Responsive image

Saturday, 09 Nov 2024

หน้าแรก > BUSINESS-MARKETING/ธุรกิจ-การตลาด-ขายตรง-SME


ไปรษณีย์ไทย เผยยอดพัสดุปี 63 กว่า 2.4 พันล้านชิ้น พร้อมเตรียม 4 กลยุทธ์หนุนธุรกิจปีฉลู

Mon 04/01/2564


บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เผยปี 2563 มีปริมาณงานการขนส่ง รวมทั้งสิ้นกว่า 2,400 ล้านชิ้น พร้อมชี้ในปี 2564 เร่งดำเนินธุรกิจเพื่อรับการแข่งขันทั้งในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นการลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่ง ด้านบุคลากรให้มีทักษะที่หลากหลาย ด้านบริการที่เน้นไปที่การอำนวยความสะดวกและความคุ้มค่าที่มากขึ้น รวมถึงเข้าถึงความต้องการของคนทุกเจอเนอเรชั่น สร้างพันธมิตรร่วมกับธุรกิจรายอื่นๆ เพื่อใช้ประโยชน์จากจุดแข็งต่างๆ ร่วมกัน นอกจากนี้ยังวางทิศทางและเป้าหมายขององค์กรให้เคียงคู่คนไทยตลอดไป

นายกาหลง ทรัพย์สอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ในปี 2563 ที่ผ่านมาธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ในประเทศไทยยังคงมีการเติบโตและการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับอานิสงส์จากอีคอมเมิร์ซ ที่ส่งผลสำคัญให้คนในทุกภูมิภาคเลือกส่งสินค้ากับผู้ให้บริการขนส่งที่มีอยู่หลากหลาย สำหรับในส่วนของไปรษณีย์ไทยพบว่าในปีนี้มีปริมาณการขนส่งพัสดุ จดหมาย และไปรษณียภัณฑ์ประเภทต่างๆ รวมทั้งสิ้นกว่า 2,400 ล้านชิ้น  โดยภาพรวมยังถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เนื่องจากปัจจัยการแข่งขันด้านราคา ส่วนแบ่งตลาดที่มีจำนวนผู้ให้บริการเพิ่มมากขึ้น และการสื่อสารต่างๆ ที่ถูกเปลี่ยนผ่านไปสู่ช่องทางดิจิทัล

“การดำเนินงานของไปรษณีย์ไทยซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นอกจากลูกค้า ประชาชนทั่วไปที่ใช้บริการไปรษณีย์ไทยแล้ว จะเห็นได้ว่าทั้งหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนสามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพของไปรษณีย์ไทย เพื่อดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง เพื่อกระจายความช่วยเหลือไปถึงทุกหน่วยทางสังคมในช่วงการระบาดของโรค COVID-19 การช่วยขนส่งของดีจากวิสาหกิจชุมชนและเกษตรกรทั่วประเทศผ่านเว็บไซต์ Thailandpostmart โดยเฉพาะผลไม้และผลิตผลทางเกษตรกรรมที่ไม่สามารถส่งออกไปขายต่างประเทศได้ เนื่องจากปัจจัยการระบาดของโรค COVID-19 นอกจากนี้ยังมีโครงการที่มุ่งกระจายโอกาสไปสู่สังคม เช่น โครงการ ไปรษณีย์... reBOX เปลี่ยนกล่องเป็นของขวัญปีใหม่ 2564 โดยไปรษณีย์ไทยได้รับกล่อง/ ซองไม่ใช้แล้วจากคนไทยรวมกว่า 71,200 กิโลกรัม เพื่อส่งต่อให้ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) แปรรูปเป็นชุดโต๊ะ เก้าอี้ ส่งมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2564 ให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน 220 แห่งทั่วประเทศ โดยได้ส่งมอบครบทั้งหมดแล้วเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งน้องๆ นักเรียนต่างมีความสุขที่ได้รับของขวัญปีใหม่จากพี่ๆ คนไทยทั่วประเทศ ตลอดจนการสร้างพันธมิตรกับธุรกิจเอกชนและภาครัฐบาลเพื่อต่อยอดทรัพยากรของกันและกันให้เกิดประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย”

นายกาหลง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2564 ไปรษณีย์ไทยคาดว่าธุรกิจการขนส่งยังคงจะมีการแข่งขันที่รุนแรงต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการต่างๆ ทั้งรัฐและเอกชนที่จะเข้ามาดำเนินธุรกิจนี้ ประกอบกับการแข่งขันด้านราคา คุณภาพการบริการ ฯลฯ ไปรษณีย์ไทยจึงมีการปรับตัวในด้านต่างๆ ที่สำคัญ ดังนี้ 

  • ด้านเทคโนโลยี ไปรษณีย์ไทยเร่งนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งทั้งในประเทศและระหว่างประเทศอย่างครบวงจร รวมถึงเทคโนโลยีที่จะสร้างประสบการณ์และผลประโยชน์ทางตรงให้กับผู้ใช้บริการ เช่น ติดตั้งตู้รับฝากอัตโนมัติเพื่อลดเวลา รอคอยใช้บริการในที่ทำการไปรษณีย์ เช่น ไปรษณีย์จตุจักร ไปรษณีย์ภาษีเจริญ ไปรษณีย์บางขุนเทียน เป็นต้น ติดตั้งตู้ไปรษณีย์ชาญฉลาดที่สามารถแจ้งเตือนไปรษณีย์ในพื้นที่ไปรับได้ทันทีที่มีคนหย่อนจดหมาย เพิ่มจำนวนเครื่องคัดแยกอัตโนมัติเพื่อคัดแยกรองรับสิ่งของอีคอมเมิร์ซไปปลายทาง ใช้รถขนส่งควบคุมอุณหภูมิเพื่อคงคุณภาพของสินค้าจากเกษตรกรสู่ปลายทาง ใช้รถยนต์และจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อนำจ่ายสิ่งของ ตลอดจนแผนในการพัฒนา Account Credit Email ยืนยันเอกสารสำคัญต่างๆ ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
  • ด้านบุคลากร  ไปรษณีย์ไทยมีจุดแข็งในด้านบุคลากรกว่า 40,000 คน ที่สามารถเข้าถึง ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย โดยจะการพัฒนาศักยภาพ ต่อยอดทักษะของบุคลากรให้มีความสามารถหลากหลาย มีคุณภาพเป็นมาตรฐานเดียวกัน รองรับการให้บริการในยุคดิจิทัลสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนไทยรุ่นใหม่
  • ด้านบริการ เน้นอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการทุกที่ ทุกเวลาผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น LINE OA ที่สามารถติดตามสถานะสิ่งของ ค้นหาไปรษณีย์ใกล้บ้าน สร้างใบจ่าหน้า รวมถึงเรียกใช้บริการรับฝากนอกสถานที่ (Pick-up service)
  • ด้านพันธมิตร มุ่งเน้นดำเนินงานภายใต้แนวคิด “พันธมิตรธุรกิจไปรษณีย์ไทย” เพื่อนำจุดเด่นของทั้งองค์กรรัฐ เอกชน มาสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมร่วมกัน โดยในปีที่ผ่านมาได้เริ่มดำเนินการแล้ว เช่น การร่วมส่งพวงหรีดสานบุญ by Carenation ความร่วมมือระหว่างเอไอเอสในการส่งซิมการ์ดให้กับคนไทยทั่วประเทศ ความร่วมมือกับไทยคม ติดตั้งระบบ Digital Service Kiosk รองรับการอ่านข้อมูลบัตรประชาชน กล้องถ่ายภาพยืนยันตัวตน (eKYC) เพื่อการทำธุรกรรมสำคัญ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี จากการประเมินผลภาพลักษณ์แบรนด์ “ไปรษณีย์ไทย” ปี 2563 ได้ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ ทั้งลูกค้าที่ใช้บริการไปรษณีย์ไทย และผู้ใช้บริการขนส่งรายอื่น พบว่าลูกค้า ประชาชนให้ความไว้วางใจในแบรนด์ “ไปรษณีย์ไทย” ในระดับ 92.5% ซึ่งขอขอบคุณลูกค้า ประชาชนที่รักและเชื่อมั่นในไปรษณีย์ไทย โดยจะยังคงเดินหน้าพัฒนา เพิ่มประสิทธิภาพบริการให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนช่วยเหลือสังคมไทย คงความอบอุ่น เป็นมิตรที่ใกล้ชิด เคียงข้างกับคนไทยตลอดไป นายกาหลง กล่าวสรุป


Tags : ไปรษณีย์ไทย กาหลง ทรัพย์สอาด ไปรษณีย์ไทยเตรียม4กลยุทธ์หนุนธุรกิจปีฉลู


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการ SMEs และลูกค้ารายย่อย หรือผู้ประกอบการอิสระที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยที่ผ่านมา สามารถยื่นขอกู้ในโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) GSB Boost Up ได้ที่ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ อาทิ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และสถาบันการเงินอื่น ๆ ที่เข้าร่วมโครงการ รวมทั้งสิ้น 16 แห่ง โดยทุกสถาบันการเงินได้ร่วมกันขยายความช่วยเหลือแก่ภาคธุรกิจเป็นวงกว้างและทั่วถึงมากที่สุด ผ่านการให้สินเชื่อครอบคลุมผู้ประกอบการ SMEs และรายย่อย ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำไม่เกิน 3.5% ต่อปี ใน 2 ปีแรก สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ให้กู้เพื่อการลงทุนในทรัพย์สินถาวร หรือเสริมสภาพคล่องในการดำเนินกิจการ ที่ไม่ใช่การรีไฟแนนซ์ ยื่นกู้ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง วันที่ 30 ธันวาคม 2568 สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ลูกค้ารายย่อย หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ประสบอุทกภัย ให้กู้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเสริมสภาพคล่องในการฟื้นฟูการดำเนินกิจการ ยื่นกู้ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง วันที่ 30 ธันวาคม 2567 นี้เท่านั้น อนึ่ง โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) GSB Boost Up เป็นการดำเนินตามนโยบายรัฐบาล เพื่อสนับสนุนแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำให้แก่ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ นำไปปล่อยสินเชื่อต่อให้กับผู้ประกอบการ โดยให้กู้ตามความจำเป็นและความสามารถในการชำระหนี้ กำหนดวงเงินกู้สูงสุดรวมทุกสถาบันการเงินไม่เกิน 40 ล้านบาทต่อราย วงเงินกู้รวมในโครงการ 100,000 ล้านบาท เพื่อช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเติบโตไปอย่างยั่งยืน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารออมสินและสถาบันการเงินทุกแห่งที่ร่วมโครงการ

08 Nov 2024

...

  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดกิจกรรมพิเศษ ในโอกาสครบรอบวันสถาปนา ธ.ก.ส. ปีที่ 59 เพื่อเพิ่มโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถซื้อสินค้าเกษตรกรได้มากขึ้น พร้อมกับร่วมเป็นกำลังใจให้แก่เกษตรกรวิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ SME ในการผลิตสินค้าคุณภาพเพื่อต่อยอดโอกาสทางธุรกิจของภาคเกษตรไทยไปสู่สากล โดยมอบโค้ด “BAAC59” สำหรับเป็นส่วนลดพิเศษจำนวน 590 บาท เมื่อสั่งซื้อสินค้า ผลิตภัณฑ์จากเกษตรกรลูกค้าของ ธ.ก.ส. บนเว็บไซต์ thailandpostmart.com รวมขั้นต่ำ 1,000 บาท โดย 1 บัญชี ผู้ซื้อที่ลงทะเบียนเข้าใช้บริการทางเว็บไซต์ดังกล่าว สามารถใช้โค้ดส่วนลดได้ 1 ครั้ง จำกัดสำหรับ 59 สิทธิ์ท่านแรกที่ใช้  ส่วนลด ระหว่าง 1-30 พฤศจิกายนนี้เท่านั้น ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center  02 555 0555     

04 Nov 2024

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รับ 3 รางวัลสุดยอดซีอีโอ “CEO Econmass Awards 2024” จากนางสาวเเพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประธานมอบรางวัลสุดยอดซีอีโอ “CEO Econmass Awards 2024” ซึ่งสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3   โดยรางวัลที่ได้รับ ประกอบด้วย รางวัลสุดยอดซีอีโอรัฐวิสาหกิจ สาขา Social และสาขา Governance และรางวัลสุดยอดซีอีโอขวัญใจสื่อมวลชน (Popular Vote) ด้วยนายวิทัยเป็นผู้บริหารสูงสุดขององค์กรรัฐวิสาหกิจที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในการขับเคลื่อนธนาคารออมสินด้วยยุทธศาสตร์ธนาคารเพื่อสังคม สร้าง Social Impact อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยหลักธรรมาภิบาลในการนำองค์กร ทั้งนี้ รางวัล CEO Econmass Awards 2024 เป็นรางวัลที่ยกย่อง เชิดชูเกียรติผู้บริหารที่นำพาองค์กรจนประสบความสำเร็จ และเติบโตไปพร้อมกับการให้ความสำคัญกับความอย่างยั่งยืน ตามแนวทาง ESG     ตลอดจนเป็นส่วนสำคัญที่จะเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศ และช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง ซึ่งผ่านกระบวนการคัดเลือกตามหลักวิชาการที่เป็นมาตรฐานสากล จากคณะกรรมการคัดเลือกที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ เป็นตัวแทนจาก กกร. สคร. มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน ส่วนรางวัลสุดยอดซีอีโอขวัญใจสื่อมวลชน เป็นการโหวตโดยสมาชิกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ โดยมีผู้บริหารธนาคารออมสินร่วมแสดงความยินดี ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567  

03 Nov 2024

...

  นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายเร่งรัดการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนในการช่วยเหลือประชาชนลดภาระหนี้ โดยเฉพาะผู้มีหนี้ที่เป็นกลุ่มเปราะบาง จึงมอบหมายให้ธนาคารออมสินช่วยเหลือลูกหนี้โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) ที่มีสถานะเป็นหนี้เสีย หรือ NPLs เพื่อไม่ให้เสียประวัติเครดิต และเข้าถึงการกู้เงินในระบบสถาบันการเงินได้เป็นปกติ ซึ่งที่ผ่านมาได้ทยอยจัดสรรงบประมาณชดเชยค่าเสียหายจากหนี้เสียให้ธนาคารมาชำระหนี้แทนลูกหนี้ โดยในปี 2567 ดำเนินการชำระหนี้แทนลูกหนี้แล้ว 2 ครั้ง ช่วยปลดหนี้ให้ลูกหนี้จำนวนกว่า 720,000 ราย และล่าสุด ธนาคารได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจากรัฐบาล จึงดำเนินการชำระหนี้และปิดบัญชีให้ลูกหนี้เพิ่มเติมทันที อีกกว่า 110,000 ราย รวมดำเนินการทั้งสิ้น 3 ครั้ง สามารถปลดหนี้ให้ลูกหนี้ได้แล้วกว่า 830,000 ราย คิดเป็นมูลค่าเงินต้นรวมกว่า 5,800 ล้านบาท ทั้งนี้ ขอขอบคุณรัฐบาลที่ได้สนับสนุนงบประมาณให้ดำเนินการดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลังที่ให้ธนาคารออมสินดำเนินงานโดยไม่เน้นกำไรสูงสุด มีกำไรในระดับที่เหมาะสม (Responsible Profit) และขยายการช่วยเหลือสังคมได้มากขึ้นในทุกมิติ อนึ่ง มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้สถานะ NPLs ของโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 ซึ่งเป็นการช่วยเหลือที่ดำเนินการเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เสียวินัยทางการเงิน โดยรัฐบาลมีนโยบายผลักดันการแก้ปัญหาหนี้ประชาชนทุกกลุ่มให้ประสบความสำเร็จและยั่งยืนเป็นวาระแห่งชาติ  

30 Oct 2024

Banner Banner Banner Banner

Banner
  ทิศทาง ceothailand.net ในปี 2567  “สื่อออนไลน์ CEO THAILAND”   ในปี 2567 จะเป็นปีที่ผม “นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์” จะมาทำหน้าที่บรรณาธิการบริหารสื่อ CEO THAILAND และผู้บริหารสื่อออนไลน์ ceothailand.net อย่างเต็มที่ หลังจากที่ผ่านมาได้ไปเดินแผนงานทางด้านการเมือง แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงการเลือกตั้งไปแล้วที่ผ่านมา จึงทำให้ช่วงเวลานี้มีเวลาที่จะมาวางแผนในการเดินหน้าธุรกิจสื่อได้มากขึ้น และในช่วงระยะเวลา 1-2 ปีนับจากนี้ จึงขอเข้ามารับหน้าที่สื่อมวลชน ในการเขียนบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ เรื่องราวในแวดวงเศรษฐกิจ-การเงิน และการประกันภัย ในฐานะของคอลัมนิสต์ ตลอดเวลาที่ผมเข้าไปทำงานทางการเมือง ต้องยอมรับว่าวงการข่าวและสื่อสารมวลชนเปลี่ยนไปเร็ว ตลอดเวลา 5 ปี  สื่อออนไลน์ที่รวดเร็วเข้ามาแทนที่สื่อหลักอย่างสื่อสิ่งพิมพ์ (ออฟไลน์)  เราต้องยอมรับในเรื่องความรวดเร็ว แต่ต้องไม่ลืมจุดด้อยของสื่อออนไลน์ คือข้อผิดพลาดในการกลั่นกรองข่าวสาร รวมทั้งบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ที่หายไป และข่าวที่ออกมามีความเหมือนกัน  ไม่แตกต่าง และเป็นเชิงภาพข่าว และกิจกรรมเท่านั้น ดังนั้นในปี 2567 นี้  ในหน้าสื่อออนไลน์ CEO THAILAND ท่านผู้อ่านจะได้สัมผัสกับข่าวสารเชิงวิเคราะห์ เจาะลึกแบบออนไลน์ต่อเนื่องในสื่อ CEO THAILAND รวมทั้งการจัดทำเป็น E-Magazine ใน www.ceothailand.net รวมทั้งการจัดทำเป็นรูปเล่มฉบับพิเศษสลับไปบ้างในเรื่องที่สำคัญๆ น่าสนใจ และเป็นประโยชน์กับประชาชนและสังคม ขอขอบพระคุณท่านลูกค้าและผู้สนับสนุนสื่อด้วยดีเสมอมา ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา และขอขอบพระคุณทุกท่าน รวมทั้งผู้อ่านที่ติดตามสื่อ CEO THAILAND ด้วยดีเสมอมาใน www.ceothailand.net   นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา) บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner