Responsive image

Saturday, 03 Jun 2023

LATEST NEWS

INSURANCE / ประกันภัย

...

บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต รายงานผลการดำเนินธุรกิจไตรมาส 1 ปี 2566 เติบโตแข็งแกร่ง  เบี้ยประกันภัยรับปีแรกเติบโตสูงสุดในรอบหลายปีถึง 21% สะท้อนความแข็งแกร่งของช่องทางการขาย  ความเป็นมืออาชีพของตัวแทน การดำเนินกลยุทธ์ธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ พร้อมเร่งเครื่องเดินหน้าต่อดันธุรกิจเติบโตพิชิตเป้าเบี้ยประกันภัยรับรวม 3.77 หมื่นล้านบาทในสิ้นปีนี้ มร.โทมัส วิลสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า “อลิอันซ์ อยุธยา เริ่มต้นปี 2566 ได้อย่างสดใสมาก ด้วยผลประกอบการไตรมาส 1/2566 มีผลงานเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 8,696 ล้านบาท เติบโตที่ 8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่เบี้ยประกันภัยรับปีแรกเติบโต 21% อยู่ที่ 1,796 ล้านบาท โดยมาจากช่องทางตัวแทน 711 ล้านบาท เติบโต 33% ช่องทางขายผ่านธนาคาร 637 ล้านบาท เติบโต 23% ในขณะที่ ช่องทางขายตรง 358 ล้านบาท เติบโต  6% จากตัวเลขการเติบโตที่แข็งแกร่งในทุกช่องทาง ไม่เพียงพิสูจน์ความสำเร็จของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ แต่ยังสะท้อนถึงความสำเร็จในการมุ่งมั่นพัฒนาคน โดยเฉพาะตัวแทนฝ่ายขายของบริษัท ที่ได้รับการอบรมที่มีคุณภาพ มีการจัดกิจกรรมการแข่งขันที่สร้างขวัญกำลังใจ สร้างความฮึกเหิมในการขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทมีโครงการ “The Franchise Builder” กิจกรรมที่ช่วยสร้างทีมงานใหม่ สร้างการ recruitment ที่มีคุณภาพ และกระตุ้นให้เกิดการขาย ทำให้ช่องทางตัวแทนสามารถสร้างเบี้ยประกันรับปีแรกได้เติบโตสูงสุดของไตรมาส 1 ในรอบหลายปี” “เราภาคภูมิใจกับผลงานที่ดีเยี่ยมในไตรมาส 1 นี้ ด้วยศักยภาพของทีมงานทุกฝ่าย เรามั่นใจว่าจะสามารถผลักดันให้ อลิอันซ์ อยุธยา สามารถเติบโตธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่ง สามารถพิชิตยอดเบี้ยประกันรับรวม 3.77 หมื่นล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับปีแรก 7.7 พันล้านบาท ก้าวสู่การเป็นผู้นำบริษัทประกันชีวิตของไทยได้อย่างมั่นคง” มร.โทมัส กล่าวเพิ่ม ขณะเดียวกัน กลุ่มอลิอันซ์ ผู้ถือหุ้นหลักของ บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสแรก 2566 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 3.9% เป็น 4.60 หมื่นล้านยูโร โดยได้แรงหนุนจากกลุ่มธุรกิจประกันภัยทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ด ซึ่งได้รับแรงหนุนจากราคาและปริมาณที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีผลกระทบจากปริมาณธุรกิจที่ลดลงในกลุ่มธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ โดยส่วนใหญ่มาจากปริมาณของการชำระเบี้ยประกันแบบครั้งเดียวที่ลดลง และการลดลงของรายได้จากสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AuM) ในส่วนธุรกิจการจัดการสินทรัพย์ กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 24.2% เป็น 3.7 พันล้านยูโร (ไตรมาส 1 ปี 2565 อยู่ที่ 3.0 พันล้านยูโร) เนื่องจากผลประกอบการที่สูงขึ้นของการดำเนินงานในสหรัฐอเมริกาในกลุ่มธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ รวมถึงบริการประกันภัยที่แข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจประกันทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ด อัตราส่วนเงินกองทุนเพื่อความมั่นคง (Solvency II Capitalization) อยู่ที่ 206% ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 เทียบกับ 201% ณ สิ้นไตรมาสที่ 4 ปีของ 2565 เมื่อนำมาตรการเปลี่ยนผ่านสำหรับข้อกำหนดทางเทคนิคมาพิจารณาร่วมด้วย อัตราส่วนเงินกองทุนเพื่อความมั่นคง (Solvency II Capitalization) จะอยู่ที่ 232% ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2566 เทียบกับ 230% ณ สิ้นปี 2565   มร. โอลิเวอร์ เบเทอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มอลิอันซ์ กล่าวว่า “เราภูมิใจกับผลกำไรจากการดำเนินงานที่สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ทักษะ และการดำเนินการตามกลยุทธ์อย่างสม่ำเสมอของเรา นี่เป็นอีกครั้งที่เราได้รับอานิสงส์จากส่วนผสมทางธุรกิจที่หลากหลาย เรามีการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากในกลุ่มประกันภัยทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ดจากการตั้งราคาที่ดี การรักษาวินัยการรับประกันภัยอย่างต่อเนื่อง และการมุ่งเพิ่มผลผลิตให้มากยิ่งขึ้น การทำกำไรอย่างแข็งแกร่งของเราและการใช้ประโยชน์จากเงินทุน แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือที่ลูกค้าสามารถสร้างหลักประกันอนาคตที่มั่นคงด้วยได้ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอน”

01 Jun 2023


...

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงดำเนินโยบายในการส่งมอบความสุขและรอยยิ้ม พร้อมสนับสนุนการสร้างสุขภาพดีแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายและประชาชนทุกคน ล่าสุดจัดงาน “เมืองไทยไตรกีฬา @ ห้วยไม้เต็ง ราชบุรี 2023” (MUANGTHAI TRIATHLON HUAYMAITENG RACHABURI 2023) ณ อ่างเก็บน้ำห้วยไม้เต็ง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 27-28 พฤษภาคม 2566 ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้คนไทยและชาวต่างชาติออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่ดี รวมถึงเป็นการสร้างและพัฒนาภาคีเครือข่ายการออกกำลังกายด้วยการว่าย-ปั่น-วิ่งเพื่อสุขภาพ และเป็นการยกระดับการจัดการแข่งขันวิ่งประจำจังหวัดราชบุรี ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้กับพื้นที่จังหวัดราชบุรีมากยิ่งขึ้น   ทั้งนี้ มีนักกีฬาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้ความสนใจเข้าร่วมการแข่งขัน “เมืองไทยไตรกีฬา @ ห้วยไม้เต็ง ราชบุรี 2023” จำนวนทั้งสิ้น 422 คน จากหลายประเทศ ทั่วโลก อาทิ ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมนี ญี่ปุ่น และมาเลเซีย เป็นต้น ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยสีสัน ความสนุกสนาน และรอยยิ้มจากผู้เข้าร่วมงานที่ได้สัมผัสกับบรรยากาศบนเส้นทางหลักของการวิ่ง ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติและอากาศที่บริสุทธิ์ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยไม้เต็ง โดยประเภทการแข่งขันมีทั้งหมด 5 ประเภท สำหรับผู้ใหญ่ 3 ประเภท และสำหรับเยาวชน 2 ประเภท แยกตามประเภทอายุ และระยะทาง ดังนี้   1.ประเภท Standard ว่ายน้ำระยะ 1,500 เมตร/ปั่นจักรยานระยะ 40 กิโลเมตร/ วิ่งระยะ 10 กิโลเมตร 2.ประเภท Sprint ว่ายน้ำระยะ 750 เมตร/ ปั่นจักรยานระยะ 20 กิโลเมตร/ วิ่งระยะ 5 กิโลเมตร 3.ประเภท Duathlon (ทวิกีฬา) วิ่งระยะ 5 กิโลเมตร/ ปั่นจักรยานระยะ 20 กิโลเมตร/ วิ่งระยะ 5 กิโลเมตร   4.สำหรับเยาวชน ไตรกีฬาเยาวชน (Kids Triathlon) อายุ 6 - 8 ปี ว่ายน้ำระยะ 75 เมตร/ ปั่นจักรยานระยะ 2 กิโลเมตร/ วิ่งระยะ 1 กิโลเมตร อายุ 9 – 10 ปี ว่ายน้ำระยะ 150 เมตร/ ปั่นจักรยานระยะ 4 กิโลเมตร/ วิ่งระยะ 2 กิโลเมตร อายุ 11 – 12 ปี ว่ายน้ำระยะ 150 เมตร/ ปั่นจักรยานระยะ 6 กิโลเมตร/ วิ่งระยะ 3 กิโลเมตร   5.สำหรับเยาวชน ทวิกีฬาเยาวชน (Kids Duathlon)             อายุ 6-8  ปี วิ่งระยะ 1 กิโลเมตร/ ปั่นจักรยานระยะ 2 กิโลเมตร/ วิ่งระยะ 1 กิโลเมตร             อายุ 9-10 ปี วิ่งระยะ 1 กิโลเมตร/ ปั่นจักรยานระยะ 4 กิโลเมตร/ วิ่งระยะ 1 กิโลเมตร             อายุ 11-12 ปี วิ่งระยะ 1 กิโลเมตร/ ปั่นจักรยานระยะ 6 กิโลเมตร/ วิ่งระยะ 2 กิโลเมตร   นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเพิ่มความอุ่นใจให้กับผู้เข้าร่วมการแข่งขน โดยมอบสิทธิพิเศษด้วย ประกันอุบัติเหตุกลุ่มระยะสั้น พลัส “ฟรี” ทุนประกัน 100,000 บาท/คน (เงื่อนไขการได้รับสิทธิ์เป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตกำหนด) ค่าชดเชยการรักษาพยาบาลสูงสุดต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้งสูงสุด 10,000 บาท  โดยความคุ้มครองจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่จัดงานเมืองไทยไตรกีฬา @ ห้วยไม้เต็ง ราชบุรี 2023  ในระหว่างวันที่ 27-28 พฤษภาคม 2566              สำหรับแผนงานและเป้าหมายของการจัดการแข่งขันเมืองไทยไตรกีฬาช่วงที่เหลือของปี 2566 อีก 1 สนามคือพื้นที่แหลมเสด็จ จังหวัดจันทบุรี เพื่อเป็นการส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี ตอบโจทย์คนรักสุขภาพที่ต้องการออกกำลังกาย ภายใต้กลยุทธ์ “Happiness Reinvented : เพราะความสุขคือทุกอย่าง… ร่วมสร้างความสุขสไตล์คุณไปกับเมืองไทยประกันชีวิต” เน้นเดินหน้าสานต่อความมุ่งมั่นในการสร้างความสุขให้แก่ทุกๆ คน ทั้งลูกค้า พนักงาน พาร์ทเนอร์ และสังคมโดยรวมผ่านผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ความคุ้มครองสุขภาพ กิจกรรมและการบริการเพื่อส่งมอบความสุขแบบครบวงจรอย่างแท้จริง เงื่อนไขการได้รับสิทธิ์ความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุกลุ่มระยะสั้น พลัส: - ผู้มีชื่อเป็นผู้สมัครและได้เข้าร่วมงาน เมืองไทยไตรกีฬา @ ห้วยไม้เต็ง ราชบุรี 2023    - ผู้ขอเอาประกันภัยจะต้องมีอายุระหว่าง 6 – 75 ปี และจะต้องสามารถปฏิบัติงานตามหน้าที่เต็มเวลาอย่างสม่ำเสมอ อย่างแท้จริง และไม่อยู่ระหว่างการพักรักษาตัว เนื่องจากเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ และจะต้องมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ณ วันที่กรมธรรม์มีผลบังคับ      

01 Jun 2023

...

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2566 ถือเป็นปีสำคัญของเมืองไทยประกันชีวิต ในการอยู่เคียงข้างสร้างรอยยิ้มแก่คนไทยครบ 72 ปี พร้อมกำหนดทิศทางการดำเนินงานในปีนี้ของบริษัทฯ ด้วยการตั้งเป้าหมายในการเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในทุกมิติ ด้วยการดำเนินกลยุทธ์ “Happiness Reinvented” เพราะความสุขคือทุกอย่าง...ร่วมสร้างความสุขสไตล์คุณไปกับเมืองไทยประกันชีวิต ประกาศปักธงเป็นอันดับหนึ่งในฐานะคู่คิดด้านชีวิตและสุขภาพที่ลูกค้าวางใจ (No.1 Most Trusted Life & Health Partner) ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย ทุกกลุ่มเป้าหมาย ทุกไลฟ์สไตล์ และทุกบทบาทของชีวิตที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อสร้างการเข้าถึงได้ของประกันชีวิตให้กับทุกๆ คน (Democratizing Insurance) โดยบริษัทฯ มุ่งดำเนินงานผ่าน 4 แกนสำคัญ ได้แก่ บุคลากร (People) พาร์ทเนอร์ (Preferred Partner) ลูกค้า (Customers) และ นอกเหนือจากลูกค้า (Beyond Our Customers) โดยบริษัทฯ เปิดตัวแคมเปญใหญ่สำหรับปี 2566 อีกครั้ง กับแคมเปญ “MTL Big Thanks...GIVE = GIFT เพราะความสุขคือการให้” เพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเมืองไทยประกันชีวิตผ่านการมอบเสียงประเมินความพึงพอใจในการใช้บริการช่องทางต่างๆ เพื่อให้บริษัทฯ นำเสียงเหล่านั้นไปพัฒนาและปรับปรุงการบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด รวมไปถึงลูกค้าที่ขอสมัครรับเอกสารที่บริษัทฯ ออกให้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อช่วยกันลดการใช้กระดาษ ร่วมกันลดโลกร้อน และพิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่เป็นสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับและแลกคะแนนสะสม Smile Point ในโครงการแสงแก้ว เพื่อสมทบทุนผ่าตัดต้อกระจกให้กับผู้สูงอายุ ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่ให้ลูกค้าสามารถลุ้นรับรางวัล อาทิ การสมัครเข้าร่วมโครงการ Voice Biometrics และลงทะเบียนเสียงสำเร็จ การทำธุรกรรมผ่านระบบบริการข้อมูลทางโทรศัพท์อัตโนมัติ ทั้งหมดนี้คือความพิเศษที่เมืองไทยประกันชีวิตสร้างสรรค์ขึ้น เพื่อมอบให้กับลูกค้าทุกท่าน โดยเฉพาะลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิต สามารถเข้าร่วมแคมเปญ “MTL Big Thanks...GIVE = GIFT เพราะความสุขคือการให้” ได้ตั้งแต่ วันนี้ ถึง 31 ธ.ค. 2566 โดยจับสลากรางวัลภายในวันที่ 21 ก.พ. 2567 ณ เมืองไทยประกันชีวิต สำนักงานใหญ่ และประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัลในวันที่ 28 ก.พ.2567 ที่เว็บไซต์ www.muangthai.co.th ทั้งนี้ ลูกค้าที่สนใจเข้าร่วมแคมเปญ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงรายละเอียดของรางวัลมูลค่ากว่า 800,000  บาท เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.muangthai.co.th “จุดยืนในการมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านการประกันชีวิตและสุขภาพของเราไม่ใช่แค่เข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร แต่เราจะคิดเผื่อไปมากกว่านั้น และสิ่งที่เรานำมามอบให้แก่ลูกค้าไม่ใช่แค่เรื่องของประกัน การเคลม หรือการติดต่อตัวแทนประกันชีวิต แต่เป็นการดูแลลูกค้าผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ที่ถูกออกแบบโดยการคิดเผื่อรอบด้านเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในทุกช่วงชีวิต” นายสาระ กล่าว หมายเหตุ : 1.  แคมเปญ MTL Big Thanks...GIVE= GIFT เพราะความสุขคือการให้ใบอนุญาตเลขที่ 545/2566 2.  เงื่อนไขกิจกรรมเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

27 May 2023

...

บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต รักคือพลังของชีวิต โดยคุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO) ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่มทุกระดับ โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมที่จะมีชีวิตยืนยาว อย่างมีคุณค่า สุขภาพแข็งแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยเฉพาะการได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกับคนที่รักในครอบครัวจนถึงบั้นปลายชีวิต ล่าสุดจึงได้เปิดตัว “โอเชี่ยนไลฟ์ สมาร์ท โพรเทคชั่น 99/21” แบบประกันคุ้มครองตลอดชีพที่ช่วยสร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับครอบครัวที่รักได้อย่างยาวนาน โดยมีระยะเวลาคุ้มครองจนถึงอายุ 99 ปี คุ้มครองกรณีเสียชีวิตสูงถึง 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย หรือ 101% ของเบี้ยประกันภัยที่ชำระมาแล้ว หรือเงินค่าเวนคืนกรมธรรม์ (แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า) หรือหากผู้เอาประกันมีชีวิตอยู่จนอายุครบ 99 ปี รับเงินครบกำหนดสัญญา 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย หรือ 101% ของเบี้ยประกันภัยที่ชำระมาแล้ว (แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า) ที่สำคัญยังสามารถขอทำสัญญาเพิ่มเติมแนบได้ ไม่ว่าจะเป็นสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพ สัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง หรือสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองอุบัติเหตุ ช่วยให้มั่นใจยิ่งขึ้นในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับครอบครัว “โอเชี่ยนไลฟ์ สมาร์ท โพรเทคชั่น 99/21”  รับประกันภัยบุคคลอายุตั้งแต่ 11 – 70 ปี สามารถเลือกชำระเบี้ยประกันภัยได้ไม่ว่าจะเป็นรายปี / ราย 6 เดือน / ราย 3 เดือน / รายเดือน โดยเบี้ยประกันภัยสามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี ตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด     OCEAN LIFE ไทยสมุทร เดินหน้าส่งมอบพลังความรัก 3 ด้านให้คนไทยก้าวผ่านทุกวิกฤตภายใต้แนวคิด OCEAN LIFE LOVE MINDSET หนึ่งในนั้นคือ “LOVE YOUR HELTH” ที่มุ่งส่งเสริมให้คนไทยรักสุขภาพ เพิ่มภูมิต้านทานพร้อมรับมือโรคภัยต่างๆ โดยได้สร้างสรรค์นวัตกรรมการประกันชีวิตช่วยปิดความเสี่ยง และบริการที่เหนือความคาดหมาย ทำให้การประกันชีวิตเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน สนใจแบบประกันตลอดชีพ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ocean.co.th หรือติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร.0 2207 8888 สนใจ แบบประกันคุ้มครองตลอดชีพ จาก OCEAN LIFE ไทยสมทุร หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร 0 2207 8844  

27 May 2023

...

  บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH โดย ดร. สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นายวิบูลย์ เฟื่องพานิชเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน (CFO) ร่วมนำเสนอข้อมูลผลประกอบการไตรมาส 1/2566 พร้อมความคืบหน้าการลงทุนและการดำเนินธุรกิจของ TIPH และบริษัทในกลุ่ม เพื่อมุ่งสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจประกันวินาศภัยในภูมิภาค ในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผ่านช่องทางออนไลน์ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 โดยสามารถรับชมย้อนหลังได้ผ่านทาง YouTube Channel และเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังนี้ https://www.youtube.com/watch?v=_ar67Do0Cys และ https://www.set.or.th/streaming/vdo/6729?title=Opp%20Day  

27 May 2023

...

  นายไชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI เปิดเผยถึงผลประกอบการของบริษัทฯ ในไตรมาส 1 ปี 2566 ว่า ไทยประกันชีวิตยังคงมีผลประกอบการที่เข้มแข็ง มีกำไรสุทธิ 3,129 ล้านบาท และมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (Annual Premium Equivalent หรือ APE) ที่ 3,028 ล้านบาท ขณะที่ผลรวมของกำไรที่คาดว่าจะได้รับตั้งแต่วันแรกจนกระทั่งถึงวันสิ้นสุดสัญญา หรือมูลค่ากำไรของธุรกิจใหม่ (Value of New Business  หรือ VONB) อยู่ที่ 1,701 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.7% ส่วนอัตรากำไรของธุรกิจใหม่ (VONB Margin) มีอัตราที่ 56.2% เพิ่มขึ้นถึง 9.1 จุด เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจาก VONB ที่เติบโตทุกช่องทางการขาย โดยช่องทางตัวแทนฯ เติบโตจากการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการขาย และมุ่งเน้นการขายผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลกำไรอย่างยั่งยืน สะท้อนได้จาก VONB Margin ช่องทางตัวแทนฯ ที่สูงขึ้นถึง 56.7%  ขณะเดียวกัน VONB ของช่องทางพันธมิตรยังคงเติบโต เนื่องมาจากความสำเร็จของกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ที่ทางบริษัทฯ ร่วมมือกับพันธมิตรธนาคาร นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลกำไรสูงขึ้นร่วมกับการนำเสนอขายผลิตภัณฑ์อื่น แม้ว่ากำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 1 ปี 2566 จะลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 แต่บริษัทฯ มีกำไรจากการรับประกันภัยที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งอยู่ที่ 2,020 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.3% ซึ่งการลดลงของกำไรสุทธิเป็นผลกระทบจากการลดลงของกำไรจากการลงทุน เนื่องจากการลดลงของกำไรจากการขายเงินลงทุนและการเปลี่ยนแปลงของมูลค่ายุติธรรม เป็นไปตามผลตอบแทนของตลาดและมุมมองในการเคลื่อนไหวของตลาดทุนในไตรมาส 1 ปี 2565 โดยบริษัทฯ ได้ขายเงินลงทุนอย่างมีนัยสำคัญก่อนภาวะตลาดแนวโน้มขาลง จึงทำให้บริษัทฯ มีกำไรจากการขายเงินลงทุนในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 สูงเป็นกรณีพิเศษ  “บริษัทฯ กำหนดกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สร้างกำไรในระยะยาว และมีความอ่อนไหวน้อยต่ออัตราดอกเบี้ย เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนร่วมในเงินปันผล หรือ Participating Product ผลิตภัณฑ์ควบการลงทุน และสัญญาเพิ่มเติม ซึ่งกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์นี้จะผลักดันให้บริษัทฯ มีกำไรอย่างยั่งยืน ท่ามกลางความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจ” นายไชยกล่าว ด้านอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน หรือ CAR Ratio ของบริษัทฯ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2566 อยู่ที่ 449.6% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดอยู่ที่ 140% ซึ่งบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับสถานะเงินทุนที่แข็งแกร่งอันเป็นรากฐานของการเติบโตอย่างยั่งยืน “ไทยประกันชีวิตให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ด้วยวิสัยทัศน์ในการ “มุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืน” ตลอดจนการนำหลักการ ESG ผนวกเข้ากับกลยุทธ์ทางธุรกิจ ด้วยการริเริ่มโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับ ESG ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2566 หลายโครงการ อาทิ การจัดทำและประกาศใช้จรรยาบรรณสำหรับคู่ค้า (Supplier Code of Conduct) การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ESG เพื่อวิสาหกิจชุมชน “ไทยประกันชีวิต สุขยั่งยืน มีคืน” เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงประกันชีวิตและประกันสุขภาพสำหรับคนไทย หรือการเผยแพร่รายงานความยั่งยืนประจำปี 2565 ที่จัดทำขึ้นเป็นฉบับแรก อ้างอิงการรายงานตามมาตรฐานการายงานสากล หรือ Global Reporting Initiative Standards (GRI Standards)” นายไชยกล่าว

25 May 2023

...

บมจ.ทีคิวเอ็ม อัลฟา โดยทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ (TQM) ร่วมกับ บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) เปิดตัว แคมเปญประกันมนุษย์เงินเดือนรับวันแรงงาน ภายใต้แนวคิด “คุ้มครองทุกความสำเร็จของมนุษย์เงินเดือน” เพื่อคุ้มครองความไม่แน่นอนในชีวิตของมนุษย์วัยทำงาน มีความคุ้มครองที่ครบ ครอบคลุม และเบาใจ ตอบทุกความต้องการทั้งสุขภาพ ร่างกาย และการเงิน ด้วยเบี้ยประกันภัยราคาที่จับต้องได้     ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด เปิดเผยว่า “TQM และกรุงเทพประกันภัย (BKI) ร่วมกันออกแคมเปญประกันภัยรับวันแรงงาน หรือประกันมนุษย์เงินเดือนมาตลอดมากกว่า 5 ปีที่ผ่านมา  ภายใต้แนวคิดที่จะช่วยแบ่งเบาภาระที่อาจจะเกิดจากความไม่แน่นอนในชีวิต ให้กับกลุ่มคนในช่วงวัยแรงงานที่ต้องใช้แรงงาน ความรู้ความสามารถ เพื่อทำงานแลกเงิน ไม่ว่ากลุ่มผู้ที่มีเงินเดือนประจำและกลุ่มที่ประกอบอาชีพอิสระฟรีแลนซ์ หรือแม้แต่ผู้ใช้แรงงาน ได้มีความคุ้มครองที่เพียงพอเมื่อเกิดเจ็บป่วย เป็นการเพิ่มเติมสวัสดิการให้กับตัวเองนอกจากที่บริษัทจัดไว้ให้ หรือมนุษย์ฟรีแลนซ์ หรือผู้ใช้แรงงานที่ไม่มีระบบสวัสดิการรองรับ  สอดคล้องกับงานวิจัยที่ระบุว่าคนในวัยทำงานต้องการสวัสดิการ หรือความมั่นคงในชีวิตที่ดีขึ้น โดยเฉพาะสวัสดิการด้านสุขภาพการรักษาพยาบาล”  ด้านดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงเทพประกันภัย (BKI) และTQM ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันมนุษย์เงินเดือน จากจุดเริ่มต้นที่ต้องการตอบโจทย์ความต้องการของมนุษย์เงินเดือนที่งานยุ่ง ไม่มีเวลา ลางานยาก สวัสดิการรักษาพยาบาลที่ไม่ครอบคลุมกับค่าใช้จ่าย  เราจึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ให้ความคุ้มครองอย่างครบครันและครอบคลุม และไม่ใช่แค่มนุษย์เงินเดือนเท่านั้น ยังรวมถึงกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์ที่ต้องการการดูแลและต้องการเข้าถึงสิทธิ์ด้านการดูแลสุขภาพเช่นเดียวกัน ซึ่งเราได้พัฒนารูปแบบกรมธรรม์ประกันภัยที่ตอบโจทย์กลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน”  “แคมเปญประกันมนุษย์เงินเดือนปีนี้ ได้จัดโปรดักต์ให้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ รวม 7 โปรดักต์ ได้แก่ 1. ประกันสุขภาพ Health เบา เบา ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย สำหรับผู้ที่ไม่มีสวัสดิการเอาไว้ช่วยแบ่งเบาภาระ เมื่อต้องเข้าโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยใน  2. ประกันสุขภาพ Health Top Up  เหมาะสำหรับคนทำงานประจำหรือมีประกันภัยหลักอยู่แล้ว เช่น ประกันสุขภาพกลุ่ม ประกันสังคม ความคุ้มครองเพิ่มนอกเหนือจากประกันภัยหลัก 3. ประกันภัยชดเชยรายได้ ให้ความคุ้มครองเรื่องการชดเชยรายได้ กรณีต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ทั้งกรณีจากการเจ็บป่วยด้วยโรคและอุบัติเหตุ 4. ประกันภัยโรคมะเร็ง  ครอบคลุม โรคมะเร็งทุกชนิดทุกระยะและคุ้มครองการรักษาพยาบาลด้วยวิธีเคมีบำบัด/รังสีรักษา 5.ประกันอุบัติเหตุทำงานสบายใจ  6. ประกันภัยช้อป ชัวร์ ชัวร์ (ประกันภัยไซเบอร์) ให้ความคุ้มครองการถูกฉ้อโกงจากการซื้อสินค้าออนไลน์ สูงสุด 5,000 บาท และ 7. ประกันรถยนต์ชั้น 1 และ 2+  ซึ่งทั้ง 7 โปรดักต์ได้ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อตอบโจทย์ด้วยความคุ้มครองที่ครอบคลุมทุกสถานการณ์สำหรับคนทำงานที่ได้รับผลกระทบ และสามารถรองรับความเสี่ยงทุกๆ ด้านของคนทำงาน ด้วยเบี้ยประกันภัยที่เข้าถึงได้” ดร.อภิสิทธิ์กล่าว ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด กล่าวเสริมว่า “ตั้งแต่เริ่มพัฒนาประกันมนุษย์เงินเดือน เราเรียนรู้ความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้มาโดยตลอด เราเข้าใจในความต้องการ ไลฟ์ไสตล์ของมนุษย์เงินเดือน และขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายการรักษาตัวหรือภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ปรับเพิ่มมาตลอด ซึ่งกระทบกับรายได้หรือความมั่นคงทางการเงินเป็นอย่างมาก เหล่านี้เรานำไปหารือกับ BKI ดังนั้นปีนี้มีการปรับรูปแบบความคุ้มครองที่หลากหลายและเหมาะสมกับทุกกลุ่มรายได้มากขึ้น เพื่อให้ประกันมนุษย์เงินเดือนมีส่วนช่วยคุ้มครองทุกความสำเร็จของมนุษย์เงินเดือน และมีบริการเสริมพิเศษ Nursing at Home จากทาง BKI ให้ฟรี สำหรับผู้ที่ซื้อประกันหมวดอุบัติเหตุและสุขภาพ ด้วยบริการการดูแลสุขภาพต่อเนื่องโดยบุคลากรทางการแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ถึงบ้าน  และในวันแรงงานแห่งชาตินี้ ทาง BKI และTQM ขอมอบฟรีประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล คุ้มครองสูงสุด 1 แสนบาท เพื่อเป็นกำลังใจให้กับมนุษย์เงินเดือนทุกคน รับสิทธิ์ผ่านช่องเว็บไซต์ http://bit.ly/41gtXyH  ถึง31 พฤษภาคม 2566” “สำหรับช่องทางการขายนอกจากช่องทางออฟไลน์แล้วช่องทางออนไลน์ของ TQM ลูกค้าสามารถ เลือกซื้อ ชำระเงิน รับกรมธรรม์ แจ้งเคลม และรับบริการอื่น ๆ ได้ด้วยตนเอง ทั้งทางเว็บไซต์ www.tqm.co.th หรือ Line Official TQM Insurance Broker ที่สามารถซื้อหรือแชทเข้ามาพูดคุยกับพนักงานหรือให้พนักงานโทรให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีช่องทางอื่น ๆ ไว้อำนวยความสะดวกลูกค้าไม่ว่าจะเป็น Facebook TQM Insurance Broker และสายด่วน 1737 ตลอด 24 ชั่วโมง”

25 May 2023

ECONOMY-FINANCE / เศรษฐกิจ-การเงิน

...

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดแคมเปญ “ย้าย มาใช้ A-Mobile Plus ได้เงินคืน” โดยเชิญชวนลูกค้าที่ใช้งานแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ย้ายมาสัมผัสประสบการณ์บริการทางการเงินที่สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นบนแอปพลิเคชัน A-Mobile Plus เพียงดาวน์โหลดและลงทะเบียนเปิดใช้งานแอปพลิ   เคชัน A-Mobile Plus และทำธุรกรรมในการถอนเงินไม่ใช้บัตร จ่ายบิล เติมเงิน หรือสแกนชำระค่าสินค้าและบริการ สะสมครบ 4 รายการ รับเลยเงินคืน 20 บาท/ราย/สิทธิ์ (จำกัด 100,000 สิทธิ์แรกตลอดแคมเปญ) ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 มิถุนายน 2566 โดยธนาคารจะโอนเงินคืนเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของลูกค้า ภายใน 30 วัน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) ทั้งนี้ ธ.ก.ส.จะยกเลิกการใช้ ธ.ก.ส. A-Mobile เดิม มาใช้ A-Mobile Plus เพียงแอปพลิเคชันเดียว ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป    

28 May 2023


...

  ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากการจัดทำ “โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน”  สำหรับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม มาตรา 33 ที่ต้องการไถ่ถอนจำนอง (รีไฟแนนซ์) ที่ดินพร้อมอาคาร ห้องชุด (คอนโดมิเนียม) จากสถาบันการเงินอื่น และให้เปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยสำหรับผู้ประกันตนที่มีบัญชีเงินกู้กับ ธอส. ให้ได้รับอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรก เท่ากับ 1.99% ต่อปี นั้น โดยหลังเปิดให้ขอรับรหัสเข้าร่วมโครงการผ่าน Application : GHB ALL GEN และ GHB  ALL ในช่วงที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า มีผู้ประกันตนให้ความสนใจและขอรับรหัสเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้วานนี้ (วันที่ 23 พฤษภาคม 2566) มีผู้ประกันตนที่ถึงลำดับคิวเรียกยื่นกู้ได้มาติดต่อยื่นขอสินเชื่อเต็มกรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาทแล้ว ธอส. จึงขอปิดรับเรื่องการยื่นขอสินเชื่อดังกล่าว สำหรับลูกค้าที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อไปแล้ว ยังสามารถมาดำเนินการทำนิติกรรมสัญญาได้ตามขั้นตอนปกติ ทั้งนี้ ธอส. ขอขอบคุณผู้ประกันตนทุกท่าน ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าว และขออภัยต่อผู้ประกันตนที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” พร้อมเดินหน้าจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อสนับสนุนให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมากขึ้น สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ GHBank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคาร ได้ที่ Mobile Application : GHB ALLGEN และ www.ghbank.co.th  

28 May 2023

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินยังคงมุ่งมั่นในบทบาทการส่งเสริมการออม และดูแลผู้ฝากเงินให้ได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม โดยเฉพาะช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นในขณะนี้ ดังนั้นเพื่อจูงใจการเก็บออมเงินอย่างต่อเนื่อง ธนาคารจึงได้ออกแคมเปญสลากออมสินพิเศษ 2 ปี ทั้งใบสลาก และดิจิทัล โดยเพิ่มทั้งเงินรางวัลที่ 1 จาก 10 ล้านบาท เป็น 30 ล้านบาท และเพิ่มรางวัลพิเศษอีก 30 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ฝากเงินได้ลุ้นรางวัลเป็นต่อที่ 2 รวมมูลค่าเงินรางวัลสูงสุดของแคมเปญนี้ถึง 60 ล้านบาท เปิดรับฝากตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.2566 ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ และแอป MyMo     สลากออมสินพิเศษ 2 ปี สามารถเลือกฝากได้ทั้งแบบใบสลาก หรือแบบดิจิทัล หน่วยละ 100 บาท ไม่จำกัดวงเงินรับฝากสูงสุด ในช่วงเวลาฝาก 2 ปี มีสิทธิ์ถูกรางวัลใหญ่ รางวัลที่ 1 เงินรางวัล 30 ล้านบาท รวมถึงรางวัลอื่น ๆ และรางวัลเลขท้าย รวมจำนวน 24 ครั้ง ซึ่งออกรางวัลทุกวันที่ 1 ของเดือน พร้อมกับสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลพิเศษรวม 30 ล้านบาท แบ่งเป็น 10 รางวัล ๆ ละ 3 ล้านบาท ออกรางวัลในวันที่ 1 ก.ค. 2566 ทั้งนี้ เมื่อถือสลากครบ 2 ปี จะได้รับดอกเบี้ยอีกหน่วยละ 0.30 บาท หรือคิดเป็น 0.15% ต่อปี ผู้ฝากบุคคลธรรมดาได้รับยกเว้นภาษีดอกเบี้ยและเงินรางวัล  

24 May 2023

...

นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK ร่วมมือกับ อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ประเทศไทย (Amazon Global Selling Thailand) และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดโครงการอบรม “ติดปีกสินค้าไทย ขายออนไลน์ข้ามพรมแดนกับ Amazon” ระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม-18 กรกฎาคม 2566 ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ และอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาศักยภาพ SMEs ไทยให้มีความพร้อมในการพัฒนาธุรกิจสู่ตลาดการค้าออนไลน์อย่างมั่นใจ ผ่านการฝึกอบรม จับคู่ทางธุรกิจ ให้คำปรึกษาด้านการเงิน แนะนำเครื่องมือบริหารความเสี่ยง และ Workshop การค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน (Cross Border E-commerce: CBEC) ไปยังตลาดสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์ในการเข้าถึงเครือข่ายลูกค้าของ Amazon.com กว่า 300 ล้านคนทั่วโลก โดยเนื้อหาการอบรม อาทิ การเปิดบัญชีกับ Amazon การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและใบรับรององค์การอาหารและยาสหรัฐฯ การสร้างการบริหารจัดการคลังสินค้าและจัดส่งโดย Amazon (Fulfilment by Amazon : FBA) การเปิดหน้าร้านค้าบน Amazon.com ผู้ประกอบการที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ ในปี 2566 เศรษฐกิจและการค้าโลกต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน ทั้งภาวะเงินเฟ้อ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ความยืดเยื้อของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ประกอบกับวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐฯ และยุโรปส่งผลกดดันเศรษฐกิจโลก ทำให้ล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลงเหลือ 2.8% และการค้าโลกมีแนวโน้มขยายตัวเพียง 1.7%     อย่างไรก็ตาม พบว่าภาพรวมตลาดการค้าออนไลน์ (E-commerce) ของโลกยังมีแนวโน้มสดใส โดยคาดว่าจะขยายตัวกว่า 10% จาก 5.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 เป็น 6.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 และมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นเป็น 6.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 และ 7.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 นอกจากนี้ ผลสำรวจผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs ที่ดำเนินธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนในปี 2565 พบว่า 90% มีความสนใจค้าขายข้ามพรมแดนผ่าน E-commerce แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ประสบปัญหาขาดความเข้าใจวิธีการ ขาดความรู้เกี่ยวกับตลาดต่างประเทศ มีข้อจำกัดด้านศักยภาพ ทรัพยากร และความสามารถในการแข่งขันในตลาด E-commerce ดังนั้น การจัดโครงการดังกล่าวนี้จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสนับสนุนผู้ประกอบการ  

24 May 2023

...

  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ขอแจ้งเตือนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เนื่องจากขณะนี้ มีผู้เปิด Facebook Fanpage ใช้ชื่อว่า "สินเชื่อ COD ไปรษณีย์ไทย (smebank)" (https://www.facebook.com/Ssmedevelopmentbank) โดยใช้รูป profile เป็นโลโก้ของ "SME D Bank " และใช้ภาพ cover เป็นภาพโฆษณาสินเชื่อของธนาคาร รวมถึง Inbox ข้อความเชิญชวนใช้บริการสินเชื่อไปยังบุคคลต่างๆ ซึ่งอาจสร้างความสับสน เข้าใจผิดให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทาง SME D Bank ขอเรียนแจ้งเตือนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกท่านว่า Facebook Fanpage ดังกล่าว ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับธนาคารทั้งสิ้น และธนาคารไม่มีนโยบายให้บุคคลภายนอกเปิด Facebook Fanpage หรือผลิตสื่อใดๆ เพื่อแอบอ้างชื่อธนาคารไปหาผลประโยชน์ โดยขณะนี้ ธนาคารกำลังดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ดังนั้น ขอความกรุณาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่าหลงเชื่อข้อมูลจาก Facebook Fanpage ดังกล่าว ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างเป็นทางการของธนาคารได้ที่ Facebook Fanpage "ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย” (https://web.facebook.com/SMEDevelopmentBank) หรือเว็บไซต์ www.smebank.co.th เท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Call Center 1357                 

20 May 2023

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสิน เตรียมใช้สิทธิ์ขายหุ้น 49% ในบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด มูลค่า 1,500 ล้านบาท คืนให้กับบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ซึ่งเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้นตั้งแต่เริ่มลงทุน ทั้งนี้ ธนาคารออมสินได้เข้าลงทุนใน บจ.เงินสดทันใจ เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มการแข่งขันในตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวสามารถปรับลดโครงสร้างอัตราดอกเบี้ยของตลาดลงได้ประมาณ 8% - 10% ต่อปี จากเดิมอยู่ที่ 26% - 28% ต่อปี ในช่วงที่เริ่มประกาศเปิดตัวโครงการ ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 16% - 18% ต่อปี ซึ่งยังสามารถสร้างผลกำไรให้กับผู้ประกอบการในระดับที่เหมาะสม และช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบด้วยต้นทุนสินเชื่อที่ถูกลงและเป็นธรรม โดย บจ.เงินสดทันใจ ได้อนุมัติสินเชื่อที่คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำลงแก่ผู้มีรายได้น้อย จำนวนกว่า 1.7 ล้านราย และคาดการณ์ว่ามีผู้ได้รับประโยชน์จากการที่ดอกเบี้ยถูกลงทั้งตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ เป็นจำนวนกว่า 5 ล้านราย     อนึ่ง ภายหลังจากที่ได้ดำเนินการขายหุ้นคืน ธนาคารออมสิน และ บมจ.ศรีสวัสดิ์ ได้ตกลงร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจ โดยธนาคารจะให้สินเชื่อกับ บจ. เงินสดทันใจ ในอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม ส่วน บจ.เงินสดทันใจ จะยังปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ด้วยอัตราดอกเบี้ยปกติที่ไม่เกิน 18% เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้เข้าถึงสินเชื่อด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมต่อไป.  

13 May 2023

...

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) โดย นายมิ่งขวัญ ประเสริฐศิวพร (กลาง) ผู้ช่วยผู้จัดการงานส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการเงิน พร้อมทีมงานอาสาชาวเงินติดล้อ ร่วมจัดกิจกรรมในโครงการ “นำความรู้สู่ชุมชน เพื่อชีวิตหมุนต่อได้” ในหลักสูตร “ปลดหนี้ ชีวิตเป็นสุข” ให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ชุมชนบ้านวังยาว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จำนวนกว่า 30 คน ซึ่งถือเป็นการจัดกิจกรรมต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างความรู้ด้านการเงินขั้นพื้นฐาน ในรูปแบบกิจกรรมสนุกสอดแทรกความรู้ เพื่อให้กลุ่มชาวบ้านเกิดความเข้าใจและสามารถนำความรู้ทางการเงินที่ได้รับ ไปปรับใช้ในวิถีชีวิตประจำวันของตนเองและครอบครัวได้จริง ภายใต้เจตนารมณ์ในการสร้างโอกาสทางความรู้เพื่อช่วยให้ผู้คนมีชีวิตหมุนต่อได้อย่างยั่งยืน โดยภายในกิจกรรมได้รับเกียรติจาก นายมนตรี น้อยนาง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านชุมชนบ้านวังยาว (กลาง) เป็นตัวแทนให้การต้อนรับคณะทีมงานอาสาอย่างเป็นกันเอง ณ ศาลาประชาคม ชุมชนวังยาว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR ในฐานะผู้นำธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ ที่มุ่งมั่นสร้างโอกาสด้านการเงินให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและผู้ประกอบอาชีพอิสระ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบที่เป็นธรรมและโปร่งใส ได้ริเริ่มโครงการให้ความรู้ทางการเงิน แก่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ในปี 2555 ก่อนจะขยายโครงการไปสู่ชุมชน ภายใต้ “โครงการนำความรู้สู่ชุมชน เพื่อชีวิตหมุนต่อได้” ซึ่งปัจจุบัน ได้ส่งมอบความรู้ให้กับชุมชนไปแล้วมากกว่า 50 ชุมชนทั่วประเทศ โดยกิจกรรมดังกล่าวมุ่งให้ความรู้เบื้องต้นทางการเงิน การบริหารรายรับรายจ่าย การออม และการจัดการด้านการเงินเพื่อการประกอบอาชีพ รวมถึง วิธีการใช้เทคโนโลยีทำธุรกรรมด้านการเงินเพื่อความสะดวกและลดต้นทุน ให้แก่กลุ่มผู้มีรายน้อยหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระที่อาศัยอยู่ในชุมชนต่างๆ พนักงานโรงงานอุตสาหกรรม และผู้นำชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเปิดโอกาสให้พนักงานชาวเงินติดล้ออาสาเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อให้เข้าใจถึงความสำคัญของการสร้างโอกาสทางการเงินให้แก่ลูกค้าอีกด้วย ผู้สนใจเยี่ยมชมข้อมูลเงินติดล้อได้ที่ https://www.tidlor.com หรือติดต่อ call center 088-088-0880

13 May 2023

BUSINESS-MARKETING / ธุรกิจ-การตลาด-ขายตรง-SME

...

นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR กล่าวว่า ปัจจุบันเงินติดล้อได้ออกแคมเปญ “บัตรติดล้อ ยันดอกถูก 0.94%” สำหรับผู้ขอสินเชื่อทะเบียนรถเก๋ง-กระบะ พร้อมรับบัตรติดล้อและทำการเปิดใช้งานบัตร โดยจะได้รับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 0.94% ต่อเดือน เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระทางการเงินให้กับกลุ่มผู้ใช้สินเชื่อรายย่อยหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ โดยแคมเปญ “บัตรติดล้อ ยันดอกถูก 0.94%” ได้ทำการสื่อสารสร้างการรับรู้ผ่านหนังโฆษณาชุด “ยันดอกถูก 0.94%” กำกับโดย ต่อ ธนญชัย ศรศรีวิชัย ผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาชื่อดัง ที่ถ่ายทอดเจตนาและความตั้งใจของพนักงานเงินติดล้อในการยันดอกเบี้ยไว้เพื่อช่วยเหลือลูกค้า โดยนำเสนอในมุมมองที่จริงจัง จริงใจ เรียกรอยยิ้มตามสไตล์เงินติดล้อ ผู้สนใจสามารถรับชมหนังโฆษณาชุด “ยันดอกถูก 0.94%” ได้ที่ YouTube เงินติดล้อ หรือ Facebook Fan Page เงินติดล้อ ทั้งนี้ ปัจจุบันเศรษฐกิจของประเทศไทยยังคงเผชิญกับภาวะอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้น ผู้ให้บริการสินเชื่อบางรายจึงจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบถึงภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ของลูกค้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เงินติดล้อเองมีความตั้งใจในการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับผู้ใช้สินเชื่อ จึงได้จัดทำแคมเปญ “บัตรติดล้อ ยันดอกถูก 0.94%” โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0.94% ต่อเดือน เป็นดอกเบี้ยแบบคงที่ต่อเดือน เทียบเคียงดอกเบี้ยที่แท้จริงแบบลดต้นลดดอก 20% ต่อปี เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถนำเงินไปใช้แก้ปัญหา หรือเสริมสภาพคล่องให้กิจการของตนเอง รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในปัจจุบัน ดังจะเห็นได้จากตัวเลข GDP (Gross Domestic Product) ในช่วงไตรมาสแรกแข็งแกร่งและดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ สะท้อนการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ และยังมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2566 อีกด้วย ทั้งนี้ “บัตรติดล้อ” บัตรกดเงินสดหมุนเวียนที่ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าสินเชื่อทะเบียนรถ ให้สามารถกดเงินสดตามวงเงินสินเชื่อของตนเองได้สะดวกผ่านตู้ ATM ของธนาคารพาณิชย์ชั้นนำกว่า 50,000 แห่ง ทั่วประเทศ ได้ตลอด 24 ชม. โดยคิดดอกเบี้ยเฉพาะจำนวนเงินที่กดมาใช้ วงเงินที่เหลือในบัตรหากไม่กดใช้จะไม่เสียดอกเบี้ย เพื่อให้ลูกค้าผู้ขอสินเชื่อสามารถเข้าถึงเงินทุนในยามที่ต้องการได้ด้วยความยืดหยุ่นมากขึ้น ช่วยลดขั้นตอนในการยื่นเอกสารขอสินเชื่อทะเบียนรถใหม่ และลดต้นทุนการเดินทางมารับบริการที่สาขาอีกด้วย สนใจเยี่ยมชมข้อมูลเงินติดล้อเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.tidlor.com หรือ Facebook Fan page เงินติดล้อ สอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริการได้ที่เงินติดล้อทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ call center หมายเลขโทรศัพท์ 088-088-0880 ตลอด 24 ชม.

28 May 2023


...

เคทีซีเดินหน้ารุกกลยุทธ์การตลาด เน้นขยายฐานสมาชิกไปยังกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ประกอบกับสมาชิกนิยมเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น จึงได้ร่วมมือกับ เดอะ บิสเตอร์ คอลเลคชัน (The Bicester Collection) แหล่งช้อปปิ้งที่รวบรวมแบรนด์แฟชั่นชั้นนำกว่า 1,300 ร้าน ใน 9 วิลเลจ อาทิ สหราชอาณาจักร เยอรมนี อิตาลี ฝรั่งเศส สเปน ไอร์แลนด์ และ เบลเยียม มอบสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต เคทีซี วีซ่า ทุกประเภท ด้วย VIP Pass หวังสร้างประสบการณ์ระดับพรีเมียมให้สมาชิก พร้อมดันยอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ในต่างประเทศปรับตัวสูงขึ้น นางประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “สำหรับในปี 2566 เคทีซีเน้นกลยุทธ์ขยายฐานสมาชิกบัตรเครดิตไปยังกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงมากขึ้น สืบเนื่องจากตัวเลขการใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ในกลุ่มดังกล่าวปรับตัวสูงขึ้นมากเมื่อเปรียบเทียบกับภาพรวมของพอร์ตสมาชิกทั้งหมด นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ยอดรวมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC ในหมวดนักท่องเที่ยวได้มีการปรับตัวสูงขึ้นมาเป็นสามอันดับแรกในไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 และยอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ในกลุ่มผู้มีรายได้สูงสำหรับร้านค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้นถึง 360% เคทีซีจึงสบโอกาสจับมือกับพันธมิตร “เดอะ บิสเตอร์ คอลเลคชัน” (The Bicester Collection) แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังระดับโลกที่ผสมผสานแบรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก เพื่อมอบเอกสิทธิ์พิเศษแก่ สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่า ทุกประเภท ให้ได้รับประสบการณ์การช้อปปิ้งระดับพรีเมียม ด้วย VIP Pass ซึ่งรวมถึงส่วนลด 10% เมื่อซื้อสินค้าและบัตรกำนัลเครื่องดื่มมูลค่า £/€5 เมื่อใช้ควบคู่กับบัตรเครดิตเคทีซี  วีซ่า ที่ เดอะ บิสเตอร์ คอลเลคชัน 9 วิลเลจที่ร่วมรายการได้แก่ บิสเตอร์ วิลเลจ ลอนดอน (Bicester Village, London) กิลดาร์ วิลเลจ ดับลิน (Kildare Village, Dublin) ลา วาเล วิลเลจ ปารีส (La Vallée Village, Paris) แวไธม์ วิลเลจ แฟรงก์เฟิร์ต (Wertheim Village, Frankfurt) อินโกสตัช วิลเลจ มิวนิค (Ingolstadt Village, Munich) มาสเมสเซเลน วิลเลจ บรัสเซลส์ (Maasmechelen Village, Brussels) ฟิเดนซา วิลเลจ        มิลาน  (Fidenza Village, Milan) ลา โรกา วิลเลจ บาเซโลนา (La Roca Village, Barcelona) และลาส โรซาส วิลเลจ มาดริด (Las Rozas Village, Madrid) ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 – 31 ธันวาคม 2566”   สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่า สามารถดาวน์โหลด VIP Pass เพื่อรับส่วนลด 10% ได้ที่   ktc.promo/thebicestercollection และแสดงQR Code ที่เก็บไว้ใน eWallet ให้กับร้านค้าหรือร้านอาหารที่ร่วมรายการ เดอะ บิสเตอร์ คอลเลคชัน           เดอะ บิสเตอร์ คอลเลคชัน เป็นจุดหมายปลายทางที่โดดเด่นอย่างมากในแถบประเทศยุโรปตะวันตกและประเทศจีนรวมทั้งสิ้น 11 แห่ง ซึ่งทำเลที่ตั้งจะอยู่ไม่ไกลจากเมืองศูนย์กลางสำคัญของโลก อาทิ ลอนดอน ปารีส เซี่ยงไฮ้ มิลาน บาร์เซโลนา มาดริด บรัสเซลส์ แอนต์เวิร์ป โคโลญจน์ ดุสเซลดอร์ฟ มิวนิก แฟรงก์เฟิร์ต และซูโจว ลูกค้าสามารถช้อปสินค้าได้ด้วยตนเองหรือผ่านช่องทางออนไลน์ เดอะ บิสเตอร์ คอลเลคชัน เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการผสมผสานแบรนด์แฟชันและไลฟ์สไตล์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก จึงอยากเชิญชวนให้ลูกค้าได้มาเยือนเพื่อสัมผัสกับบรรยากาศ ความงดงามของวิลเลจชานเมือง เพลินเพลิดกับบริการเหนือระดับ พร้อมรับส่วนลดสูงสุดถึง 60% เพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สุดแสนประทับใจมิรู้ลืม ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.TheBicesterCollection.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ KTC PHONE  02 123 5000 หรือที่เว็บไซต์  ktc.promo/thebicestercollection สมัครบัตรเครดิตได้ที่ศูนย์บริการสมาชิก เคทีซี ทัช ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือคลิกลิงค์ http://bit.ly/apply-ktc  

24 May 2023

...

นางสาวพิชามน จิตรเป็นธรรม  ผู้บริหารสูงสุด – สายงานสินเชื่อบุคคล “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ในช่วงไตรมาส 2 ต่อเนื่องไตรมาส 3 หรือระหว่างเดือนพฤษภาคม -สิงหาคม เป็นช่วงรอยต่อของเทศกาลวันหยุดยาว และวันเปิดภาคการศึกษาใหม่ ซึ่งผู้บริโภคส่วนใหญ่อาจมีความต้องการเงินสดเพื่อการใช้จ่ายที่จำเป็นในด้านต่างๆ เคทีซีจึงได้จัดแคมเปญการตลาดแบ่งเบาภาระผู้สมัครใหม่ที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 – 31 สิงหาคม 2566 จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษต่ำสุด 0.82% ต่อเดือน หรือ 17.99% ต่อปี สำหรับยอด     รับเงินโอนก้อนแรกแบบผ่อนรายงวด ตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยสามารถเลือกระยะเวลาในการผ่อนได้ตั้งแต่ 12 งวด ถึงสูงสุด 60 งวด สมัครสมาชิกสินเชื่อบัตรกดเงิน “เคทีซี พราว” ได้ที่ศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือคลิก https://ktc.today/KTC-PROUD” “นอกจากนี้ เคทีซียังได้จัดกิจกรรมเพื่อตอบแทนสมาชิกบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว มาสเตอร์การ์ด” และสมาชิกใหม่ที่ได้รับการอนุมัติบัตรฯ ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2566 โดยสามารถรับสิทธิลุ้นรับแพ็กเกจห้องพักฟรี 2 คืน พร้อมบุฟเฟต์อาหารเช้า กับ 18 โรงแรมในเครือเซนทารา รวม 35 รางวัลๆ ละ 10,000 บาท โดยรับ 1 สิทธิ์ลุ้น เมื่อใช้บัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว มาสเตอร์การ์ด” รูดซื้อสินค้า หรือช้อปออนไลน์สะสมครบทุก 1,000 บาท ภายใน 30 วัน นับจากวันลงทะเบียน (จำกัด 10 สิทธิ์ต่อท่าน) ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 – 30 กันยายน 2566 และลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมผ่านเว็บไซต์ www.ktc.co.th หรือ SMS พิมพ์ TT เว้นวรรค ตามด้วยหมายเลขบัญชีสินเชื่อฯ 16 หลัก ส่งมาที่ 061-384-5000  สำหรับผู้โชคดีที่ได้รับรางวัล สามารถเข้าพักที่โรงแรมเซนทาราได้ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 - 31 มีนาคม 2567 โดยจะต้องสำรองห้องพักล่วงหน้าก่อนเข้าพัก” “ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 สมาชิกบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว มีจำนวน 741,823 บัญชี และคาดว่าสิ้นปี 2566 พอร์ตลูกหนี้สินเชื่อบุคคลจะเติบโต 7% และมีสมาชิกใหม่ “เคทีซี พราว” 110,000 ราย”  

19 May 2023

...

เคทีซีเกาะกระแสคนรักสุขภาพจับมือบีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก จัดแคมเปญการตลาดมอบสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตที่ใส่ใจเติมสิ่งดีๆ ให้ผิวพรรณ รูปร่างและเส้นผมให้สวยและสุขภาพดี พร้อมชูนวัตกรรม เทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลและรักษาเฉพาะบุคคลอย่างตรงจุด และมีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการให้คำแนะนำ โดยคาดว่าจากแคมเปญการตลาดนี้จะช่วยเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเคทีซี 20% นางสาวสิรีรัตน์ คอวนิช ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากการศึกษาพฤติกรรมการใช้จ่ายของสมาชิกพบว่า การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีที่บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิกในปี 2565 เติบโตถึง 31% จากปี 2564 ซึ่งบีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก นับเป็นหนึ่งในพันธมิตรธุรกิจที่มีสมาชิกเคทีซีใช้บริการจำนวนมาก และเมื่อกระแสของมลพิษและฝุ่น PM 2.5 เริ่มทวีความรุนแรง ยิ่งทำให้ผู้คนหันมาใส่ใจดูแลตัวเองกันมากขึ้น เคทีซีจึงร่วมกับคลินิกผิวพรรณ ความงามและสุขภาพเส้นผม บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก ที่มีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการดูแลและรักษาแบบเหมาะสมเฉพาะบุคคล โดยมอบสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเคทีซี ดังนี้ 1) โปรแกรมกระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผมด้วยเลเซอร์ (BWC Bioscor Hair & Scalp Laser) ราคาปกติ 61,600 บาท จำนวน 10 ครั้ง และรับเพิ่ม 2 ครั้ง พร้อมรับเซรั่มบำรุงเส้นผมสูตรพิเศษ AO Synergy 60 มล. และ AO Forte 60 มล. 1 ชุด มูลค่า 2,590 บาท 2) โปรแกรมกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมด้วยทรีตเมนต์และแสง LED (BWC Bioscor Treatment + LED) ราคาปกติ 66,000 บาท จำนวน 10 ครั้ง และรับเพิ่ม 2 ครั้ง พร้อมรับเซรั่มบำรุงเส้นผมสูตรพิเศษ AO Synergy 60 มล. และ AO Forte 60 มล. 1 ชุด มูลค่า 2,590 บาท 3) ทรีตเมนต์เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว (BWC Advanced Rehydrating Treatment) ราคาปกติ 31,500 บาท จำนวน 10 ครั้ง และรับเพิ่ม 1 ครั้ง พร้อมรับการตรวจวิเคราะห์สภาพผิวหน้าเฉพาะบุคคล (Skin Analysis) 1 ครั้ง มูลค่า 1,200 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566–30 มิถุนายน 2566” สมาชิกเคทีซีที่สนใจสามารถติดต่อนัดหมายคลินิกผิวพรรณ ความงาม และสุขภาพเส้นผม บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิกได้ที่โทร. 0-2826-9999 สมัครบัตรเครดิตเคทีซีทุกประเภทคลิก https://ktc.today/apply-card  หรือติดต่อ KTC Phone โทร. 0-2123-5000 หรือศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ     

01 May 2023

...

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ฉลองครบรอบ 72 ปี จับมือ Subway (ซับเวย์) หรือบริษัท ฟู้ด เจเนอเรชั่น จำกัด ผู้นำธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน (QSR) มอบความสุขและรอยยิ้มให้แก่สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ พร้อมเสิร์ฟความอร่อย สด ใหม่ ด้วยแนวคิด “Eat Fresh” ส่งมอบสุขภาพดี อร่อยแบบไม่อ้วน แก่สมาชิกเมืองไทย สไมล์คลับ ที่ชื่นชอบแซนด์วิชแต่ยังคงไลฟ์สไตล์ของการมีสุขภาพที่ดี โดยสมาชิกฯ รับฟรี! แซนด์วิชไขมันต่ำ 1 ชิ้น เพียงกดรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน MTL Click และแสดงรหัสรับสิทธิ์ “QR CODE” ณ เคาน์เตอร์ชำระเงิน Subway ภายในระยะเวลา 15 นาที จำกัดจำนวน 2,000 สิทธิ์ตลอดระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2566 เฉพาะ Subway สาขาที่ี่ร่วมรายการกว่า 109 สาขา ยกเว้นสาขาแฟรนไชน์ สาขาในสนามบินทุกสาขาและบริการสั่งอาหารออนไลน์ เดลิเวอรี่     1. สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับสามารถรับสิทธิ์ได้จำกัด 1 ท่าน / 1 สิทธิ์ / ตลอดโครงการ รวมทั้งหมด 2,000 สิทธิ์ 2. สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับรับสิทธิ์ผ่านช่องทางแอปพลิชัน MTL Click พร้อมแสดงรหัสรับสิทธิ์ “QR CODE” ณ เคาน์เตอร์ชำระเงิน Subway ภายในระยะเวลา 15 นาที (เวลานับถอยหลังแสดงบนจอแอปพลิเคชัน) 3. ใช้สิทธิ์ได้เฉพาะช่องทางการทานที่ร้าน Subway หรือซื้อกลับบ้านเท่านั้น บริการสั่งอาหารออนไลน์ เดลิเวอรี่ไม่ร่วมรายการ 4. สาขาที่ร่วมรายการ คลิก : https://docs.google.com/document/d/1652UKR-rYoMboTkBfLnL-66oUvRdja-o/mobilebasic 5. ขอสงนสิทธิ์ไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิพิเศษอื่น ๆ ได้ 6. ขอสงนสิทธิ์ไม่สามารถแลก, เปลี่ยน, ทอนเป็นเงินสดได้ 7. กรณี capture หน้าจอไม่สามารถรับสิทธิ์ได้ 8. พนักงานและตัวแทนของ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต สามารถใช้สิทธิ์ได้ 9. กรณีตรวจสอบข้อมูลแจ้งการรับสิทธิ์แล้ว ขอสงวนสิทธิ์ยืนยันตามข้อมูลในระบบไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในทุกกรณี 10. เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต และ บริษัท ฟู้ด เจเนอเรชั่น จำกัด กำหนด 11. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ www.muangthai.co.th                    

04 Apr 2023

...

เมื่อวันอังคารที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2566  ได้มีการจัดงานแถลงข่าว แต่งตั้ง บริษัท เอ เอ็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด เป็นตัวแทนธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน โดยสมาคมกวางตุ้งแห่งประเทศจีน การแถลงข่าวครั้งนี้ ด้วยความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน เพื่อจะก่อให้เกิดประโยชน์มากมาย ซึ่งจะเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่น ในการอำนวยความสะดวก ด้านการค้าข้ามพรมแดน และส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทยให้ก้าวไกลไปทั่วโลก     ซึ่งได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพงค์ มาลัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (สสว.) ได้มาเป็นประธานในพิธี และได้กล่าวถึงการส่งเสริม SME ของประเทศสำหรับการส่งสินค้าไปขายต่างประเทศ รวมถึง ท่านได้แนะนำขั้นตอน วิธีการ และการดำเนินการส่งออกสินค้าไทยไปจำหน่ายยังต่างประเทศ สามารถทำได้โดยวิธีใดบ้าง และอีกส่วนสำคัญคือ การได้รับฟังข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากตัวแทนจัดงานทั้ง 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย ตัวแทนจาก Alibaba  Mr.Eric Su Head of Alibaba.com Southeast Asia Region ได้มาแนะนำวิธีการ ขั้นตอน ความเป็นมา จุดมุ่งหมาย และวิสัยทัศน์ต่างๆ ของ Alibaba.com     ตัวแทนจาก บริษัท เอ เอ็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด คุณจุลสิทธิ์ เย็นเมตตากุล  ผู้บริหารบริษัท เอ เอ็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดกล่าวถึงการส่งสินค้าไปขายประเทศจีน ข้อควรระวังต่างๆ รวมถึงลิขสิทธิ์ Trademark ของสินค้า ตัวแทนจากบริษัท ไอริส มีเดีย เทรดดิ้ง จำกัด คุณ Xiao juan, Yin ผู้บริหารบริษัท ไอริส มีเดีย เทรดดิ้ง จำกัด ได้กล่าวถึง รายละเอียดการฝึกอบรม E-Commerce การขนส่ง โลจิสติก คลังสินค้า และ แพลตฟอร์ม การกระจายสินค้า ตัวแทนจากสมาคมถ่ายทอดสด GDBZ อีคอมเมิร์ซกวางตุ้งแห่งประเทศจีนสาขาประเทศไทย คุณ Yang Lei ได้กล่าวแนะนำบริษัท และกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท     ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่ได้มีการจัดงานนี้ขึ้น จะมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจไทย โดยเพิ่มศักยภาพให้วิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมในประเทศไทย ได้ขยายไปยังตลาดโลก ทางผู้จัดงานหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดงานจะเป็นประโยชน์สูงสุดให้แก่ทุกภาคส่วนของประเทศไทยในอนาคตได้อย่างยั่งยืน    

30 Mar 2023

...

HappyMPM เดินหน้าประกาศศักดาปักหมุดภาคอีสานขยายฐานธุรกิจ เปิดสาขาศูนย์กลางธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือและสปป.ลาว ด้วยงบลงทุนร่วม 150 ล้านบาท บนพื้นที่ 2 ไร่ ตอกย้ำความมุ่งมั่นระยะยาว เพื่อเป็นศูนย์กลางนักธุรกิจภาคอีสานและสปป.ลาว พร้อมเปิดตัวแลนมาร์คแห่งใหม่ ภายในงาน "The Solution ธุรกิจที่ดีกว่าเพื่อชีวิตที่ดีที่สุด" 26 มีนาคม ที่ผ่านมา นายณพวัฒน์  สัตย์เพริศพราย  ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ และนายณพวิทย์ สัตย์เพริศพราย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฮ็ปปี้ เอ็มพีเอ็ม จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาธุรกิจแฮ็ปปี้ เอ็มพีเอ็ม ในภาคอีสานมีอัตราการเติบโตที่ดีมาโดยตลอด เนื่องจากนักธุรกิจภาคอีสานเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ แฮ็ปปี้ เอ็มพีเอ็ม เติบโตและมีศักยภาพสูง ทำให้บริษัทฯ มองเห็นโอกาสในการขยายฐานธุรกิจทั้งในส่วนของภาคอีสานและสปป.ลาว ซึ่งการเลือกเปิดสาขาศูนย์กลางธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือและสปป.ลาวที่จังหวัดร้อยเอ็ด ด้วยเพราะเป็นจุดภูมิศาสตร์ที่สำคัญ เพราะง่ายต่อการเดินทางสำหรับสมาชิกในภาคอีสานและสปป.ลาว สามารถลดต้นทุนในการเดินทางและค่าใช้จ่ายของผู้นำในภาคอีสาน โดยบริษัทใช้งบลงทุนร่วม 150 ล้านบาท เป็นค่าซื้อที่ดินพื้นที่ 2 ไร่ ค่าก่อสร้าง และตกแต่งทั้งหมด  ทั้งนี้ สาขาศูนย์กลางธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือและสปป.ลาว แห่งนี้ จะเป็นยังเป็นศูนย์กลางระบบพัฒนาผู้นำนักธุรกิจให้กับผู้นำในภาคอีสานอีกด้วย โดยจะเชิญวิทยากรผู้มากประสบการณ์และเชี่ยวชาญมาอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจเครือข่ายอย่างถูกต้อง รวมถึงจะนำระบบ Happy University , La Clé Academy และการสร้างหลักสูตร เช่น Certified Train the Trainer มาพัฒนานักธุรกิจให้แบบเต็มระบบเพื่อให้ทุกคนสามารถเดินระบบเองได้ ได้รับองค์ความรู้ใหม่ ๆ เหมือนกับสำนักงานใหญ่ โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเดินทางเข้าไปในสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพฯ ก็สามารถเรียนรู้ได้เช่นกัน   อย่างไรก็ตาม สำหรับสาขาศูนย์กลางธุรกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือและสปป.ลาว แห่งนี้ เป็นสาขาใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน สามารถรองรับคนได้เกือบ 1,000 คน โดยแบ่งออกเป็นห้องประชุมใหญ่ อนันตนาคราช การตกแต่งที่เน้นศิลปะวัฒนธรรมของภาคอีสาน ห้องประชุมเล็กอีก 4 ห้อง โดยตั้งชื่อตามชื่อเดิมของจังหวัดต่าง ๆ ของ 5 สาขาแรกของภาคอีสาน เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำภาคอีสานรุ่นแรก ๆ ที่ร่วมขยายฐานธุรกิจแฮ็ปปี้ เอ็มพีเอ็ม ให้เป็นที่รู้จักและเติบโตมาโดยตลอด ได้แก่ สาเกตนคร, สกลทวาปี , แก่นนคร และอุทุมพรพิสัย นอกจากนี้ยังมีห้อง Exclusive Lounge ห้องประชุมผู้นำระดับ คราวสตาร์ ขึ้นไป ชื่อราชสีมา   “นอกจากนี้ตัวอาคารออกแบบมาเป็น Eco Friendly เพื่อลดการสิ้นเปลืองพลังงาน และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด เป็นศูนย์ต้นแบบที่จะขยายไปใช้รูปแบบนี้กับสาขาอื่นในอนาคต โดยบนหลังคาเรามี Sola Cell เพื่อนำพลังงานไฟฟ้ากลับมาใช้ภายในศูนย์สาขา ส่วนน้ำที่ใช้บำรุงพื้นที่จะใช้น้ำธรรมชาติที่เก็บกักและกรอง เพื่อการประหยัดพลังงานน้ำ นอกจากนี้จะเน้นไลฟ์สไตล์ที่สะดวกสบายทันสมัย มี Happy Coffee Bar สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ, มุมนั่งทำงานที่หลากหลาย, โซนชอบปิ้งเป็น pick & pay ที่แรกของแฮ็ปปี้ฯ ที่จอดรถ/ห้องสุขาคนพิการ เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ของนักธุรกิจ แฮ็ปปี้ เอ็มพีเอ็มทุกคน ภายใต้คอนเซ็ปต์ของปีนึ้คือ “Happy MPM” Above & Beyond Every Happiness Experience  เหนือกว่าทุกประสบการณ์แห่งความสุข” สำหรับนโยบายประจำปี 2566 นี้ ที่อยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Above & Beyond Every Happiness Experience เหนือกว่าทุกประสบการณ์แห่งความสุข” เป็นการวางกลยุทธต่อยอดจากการรีแบรนด์พลิกโฉมธุรกิจ..สร้างความยั่งยืนให้กับสมาชิกเมื่อปีที่แล้ว โดยในปีนี้จะมุ่งเน้นรุกตลาดด้วยกลยุทธ์ “5Ts”  ได้แก่ T1 : Trending Product  - มุ่งเน้นการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่มีผลวิจัยโดดเด่น แตกต่าง เชื่อถือได้  อยู่ในกระแสความต้องการของตลาด และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง T2 : Training System​ - มีระบบฝึกอบรมพัฒนาผู้นำและสมาชิก ที่อัพเดทเนื้อหาให้ทันกับยุคสมัย และมีการนำเครื่องมือใหม่ ๆ เข้ามาใช้ ให้ก้าวทันกับพฤติกรรมของลูกค้าในปัจจุบัน T3 : Travel Reward - เปิดมิติใหม่แห่งการท่องเที่ยว ด้วยประสบการณ์ที่บริษัทฯจัดโปรโมชั่นท่องเที่ยวมานานกว่า 20 ปี เราจึงเป็นทริปท่องเที่ยวที่ให้สมาชิกได้มากกว่า เที่ยวแล้วได้สร้างโอกาสใหม่ ๆ ในการขายและขยายธุรกิจ เที่ยวแล้วยอดไม่หาย แต่ได้รายได้ทุกเดือน     T4 : Technology Development - พัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลให้ทันยุคปัจจุบัน ยกระดับการทำธุรกิจ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าและสมาชิก เพื่อให้ทุกคนบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้ง่ายที่สุดและเร็วที่สุด    T5 : Total Asean Community -  บริษัทฯ มีประสบการณ์การขยายตลาดครอบคลุมทั่วอาเซียนมาแล้วเกือบ 10 ปี จากประสบการณ์ทั้งหมดและข้อมูลที่มีอยู่ในมือ เราจึงพร้อมก้าวสู่การเป็น Global Brand ที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต นายณพวัฒน์และนายณพวิทย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “กลยุทธ์ 5Ts เปรียบเสมือนเสาหลัก 5 ต้น ที่จะช่วยสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้กับธุรกิจ เราไม่ได้แข่งกับใคร แต่เราแข่งกับตัวเอง ดังนั้นกลยุทธ์ทุกอย่างที่ออกมาจึงต้องเป็นสิ่งใหม่และอัพเดทอยู่ตลอดเวลา เพื่อสานต่ออย่างแข็งแกร่งไปที่เป้าหมาย 4,000 ล้านในอนาคตอันใกล้ สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างความสุขให้กับสมาชิกทุกคน เพราะแฮ็ปปี้ เอ็มพีเอ็ม เรามุ่งมั่นพัฒนาชีวิต บนธุรกิจที่ดีกว่า เพื่อการใช้ชีวิตที่ดีที่สุด”  

29 Mar 2023

ราชการ - รัฐวิสาหกิจ / ENERGY - พลังงาน

...

กบข. จัดส่งใบแจ้งยอดเงินประจำปีให้กับสมาชิก และเปิดให้สมาชิกดาวน์โหลด e-Statement แล้ว พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลสิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีกับกรมสรรพากร เพิ่มความสะดวกให้แก่สมาชิก ดร.ศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า กบข. ได้ดำเนินการจัดส่งเอกสารใบแจ้งยอดเงินสมาชิกประจำปี 2565 ให้กับสมาชิกทั่วประเทศแล้ว ทั้งในรูปแบบเอกสารผ่านหน่วยงานต้นสังกัด และรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Statement) ตามที่อยู่อีเมลของสมาชิกที่ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ขอรับ e-Statement ไว้ โดยใบแจ้งยอดเงินสมาชิกจะแสดงข้อมูลรายละเอียดยอดเงิน ณ วันสิ้นปี 2565 ทั้งเงินสะสมที่สมาชิกนำส่ง เงินที่รัฐสมทบให้ และผลตอบแทนที่ กบข. นำเงินสะสมของสมาชิกและเงินสมทบไปลงทุน ซึ่งจะแจกแจงตามประเภทของเงินและตามแผนการลงทุน ซึ่งจะทำให้ได้รับทราบความเคลื่อนไหวของเงินในบัญชี พร้อมทั้งมีเอกสารใบประมาณการเงิน กบข. เมื่อเกษียณอายุราชการ ซึ่งเป็นการประมาณการจากพฤติกรรมการออมและการลงทุนปัจจุบันของสมาชิก เพื่อกระตุ้นให้สมาชิกเห็นความสำคัญของการวางแผนเพื่อการเกษียณ และสามารถทดลองเปรียบเทียบคู่แฝดสมมติของตนเองได้ที่เมนู My GPF & My GPF Twins ที่แอป กบข. นอกจากนี้ กบข. ได้เชื่อมโยงข้อมูลการนำส่งเงินสะสมเข้ากองทุนกับทางกรมสรรพากร เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิก เมื่อยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีผ่านช่องทางออนไลน์ จะแสดงข้อมูลเงินสะสม กบข. อัตโนมัติ โดยสมาชิกจะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในส่วนของยอดเงินสะสมระหว่างปี 2565 ซึ่งเมื่อรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท   ทั้งนี้ กบข. ยังได้เปิดให้บริการดาวน์โหลด e-Statement ผ่าน 3 ช่องทางออนไลน์ ดังนี้ 1. My GPF Application ที่เมนู “ดาวน์โหลด e-Statement” 2. My GPF Website ที่เมนู “บัญชีของฉัน” และเลือก “ดาวน์โหลด e-Statement” และ 3. LINE กบข. @gpfcommunity เข้าผ่านสมาร์ตโฟน ที่เมนู “ดูใบแจ้งยอดเงินปีล่าสุด” ในเมนูหน้าแชท ซึ่งสมาชิกจะได้รับใบแจ้งยอดเงินเป็นไฟล์สกุล .pdf ที่มีรหัสผ่าน เป็นวันเดือนปี พ.ศ. เกิดของสมาชิก ดร. ศรีกัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า กบข. ขอเชิญชวนให้สมาชิกลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ขอรับ e-Statement เพื่อช่วยลดการตัดต้นไม้ ลดการใช้กระดาษ มีส่วนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “GPF Save Paper” และยังได้รับ e-Statement ก่อนการรับเอกสารผ่านหน่วยงานต้นสังกัดด้วย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook กบข. หรือ LINE กบข. @gpfcommunity หรือศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก โทร 1179

27 Jan 2023


...

ดร.ศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่องการดำเนินการโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการกับหน่วยงานและสถาบันการเงินต่าง ๆ รวม 13 แห่ง โดยมีนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีลงนาม ณ กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2566 โดย กบข. จะให้การสนับสนุนข้อมูล พร้อมเผยแพร่ความรู้ด้านการเงินและการลงทุนแก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาพร้อมทั้งบูรณาการประสานความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในโครงการ เพื่อส่งเสริมให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีการแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างเป็นระบบต่อไป    

08 Jan 2023

...

กบข. ภาคภูมิใจได้รับ 2 รางวัล รางวัลรัฐบาลดิจิทัล 4 ปีซ้อน และรางวัลหน่วยงานคุณภาพด้านการใช้ธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐ พร้อมมุ่พัฒนายกระดับบริการดิจิทัล กบข. ให้ครอบคลุมทุกความต้องการของสมาชิก ตามนโยบายของรัฐบาล Thailand 4.0 ดร.ศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า กบข. ได้รับรางวัลรัฐบาลดิจิทัล ประจำปี 2565 (Digital Government Awards 2022) หน่วยงานที่มีการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลในระดับสูง จากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จัดโดย สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ณ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ซึ่ง กบข. ได้รับรางวัลต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยในปีนี้มีหน่วยงานยื่นเข้าร่วมการสำรวจระดับความพร้อมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของหน่วยงานทั่วประเทศทั้งสิ้น 1,889 หน่วยงาน นอกจากนี้ กบข. ยังได้รับรางวัลหน่วยงานคุณภาพด้านการใช้ธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐ (Data Governance) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่ง กบข. ได้ดำเนินงานตามนโยบายการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐในรูปแบบดิจิทัลผ่านศูนย์กลางข้อมูลเปิดภาครัฐ (Data.go.th) และได้เผยแพร่ข้อมูลมูลค่าหน่วยลงทุนของทุกแผนการลงทุน มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ อัตราผลตอบแทน บนเว็บไซต์ กบข. www.gpf.or.th เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลให้สมาชิกและประชาชนทั่วไปสามารถสืบค้นได้ กบข. มุ่งพัฒนาต่อยอดการให้บริการสมาชิกผ่านช่องทางดิจิทัล เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและยกระดับการให้บริการสมาชิกครอบคลุมทุกความต้องการตั้งแต่วันที่เข้ารับราชการ จนถึงวันที่เกษียณอายุราชการหรือพ้นสมาชิกภาพ ตลอดจนดูแลสมาชิกที่ใช้บริการออมต่อกับ กบข. เมื่อออกจากราชการ ผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน กบข. “My GPF Application” ซึ่งมีจำนวนสมาชิกใช้บริการแอปพลิเคชันกว่า 1.1 ล้านครั้งต่อปี สำหรับในอนาคต กบข. เตรียมเปิดให้บริการแบบจำลองคู่แฝดการบริหารเงิน (Digital Twins) เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยให้สมาชิกสามารถบริหารเงินได้อย่างเข้าใจ ผ่านการจำลองเลือกแผนการลงทุนและสัดส่วนเงินออม ตลอดจนประมาณการยอดเงินในอนาคต ให้สอดคล้องกับเป้าหมายหลังเกษียณของสมาชิก  

05 Dec 2022

...

กบข. พร้อมด้วย Shopee, LINE MAN Wongnai และ Minor Food ร่วมกันคัดสรรสิทธิประโยชน์ เพื่อมอบให้แก่ข้าราชการตำรวจ บน “แทนใจ” แอปพลิเคชันสวัสดิการตำรวจ มุ่งหวังพัฒนาคุณภาพชีวิตตำรวจไทย ดร.ศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า กบข. มีส่วนร่วมในการยกระดับคุณภาพชีวิตของสมาชิก กบข. ที่เป็นข้าราชการตำรวจ ด้วยการเชื่อมต่อระหว่าง My GPF Application ของ กบข. และ แทนใจ แอปพลิเคชันสวัสดิการตำรวจ เพื่อให้ข้าราชการตำรวจได้เข้าถึงบริการของ กบข. ได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น โดย กบข. ได้พัฒนาระบบเพื่อเชื่อมต่อข้อมูล เมื่อข้าราชการตำรวจที่เป็นสมาชิก กบข. เข้าใช้งานแอปพลิเคชันแทนใจ สามารถคลิกเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน กบข. “My GPF Application” ได้อัตโนมัติ และเป็นการเพิ่มช่องทางการดูยอดเงินบัญชีของสมาชิก นอกจากนี้ กบข. ยังได้คัดสรรสิทธิประโยชน์สำหรับข้าราชการตำรวจที่เป็นสมาชิก กบข. ทั้งประกันอุบัติเหตุฟรีจากทิพยประกันภัย ส่วนลดค่าน้ำมันจากปั๊ม PT ส่วนลดค่าสินค้าจากร้านเซเว่น อีเลฟเว่น และ เทสโก้ โลตัส เป็นต้น พร้อมทั้งได้เพิ่มช่องทางการเรียนรู้ให้กับข้าราชการตำรวจในการบริหารเงินเพื่อการเกษียณและการบริหารจัดการหนี้ พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งสำคัญกับ 4 องค์กรใหญ่ นำโดย กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) , Shopee, LINE MAN Wongnai และ Minor Food เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดที่ร่วมพัฒนากับแอปพลิเคชัน แทนใจ (Tanjai) เวอร์ชั่น 2.0 เพื่อมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สนับสนุนการเข้าถึงสิทธิประโยชน์แก่บุคลากรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบสิทธิประโยชน์ในการซื้อสินค้าและบริการผ่านแพลตฟอร์มชั้นนำ ได้แก่ ช้อปปี้ (Shopee) และ LINE MAN Wongnai รวมถึง การให้ผู้ใช้สามารถใช้สิทธิประโยชน์ ของ กบข. และ Minor Food Group ผ่านแอปพลิเคชันแทนใจ ซึ่งล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมคุณภาพชีวิตในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจให้ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม แอปพลิเคชัน แทนใจ (Tanjai) เวอร์ชั่น 2.0 ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพ เตรียมปล่อยให้บุคลากรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อัพเดท ในช่วงสิ้นเดือนกันยายน 2565 ทั้งทาง App Store และ Play Store ด้าน ดร.ศรุต วานิชพันธุ์ ผู้อำนวยการ Sea (ประเทศไทย) กล่าวว่า การร่วมมือกับแอปพลิเคชั่นแทนใจ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นสิ่งที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก โดยทาง ช้อปปี้ (Shopee) จะนำส่วนลดสินค้าและบริการต่างๆ มาให้กับข้าราชการตำรวจ นอกจากนี้ ยังร่วมสนับสนุนด้านความรู้และการพัฒนาทักษะดิจิทัลที่เป็นประโยชน์ให้กับครอบครัวข้าราชการตำรวจผ่านหลักสูตร Shopee Bootcamp ที่จะสอนการจัดการร้านค้าบนแพลตฟอร์มช้อปปี้ (Shopee) อีกด้วย ซึ่งการเปิดตัวฟีเจอร์ดังกล่าว จะช่วยให้บุคลากรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์และส่วนลดพิเศษในการซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มช้อปปี้ ไม่ว่าจะเป็น Shopee, ShopeeFood และ Shopee e-Service เป็นต้น โดยจะปรากฏอยู่ในหน้าสิทธิสวัสดิการของแอปพลิเคชัน แทนใจ ที่ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนใช้งานแล้วกว่า 200,000 คน นายอิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ รองประธาน ฝ่าย Public Affairs ของ LINE MAN Wongnai กล่าวว่า ทาง LINE MAN มีความยินดีที่จะได้ร่วมมือกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยในปัจจุบันนี้ Line Man มีให้บริการครบ 77 จังหวัดแล้ว หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ผ่านการใช้สิทธิประโยชน์ของ LINE MAN ผ่านแอปพลิเคชั่น แทนใจ และในอนาคตทาง LINE MAN จะนำบริการซื้อของ, บริการแมสเซนเจอร์ และบริการแท็กซี่ เข้ามาช่วยสนับสนุนกิจกรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป การร่วมมือกันระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ LINE MAN จะช่วยให้บุคลากรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ในการซื้ออาหารบนแพลตฟอร์ม LINE MAN และบริการอื่นอีกมากมายของ LINE MAN เพื่อมุ่งหวังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชน ขณะที่ นางนงชนก สถานานนท์ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ คอฟฟี่ คลับ (The Coffee Club) ภายใต้การดำเนินการของบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในการเริ่มต้นความร่วมมือครั้งนี้ ทางไมเนอร์ ฟู้ด มีแบรนด์ เดอะ คอฟฟี่ คลับ ที่เรายินดีที่จะมอบสิทธิประโยชน์ให้กับบุคลากรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถใช้บริการได้ที่ เดอะ คอฟฟี่ คลับ ทั่วประเทศ  

02 Oct 2022

...

ธ.ก.ส. มอบนโยบายสาขาในพื้นที่เร่งช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยน้ำท่วมจากพายุโนรู จัดถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อน สำรวจข้อมูลความเสียหาย พร้อมเตรียมสินเชื่อดอกเบี้ย 0% 6 เดือน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินและสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต วงเงิน 12,000 ล้านบาท นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลพายุโนรู ทำให้เกิดวิกฤติน้ำท่วมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือและกำลังขยายมาในพื้นที่ภาคกลางส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชน สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและพื้นที่การเกษตร ซึ่ง ธ.ก.ส.ได้เร่งดำเนินมาตรการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรลูกค้า โดยมอบหมายให้พนักงานในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยออกเยี่ยมเยียนให้กำลังใจลูกค้าและนำถุงยังชีพไปมอบเพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้น รวมถึงสำรวจข้อมูลความเสียหายและผลกระทบจากอุทกภัย โดยกรอบการดำเนินงานที่จะเข้าไปดูแลกรณีได้รับความเสียหาย ธ.ก.ส. จะผ่อนผันการชำระหนี้ออกไปไม่เกิน 12 เดือน โดยไม่คิดดอกเบี้ยปรับ และสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ร่วมโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2565 เมื่อดำเนินการสำรวจพื้นที่การเกษตรแล้วพบว่า มีความเสียหายเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ ธ.ก.ส. จะเร่งประสานงานส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ชดเชยความเสียหายโดยเร็วต่อไป นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังพร้อมสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและค่าใช้จ่ายจำเป็นฉุกเฉิน เช่น ค่าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น อัตราดอกเบี้ย 0% 6 เดือน เดือนที่ 7 คิดอัตราดอกเบี้ย MRR คือ 6.50% วงเงินรายละไม่เกิน 50,000 บาท และสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อเป็นค่าซ่อมแซมบ้านเรือนและทรัพย์สิน ค่าซ่อมเครื่องมือและอุปกรณ์การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย ค่าใช้จ่ายในการทำการเกษตรรอบใหม่ วงเงินรายละไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR-2 (ปัจจุบัน MRR = 6.50) จึงขอให้เกษตรกรอย่ากังวลในช่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดย ธ.ก.ส. พร้อมเข้าไปดูแลและช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และขอให้โปรดระมัดระวังมิจฉาชีพที่มักจะใช้โอกาสจากความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรเข้ามาหลอกลวง โดยแอบอ้างใช้สัญลักษณ์โลโก้  ธ.ก.ส. เพื่อสร้างความเข้าใจผิด ให้เข้ามากู้เงิน หรือหลอกให้โอนค่าธรรมเนียม เพื่อแลกกับการใช้บริการสินเชื่อ หรือโอนค่าประกันภัยจาก ธ.ก.ส. ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ไม่มีนโยบายจ่ายสินเชื่อผ่านสื่อโซเซียลหรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ  ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอสินเชื่อได้ที่ ธ.ก.ส. สาขาในพื้นที่เท่านั้นหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Call Center 02 555 0555    

02 Oct 2022

...

กบข. จับมือ สตช. ลงนาม MOU เชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นระหว่างหน่วยงาน เพื่อขยายการเข้าถึงข้าราชการตำรวจ ที่เป็นสมาชิก กบข. เพิ่มมากขึ้น หวังยกระดับความมั่นคงทางการเงิน ดร.ศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า กบข. ได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้วยการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันว่าด้วยการเชื่อมต่อ “Tanjai Application” กับ “My GPF Application” โดยมีพลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ลงนาม ซึ่งการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้าราชการตำรวจได้เข้าถึงบริการของ กบข. ได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น และ กบข. ได้พัฒนาระบบเพื่อเชื่อมต่อข้อมูล เมื่อข้าราชการตำรวจที่เป็นสมาชิก กบข. เข้าใช้งานแอปพลิเคชันสวัสดิการตำรวจ “Tanjai Application” สามารถคลิกเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน กบข. “My GPF Application” ได้อัตโนมัติ ทั้งนี้ กบข. หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้ข้าราชการตำรวจเข้าถึงข้อมูลและบริการต่าง ๆ ของ กบข. เพิ่มมากขึ้น และสามารถสร้างประโยชน์ให้กับข้าราชการตำรวจ ซึ่งปัจจุบันข้าราชการตำรวจที่เป็นสมาชิก กบข. มีจำนวน 1.6 แสนราย แต่มีการเข้าถึงบริการของ กบข. อยู่ที่ 58% ซึ่งความร่วมมือนี้จะเป็นการเพิ่มช่องทางในการดูยอดเงินในบัญชีสมาชิก ซึ่งระบบจะเชื่อมต่อตรงมายัง My GPF Application การรับสิทธิพิเศษส่วนลดร้านค้าต่าง ๆ มากมาย พิเศษเฉพาะสมาชิก กบข. ที่สามารถกดรับสิทธิพิเศษได้ทันทีบน Tanjai Application และยังสามารถเข้าเรียนในหลักสูตร GPF e-Learning เพื่อเสริมทักษะและเพิ่มความรู้ด้านการเงินการลงทุน นอกจากนี้ จะมีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่สำคัญของ กบข. ให้ข้าราชการตำรวจได้รับทราบผ่านช่องทาง Tanjai Application ด้วย พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในยุคที่ข่าวสารเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็ว บางครั้งอาจเกิดความเข้าใจที่ผิดพลาดจากการส่งต่อข่าวสารที่ไม่เป็นความจริง ทำให้ข้าราชการตำรวจหลายนายเกิดความเข้าใจผิดในเรื่องของสิทธิและสวัสดิการของตนเอง เพื่อให้การสื่อสารข้อมูลภายในองค์กรมีความรวดเร็วและความถูกต้อง จึงเป็นที่มาของการพัฒนาแอปพลิเคชันแทนใจ และปัจจุบันกำลังเข้าสู่การพัฒนาในเวอร์ชัน 2.0 ที่มีฟีเจอร์ใหม่ ๆ หลายด้าน โดยสิ่งที่สำนักงานตำรจแห่งชาติ พยายามแก้ไขปัญหาให้กับข้าราชการตำรวจ คือ เรื่องหนี้สิน ซึ่ง กบข. เป็นหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเงินการลงทุน มีการทำสื่อการเรียนรู้เผยแพร่เรื่องการวางแผนการเงิน การออม รวมถึงการลงทุน และ กบข. ได้ให้ความสำคัญกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีการนำสิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่าง ๆ ความรู้การวางแผนด้านการเงินผ่าน GPF e-learning มอบให้แก่ข้าราชการตำรวจผ่านช่องทาง Tanjai Application เพื่อช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ  ดังที่กล่าวมา นอกจากนี้ กบข. และ สตช. ยังได้ร่วมกันจัดโครงการนำร่องส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงินของสมาชิก กบข. ในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีธนาคารแห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นที่ปรึกษาโครงการ เพื่อส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงินของสมาชิก กบข. โดยเฉพาะข้าราชการตำรวจ เพื่อให้สมาชิกเข้าใจถึงหลักการออมเงินและการบริหารจัดการการเงินของตนเอง ให้มีความมั่นคง ทั้งในช่วงอายุที่ยังมีรายได้ และเมื่อก้าวเข้าสู่ชีวิตวัยเกษียณในอนาคต

01 Oct 2022

...

ธ.ก.ส. เสริมแกร่ง Smart Farmer และผู้ประกอบการหัวขบวน เน้นเพิ่มศักยภาพด้านการผลิตและลดต้นทุนด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ควบคู่กับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมภายใต้หลัก BCG พร้อมเติมทุนต่อยอดธุรกิจสู่มาตรฐานระดับสากลผ่านสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน วงเงินรวมกว่า 1.5 แสนล้าน ทั้งสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย อัตราดอกเบี้ย 0.01 ต่อปี สินเชื่อเสริมแกร่ง SMEs เกษตร และสินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ร้อยละ 4 ต่อปี นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ลงพื้นที่เยี่ยมชมงานกลุ่มทักษิณ ปาล์ม ซึ่งดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มครบวงจร ตั้งแต่ต้นกล้าปาล์มจนถึงโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ มีการนำระบบบริหารที่ลดปริมาณของเสีย (Zero Waste) และส่งเสริมการหมุนเวียนทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีคณะผู้บริหารและเกษตรกรสมาชิก ให้การต้อนรับ ณ บริษัท ทักษิณ ปาล์ม (2521) จำกัด ตำบลท่าข้าม อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ได้ส่งผลกระทบ ทั้งมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภาคเกษตรกรรมที่ต้องพึ่งพาปัจจัยในการเติบโตจากสภาพอากาศ ธ.ก.ส. ตระหนักถึงความสำคัญในปัญหาดังกล่าว และพร้อมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาศักยภาพลูกค้า โดยร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา เข้าไปเติมองค์ความรู้ ทั้งในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี รวมถึงกระบวนการผลิตเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มมูลค่าผลผลิตให้ได้คุณภาพมาตรฐานสากล ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ได้จัดเตรียมผลิตภัณฑ์สินเชื่อหลากหลายเพื่อให้ผู้ประกอบการได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ ได้แก่ สินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย ที่เน้นสนับสนุนสหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชน กองทุนหมู่บ้านและกลุ่มเกษตรกรในการขับเคลื่อนชุมชนให้เกิดการรวมกลุ่มของเกษตรกร เพื่อต่อยอดธุรกิจ สร้างรายได้ ยกระดับเศรษฐกิจชุมชน ด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาลดต้นทุนและเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ผ่านการแปรรูปผลผลิต วงเงินรวม 50,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ต่อปี และมุ่งสนับสนุนผู้ประกอบการ SME เกษตรหัวขบวนและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (Smart Farmer) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยี และเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่มีใจรักอาชีพเกษตรกรรม รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่พร้อมนำความรู้และประสบการณ์กลับไปพัฒนาและต่อยอดธุรกิจที่บ้านเกิดผ่านสินเชื่อเสริมแกร่ง SME เกษตร สินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพและสินเชื่อนวัตกรรมดีมีเงินทุน อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 4 ต่อปี วงเงินรวม 90,000 ล้านบาท เป็นต้น นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการดำเนินงานและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้หลัก BCG ด้วยการทำเกษตรแบบอินทรีย์และเกษตรปลอดภัย  การใช้พลังงานทางเลือกหรือพลังงานสะอาด รวมถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการส่งเสริมและสนับสนุนสินเชื่อสีเขียว (Green Credit) วงเงิน 15,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MRR – (0.5 – 1) ต่อปี เป็นต้น สำหรับกลุ่มทักษิณ ปาล์ม เป็นผู้ประกอบการหัวขบวนในโครงการการพัฒนาเกษตรแม่นยำสู่ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม ภายใต้ความร่วมมือของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยที่ประกอบธุรกิจน้ำมันปาล์มครบวงจร โดยยึดหลักการตลาดนำการผลิต มีการจำหน่ายต้นกล้าปาล์มหลากหลายสายพันธุ์ อาทิ พันธุ์ดามี พันธุ์ไนจีเรียแบล็ค  พันธุ์โกลเด้นเทอเนอร่า และพันธุ์ลาเม่ จนถึงการสกัดน้ำมันปาล์มดิบเพื่อจำหน่ายในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องสำอาง และการใช้ผลิตเป็นเชื้อเพลิง เป็นจุดรับซื้อปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรในราคาสูงกว่าตลาดเพื่อนำไปสกัดและจำหน่าย ซึ่งหลังจากกระบวนการสกัดน้ำมันแล้ว มีการนำเศษวัสดุที่เหลือจากการผลิตมาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าและจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งถือเป็นการลดปริมาณของเสีย (Zero Waste) และส่งเสริมการหมุนเวียนทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และยังช่วยลดต้นทุนในการผลิตและเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการ นอกจากนั้น ยังเป็นหัวขบวนที่ขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชนด้วยการสนับสนุนการรวมกลุ่มในรูปแบบของเกษตรแปลงใหญ่และบริหารจัดการแผนการผลิตที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาด ทำให้เกษตรกรมีตลาดรองรับในการจำหน่ายผลผลิต มีรายได้เพิ่มมากขึ้น พร้อมกันนี้ยังจัดหาและจำหน่ายปุ๋ยให้กับเกษตรกรในราคาต้นทุน ควบคู่กับการส่งเสริมความรู้ในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในกระบวนการผลิต เพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตไปสู่วิถีเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัย เพื่อช่วยลดปัญหาโลกร้อนและสร้างความยั่งยืนให้กับภาคเกษตรกรรมของไทย

03 Sep 2022

SOCIETY - CSR / ภาพข่าว-กิจกรรมเพื่อสังคม

...

  บมจ.ทีคิวเอ็ม อัลฟา โดย บริษัท ทีคิวซี จำกัด (TQC) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยบูรพา  ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตในการทำงานและความสุข ภายใต้แนวคิด Quality Of Working Life And Happiness เพราะปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ ทั้งสองฝ่ายจึงตกลงร่วมกันทำ MOU เพื่อทำมาตรการรับมือผลกระทบต่อสุขภาพ  และลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีเป้าหมายให้คนทำงานในประเทศมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุข มหาวิทยาลัยบูรพา โดย รศ.ดร.ยุวดี รอดจากภัย คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ และ ผศ.ดร.โกวิท สุวรรณหงษ์ รองคณบดีฝ่ายบริการวิชาการและนวัตกรรม คณะสาธารณสุขศาสตร์ และบริษัท ทีคิวซี จำกัด โดย ดร.วุชธิตา คงดี ประธานฝ่ายปฏิบัติการ ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ โครงการศึกษาและพัฒนาด้านนวัตกรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตในการทำงานและความสุข ภายใต้แนวคิด Quality Of Working Life And Happiness ผศ.ดร.โกวิท สุวรรณหงษ์ และ ดร.วุชธิตา คงดี กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “จากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงในปัจจุบัน เช่น ปัญหามลพิษในอากาศ ปัญหาฝุ่น PM 2.5  ภาวะเรือนกระจก ส่งผลกระทบด้านสุขภาพของคนไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ ผู้ร่วม MOU ทั้งสองฝ่ายได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงตกลงร่วมกัน เพื่อทำมาตรการ แนวทางรับมือผลกระทบต่อสุขภาพ และลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อันจะก่อให้เกิดผลประโยชน์ร่วมกันนานัปการ” นอกจากนั้นทางสองฝ่ายยังกล่าวว่า “สุขภาพ” คือ สิ่งที่สำคัญ การพัฒนาคุณภาพชีวิตในการทำงานและความสุข รวมถึงอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ถือเป็นปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ดี และส่งผลให้องค์กร สังคมมีความมั่นคง เพราะพนักงานที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และมีความสุข ย่อมมีกำลังทำประโยชน์ สร้างสรรองค์กร สร้างสรรเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างเต็มที่ เมื่อทุกคนมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ย่อมนำมาซึ่งเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs)” ได้แก่ มิติเศรฐกิจ มิติสังคม มิติสิ่งแวดล้อม มิติการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกันเพื่อร่วมกันจัดกิจกรรม ทำมาตรการ โครงการอบรมทางวิชาการ เพื่อมุ่งเน้นผลลัพธ์ให้คนทำงานในประเทศมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุข  ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566- 2570)

28 May 2023


...

  พลเอก ณรงค์พันธ์  จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก รับมอบเงินสนับสนุนโครงการประกอบอาชีพเสริมรายได้แก่กำลังพลกองทัพบกที่ปลดพิการทุพพลภาพและครอบครัว ประจำปี 2566 จำนวน 34 ราย รวมเป็นเงิน 4,070,480 บาท จาก นายสวัสดิ์  นฤวรวงศ์ รองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวดำเนินการตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เพื่อสร้างและส่งเสริมอาชีพให้กับผู้พิการ ณ กองบัญชาการกองทัพบก

28 May 2023

...

  ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย มอบดอกไม้แสดงความยินดีกับ ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เนื่องในโอกาสดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ ประจำปี 2566-2568 พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดใหม่ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารสถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง สำนักงาน คปภ.  

25 May 2023

...

นายภาคภูมิ วิริยะพันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนบริษัทฯ นำคณะผู้บริหาร จัดกิจกรรมสานสัมพันธ์สื่อมวลชน อยากเล่าเรื่องให้เพื่อนฟัง ครั้งที่ 8 ในหัวข้อ “รถไฟฟ้า...วิริยะประกันภัยพร้อม!” เพื่อบอกเล่าความพร้อมของบริษัทในการรับมือตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน รวมถึงการรับประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า การพัฒนาด้านบุคลากรและความร่วมมือระหว่างศูนย์ซ่อมมาตรฐาน ตลอดจนการยกระดับมาตรฐานการบริการ โดยมีผู้สื่อข่าวจากหลากหลายสำนักเข้าร่วมงาน ณ ห้อง The Glass House The Banquet Hall at Nathong

25 May 2023

...

บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต รักคือพลังของชีวิต โดยคุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO)   ตระหนักดีว่าในปัจจุบันสังคมไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) ทำให้เราเล็งเห็นถึงความสำคัญของการดูแลและสร้างเสริมสุขภาวะที่ดีให้กับผู้สูงอายุ ซึ่งตรงกับแนวคิดในการสร้าง “ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราช” ซึ่งเป็นสถานที่ให้บริการดูแลผู้สูงอายุแห่งชาติที่สมบูรณ์แบบ เพื่อความสุขที่ยืนยาวอย่างยั่งยืนของผู้สูงอายุ ดำเนินงานโดยคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล ดังนั้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนศูนย์ดังกล่าวให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไปในอนาคต  OCEAN LIFE ไทยสมุทร จึงได้จัดกิจกรรม OCEAN LIFE LOVE (Virtual) Run 4 Regions ทุกก้าว เท่ากับให้ เพื่อชวนคนไทยทั่วประเทศร่วมเดิน/วิ่งเพื่อสุขภาพ และมีส่วนในการทำความดีโดยการร่วมสมทบทุนศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราช ด้วยการนำระยะทางเดิน/วิ่งทุก 1 กิโลเมตร เปลี่ยนเป็นเงินบริจาคจำนวน 10 บาท (สูงสุด 250,000 บาท) สำหรับผู้ที่สนใจร่วมกิจกรรมสามารถเดิน/วิ่งสะสมระยะทางโดยไม่จำกัดเส้นทาง หรือสถานที่ ผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมรับของรางวัลแบบจัดเต็ม! สำหรับผู้ที่ส่งผลวิ่งระยะทางสูงสุด 20 ท่านแรก รับเสื้อวิ่งโอชิ และพิเศษสุด! สำหรับ 200 ท่านแรก เมื่อส่งผลวิ่งโดยวัดระยะทางจาก OCEAN CLUB APP รับกระเป๋าโอชิรักษ์โลก https://www.ocean.co.th/download-ocean-club-app และสำหรับผู้ที่ส่งภาพวิ่งโดนใจกรรมการ ลุ้นรับหมวก OCEAN LIFE จำนวน 10 รางวัล สนใจเข้าร่วมกิจกรรมได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 มิถุนายน 2566  ติดตามรายละเอียดได้ที่  https://oceanlifeth.co/virtualrun-1-2023 “ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราช” เป็นสถานที่ดูแลผู้ป่วยสูงอายุหลังพ้นการเจ็บป่วยในระยะเฉียบพลัน และเตรียมตัวเพื่อให้พร้อมกลับไปใช้ชีวิตต่อที่บ้านได้อย่างมีความสุข อีกทั้งยังเป็นต้นแบบองค์ความรู้อันจะนำไปเผยแพร่ให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ และสังคมต่อไป OCEAN LIFE ไทยสมุทร ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยพลังความรัก 3 ด้าน ภายใต้แนวคิด LOVE MINDSET ทั้งด้านสุขภาพ LOVE YOUR HEALTH สนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพดี ด้านความมั่นคงทางการเงิน LOVE YOUR WEALTH และด้านการรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อม LOVE THE WORLD  เพื่อร่วมสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน ทำให้โลกน่าอยู่ และมีความสุขได้อย่างยั่งยืน ตอกย้ำการเป็นบริษัทประกันชีวิตที่พร้อมดูแลคนไทยให้ก้าวผ่านทุกวิกฤตด้วยพลังความรัก...สนใจร่วมติดตามข่าวสารและกิจกรรมดีๆ ได้ที่ OCEAN CLUB APP / LINE / Facebook/ Instagram/ Youtube : oceanlife / www.ocean.co.th หรือติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์  0 2207 8888

25 May 2023

...

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ เปิดเผยว่า ในปี 2566 ยังคงมุ่งเน้นในการอยู่เคียงข้างสร้างรอยยิ้มแก่คนไทยครบ 72 ปี พร้อมกำหนดทิศทางการดำเนินงานในปีนี้ของบริษัทฯ ด้วยการตั้งเป้าหมายในการเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในทุกมิติ ด้วยการดำเนินกลยุทธ์ “Happiness Reinvented” เพราะความสุขคือทุกอย่าง...ร่วมสร้างความสุขสไตล์คุณไปกับเมืองไทยประกันชีวิต โดยตั้งเป้าหมายเป็นอันดับหนึ่งในฐานะคู่คิดด้านชีวิตและสุขภาพที่ลูกค้าวางใจ (No.1 Most Trusted Life & Health Partner) ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย ทุกกลุ่มเป้าหมาย ทุกไลฟ์สไตล์ และทุกบทบาทของชีวิตที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อสร้างการเข้าถึงได้ของประกันชีวิตให้กับทุกๆคน (Democratizing Insurance) โดยบริษัทฯ มุ่งดำเนินงานผ่าน 4 แกนสำคัญ ได้แก่ บุคลากร (People) พาร์ทเนอร์ (Preferred Partner) ลูกค้า (Customers) และ นอกเหนือจากลูกค้า (Beyond Our Customers) ล่าสุด บริษัทฯ ดำเนินงานผ่านแกนสำคัญคือพาร์ทเนอร์ (Preferred Partner) ด้วยการสนับสนุนการจัดกิจกรรมของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โอกาสที่ปี 2566 เป็นปีที่หอการค้าไทยครบรอบ 90 ปีแห่งการก่อตั้ง  ซึ่งหนึ่งในการสนับสนุนนี้มีกิจกรรมที่สำคัญเพื่อเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของไทยทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด  ได้แก่ “โครงการอบรมหลักสูตร YEC Connect  สัญจร ปี 2566”  เพื่อเป็นการเชื่อมโยงการทำงาน ภาครัฐ เอกชน และประชาชน  การส่งเสริมด้านการแข่งขันเพื่อมุ่งเน้นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ  และ Sustainable มุ่งสู่องค์กรที่ยั่งยืน เพื่อเศรษฐกิจไทยที่ยั่งยืน   ในโอกาสนี้ นายสาระ ล่ำซำ ได้เข้าร่วมเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ “โครงการอบรม หลักสูตร YEC Connect สัญจร ปี 2566 ภาคใต้” หัวข้อ “CEO New Gen Sharing YEC” จังหวัดตรัง โดยการสนับสนุนกิจกรรมด้านพัฒนาคุณภาพบุคลากรนี้เพื่อให้ตอบรับกับนโยบายและเป้าหมายของบริษัทฯ ด้าน ESG ที่มุ่งมั่นในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม เพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืน รวมถึงการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ เพื่อปลูกฝังค่านิยมในการมีจิตสาธารณะ โดยมีการจัดทำโครงการต่างๆ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้แก่สังคมอย่างต่อเนื่อง  โดยเฉพาะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย  ให้เป็นผู้ประกอบการที่มีคุณภาพเติบโตอย่างมั่นคงแข็งแกร่ง   โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่อยู่ในต่างจังหวัดซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย     ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคมมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานในรูปแบบต่างๆ นับตั้งแต่มีการก่อตั้งบริษัทฯ รวมถึงการส่งต่อความสุขสู่สังคมอย่างครบถ้วนทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม ด้านธรรมาภิบาล และด้านเศรษฐกิจ เพื่อสร้างความสุขอย่างยั่งยืนกับทั้งบริษัทและสังคมโดยรวมต่อไป     สำหรับการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “CEO New Gen Sharing YEC” มีวัตถุประสงค์ให้ผู้เข้าอบรมที่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในภาคใต้ ได้ทราบถึงวิธีคิด วิธีการทำงาน สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมและการปรับตัวในการดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน รวมถึงในอนาคตที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว  เพื่อให้ผู้ประกอบการเหล่านี้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน    ทั้งนี้ความรู้ต่างๆ นั้นจะสามารถนำไปปรับใช้ในการต่อยอดธุรกิจให้มีความเข้มแข็งและมีพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามแนวทาง Connect the dots ของหอการค้าไทยต่อไป โดยมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมอบรมที่เป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YEC หอการค้าจังหวัดจำนวนประมาณ 200 คน   “เมืองไทยประกันชีวิต เป็นตัวแทนของภาคเอกชน ที่มีความมุ่งมั่นในการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และส่งมอบความสุขให้กับสังคมด้วยการสนับสนุนการจัดกิจกรรมของพาร์ทเนอร์ โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรในทุกๆ มิติ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญที่จะช่วยยกเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการเชื่อมต่อการส่งมอบความสุขไปยังลูกค้า ผ่านการพัฒนาในหลากหลายรูปแบบ และเรายังคงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมกิจกรรมที่จะสามารถตอบแทนสังคมอย่างต่อเนื่องต่อไป” นายสาระ กล่าว

24 May 2023

...

​ ​   นางพิตราภรณ์ บุณยรัตพันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ผู้แทนบริษัทฯ รับประกาศเกียรติคุณ “องค์กรเครือข่ายตัวอย่าง ด้านการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ” จากนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในกิจกรรมสานพลังเครือข่ายร่วมขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ : Gender Fair 2023 ภายใต้แนวคิด “Innovation for Gender Equality : ส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อสร้างสังคมแห่งความเท่าเทียมระหว่างเพศ” จัดโดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวร่วมกับองค์การเพื่อการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและเสริมพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ (UN Women) ซึ่งประกาศเกียรติคุณดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า เมืองไทยประกันชีวิต เป็นองค์กรที่มีความโดดเด่นด้านการส่งเสริมนวัตกรรมด้านการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศด้านการสร้างรายได้และการออม โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศเข้าถึงประกันชีวิตได้ โดยไม่มีเงื่อนไขที่เป็นการเลือกปฏิบัติเนื่องด้วยเหตุแห่งเพศ  #MuangThaiLife #เมืองไทยประกันชีวิต    

24 May 2023

Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK ร่วมมือกับ อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ประเทศไทย (Amazon Global Selling Thailand) และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดโครงการอบรม “ติดปีกสินค้าไทย ขายออนไลน์ข้ามพรมแดนกับ Amazon” ระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม-18 กรกฎาคม 2566 ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ และอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาศักยภาพ SMEs ไทยให้มีความพร้อมในการพัฒนาธุรกิจสู่ตลาดการค้าออนไลน์อย่างมั่นใจ ผ่านการฝึกอบรม จับคู่ทางธุรกิจ ให้คำปรึกษาด้านการเงิน แนะนำเครื่องมือบริหารความเสี่ยง และ Workshop การค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน (Cross Border E-commerce: CBEC) ไปยังตลาดสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์ในการเข้าถึงเครือข่ายลูกค้าของ Amazon.com กว่า 300 ล้านคนทั่วโลก โดยเนื้อหาการอบรม อาทิ การเปิดบัญชีกับ Amazon การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและใบรับรององค์การอาหารและยาสหรัฐฯ การสร้างการบริหารจัดการคลังสินค้าและจัดส่งโดย Amazon (Fulfilment by Amazon : FBA) การเปิดหน้าร้านค้าบน Amazon.com ผู้ประกอบการที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ ในปี 2566 เศรษฐกิจและการค้าโลกต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน ทั้งภาวะเงินเฟ้อ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ความยืดเยื้อของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ประกอบกับวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐฯ และยุโรปส่งผลกดดันเศรษฐกิจโลก ทำให้ล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลงเหลือ 2.8% และการค้าโลกมีแนวโน้มขยายตัวเพียง 1.7%     อย่างไรก็ตาม พบว่าภาพรวมตลาดการค้าออนไลน์ (E-commerce) ของโลกยังมีแนวโน้มสดใส โดยคาดว่าจะขยายตัวกว่า 10% จาก 5.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 เป็น 6.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 และมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นเป็น 6.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 และ 7.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 นอกจากนี้ ผลสำรวจผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs ที่ดำเนินธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนในปี 2565 พบว่า 90% มีความสนใจค้าขายข้ามพรมแดนผ่าน E-commerce แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ประสบปัญหาขาดความเข้าใจวิธีการ ขาดความรู้เกี่ยวกับตลาดต่างประเทศ มีข้อจำกัดด้านศักยภาพ ทรัพยากร และความสามารถในการแข่งขันในตลาด E-commerce ดังนั้น การจัดโครงการดังกล่าวนี้จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสนับสนุนผู้ประกอบการ  

24 May 2023

...

  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ขอแจ้งเตือนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เนื่องจากขณะนี้ มีผู้เปิด Facebook Fanpage ใช้ชื่อว่า "สินเชื่อ COD ไปรษณีย์ไทย (smebank)" (https://www.facebook.com/Ssmedevelopmentbank) โดยใช้รูป profile เป็นโลโก้ของ "SME D Bank " และใช้ภาพ cover เป็นภาพโฆษณาสินเชื่อของธนาคาร รวมถึง Inbox ข้อความเชิญชวนใช้บริการสินเชื่อไปยังบุคคลต่างๆ ซึ่งอาจสร้างความสับสน เข้าใจผิดให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทาง SME D Bank ขอเรียนแจ้งเตือนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกท่านว่า Facebook Fanpage ดังกล่าว ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับธนาคารทั้งสิ้น และธนาคารไม่มีนโยบายให้บุคคลภายนอกเปิด Facebook Fanpage หรือผลิตสื่อใดๆ เพื่อแอบอ้างชื่อธนาคารไปหาผลประโยชน์ โดยขณะนี้ ธนาคารกำลังดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ดังนั้น ขอความกรุณาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่าหลงเชื่อข้อมูลจาก Facebook Fanpage ดังกล่าว ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างเป็นทางการของธนาคารได้ที่ Facebook Fanpage "ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย” (https://web.facebook.com/SMEDevelopmentBank) หรือเว็บไซต์ www.smebank.co.th เท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Call Center 1357                 

20 May 2023

...

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริจาคเงินจำนวน 200,000 บาท และสนับสนุนกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุกลุ่ม แก่มูลนิธิ พล.ต.อ.เภา สารสิน (สถานสงเคราะห์เด็กบ้านตะวันใหม่) เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในทุกๆ ด้านของมูลนิธิ พล.ต.อ.เภา สารสิน (สถานสงเคราะห์เด็กบ้านตะวันใหม่) โดยเฉพาะการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการใช้ยาเสพติด ให้สามารถช่วยเหลือตนเองได้ พร้อมที่จะเติบโตเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าต่อสังคมไทยในอนาคต โดยมี ม.ล. อารยา สิโรดม กรรมการเหรัญญิก มูลนิธิ พล.ต.อ.เภา สารสิน (สถานสงเคราะห์เด็กบ้านตะวันใหม่) เป็นผู้แทนรับมอบ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานมหกรรมการเงินกรุงเทพ นางพิตราภรณ์ บุณยรัตพันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส นายปราโมทย์ ศักดิ์กำจร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส และนายศรายุธ ทินกร ณ อยุธยา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมในพิธีดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความแข็งแกร่ง มั่นคง และตั้งอยู่บนหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด ควบคู่ไปกับพันธกิจในการส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้แก่สังคม ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม การศึกษา ศิลปวัฒนธรรม ศาสนา รวมถึงสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพันธกิจสำคัญที่มุ่งมั่นถึงการเป็นองค์กรที่รับผิดชอบด้าน ESG อย่างจริงจัง

16 May 2023

...

  นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากสภาวการณ์ที่ปัญหาโลกร้อนทวีความรุนแรงก่อเกิดผลกระทบต่อผู้คนและระบบนิเวศ จึงเป็นเป้าหมายระดับโลกที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันผลักดันแนวคิดเรื่องการใช้พลังงานหมุนเวียนไปสู่การปฏิบัติจริง โดยส่งเสริมการใช้พลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ดังนั้น เพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้พลังงานหมุนเวียนเป็นการทดแทนดังกล่าว และยังเกิดประโยชน์ต่อระดับครัวเรือนในการช่วยลดค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้าได้ในระยะยาว ธนาคารออมสินจึงได้ออกผลิตภัณฑ์ล่าสุด สินเชื่อ GSB Go Green เพื่อสนับสนุนเงินทุนในการติดตั้งและซื้ออุปกรณ์สำหรับบุคคลธรรมดา ในภาวะที่ต้องเผชิญปัญหาค่าไฟฟ้าครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นอยู่ขณะนี้ และสินเชื่อ GSB for BCG Economy เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการในการลงทุนด้านพลังงานทดแทน ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดต่อขอใช้บริการสินเชื่อได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป            สินเชื่อ GSB Go Green สำหรับผู้กู้ที่เป็นบุคคลธรรมดา อายุ 20 ปี และเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาชำระเงินกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี วัตถุประสงค์เพื่อติดตั้งหรือซื้ออุปกรณ์ที่ช่วยลดมลภาวะ เช่น Solar cell, Solar rooftop ติดตั้ง EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รถยนต์ไฮบริด รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 ที่ช่วยประหยัดพลังงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง กรณีไม่มีหลักประกัน (Clean Loan) ให้กู้ไม่เกิน 10 เท่าของรายได้รวมสูงสุดไม่เกินรายละ 500,000 บาท ชำระเงินกู้ไม่เกิน 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ต่ำสุด 7.99% และเงินงวดผ่อนต่ำแสนละ 799 บาทต่อเดือน นาน 3 เดือนแรก หากใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ได้แก่ บ้านพร้อมที่ดิน คอนโดฯ ที่ดินเปล่า ให้กู้สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท ผ่อนชำระไม่เกิน 30 ปี ดอกเบี้ยคงที่ต่ำสุด 1.99% และเงินงวดผ่อนต่ำแสนละ 199 บาทต่อเดือน นาน 3 เดือนแรก โดยธนาคารจัดอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขพิเศษนี้ไปจนถึงวันที่ 30 ธ.ค. 2566 นี้เท่านั้น สินเชื่อ GSB for BCG Economy สำหรับธุรกิจที่มีการบริหารจัดการตอบโจทย์โมเดลเศรษฐกิจใหม่ หรือ BCG Model (Bio Economy, Circular Economy และ Green Economy) เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน ลงทุนในทรัพย์สิน ลงทุนด้านพลังงานทดแทน พลังงานจากก๊าซชีวภาพชีวมวล หรือรีไฟแนนซ์จากสถาบันการเงินอื่น คุณสมบัติผู้กู้เป็นนิติบุคคลไม่จำกัดวงเงินกู้ และบุคคลธรรมดาให้วงเงินกู้ตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป โดยใช้สมุดเงินฝากออมสิน สลากออมสินพิเศษ พันธบัตร ที่ดินและอาคาร โฉนดที่ดิน หรือคอนโดฯ เป็นหลักประกัน หรือให้ บสย. (บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม) ร่วมค้ำประกันก็ได้ ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 10 ปี โดยสามารถกู้เป็นสินเชื่อระยะสั้น (O/D) , (P/N) และ/หรือ สินเชื่อระยะยาว (L/T) อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น MOR/MLR -1.50% ต่อปี (ปัจจุบัน MOR = 6.495 และ MLR = 6.650)  ติดตามรายละเอียดที่ www.gsb.or.th หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ GSB Contact Center โทร. 1115.  

07 May 2023

Banner Banner Banner Banner Banner

Banner
    ปี 2566 “ประกันภัย-การเงิน-สินเชื่อ” ยังคงมาแรง ธุรกิจที่ยังต้องรอรัฐบาลฟื้นฟู “ขายตรง-อสังหาฯ-SME”    หลังจากที่ประเทศไทยเริ่มผ่อนคลายจากไวรัสโควิด-19 ในปี 2566 ธุรกิจประกันภัย-การเงิน-สินเชื่อ ยังคงเป็นธุรกิจที่เติบโตต่อเนื่องในปี 2566 เพราะในช่วงวิกฤตโควิด ธุรกิจทั้ง 3 สาขาแม้จะได้รับผลกระทบ แต่ก็ยังยืนยงอยู่รอดปลอดภัย และเป็นธุรกิจที่ยังน่าสนใจลงทุนเป็นอันดับต้น ๆ ของธุรกิจในประเทศไทย และในต่างประเทศ ตราบใดที่ระบบสาธารณสุข และรัฐสวัสดิการของประเทศไทย ยังเป็นอยู่อย่างทุกวันนี้  ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในสองสิ่งนี้ การประกันชีวิตและการประกันภัยจึงยังเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญมากสำหรับคนไทย ที่อยากซื้อความคุ้มครองซื้ออนาคต และอยากมีสวัสดิการที่ขาดหายไปจากภาครัฐ ส่วนธุรกิจการเงินและธุรกิจสินเชื่อนั้น นับวันจะมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ตราบใดที่ประเทศไทยยังอยู่กับคำว่า “รวยเป็นกระจุก จนเป็นกระจาย” คนไทยยังต้องหวังพึ่งพาเงินในอนาคต เพื่อมาอุปโภคบริโภค ตราบนั้นทั้งธุรกิจการเงิน และสินเชื่อ ก็ยิ่งจะมีความสำคัญ เป็นธุรกิจที่เล็งเห็นกำไรและการเติบโต และน่าลงทุนมากขึ้นตามไปด้วย นี่คือธุรกิจยอดเยี่ยมในปี 2566 ที่ผมขอยกให้เป็นธุรกิจที่น่าลงทุน และน่าเข้าไปเกี่ยวข้อง สำหรับธุรกิจที่ยังต้องเร่งฟื้นฟู คือ ธุรกิจขายตรง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจSME ที่ยังคงสะบักสะบอมมาตั้งแต่ก่อนยุคโควิด-19 มาถึงวันนี้ก็ยังนิ่ง ๆ อยู่ ก็คงต้องรอให้รัฐบาลชุดใหม่มาบูรณะ คงต้องรอดูฝีมือของทีมงานเศรษฐกิจชุดใหม่ ที่ต้องทำงานได้ดีกว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันหลายเท่าตัวในการกอบกู้ธุรกิจไทย  และ 3 สาขาธุรกิจที่ยังคงรอให้รัฐบาลชุดใหม่มาเร่งฟื้นฟูในปี 2566 นี้  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner