Responsive image

Thursday, 08 May 2025

หน้าแรก > INSURANCE/ประกันภัย-ประกันชีวิต


OCEAN LIFE ไทยสมุทร ก้าวสู่ปีที่ 76 ชูแนวคิด Love Mindset - Love Solution พร้อมดึงคนรุ่นใหม่ Gen Y ร่วมทีม สร้างเป้าหมายการเติบโต 10% ในปี 2568

Sat 22/02/2568


บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) รักคือพลังของชีวิต โดยคุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO) เผยว่าในปี 2568 OCEAN LIFE ไทยสมุทร ยังคงชูแนวคิด Love Mindset – Love Solution ใช้ความรักนำไปพบทุกคำตอบของการใช้ชีวิตอย่างมั่นคง มั่นใจ และมีความสุข โดยในปี 2568 เน้นการพัฒนาคน พัฒนาตัวแทนประกันชีวิตสู่การเป็นที่ปรึกษาประกันชีวิต บริษัทยังเน้นเสริมทัพคนรุ่นใหม่เข้ามาช่วยทีม ในการรองรับดูแลลูกค้าที่เป็น Gen Y มากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างเป้าหมายการเติบโต 10% ในปี 2568 นี้

 

ทั้งนี้บริษัทเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ "Love Mindset - Love Solution" เพื่อใช้พลังความรักเป็นแรงขับเคลื่อนศักยภาพด้านการประกันชีวิตให้เข้าไปมีส่วนช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าประชาชน โดยเพิ่มเติมการพัฒนาโซลูชันหรือทางออกที่เหมาะสมซึ่งมาจากมุมมองของความรักให้สามารถจับต้องได้จริง ผ่านผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง ประกันสะสมทรัพย์ และแบบประกันอื่น ๆ ที่ออกแบบจากความเข้าใจถึงปัญหา ความกังวล และความต้องการที่แตกต่างของแต่ละช่วงวัยในทุกเจนเนอเรชัน พร้อมไม่หยุดในการพัฒนาการบริการให้สอดรับโลกยุคดิจิทัลเพื่อทำให้การประกันชีวิตเป็นเรื่องง่ายตามวิสัยทัศน์ขององค์กร ไม่ว่าจะเป็น OCEAN CLUB Application บริการ OCEAN CONNECT และ OCEAN LIFE DIGITAL HEALTHCARE SERVICES

นอกจากนั้น ยังเดินหน้าสร้างทีมที่ปรึกษาประกันชีวิตยุคใหม่ "New Era Team Power to Success" โดยมุ่งยกระดับที่ปรึกษาประกันชีวิตให้มีความเป็นมืออาชีพ พร้อมดึงดูดคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Y เข้าร่วมทีม ด้วยการพัฒนาศักยภาพผ่านหลักสูตรอบรมที่เข้มข้นและทันสมัยจาก OCEAN ACADEMY

 

ก้าวสู่ปีที่ 76 ยกระดับ Love Mindset สู่ Love Solution รักคือคำตอบของชีวิตที่มั่นคงทุกมิติ

ตลอดเวลาที่ผ่านมา OCEAN LIFE ไทยสมุทร ได้เดินหน้าผลักดันแคมเปญ Love Mindset เพื่อสนับสนุนการใช้ชีวิตด้วยพลังแห่งรักใน 3 ด้าน ได้แก่ Love Your Health, Love Your Wealth และ Love The World เพื่อให้ทุกคนสามารถปรับตัวและรับมือกับทุกการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมั่นคง ในปีที่ 76 นี้ OCEAN LIFE ไทยสมุทรยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนแคมเปญ Love Mindset โดยเพิ่มศักยภาพผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Insight-Driven Solutions) เพื่อเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าอย่างแม่นยำ และนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ได้ดียิ่งขึ้น ผ่าน 3 โซลูชันหลัก ได้แก่

  1. Healthiverse Solution – พบคำตอบของความรักสุขภาพ เริ่มที่ตัวเอง ดูแลคนที่รักให้สุขภาพดีไม่ป่วย ปิดความเสี่ยงด้วยประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง ที่มาพร้อมบริการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร
  2. Wealthiverse Solution – พบคำตอบของความรักการออมและการวางแผนการเงิน เริ่มด้วยการใช้เงินเป็น มีเหลือเก็บ รู้จักลงทุน และใช้ประกันสะสมทรัพย์ หรือ ประกันชีวิตควบการลงทุน เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือช่วยปิดความเสี่ยงทางการเงิน
  3. Happiverse Solution – พบคำตอบของความรักษ์โลก เราหวังเห็นทั้งสิ่งแวดล้อม และสังคมที่ดี มีความยั่งยืน ทุกเจนเนอเรชันอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ด้วยการเดินหน้าสร้าง Roadmap สู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตด้านความยั่งยืนอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต

 

คุณนุสรา (อัสสกุลบัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO)


พัฒนาไปอีกขั้นบนเส้นทางสู่ Digital Insurer

OCEAN LIFE ไทยสมุทร เดินหน้าพัฒนา E-Service อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น E-Buy การซื้อประกันออนไลน์ E-Application ขั้นตอนการขอทำประกันที่สามารถทำธุรกรรมแบบ Real-time E-Policy กรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ E-Claim เคลมออนไลน์ 24 ชั่วโมง และ E-Loan กู้เงินตามกรมธรรม์ได้ง่าย ๆ

นอกจากนี้ OCEAN CONNECT ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญในการเชื่อมต่อลูกค้าผ่าน LINE Official Account @oceanlife ช่วยให้สามารถลงทะเบียนตรวจสอบกรมธรรม์ ชำระเบี้ย เช็คสถานะการเคลม ค้นหาโรงพยาบาลคู่สัญญาได้ง่าย และบริการอื่น ๆ อีกมากมายครบจบในที่เดียว

อีกก้าวสำคัญคือ OCEAN CLUB APP ที่ได้พัฒนาเวอร์ชันใหม่ ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ด้านสุขภาพครบวงจรด้วยฟีเจอร์ Nutrition – Exercise – Relax พร้อม AI วิเคราะห์ความเสี่ยงโรคมะเร็ง และจับคู่กับอุปกรณ์ Wearable เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพได้ รวมถึงยังเป็นแอปสำหรับสะสม Ochi Coin ใช้แลกรับสิทธิประโยชน์พิเศษอีกมากมาย

OCEAN LIFE DIGITAL HEALTHCARE SERVICES ที่ครอบคลุมการดูแลสุขภาพทั้งก่อนป่วย ระหว่างป่วย และหลังป่วยสำหรับลูกค้า OCEAN LIFE ไทยสมุทร โดยเฉพาะ ล่าสุดได้เปิดบริการ OCEAN LIFE Medical Advisor บริการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็ง OCEAN LIFE พาหาหมอ บริการช่วยเดินทางพบแพทย์ VNurse Care พยาบาลดูแลถึงบ้าน Telemed ปรึกษาแพทย์ออนไลน์ร่วมกับ BEDEE ซึ่งเป็นบริการด้านสุขภาพเครือ BDMS และ Asian Assistance บริการช่วยเหลือทางการแพทย์ฉุกเฉิน

 

ปรับโฟกัสสู่ยุคของ Gen Y ครอบคลุมทั้งแบรนด์ ลูกค้า และที่ปรึกษาประกันชีวิต

OCEAN LIFE ไทยสมุทร ได้ศึกษาบริบทและความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ และพบว่า Gen Y เป็นกลุ่มประชากรที่มีจำนวนมากที่อยู่ในวัยทำงาน และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งในแง่ของหน้าที่การงาน ความรับผิดชอบ และไลฟ์สไตล์ ดังนั้น บริษัทจึงได้นำศักยภาพด้านประกันชีวิต มาเป็นตัวช่วยสำคัญในการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และความต้องการของคน Gen Y ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่

  1. แบรนด์ที่โดนใจมากกว่าความน่าเชื่อถือ แต่แบรนด์ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ในปี 2568 จะต้องทัชใจโดนใจ Gen Y มากยิ่งขึ้น  ด้วยแคมเปญใหม่  การนำเสนอรูปแบบใหม่ ที่จะเปิดตัวภายในปีนี้
  2. แบบประกันและบริการที่คุ้มค่า Gen Y ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าในทุกการใช้จ่าย ดังนั้นบริษัทจึงออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ หรือประกันโรคร้ายแรง ที่มอบความคุ้มครองที่ครอบคลุมและคุ้มค่า จึงเป็นเลือกที่สอดรับกับความต้องการของ Gen Y
  3. ที่ปรึกษาประกันชีวิตที่เข้าใจคนรุ่นใหม่ นอกจากการพัฒนาตัวแทนประกันชีวิตสู่การเป็นที่ปรึกษาประกันชีวิต บริษัทยังเน้นเสริมทัพคนรุ่นใหม่เข้ามาช่วยทีม ในการรองรับดูแลลูกค้าที่เป็น Gen Y มากยิ่งขึ้น

OCEAN LIFE ไทยสมุทร แม้มุ่งตอบโจทย์กลุ่มคน Gen Y แต่ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน เรายังพร้อมดูแลทุกเจนเนอเรชันด้วยแบบประกันและบริการที่เหมาะกับความต้องการของทุกช่วงวัยเพื่อให้ทุกคนได้รับความคุ้มครองและการดูแลที่ดีที่สุด

 

คุณสมชัย อาภรณ์ศิริพงษ์  Deputy Chief Executive Officer


 

สำหรับผลการดำเนินธุรกิจในปี 2567 ที่ผ่านมา OCEAN LIFE ไทยสมุทร ยังคงสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการวางรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับอนาคต และพร้อมที่จะเดินหน้าสู่ปี 2568  ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปี 2567 (มกราคม - ธันวาคม 2567) บริษัทมีสินทรัพย์ 106,769 ล้านบาท เงินสำรองประกันชีวิต 79,249 ล้านบาท และอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR) 395.17% ซึ่งสูงกว่าเงินกองทุนขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดที่ร้อยละ 140% ขณะเดียวกันมีรายได้จากเบี้ยประกันชีวิตรับรวม 14,123 ล้านบาท และอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ที่ 85% โดยมีผลตอบแทนจากการลงทุนสูงถึง 4.72% ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,110 ล้านบาท นอกจากนี้ปี 2567 ยังเป็นปีแห่งความภาคภูมิใจที่บริษัทสามารถคว้ารางวัลใหญ่ในทุกมิติทั้งระดับสากลและระดับประเทศ อันได้แก่ รางวัล Insurance Asia Awards 2024 (IAA) : Domestic Life Insurer of the Year – Thailand จาก Insurance Asia Magazine รางวัล Asian Technology Excellence Awards 2024 : The Thailand Technology Excellence Award for API - Life Insurance จาก The Asian Business Review Magazine รางวัลบริษัทประกันชีวิตที่มีการบริหารงานดีเด่น อันดับ 3 ประจำปี 2566 จาก สำนักงาน คปภ. รางวัล ส่งเสริมการสร้างองค์ความรู้อย่างยั่งยืนจากสำนักงาน ก.ล.ต. รางวัล PRIME MINISTER AWARDS: THAILAND CYBERSECURITY EXCELLENCE AWARDS 2024 ประเภท MOST CONTRIBUTION AWARD จาก สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.)  รางวัลองค์กรที่สนับสนุนงานด้านคนพิการ ในระดับดีเด่น ประจำปี 2567 จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และรางวัลประกาศเกียรติคุณจรรยาบรรณดีเด่น หอการค้าไทย ประจำปี 2567 จาก หอการค้าไทย

OCEAN LIFE ไทยสมุทร พร้อมแล้วที่จะก้าวสู่ปี 2568 โดยใช้ความรักเป็นพลังขับเคลื่อนธุรกิจในทุกมิติ ทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต การยกระดับบริการ และการเสริมสร้างขีดความสามารถในการวางแผนการเงินของที่ปรึกษาประกันชีวิต เพื่อสนับสนุนให้คนไทยทุกคนค้นพบทางออกและคำตอบที่นำพาชีวิตไปสู่ความมั่นคง สร้างความมั่นใจ และเติมเต็มความสุขทั้งในวันนี้และในอนาคต

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.ocean.co.th หรือช่องทางโซเชียลมีเดีย หรือ ติดต่อ OCEAN LIFE CONTACT CENTER  1503 

 


Tags : OCEANLIFEไทยสมุทร ไทยสมุทรประกันชีวิต นุสรา(อัสสกุล)บัญญัติปิยพจน์ OCEANLIFEไทยสมุทรก้าวสู่ปีที่76


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

SME D Bank ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ดูแลกลุ่มเอสเอ็มอีที่มีสิทธิ์กว่า 17,200 ราย อย่างใกล้ชิด พาเข้าร่วมแล้ว ณ วันที่ 23 เม.ย. 68 กว่า 7,200 ราย หรือคิดเป็นกว่า 40% จากลูกหนี้ทั้งหมดที่มีสิทธิ์ ประกาศข่าวดี ขยายระยะเวลาสมัครลงทะเบียนสมัครถึงวันที่ 30 มิ.ย. 68 นี้ เพื่อรับประโยชน์ช่วยลดภาระ สร้างโอกาสกลับมาเริ่มต้นธุรกิจอีกครั้ง นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank กล่าวว่า จากที่รัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย มีนโยบายแก้หนี้ให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อย ผ่านโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ซึ่ง SME D Bank ขานรับนโยบายเข้าร่วมโครงการ ด้วยการเปิดให้ลูกหนี้ของธนาคารที่เข้าเกณฑ์จำนวนกว่า  17,200 ราย มูลหนี้ประมาณ  16,800  ล้านบาท   ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ผ่านเว็บไซต์ของธนาคาร (www.smebank.co.th)   รวมถึง ทำงานเชิงรุกด้วยการส่งจดหมายแนะนำโครงการไปถึงลูกหนี้ทุกรายที่มีสิทธิ์ ควบคู่กับให้ทีมงานธนาคารติดต่อลูกหนี้ทุกรายที่มีสิทธิ์ เพื่อให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด แนะนำถึงประโยชน์ของการเข้าร่วมโครงการ อีกทั้งเปิด Call Center สายพิเศษ รองรับให้บริการในโครงการนี้โดยเฉพาะผ่านเลขหมาย 1357 กด 99 ทั้งนี้  นับตั้งแต่เปิดลงทะเบียนเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 จนถึงวันที่ 23 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา มีลูกหนี้ลงทะเบียนเข้าโครงการแล้วกว่า 7,200 ราย หรือคิดเป็นกว่า 40% ของลูกหนี้ทั้งหมดของธนาคารที่มีสิทธิ์ ผ่านเกณฑ์โครงการกว่า 4,650 ราย  แยกตามประเภทอุตสาหกรรม  ภาคการค้า ประมาณ 38% ภาคบริการ ประมาณ 34% และภาคการผลิต ประมาณ 28%  โดยเป็นสัดส่วนกลุ่มธุรกิจที่ผ่านมาตรการ “จ่ายตรง คงทรัพย์” และทำสัญญาแล้ว จำนวนกว่า 2,900 ราย มูลหนี้กว่า 3,800 ล้านบาท   สำหรับกลุ่มที่ลงทะเบียนแบ่งเป็นกลุ่ม Lower SE (รายได้เกิน 1.8 ถึง 15  ล้านบาทต่อปี) จำนวน 58%  กลุ่ม Micro (รายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี)  จำนวน 24%  กลุ่ม Upper SE (รายได้เกิน 15 ถึง 100  ล้านบาทต่อปี) จำนวน  16% และกลุ่ม ME (รายได้เกิน  100  ล้านบาทต่อปี) จำนวน 2%  เมื่อรวมกลุ่มผู้ประกอบการที่เป็นรายเล็กกับรายย่อย ( Lower SE , Micro ) จำนวนรวมถึงกว่า 82% สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ประกอบการรายเล็กของไทยมีศักยภาพเปราะบาง ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด  นอกจากนั้น ธนาคารยังช่วยเหลือด้านการพัฒนา เน้นการเพิ่มรายได้ขยายตลาด เช่น เชิญร่วมโครงการ  “SME D Market”  ซึ่งธนาคารจัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน เปิดโอกาสให้มาออกบูธจำหน่ายสินค้า  ณ  สำนักงานใหญ่ SME D Bank โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เชิญร่วมกิจกรรมคาราวานสินค้า สร้างโอกาสทางการตลาด และจับคู่ธุรกิจ  นอกจากนั้น เชิญร่วมโครงการไลฟ์คอมเมิร์ซ เวิร์คช้อปการทำตลาดยุคดิจิทัล พร้อมโอกาสเพิ่มรายได้ด้วยการให้คนดังบนโลกออนไลน์ช่วยบอกต่อ เป็นต้น   ทั้งนี้ จากที่โครงการดังกล่าว ได้ขยายเวลาลงทะเบียนออกไปถึงวันที่ 30 มิถุนายน  2568  นับเป็นโอกาสดีที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงประโยชน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือลดค่างวดชำระ  3 ปี  เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่อง โดยปีแรกชำระเพียง 50% เท่านั้น    โดยค่างวดที่ชำระนำไปตัดเงินต้นทั้งหมด อีกทั้ง ไม่เก็บดอกเบี้ย  3 ปี  เมื่อทำตามเงื่อนไข และหากชำระค่างวดมากกว่าขั้นต่ำ ตัดเงินต้นเพิ่ม ปิดหนี้จบได้อย่างรวดเร็ว   จึงขอเชิญชวนลูกหนี้ทุกรายที่มีสิทธิ์ รีบแจ้งความประสงค์ เพื่อรับผลประโยชน์ในการช่วยเหลือ  ลดภาระหนี้ และสร้างโอกาสให้กลับมาเริ่มต้นดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง  สามารถแจ้งความประสงค์ผ่านเว็บไซต์ของธนาคาร (www.smebank.co.th)   หรือเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (www.bot.or.th/khunsoo) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357 กด 99   

05 May 2025

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมร่วมเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์การเงินการคลังของไทย ในงาน MOF Journey: 150 ปี เส้นทางการคลังไทย ในโอกาสครบรอบ 150 ปี กระทรวงการคลัง โดยจัดโปรโมชันเงินฝากเพื่อส่งเสริมการออมสำหรับงานนี้เท่านั้น เริ่มต้นด้วยเงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 150 วัน อัตราดอกเบี้ยแบบ Step up เฉลี่ย 2.55% ต่อปี หรือเทียบเท่าเงินฝากประจำ 3.00% ต่อปี จองสิทธิ์ภายในงาน จำนวนจำกัด วันละ 150 สิทธิ์ และ 1 คนต่อ 1 สิทธิ์ และพลาดไม่ได้กับแคมเปญแห่งปี “ออมร้อย ชิงร้อยล้าน” ฝากสลากออมสินพิเศษ 1 ปี ลุ้นรับรางวัลพิเศษมูลค่ารวม 100 ล้านบาท แบ่งเป็น รางวัลพิเศษ มูลค่า 1 ล้านบาท งวดวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 จำนวน 30 รางวัล และรางวัลพิเศษ มูลค่า 70 ล้านบาท งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 เพียง 1 รางวัลเท่านั้น สำหรับผู้ฝากสลากตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 15 กรกฎาคม 2568 หรือเลือกฝากสลากออมสินพิเศษ / สลากดิจิทัล แบบ 2 ปี พร้อมรับของที่ระลึก นอกจากนี้ยังมี เงินฝาก Smart Junior เพื่อเด็กและเยาวชนที่มีอายุ 7 – 23 ปีบริบูรณ์ อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.50% ต่อปี และได้รับอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 2.10% ต่อปี เมื่อมียอดเงินฝากคงเหลือเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนอย่างต่อเนื่อง โดย 24 เดือนแรก รับดอกเบี้ยพิเศษเพิ่มขึ้น 0.10% ทุก 2 เดือน สูงสุดไม่เกิน 1.60% ต่อปี และรับดอกเบี้ยโบนัสเพิ่มขึ้น 0.50% ใน 6 เดือนสุดท้าย ระยะเวลาฝากรวม 30 เดือน เปิดบัญชีขั้นต่ำ 1 บาท และเปิดบัญชีเงินฝาก 100 บาทขึ้นไป รับกระปุกออมสินคอลเลกชันพิเศษ GSB Love Earth ภายในบูธยังมีกิจกรรมพิเศษและรับกระปุกออมสิน รวมถึงการแนะนำการลงทะเบียนสินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส นวัตกรรมสินเชื่อสำหรับคนที่ไม่เคยกู้แบงก์ได้มาก่อนอีกด้วย   งานครบรอบ 150 ปี วันสถาปนากระทรวงการคลัง จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “อดีต–ปัจจุบัน-อนาคต” เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้เรียนรู้ถึงวิวัฒนาการด้านการคลังของไทยที่มีบทบาทในการพัฒนาประเทศตั้งแต่อดีตสู่ภารกิจการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่มั่งคงและยั่งยืนในอนาคต ภายในงานยังเป็นการร่วมแสดงพลังความสามัคคี การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อการบริการประชาชนและการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมของหน่วยงานในสังกัด จึงขอเชิญชวนร่วมสัมผัสนวัตกรรมและบริการทางการเงินที่น่าสนใจ ทั้งจากบูธธนาคารออมสิน และหน่วยงานต่าง ๆ ในระหว่างวันที่ 1 - 3 พฤษภาคม 2568 ณ Hall 3 – 4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  

30 Apr 2025

...

บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ก้าวสู่ผู้นำด้านความโปร่งใสและจริยธรรมทางธุรกิจ โดยได้รับการเลื่อนสถานะเป็น CAC Change Agent จากองค์กรแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC) ซึ่งเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ แสดงถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม โปร่งใส ปกป้องผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และเผยแพร่ไปยังคู่ค้าให้มีห่วงโซ่อุปทานที่ใสสะอาด กรุงเทพประกันชีวิต เชื่อมั่นในพลังความใส่ใจและมุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความยั่งยืน โดยเข้าร่วมเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านการคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC) เป็นระยะเวลากว่า 3 ปี ความสำเร็จครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องในการส่งเสริมหลักธรรมาภิบาลที่ดี ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อองค์กรรวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจ โดยกรุงเทพประกันชีวิตจะยังคงมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านความโปร่งใสและจริยธรรมทางธุรกิจต่อไป

30 Apr 2025

...

พลเอก ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก รับมอบเงินสนับสนุนโครงการประกอบอาชีพเสริมเพิ่มรายได้แก่กำลังพลกองทัพบกที่ปลดพิการทุพพลภาพและครอบครัว ประจำปี 2568 จากนายเด่นพงษ์ เจษฎาวิริยะ  ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการส่งเสริมอาชีพ พัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตผู้พิการให้มีความเท่าเทียมในสังคม ตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยในปี 2568 บริษัทฯ ให้การสนับสนุนกำลังพลกองทัพบกและครอบครัวรวม 29 ราย เป็นจำนวนเงิน 3,493,050 บาท โดยบริษัทฯ ร่วมสนับสนุนโครงการฯ มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน รวมเงินสนับสนุนทั้งสิ้น 32,282,060 บาท

27 Apr 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner