Responsive image

Tuesday, 01 Jul 2025

หน้าแรก > ECONOMY- FINANCE / เศรษฐกิจ - การเงิน


ทีเอ็มบีธนชาต รุกตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มที่มีความมั่งคั่งสูง มอบเอกสิทธิ์ขั้นสุด “ทีทีบี รีเซิร์ฟ” ครบทุกสิทธิประโยชน์ทางการเงิน การลงทุนและไลฟ์สไตล์

Sat 26/06/2564


ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เปิดตัวบริการใหม่ “ทีทีบี รีเซิร์ฟ” (ttb reserve) สำหรับลูกค้ากลุ่มที่มีความมั่งคั่งสูง ด้วยแนวคิดความสำเร็จต่อยอดได้ไม่มีที่สิ้นสุด ยกระดับบริการและเอกสิทธิ์ขั้นสุด พร้อมเปิดตัวบัตรเครดิต ttb reserve เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ได้แก่ ทีทีบี รีเซิร์ฟ วีซ่า อินฟินิท (ttb reserve visa infinite) และทีทีบี รีเซิร์ฟ วีซ่า ซิกเนเจอร์ (ttb reserve visa signature) ชูจุดเด่นเรื่องคะแนนสะสมที่ได้เร็วเหนือใคร โดยยังไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายผ่านบัตรและการนำคะแนนสะสมที่ได้รับไปต่อยอด เพื่อตอบโจทย์ทั้งด้านการเงิน การลงทุน และไลฟ์สไตล์ ที่สามารถเลือกสิทธิประโยชน์ได้ตามความสนใจ พร้อมส่งต่อความสำเร็จจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยการดูแลอย่างใกล้ชิดผ่านบริการที่ปรึกษาการเงินการลงทุนส่วนบุคคล เพื่อชีวิตทางการเงินดีขึ้นทั้งวันนี้และอนาคต

นายอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เปิดเผยว่า จากการรวมกิจการเป็นหนึ่งเดียวระหว่างทีเอ็มบีและธนชาต ภายใต้ชื่อ ทีเอ็มบีธนชาต ธนาคารไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ โดยยึดความต้องการและเป้าหมายของลูกค้าเป็นที่ตั้ง เพื่อทำให้ทุกช่วงชีวิตทางการเงินของลูกค้าดียิ่งขึ้น ซึ่งในวันนี้พร้อมแล้วที่จะสร้างความแตกต่าง โดยการยกระดับบริการ และมอบเอกสิทธิ์ใหม่ขั้นสูงสุด ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเฉพาะลูกค้ากลุ่มที่มีความมั่งคั่งสูงของทีเอ็มบีธนชาตที่ปัจจุบันมีรวมกว่า 80,000 ราย รวมถึงการนำเสนอให้กับลูกค้าใหม่ที่ให้ความสนใจ โดยบริการ ttb reserve จะตอบโจทย์ทั้งด้านการเงิน การลงทุนและไลฟ์สไตล์ ช่วยบริหารต่อยอดความมั่งคั่งผ่านผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย ครบวงจร ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญ และความคุ้มค่าแบบไม่มีที่สิ้นสุดผ่านบัตรเครดิต ttb reserve พร้อมสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นทุกการใช้จ่าย โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างฐานลูกค้าบัตรเครดิต ttb reserve จำนวน 30,000 ราย ในปี 2564

“ทีเอ็มบีธนชาต มีเป้าหมายที่จะทำให้ลูกค้าทุกกลุ่ม มีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งวันนี้และในอนาคต โดยมุ่งมั่นออกแบบโซลูชันทางการเงินที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ในแต่ละช่วงชีวิต พร้อมทั้งยกระดับบุคลากรของธนาคารเพื่อเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับลูกค้า ส่งมอบโซลูชันที่เหมาะสมและเพื่อให้ลูกค้าเลือกใช้เราเป็นธนาคารหลัก ด้วยสิทธิพิเศษที่เหมาะกับแต่ละบุคคล ซึ่ง ttb reserve เป็นบริการที่ตั้งใจพัฒนาขึ้นมาสำหรับลูกค้าที่มีความมั่งคั่งสูงโดยเฉพาะ” นายอนุวัติร์ กล่าว

 

นางณัฐวรรณ อภิรัตนพิมลชัย หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริหารกลุ่มลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า “บริการ ttb reserve ได้พัฒนาขึ้น จากการที่ธนาคารมีการตั้งคำถามอยู่เสมอว่าเราจะสร้างความแตกต่าง หรือความเปลี่ยนแปลงเพื่อทำให้ชีวิตทางการเงินของลูกค้าที่มีความมั่งคั่งสูงดีมากขึ้นได้อย่างไร จากข้อมูลของธนาคาร เราพบว่าลูกค้ายิ่งมีความมั่งคั่งสูง ยิ่งมีความต้องการผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายและซับซ้อนยิ่งขึ้น เราจึงเริ่มมีการศึกษา โดยการพูดคุยและทำความเข้าใจลูกค้า และพบว่าลูกค้ากลุ่มนี้ มีความต้องการโซลูชันทางการเงินที่จะมาช่วยตอบโจทย์ 2 เรื่องใหญ่ ๆ โดยขึ้นอยู่กับช่วงชีวิตเป็นสำคัญ คือ 1. กลุ่มผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จ ที่ต้องการสะสมความมั่งคั่ง (Wealth Accumulation) ให้เงินทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างต่อเนื่องไปถึงอนาคตจนถึงหลังเกษียณ 2. กลุ่มวัยเกษียณ ที่ต้องการรักษาความมั่งคั่งและส่งต่อความสำเร็จ (Wealth Preservation and Wealth Transfer) เพื่อรักษาคุณภาพชีวิตในปัจจุบันให้สามารถใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ที่ต้องการอย่างไร้กังวลและส่งต่ออย่างยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่น” 

“จากความต้องการดังกล่าว เราจึงได้ออกแบบให้บัตรเครดิต ttb reserve เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทั้งสองกลุ่ม โดยเน้นความสำคัญใน 4 ด้าน คือ 1) เป็นตัวแทนสถานะแห่งความสำเร็จ 2) เอกสิทธิ์เพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้าของธนาคาร 3) ตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ที่ต้องการ และที่สำคัญ คือ 4) บัตร ttb reserve ต้องช่วยเสริมและประสานโซลูชันทางการเงิน ระหว่างผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้ลูกค้าได้ประโยชน์ที่มากขึ้นและต่อยอดความมั่งคั่ง”

 

ด้าน นางสาวนันทพร ตั้งเจริญศิริ หัวหน้าบริหารการตลาดลูกค้าบุคคลและประสบการณ์ลูกค้า ทีเอ็มบีธนชาต ได้กล่าวถึง ความโดดเด่นของเอกสิทธิ์ใหม่ของบัตรเครดิต ttb reserve คือ ฟีเจอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเน้นการต่อยอดความมั่งคั่งแบบไม่มีที่สิ้นสุด ภายใต้แนวคิด “Earn Fast - Burn Smart” รับคะแนนที่ได้เร็วเหนือใคร แลกคะแนนคุ้มค่ากว่าใคร ครอบคลุมทั้งด้านการเงิน การลงทุน และไลฟ์สไตล์ ที่ลูกค้าสามารถเลือกได้เอง และใช้ได้จริง ได้แก่

1.รับคะแนนสะสมเร็วเหนือใคร รับคะแนนพิเศษรายปีสูงสุด 180,000 คะแนนทุกปี เมื่อมีเงินฝาก เงินลงทุน และ/หรือ ประกันชีวิตและประกันวินาศภัยตามที่ธนาคารกำหนด เพียงเปิดใช้งานบัตรลูกค้าจะได้รับคะแนนสะสมพิเศษนี้ โดยไม่ต้องมีการใช้จ่ายผ่านบัตร และสะสมคะแนนเพิ่มจากทุกการใช้จ่ายเพียง 10 บาท รับ 1 คะแนนทุกหมวด นอกจากนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดคะแนนสะสมได้เร็วยิ่งขึ้น ทุกการใช้จ่ายในหมวดโรงพยาบาลและช็อปออนไลน์ รับคะแนน 2 เท่า หรือเทียบเท่า 5 บาท เท่ากับ 1 คะแนน และพิเศษสุด กับการต่อยอดคะแนนสะสมแบบติดสปีดเมื่อใช้จ่ายหมวดประกันชีวิตที่ร่วมรายการ รับคะแนนสูงสุด 10 เท่า หรือเทียบเท่า 1 บาท เท่ากับ 1 คะแนน เพิ่มโอกาสรับคะแนนสะสม 1,000,000 คะแนนง่าย ๆ เพียงซื้อประกันชีวิตของทีเอ็มบีธนชาตด้วยบัตรเครดิต ttb reserve 1 ล้านบาทเท่านั้น

2.การแลกคะแนนที่คุ้มค่ากว่าใคร โดยใช้คะแนนแลกรับของกำนัลพิเศษ ผ่านแค็ตตาล็อก ttb reserve อาทิ แลกรับเครดิตเงินคืน 1,000 บาท เพียงใช้ 10,000 คะแนน หรือคุ้มค่ายิ่งขึ้นเมื่อแลกรับเครดิตเงินคืนเป็นมูลค่าหน่วยลงทุนได้ถึง 1,200 บาท สำหรับการซื้อกองทุนทุก ๆ 100,000 บาท หรือแลกรับส่วนลด 20% เพียงแลกคะแนนสะสมเท่ากับยอดซื้อประกันวินาศภัย ใช้คะแนนแลกส่วนลดสุดพิเศษที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ตลอดจนแลกรับของรางวัลที่คุ้มค่าอื่น ๆ อีกมากมายที่คัดสรรเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า

3.สิทธิประโยชน์ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตร ทั้งส่วนลดและบริการที่มอบความสะดวกมากมาย อาทิ ฟรีค่าธรรมเนียม การแปลงสกุลเงินตราต่างประเทศ 2.5%, สิทธิพิเศษ แบ่งชำระรายเดือน 0% นาน 6 เดือน สำหรับการซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ร่วมรายการ, รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 50% จากร้านอาหาร Fine Dining ชั้นนำ และส่วนลดพิเศษจากโรงพยาบาลชั้นนำในเครือ BDMS เป็นต้น

4.ต่อยอดความมั่งคั่งทางการเงินอย่างยั่งยืน ผ่านบริการที่ปรึกษาการเงินการลงทุนส่วนบุคคล เพื่อให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดียิ่งขึ้น พร้อมส่งต่อความสำเร็จจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ลูกค้าที่มีความมั่งคั่งสูงปัจจุบันของทั้งทีเอ็มบีและธนชาต จะได้รับการเรียนเชิญเพื่อร่วมสัมผัสบริการของ ttb reserve และสำหรับลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิต Absolute ของทีเอ็มบี และบัตรเครดิต Black Diamond และ Blue Diamond ของธนชาต ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด จะได้รับการอัปเกรดเป็นบัตรเครดิต ttb reserve โดยอัตโนมัติ ลูกค้าที่สนใจบริการ ttb reserve สามารถสอบถามรายละเอียด ได้ที่ ทีเอ็มบีธนชาต ทุกสาขา หรือ ttb reserve line 02 010 1428

 


Tags : ทีเอ็มบีธนชาต ทีทีบี รีเซิร์ฟ อนุวัติร์ เหลืองทวีกุล ณัฐวรรณ อภิรัตนพิมลชัย นันทพร ตั้งเจริญศิริ การเงินการลงทุน ทีทีบี ttb


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT HD เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568  

29 Jun 2025

...

  บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมออกบูทในงานมหกรรมจำหน่ายรถยนต์ครบวงจร FAST Auto Show Thailand 2025   ระหว่างวันที่ 2 – 6 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ฮอลล์ EH 102 - 103  ในงานนี้ บริษัทฯ ได้จัดเต็มโปรโมชันสุดพิเศษ โดยมอบส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยสูงสุด 23% สำหรับผู้ที่ซื้อกรมธรรม์ใหม่ภายในงาน โดยมีทีมงานรับประกันภัยพร้อมบริการให้คำปรึกษา และคำแนะนำเกี่ยวกับแผนประกันภัยที่เหมาะสมกับความคุ้มครองที่หลากหลาย โดยนอกจากประกันภัยรถยนต์แล้วยังมีประกันอัคคีภัย ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันภัยการเดินทาง ประกันภัยสุขภาพ ประกันภัยโรคมะเร็ง และประกันภัยอื่นๆ ที่ให้ความคุ้มครองรองรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า นอกจากนี้ ยังสามารถผ่อนชำระเบี้ยประกันภัย ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน หรือ 10 เดือนผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ พร้อมรับของที่ระลึกที่เตรียมไว้สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ  พบกับกรุงเทพประกันภัยได้ที่บูท B11 ณ ศูนย์ประชุมนิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา ฮอลล์ EH 102 - 103 ในวันที่ 2 - 6 กรกฎาคม 2568    

29 Jun 2025

...

กรุงเทพประกันชีวิต ขอส่งมอบความ “อุ่นใจ” กับแผนสุขภาพและเงินออม ที่ “ใส่ใจ”ทุกคนในครอบครัว ในงาน แฟร์ที่คุณพ่อคุณแม่ห้ามพลาด Amarin Baby & Kids Fair Midyear 2025 เตรียมยกทัพแบบประกันดี ๆ ที่ออกแบบมาด้วยความใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็น “กรุงเทพ สมาร์ท คิดส์” แบบประกันสะสมทรัพย์ที่ซื้อ 1 ได้ถึง 4 มั่นใจกับผลตอบแทนที่แน่นอน พร้อมความคุ้มครองด้านสุขภาพ ตอบโจทย์ทุกเป้าหมายในอนาคตเพื่อลูกน้อย “กรุงเทพ สุดคุ้ม” แผนการออมที่คุ้มค่า และหลากหลายแผนคุ้มครองที่มอบความอุ่นใจในทุกช่วงเวลาสำหรับครอบครัว ระหว่างวันที่ 26 – 29 มิถุนายน 2568 ที่บูท C7-C8 ฮอลล์ 104 ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการ ไบเทคบางนา  ภายในงานพบกับกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของลูกน้อย และรับฟังสาระดี ๆ กับเวทีเสวนาห้องเรียน พ่อแม่ ในวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน เวลา 13.30 น. โดย ผศ.ดร.ปนัดดา ธนเศรษฐกร ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวกและการส่งเสริมทักษะสมอง EF สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมผู้เชี่ยวชาญจากกรุงเทพประกันชีวิตที่จะมาแนะนำการวางแผนการเงินเพื่ออนาคตลูก และโปรโมชันสุดพิเศษมากมาย สิทธิพิเศษภายในบูท เพียงซื้อแบบประกันใดก็ได้ (ยกเว้นแบบประกันยูนิต ลิงค์) และชำระเบี้ยประกันภัยปีแรกแบบรายปี รับโปรโมชันพิเศษ 3 ต่อ!!! ต่อที่ 1 รับกระเป๋าช้อปปิ้ง Together We Care สุดชิค ทันที! ต่อที่ 2 รับบัตรกำนัลเซ็นทรัลทันทีภายในงาน มูลค่าสูงสุด 2,500 บาท และต่อที่ 3 รับบัตรกำนัลเซ็นทรัลเพิ่ม มูลค่าสูงสุด 12,000 บาท พร้อมสิทธิ์ลุ้นรางวัลรวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท เมื่อดาวน์โหลดแอป BLA Happy Life ลงทะเบียน และเข้าใช้งาน ภายในวันที่ 31 กรกฏาคมนี้  เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด    

26 Jun 2025

...

SME D Bank เคียงข้างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ทุ่ม 3,500 ล้านบาท ออก 2 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ ได้แก่ “Smile Biz ธุรกิจยิ้มได้ (2568)” และ “จิ๋วสุดแจ๋ว Plus” มุ่งเติมทุนครอบคลุมทุกกลุ่มเอสเอ็มอี นำไปใช้ลงทุน หมุนเวียน เสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ   ควบคู่ยกระดับพัฒนาครบวงจร ช่วยเสริมแกร่ง ยืนหยัดและปรับตัวได้ในช่วงสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัว   นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า ธนาคารมีความห่วงใยผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และคู่ค้าที่เป็น Supply Chain  ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จากความไม่แน่นอนของสงครามการค้า  การล้นทะลักของสินค้าจากต่างประเทศ สถานการณ์ภัยพิบัติ แผ่นดินไหว ส่งผลต่อความเชื่อมั่น รวมถึง ในภาคธุรกิจท่องเที่ยว และเกี่ยวเนื่องที่ได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ดังนั้น SME D Bank   จัดวงเงิน  3,500 ล้านบาท ออก 2 สินเชื่อใหม่ สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในภาคผลิต บริการ และค้าส่งค้าปลีก  ทั้งรายย่อย รายย่อม และรายกลาง ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน นำไปเสริมสภาพคล่องกิจการ สามารถรับมือและก้าวผ่านสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้เหมาะสมและทันท่วงที อีกทั้ง ช่วยรักษาการจ้างงานในภาคธุรกิจเอสเอ็มอี โดยมีจุดเด่นเงื่อนไขผ่อนปรนเปิดกว้าง ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน สามารถใช้ บสย.ค้ำประกันได้  ได้แก่ “สินเชื่อ Smile Biz ธุรกิจยิ้มได้ (2568)” วงเงิน 3,000 ล้านบาท และ “สินเชื่อรายย่อย จิ๋วสุดแจ๋ว Plus” วงเงิน 500 ล้านบาท   สำหรับ “สินเชื่อ Smile Biz ธุรกิจยิ้มได้ (2568)” สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดย่อม และขนาดกลาง ทั้งบุคคลธรรมดา นิติบุคคล ที่มีรายได้ต่อปีเกินกว่า 1.8 ล้านบาท แต่ขาดหลักประกันให้เข้าถึงแหล่งทุน นำไปเสริมสภาพคล่อง  ลงทุน ขยาย ปรับปรุง หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ  เงินทุนหมุนเวียน  วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย เริ่มต้น MLR -1%ต่อปี หรือประมาณ 6.25%ต่อปี (ปัจจุบัน MLR เท่ากับ 7.25%) ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ผ่อนนานสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ปลอดชําระคืนเงินต้นสูงสุด 6 เดือน เปิดรับคำขอกู้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2569 หรือจนกว่าวงเงินสินเชื่อโครงการจะหมด แล้วแต่อย่างหนึ่งอย่างใดจะถึงก่อน   และ “สินเชื่อรายย่อย จิ๋วสุดแจ๋ว Plus”  สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อย (MICRO) ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล ที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 1.8 ล้านบาท แต่ขาดหลักประกันให้เข้าถึงแหล่งทุน นำไปลงทุน ขยาย ปรับปรุง ปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ หรือหมุนเวียนเสริมสภาพคล่องในธุรกิจ   วงเงินกู้ขั้นต่ำ 1  แสนบาท สูงสุดไม่เกิน 5 แสนบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย เริ่มต้น MRR +5.35% ต่อปี หรือประมาณ 12.925% ต่อปี (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 7.575%) ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ผ่อนนานสูงสุดไม่เกิน 5 ปี เปิดรับคำขอกู้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569 หรือจนกว่าวงเงินสินเชื่อโครงการจะหมด แล้วแต่อย่างหนึ่งอย่างใดจะถึงก่อน “ทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ ครอบคลุมการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกกลุ่ม และทุกประเภทในภาคการผลิต บริการ ค้าปลีกและค้าส่ง ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง ร้านค้าออนไลน์  ธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง เช่น ร้านขายของฝาก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ฯลฯ เพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน  นำไปเสริมสภาพคล่อง  หรือมีไว้สำรองเป็นค่าใช้จ่าย ช่วยให้สามารถรับมือกับภาวะเศรษฐกิจได้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ธุรกิจยืนหยัดและปรับตัวได้” นายพิชิต กล่าวเสริม นอกจากนี้ SME D Bank ยังให้บริการด้านการพัฒนาธุรกิจครบวงจรควบคู่ด้วย ผ่านแพลตฟอร์ม DX by SME D Bank (dx.smebank.co.th) ใช้บริการได้สะดวกสบาย ตลอด 24 ชม. มีฟีเจอร์สำคัญ ๆ  เช่น ระบบ  “Business Health Check”  ตรวจสุขภาพทางธุรกิจ  ระบบ E-Learning รวบรวมหลักสูตรความรู้สำคัญ ช่วยเพิ่มศักยภาพการประกอบธุรกิจ เรียนรู้ได้ด้วยตัวเองตลอด 24 ชั่วโมง ระบบ SME D Activity จองเข้าร่วมกิจกรรมเติมความรู้ได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ระบบ SME D Coach มีโค้ชมืออาชีพคอยเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำธุรกิจ  ระบบ SME D Market ช่วยขยายตลาดด้วย E-marketplace หนุนจับคู่ธุรกิจ  และระบบ SME D Privilege  ที่มอบสิทธิประโยชน์พิเศษมากมาย เป็นต้น  ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถแจ้งความประสงค์เข้ารับบริการด้านการเงิน และการพัฒนาจาก SME D Bank ได้ผ่านสาขา SME D Bank ทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น LINE Official Account : SME Development Bank  และ www.smebank.co.th เป็นต้น  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

26 Jun 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner