Responsive image

Friday, 03 Oct 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


เมืองไทยประกันชีวิต เพิ่มวันทำการศูนย์บริการลูกค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ามากขึ้น ตอกย้ำนโยบาย “MTL Everyday Life Partner”

Sun 13/09/2563


นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการตอกย้ำนโยบาย  MTL Everyday Life Partner”  ที่พร้อมเดินเคียงข้างในทุกช่วงของชีวิต ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในทุกไลฟ์สไตล์  ล่าสุด เมืองไทยประกันชีวิตได้ขยายวันเปิดให้บริการศูนย์บริการลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิต (ประเภทอาคารสำนักงาน) จำนวน 5 สาขา เพื่อให้บริการในวันเสาร์เพิ่มอีก 1 วันทำการ ตั้งแต่เวลา 08.30 น – 17.30 น. เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการใช้บริการได้มากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ศูนย์บริการลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิต ที่ได้เพิ่มวันให้บริการ ประกอบด้วย ศูนย์บริการลูกค้าสาขานครสวรรค์ ศูนย์บริการลูกค้าสาขาร้อยเอ็ด ศูนย์บริการลูกค้าสาขาหนองคาย ศูนย์บริการลูกค้าสาขาสุราษฎร์ธานี และศูนย์บริการลูกค้าสาขาพิษณุโลก โดยเปิดให้บริการวันจันทร์ - วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.30 น.  ซึ่งจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันเสาร์ที่ 12 กันยายน 2563 เป็นต้นไป

 

โดยลูกค้าสามารถเข้าใช้บริการ ณ ศูนย์บริการลูกค้าได้อย่างครบวงจร อาทิ การชำระเบี้ยประกันภัย การเคลมสินไหม บริการเคลมรอรับ หรือการแลกคะแนนสะสม เพื่อรับสิทธิประโยชน์จากเมืองไทยสไมล์คลับ รวมถึงการให้บริการคำปรึกษาแก่ลูกค้าที่สนใจผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตหรือสุขภาพ ผ่านศูนย์บริการลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตทั่วประเทศ หรือโทร. 1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

“บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด ภายใต้ปัจจัยแวดล้อมในปัจจุบัน มุ่งเน้นการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ พร้อมตอกย้ำภาพลักษณ์สู่การเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม คิดค้นผลิตภัณฑ์ บริการ ที่สามารถเข้าถึงความต้องการของลูกค้าในทุกเพศทุกวัย พร้อมเชื่อมต่อกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในแบบเฉพาะตัว มุ่งมั่นเติบโตและก้าวไปอย่างมั่นคงเคียงข้างไปกับลูกค้า” นายสาระ กล่าว


Tags : เมืองไทยประกันชีวิต สาระล่ำซำ เมืองไทยประกันชีวิตเพิ่มวันทำการศูนย์บริการลูกค้า


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

นางสาววชิรา การสุทธิ์ รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มการตลาดเพื่อความยั่งยืน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและพนักงาน ร่วมพิธีเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติอย่างพร้อมเพรียง เนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทย 28 กันยายน 2568 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ผู้พระราชทานธงไตรรงค์เป็นธงชาติไทย เมื่อปี พ.ศ. 2460 และต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติกำหนดให้วันที่ 28 กันยายนของทุกปี เป็นวันพระราชทานธงชาติไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา ซึ่งปีนี้นับเป็นวาระครบรอบ 108 ปี แห่งการมีธงไตรรงค์เป็นสัญลักษณ์ของชาติไทย กิจกรรมดังกล่าวยังสะท้อนถึงความรัก ความสามัคคี และความภาคภูมิใจในความเป็นชาติของคนไทยทุกคน ณ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ และธนาคารออมสินสาขาทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568      

29 Sep 2025

...

กบข. พร้อมขนทัพผู้บริหาร เดินทางพบสมาชิกถึงที่ กับมหกรรม GPF Fund Fair กรุงเทพฯ 2025 วันที่ 16 ตุลาคมนี้ ที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการฯ อัดแน่นด้วยกิจกรรมมากมาย เพิ่มความรู้การเงิน-ลงทุนให้แก่สมาชิก   นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า กบข. มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตของสมาชิก ให้มีความมั่นคงทางการเงิน ซึ่งได้กำหนดแผนงานเน้นการเพิ่มทักษะทางการเงินให้กับสมาชิกอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สมาชิกวางแผนการเงินได้อย่างเข้าใจ เพิ่มโอกาสให้สมาชิกสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงิน มีคุณภาพชีวิตที่มั่นคงหลังเกษียณ และเกษียณอย่างมีสุข โดยในวันที่ 16 ตุลาคม 2568 กบข. จะจัดมหกรรมแห่งปี ภายใต้งาน GPF Fund Fair กรุงเทพฯ2025 ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ ภายในงาน กบข. ได้เตรียมขนทัพผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ กบข. นำโดย นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการฯ กบข. เพื่อไปพบสมาชิกถึงที่ พร้อมด้วยกิจกรรมอีกมากมาย ทั้งเลขาธิการฯ พบสมาชิก กบข. , ทีมลงทุนพบสมาชิก กิจกรรมรวยไม่ใช่เล่น ให้สมาชิกได้ทดลองบริหารเงิน ด้วยการจำลองสถานการณ์การลงทุน ทดลองเป็นนักลงทุนผ่านเกมส์ กิจกรรมสร้างรายได้จาก TikTok เรียนรู้เครื่องมือสร้างรายได้ กลยุทธ์และเทคนิคการสร้างคอนเทนส์ รวมถึงโค้ชหนุ่ม จักรพงษ์ เมษพันธุ์ จาก Money Coach มาร่วมแชร์เคล็ดลับในการจัดการเงิน บริหารสภาพคล่อง เพื่อวางแผนเงินออมสู่ชีวิตการเงินที่เลือกได้ นอกจากนี้ กบข. ร่วมกับพันธมิตรสวัสดิการ มีบูธกิจกรรมให้สมาชิกได้ร่วมเล่นเกมส์ลุ้นรับของที่ระลึกมากมาย สมาชิกที่เข้าร่วมงานจะได้รับของที่ระลึกจาก กบข.  และ GPF Point เพื่อสะสมแลกของที่ระลึก รวมถึงสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน กบข. แบบส่วนตัวฟรี จึงขอเชิญชวนสมาชิกเข้าร่วม GPF Fund Fair กรุงเทพฯ 2025 สำรองที่นั่งได้ที่เว็บไซต์ กบข. www.gpf.or.th คลิกที่แบนเนอร์หน้าเว็บไซต์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก 1179  

27 Sep 2025

...

พลเอก เอกรัตน์ ช้างแก้ว ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก เป็นสักขีพยาน ในโอกาสที่ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รับมอบเงินจำนวน 4,875,000 บาท โดยมี นางสาววชิรา การสุทธิ์ รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มการตลาดเพื่อความยั่งยืน เป็นผู้แทนธนาคารออมสินในการมอบเงิน เพื่อนำไปช่วยเหลือและเยียวยาทหารที่ได้รับบาดเจ็บทุพพลภาพ ตลอดจนดูแลครอบครัวของทหารผู้เสียสละชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา เพื่อเป็นขวัญ กำลังใจ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ณ กองบัญชาการกองทัพบก กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568 ทั้งนี้ที่ผ่านมาธนาคารได้ให้การสนับสนุนภารกิจเฉพาะหน้าอย่างต่อเนื่อง อาทิ การส่งมอบสิ่งของที่จำเป็น ได้แก่ ผ้าห่ม อาหารแห้ง อาหารปรุงสุก และน้ำดื่ม ให้แก่ศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี และตราด รวมถึงการสนับสนุนงบประมาณเพื่อการบริหารจัดการภายในศูนย์พักพิง ธนาคารออมสิน ในฐานะธนาคารเพื่อสังคม พร้อมยืนหยัดเคียงข้างประชาชนไทยในทุกวิกฤติ เพื่อร่วมก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบากไปด้วยกัน โดยไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง    

24 Sep 2025

...

วันที่ (23 กันยายน 2568) นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มอบข้าวพร้อมทานตรา “อุ่นอิ่ม” ทั้งข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้องหอมมะลิ และข้าวไรซ์เบอร์รี่ จำนวนทั้งสิ้น 12,000 ถ้วย ให้แก่กองทัพบก โดยมี พลเอก เอกรัตน์ ช้างแก้ว ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก เป็นสักขีพยาน และมีพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ สำหรับนำไปให้กับกำลังพลในพื้นที่ใช้ในการบริโภคเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยทหารและเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดนเพื่อรักษาอธิปไตยและความสงบให้กับประชาชนและประเทศชาติหรือในการปฏิบัติภารกิจบรรเทาทุกข์เร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือประชาชน หลังจากก่อนหน้านี้ข้าวพร้อมทานตรา “อุ่นอิ่ม” ได้ถูกส่งมอบไปยังเจ้าหน้าที่ทหารเพื่อภารกิจในพื้นที่ชายแดนผ่านหน่วยงานต่าง ๆ ไปแล้วกว่า 24,000 ถ้วย โดยข้าวพร้อมทานตรา “อุ่นอิ่ม” ถือเป็นผลิตภัณฑ์ของเกษตรกรที่จัดทำโดยสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. ร้อยเอ็ด (สกต.ร้อยเอ็ด) ที่ ธ.ก.ส. ได้เข้าไปยกระดับสินค้า เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ขั้นตอนการพัฒนาโดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาแปรรูปข้าวให้มีคุณภาพ อร่อยได้มาตรฐาน สามารถทานได้ทันที หรืออุ่นในไมโครเวฟเพียง 60 วินาที เพื่อเพิ่มความอร่อย และยังสามารถเก็บในอุณหภูมิปกติได้นานถึง 18 เดือน โดยไม่จำเป็นต้องแช่เย็น     ผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่ สกต.ร้อยเอ็ด จำกัด โทร.088-338-2572 โดยมีนายชาคริต ดิเรกวัฒนชัย รองกรรมการผู้อำนวยการสำนักกิจการและสื่อสารองค์กร บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย พลเอก เดชนิธิศ เหลืองงามขำ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (ผอ.อผศ.) และหน่วยงานพันธมิตรร่วมในพิธีส่งมอบ ณ อาคาร 2 กองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างขวัญและกำลังใจแก่กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ผ่านมา อันส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยมีทหารได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จึงได้จัดทำมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ กรณีบุตร คู่สมรส ของลูกค้า ธ.ก.ส. ที่เป็นทหาร หรือ ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศไทย – กัมพูชาโดยธนาคารยกหนี้ในส่วนของต้นเงินกู้ทุกสัญญา และยกหนี้ในส่วนของดอกเบี้ยค้างรับและดอกเบี้ยปรับทั้งจำนวน ภายใต้สัญญาที่ใช้แหล่งเงินทุน ธ.ก.ส. เป็นกรณีพิเศษ ด้วยความรู้สึกขอบคุณจากใจไปยังเจ้าหน้าที่ผู้เสียสละในการปฏิบัติภารกิจสำคัญด้านอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศชาติ  

24 Sep 2025

Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner