Responsive image

Monday, 23 Dec 2024

SOCIETY-CSR /ภาพข่าว-กิจกรรมเพื่อสังคม
...

29 Sep 2022

...

21 Sep 2022

...

21 Sep 2022

...

16 Sep 2022

...

14 Sep 2022

...

11 Sep 2022

...

10 Sep 2022

...

04 Sep 2022

...

02 Sep 2022

...

01 Sep 2022

...

30 Aug 2022

...

30 Aug 2022

...

29 Aug 2022

...

26 Aug 2022

...

21 Aug 2022

...

21 Aug 2022

...

21 Aug 2022

...

19 Aug 2022

...

15 Aug 2022

...

13 Aug 2022

...

13 Aug 2022

...

13 Aug 2022

...

10 Aug 2022

...

10 Aug 2022

Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 3% ด้วยแรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐ การลงทุน และการบริโภค ควบคู่กับความต้องการจากต่างประเทศในภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกซึ่งมีแนวโน้มขยายตัว เป็นผลจากเศรษฐกิจโลกขยายตัวต่อเนื่อง  โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกปี 2568 จะขยายตัว 3.2% (เท่ากับปี 2567) และการค้าโลกปี 2568 จะขยายตัว 3.4% (สูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ราว 2.8%) ตลาดที่มีศักยภาพ ได้แก่ ตลาดเกิดใหม่ อาทิ อินเดีย CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) อาเซียน 5 ประเทศ และตะวันออกกลาง ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2568 สูงถึง 6.5%, 5.3%, 4.5% และ 3.8% ตามลำดับ ทำให้คาดว่าการส่งออกไทยปี 2568 จะขยายตัว 3% สินค้าไทยที่ได้รับความนิยมในตลาดโลก ได้แก่ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าเกษตรและอาหาร และสินค้าไลฟ์สไตล์ เช่น เครื่องสำอาง อาหารสัตว์เลี้ยง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะในตะวันออกกลางที่อาจส่งผลให้ค่าระวางและราคาน้ำมันผันผวน ความผันผวนของค่าเงิน และสงครามการค้ารอบใหม่ (Trade War 2.0) เป็นผลจากนโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าจากประเทศต่าง ๆ ของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ในปี 2568 EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง จะเป็นผู้นำผู้ประกอบการไทยรุกตลาดการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ  โดยส่งเสริมการส่งออกและการลงทุนในธุรกิจที่ไทยมีศักยภาพ สอดรับกับเทรนด์ผู้บริโภคในโลกการค้ายุคใหม่ ได้แก่ 1.สินค้าตอบโจทย์ความมั่นคงด้านอาหาร (Food for Security) ซึ่งประเทศไทยอยู่ในอันดับ 10 ของประเทศผู้ผลิตอาหารต่อคนมากที่สุดในโลก สินค้าไทยที่ได้รับความนิยมในตลาดโลก ได้แก่ ทูน่ากระป๋องและไก่แปรรูป น้ำตาลทราย และซาร์ดีนกระป๋อง 2.สินค้ารักษ์โลก (Good for Planet) สินค้าไทยที่ได้รับความนิยมในตลาดโลก ได้แก่ เม็ดพลาสติกชีวภาพ (Polylactic Acid : PLA) และแผงโซลาร์เซลล์ 3.สินค้าและบริการที่สร้างความสุขหรือประสบการณ์ใหม่ (Mood for Joy) สินค้าไทยที่ได้รับความนิยมในตลาดโลก ได้แก่ อาหารสัตว์เลี้ยง เครื่องประดับเงิน เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว ธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ นอกจากนี้ สินค้าที่มีโอกาสเติบโตในปี 2568 ได้แก่ สินค้าที่ได้รับผลดีจากนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้แก่ สินค้าเครื่องปรับอากาศและหม้อแปลงไฟฟ้าที่ไทยอาจสามารถกลับมาช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้น หากสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนและประเทศอื่นๆเพิ่มขึ้นตามที่ได้เคยประกาศนโยบายไว้   ดร.รักษ์ กล่าวว่า ในปี 2568 EXIM BANK จะเดินหน้าบทบาท Green Development Bank นำทัพผู้ประกอบการไทยขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำและสร้างโลกที่ยั่งยืน มุ่งสู่เป้าหมายเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อสนับสนุนธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social, and Governance : ESG) เป็น 40% ภายในปี 2568 พร้อมเปิดตัวบริการใหม่ด้านวาณิชธนกิจ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ จัดหาเงินทุนสำหรับโครงการ รวมถึงค้ำประกันหุ้นกู้ (Bond Guarantee) แก่ผู้ประกอบธุรกิจที่คำนึงถึง ESG ขณะเดียวกัน EXIM BANK สนับสนุนธุรกิจส่งออกและการลงทุนที่ขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน นำพาธุรกิจไทยทุกขนาดเข้าสู่ Green Export Supply Chain และมุ่งสู่เป้าหมายธนาคารด้านความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2570 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2593 โดยสอดคล้องกับความต้องการของโลกในการสนับสนุนทางการเงินเพื่อจัดการกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Finance) ซึ่งประเมินว่าสูงถึง 8.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี แต่ตัวเลข Climate Finance ปี 2565 มีอยู่เพียง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี เท่ากับว่ายังขาดเม็ดเงินอีกมูลค่ามหาศาลในการจัดการกับปัญหาดังกล่าว   ในการดำเนินบทบาท Green Development Bank ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2567 EXIM BANK มียอดสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพัน 179,316 ล้านบาท และคาดว่าจะสูงกว่า 190,000 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2567 เพิ่มขึ้น 6.8% จาก 177,932 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2566 ขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) คาดว่าจะอยู่ที่ 3.49% ลดลงถึง 1.2% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน เป็นผลจากการติดตามคุณภาพสินเชื่ออย่างใกล้ชิดของธนาคาร ทำให้คาดว่า ณ สิ้นปี 2567 EXIM BANK จะสามารถทำกำไรสุทธิได้สูงกว่า 1,000 ล้านบาท “ปี 2568 เป็นปีที่เศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ที่ทำงานพร้อมกันทั้งจากอุปสงค์ภายในและภายนอกประเทศ ขณะที่โอกาสของธุรกิจไทยยังมีอยู่อีกมากในตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะธุรกิจที่สามารถพัฒนาสินค้าหรือบริการตอบโจทย์เทรนด์ของตลาดโลกได้ EXIM BANK จึงเร่งเดินหน้าขับเคลื่อนการส่งออก ด้วยนวัตกรรมทางการเงินที่จะช่วยเสริมหรือติดอาวุธให้ผู้ประกอบการแข่งขันได้มากขึ้นในเวทีโลก นำพาธุรกิจไทยสู่ความยั่งยืน ท่ามกลางความไม่แน่นอนในตลาดการค้าโลกปัจจุบัน”  ดร.รักษ์ กล่าว  

20 Dec 2024

...

รายงานข่าวจากธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในโอกาสส่งท้ายปี 2567 ธนาคารเตรียมโปรโมชันพิเศษเข้าร่วมงาน Thailand Smart Money Bangkok 2024 จัดโดยนิตยสารดอกเบี้ย และ Money Expo 2024 Bangkok Year-End จัดโดยวารสารการเงินธนาคาร ซึ่งเป็นโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าและผู้เข้าร่วม 2 งานนี้เท่านั้น ทั้งเงินฝาก สินเชื่อบุคคล สินเชื่อเคหะ และสินเชื่อธุรกิจ โดยไฮไลท์ คือ เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 111 วัน ดอกเบี้ยแบบ Step up สูงสุด 21% ต่อปี หรือเทียบเท่าเงินฝากประจำ 4.70% ต่อปี เปิดบัญชีขั้นต่ำ 10,000 บาท ฝากได้สูงสุด 500,000 บาทต่อราย จองสิทธิ์ภายในงานเท่านั้น จำนวนจำกัด วันละ 200 สิทธิ์ และ 1 คนต่อ 1 สิทธิ์ เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 5 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.65% ต่อปี หรือเทียบเท่าเงินฝากประจำ 1.94% ต่อปี เปิดบัญชีขั้นต่ำ 10,000 บาท ไม่จำกัดวงเงินรับฝากสูงสุด ฝากได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล นอกจากนี้ยังมีรางวัลใหญ่ส่งท้ายปี รับสิทธิ์ลุ้นรางวัลพิเศษ มูลค่า 40 ล้านบาท จำนวน 1 ครั้ง และลุ้นรับรางวัลที่ 1 มูลค่า 10 ล้านบาท และรางวัลอื่น ๆ รวม 12 ครั้ง สำหรับผู้ฝากสลากออมสินพิเศษ 1 ปี ทั้งแบบใบสลากและสลากดิจิทัล งวดประจำวันที่ 16 มกราคม 2568 เริ่มฝากตั้งแต่วันนี้ ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ และแอป MyMo สำหรับผลิตภัณฑ์สินเชื่อเคหะ ประกอบด้วย สินเชื่อบ้านออมสินสบายใจ สำหรับซื้อและปลูกสร้าง วงเงินกู้สินเชื่อตั้งแต่ 3 – 7 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 1.89% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 2.89% ต่อปี นอกจากนี้ ผู้ที่ต้องการกู้เพิ่มเติมเพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งบ้าน หรือสิ่งจำเป็นอื่นในการเข้าอยู่อาศัย สามารถขอกู้ สินเชื่อ Top-Up สบายใจ อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 3.49% ต่อปี โดยทั้ง 2 สินเชื่อ สามารถเลือกผ่อนชำระแบบผ่อนต่ำ ปีที่ 1 ล้านละ 4,000 บาท/เดือน ปีที่ 2 ล้านละ 5,000 บาท/เดือน ปีที่ 3 ล้านละ 6,000 บาท/เดือน โดยสามารถยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 และจัดทำนิติกรรมสัญญา ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2568  ส่วนผู้ประกอบการธุรกิจ ธนาคารได้จัด สินเชื่อ GSB D-Vers เพื่อเป็นทุนหมุนเวียน ลงทุนในสินทรัพย์ถาวร และรีไฟแนนซ์ วงเงินกู้สูงสุด 100 ล้านบาท สำหรับวงเงินกู้ตั้งแต่ 1 - 20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 6.662% กรณีทำประกันฯ และใช้หลักทรัพย์ค้ำเต็มวงเงิน รวมถึงครั้งแรกกับการเปิดตัว สินเชื่อบุคคลผ่านแอปพลิเคชัน GOOD MONEY - เงินดีดีเพื่อคนไทย แพลตฟอร์มสินเชื่อเพื่อความเท่าเทียมในสังคมภายในงาน โดยบริษัท เงินดีดี จำกัด อีกหนึ่งพันธมิตรของธนาคาร ให้บริการสินเชื่อรายย่อย 2 ประเภท ได้แก่ สินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan) และ Nano Finance สำหรับผู้ที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพหรือดำเนินธุรกิจ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม พบขบวนทัพบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการแบบครบวงจร พร้อมโปรโมชันพิเศษทั้งเงินฝากและสินเชื่อ รวมถึงบริการให้คำปรึกษาทางการเงินของธนาคารออมสิน ในงาน เทศกาลการเงิน-การลงทุน "Thailand Smart Money Bangkok 2024" ครั้งที่ 15 ระหว่างวันที่ 13 -15 ธันวาคม 2567 ณ บีซีซี ฮอลล์ ชั้น 5 เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว และ งานมหกรรมทางการเงินกรุงเทพ Money Expo Bangkok Year-End 2024 ระหว่างวันที่ 19 - 22 ธันวาคม 2567 ณ ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  

14 Dec 2024

...

ธ.ก.ส. จัดโปรส่งท้ายปี 2024 ในงาน Thailand Smart Money กรุงเทพฯ พบกับกิจกรรมดี๊ดี ส่งท้ายปี by เงินฝากดอก งาม สาม เดือน เพียงเลือกทำธุรกรรมภายในบูธ อย่างน้อย 1 รายการ เช่น การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ลูกค้า ธ.ก.ส. หรือสมัครเงินฝากสงเคราะห์ชีวิต ธกส HUG 10/5 หรือสมัครบัตรเดบิตแบบมีประกัน บุษย์น้ำทอง หรือบัตรเดบิตพลอยไพฑูรย์ รับสิทธิพิเศษฝากเงินแคมเปญพิเศษผลตอบแทนสูงภายในงาน นอกจากนี้ เมื่อฝากเงินบัญชีออมทรัพย์ ตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป คงยอดไว้ 6 เดือน รับสิทธิ์จุ่มมังแมว พร้อมลุ้นตัวซีเครท "คุณ ME YOUNG" จำนวน 1 สิทธิ์ หรือฝากสลากชุดใดก็ได้ 5.9 แสนบาทขึ้นไป รับเลยมังแมว 5 ตัว ครบเซ็ต ระหว่างวันที่ 13 – 15 ธันวาคมนี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว กรุงเทพฯ   นายไพศาล หงษ์ทอง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. จัดโปรพิเศษส่งท้ายปี มอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้ลูกค้าในงาน Thailand Smart Money กรุงเทพฯ ครั้งที่ 15 เพียงทำธุรกรรมอย่างน้อย 1 รายการ ภายในบูธ ประกอบด้วย การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของลูกค้า ธ.ก.ส. หรือสมัครผลิตภัณฑ์เงินฝากสงเคราะห์ชีวิต ธกส HUG 10/5 หรือการสมัครบัตรเดบิตแบบมีประกันภัย (บัตรบุษย์น้ำทอง หรือบัตรพลอยไพฑูรย์) รับเลยสิทธิพิเศษในการฝากเงินกับผลิตภัณฑ์เงินฝาก ดอก งาม สาม เดือน โปรโมชันพิเศษเฉพาะในงานนี้เท่านั้น เมื่อฝากเงินขั้นต่ำ 100,000 สูงสุด 300,000 บาท รับผลตอบแทนสูง จำนวน 300 สิทธิ์ตลอดงาน และเมื่อฝากเงินบัญชีออมทรัพย์หรือออมทรัพย์ทวีโชค ตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป และคงยอดเงินไว้ 6 เดือน หรือเปิดบัญชี A-Savings คู่กับบัตรอิเล็กทรอนิกส์บนแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ลุ้นรับสิทธิ์จุ่มอาร์ตทอยมังแมว 1 ตัว พร้อมลุ้นตัวซีเครท "คุณ ME YOUNG" และยังมีโปรโมชันเมื่อฝากสลาก ชุดใดก็ได้ภายในงาน ตั้งแต่ 590,000 บาทขึ้นไป รับฟรี อาร์ตทอยมังแมวครบเซ็ต ทั้ง 5 ตัว หรือเมื่อสะสมยอดการทำธุรกรรมบนแอปพลิเคชัน BAAC Mobile สะสมสูงสุด 50 ลำดับแรก ตั้งแต่วันนี้จนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568 รับฟรี! บัตรของขวัญโลตัส มูลค่า 100 บาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด)   สำหรับผู้ที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ให้ทั้งผลตอบแทนที่ดี พร้อมกับให้ความคุ้มครองชีวิต และนำไปลดหย่อนภาษีได้ สามารถเลือกผลิตภัณฑ์เงินฝากสงเคราะห์ชีวิตที่มาพร้อมโปรโมชันพิเศษมากมาย อาทิ เมื่อสมัครกรมธรรม์ ธกส HUG 10/5 เมื่อชำระยอด 30,000 บาท/ปี รับกระเป๋าเดินทาง 4 ล้อลาก ขนาด 20 นิ้ว จำนวน 1 ใบ หรือเมื่อสมัครกรมธรรม์ ธกส เพิ่มรัก3 12/10 และชำระล่วงหน้า 1 ปี (11,520 บาท) รับเลยกระเป๋าเดินทางแบบ 4 ล้อลาก ขนาด 20 นิ้ว จำนวน 1 ใบ/กรมธรรม์ และยังมีโปรโมชัน Cashback เมื่อสมัครกรมธรรม์ 10,000 – 20,000 บาท รับเงินคืน 2% หรือสมัครกรมธรรม์ ตั้งแต่ 30,000 – 2,000,000 บาท รับเงินคืน 3% เมื่อกรมธรรม์มีผลบังคับใช้ภายใน 90 วัน หรือเลือกชำระรายเดือน 2,000 บาท และชำระล่วงหน้า 1 ปี จำนวน 23,040 บาท ต่อที่ 1 รับกระปุกคุณ ME โชค รุ่นรวยเหลือแจก และต่อที่ 2 เมื่อกรมธรรม์อนุมัติ รับเลยกระเป๋าเดินทางแม่ - ลูก จำนวน 1 เซ็ต หรือเมื่อสมัครกรมธรรม์ ธกส รักคุณ Easy Life และชำระยอด 1,197 บาทต่อปี รับฟรี กระบอกน้ำเก็บความร้อน – เย็น   นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังได้นำบัตรเดบิต 3 สไตล์ที่มีประกันอุบัติเหตุ มาให้ลูกค้าได้เลือกความคุ้มครองได้ 3 ระดับ ประกอบด้วย บัตรเดบิตเขียวส่อง วงเงินคุ้มครองประกันภัยสูงสุด 100,000 บาท สมัครบัตรใหม่พร้อมค่าธรรมเนียม 349 บาทต่อปี บัตรเดบิตบุษย์น้ำทอง วงเงินคุ้มครองประกันภัยสูงสุด 200,000 บาท วงเงินชดเชยรายได้ระหว่างการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากอุบัติเหตุ 500 บาทต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 10 วันต่อปี สมัครบัตรใหม่พร้อมค่าธรรมเนียม 699 บาทต่อปี บัตรเดบิตพลอยไพฑูรย์ วงเงินคุ้มครองประกันภัยสูงสุด 1,000,000 บาท สมัครบัตรใหม่พร้อมค่าธรรมเนียมเพียง 1,234 บาทต่อปี   ด้านผลิตภัณฑ์สลากออมทรัพย์ที่ให้ทั้งผลตอบแทนและการลุ้นโชครับเงินรางวัลมากมาย อาทิ สลากออมทรัพย์ทวีสิน ชุดมรกต หน่วยละ 500 บาท ลุ้นรางวัลที่ 1 ทุกงวด 24 ครั้ง มูลค่า 20 ล้านบาท ฝากครบรับผลตอบแทน ร้อยละ 0.30 ต่อปี สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดถุงเงิน หน่วยละ 100 บาท ลุ้นรางวัลมูลค่า 100,000 บาท จำนวน   900 รางวัล ทุกเดือน จำนวน 36 ครั้ง พร้อมรับสิทธิ์ลุ้นรางวัลพิเศษ มูลค่ารางวัลละ 1,000,000 บาท ปีละ 1 ครั้ง   เมื่อฝากครบกำหนดจะได้รับดอกเบี้ยร้อยละ 0.633 ต่อปี สลากออมทรัพย์ชุดขวัญถุง สำหรับเยาวชน อายุ 7-18 ปี หน่วยละ 20 บาท ลุ้นรับทุนการศึกษาทุกงวด มูลค่า 10,000 บาท จำนวน 100 รางวัล และรางวัลพิเศษ ปีละ 2 ครั้ง มูลค่ารางวัลละ 100,000 บาท เมื่อฝากครบกำหนดรับดอกเบี้ยทันที ร้อยละ 2.50 ต่อปี พิเศษ!! เมื่อฝากสลากชุดใดก็ได้ในงาน ตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป แต่ไม่เกิน 100,000 บาท รับฟรี กระปุก A-Pigeon หรือฝาก 100,000 - 590,000 บาท รับฟรี กระปุกคุณ ME โชค รุ่นรวยเหลือแจก ที่สำคัญดอกเบี้ยและเงินรางวัลจากการฝากสลากออมทรัพย์ยังได้รับการยกเว้นภาษีอีกด้วย   ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์สินเชื่อ ธ.ก.ส. ยังได้นำผลิตภัณฑ์ที่รองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย อาทิ สินเชื่อเพื่อเกษตรกรรุ่นใหม่ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี คงที่ 3 ปีแรก ไม่จำกัดวงเงินกู้เพื่อสนับสนุนการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการลดต้นทุนการผลิต สร้างมูลค่าเพิ่ม และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันไปสู่การเป็นผู้ประกอบการธุรกิจภาคการเกษตร สินเชื่อเสริมแกร่ง SME เกษตร ระยะที่ 2 วงเงินให้กู้สูงสุดรายละไม่เกิน 100 ล้านบาท เพื่อพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการ SME ยกระดับการดำเนินธุรกิจลดต้นทุนการผลิต สร้างมูลค่าเพิ่ม เชื่อมโยงธุรกิจตลอดห่วงโซ่อุปทานสินค้าเกษตร และสินเชื่อเคหะเพื่อที่อยู่อาศัย (BAAC Housing Loans) เพื่อสนับสนุนเงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำให้กับเกษตรกรและบุคคลในครอบครัว บุคลากรภาครัฐหรือพนักงานองค์กรที่ได้มีการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับธนาคาร เพื่อนำไปซื้อที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ปรับปรุงหรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัย อาทิ บ้าน คอนโดมิเนียม และทาวน์โฮม เป็นต้น รวมไปถึงการไถ่ถอนจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจากสถาบันการเงินอื่น วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อหลักประกัน ผ่อนชำระล้านละ 2,900 บาทต่อเดือน อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.99 ต่อปี คงที่ 5 ปีแรก* (กรณีมีประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ) ผ่อนนานสูงสุด 40 ปี และเมื่อรวมกับอายุผู้กู้สูงสุดไม่เกิน 75 ปี ฟรี! ค่าธรรมเนียมจดจำนองและค่าธรรมเนียมวิเคราะห์โครงการ (เงื่อนไขอื่น ๆ เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) แล้วพบกับกิจกรรมพิเศษ สินค้าและผลิตภัณฑ์จากเกษตรกรลูกค้าและชุมชน พร้อมลุ้นรับของที่ระลึกมากมายเฉพาะในบูธ ธ.ก.ส. ในงาน Thailand Smart Money กรุงเทพฯ ครั้งที่ 15 ระหว่างวันที่ 13 – 15 ธันวาคมนี้ ณ BCC Hall ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว กรุงเทพฯ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02 555 0555  

13 Dec 2024

...

บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH หลักทรัพย์ในกลุ่ม SET 100 ได้รับคะแนนประเมินจากโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย ประจำปี 2567 ระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และเป็น Insurance Holding Company เพียงแห่งเดียวที่ติด 1 ใน TOP QUARTILE ของบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางการตลาดมากกว่า 10,000 ล้านบาท ตอกย้ำความเชื่อมั่นต่อ ผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน TIPH ยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจภายใต้มาตรฐานการกำกับดูแลกิจการที่ดีเยี่ยม ควบคู่กับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับ สิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (ESG) และมุ่งสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตของธุรกิจกับการช่วยเหลือสังคมในมิติต่างๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม    

01 Dec 2024

Banner
เอไอเอ ประเทศไทย ส่งแคมเปญ “เจอโรคร้าย ตกใจแค่แป๊ปเดียว” ให้คนไทยอุ่นใจหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ด้วยความคุ้มครองโรคร้ายแรงที่ทุกคนเลือกได้ เอไอเอ ประเทศไทย ผู้นำในตลาดประกันชีวิต สุขภาพ และโรคร้ายแรง ส่งแคมเปญ “เจอโรคร้าย ตกใจแค่แป๊บเดียว” โดยมาจากความเข้าใจในความต้องการและความรู้สึกของลูกค้าในเวลาที่ตรวจพบว่าเป็นโรคร้ายแบบไม่คาดคิด  ซึ่งมาพร้อมกับความ “ตกใจ” และ “กังวลใจ” ถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และภาระต่าง ๆ ที่ตามมา รวมถึงอนาคตของคนในครอบครัว เพราะปัจจุบันการรักษาพยาบาลโรคร้ายแรงมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก เนื่องมาจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ และความซับซ้อนของโรค เอไอเอ จึงมุ่งสนับสนุนให้ทุกคนตระหนักถึงความจำเป็นของการมีความคุ้มครองโรคร้ายแรงที่เพียงพอและเหมาะสม เพื่อให้ชีวิตของทุกคนยังคงดำเนินต่อไปได้แบบไม่สะดุด พร้อมส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’ นอกจากนี้ เอไอเอ ยังได้เปิดตัวหนังโฆษณา “เจอโรคร้าย ตกใจแค่แป๊บเดียว” ผ่านสตอรี่สุดฉีก จับโมเมนต์ร้อง ห๊ะ!!! ในวินาทีแรกเมื่อเจอโรคร้าย เผยความกังวลสุดฮิตให้พรั่งพรู ก่อนรีบคัทฟีลให้คุณสบายใจ…เพื่อบอกคนไทยว่า ความ “ตกใจ” เหล่านั้นจะอยู่กับคุณแค่ “แป๊บเดียว” หากมีประกันโรคร้ายแรงเอไอเอไว้ก่อน โดยสามารถรับชมหนังโฆษณาได้แล้ววันนี้ผ่านสื่อต่างๆ ทั้งทีวี โรงภาพยนต์ และออนไลน์ของเอไอเอ ประเทศไทย ทั้ง AIA Official Facebook Page, AIA Thailand YouTube Channel และ Line Official Account สามารถคลิกลิงก์ https://youtu.be/mhxIKdZ5ECY เพื่อรับชม พิเศษยิ่งกว่าสำหรับแคมเปญ “เจอโรคร้าย ตกใจแค่แป๊บเดียว” ยังมีโปรโมชันและสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าที่สนใจซื้อประกันโรคร้ายแรงตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2567  โดยเอไอเอ ได้รวมแพ็กประกันโรคร้ายแรงตัวท็อป ถึง 10 แผนมาให้ลูกค้าได้เลือกให้ตรงกับความต้องการและเหมาะสมกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น อาทิ ‘AIA CI Plus ประกันโรคร้ายแรง เจอ-จ่าย-จบ’ ที่ให้เงินก้อนไว้ใช้รักษา ‘AIA Multi-Pay CI Plus ประกันโรคร้ายแรง เจอ-จาย-หลายจบ’ ที่ให้เคลมได้รวมสูงสุดถึง 11 ครั้ง และ ‘AIA Care For Cancer ประกันชดเชยรายได้’ สำหรับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากป่วยเป็นโรคมะเร็ง ทั้งนี้ ลูกค้ายังมีสิทธิพิเศษมากมาย เมื่อเข้าร่วมแคมเปญ ต่อที่หนึ่ง รับฟรีกระเป๋า AIA X ARTSTORY By Autistic Thai มูลค่า 250 บาท เมื่อมีเบี้ยประกันภัยรวมต่อปีขั้นต่ำ 25,000 บาท* และต่อที่สอง รับเพิ่มบัตรของขวัญ Lotus’s มูลค่า 1,000 บาท เมื่อมีเบี้ยประกันภัยรวมต่อปีขั้นต่ำ 55,000 บาท* และพิเศษถ้าซื้อประกันสุขภาพที่ร่วมโครงการฯ รับเพิ่มบัตรของขวัญ Lotus’s มูลค่าสูงสุด 1,000 บาทอีกด้วย เมื่อมีเบี้ยประกันภัยรวมขั้นต่ำ 25,000 บาท* ซึ่งทุกคนสามารถเข้าร่วมแคมเปญได้ง่าย ๆ เพียงลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ และซื้อประกันโรคร้ายแรงที่เข้าร่วมแคมเปญ** ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2567 โดยสามารถศึกษารายละเอียดแคมเปญได้ที่เว็บไซต์ https://www.aia.co.th/th/events-promotions/promotions-rewards/dmtquarterly สนใจสามารถติดต่อตัวแทนเอไอเอ หรือ AIA Call Center 1581
อ่านต่อ...
Banner Banner Banner Banner Banner Banner

Banner
  ทิศทาง ceothailand.net ในปี 2567  “สื่อออนไลน์ CEO THAILAND”   ในปี 2567 จะเป็นปีที่ผม “นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์” จะมาทำหน้าที่บรรณาธิการบริหารสื่อ CEO THAILAND และผู้บริหารสื่อออนไลน์ ceothailand.net อย่างเต็มที่ หลังจากที่ผ่านมาได้ไปเดินแผนงานทางด้านการเมือง แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงการเลือกตั้งไปแล้วที่ผ่านมา จึงทำให้ช่วงเวลานี้มีเวลาที่จะมาวางแผนในการเดินหน้าธุรกิจสื่อได้มากขึ้น และในช่วงระยะเวลา 1-2 ปีนับจากนี้ จึงขอเข้ามารับหน้าที่สื่อมวลชน ในการเขียนบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ เรื่องราวในแวดวงเศรษฐกิจ-การเงิน และการประกันภัย ในฐานะของคอลัมนิสต์ ตลอดเวลาที่ผมเข้าไปทำงานทางการเมือง ต้องยอมรับว่าวงการข่าวและสื่อสารมวลชนเปลี่ยนไปเร็ว ตลอดเวลา 5 ปี  สื่อออนไลน์ที่รวดเร็วเข้ามาแทนที่สื่อหลักอย่างสื่อสิ่งพิมพ์ (ออฟไลน์)  เราต้องยอมรับในเรื่องความรวดเร็ว แต่ต้องไม่ลืมจุดด้อยของสื่อออนไลน์ คือข้อผิดพลาดในการกลั่นกรองข่าวสาร รวมทั้งบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ที่หายไป และข่าวที่ออกมามีความเหมือนกัน  ไม่แตกต่าง และเป็นเชิงภาพข่าว และกิจกรรมเท่านั้น ดังนั้นในปี 2567 นี้  ในหน้าสื่อออนไลน์ CEO THAILAND ท่านผู้อ่านจะได้สัมผัสกับข่าวสารเชิงวิเคราะห์ เจาะลึกแบบออนไลน์ต่อเนื่องในสื่อ CEO THAILAND รวมทั้งการจัดทำเป็น E-Magazine ใน www.ceothailand.net รวมทั้งการจัดทำเป็นรูปเล่มฉบับพิเศษสลับไปบ้างในเรื่องที่สำคัญๆ น่าสนใจ และเป็นประโยชน์กับประชาชนและสังคม ขอขอบพระคุณท่านลูกค้าและผู้สนับสนุนสื่อด้วยดีเสมอมา ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา และขอขอบพระคุณทุกท่าน รวมทั้งผู้อ่านที่ติดตามสื่อ CEO THAILAND ด้วยดีเสมอมาใน www.ceothailand.net   นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา) บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner