประวัติเครดิตทางการเงิน และกว่าครึ่งยังต้องพึ่งพาหนี้นอกระบบเพิ่มขึ้นและต้องเผชิญภาระดอกเบี้ยสูง ดังนั้น เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนบทบาทการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ธนาคารจึงได้จัดตั้งสถาบันวิจัยเศรษฐกิจฐานรากขึ้นเป็นครั้งแรก และได้ร่วมมือกับสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ เพื่อคิกออฟงานวิจัย “โครงการศึกษาครัวเรือนฐานรากเพื่อสร้างการเข้าถึงแหล่งเงินในระบบ” โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายของการศึกษาเป็นผู้เข้าร่วมโครงการสินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส ที่ธนาคารได้ดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี 2568 เพื่อปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ที่มีรายได้ แต่ไม่เคยมีประวัติเครดิตทางการเงิน หรือไม่เคยใช้บริการสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินอย่างน้อย 2 ปี ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ของโครงการนี้มีลักษณะตัวตน หรือ Customer Persona ที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของงานศึกษาวิจัยครั้งนี้ ทั้งนี้ ธนาคารหวังว่าจะสามารถนำผลลัพธ์ของงานวิจัยไปออกแบบเครื่องมือทางการเงิน หรือมาตรการสินเชื่อที่ตรงจุด สามารถตอบโจทย์ความคาดหวัง และสร้างระบบการเงินที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งการพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมาย SDGs และสอดคล้องตามบทบาทของธนาคารเพื่อสังคม   ดร. โสมรัศมิ์ จันทรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ เปิดเผยว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการศึกษาข้อมูลเชิงลึกของลูกหนี้ภายใต้โครงการ “สินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส” ของธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นต้นแบบสินเชื่อดิจิทัลที่เปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้แต่ไม่เคยเข้าถึงสินเชื่อในระบบสามารถกู้เงินได้เป็นครั้งแรก โดยธนาคารออมสินได้ปล่อยสินเชื่อเพื่อช่วยคนไทยสร้างประวัติเครดิตทางการเงินไปแล้วกว่า 200,000 ราย สะท้อนถึงความต้องการเข้าถึงสินเชื่อในระบบที่ยังมีอยู่จำนวนมาก การศึกษาครั้งนี้จึงมุ่งขยาย “ประตูสู่ระบบการเงิน” ให้กว้างขึ้น ผ่านการเก็บข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มคนที่อยู่นอกระบบเป็นครั้งแรก ใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1) ปัญหาเศรษฐกิจการเงิน พฤติกรรมและความต้องการทางการเงิน 2) โมเดลผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยให้ลูกหนี้ชำระคืนได้จริง 3) การทดลองใช้ข้อมูลใหม่และข้อมูลทางเลือกเพื่อค้นหาตัวชี้วัดความเสี่ยงที่แม่นยำยิ่งขึ้นให้กับสถาบันการเงิน 4) การติดตามผลการเข้าถึงสินเชื่อต่อรายได้และคุณภาพชีวิตของลูกหนี้ตลอดระยะเวลา 1 ปี เพื่อนำไปใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสม ซึ่งผลการศึกษาจะช่วยให้ธนาคารออมสินออกแบบผลิตภัณฑ์และกระบวนการพิจารณาสินเชื่อที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น สอดคล้องกับศักยภาพของลูกหนี้ และเพิ่มโอกาสในการชำระคืน   ขณะเดียวกัน สถาบัน ฯ จะมีองค์ความรู้เชิงลึกเพื่อนำไปสนับสนุนนโยบาย Your Data และโครงการ Risk-Based Pricing ของธนาคารแห่งประเทศไทย ช่วยให้สถาบันการเงินประเมินความเสี่ยงได้โปร่งใส เป็นธรรม และเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ “เคยถูกมองไม่เห็น” เข้าสู่ระบบการเงินได้มากขึ้น ถือเป็นก้าวสำคัญที่เปลี่ยนงานวิจัยให้เกิดผลจริงต่อประชาชนฐานราก เสริมรากฐานระบบการเงินที่เข้าถึงง่าย ยั่งยืน และช่วยยกระดับศักยภาพและคุณภาพชีวิตของครัวเรือนไทยได้อย่างมั่นคงในระยะยาว  

30 Nov 2025

Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner