Responsive image

Friday, 26 Dec 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


ทิพยประกันภัย เผยเบี้ยฯรับ 9 เดือน ปี 2566 พุ่งกว่า 2.3 หมื่นลบ. กวาดกำไร 1,304 ลบ. ด้าน TIPH เดินหน้าเต็มสูบส่ง “Insurverse” ลุยประกันภัยออนไลน์

Thu 16/11/2566


ทิพยประกันภัย หรือ TIP โชว์กำไรสุทธิ 9 เดือน ปี 2566 ที่ 1,304 ล้านบาท เติบโตถึง 61.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน พร้อมโชว์เบี้ยประกันภัยรับรวม 9 เดือน ทะลุ 2.3 หมื่นล้านบาท เติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าให้บริการลูกค้าทุกกลุ่ม รวมถึงขยายช่องทางการขายร่วมกับพันธมิตรในหลากหลายอุตสาหกรรมเพื่อสนับสนุนการเติบโต และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างยั่งยืน ในส่วนของ ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ TIPH เปิดตัวบริษัท “Insurverse” บริษัทประกันภัยดิจิทัลเต็มรูปแบบ (Pure Digital Insurance) เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในการให้บริการประกันภัยอย่างไร้รอยต่อ ตั้งเป้าหมายเติบโตอย่างก้าวกระโดดและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 5 ปี

 

ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานของ ทิพยประกันภัย สำหรับงวด 9 เดือน ปี 2566 โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 23,096 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,306 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6.0 ประกอบกับมีรายได้และกำไรจากเงินลงทุนรวม 720 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน  166 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 29.9 ส่งผลให้ TIP มีกำไรสุทธิรวม 1,304 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 498 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 61.8 จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ในส่วนของบริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH มีกำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือน ปี 2566 จำนวน 1,242 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิต่อหุ้นจำนวน 2.09 บาท ในส่วนของผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยภายใต้กลุ่มธุรกิจสนับสนุนประกันภัย มีกำไรสุทธิรวม 40.8 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 13.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ ความคืบหน้าของธุรกิจภายใต้กลุ่มธุรกิจ TIPH มีการดำเนินงานดังนี้ DP Survey เปิดใช้งาน  Digital Survey Application เพื่อเป็นแพลตฟอร์มกลางสำหรับงานสำรวจภัย โดยสร้างเครือข่าย Surveyor ในการให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและเป็นมาตรฐานเดียวกัน รองรับงานจากบริษัทประกันภัยทั้งในและนอกกลุ่มเพื่อสร้างการเติบโต

ในส่วนของบริษัทในกลุ่มธุรกิจประกันภัย ได้เปิดตัวบริษัท “Insurverse” เพื่อให้บริการประกันภัยดิจิทัลเต็มรูปแบบ สร้างประสบการณ์ใหม่ในการรับประกันภัยผ่านแพลตฟอร์มที่รวดเร็ว เรียบง่าย และไม่ซับซ้อน โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการออกแบบความคุ้มครองเฉพาะบุคคล เพื่อให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดจากประกันภัย โดยปัจจุบัน Insurverse มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ อาทิ ประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยการเดินทาง และจะเพิ่มผลิตภัณฑ์ประกันภัยส่วนบุคคลอื่นๆ ให้ครบภายในปีนี้ โดย Insurverse ตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันภัยทะลุ 5,000 ล้านบาท และพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 5 ปี

ในขณะเดียวกัน ในส่วนของบริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด สามารถอนุมัติสินเชื่อได้ตามแผน และมีกำไรสุทธิ จำนวน 23.7 ล้านบาท ภายในเวลาเพียง 9 เดือน จากการขยายการปล่อยสินเชื่อไปทั่วประเทศ ทำให้ยอดสินเชื่อขยายตัวแบบก้าวกระโดด นอกจากนี้ จากแนวโน้มความต้องการสินเชื่อที่ดินที่ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จึงได้เปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ขายฝาก โดยมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าตลาดถึง 5% และจะเพิ่มช่องทางขอสินเชื่อผ่านสาขาของพันธมิตรผู้ถือหุ้น ซึ่งจะทำให้สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างกว้างขวาง และขยายการให้สินเชื่อได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ ดร.สมพร กล่าวว่า บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการที่ตรงต่อความต้องการของลูกค้าอย่างไม่หยุดยั้ง รวมถึงการพัฒนาช่องทางการขายร่วมกับพันธมิตร เพื่อสนับสนุนการขยายตัว และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างยั่งยืน ในขณะที่ธุรกิจสนับสนุนประกันภัยและธุรกิจอื่น ๆ สามารถขยายฐานลูกค้าเพื่อสร้างการเติบโตและความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจได้ตามแผน รักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจประกันวินาศภัยของไทย และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกลุ่มธุรกิจของ TIPH ต่อไป

 

 


Tags : ทิพยประกันภัย ดร.สมพร สืบถวิลกุล TIP TIPH ทิพย กรุุ๊ป โฮลดิ้งส์ Insurverse ประกันภัยออนไลน์ ผลประกอบการทิพยประกันภัย


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น (SOE Awards) ประจำปี 2568 ให้แก่ธนาคารออมสิน โดยมีผู้แทนรับมอบรางวัลได้แก่ รศ.ดร. ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการธนาคารออมสิน พร้อมด้วย นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และผู้บริหาร ซึ่งเป็นปีที่ธนาคารออมสินได้รางวัลในระดับดีเด่นและเกียรติยศ ครบทั้ง 8 ประเภทรางวัลที่ธนาคารได้รับ จัดขึ้นโดยคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2568     นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในปี 2568 นี้ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. ได้พิจารณามอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นแก่ธนาคารออมสิน จำนวน 8 รางวัล ประกอบด้วย 1) รางวัลเกียรติยศรัฐวิสาหกิจยอดเยี่ยม ธนาคารได้รับเป็นปีที่ 3 ต่อเนื่อง โดยเป็นรางวัลที่มอบให้กับรัฐวิสาหกิจที่มีความโดดเด่นและมีมาตรฐานการดำเนินงานทุก ๆ ด้าน สามารถตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของประชาชน     2) รางวัลเกียรติยศคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจดีเด่น ได้รับเป็นปีที่ 3 ต่อเนื่อง จากการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ และผลักดันการบริหารงานให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี 3) รางวัลเกียรติยศการบริหารจัดการองค์กรดีเด่น ได้รับเป็นปีที่ 7 ต่อเนื่อง จากการรักษามาตรฐาน การบริหารจัดการเพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขัน พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำพาองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ   4) รางวัลผู้นำองค์กรดีเด่น ที่มอบให้แก่นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผลงานเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสิน 5) รางวัลการพัฒนาสู่รัฐวิสาหกิจดิจิทัล จากการสร้างสรรค์และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาองค์กร ในมิติต่าง ๆ พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล 6) รางวัลการพัฒนาสู่รัฐวิสาหกิจยั่งยืน จากการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นระบบ จนเกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม     7) รางวัลการดำเนินงานอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น โดยได้รับจากผลงานความสำเร็จของโครงการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบองค์รวม (Holistic Area-Based Development) - โครงการลิบงสุขใจ ออมสินพัฒนา อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 8) รางวัลความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมดีเด่น จากโครงการ GEN AI Branch Assistant : ผู้ช่วยสาขาอัจฉริยะ ที่ธนาคารพัฒนาขึ้นโดยการนำ AI มาใช้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการของสาขา   นับเป็นความภาคภูมิใจและเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของบุคลากรธนาคารออมสินทุกคนในการรักษามาตรฐานการบริหารจัดการองค์กรในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ภายใต้หลักธรรมาภิบาล โปร่งใส และการให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างสมดุล ควบคู่กับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ธนาคารเพื่อสังคม” เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกและความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจและสังคมไทยในระยะยาว    

26 Dec 2025

...

เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมมือกับ เอ ไลฟ์ (ALive Powered by AIA) โดยบริษัท เอไอเอ เวลเนส จำกัด ส่งความห่วงใยถึงคนไทยทั่วประเทศในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2569 มอบแคมเปญ “ฟรี!!! ประกันอุบัติเหตุ กรมธรรม์ประกันภัยอุ่นใจข้ามปี” โดยมอบกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่ (ไมโครอินชัวรันส์) ฟรีให้แก่ประชาชนทั่วไป ระยะเวลาคุ้มครองนาน 30 วัน ด้วยวงเงินคุ้มครองชีวิตสูงถึง 100,000 บาทต่อกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ พร้อมรับผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุตามจำนวนที่จ่ายจริงสูงสุด 5,000 บาท* เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีหลักประกันความคุ้มครองอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมเพิ่มความอุ่นใจสำหรับการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาเพื่อไปฉลองกับครอบครัว ซึ่งแคมเปญดังกล่าวยังเป็นการขานรับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) อีกทั้งยังสานต่อพันธกิจของเอไอเอที่ต้องการสนับสนุนให้ผู้คนกว่าพันล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives ทั้งนี้ สำหรับประชาชนทุกคนที่สนใจขอรับกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มฟรี สามารถลงทะเบียนรับสิทธิออนไลน์ได้ง่าย ๆ เพียงไปที่เว็บไซต์ https://aiathailand.info/panyPR  ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2568 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2569   หมายเหตุ: *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัท เอไอเอ เวลเนส จำกัด กำหนด

20 Dec 2025

...

รายงานข่าวจากธนาคารออมสิน ขอเชิญชวนผู้ประกอบการร้านค้า ประเภทบุคคลธรรมดา ที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” และยังไม่ได้ลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Smart Finance Upskill ขอให้เร่งสมัครผ่านเว็บไซต์ของธนาคารออมสิน www.gsb.or.th ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากขณะนี้เหลือเวลาเพียง 4 วันสุดท้าย ที่สามารถลงทะเบียนและเรียนให้จบหลักสูตร เพื่อรับสิทธิ์เงินสนับสนุนจากภาครัฐ นับจากวันที่พัฒนาทักษะสำเร็จจนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 สูงสุดไม่เกินรายละ 2,000 บาท หลักสูตร Smart Finance Upskill การพัฒนาความรู้ทางการเงินเพื่อร้านค้ารายย่อยโครงการคนละครึ่ง พลัสเป็นการเรียนออนไลน์กับธนาคารออมสิน ภายใต้โครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย ประเภทบุคคลธรรมดา มุ่งเสริมทักษะทางการเงินที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจ ครอบคลุมการทำบัญชี การคิดต้นทุน การตั้งราคาขาย และความรู้ก่อนยื่นขอกู้ ผู้ที่เรียนจบและผ่านเกณฑ์ จะได้รับประกาศนียบัตรและรับสิทธิ์เงินสนับสนุนจากภาครัฐตามเงื่อนไขที่กำหนด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Smart Finance Upskill และข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโครงการ Upskill/Reskill คนละครึ่ง พลัส ที่ GSB Contact Center โทร. 1115 กด 7

19 Dec 2025

...

ธ.ก.ส. เร่งให้ความช่วยเหลือทหาร และ ตชด. วีรบุรุษผู้เสียสละชีวิต จากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศไทย – กัมพูชา โดยให้ความช่วยเหลือกับทหาร และ ตชด. ที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. รวมถึงให้ความช่วยเหลือบิดา - มารดา หรือคู่สมรสที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ของวีรบุรุษผู้เสียสละชีวิต โดยยกหนี้ในส่วนของต้นเงินกู้ทุกสัญญา และยกหนี้ในส่วนของดอกเบี้ยทั้งจำนวน ภายใต้สัญญาที่ใช้แหล่งเงินทุน ธ.ก.ส. เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ลูกหนี้ และลดภาระให้สามารถดำรงชีพต่อไปได้อย่างมั่นคง นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชาได้กลับมาตึงเครียดในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี ตราด และสระแก้ว ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของเกษตรกรลูกค้าของธนาคาร โดยปัจจุบันมีทหารที่เป็นสมาชิกครอบครัวของลูกค้า ธ.ก.ส. เสียชีวิต และเพื่อให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ลูกค้า ธ.ก.ส. และเป็นการลดภาระเพื่อให้สามารถดำรงชีพต่อไปได้อย่างมั่นคง คณะกรรมการธนาคาร โดย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ ธ.ก.ส. ได้มีมติในการประชุมวันนี้ (9 ธันวาคม 2568) ให้ความช่วยเหลือลูกค้า กรณีทหาร หรือตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศไทย – กัมพูชา ที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. รวมถึงให้ความช่วยเหลือแก่บิดา มารดา หรือคู่สมรสที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ของวีรบุรุษผู้เสียสละชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยธนาคารจะยกหนี้ในส่วนของต้นเงินกู้ทุกสัญญา และยกหนี้ในส่วนของดอกเบี้ยค้างรับและดอกเบี้ยปรับทั้งจำนวน ภายใต้สัญญาที่ใช้แหล่งเงินทุน ธ.ก.ส. เป็นกรณีพิเศษ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้ให้ความช่วยเหลือครอบครัวทหารไปแล้ว จำนวน 7 ราย ธ.ก.ส. ขอแสดงความห่วงใยต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา คนข้างหลังไม่ต้องกังวล ธ.ก.ส. อยู่เคียงข้างและพร้อมก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ Call Center 02 555 0555 ตลอด 24 ชั่วโมง  

14 Dec 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner