Responsive image

Tuesday, 15 Oct 2024

หน้าแรก > INSURANCE/ประกันภัย-ประกันชีวิต


TQM จับมือ BKI เปิดตัวประกันภัยคุ้มครองโรคจากมลพิษทางอากาศ PM 2.5

Fri 23/02/2567


บมจ.ทีคิวเอ็ม อัลฟา โดย บจก.ทีคิวเอ็ม อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ (TQM) ร่วมกับ บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) เปิดตัวประกันภัยคุ้มครองโรคจากมลพิษทางอากาศ PM 2.5 เพื่อเพิ่มความคุ้มครองแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากค่าฝุ่นที่สูงเกินมาตรฐาน ด้วยกรมธรรม์คุ้มครองโรคร้ายที่มีสาเหตุมาจากการได้รับผลจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ด้วยเงินก้อนปลอบขวัญ เพื่อเป็นค่าชดเชยค่ารักษาพยาบาล กรณีที่นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล และเงินชดเชย เงินรายวัน รวมถึงค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก (OPD) เบี้ยเริ่มต้นเพียงหลักพันต่อปี คุ้มครองสูงสุดถึงหลักแสน  

 

ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด (TQM) กล่าวว่า ภัยของฝุ่น PM 2.5 รุนแรงขึ้นทุกปีและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนแบบไม่รู้ตัว จากข้อมูลของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA รายงานว่า พบค่าฝุ่น PM 2.5 ในภาพรวมของประเทศที่สูงเกินมาตรฐาน โดยมีระดับสีแดงที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนในพื้นที่หลายจังหวัด ประกอบกับข้อมูลด้านการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า ในปี 2566 คนไทยป่วยด้วยโรคจากมลพิษทางอากาศรวมกว่า 9 ล้าน 2 แสนคน (ข้อมูลจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) ยิ่งสะท้อนให้เห็นความรุนแรงของฝุ่น PM 2.5 ซึ่งกำลังเป็นปัญหาที่ทั่วโลกต่างเผชิญร่วมกันอยู่ ด้วยค่าฝุ่น PM 2.5 ที่ประเทศไทยต้องประสบปัญหานี้ ล้วนส่งผลกระทบต่อร่างกาย และอาจทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ รวมถึงโรคร้ายแรงต่างๆ ทำให้หลายคนเกิดความกังวลใจว่าจะป้องกันและดูแลสุขภาพช่วงนี้อย่างไรให้ห่างไกลอันตรายจากการสูดดมฝุ่นละอองนี้เข้าไป รวมถึงความกังวลในเรื่องการแบกรับค่ารักษาพยาบาลที่อาจจะเกิดขึ้นได้ จึงได้นำมาเป็นแนวคิดในการร่วมมือออกกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองโรคจากมลพิษทางอากาศ PM 2.5

ด้าน ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI กล่าวว่า จากความห่วงใยสุขภาพของประชาชนที่กำลังเผชิญกับปัญหามลพิษทางอากาศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม กรุงเทพประกันภัย และ TQM จึงร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยคุ้มครองโรคจากมลพิษทางอากาศ PM 2.5 นี้ขึ้นมา โดยบริษัทฯ ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ให้ความคุ้มครองผู้มีความเสี่ยงจากการได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งครอบคลุมถึงการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ โรคตาแดง โรคเยื่อบุตาอักเสบ รวมถึงโรคร้ายแรงที่อาจเป็นผลจากการได้รับฝุ่น PM 2.5 เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคถุงลมโป่งพอง และโรคมะเร็งปอด เป็นต้น

กรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองโรคจากมลพิษทางอากาศ PM 2.5 จะช่วยคลายความกังวลใจและช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย ด้วยความคุ้มครองที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก (OPD) เงินชดเชยรายได้รายวันสูงสุด 30 วัน และการชดเชยด้วยเงินปลอบขวัญ (เงินก้อน) กรณีเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลไม่น้อยกว่า 5 วัน  โดยวงเงินคุ้มครองจะขึ้นอยู่กับแต่ละแผนความคุ้มครองที่มีให้เลือกถึง 4 แผน สามารถทำประกันภัยได้ตั้งแต่อายุ 6 - 59 ปี เบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 1,400 บาทต่อปี สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 – 65 ปี เบี้ยประกันภัยเริ่มต้น 1,700 บาทต่อปี

 

ด้าน ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด (TQM) กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาการรักษากลุ่มโรคที่อาจจะมีสาเหตุจากฝุ่น PM 2.5 นั้น เราสามารถใช้ประกันสุขภาพ ที่ครอบคลุมทุกโรคได้ แต่เนื่องด้วยประกันสุขภาพมีเบี้ยประกันภัยค่อนข้างสูง การมีกรมธรรม์ระบุโรคที่เกิดจากความเสี่ยง แบบเฉพาะเช่น ความคุ้มครองโรคจากมลพิษทางอากาศ PM 2.5 เช่นนี้ จะทำให้เบี้ยประกันภัยถูกลง จึงเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคและเพิ่มโอกาสการเข้าถึงประชาชนได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ความร่วมมือกับ BKI ยังสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย และเน้นความคุ้มครองโรคที่น่าจะเกิดจากผลของฝุ่น PM 2.5 ปัจจุบันแม้ภัยของฝุ่น PM 2.5 จะเหมือนเป็นภัยเงียบ แต่จริงๆ แล้วส่งผลเสียต่อร่างกายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ สำหรับกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองโรคจากมลพิษทางอากาศ PM 2.5 บริษัทฯ จึงได้หารือร่วมกับ BKI เพื่อออกแบบกรมธรรม์ประกันภัยที่เหมาะสมกับลูกค้าทุกกลุ่ม เพื่อเพิ่มความคุ้มครองและพร้อมช่วยคลายความกังวลในการแบกรับค่ารักษาพยาบาลที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากมลพิษทางอากาศ PM 2.5 ด้วย กรมธรรม์ที่มีรูปแบบความคุ้มครองที่หลากหลาย เข้าถึงง่าย โดยสามารถซื้อกรมธรรม์ประกันภัยทางออนไลน์และออฟไลน์ ได้ที่ www.tqm.co.th, Application TQM24 หรือโทรสายด่วน 1737 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


Tags : TQM ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ ทีคิวเอ็ม อัลฟา ดร.อัญชลิน พรรณนิภา กรุงเทพประกันภัย BKI ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประกันภัย PM 2.5


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

  บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดตัวแคมเปญสุดพิเศษ "Saving Fest เทศกาลสุดเซฟ...แห่งปี" เพื่อมอบส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 30% แก่ลูกค้าใหม่ที่ซื้อประกันออนไลน์ แคมเปญนี้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ประกันภัยหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยสุขภาพ ประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย ประกันภัยสัตว์เลี้ยง และประกันภัยอื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ง่าย ๆ เพียงกรอกโค้ด SAVE24 ก่อนการชำระเงินที่เว็บไซต์ www.tipinsure.com หรือคลิกที่ลิงก์ https://bit.ly/_SAVE24 เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมและซื้อประกันภัยออนไลน์  ได้ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน - 15 พฤศจิกายน 2567   #ทิพยประกันภัย #Dhipaya #Savingfest24  

08 Oct 2024

...

ตามที่ นางสาวเเพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายสั่งการให้หน่วยงานของรัฐ เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย ตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ณ วันที่ 26 กันยายน 2567 โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบหมายให้ธนาคารออมสินดำเนินการ ธนาคารจึงออก มาตรการช่วยเหลือโดยการพักหนี้อัตโนมัติ – พักจ่ายเงินต้นและไม่คิดดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 3 เดือน ช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2567 ซึ่งจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและแบ่งเบาภาระของลูกหนี้ธนาคารออมสินในพื้นที่ประสบภัยตามประกาศฯ จำนวนกว่า 110,000 บัญชี คิดเป็นเงินต้นรวมกว่า 43,000 ล้านบาท มาตรการพักหนี้อัตโนมัติ - พักจ่ายเงินต้นและไม่คิดดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อพักชำระหนี้ให้กับสินเชื่อ SMEs ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10 ล้านบาท และสินเชื่อรายย่อยทุกประเภทซึ่งรวมถึงสินเชื่อพัฒนากลุ่มอาชีพ และสินเชื่อสวัสดิการ (ยกเว้นสินเชื่อชีวิตสุขสันต์ และ สินเชื่อตามนโยบายรัฐ หรือ Public Service Account - PSA) โดยลูกหนี้ที่ได้รับสิทธิ์ให้เข้ามาตรการฯ ต้องมีภูมิลำเนา ที่อยู่ หรือที่ประกอบอาชีพ ในพื้นที่ประสบภัยตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ณ วันที่ 26 กันยายน 2567 ทั้งนี้ ธนาคารจะส่ง SMS หรือจดหมายแจ้งการพักชำระหนี้อัตโนมัติให้ลูกหนี้ทราบ ซึ่งจะมีผลในงวดเดือนตุลาคม - งวดเดือนธันวาคม 2567 หลังจากนั้นลูกหนี้จะต้องกลับมาชำระหนี้ตามปกติตั้งแต่งวดเดือนมกราคม 2568 เป็นต้นไป กรณีไม่ต้องการพักหนี้อัตโนมัติ สามารถชำระหนี้ได้เช่นเดิม โดยผู้เป็นลูกหนี้ปกติที่ชำระหนี้ในช่วงเวลา 3 เดือนของมาตรการฯ ธนาคารจะนำไปตัดต้นเงิน ส่วนผู้ที่ได้เข้าร่วมมาตรการพักหนี้ ลดดอกเบี้ยครึ่งหนึ่งมาแล้วก่อนหน้านี้ จะได้รับการพิจารณาเข้ามาตรการนี้โดยอัตโนมัติด้วยเช่นกัน สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินกู้เพื่อนำไปบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยพิบัติ สามารถยื่นขอสินเชื่อฉุกเฉิน หย่อนเกณฑ์อนุมัติ ให้กู้สูงสุดรายละไม่เกิน 10,000 บาท ไม่ต้องมีหลักประกันและไม่มีผู้ค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0% สำหรับ 3 เดือนแรก หลังจากนั้นเดือนที่ 4 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย 0.60% หรืออาจยื่นขอสินเชื่อวงเงินสูงขึ้นเป็นรายละไม่เกิน 50,000 บาท แบบมีหลักประกัน อัตราดอกเบี้ย 3 เดือนแรก 0% ต่อเดือนเช่นกัน รวมถึงมาตรการสินเชื่อเคหะสำหรับผู้ที่ต้องการซ่อมแซมฟื้นฟูที่อยู่อาศัยที่เสียหาย ธนาคารให้วงเงินกู้สูงถึง 100% ของราคาประเมิน อัตราดอกเบี้ยพิเศษเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.233% ต่อปี ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.gsb.or.th หรือที่ GSB Contact Center โทร.1115 และติดต่อขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่สาขาธนาคารออมสิน ภายใน 30 วัน นับจากวันที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัย    

30 Sep 2024

...

เอไอเอ ประเทศไทย สานต่อโครงการ “สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี - AIA Healthiest Schools” ซึ่งจัดขึ้นติดต่อเป็นปีที่ 3 โดยได้รับความร่วมมืออย่างต่อเนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดรับสมัครโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการเพื่อชิงรางวัลรวมกว่า 2 ล้านบาท และได้เป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติ เพื่อชิงรางวัลอีกกว่า 1.5 ล้านบาท รวมมูลค่ารางวัลถึง 3.5 ล้านบาท ตอกย้ำถึงพันธกิจสำคัญของเอไอเอ ที่มุ่งสนับสนุนเยาวชนและผู้คนในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก กว่าหนึ่งพันล้านคนให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’     โครงการ “สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี - AIA Healthiest Schools” เป็นโครงการที่กลุ่มบริษัทเอไอเอ และเอไอเอ ประเทศไทย ริเริ่มขึ้นเพื่อมุ่งเสริมสร้างและปลูกฝังพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพของนักเรียนที่มีอายุระหว่าง 5 - 16 ปี โดยมุ่งเน้นใน 4 ด้านสำคัญ ได้แก่ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การทำกิจกรรมที่แอคทีฟ การมีสุขภาพใจที่ดี และการพัฒนาสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดความยั่งยืน โดยเมื่อปีที่ผ่านมา ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากโรงเรียนทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการมากกว่า 600 โรงเรียน และส่งผลงานเข้าประกวดถึง 91 โรงเรียน ซึ่งโรงเรียนที่ชนะระดับประถมศึกษา ได้แก่ โรงเรียนเทศบาล 2 วัดดอนมูลชัย จังหวัดตาก และโรงเรียนที่ชนะระดับมัธยมศึกษา ได้แก่ โรงเรียนเทศบาล 1 กิตติขจร จังหวัดตาก สำหรับโรงเรียนระดับประถมและมัธยมศึกษาที่สนใจ สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ “สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี - AIA Healthiest Schools” ปีที่ 3 ได้แล้วที่เว็บไซต์ ahs.aia.com/th/th/ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 8 มีนาคม 2568  

29 Sep 2024

...

ตามที่รัฐบาลได้มอบหมายสั่งการให้ธนาคารออมสิน เร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเชียงรายที่ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่อยู่ขณะนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอแม่สาย ที่ธนาคารออมสินภาค 9 ได้รับมอบนโยบายลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้า อาทิ ถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของจำเป็น เพื่อใช้บรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น   ทั้งนี้ ธนาคารออมสินได้ออกชุดมาตรการทางการเงินเพื่อลดภาระของผู้ประสบภัย ประกอบด้วย มาตรการพักหนี้และลดดอกเบี้ย โดยให้พักชำระเงินต้นและจ่ายดอกเบี้ยครึ่งหนึ่ง ส่วนดอกเบี้ยที่เหลืออีกครึ่งธนาคารลดให้ เป็นระยะเวลา 3 เดือน สำหรับลูกค้าสินเชื่อรายย่อย ทั้งบุคคล และ SMEs ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10 ล้านบาท ไม่รวมลูกค้าสินเชื่อตามธุรกรรมนโยบายรัฐ (PSA) หรือโครงการผ่อนปรนอื่น ๆ โดยแจ้งความประสงค์ขอเข้ามาตรการผ่านทางเว็บไซต์ธนาคารออมสิน หรือติดต่อธนาคารออมสินในพื้นที่ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป     นอกจากนี้ ยังมีมาตรการสินเชื่อฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ผ่อนเกณฑ์อนุมัติ แบบไม่ต้องมีหลักประกันและไม่มีผู้ค้ำประกัน วงเงินกู้สูงสุดไม่เกินรายละ 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0% ใน 3 เดือนแรก และปลอดชำระเงินงวดนาน 3 เดือน จากนั้นเดือนที่ 4 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย 0.60% และสินเชื่อเคหะแก่ผู้ประสบภัย สำหรับลูกค้าธนาคารออมสินและประชาชนทั่วไป ที่จำเป็นต้องซ่อมแซมบ้านเรือนที่อยู่อาศัยซึ่งได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม วงเงินกู้สูงถึง 100% ของราคาประเมิน อัตราดอกเบี้ยลดพิเศษเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.233% ต่อปี ปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ย 2% ปีที่ 2 - 3 = 3.85% ต่อปี (MRR-2.745%) และปีที่ 4 เป็นต้นไป = 5.845% ต่อปี (MRR-0.750%)     นอกเหนือจากมาตรการทางการเงินแล้ว ยังมีมาตรการช่วยเหลือและฟื้นฟูเยียวยาหลังน้ำลด โดยร่วมกับภาคีเครือข่าย อาทิ วิทยาลัยเทคนิคในพื้นที่ เปิด “คลินิกสารพัดซ่อม” เพื่อปรับปรุงซ่อมแซมบ้านเรือนที่อยู่อาศัย รถจักรยานยนต์ อุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับความเสียหาย เป็นต้น และยังได้มอบหมายให้ธนาคารออมสินในพื้นที่ออกเยี่ยมเยียนและให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าประชาชนที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งขยายผลความช่วยเหลือไปยังพื้นที่รับน้ำอื่น ๆ ด้วย ธนาคารออมสินขอร่วมส่งกำลังใจให้ผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการช่วยเหลือในทุกพื้นที่ให้มีความปลอดภัยและขอให้ผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้โดยเร็ว  

16 Sep 2024

Banner Banner Banner Banner

Banner
  ทิศทาง ceothailand.net ในปี 2567  “สื่อออนไลน์ CEO THAILAND”   ในปี 2567 จะเป็นปีที่ผม “นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์” จะมาทำหน้าที่บรรณาธิการบริหารสื่อ CEO THAILAND และผู้บริหารสื่อออนไลน์ ceothailand.net อย่างเต็มที่ หลังจากที่ผ่านมาได้ไปเดินแผนงานทางด้านการเมือง แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงการเลือกตั้งไปแล้วที่ผ่านมา จึงทำให้ช่วงเวลานี้มีเวลาที่จะมาวางแผนในการเดินหน้าธุรกิจสื่อได้มากขึ้น และในช่วงระยะเวลา 1-2 ปีนับจากนี้ จึงขอเข้ามารับหน้าที่สื่อมวลชน ในการเขียนบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ เรื่องราวในแวดวงเศรษฐกิจ-การเงิน และการประกันภัย ในฐานะของคอลัมนิสต์ ตลอดเวลาที่ผมเข้าไปทำงานทางการเมือง ต้องยอมรับว่าวงการข่าวและสื่อสารมวลชนเปลี่ยนไปเร็ว ตลอดเวลา 5 ปี  สื่อออนไลน์ที่รวดเร็วเข้ามาแทนที่สื่อหลักอย่างสื่อสิ่งพิมพ์ (ออฟไลน์)  เราต้องยอมรับในเรื่องความรวดเร็ว แต่ต้องไม่ลืมจุดด้อยของสื่อออนไลน์ คือข้อผิดพลาดในการกลั่นกรองข่าวสาร รวมทั้งบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ที่หายไป และข่าวที่ออกมามีความเหมือนกัน  ไม่แตกต่าง และเป็นเชิงภาพข่าว และกิจกรรมเท่านั้น ดังนั้นในปี 2567 นี้  ในหน้าสื่อออนไลน์ CEO THAILAND ท่านผู้อ่านจะได้สัมผัสกับข่าวสารเชิงวิเคราะห์ เจาะลึกแบบออนไลน์ต่อเนื่องในสื่อ CEO THAILAND รวมทั้งการจัดทำเป็น E-Magazine ใน www.ceothailand.net รวมทั้งการจัดทำเป็นรูปเล่มฉบับพิเศษสลับไปบ้างในเรื่องที่สำคัญๆ น่าสนใจ และเป็นประโยชน์กับประชาชนและสังคม ขอขอบพระคุณท่านลูกค้าและผู้สนับสนุนสื่อด้วยดีเสมอมา ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา และขอขอบพระคุณทุกท่าน รวมทั้งผู้อ่านที่ติดตามสื่อ CEO THAILAND ด้วยดีเสมอมาใน www.ceothailand.net   นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา) บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner