Responsive image

Monday, 20 Oct 2025

หน้าแรก > ECONOMY- FINANCE / เศรษฐกิจ - การเงิน


เคทีซีรุกเปิดบัตร “เคทีซี พราว - ยูเนี่ยนเพย์” ฝ่ายุคโควิด-19 พัฒนาฟังก์ชันใช้งานเน้นสะดวก-เร็ว-ปลอดภัย

Thu 20/08/2563


เคทีซีเผยทิศทางธุรกิจสินเชื่อบุคคลครึ่งปีหลัง มุ่งเข้าใจความต้องการเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมาย จับมือสมาชิกฝ่าความท้าทายยุคโควิด แนะแนวพัฒนาทักษะอาชีพสร้างรายได้ บริหารการเงิน พร้อมเปิดตัวบัตรกดเงินสดภาพลักษณ์ใหม่ “เคทีซี พราว-ยูเนี่ยน เพย์” เพิ่มความคล่องตัวด้วย 4 ฟังก์ชันการทำงานที่เหนือกว่าเดิม กด-โอน-รูด-ผ่อน ในบัตรเดียว สะดวกยิ่งขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับแอปฯ “KTC Mobile” พร้อมรับเงินโอนเข้าบัญชีได้ทุกธนาคารฟรีค่าธรรมเนียมเร็วๆ นี้

นางสาวพิชามน  จิตรเป็นธรรม  ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร - ธุรกิจสินเชื่อบุคคล “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เผยว่า “นับจากการระบาดของไวรัสโควิด – 19 ส่งผลกระทบไป     ทั่วโลก และต่างคาดกันว่าสภาพเศรษฐกิจในประเทศไทยน่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น หลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดเริ่มคลี่คลาย แต่ในความเป็นจริงสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันยังคงชะลอตัว ผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจในการใช้จ่าย ประกอบกับมาตรการต่างๆ ที่ทยอยออกมา ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้การทำธุรกิจมีความท้าทายสูง”

“กลยุทธ์การทำตลาดในวันนี้ เราจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมเสมอ เพื่อหล่อเลี้ยงธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน โดยจะควบคุมคุณภาพและเพิ่มปริมาณสินเชื่อให้เหมาะสม อีกทั้งศึกษา ทำความรู้จักตัวตนและวิถีการใช้ชีวิตของสมาชิกตัวจริงให้มากที่สุด (Empathy) เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้บรรลุความต้องการสมาชิกให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด อีกทั้งพัฒนาฟังก์ชันการใช้งานบัตร “เคทีซี พราว” ให้ใช้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในยุคสังคมไร้เงินสด”

“แผนการตลาดธุรกิจสินเชื่อบุคคลของเคทีซีในครึ่งปีหลังมี 3 เรื่องหลักคือ 1) เปิดตัวบัตรกดเงินสด  “เคทีซี พราว - ยูเนี่ยน เพย์” ที่อัพใหม่พร้อม 4 ฟังก์ชั่น กด-โอน-รูด-ผ่อน สะดวกทุกการใช้งานในบัตรเดียว สามารถทำธุรกรรมรูดซื้อสินค้าและบริการได้ ณ ร้านค้าชั้นนำที่รองรับการทำธุรกรรมด้วยบัตรยูเนี่ยน เพย์ (UnionPay) ทั่วประเทศไทย โดยใช้ PIN 6 หลัก เพื่อยืนยันการทำธุรกรรม เพิ่มความสะดวกปลอดภัย รองรับระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัส (Contactless Payment) ซึ่งช่วยให้ชำระเงินได้ง่ายขึ้นด้วยการแตะ แค่มองหาสัญลักษณ์ Contactless บนเครื่องชำระเงิน”

 

“บัตร “เคทีซี พราว - ยูเนี่ยน เพย์”  ยังสามารถเบิกถอนเงินสดที่ตู้ ATM ทั่วประเทศไทย ศูนย์บริการลูกค้า “เคทีซี ทัช” และเบิกถอนเงินสดออนไลน์ผ่านแอปฯ “KTC Mobile” และเว็บไซต์ “KTC Online” เข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยแบบเรียลไทม์ โดยผู้สมัครสินเชื่อ “เคทีซี พราว” ที่ได้รับการอนุมัติตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 จะได้รับบัตร “เคทีซี พราว – ยูเนี่ยนเพย์” พร้อม 3 สิทธิพิเศษ ดังนี้ รับเงินคืน 50 บาท ผ่านแอปฯ “KTC Mobile” เมื่อรูดซื้อสินค้าตั้งแต่ 500 บาทต่อรายการ สำหรับสมาชิกใหม่ที่ได้รับอนุมัติบัตร “เคทีซี พราว – ยูเนี่ยน เพย์” ภายในวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 – 31 ตุลาคม 2563 รับส่วนลด 50 บาท เมื่อเติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมัน PT ตั้งแต่ 800 บาทต่อรายการ ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2563 – 31 ธันวาคม 2563  รับคูปองเงินสด 100 บาท เมื่อช้อปครบ 1,000 บาทต่อรายการ ที่เซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์ (Central Food Hall) ฟู้ดแลนด์ (FOODLAND) กูร์เมต์ มาร์เก็ต (Gourmet Market) โฮมเฟรชมาร์ท (Home Fresh Mart) แม็กซ์แวลู (Max Value) และวิลล่า มาร์เก็ต (Villa Market) ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 – 31 ตุลาคม 2563 เงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด ทั้งนี้ คาดว่าภายในสิ้นปี 2563 จะมีผู้ถือบัตร “เคทีซี พราว ยูเนี่ยน เพย์” จำนวน 100,000 คน

2) โอนเงินเข้าบัญชีทุกธนาคารแบบเรียลไทม์ผ่านแอปฯ “KTC Mobile” ภายในไตรมาส 3 นี้ สมาชิกจะได้รับความสะดวก รับเงินไว พร้อมใช้ทันที ไม่ต้องรอ ไม่ต้องเสียเวลาหาตู้ ATM ลดการสัมผัสเงินสดและการเดินทางไปในที่ชุมชน ในช่วงที่เรายังต้องรักษาระยะห่างช่วงโควิด-19 และยังช่วยลดโลกร้อนจากการลดปริมาณการพิมพ์สลิปกดเงิน 3) พัฒนาฟีเจอร์การใช้งานบนแอปฯ “KTC Mobile” ตอบสนองความคล่องตัวผู้ใช้บัตร โดยสมาชิก “เคทีซี พราว” สามารถทำรายการได้ด้วยตนเอง ผ่านแอปฯ บนสมาร์ทโฟนทั้งระบบแอนดรอยด์และIOS ครอบคลุมฟังก์ชันที่จำเป็นต่อการใช้งาน อาทิ การเรียกดูใบแจ้งหนี้ การชำระเงินโดยใช้บาร์โค้ดและการอายัดบัตร พร้อมด้วยบริการใหม่เพิ่มวงเงินฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง การเบิกเงินสดออนไลน์แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง และเหนือกว่าด้วยการเบิกถอนเงินสดออนไลน์บนแอปฯ “KTC Mobile” ที่สามารถเลือกทำรายการผ่อนรายงวดได้นานสูงสุด 60 เดือน หรือเลือกชำระแบบขั้นต่ำที่ 3% โดยคาดว่าจะมีสมาชิก “เคทีซี พราว” ใช้แอปฯเพิ่มขึ้น 20% จากสิ้นปี 2562 ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 มีสมาชิก “เคทีซี พราว” ใช้แอปฯ “KTC Mobile” ถึง 68% จากจำนวนสมาชิกสินเชื่อรวม”

 

 “ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของสมาชิก “เคทีซี พราว” ทั้งทางตรงและทางอ้อม เคทีซียังคงยืนยันเจตนารมณ์ที่จะเคียงข้างสมาชิกไปกับทุกสถานการณ์ โดยจะเดินหน้าจัดโครงการเคลียร์หนี้ซึ่งในปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 11 แล้ว ที่สำคัญจะเพิ่มคอร์สการเรียนรู้ให้เข้มข้นและเหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อมุ่งหมายให้สมาชิกนำประโยชน์ไปทำอาชีพเสริม สร้างรายได้เพิ่มเติม นอกเหนือจากงานประจำ อาทิ ”การเพาะเห็ดและแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า พร้อมสอนคำนวณต้นทุนเพื่อเตรียมจัดจำหน่าย” “วางแผนการเงิน จัดการภาระหนี้ สุขภาพการเงินดี” และ “น้ำพริกสร้างอาชีพ พร้อมแนะแนวช่องทางการขาย” เป็นต้น”

ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 เคทีซีมีสมาชิกสินเชื่อส่วนบุคคล 891,875 บัญชี เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สินเชื่อบุคคลและดอกเบี้ยค้างรับรวม (ยอดลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล) เท่ากับ 30,244 ล้านบาท NPL สินเชื่อบุคคลตามมาตรฐานใหม่ TFRS9 เท่ากับ 8.5%


Tags : เคทีซี เคทีซี พราว - ยูเนี่ยนเพย์ พิชามน จิตรเป็นธรรม


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดย คุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาด จับรายชื่อลูกค้าผู้โชคดีครั้งที่ 1 ภายใต้แคมเปญพิเศษ ฉลองครบรอบ 28 ปี กรุงไทย-แอกซ่า “แจกใหญ่ แจกเต็ม” เพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้าคนสำคัญที่ไว้วางใจให้บริษัทฯ ได้ดูแลให้ความคุ้มครองตลอดมา โดยลูกค้าที่เข้าร่วมแคมเปญเป็นไปตามเงื่อนไขใน ช่วงวันที่ 25 กรกฎาคม – 17 กันยายน 2568  ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ประกาศรายชื่อผู้โชคดีผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ https://www.krungthai-axa.co.th/th/luckydraw-2025-r1-announcement  ซึ่งผู้โชคดีจากแคมเปญดังกล่าวจะได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากผู้แทนบริษัทฯ เพื่อแจ้งรายละเอียดและยืนยันการรับสิทธิ์ สำหรับแคมเปญ “แจกใหญ่ แจกเต็ม” เปิดโอกาสให้ลูกค้าสะสมสิทธิ์และลุ้นรับรางวัลใหญ่จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 โดยกำหนดการจับรางวัลอีก 3 รอบ  ตามรายละเอียดด้านล่างนี้ ครั้งที่ 2: จับรางวัลในวันที่ 24 ตุลาคม 2568          ประกาศรายชื่อผู้โชคดีวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ครั้งที่ 3: จับรางวัลในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568   ประกาศรายชื่อผู้โชคดีวันที่ 1 ธันวาคม 2568 ครั้งที่ 4: จับรางวัลในวันที่ 23 มกราคม 2569        ประกาศรายชื่อผู้โชคดีวันที่ 1 กุมภาพันธ์  2569 หมายเหตุ: ชิ้นส่วนที่เหลือจากการจับรางวัลในแต่ละครั้ง จะถูกนำมารวบรวมเพื่อจับรางวัลในรอบถัดไป ทั้งนี้ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรม การบริการ และผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้ที่ www.krungthai-axa.co.th และศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร.1159

17 Oct 2025

...

นายธีรลักษ์ แสงสนิท รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า คณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ได้มีมติเห็นชอบให้ประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสิน โดยผู้ที่สนใจสามารถยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการสมัครได้ตั้งแต่วันอังคารที่ 14 ตุลาคม - วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2568 สำหรับคุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร กำหนดให้ต้องมีสัญชาติไทย อายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ในวันยื่นใบสมัคร สามารถทำงานให้ธนาคารได้เต็มเวลา และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามประกาศคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สำหรับคุณสมบัติเฉพาะต้องมีความรู้ ความสามารถ ด้านเศรษฐกิจ การเงิน การตลาด และการธนาคารเป็นอย่างดี มีวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการองค์กร มีภาวะความเป็นผู้นำสูง มีความรอบรู้และประสบการณ์ในการบริหารจัดการองค์กร กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กร และมีระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งนั้นรวมกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันยื่นใบสมัคร หรือกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากหน่วยงานภาคเอกชน ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรที่มีรายได้ขององค์กรไม่น้อยกว่า 15,000 ล้านบาทต่อปี หรือเคยบริหารกิจการที่มีสินทรัพย์ขององค์กรไม่น้อยกว่า 200,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ต้องมีระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่า รองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรนั้นต่อเนื่องกันเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันยื่นใบสมัคร สามารถดาวน์โหลดใบสมัครและศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.gsb.or.th โดยยื่นใบสมัครด้วยตนเอง หรือมอบให้ตัวแทนเป็นผู้ยื่น โดยมีหนังสือมอบอำนาจ พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการสมัครได้ที่ ส่วนสรรหาและแต่งตั้งโยกย้าย ฝ่ายบริหารงานทรัพยากรบุคคล อาคาร 32 ชั้น ชั้น 15 ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันอังคารที่ 14 ตุลาคม - วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2568 ระหว่างเวลา 09.00 – 16.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2299-8000 ต่อ 810371 - 74          

11 Oct 2025

...

ธนาคารออมสิน เตรียมจัดงานใหญ่ GSB SAVINGS FORUM 2025 เนื่องในวันออมแห่งชาติ 31 ตุลาคม 2568 ภายใต้แนวคิด “AI & AOM ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” เพื่อเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์ด้านการออมในโลกดิจิทัล สะท้อนการผสานพลัง “AI” (Artificial Intelligence) เข้ากับ “AOM” (การออม) ในการสร้างวินัยทางการเงินและสังคมแห่งการออมที่ยั่งยืน หนึ่งในไฮไลท์สำคัญคือ กิจกรรมประกวดออกแบบ “กระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล” เชิญชวนคนรุ่นใหม่ร่วมสร้างสรรค์งานออกแบบผ่าน AI Generative Tools ถ่ายทอดแนวคิดการออมในมิติใหม่ พร้อมชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 110,000 บาท ตอกย้ำภารกิจสำคัญของธนาคารในการส่งเสริมการออมและสร้างวินัยทางการเงินอย่างต่อเนื่อง กิจกรรมประกวดออกแบบ “กระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล” เปิดรับผลงานจากผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป โดยผู้ที่สนใจสามารถส่งผลงานออกแบบชิ้นงานใดก็ได้ ที่สร้างสรรค์ด้วย AI Generative Tools คนละ 1 ชิ้น ขนาดไฟล์ไม่เกิน 5MB ในรูปแบบ JPEG หรือ PNG ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 15 ตุลาคม 2568 โดยธนาคารจะคัดเลือกและประกาศรายชื่อผู้ที่จะได้เข้าร่วมแข่งขันในวันที่ 21 ตุลาคม 2568 จากนั้นจะจัดการแข่งขันเพื่อเฟ้นหาผู้ชนะเลิศ ในงาน GSB SAVINGS FORUM วันที่ 31 ตุลาคม 2568 (วันออมแห่งชาติ) ณ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ ซึ่งผู้ร่วมแข่งขันจะต้องออกแบบ “กระปุกออมสิน” ภายใต้โจทย์และเวลาที่กำหนดโดยใช้ AI Generative Tools โดยการตัดสินได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจากธนาคารออมสิน และผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าจากวงการ AI และโฆษณา อาทิ คุณเมธากวี สีตบุตร ผู้เชี่ยวชาญด้าน Generative AI และ Trainer ของ MidJourney และ คุณวีรยุทธ์ คุณวิทยไพศาล Executive Producer บริษัท Montage Studio และกรรมการตัดสิน Adman Awards 2023 ทั้งนี้ ผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล จำนวน 50,000 บาท รางวัลที่ 2 จำนวน 30,000 บาท รางวัลที่ 3 จำนวน 20,000 บาท และรางวัล Popular Vote จำนวน 10,000 บาท รวมมูลค่ารางวัลทั้งสิ้น 110,000 บาท ผู้สนใจสามารถสมัครและดูรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านลิงก์หรือสแกนคิวอาร์โค้ด (QR Code) ที่กำหนด   สมัครพร้อมติดตามรายละเอียดและกติกาการแข่งขันเพิ่มเติมได้ที่ Link https://forms.gle/1wHqR8V8e337M8wg8  หรือ QR Code  

06 Oct 2025

...

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้รับใบประกาศเกียรติคุณชั้นที่ 2 จากสภากาชาดไทย ในฐานะองค์กรที่ให้การสนับสนุนและความร่วมมือในการจัดหาผู้บริจาคโลหิตเป็นหมู่คณะอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการบริจาคโลหิตมาตั้งแต่ปี 2531 และจัดกิจกรรมทุก 3 เดือน เพื่อสนับสนุนการสำรองโลหิตให้เพียงพอสำหรับการรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ ถือเป็นการต่อชีวิตและยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของคนในสังคม ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนนโยบายพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ตลอดระยะเวลากว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา บริษัทฯ มุ่งมั่นสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน ด้วยการเชิญชวนผู้บริหาร พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า ตลอดจนประชาชนทั่วไป เข้าร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิต รวมถึงการบริจาคอวัยวะและดวงตา เพื่อสนับสนุนภารกิจของสภากาชาดไทย อันเป็นการสืบสานเจตนารมณ์แห่งการให้และการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง

06 Oct 2025

Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner