Responsive image

Saturday, 15 Nov 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


คณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ ระดมสมองกูรูด้านกฎหมาย ยกกรณีศึกษาบริษัทประกันภัยเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ

Wed 10/07/2567


  • เปิดช่องเลี่ยงการบังคับใช้กฎหมาย ควรเร่งแก้ไขด่วนก่อนกระทบต่อกลไกการกำกับดูแลเพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชน

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ  คณบดีคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่สังคมไทยอยู่ในยุคของพัฒนาการต่าง ๆ  อย่างก้าวกระโดดทำให้กฎหมายตามไม่ทันและบ่อยครั้งเกิดช่องโหว่ของกฎหมาย ดังนั้นคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ จึงได้จัดงานเสวนาวิชาการและการประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 5 เรื่อง “Legal Innovation for Sustainable Justice in the Next Normal”  เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 ณ ห้องประชุมสนม สุทธิพิทักษณ์ อนุสรณ์

โดยได้รับเกียรติจาก นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เป็นประธานเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “กฎหมายยุค Next Normal กับการขับเคลื่อนนวัตกรรม” โดยกล่าวในตอนหนึ่งว่า หากจะสร้างความเข้มแข็งให้กับหลักนิติธรรมและสังคมที่เป็นธรรม ต้องอาศัยการบูรณาการจากหลายศาสตร์การเรียนรู้ ไม่ใช่แค่นักกฎหมายและผู้บังคับใช้กฎหมายเท่านั้น ยังต้องอาศัยเครื่องมือทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมการออกแบบนโยบาย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและจะต้องมีกลไกที่ดูแลคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้บริโภคให้เกิดประสิทธิภาพ โดยการพัฒนากฎหมายยุคดิจิทัลควรจะมีลักษณะยืดหยุ่นทันสมัย และต้องคำนึงถึงว่ากฎหมายอาจจะถูกใช้เป็นเครื่องมือ เพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบได้ กฎหมายจึงควรต้องได้รับการตรวจสอบและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้ใช้งานด้วย

นอกจากนี้ในเวทีการประชุมวิชาการดังกล่าว ยังมีการจัดเสวนาวิชาการ ในหัวข้อ “การฟื้นฟูกิจการ-ทางรอดของธุรกิจหรือทางเลี่ยงกฎหมายกำกับดูแล : ทางออกและแนวทางการแก้ไขเพื่อความยุติธรรมที่ยั่งยืน” โดยวัตถุประสงค์ เพื่อร่วมกันพัฒนากฎหมายและแนวทางการบังคับใช้กฎหมายให้ทันสมัย หาทางออกและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายล้มละลายและการฟื้นฟูกิจการ เพื่อส่งเสริมความยุติธรรมที่ยั่งยืนในสังคม หลังเทคโนโลยีเข้ามีมาบทบาทสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกภาคส่วนแบบก้าวกระโดด “กฎหมาย” ในฐานะที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างเสถียรภาพและการเปลี่ยนแปลงในสังคมให้ยั่งยืน จำเป็นที่จะต้องปรับตัวให้เท่าทันสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเข้าใจถึงบริบทของสังคม นวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับหลักนิติธรรมและสังคมที่เป็นธรรม  โดยมีคณะวิทยากรร่วมเสวนา ได้แก่ ศ.ดร. สหธน รัตนไพจิตร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นางสาวรังสิมา รัตนะ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดสระแก้ว ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลล้มละลายกลาง และนายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการด้านกฎหมายและตรวจสอบ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) โดยมี ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ คณบดีคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เป็นผู้ดำเนินการเสวนา ท่ามกลางคณาจารย์และนักศึกษาเข้ารับฟังกว่า 100 คน

ศ.ดร.สหธน รัตนไพจิตร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้สะท้อนประสบการณ์จากการเป็นกรรมการยกร่าง พ.ร.บ. ล้มละลาย ว่า ขณะที่ร่างกฎหมายมีเจตนารมณ์ที่ดี แต่ไม่สามารถทราบล่วงหน้าว่าจะเกิดปัญหาในทางปฏิบัติภายหลัง ซึ่งเมื่อทราบแล้วก็เห็นด้วยว่าจำเป็นต้องหาทางแก้ไข โดยควรให้น้ำหนักกับบทบาทในเรื่อง Regulator Control มากขึ้น

ส่วนมุมมองของ นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการด้านกฎหมายและตรวจสอบ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้ยกตัวอย่างกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นจริง และชี้ให้เห็นสภาพปัญหาของบริษัทประกันภัยที่วิเคราะห์ความเสี่ยงผิดพลาด การบริหารจัดการความเสี่ยงที่ไม่ดีพอ แล้วพอเกิดปัญหา ก็นำเรื่องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งแม้เห็นว่ากระบวนการฟื้นฟูกิจการมีประโยชน์ แต่ในทางปฏิบัติ ทำให้เกิดการลักลั่นระหว่างกลไกในการฟื้นฟูกิจการ กับกลไกในการกำกับดูแลบริษัทประกันภัยของสำนักงาน คปภ. ทำให้การกำกับดูแลตามกฎหมายประกันภัยไม่สามารถดำเนินการได้ จึงกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของประชาชน จำเป็นต้องทบทวนกฎหมาย เพื่อให้การทำงานของหน่วยงานกำกับดูแลเกิดประสิทธิภาพและสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมายประกันภัย ซึ่งมีศักดิ์ทางกฎหมายเท่ากับกฎหมายล้มละลาย

ด้านนางสาวรังสิมา รัตนะ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดสระแก้ว ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลล้มละลายกลาง ให้ข้อคิดเห็นส่วนตัวในทางวิชาการว่า แม้การฟื้นฟูกิจการเป็นเจตนารมณ์ที่ดี การให้โอกาสสำหรับกฎหมายฉบับนี้ไม่ใช่เป็นการให้โอกาสกับลูกหนี้ทุกรายที่ธุรกิจไม่สามารถไปต่อได้แล้ว และไม่ควรให้โอกาสลูกหนี้ใช้ช่องทางนี้เพื่อประวิงคดี ซึ่งเป็นไปตามหลักการสากลของคณะกรรมาธิการกฎหมายการค้าระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ จึงจำเป็นที่จะต้องมีการแก้ไขกฎหมายในส่วนของกฎหมายล้มละลาย และแก้ไขในส่วนของกฎหมายขององค์การกำกับดูแลเพื่อให้สามารถเข้าไปกำกับดูแลได้เข้มข้นขึ้น ซึ่งเปรียบเทียบกับ Chapter 11 ของกฎหมายล้มละลายของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งกำหนดว่ากรณีธนาคารหรือบริษัทประกันภัยที่มีหน่วยงานกำกับดูแลอยู่แล้ว ไม่สามารถยื่นขอฟื้นฟูกิจการได้

ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ คณบดีคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ในฐานะผู้ดำเนินการเสวนากล่าวแสดงความเห็นว่า การจะแก้ไขปรับปรุงกฎหมายใช้เวลานาน ทำให้กฎหมายไม่สามารถตามทันพัฒนาการทางสังคมและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่จะต้องดำเนินการเฉพาะหน้าคือการบังคับใช้และการตีความกฎหมายที่มีอยู่ ให้เกิดความเป็นธรรม  โดยคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มุ่งเน้นให้นักศึกษาคิดไกล คิดเป็น คิดให้ปฏิบัติได้ ไม่เน้นท่องจำ พร้อมกับปลูกฝังสร้าง DNA ให้นักศึกษามีใจที่ยุติธรรม

 

เวทีการเสวนาในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะนําเอาประเด็นที่เป็นปัญหาร่วมสมัย อันเกิดจากการบังคับใช้กฎหมายที่ในปัจจุบันยังไม่มีคำตอบเกี่ยวกับการแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน มาเปิดเวทีให้มีการพูดคุยเสวนา อภิปราย ระดมความคิดเห็นกัน ในประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายล้มละลายและการฟื้นฟูกิจการของประเทศไทย ซึ่งในทางปฏิบัติเกิดการลักลั่นกันกับกฎหมายของหน่วยงานที่กำกับดูแล เพราะเกิดช่องโหว่ในเรื่องสภาวะการพักชำระหนี้ ทำให้มีโอกาสที่จะเลี่ยงกฎหมายของหน่วยงานที่กำกับดูแลจึงจำเป็นต้องหาทางออกเพื่อมิให้กระทบต่อสิทธิประโยชน์ของประชาชน ซึ่งจากการเสวนาครั้งนี้ วิทยากรทุกท่านเห็นตรงกันว่าจำเป็นต้องมีการปรับปรุงกฎหมาย โดยอาจกำหนดเป็นข้อยกเว้นว่าในกรณีที่มีหน่วยงานกำกับดูแลอยู่แล้ว ห้ามมิให้ยื่นขอฟื้นฟูกิจการ เช่นเดียวกับ Chapter 11 ของประเทศสหรัฐอเมริกา และปรับปรุงกฎหมายในส่วนของหน่วยงานกำกับดูแลให้รองรับในเรื่องการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องศึกษาในรายละเอียดต่อไป


Tags : ดร.สุทธิพลทวีชัยการ คณะนิติศาสตร์ปรีดีพนมยงค์ เสวนาวิชาการ กฎหมาย อดิศรพิพัฒน์วรพงศ์ คปภ. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กฎหมายยุคNextNormal


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ชวนรับชมรายการ "Once Upon BAAC Time" รายการท่องเที่ยวเชิงเกษตร (Agro Tourism) ที่จะลงพื้นที่บุกชุมชนของลูกค้า ธ.ก.ส. ด้วยการนำเสนอในรูปแบบวิดีโอ VLOG จำนวน 3 ตอน ที่สะท้อนถึงการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ภายใต้แนวคิด ‘เรียนรู้ สนุก ลงมือทำจริง’ ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ในการเข้าถึงการทำเกษตรยุคใหม่ พร้อมผลักดันสินค้าเกษตรไปสู่การรับรู้ในวงกว้าง เพื่อตอกย้ำบทบาทและหน้าที่ในการพัฒนาภาคเกษตรของ ธ.ก.ส. เจาะกลุ่มผู้ชมยุคใหม่เรียนรู้การลงพื้นที่จริง   โดยมีนายไพศาล หงษ์ทอง รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. พร้อมด้วยวง PROXIE ได้แก่ กร วรรณไพโรจน์ , โชกุน - ปวริศร์ ศรีชัยชนะ, อองรี - ออสการ์ เอ็ดเวิร์ด วัตราเศรษฐ์, กัน - รัชชานนท์ เรือนเพ็ชร์, วิคเตอร์ - วรเมธ อนุประพันธ์ และคิม - ปัณณธร จิรศาสตร์ ในโอกาสนี้ ขอเชิญมาร่วมสัมผัสเสน่ห์เฉพาะตัวของทั้ง 3 ชุมชน ประกอบด้วย     ตอนที่ 1 Lemon Me Farm จ.นครปฐม ฟาร์มเลมอนและคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสประสบการณ์การปลูกเลมอนที่เต็มไปด้วยคุณภาพ สะอาดและปลอดภัย   ตอนที่ 2 Air Orchid Farm จ.นครปฐม สวนกล้วยไม้ครบวงจร พื้นที่กว่า 200 ไร่ ผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาสายพันธุ์ กล้วยไม้ในห้องแล็บภายใต้โรงเรือนและการเพาะเลี้ยงที่ได้คุณภาพ และมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practices)   และตอนที่ 3 ไร่สุขพ่วง จ.ราชบุรี แหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรอินทรีย์แบบครบวงจรที่มีวิธีการจัดการแปลงแบบฮูกูลคัลเจอร์ (Hugelkultur) หรือการปลูกพืชบนพื้นดิน และยังมีการต่อยอดการจำหน่ายผลผลิตผ่านการจัดตลาดสุขพ่วง พ่วงสุข   โดยสามารถติดตามรายการ "Once Upon BAAC Time" ได้ทาง YouTube : BAAC Thailand https://www.youtube.com/watch?v=OBViI6FXteY&list=PL7gIwMaiyiX7fsS4XaslxV8p11DR6nniu และ ติดตามข่าวสารผลิตภัณฑ์และบริการอื่น ๆ จาก ธ.ก.ส. ได้ที่ Facebook : ธกส BAAC Thailand LINE : @baacfamily Instagram : @baacthailand X : @baacthailand และ TikTok : @baacthailand

15 Nov 2025

...

นางสาววชิรา การสุทธิ์ รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มการตลาดเพื่อความยั่งยืน เป็นประธานเปิดกิจกรรม School Trip ในโครงการธนาคารโรงเรียน ธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ธนาคารจัดขึ้นเพื่อมอบเป็นสิทธิพิเศษสำหรับสถานศึกษาที่มีผลการดำเนินงานส่งเสริมการออมดีเด่น สามารถจูงใจให้นักเรียนนักศึกษามีปริมาณการออมเติบโตต่อเนื่อง โดยในปี 2568 นี้ ธนาคารจัดเส้นทางทัศนศึกษาโดยรถไฟขบวนพิเศษจากกรุงเทพฯ สู่แหล่งท่องเที่ยว อำเภอหัวหิน เพื่อให้นักเรียนและอาจารย์ของสถานศึกษาได้ร่วมกิจกรรมสันทนาการ เสริมทักษะทางสังคม และการทำงานเป็นทีม ผ่านฐานกิจกรรมสุดสนุกและสร้างสรรค์   พร้อมทั้งเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ทางการเงิน GSB Learning Center ที่ธนาคารออมสินริเริ่มจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจด้านการเงินและการออมแก่เยาวชน โดยมี "โค้ชการเงินมืออาชีพ" (Certified Money Coach by GSB หรือ CMC by GSB) จากธนาคารออมสิน มาร่วมถ่ายทอดความรู้และสร้างสีสันการเรียนรู้ด้านการเงินและการออมตลอดทริป ณ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทั้งนี้ ธนาคารออมสินมุ่งสานต่อภารกิจส่งเสริมการออมด้วยการสร้างเยาวชนนักออมอย่างต่อเนื่อง เพื่อปลูกฝังวินัยการเงินตั้งแต่วัยเรียนและสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนเป็นต้นแบบสู่สังคมแห่งการออมในอนาคต   สถานศึกษาใดสนใจเข้าร่วมโครงการธนาคารโรงเรียน ธนาคารออมสิน สามารถสมัครได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายส่งเสริมการออมและ CSR ธนาคารออมสิน โทร. 0 2299 8000 ต่อ 810712-3    

09 Nov 2025

...

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ขอเชิญร่วมงาน YWCA Diplomatic Charity Bazaar ครั้งที่ 70 งานชอปสินค้านานาชาติเพื่อการกุศลที่รวมกว่า 200 ร้านค้า และกว่า 40 สถานทูตจากทั่วโลก พบกับบูทกรุงเทพประกันภัย (บูท D46) ที่นำเสนอหลากหลายแผนประกันภัยให้เลือกตามความต้องการ พร้อมรับโปรโมชันสุดพิเศษ ได้ที่ CentralWorld Pulse ชั้น 7 ในวันที่ 6 – 9 พฤศจิกายน 2568   นอกจากนี้ บริษัทฯ ขอเชิญร่วมงานไทยเที่ยวนอก ครั้งที่ 5 งานท่องเที่ยวสุดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี พบกับโปรโมชัน “3 ต่อสุดคุ้ม” สำหรับนักเดินทางที่รักการท่องเที่ยว - ลดสูงสุด 18% สำหรับประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ - รับฟรี Starbucks Card มูลค่า 100 บาท เมื่อซื้อประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ ครบทุก 500 บาท (สูงสุด 800 บาท) - พร้อมของสมนาคุณเพิ่มเติมภายในงาน พิเศษสำหรับผู้รักการดำน้ำ บริษัทฯ นำเสนอแผนประกันภัยนักดำน้ำ — ประกันภัยเพื่อการท่องเที่ยวภายในประเทศที่ออกแบบสำหรับนักดำน้ำโดยเฉพาะ ซึ่งกรุงเทพประกันภัยเป็นรายแรกในประเทศไทยที่เสนอผลิตภัณฑ์นี้ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยใต้ท้องทะเล โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาด้านประกันภัยอย่างใกล้ชิด พบกับกรุงเทพประกันภัยได้ที่บูท M44 – M45 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์ 5 – 6 ชั้น LG ในวันที่ 6 – 9 พฤศจิกายน 2568  

08 Nov 2025

...

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นำโดย นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ ประธานกรรมการ  นางยุพา ล่ำซำ  นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นางสลิล ล่ำซำ  นางจันทรา บูรณฤกษ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริษัท นายกนิช บุณยัษฐิติ กรรมการบริษัท  ดร.ณฐพร พันธุ์อุดม กรรมการบริษัท นายภูมิชาย ล่ำซำ ที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ ดร.สุธี โมกขะเวส กรรมการผู้จัดการ  พร้อมด้วยนายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย นางสาววสุมดี วสีนนท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย นางสาวพิมพ์จุฑา สกุนสิทธิ์ธาดา ผู้อำนวยการเขตวัฒนา คณะผู้บริหารเขตวัฒนา  รวมทั้งคณะผู้บริหาร และพนักงาน  บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัทคู่ค้า ลูกค้า และผู้มีจิตศรัทธา ร่วมน้อมถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน  ประจำปี 2568  แด่พระสงฆ์จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส ณ วัดธาตุทอง กรุงเทพมหานคร   ในโอกาสนี้  เมืองไทยประกันชีวิต  ได้มอบเงินบริจาค “ผ้าป่าการศึกษา” ให้แก่ โรงเรียนในพระอุปถัมภ์ของวัดธาตุทอง โดยมี  นางธนาลัย ลิมปรัตนคีรี  ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลวัดธาตุทอง  นายพงศ์พิษณุ สุพรรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนดาราคาม  นายธีระยุทธ สมบูรณ์สุข ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดธาตุทอง  (เรือนเขียวสะอาด)  นายเจษฎา ศรีนวล ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง  ว่าที่พันตรี ดร.ณัฏฐกิตติ์ ชัยเฉลิมมงคล กรรมการบริหารและไวยาวัจกรวัดธาตุทอง ผู้แทนโรงเรียน พระปริยัติธรรมวัดธาตุทอง ร่วมในพิธี  ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายของบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคมในทุกด้าน ให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน.    

05 Nov 2025

Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner