ที่ผ่านมานายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน “แฟรนไชส์สร้างอาชีพ ปี 2563” ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 อาคารสํานักงาน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นนโยบายที่กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญ โดยมีผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์เข้าร่วม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ กล่าวว่า การสร้างอาชีพในธุรกิจแฟรนไชส์ส่วนใหญ่คือ SME ซึ่งถือเป็นพื้นฐานสำคัญของระบบเศรษฐกิจของประเทศ มีความจำเป็นต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน กระทรวงพาณิชย์จึงมีนโยบาย 4 ด้านที่ต้องการพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ให้มีความเข้มแข็งต่อไปในอนาคต 1.ต้องการบ่มเพาะธุรกิจแฟรนไชส์สำหรับผู้ที่เริ่มต้น 2. ยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการให้เท่าเทียมกับการบริหารระดับสากล 3. เพิ่มช่องทางธุรกิจให้กับธุรกิจแฟรนไชส์ และ 4.ปั้นผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์รุ่นใหม่ให้เกิดมากขึ้น เพื่อเป็นกำลังสำคัญให้กับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศต่อไป
แฟรนไชส์ถือว่าเป็นธุรกิจรูปแบบหนึ่งช่วงที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนและผู้บริโภค มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องและสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในระบบเศรษฐกิจได้มากขึ้น เพราะประการที่หนึ่งเจ้าของธุรกิจได้มีการพัฒนาธุรกิจของตนอย่างต่อเนื่องจนพิสูจน์ว่าประสบความสำเร็จ และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคแล้วระดับหนึ่ง ประการที่สองธุรกิจแฟรนไชส์ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะได้รับการถ่ายทอดภูมิปัญญาด้านการผลิต ความรู้ความเข้าใจเฉพาะในเรื่องการตลาดของผลิตภัณฑ์ และระบบบริหารจัดการที่เป็นรูปแบบเฉพาะของผลิตภัณฑ์นั้นทำให้ผู้ซื้อได้รับองค์ความรู้ที่ครบถ้วน เป็นหลักประกันได้ในระดับหนึ่งว่ามีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ
ครั้งนี้มีผู้ประกอบการแฟรนไชส์ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการสนับสนุนส่งเสริม 351 แฟรนไชส์ และมีขนาดการลงทุนตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักล้านบาท ต่ำสุดลงทุนเพียง 5,000 บาทก็สามารถซื้อแฟรนไชส์ไปประกอบธุรกิจได้ สูงสุด 1.2 ล้านบาท มีหลายขนาดการลงทุนที่ผู้สนใจสามารถเลือกขนาดการลงทุนที่เหมาะสมกับศักยภาพของตนเองได้ มีความหลากหลายของประเภทธุรกิจ
โดยในงานนี้มีการลดค่าแฟรนไชส์สูงสุดถึง 50% เป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่สนใจและมีสถาบันการเงินมาให้บริการสินเชื่อด้วย เป้าหมายสำคัญกระทรวงพาณิชย์ต้องการเห็นธุรกิจแฟรนไชส์มีส่วนสำคัญในการสร้างอาชีพเพื่อให้พี่น้องคนไทยที่สามารถมีธุรกิจเป็นของตนเองดูแลครอบครัว และเพิ่มความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานรากได้ โดยตั้งเป้าหมายในปี 2564 ว่าจะสร้างเครือข่ายแฟรนไชส์ให้ได้ 10,000 สาขา