Responsive image

Monday, 14 Apr 2025

หน้าแรก > BUSINESS-MARKETING/ธุรกิจ-การตลาด-ขายตรง-SME


เคทีซีฝ่าด่านเศรษฐกิจ ชงกำไร 9 เดือน 5,534 ล้านบาท พอใจพอร์ตสินเชื่อรวมโตต่อเนื่อง คาดกำไรทั้งปีตามเป้า

Fri 20/10/2566


เคทีซีแจ้งงบการเงินรวมของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา กำไรสุทธิ 5,534 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.2% โดยกำไรสุทธิไตรมาส 3/2566 เท่ากับ 1,857 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.7% พอร์ตสินเชื่อรวมขยายตัว 10% อยู่ที่ 106,701 ล้านบาท จากปัจจัยสนับสนุนของการบริโภคภาคเอกชน เดินหน้าผลักดันทุกพอร์ตผลิตภัณฑ์เติบโตควบคู่การคัดกรองคุณภาพในระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมและยอมรับได้ คาดทำกำไรทั้งปีได้ตามเป้าหมาย

นายระเฑียร  ศรีมงคล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ความต้องการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ดีต่อเนื่อง ได้ส่งผลให้อุตสาหกรรมสินเชื่อผู้บริโภคขยายตัวมากขึ้น รวมถึงเป็นปัจจัยบวกให้ผลการดำเนินงานของเคทีซีเติบโตต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนของลูกหนี้บัตรเครดิตเทียบกับอุตสาหกรรมอยู่ที่ 14.9% และมีส่วนแบ่งตลาดของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเท่ากับ 12.1% ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปี 2565 ในขณะที่สัดส่วนของลูกหนี้สินเชื่อบุคคล (ไม่รวมสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน) อยู่ที่ 6.2% เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม”

“ในส่วนของธุรกิจเคทีซีตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา พอร์ตบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลขยายตัวตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีมูลค่าพอร์ตรวมเท่ากับ 106,701 ล้านบาท เติบโต 10% อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวมของกลุ่มบริษัท (NPL) รวมเท่ากับ 2.3% ซึ่งอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ โดยพอร์ตบัตรเครดิตยังขยายตัวได้ดีตามปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรที่เพิ่มขึ้นจากอุปสงค์การใช้จ่ายเพื่อการบริโภค รวมทั้งพอร์ตสินเชื่อบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” ที่เติบโตสูงขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน โดยเน้นให้พอร์ตเติบโตคู่ไปกับการคัดกรองคุณภาพลูกหนี้ในระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม ด้านสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” มียอดสินเชื่อใหม่มูลค่า 1,929 ล้านบาท”

ผลการดำเนินงานของเคทีซี ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 งบการเงินรวมมีกำไรสุทธิในช่วง 9 เดือน และไตรมาส 3/2566 เท่ากับ 5,534 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 2.2%) และ 1,857 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 4.7%) ตามลำดับ ฐานสมาชิกรวม 3,331,065 บัญชี แบ่งเป็นพอร์ตสมาชิกบัตรเครดิต 2,616,269 บัตร เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้บัตรเครดิตและดอกเบี้ยค้างรับรวม 69,225 ล้านบาท ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรรวม 9 เดือนเท่ากับ 192,270 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.7% NPL บัตรเครดิตอยู่ที่ 1.3% พอร์ตสมาชิกสินเชื่อบุคคลเคทีซี 714,796 บัญชี เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้บัตร    กดเงินสด “เคทีซี พราว” และดอกเบี้ยค้างรับ  30,246 ล้านบาท  เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” เท่ากับ 2,058 ล้านบาท NPL สินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 3.1% ยอดสินเชื่อลูกหนี้ใหม่ (New Booking) ของ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” ในไตรมาส 3/2566 เท่ากับ 794 ล้านบาท และรอบเก้าเดือนของปี 2566 มีมูลค่า 1,929 ล้านบาท สำหรับสินเชื่อลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อมีมูลค่า 3,369 ล้านบาท โดยมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่ของรถขนาดใหญ่ที่ใช้ในอุตสาหกรรม (Commercial Loan) ในรอบ 9 เดือนของปี 2566 ที่ 1,446 ล้านบาท ทั้งนี้ เคทีซียังคงชะลอการปล่อยสินเชื่อประเภทนี้ หลังจากที่เห็นสัญญาณของหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น

“สำหรับไตรมาส 3/2566 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 9.8% เท่ากับ 6,461 ล้านบาท จากรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ค่าธรรมเนียม ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 13.4% เท่ากับ 4,170 ล้านบาท จากการที่พอร์ตสินเชื่อขยายตัว ทำให้มีการตั้งสำรองมากขึ้น เป็นผลให้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Losses - ECL) จำนวน 1,477 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.7% ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงขึ้น ขณะที่ต้นทุนทางการเงินปรับขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงิน”  

 

 

ทั้งนี้ ข้อมูลวันที่ 30 กันยายน 2566 เคทีซีมีเงินกู้ยืมทั้งสิ้นเท่ากับ 62,730 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.8% โดยมีสัดส่วนโครงสร้างแหล่งเงินทุนเป็นเงินกู้ยืมระยะสั้น (รวมส่วนของเงินกู้ยืมและหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระภายในหนึ่งปี) 23% และเงินกู้ยืมระยะยาว 77% มีวงเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินรวม (Total Short -Term Credit Line) 29,371 ล้านบาท (รวมวงเงินจากธนาคารกรุงไทย 19,061 ล้านบาท) ใช้วงเงินระยะสั้นไป 5,221 ล้านบาท และมีวงเงินคงเหลือ (Available Credit Line) จำนวน 24,150 ล้านบาท ต้นทุนการเงิน 2.7% และอัตราส่วนของหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 2.07 เท่า ลดลงจากงวดเดียวกันของปี 2565 ที่ 2.14 เท่า และต่ำกว่าภาระผูกพันที่ 10 เท่า

“เคทีซียังดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ตามแนวทางการบริหารจัดการด้านการให้สินเชื่ออย่างเป็นธรรมของธนาคารแห่งประเทศไทย โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 บริษัทฯ ได้ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ในทุกสถานะจำนวน 1,802 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 1.8% ของพอร์ตลูกหนี้รวม”

“สำหรับความคืบหน้าด้านมาตรการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืนของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็น (Consultation Paper) เกี่ยวกับร่าง “หลักเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม” (Responsible Lending: RL) และร่าง “กลไกการกำหนดอัตราดอกเบี้ยตามความเสี่ยงสำหรับสินเชื่อรายย่อย” (Risk-Based Pricing :RBP) ไปเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อเป็นแนวทางในการปรับพฤติกรรมเจ้าหนี้และลูกหนี้ ผ่านการยกระดับมาตรฐานกระบวนการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบตลอดวงจรหนี้นั้น แนวทางการปฏิบัติของเคทีซีเองมีความชัดเจน โดยให้บริการสินเชื่อด้วยความรับผิดชอบเสมอมา และมีหลักเกณฑ์การโฆษณาและเสนอขายที่เป็นแนวทางเดียวกับธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ จึงมั่นใจว่าหลักเกณฑ์ที่จะออกมาบังคับใช้ จะไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญใดๆ ต่อการดำเนินงานของเคทีซี”

“ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีปัญหาหนี้เรื้อรัง (Persistent Debt: PD) ที่จะบังคับใช้เดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป เคทีซีจะให้ทางเลือกแก่ลูกหนี้ที่สนใจ โดยสำหรับลูกหนี้ที่เข้าข่ายเป็นหนี้เรื้อรัง (Severe Persistent Debt)  สามารถเปลี่ยนสินเชื่อหมุนเวียนเป็นแบบมีระยะเวลา (Term Loan) และคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปี โดยกำหนดให้การผ่อนชำระสามารถปิดจบใน 5 ปี ซึ่งแนวทางนี้ลูกหนี้ต้องสมัครใจเข้าร่วมโครงการด้วยตนเองและปิดวงเงินเดิมที่มี โดยหากลูกหนี้เคทีซีที่เข้าเกณฑ์ทุกรายเข้าร่วมโครงการฯ จะมีผลกระทบต่อรายได้ดอกเบี้ยลดลงประมาณ 18 ล้านบาทต่อเดือน”

“ในปี 2567 เคทีซีวางเป้าเติบโตใน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจบัตรเครดิต สินเชื่อบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” และสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” ด้วยเชื่อว่าสินเชื่อแต่ละประเภทยังเป็นที่ต้องการในตลาด อีกทั้งจะส่งเสริมธุรกิจ MAAI by KTC (มายบายเคทีซี) ธุรกิจบริการระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าให้เติบโตมากขึ้น รวมทั้งหลอมรวม 3 องค์ประกอบหลักคือ คน-กระบวนการ-เทคโนโลยี เข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อขับเคลื่อนเคทีซีให้เติบโตมีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายการทำธุรกิจปี 2567 ให้มีกำไรสูงขึ้นกว่าปี 2566 พอร์ตสินเชื่อรวมขยายตัว 10% ภายใต้การบริหารความเสี่ยงที่ยอมรับได้อย่างเหมาะสม  NPL รวมอยู่ในระดับเดียวกับปี 2566 ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีเติบโต 15% จากปี 2566  สินเชื่อบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” ตั้งเป้าเติบโต 5% และสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” ตั้งเป้ายอดอนุมัติสินเชื่อใหม่ปี 2567 ที่ 6,000 ล้านบาท”


Tags : เคทีซี KTC บัตรกรุงไทย บัตรเครดิตเคทีซี ระเฑียร ศรีมงคล


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (“TRIS Rating”) คงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH ที่ระดับ “AA” แนวโน้ม “Stable” และคงอันดับเครดิตองค์กรของบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP บริษัทแกนของกลุ่ม ที่ระดับ “AAA” แนวโน้ม “Stable” หลังประเมินผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว   TRIS Rating ชี้ผลกระทบทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นต่อ ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และ ทิพยประกันภัย จากการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่เกี่ยวข้องกับอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ ซึ่งทิพยประกันภัย ร่วมรับประกันภัยอยู่ในวงจำกัด และทิพยประกันภัย มีการประกันภัยต่อที่ครอบคลุม ทั้งการประกันภัยต่อความเสียหายส่วนเกินจากภัยพิบัติหรือมหันตภัย (Excess of Loss - XoL) การประกันภัยต่อแบบเฉพาะราย (Facultative Reinsurance) สำหรับโครงการขนาดใหญ่ ตลอดจนการประกันภัยต่อแบบสัดส่วน (Proportional Treaty) และแบบไม่เป็นสัดส่วน (Non-Proportional Treaty) ซึ่งจะช่วยจำกัดความคุ้มครองของทั้งอาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และอาคารที่สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยคู่สัญญาประกันภัยต่อ เป็นบริษัทประกันภัยต่อชั้นนำของโลก ที่มีอันดับเครดิตไม่ต่ำกว่า “A” ตามมาตรฐานการจัดอันดับสากล ทั้งนี้ ส่งผลให้ทิพยประกันภัย ยังคงมีความมั่นคงทางการเงิน และไม่มีผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ จากการประเมินดังกล่าว TRIS Rating จึงคงอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “AA” แนวโน้ม “Stable” ซึ่งเป็นอันดับเครดิตองค์กรสูงสุดในกลุ่มธุรกิจโฮลดิ้งส์ให้กับ ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และคงอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “AAA” แนวโน้ม “Stable” ซึ่งเป็นอันดับเครดิตองค์กรสูงสุดในกลุ่มธุรกิจประกันวินาศภัยให้กับทิพยประกันภัย ตอกย้ำความเชื่อมั่นในฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยมของกลุ่มบริษัท ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวย้ำอย่างมั่นใจว่า จากการประเมินของ TRIS Rating ในครั้งนี้ สะท้อนความสามารถในการบริหารจัดการความเสี่ยงของกลุ่มบริษัทได้เป็นอย่างดี และสะท้อนภาพความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่มบริษัทให้กับนักลงทุนได้เป็นที่ประจักษ์ เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของกลุ่มบริษัท เรายืนยันถึงความทุ่มเทของทุกฝ่ายในบริษัทที่ช่วยกันสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน  เราจะเดินหน้าสร้างการเติบโตทางธุรกิจควบคู่กับการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรัดกุมและรอบด้าน พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียในทุกภาคส่วน เพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนในระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้นต่อไป

13 Apr 2025

...

บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท ไทยดอทรัน จำกัด จัดแคมเปญวิ่ง “PASSION FOR LIFE” ให้รักดูแลชีวิต ให้การแบ่งปันดูแลหัวใจ โดยจัดกิจกรรมการวิ่งใน 2 รูปแบบ คือ Virtual Run และ Running Activity เพื่อจัดหารายได้สมทบทุนโครงการ "หนึ่งคนให้ หลายคนรับ เพื่อชีวิตใหม่หัวใจเด็ก"   นางสาวฐิติมา เลี้ยงพาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่าย กลุ่มสื่อสารองค์กร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI เปิดเผยว่า ไทยประกันชีวิต ได้ร่วมมือกับ เพจไทยรัน จัดแคมเปญวิ่ง “PASSION FOR LIFE” ที่มีวัตถุประสงค์นอกจากการเสริมสร้างสุขภาพกายที่แข็งแรงให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมแล้ว ยังสร้างความสุขใจของการเป็นผู้ให้ ด้วยการส่งต่อความรัก และเติมเต็มโอกาสให้กับผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง แคมเปญ “PASSION FOR LIFE” ให้รักดูแลชีวิต ให้การแบ่งปันดูแลหัวใจ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ทำชีวิตให้มีคุณค่า” โดยจัดกิจกรรมวิ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ กิจกรรม Virtual Run: เชิญชวนนักวิ่ง วิ่งสะสมระยะทางขั้นต่ำคนละ 21 กิโลเมตร กำหนดเป้าหมายระยะการวิ่งรวมทั้งแคมเปญ 200,000 กิโลเมตร โดยในทุกการวิ่ง 1 กิโลเมตร ไทยประกันชีวิตและเพจไทยรัน จะบริจาคเงิน 5 บาท ให้แก่โครงการ "หนึ่งคนให้ หลายคนรับ เพื่อชีวิตใหม่หัวใจเด็ก" (สูงสุด 600,000 บาท) โดยกำหนดระยะเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - พฤศจิกายน 2568 ซึ่งกิจกรรมแบ่งออกเป็น 3 ซีรีส์ ได้แก่ ซีรีส์ 1: What you love  ทำสิ่งที่รัก เพื่อตัวเองและคนที่เรารัก จัดระหว่างวันที่ 17 กุมภาพันธ์ – 31 พฤษภาคม 2568 ซีรีส์ 2: What the world need ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและโลก จัดระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 2568 ซีรีส์ 3: What you are good at ทำสิ่งที่ถนัดเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น โดยเสื้อวิ่งในซีรีส์นี้ ได้รับการออกแบบจากผลงานภาพวาดของน้องๆ ที่ได้รับโอกาส ในการผ่าตัดหัวใจตามโครงการหนึ่งคนให้ หลายคนรับ เพื่อชีวิตใหม่ หัวใจเด็ก จัดระหว่างวันที่ 1 กันยายน – 31 พฤศจิกายน 2568 กิจกรรม Running Activity จำนวน 2 ครั้ง ได้แก่ Mini Event กิจกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพและรักษาสิ่งแวดล้อม ณ สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพฯ ในวันที่ 5 มิถุนายน 2568 Running Event จัดในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 ณ สวนจตุจักร กรุงเทพฯ   “ไทยประกันชีวิต เชื่อมั่นว่าการสนับสนุนจากผู้เข้าร่วมกิจกรรม จะเป็นพลังที่ช่วยส่งต่อความรัก และเติมเต็มโอกาสให้กับผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง และอยากเชิญชวนให้ผู้ที่รักการวิ่งทุกท่าน สมัครเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบโอกาสและคุณค่าให้กับเด็กโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ต่อไป” นางสาวฐิติมากล่าว ข้อมูลการรับสมัครเพิ่มเติม: https://race.thai.run/whatyoulove  

12 Apr 2025

...

กรุงเทพประกันชีวิตเชื่อมั่นในพลังของความใส่ใจ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของคนไทยขอส่งความใส่ใจและมอบความอุ่นใจให้กับทุกคนที่เดินทางด้วยแคมเปญ "ขับขี่ใส่ใจกัน สุขสันต์ตลอดสงกรานต์" โดยเฉพาะผู้ขับขี่ และผู้รับหน้าที่เป็นมือขับรถประจำบ้าน ด้วยประกันอุบัติเหตุ (PA) คุ้มครองทั้งอุบัติเหตุทั่วไปและภัยธรรมชาติ สูงสุด 200,000 บาท เพียงลงทะเบียนผ่านการสแกน QR Code ระหว่าง 9-12 เมษายนนี้ ณ จุดต่าง ๆ ที่เป็นเส้นทางสัญจรทั้งในกรุงเทพฯ และทุกภูมิภาค สำหรับลูกค้า และ บุคลากรทั้งพนักงาน ตัวแทนฯ มอบความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุให้ฟรีสูงสุด 100,000 บาท รวมระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า ในช่วงใกล้วันหยุดเทศกาลสงกรานต์ กรุงเทพประกันชีวิตขอส่งมอบความใส่ใจและความปรารถนาดีให้กับคนไทยทุกคนผ่านแคมเปญ “ขับขี่ใส่ใจกัน สุขสันต์ตลอดสงกรานต์” ซึ่งได้เริ่มต้นจากภายในกับกลุ่มพนักงานและขยายสู่ประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่มีหน้าที่ขับขี่ ด้วยกิจกรรมออกเดินสายรณรงค์มอบถุง “ใส่ใจ” มอบสิ่งของที่ช่วยเติมความสดชื่น แก้ง่วงระหว่างเดินทางทั้งในกรุงเทพฯ และตามภูมิภาค พร้อมมอบประกันอุบัติเหตุให้ทุกคนได้อุ่นใจตลอดเทศกาล สำหรับผู้ที่มีหน้าที่ขับขี่ และผู้ที่รับหน้าที่เป็นมือขับรถประจำบ้าน กรุงเทพประกันชีวิตขอมอบประกันอุบัติเหตุ “บีแอลเอ ปกป้อง” ที่มีความคุ้มครองครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุทั่วไป และภัยพิบัติธรรมชาติ สูงสุด 200,000 บาท โดยสามารถสแกน QR Code เพื่อรับสิทธิในจุดต่าง ๆ ที่เป็นเส้นทางสัญจรโดยในกรุงเทพ ซึ่งจะมีกิจกรรมเดิน Troop พร้อมมอบถุงใส่ใจ และเครื่องดื่มสดชื่น ได้แก่ วันที่ 9 เม.ย. 68 บริเวณย่าน อโศก เพชรบุรี นานาเหนือ สุขุมวิท อนุสาวรีย์ชัย ซอยรางน้ำ ประตูน้ำ สยาม บรรทัดทอง สามย่าน อังรีดูนังต์ วันที่ 10 เม.ย. 68 บริเวณอาคารกรุงเทพประกันชีวิต สีลม ซอยคอนแวนต์ สาทร ซอยศาลาแดง 1 ถนนนราธิวาส ช่องนนทรี วงเวียนใหญ่ ถนนลาดหญ้า ไอคอนสยาม ถนนเจริญนคร   ส่วนในภูมิภาค จะมีการตั้งบูทเพื่อมอบประกันอุบัติเหตุ ผ่านการสแกน QR Code พร้อมกิจกรรมแก้ง่วง เล่นเกม แจกของรางวัล และเครื่องดื่มสดชื่น ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. 68 ณ จุดบริการทางหลวงบางปะกง (มอเตอร์เวย์) จุดพักรถ Porto Go ท่าจีน สมุทรสาคร  วันที่ 12 เม.ย. 68  ณ บริเวณปั๊มปตท. พระราม 2 คลองโคน สมุทรสงคราม และ จุดพักรถ Porto Go บางปะอิน อยุธยา นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 11 – 16 เม.ย. 68 ผู้ขับขี่รถทุกท่านสามารถรับสิทธิพิเศษผ่าน LINE Official กรุงเทพประกันชีวิต รับเครื่องดื่มฟรีจากร้านกาแฟพันธุ์ไทย 1 แก้ว มูลค่าสูงสุด 85 บาท (เมนูปั่นไม่ร่วมรายการ) 1 ท่านต่อ 1 สิทธิ์ จำกัด 5,000 สิทธิ์ หรือจนกว่าสิทธิ์เต็ม   นอกจากการมอบความใส่ใจผ่านกิจกรรมที่ทำกับประชาชนทั่วไปแล้ว กรุงเทพประกันชีวิตยังใส่ใจลูกค้า และบุคลากร โดยการมอบ “กรมธรรม์ประกันภัยสุขใจสงกรานต์” ความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุฟรี 100,000 บาท ให้กับทั้งพนักงาน ตัวแทนฯ ซึ่งได้เริ่มความคุ้มครองโดยอัตโนมัติแล้วตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา สำหรับลูกค้าเดิมกรุงเทพประกันชีวิต มอบความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุ 10,000 สิทธิ์ โดยรับผ่านแอปพลิเคชัน BLA Happy Life ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2568 เป็นต้นไป จนกว่าสิทธิ์เต็ม รวมถึงลูกค้าใหม่ที่ชำระเบี้ยประกันภัย และวันเริ่มมีผลคุ้มครองตามกรมธรรม์ฉบับใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1- 30 เมษายน 2568 “นอกเหนือจากกิจกรรมต่างๆ กรุงเทพประกันชีวิตยังมีการสื่อสารแคมเปญ "ขับขี่ใส่ใจกัน สุขสันต์ตลอดสงกรานต์" ผ่านสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นป้ายบิลบอร์ด ในเส้นทางหลักที่เดินทางออกสู่ภูมิภาค และจอ LED ในต่างจังหวัด ด้วยข้อความแสดงความใส่ใจและสนับสนุนการเดินทางขับขี่ปลอดภัย เพื่อเพิ่มความมั่นใจตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะเราใส่ใจและอยากให้ทุกคนกลับบ้านไปหาครอบครัวอย่างปลอดภัยและกลับมาทำงานพร้อมรอยยิ้ม และผมขออวยพรให้เพื่อน พนักงาน และประชาชนคนไทยทุกท่านเที่ยวให้สนุก เดินทางปลอดภัย และกลับมาพร้อมพลังใจที่สดใสอีกครั้งครับ” นายโชนกล่าว

12 Apr 2025

...

บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ  กรุงเทพประกันชีวิต ขอแสดงความห่วงใยพี่น้องประชาชนต่อกรณีเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศไทยเมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินในวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพและความเป็นอยู่ทั้งของลูกค้าและประชาชน จึงขอส่งกำลังใจให้ทุกท่านผ่านพ้นวิกฤตนี้ในเร็ววัน และด้วยตระหนักถึงความเดือดร้อนและความเสียหายของผู้ประสบภัย จึงขอสนับสนุนและช่วยเหลือลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์ที่ประสบเหตุแผ่นดินไหวโดยมีมาตรการช่วยเหลือด้วย การขยายระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยประกัน สำหรับผู้ถือกรมธรรม์ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว และมีกำหนดชำระเบี้ยตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 – 30 เมษายน 2568  โดยให้สามารถขยายระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันจาก 60 วัน เป็น 90 วัน โดยผู้ถือกรมธรรม์สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-777-8888 ด้วยความใส่ใจ ห่วงใย จากกรุงเทพประกันชีวิต

09 Apr 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner