Responsive image

Wednesday, 16 Jul 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


กรุงไทย–แอกซ่า ประกันชีวิต ชู 5 กลยุทธ์หลัก ตอกย้ำผู้นำด้านธุรกิจประกันชีวิต พร้อมเปิดสำนักงานใหญ่กลุ่มแอกซ่า ประเทศฝรั่งเศสเป็นครั้งแรก

Tue 06/05/2568


บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจประกันชีวิต และสุขภาพ เดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรผ่าน 5 กลยุทธ์หลัก ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ของกลุ่มแอกซ่า ที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุดของบริษัทฯ ที่พร้อมเคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป

คุณณัฐพิสิษฐ์ ครุฑครองชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต มุ่งมั่นพัฒนาฝ่ายขาย ผลิตภัณฑ์ พนักงานและวัฒนธรรมขององค์กร เพื่อให้ทุกคนได้เติบโตและแข็งแกร่งไปด้วยกันกับบริษัทฯ อย่างยั่งยืน โดยมีกลยุทธ์หลัก 5 กลยุทธ์ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์สำคัญของกลุ่มแอกซ่า คือ 1. การพัฒนาฝ่ายขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ก้าวสู่การเป็นนักขายมืออาชีพ ผ่านโครงการ AXA Prime และ AXA Prime Blue และการสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่ง การรักษาความสัมพันธ์กับธนาคารกรุงไทย เพิ่มจำนวนผู้ช่วยด้านการวางแผนทางการเงินทั้งของบริษัทฯ และธนาคารกรุงไทย รวมถึงเพิ่มการเติบโตของลูกค้าตลาดธุรกิจองค์กร  2.การสร้างมิติใหม่ด้านผลิตภัณฑ์ โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันในรูปแบบใหม่ที่ตรงใจลูกค้าแต่ละบุคคลมากยิ่งขึ้น  3. การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ผ่านการสร้างพื้นฐานข้อมูล การพัฒนาด้านดิจิทัล เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า และเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของฝ่ายขาย และพนักงาน รวมถึงการร่วมมือกับทางแอกซ่าประกันภัยมากยิ่งขึ้น ภายใต้โครงการ One AXA เพราะถือเป็นอีกหนึ่งความสำคัญที่จะทำให้แผนกลยุทธ์ทั้งหมดบรรลุเป้าหมาย

 

4. การตอกย้ำความแข็งแกร่งด้านการเงิน และภาพลักษณ์องค์กร ด้วยการสร้างรายได้ที่ยั่งยืน และการเติบโตของธุรกิจประกันสุขภาพ และการบริหารจัดการธุรกิจตามมาตรฐาน IFRS 17 นอกจากนั้นยังมุ่งเน้นด้านภาพลักษณ์องค์กร เพื่อตอกย้ำการเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นผู้นำด้านประกันชีวิต และสุขภาพ รวมถึงให้ความสำคัญด้านความรับผิดชอบขององค์กร ที่ส่งผลให้บริษัทฯ ได้คะแนน Sustainability Index เป็นอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มา 8 ปีซ้อน และสุดท้าย 5. Care & Dare ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จของแอกซ่า โดยเน้นการดูแล หรือ Care ทั้งด้านพฤติกรรม การบริการลูกค้า การสนับสนุนพนักงาน การความเป็นหนึ่งเดียวกันและความหลากหลาย และการมีส่วนร่วมในสังคม ผ่านกิจกรรม Hearts in Action รวมถึง ความกล้า หรือ Dare ที่จะเติบโต แบ่งปันความคิด และเสนอแนะความคิดเห็น ซึ่งกันและกัน”

 

 

คุณณัฐพิสิษฐ์  กล่าวเสริม “นอกจากบริษัทฯ และกลุ่มแอกซ่า จะมีกลยุทธ์หลักที่จะต้องดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายแล้วนั้น ทางบริษัทฯ และกลุ่มแอกซ่ายังได้เล็งเห็นถึงความสำคัญด้านศิลปะ วัฒนธรรม และกีฬา ด้วยเช่นกัน โดยได้สนับสนุนโครงการต่างๆ มากมาย อาทิ 1. พิพิธภัณฑ์ลูฟ ที่กลุ่มแอกซ่าได้สนับสนุนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2003 โดยปัจจุบันแอกซ่าเป็นหนึ่งในพันธมิตรสำคัญของพิพิธภัณฑ์ ซึ่งพนักงานของแอกซ่า สามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ได้ โดยเพียงแสดงบัตรพนักงาน  2. อาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งกรุงปารีส ที่กลุ่มแอกซ่าได้มอบเงินสนับสนุนจำนวนกว่า 10 ล้านยูโร หรือ 365 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือในการปรับปรุงจากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี 2019  3. ไร่ไวน์ Chateau Pichon Baron เป็นไร่ไวน์ของกลุ่มแอกซ่า ซึ่งเป็นการตอกย้ำด้านการสนับสนุนทางด้านวัฒนธรรมของบริษัทฯ เพราะไร่ไวน์ถือเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่สำคัญของฝรั่งเศสที่มีมาอย่างยาวนาน

 

และ 4. สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พลู ซึ่งแอกซ่าร่วมเป็นพันธมิตรหลัก และพันธมิตรผู้สนับสนุนชุดฝึกซ้อมอย่างเป็นทางการของสโมสรลิเวอร์พูลตั้งแต่ปี 2018  โดยในปี 2020 แอกซ่ายกระดับความร่วมมือกับสโมสรลิเวอร์พูล ในการตั้งชื่อศูนย์ฝึกอบรม “AXA Training Centre” ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเคิร์กบี ประเทศอังกฤษ และในปี 2023 แอกซ่า แสดงจุดยืนอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นต่อความเท่าเทียมทางเพศด้วยการเปิดศูนย์ฝึกอบรม AXA Melwood สำหรับทีม Liverpool FC Women's นอกจากนั้นทางบริษัทฯ ได้ทำงานร่วมกับสโมสรลิเวอร์พูลมากขึ้น โดยได้จัดแคมเปญ และกิจกรรมต่างๆ มากมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างประสบการณ์สุดพิเศษ อาทิ   แคมเปญลูกค้า “ลุ้นทริปเที่ยวอังกฤษ พร้อมดูบอลเกาะติดขอบสนามแอนฟิลด์ สเตเดียม เมืองลิเวอร์พูล” ที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 4  กิจกรรม KTAXA Exclusive Watch Party  โครงการ “KTAXA Know You Can Football Youth (U15) Academy” ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 และโครงการ KTAXA x LFC Football Clinic ที่ร่วมมือกับ LFC International Academy ประเทศไทย โดยทุกๆ โครงการดังกล่าว ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ ในการตอกย้ำจุดมุ่งหมายของบริษัทฯ และกลุ่มแอกซ่า ที่พร้อมเคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป”

ท่านสามารถร่วมติดตามโครงการกิจกรรมพิเศษ และสอบถามข้อมูลด้านผลิตภัณฑ์ และบริการของ บริษัทฯ ได้ที่ www.krungthai-axa.co.th หรือ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 1159 หรือ อีเมล customer.care@krungthai-axa.co.th

 

 


Tags : กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต กรุงไทย-แอกซ่า บุปผาวดี โอวรารินท์ ณัฐพิสิษฐ์ ครุฑครองชัย เปิดสำนักงานใหญ่กลุ่มแอกซ่าประเทศฝรั่งเศส


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank โดย นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT HD เมื่อเร็ว ๆ นี้      

14 Jul 2025

...

  นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เห็นชอบให้ธนาคารออมสินจัดทำมาตรการแก้ไขหนี้รายย่อยในโครงการของรัฐบาลที่ออกมาช่วยประชาชนในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อรายย่อยไม่มีหลักประกัน ที่มีสถานะหนี้เสีย (NPLs) จำนวนรวมกว่า 500,000 บัญชี ให้สามารถหลุดพ้นจากประวัติหนี้เสีย โดยธนาคารจะดำเนินการทันทีเพื่อที่ในอนาคตลูกหนี้จะมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้เร็วขึ้นเมื่อมีความจำเป็น โดยแบ่งการดำเนินการเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ดำเนินการปิดบัญชีหนี้ ตัดหนี้สูญ และไม่ติดตามหนี้ ของลูกหนี้ NPLs จำนวนกว่า 200,000 บัญชี ในโครงการสินเชื่อตามนโยบายรัฐที่ได้รับงบประมาณชดเชยแล้ว ระยะที่ 2 ธนาคารจะทยอยดำเนินการปิดบัญชีหนี้แก่ลูกหนี้ NPLs โครงการสินเชื่อสู้ภัย COVID-19 จำนวนกว่า 300,000 บัญชี ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2568 ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมาธนาคารได้จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยสำหรับมาตรการปลดหนี้สินเชื่อตามโครงการของรัฐบาลที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้แล้วเป็นจำนวนกว่า 1.3 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดหนี้รวมกว่า 11,000 ล้านบาท โดยธนาคารออมสินสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้รายย่อย และช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางให้สามารถประคับประคองสถานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวให้เดินต่อได้ มุ่งเน้นดำเนินการเพียงครั้งเดียวเพื่อไม่ให้ลูกหนี้ต้องเสียวินัยทางการเงิน และยังสามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินได้อีกในอนาคต  

07 Jul 2025

...

    สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้ปรับปรุงแนวทางการคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัยสำหรับสัญญาประกันภัยระยะสั้น พร้อมทั้งทบทวนหลักเกณฑ์การคำนวณเงินกองทุนด้านความเสี่ยง เพื่อยกระดับความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันภัยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยมุ่งเน้นการพิจารณาข้อมูลในระดับประเภทการรับประกันภัยแทนการพิจารณาภาพรวมทั้งบริษัท เพื่อให้การประเมินภาระผูกพันและการจัดสรรเงินกองทุนมีความละเอียด แม่นยำ และสอดคล้องกับลักษณะความเสี่ยงที่แท้จริงยิ่งขึ้น โดยระหว่างวันที่ 6-21 มีนาคม 2568 สำนักงาน คปภ. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจและผู้เกี่ยวข้อง และจัดการประชุมชี้แจงไปเมื่อวันที่ 10-11 มีนาคม 2568 รวมทั้งได้จัดการประชุมกลุ่มย่อยเชิงเทคนิค (Focus Group) เสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 เพื่อรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ทั้งนี้ ในการประชุมฯ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงประกาศที่เกี่ยวข้องกับสำรองเบี้ยประกันภัย ได้แก่ 1. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการส่งรายงานประจำปีการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันวินาศภัย 2. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการส่งรายงานประจำปีการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต และ 3. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดประเภทและชนิดของเงินกองทุน รวมทั้งหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคำนวณเงินกองทุนของบริษัทประกันวินาศภัย สำหรับหลักการที่ได้มีการปรับปรุง คือ ปรับปรุงวิธีการคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัย และเงินกองทุนสำหรับความเสี่ยงจากสำรองเบี้ยประกันภัย จากเดิม พิจารณาที่ระดับผลรวมทั้งหมดของสัญญาประกันภัยระยะสั้น เปลี่ยนเป็น พิจารณาที่ระดับประเภทการรับประกันภัย  ซึ่งสำนักงาน คปภ. จะเผยแพร่ประกาศอย่างเป็นทางการในลำดับถัดไป เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกำหนดในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ดังนั้น บริษัทประกันภัยและผู้ที่เกี่ยวข้อง ควรเตรียมความพร้อมในการดำเนินการ เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ใหม่ได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่วันเริ่มมีผลบังคับใช้

07 Jul 2025

...

  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  ร่วมงาน “มหกรรมการเงินหาดใหญ่” ครั้งที่ 15 (MONEY EXPO 2025 HATYAI) ระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคม 2568 ณ บูธ F3 หาดใหญ่ฮอลล์ ชั้น 5 เซ็นทรัล หาดใหญ่ จ.สงขลา ยกขบวนผลิตภัณฑ์สินเชื่อครอบคลุมทุกกลุ่ม ตอบโจทย์ทุกความต้องการผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไฮไลท์ คือ สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่มและทุกความต้องการเอสเอ็มอีไทย ควบคู่บริการพัฒนาธุรกิจ ผ่านแพลตฟอร์ม “DX by SME D Bank” (dx.smebank.co.th)   ช่วยเสริมศักยภาพกิจการ ครบถ้วนในจุดเดียว ห้ามพลาด! พิเศษเฉพาะภายในงาน เมื่อยื่นขอสินเชื่อ และได้รับอนุมัติทุกวงเงิน รับโปรโมชันเสริมอีก 2 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 : ลดค่าธรรมเนียมวิเคราะห์สินเชื่อ (Front End Fee) สูงสุด 0.25% และต่อที่ 2 : รับบัตรกำนัล มูลค่า 500 บาท พร้อมเล่นเกม ลุ้นรับของที่ระลึกมากมาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

03 Jul 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner