Responsive image

Wednesday, 06 Nov 2024

หน้าแรก > INSURANCE/ประกันภัย-ประกันชีวิต


"กรุงเทพประกันชีวิต” วางแผนประกันชีวิต ให้ได้มากกว่าเพียงแค่สิทธิลดหย่อนภาษี

Sat 18/11/2566


ประกันชีวิตเป็นทางเลือกในการใช้สิทธิลดหย่อนที่ผู้เสียภาษีบุคคลธรรมดาใช้ในการวางแผนภาษีในแต่ละปี เฉพาะเบี้ยประกันชีวิตสำหรับตัวผู้เสียภาษีสามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ถึง 100,000 บาท ไม่รวมกับเบี้ยประกันบำนาญและเบี้ยประกันสุขภาพของพ่อแม่ การใช้สิทธิลดหย่อนไม่ต้องคำนวณตามสัดส่วนของรายได้ของเราจึงลดหย่อนได้เต็มที่ไม่ว่าจะมีเงินได้พึงประเมินอย่างไร การวางแผนภาษีด้วยประกันชีวิตจึงสามารถช่วยลดภาระภาษีตามขั้นภาษีสูงสุดที่คำนวณได้ หรือสูงสุดถึง 35,000 บาททีเดียว

ประกันชีวิตที่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ประกอบด้วยแบบประกันที่มีระยะเวลาความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป  ประกันสุขภาพ  แต่คนส่วนใหญ่มักเลือกทำแบบประกันโดยคำนวณถึงการลดหย่อนภาษีเป็นหลัก จึงเลือกแบบประกันระยะเวลาต่ำสุดตามหลักเกณฑ์ คือความคุ้มครอง 10 ปี  เราสามารถเลือกวางแผนลดหย่อนภาษีให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินของเราควบคู่ไป เพื่อให้เราสามารถบรรลุตามเป้าหมายการเงินโดยไม่มีภาระการชำระเบี้ยเกินจำเป็น  ที่สำคัญเป็นการวางแผนการเงินระยะยาวให้กับตัวเราอีกด้วย   ซึ่งจริง ๆ เป็นวัตถุประสงค์หลักที่รัฐมอบสิทธิประโยชน์ภาษีให้กับผู้เสียภาษี

การทำประกันชีวิตเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีให้สอดคล้องกับเป้าหมายการเงินของเรา ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่เราหาเป้าหมายการเงินระยะยาวของเราให้ได้  หลายคนมีเพียงเป้าหมายเดียว แต่บางคนมีหลายเป้าหมายก็ได้ การวางแผนเพื่อการเกษียณเป็นเป้าหมายสำคัญเป้าหมายหนึ่งเพราะการที่คนมีอายุยืนยาวขึ้น จำเป็นต้องใช้เงินช่วงเกษียณมากขึ้น หากปัจจุบันเรามีอายุ 35 ปี การวางแผนเพื่อการเกษียณจะมีระยะเวลาประมาณ 25 ปี  เราสามารถเลือกแบบประกันสะสมทรัพย์เพื่อเสริมแผนการเกษียณของเราและได้ประโยชน์จากการลดหย่อนในหมวดประกัน ตัวอย่างเช่น คุณ บี ปัจจุบัน อายุ 50 ปี มีประกันสุขภาพในปัจจุบันเบี้ยฯ ปีละ 15,000 บาท สามารถวางแผนภาษีเพื่อการเกษียณเพิ่มเติมโดยใช้ประกันสะสมทรัพย์ ระยะเวลา 10 ปี ชำระเบี้ยฯ ครั้งเดียว ผลประโยชน์รวม 99,880 บาท เบี้ยฯ ปีละ 85,000 บาท เพื่อรับเงินก้อนหลังเกษียณปีละ 100,000 บาท   

เป้าหมายการเงินอีกเป้าหมายหนึ่งคือเป้าหมายการศึกษาของลูก เราสามารถวางแผนครอบครัวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาของลูกในระยะยาว หากลูกกำลังศึกษาอยู่ในชั้นอนุบาล แผนการศึกษาของลูกจะมีระยะเวลา 12 ปีโดยประมาณสำหรับระดับปริญญาตรี และ 16 ปี สำหรับระดับปริญญาโท  การเลือกทำประกันสะสมทรัพย์เพื่อลดหย่อนภาษีจึงไม่จำเป็นต้องเป็นแบบประกันที่มีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปี แต่อาจเลือกทำประกันในหลายรูปแบบเพื่อให้เหมาะสมกับเป้าหมายของเรา ตัวอย่างเช่น คุณใส่ใจ  ปัจจุบันอายุ 35 ปี  มีลูกอายุ 5 ปี  ต้องการเลือกทำประกันเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเต็ม 100,000 บาท ประกันสุขภาพที่มีอยู่ในปัจจุบันเบี้ยฯ ปีละ 15,000 บาท  ต้องการใช้ประกันเพื่อเป็นเงินทุนการศึกษาปริญญาโทให้ลูก 2 ล้านบาท  แบบประกันเพื่อใช้สิทธิฯ ภาษีของคุณใส่ใจจะต่างกับของคุณบี  โดยแผนภาษีจากประกันสะสมทรัพย์ ระยะเวลา 10 ปี ชำระเบี้ยครั้งเดียว แม้จะใช้สิทธิภาษีได้เท่ากัน แต่ไม่สามารถตอบเป้าหมายเพื่อการศึกษาของลูกได้ การวางแผนการศึกษาให้ลูกจะมีภาระชำระเบี้ยเพิ่มขึ้นและไม่สามารถนำมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้  คุณใส่ใจจึงควรเลือกแบบประกันสะสมทรัพย์เพื่อทุนการศึกษาปริญญาโท ระยะเวลาคุ้มครอง 15 ปี ระยะเวลาชำระเบี้ยฯ 10 ปี ผลประโยชน์รวมตลอดสัญญา 977,500 บาท จำนวนเงินประกันภัย 700,000 บาท  เบี้ยฯ ปีละ 85,000 บาท แทน

 

รูปแบบเป้าหมายที่สามารถนำมาประกอบการวางแผนภาษี สิ่งที่ต้องคำนึงถึง และรูปแบบของประกันชีวิตที่ตอบเป้าหมายต่างๆ อาจจะสรุปได้คร่าวๆ ตามตาราง ดังนี้

 

เมื่อเราจะวางแผนภาษีด้วยประกันทั้งที เราจึงควรวางแผนภาษีให้สอดคล้องไปกับเป้าหมายการเงินของเราด้วย เพื่อให้เราได้มากกว่าการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเพียงอย่างเดียว เพียงเท่านี้เราก็จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการทำประกันชีวิตเพื่อลดหย่อนภาษีประจำปี

หมายเหตุ

  • การใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
  • โปรดทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองเงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนการตัดสินใจสมัครทำประกันภัยทุกครั้ง

 


Tags : กรุงเทพประกันชีวิต วางแผนประกันชีวิต การทำประกันชีวิต รูปแบบของประกันชีวิต


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดกิจกรรมพิเศษ ในโอกาสครบรอบวันสถาปนา ธ.ก.ส. ปีที่ 59 เพื่อเพิ่มโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถซื้อสินค้าเกษตรกรได้มากขึ้น พร้อมกับร่วมเป็นกำลังใจให้แก่เกษตรกรวิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ SME ในการผลิตสินค้าคุณภาพเพื่อต่อยอดโอกาสทางธุรกิจของภาคเกษตรไทยไปสู่สากล โดยมอบโค้ด “BAAC59” สำหรับเป็นส่วนลดพิเศษจำนวน 590 บาท เมื่อสั่งซื้อสินค้า ผลิตภัณฑ์จากเกษตรกรลูกค้าของ ธ.ก.ส. บนเว็บไซต์ thailandpostmart.com รวมขั้นต่ำ 1,000 บาท โดย 1 บัญชี ผู้ซื้อที่ลงทะเบียนเข้าใช้บริการทางเว็บไซต์ดังกล่าว สามารถใช้โค้ดส่วนลดได้ 1 ครั้ง จำกัดสำหรับ 59 สิทธิ์ท่านแรกที่ใช้  ส่วนลด ระหว่าง 1-30 พฤศจิกายนนี้เท่านั้น ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center  02 555 0555     

04 Nov 2024

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รับ 3 รางวัลสุดยอดซีอีโอ “CEO Econmass Awards 2024” จากนางสาวเเพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประธานมอบรางวัลสุดยอดซีอีโอ “CEO Econmass Awards 2024” ซึ่งสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3   โดยรางวัลที่ได้รับ ประกอบด้วย รางวัลสุดยอดซีอีโอรัฐวิสาหกิจ สาขา Social และสาขา Governance และรางวัลสุดยอดซีอีโอขวัญใจสื่อมวลชน (Popular Vote) ด้วยนายวิทัยเป็นผู้บริหารสูงสุดขององค์กรรัฐวิสาหกิจที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในการขับเคลื่อนธนาคารออมสินด้วยยุทธศาสตร์ธนาคารเพื่อสังคม สร้าง Social Impact อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยหลักธรรมาภิบาลในการนำองค์กร ทั้งนี้ รางวัล CEO Econmass Awards 2024 เป็นรางวัลที่ยกย่อง เชิดชูเกียรติผู้บริหารที่นำพาองค์กรจนประสบความสำเร็จ และเติบโตไปพร้อมกับการให้ความสำคัญกับความอย่างยั่งยืน ตามแนวทาง ESG     ตลอดจนเป็นส่วนสำคัญที่จะเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศ และช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง ซึ่งผ่านกระบวนการคัดเลือกตามหลักวิชาการที่เป็นมาตรฐานสากล จากคณะกรรมการคัดเลือกที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ เป็นตัวแทนจาก กกร. สคร. มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน ส่วนรางวัลสุดยอดซีอีโอขวัญใจสื่อมวลชน เป็นการโหวตโดยสมาชิกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ โดยมีผู้บริหารธนาคารออมสินร่วมแสดงความยินดี ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567  

03 Nov 2024

...

  นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายเร่งรัดการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนในการช่วยเหลือประชาชนลดภาระหนี้ โดยเฉพาะผู้มีหนี้ที่เป็นกลุ่มเปราะบาง จึงมอบหมายให้ธนาคารออมสินช่วยเหลือลูกหนี้โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) ที่มีสถานะเป็นหนี้เสีย หรือ NPLs เพื่อไม่ให้เสียประวัติเครดิต และเข้าถึงการกู้เงินในระบบสถาบันการเงินได้เป็นปกติ ซึ่งที่ผ่านมาได้ทยอยจัดสรรงบประมาณชดเชยค่าเสียหายจากหนี้เสียให้ธนาคารมาชำระหนี้แทนลูกหนี้ โดยในปี 2567 ดำเนินการชำระหนี้แทนลูกหนี้แล้ว 2 ครั้ง ช่วยปลดหนี้ให้ลูกหนี้จำนวนกว่า 720,000 ราย และล่าสุด ธนาคารได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจากรัฐบาล จึงดำเนินการชำระหนี้และปิดบัญชีให้ลูกหนี้เพิ่มเติมทันที อีกกว่า 110,000 ราย รวมดำเนินการทั้งสิ้น 3 ครั้ง สามารถปลดหนี้ให้ลูกหนี้ได้แล้วกว่า 830,000 ราย คิดเป็นมูลค่าเงินต้นรวมกว่า 5,800 ล้านบาท ทั้งนี้ ขอขอบคุณรัฐบาลที่ได้สนับสนุนงบประมาณให้ดำเนินการดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลังที่ให้ธนาคารออมสินดำเนินงานโดยไม่เน้นกำไรสูงสุด มีกำไรในระดับที่เหมาะสม (Responsible Profit) และขยายการช่วยเหลือสังคมได้มากขึ้นในทุกมิติ อนึ่ง มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้สถานะ NPLs ของโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 ซึ่งเป็นการช่วยเหลือที่ดำเนินการเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เสียวินัยทางการเงิน โดยรัฐบาลมีนโยบายผลักดันการแก้ปัญหาหนี้ประชาชนทุกกลุ่มให้ประสบความสำเร็จและยั่งยืนเป็นวาระแห่งชาติ  

30 Oct 2024

...

  เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เป็นตัวแทนรับรางวัล Insurance Asia Awards 2024 ในสาขา International Life Insurer of the Year - Thailand จากนิตยสาร Insurance Asia ซึ่งได้คัดเลือกบริษัทประกันชีวิตจากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีความโดดเด่นในการดำเนินงาน ทั้งในด้านการบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม ตลอดจนการคิดค้นนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และโซลูชันด้านประกันชีวิตและสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ รางวัล Insurance Asia Award 2024 ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของเอไอเอ ประเทศไทย ซึ่งสะท้อนถึงมาตรฐานการให้บริการและความเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรม เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้าทั่วประเทศ อีกทั้งยังตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเอไอเอที่ต้องการสนับสนุนผู้คนกว่าหนึ่งพันล้านคนให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’

29 Oct 2024

Banner Banner Banner Banner

Banner
  ทิศทาง ceothailand.net ในปี 2567  “สื่อออนไลน์ CEO THAILAND”   ในปี 2567 จะเป็นปีที่ผม “นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์” จะมาทำหน้าที่บรรณาธิการบริหารสื่อ CEO THAILAND และผู้บริหารสื่อออนไลน์ ceothailand.net อย่างเต็มที่ หลังจากที่ผ่านมาได้ไปเดินแผนงานทางด้านการเมือง แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงการเลือกตั้งไปแล้วที่ผ่านมา จึงทำให้ช่วงเวลานี้มีเวลาที่จะมาวางแผนในการเดินหน้าธุรกิจสื่อได้มากขึ้น และในช่วงระยะเวลา 1-2 ปีนับจากนี้ จึงขอเข้ามารับหน้าที่สื่อมวลชน ในการเขียนบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ เรื่องราวในแวดวงเศรษฐกิจ-การเงิน และการประกันภัย ในฐานะของคอลัมนิสต์ ตลอดเวลาที่ผมเข้าไปทำงานทางการเมือง ต้องยอมรับว่าวงการข่าวและสื่อสารมวลชนเปลี่ยนไปเร็ว ตลอดเวลา 5 ปี  สื่อออนไลน์ที่รวดเร็วเข้ามาแทนที่สื่อหลักอย่างสื่อสิ่งพิมพ์ (ออฟไลน์)  เราต้องยอมรับในเรื่องความรวดเร็ว แต่ต้องไม่ลืมจุดด้อยของสื่อออนไลน์ คือข้อผิดพลาดในการกลั่นกรองข่าวสาร รวมทั้งบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ที่หายไป และข่าวที่ออกมามีความเหมือนกัน  ไม่แตกต่าง และเป็นเชิงภาพข่าว และกิจกรรมเท่านั้น ดังนั้นในปี 2567 นี้  ในหน้าสื่อออนไลน์ CEO THAILAND ท่านผู้อ่านจะได้สัมผัสกับข่าวสารเชิงวิเคราะห์ เจาะลึกแบบออนไลน์ต่อเนื่องในสื่อ CEO THAILAND รวมทั้งการจัดทำเป็น E-Magazine ใน www.ceothailand.net รวมทั้งการจัดทำเป็นรูปเล่มฉบับพิเศษสลับไปบ้างในเรื่องที่สำคัญๆ น่าสนใจ และเป็นประโยชน์กับประชาชนและสังคม ขอขอบพระคุณท่านลูกค้าและผู้สนับสนุนสื่อด้วยดีเสมอมา ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา และขอขอบพระคุณทุกท่าน รวมทั้งผู้อ่านที่ติดตามสื่อ CEO THAILAND ด้วยดีเสมอมาใน www.ceothailand.net   นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา) บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner