Responsive image

Monday, 07 Jul 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


TQM จับมือ BKI เปิดตัวประกันภัยคุ้มครองโรคจากมลพิษทางอากาศ PM 2.5

Fri 23/02/2567


บมจ.ทีคิวเอ็ม อัลฟา โดย บจก.ทีคิวเอ็ม อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ (TQM) ร่วมกับ บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) เปิดตัวประกันภัยคุ้มครองโรคจากมลพิษทางอากาศ PM 2.5 เพื่อเพิ่มความคุ้มครองแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากค่าฝุ่นที่สูงเกินมาตรฐาน ด้วยกรมธรรม์คุ้มครองโรคร้ายที่มีสาเหตุมาจากการได้รับผลจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ด้วยเงินก้อนปลอบขวัญ เพื่อเป็นค่าชดเชยค่ารักษาพยาบาล กรณีที่นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล และเงินชดเชย เงินรายวัน รวมถึงค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก (OPD) เบี้ยเริ่มต้นเพียงหลักพันต่อปี คุ้มครองสูงสุดถึงหลักแสน  

 

ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด (TQM) กล่าวว่า ภัยของฝุ่น PM 2.5 รุนแรงขึ้นทุกปีและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนแบบไม่รู้ตัว จากข้อมูลของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA รายงานว่า พบค่าฝุ่น PM 2.5 ในภาพรวมของประเทศที่สูงเกินมาตรฐาน โดยมีระดับสีแดงที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนในพื้นที่หลายจังหวัด ประกอบกับข้อมูลด้านการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า ในปี 2566 คนไทยป่วยด้วยโรคจากมลพิษทางอากาศรวมกว่า 9 ล้าน 2 แสนคน (ข้อมูลจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) ยิ่งสะท้อนให้เห็นความรุนแรงของฝุ่น PM 2.5 ซึ่งกำลังเป็นปัญหาที่ทั่วโลกต่างเผชิญร่วมกันอยู่ ด้วยค่าฝุ่น PM 2.5 ที่ประเทศไทยต้องประสบปัญหานี้ ล้วนส่งผลกระทบต่อร่างกาย และอาจทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ รวมถึงโรคร้ายแรงต่างๆ ทำให้หลายคนเกิดความกังวลใจว่าจะป้องกันและดูแลสุขภาพช่วงนี้อย่างไรให้ห่างไกลอันตรายจากการสูดดมฝุ่นละอองนี้เข้าไป รวมถึงความกังวลในเรื่องการแบกรับค่ารักษาพยาบาลที่อาจจะเกิดขึ้นได้ จึงได้นำมาเป็นแนวคิดในการร่วมมือออกกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองโรคจากมลพิษทางอากาศ PM 2.5

ด้าน ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI กล่าวว่า จากความห่วงใยสุขภาพของประชาชนที่กำลังเผชิญกับปัญหามลพิษทางอากาศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม กรุงเทพประกันภัย และ TQM จึงร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยคุ้มครองโรคจากมลพิษทางอากาศ PM 2.5 นี้ขึ้นมา โดยบริษัทฯ ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ให้ความคุ้มครองผู้มีความเสี่ยงจากการได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งครอบคลุมถึงการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ โรคตาแดง โรคเยื่อบุตาอักเสบ รวมถึงโรคร้ายแรงที่อาจเป็นผลจากการได้รับฝุ่น PM 2.5 เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคถุงลมโป่งพอง และโรคมะเร็งปอด เป็นต้น

กรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองโรคจากมลพิษทางอากาศ PM 2.5 จะช่วยคลายความกังวลใจและช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย ด้วยความคุ้มครองที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก (OPD) เงินชดเชยรายได้รายวันสูงสุด 30 วัน และการชดเชยด้วยเงินปลอบขวัญ (เงินก้อน) กรณีเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลไม่น้อยกว่า 5 วัน  โดยวงเงินคุ้มครองจะขึ้นอยู่กับแต่ละแผนความคุ้มครองที่มีให้เลือกถึง 4 แผน สามารถทำประกันภัยได้ตั้งแต่อายุ 6 - 59 ปี เบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 1,400 บาทต่อปี สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 – 65 ปี เบี้ยประกันภัยเริ่มต้น 1,700 บาทต่อปี

 

ด้าน ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด (TQM) กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาการรักษากลุ่มโรคที่อาจจะมีสาเหตุจากฝุ่น PM 2.5 นั้น เราสามารถใช้ประกันสุขภาพ ที่ครอบคลุมทุกโรคได้ แต่เนื่องด้วยประกันสุขภาพมีเบี้ยประกันภัยค่อนข้างสูง การมีกรมธรรม์ระบุโรคที่เกิดจากความเสี่ยง แบบเฉพาะเช่น ความคุ้มครองโรคจากมลพิษทางอากาศ PM 2.5 เช่นนี้ จะทำให้เบี้ยประกันภัยถูกลง จึงเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคและเพิ่มโอกาสการเข้าถึงประชาชนได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ความร่วมมือกับ BKI ยังสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย และเน้นความคุ้มครองโรคที่น่าจะเกิดจากผลของฝุ่น PM 2.5 ปัจจุบันแม้ภัยของฝุ่น PM 2.5 จะเหมือนเป็นภัยเงียบ แต่จริงๆ แล้วส่งผลเสียต่อร่างกายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ สำหรับกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองโรคจากมลพิษทางอากาศ PM 2.5 บริษัทฯ จึงได้หารือร่วมกับ BKI เพื่อออกแบบกรมธรรม์ประกันภัยที่เหมาะสมกับลูกค้าทุกกลุ่ม เพื่อเพิ่มความคุ้มครองและพร้อมช่วยคลายความกังวลในการแบกรับค่ารักษาพยาบาลที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากมลพิษทางอากาศ PM 2.5 ด้วย กรมธรรม์ที่มีรูปแบบความคุ้มครองที่หลากหลาย เข้าถึงง่าย โดยสามารถซื้อกรมธรรม์ประกันภัยทางออนไลน์และออฟไลน์ ได้ที่ www.tqm.co.th, Application TQM24 หรือโทรสายด่วน 1737 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


Tags : TQM ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ ทีคิวเอ็ม อัลฟา ดร.อัญชลิน พรรณนิภา กรุงเทพประกันภัย BKI ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประกันภัย PM 2.5


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  ร่วมงาน “มหกรรมการเงินหาดใหญ่” ครั้งที่ 15 (MONEY EXPO 2025 HATYAI) ระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคม 2568 ณ บูธ F3 หาดใหญ่ฮอลล์ ชั้น 5 เซ็นทรัล หาดใหญ่ จ.สงขลา ยกขบวนผลิตภัณฑ์สินเชื่อครอบคลุมทุกกลุ่ม ตอบโจทย์ทุกความต้องการผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไฮไลท์ คือ สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่มและทุกความต้องการเอสเอ็มอีไทย ควบคู่บริการพัฒนาธุรกิจ ผ่านแพลตฟอร์ม “DX by SME D Bank” (dx.smebank.co.th)   ช่วยเสริมศักยภาพกิจการ ครบถ้วนในจุดเดียว ห้ามพลาด! พิเศษเฉพาะภายในงาน เมื่อยื่นขอสินเชื่อ และได้รับอนุมัติทุกวงเงิน รับโปรโมชันเสริมอีก 2 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 : ลดค่าธรรมเนียมวิเคราะห์สินเชื่อ (Front End Fee) สูงสุด 0.25% และต่อที่ 2 : รับบัตรกำนัล มูลค่า 500 บาท พร้อมเล่นเกม ลุ้นรับของที่ระลึกมากมาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

03 Jul 2025

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารประสบความสำเร็จได้รับรางวัลระดับเอเชีย Asia Responsible Enterprise Awards (AREA) 2025 สาขา Social Empowerment จาก MyMo Secure Plus นวัตกรรมความปลอดภัยบน Mobile Banking ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากภัยไซเบอร์ให้ลูกค้า บูรณาการร่วมกับ แคมเปญเตือนภัยมิจฉาชีพ เพื่อสื่อสารสร้างการรับรู้และเสริมภูมิคุ้มกันภัยทางการเงิน พร้อมกันนี้ ธนาคารออมสินยังได้รับรางวัลเกียรติคุณ Silver Emblem of Sustainability ในฐานะองค์กรที่มีความโดดเด่นและมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนในทุกมิติจนได้รับรางวัล AREA มาแล้ว 5 ปี จาก Enterprise Asia องค์กรพัฒนาเอกชนชั้นนำที่ส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการที่มีความรับผิดชอบในเอเชีย เพื่อเชิดชูและให้เกียรติองค์กรธุรกิจที่มีการดำเนินงานตามแนวทาง ESG และเป็นต้นแบบองค์กรชั้นนำในภูมิภาคเอเชียที่ขับเคลื่อนองค์กรสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ     ธนาคารออมสินถือเป็นธนาคารแรกที่พัฒนาโหมดปลอดมิจฉาชีพ ภายใต้ชื่อ MyMo Secure Plus เพื่อช่วยดูแลเงินฝากขั้นสูงสุดให้กับลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มที่ไม่รู้เท่าทันมิจฉาชีพที่เปลี่ยนรูปแบบการหลอกลวงตลอดเวลา ออกแบบโดยเน้นการทำธุรกรรมทางการเงินแบบจำกัดเฉพาะรายการที่จำเป็น อาทิ การโอนเงินไปยังบัญชีตนเองภายในธนาคารและต่างธนาคารที่ลงทะเบียนไว้ และการจำกัดวงเงินในการทำธุรกรรมต่อวัน ทั้งนี้ ธนาคารออมสินไม่เพียงพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นธนาคารแรกที่ดำเนินกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ (IMC) ผ่าน แคมเปญเตือนภัยมิจฉาชีพ ดำเนินการอย่างเข้มข้นผ่านช่องทางการสื่อสารที่ครบวงจร ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ สื่อนอกบ้าน หรืออินฟลูเอนเซอร์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวางและครอบคลุมมากที่สุด เนื่องจากธนาคารตระหนักดีถึงความสูญเสียของประชาชนและวิกฤตของอาชญากรรมออนไลน์ที่นับวันจะทวีความรุนแรงจนกลายเป็นภัยคุกคามระดับประเทศ จึงเป็นความพยายามของธนาคารในการที่จะกระตุ้นเตือนให้ประชาชนรู้เท่าทันกลลวงและไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพทางการเงิน     รางวัลเกียรติคุณ Silver Emblem of Sustainability และ Social Empowerment ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงบทบาทของธนาคารออมสินในฐานะ Social Bank ที่ไม่เพียงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับการให้บริการลูกค้าเท่านั้น แต่ยังขับเคลื่อนการสร้าง Social Impact เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนช่วยบรรเทาปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง ธนาคารยังคงยึดมั่นในหลักการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบตามแนวทาง ESG เพื่อก้าวสู่เป้าหมายความยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคม ตลอดจนเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว  

01 Jul 2025

...

นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT HD เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568  

29 Jun 2025

...

  บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมออกบูทในงานมหกรรมจำหน่ายรถยนต์ครบวงจร FAST Auto Show Thailand 2025   ระหว่างวันที่ 2 – 6 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ฮอลล์ EH 102 - 103  ในงานนี้ บริษัทฯ ได้จัดเต็มโปรโมชันสุดพิเศษ โดยมอบส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยสูงสุด 23% สำหรับผู้ที่ซื้อกรมธรรม์ใหม่ภายในงาน โดยมีทีมงานรับประกันภัยพร้อมบริการให้คำปรึกษา และคำแนะนำเกี่ยวกับแผนประกันภัยที่เหมาะสมกับความคุ้มครองที่หลากหลาย โดยนอกจากประกันภัยรถยนต์แล้วยังมีประกันอัคคีภัย ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันภัยการเดินทาง ประกันภัยสุขภาพ ประกันภัยโรคมะเร็ง และประกันภัยอื่นๆ ที่ให้ความคุ้มครองรองรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า นอกจากนี้ ยังสามารถผ่อนชำระเบี้ยประกันภัย ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน หรือ 10 เดือนผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ พร้อมรับของที่ระลึกที่เตรียมไว้สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ  พบกับกรุงเทพประกันภัยได้ที่บูท B11 ณ ศูนย์ประชุมนิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา ฮอลล์ EH 102 - 103 ในวันที่ 2 - 6 กรกฎาคม 2568    

29 Jun 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner