เพิ่งจะผ่านพ้นเทศกาลแห่งความสุข ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แต่ปีนี้คนไทยและคนทั่วโลกคงจะไม่มีความสุขหรือว่าส่งความสุขให้ใคร เพราะต้องระแวดระวังการติดเชื้อโควิด-19 ที่กำลังแพร่กระจายและไร้ทางปราบปราม มีเพียงการป้องหลักๆ คือสวมหน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง หรืออย่าไปมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง จนบางครั้งเราคุยกันแบบไม่ต้องมองหน้ามองตากันแล้ว จนบางครั้งเราต้องสื่อสารกันทางออนไลน์ ดีกว่า
ถามว่าประเทศไทย และคนไทยต้องทำอย่างไร และจะอยู่กันอย่างไร เพราะเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ใช่ไข้หวัดธรรมดาหรือไวรัสกระจอกอย่างที่ท่านรองนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล ว่าไว้ และไม่ได้เกิดจากอาการการ์ดตกของคนไทยเหมือนที่ท่านนายกรัฐมนตรีบอก แต่เกิดจากความเลินเล่อหรือปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่รัฐที่ปล่อยให้แรงงานต่างชาติหรือคนติดเชื้อข้ามเข้า-ออกทางด่านธรรมชาติ และหอบเอาเชื้อโควิด-19 จากประเทศเพื่อนบ้านติดตัวมาด้วย
“ถามว่ารัฐบาลจะล็อกดาวน์ประเทศหรือปิดจังหวัดได้ไหม หลายคนถาม...ทำไมพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ล็อคดาวน์ประเทศ เพื่อปราบโควิดเหมือนกับการระบาดครั้งแรก ผมก็คงต้องบอกว่า เพราะรัฐบาลไม่มีเงินชดเชยเหมือนครั้งแรกในโครงการเราไม่ทิ้งกัน (คนละ 5,000 บาท) เพราะตอนนั้นรัฐบาลมีเงินกู้ แต่ปีนี้รัฐบาลถังแตก ที่ผ่านมาก็กู้ ๆ มาตลอด รัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไร ที่ทำให้รัฐบาลหรือคนไทยมีเงิน นอกจากจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในโครงการ “คนละครึ่ง” ดังนั้นเหตุที่พลเอกประยุทธ์ไม่สั่งล็อกดาวน์เพราะรัฐบาลไม่มีเงิน
ตอนนี้พลเอกประยุทธ์ เลยโยนภาระให้ผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ละจังหวัดดูแลกันเอง แก้ไขปัญหากันเอง ทั้ง ๆ ที่งานนี้ การระบาดที่เกิดขึ้นล่าสุดต้องโทษว่าเป็นความผิดของรัฐบาลที่การ์ดตก อย่าไปโทษประชาชน และวันนี้ประชาชนต้องดูแลและช่วยเหลือตัวเอง เพราะผมคิดว่ารัฐบาลหมดทางแก้ไข นอกจากจะได้เงินกู้อีกสักครั้ง อนิจจา!
นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์
05/01/2564