Responsive image

Wednesday, 16 Jul 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


เมืองไทยประกันชีวิต จัดกิจกรรมสุดพิเศษผ่านโครงการ “Vaccine@Home” ฉีดวัคซีนที่บ้าน สำหรับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ

Sun 11/07/2564


นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทคำนึงถึงความสุขและประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญ พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการบริการอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กลยุทธ์ MTL Trusted Lifetime Partnerมุ่งมั่นในการเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าให้ความวางใจ พร้อมดูแลและเดินเคียงข้างในทุกช่วงของชีวิต ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการผ่านช่องทางการตลาดที่หลากหลาย ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุก Journey ในแบบที่มีความเฉพาะตัวของบุคคล (Personalization) มากยิ่งขึ้น ตลอดจนการสร้างสรรค์กิจกรรม สิทธิประโยชน์และแคมเปญต่างๆ ต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2564 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปี เมืองไทยประกันชีวิต

ทั้งนี้ เพื่อให้ตอบรับกับ Lifestyle ของลูกค้าในยุคปัจจุบัน ผ่าน “เมืองไทยสไมล์คลับ” ที่จะสร้างความสุขและรอยยิ้ม สำหรับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ ซึ่งสมาชิกฯ สามารถร่วมกิจกรรมแลกรับส่วนลด แลกรับสินค้า หรือแลกรับบริการผ่านแอปพลิเคชัน MTL Click ที่เมืองไทยสไมล์คลับจัดเตรียมเป็นพิเศษให้สมาชิกฯ สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ยังไม่คลี่คลาย รวมถึงการให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก และลดความเสี่ยงจากการเดินทางออกจากบ้านในช่วงสถานการณ์การดังกล่าว

ล่าสุด บริษัทฯ จึงได้จัดกิจกรรมสุดพิเศษผ่านโครงการ Vaccine@Home”  ซึ่งเป็นบริการฉีดวัคซีนที่บ้านให้กับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน โดยที่สมาชิกฯ ที่มีความประสงค์ ไม่ต้องเดินทางไปยังโรงพยาบาลเพื่อรับการฉีดวัคซีนดังนี้ วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์, วัคซีนป้องกันคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน, วัคซีนป้องกันปอดอักเสบ,วัคซีนป้องกันอีสุกอีใส, วัคซีนป้องกันงูสวัด และวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ซึ่งสิทธิพิเศษนี้สำหรับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับเท่านั้น เพียงใช้คะแนนสะสม Smile Point ก็สามารถแลกรับบริการฉีดวัคซีน    ที่บ้านได้ ภายใต้การให้บริการที่มีมาตรฐานของโรงพยาบาล รวมถึงเงื่อนไขที่กำหนดของโรงพยาบาลที่ร่วมโครงการ รายละเอียด ดังนี้

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

สมาชิกฯ ใช้คะแนนสะสม  680  Smile Points  แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ใช้คะแนนสะสม 900  Smile Points  แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันปอดอักเสบ (Pneumovax 23) ใช้คะแนนสะสม 1,300  Smile Points  แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันปอดอักเสบ (Prevnar 13) ใช้คะแนนสะสม 1,800 Smile Points  แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องอีสุกอีใส(2เข็ม) ใช้คะแนนสะสม 2,250  Smile Points  แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันงูสวัด ใช้คะแนนสะสม 2,500  Smile Points  แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก 2 เข็ม (Gardasil) ใช้คะแนนสะสม 3,700  Smile Points  แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก 3 เข็ม (Gardasil) และใช้คะแนนสะสม  530  Smile Points  แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์    โดยจะให้บริการเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ สำหรับผู้รับบริการที่อายุ 15 ปีขึ้นไป พร้อมรับฟรี JW Marriot Hotel x Bumrungrad High Tea Set มูลค่าใบละ 1,000 บาท (จำนวน 1 ใบ/รายการแลกคะแนน)

โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์

สมาชิกฯ ใช้คะแนนสะสม  440 Smile Points  แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ (สำหรับอายุ 15 ปีขึ้นไป) ใช้คะแนนสะสม 550 Smile Points แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ (สำหรับอายุต่ำกว่า 15 ปี) ใช้คะแนนสะสม 800 Smile Points แลกรับบริการฉีดวัคซีนปอดอักเสบ 23 สายพันธุ์ (สำหรับผู้มีอายุต่ำกว่า 60 ปี) และใช้คะแนนสะสม 1,200 Smile Points แลกรับบริการฉีดวัคซีนปอดอักเสบ 13 สายพันธุ์ (สำหรับผู้มีอายุ  60 ปีขึ้นไป) ซึ่งให้บริการเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และพื้นที่ปริมณฑล (ปทุมธานี, นนทบุรี และสมุทรปราการ)

โรงพยาบาลเวชธานี

สมาชิกฯ ใช้คะแนนสะสม 530 Smile Points แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์  ใช้คะแนนสะสม 800 Smile Points แลกรับ บริการฉีดวัคซีนปอดอักเสบ Pneumovax 23 สายพันธุ์ ใช้คะแนนสะสม 1,100 Smile Points แลกรับบริการฉีดวัคซีนปอดอักเสบ Prevnar 13 สายพันธุ์ ใช้คะแนนสะสม 3,200 Smile Points แลกรับบริการฉีดมะเร็งปากมดลูก Gardasai (ฉีด3เข็ม/ท่าน) โดยให้บริการเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ระยะทางไม่เกิน 15 กิโลเมตร จากโรงพยาบาล สำหรับผู้รับบริการที่อายุ 15 ปีขึ้นไป

โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิทและโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์

สมาชิกฯ ใช้คะแนนสะสม 530 Smile Points แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ (สำหรับ 1 ท่าน) ใช้คะแนนสะสม 730 Smile Points แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ (สำหรับ 2 ท่าน) ใช้คะแนนสะสม 930 Smile Points แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์(สำหรับ 3 ท่าน) ใช้คะแนนสะสม 1,200 Smile Points แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์(สำหรับ 4 ท่าน) โดยให้บริการเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ สำหรับผู้รับบริการที่อายุ 15 ปีขึ้นไป พิเศษ รับ Code ส่วนลดค่าบริการปรึกษาแพทย์ online 24 ชั่วโมงผ่าน Samitivej Virtual Hospital มูลค่า500 บาท (1 สิทธิ์/รายกาแลกคะแนน) กรณีต้องการฉีดเสริมสำหรับบ้านที่มีเด็กอายุ 6 เดือน - 15 ปี คิดค่าวัคซีน ราคาพิเศษ 890 บาท จากราคาปกติ 990 บาท และค่ากุมารแพทย์ สำหรับคนแรก 800 บาท คนต่อไป 500 บาท (ลูกค้าชำระค่าใช้จ่ายเอง)

สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ สามารถแลกแลกคะแนน Smile Point เพื่อรับสิทธิ์ผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน MTL Click ได้ตั้งแต่วันนี้ - 30 พฤศจิกายน 2564  แล้วนำรหัสรับสิทธิ์ที่ได้รับ ติดต่อนัดหมายเพื่อรับบริการกับโรงพยาบาลที่ร่วมโครงการ สมาชิกฯ ยังสามารถติดตามกิจกรรมและสิทธิประโยชน์สุดพิเศษอื่นๆ ได้ที่แอปพลิเคชัน MTL Click ได้ฟรีทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android หรือ  www.muangthai.co.th  ตลอดจนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 1766 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ศูนย์บริการลูกค้าทุกสาขาทั่วประเทศ

“จุดยืนในความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านการประกันชีวิตและสุขภาพของเราไม่ใช่แค่เข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร   แต่เราจะคิดเผื่อไปมากกว่านั้น และสิ่งที่เรานำมามอบให้แก่ลูกค้าไม่ใช่แค่เรื่องของประกัน การเคลม หรือการติดต่อตัวแทนประกันชีวิต แต่เป็นการดูแลลูกค้าผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ที่ถูกออกแบบโดยการคิดเผื่อรอบด้าน เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงความรู้สึกคุ้มค่ามากกว่าแค่คุ้มครอง ผ่านสิทธิประโยชน์ และกิจกรรมที่ตอบโจทย์ทุกช่วงของชีวิต ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ ยกระดับการใช้ชีวิตสู่ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ผ่านแอปพลิเคชัน MTL Click  ซึ่งทั้งหมดนี้เพื่อสร้างประสบการณ์ ความสุขและรอยยิ้มแทนคำขอบคุณลูกค้า โดยสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ตลอดทั้งปี” นายสาระ กล่าว

 


Tags : เมืองไทยประกันชีวิต สาระ ล่ำซำ เมืองไทยสไมล์คลับ ฉีดวัคซีนที่บ้าน สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank โดย นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT HD เมื่อเร็ว ๆ นี้      

14 Jul 2025

...

  นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เห็นชอบให้ธนาคารออมสินจัดทำมาตรการแก้ไขหนี้รายย่อยในโครงการของรัฐบาลที่ออกมาช่วยประชาชนในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อรายย่อยไม่มีหลักประกัน ที่มีสถานะหนี้เสีย (NPLs) จำนวนรวมกว่า 500,000 บัญชี ให้สามารถหลุดพ้นจากประวัติหนี้เสีย โดยธนาคารจะดำเนินการทันทีเพื่อที่ในอนาคตลูกหนี้จะมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้เร็วขึ้นเมื่อมีความจำเป็น โดยแบ่งการดำเนินการเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ดำเนินการปิดบัญชีหนี้ ตัดหนี้สูญ และไม่ติดตามหนี้ ของลูกหนี้ NPLs จำนวนกว่า 200,000 บัญชี ในโครงการสินเชื่อตามนโยบายรัฐที่ได้รับงบประมาณชดเชยแล้ว ระยะที่ 2 ธนาคารจะทยอยดำเนินการปิดบัญชีหนี้แก่ลูกหนี้ NPLs โครงการสินเชื่อสู้ภัย COVID-19 จำนวนกว่า 300,000 บัญชี ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2568 ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมาธนาคารได้จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยสำหรับมาตรการปลดหนี้สินเชื่อตามโครงการของรัฐบาลที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้แล้วเป็นจำนวนกว่า 1.3 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดหนี้รวมกว่า 11,000 ล้านบาท โดยธนาคารออมสินสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้รายย่อย และช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางให้สามารถประคับประคองสถานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวให้เดินต่อได้ มุ่งเน้นดำเนินการเพียงครั้งเดียวเพื่อไม่ให้ลูกหนี้ต้องเสียวินัยทางการเงิน และยังสามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินได้อีกในอนาคต  

07 Jul 2025

...

    สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้ปรับปรุงแนวทางการคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัยสำหรับสัญญาประกันภัยระยะสั้น พร้อมทั้งทบทวนหลักเกณฑ์การคำนวณเงินกองทุนด้านความเสี่ยง เพื่อยกระดับความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันภัยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยมุ่งเน้นการพิจารณาข้อมูลในระดับประเภทการรับประกันภัยแทนการพิจารณาภาพรวมทั้งบริษัท เพื่อให้การประเมินภาระผูกพันและการจัดสรรเงินกองทุนมีความละเอียด แม่นยำ และสอดคล้องกับลักษณะความเสี่ยงที่แท้จริงยิ่งขึ้น โดยระหว่างวันที่ 6-21 มีนาคม 2568 สำนักงาน คปภ. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจและผู้เกี่ยวข้อง และจัดการประชุมชี้แจงไปเมื่อวันที่ 10-11 มีนาคม 2568 รวมทั้งได้จัดการประชุมกลุ่มย่อยเชิงเทคนิค (Focus Group) เสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 เพื่อรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ทั้งนี้ ในการประชุมฯ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงประกาศที่เกี่ยวข้องกับสำรองเบี้ยประกันภัย ได้แก่ 1. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการส่งรายงานประจำปีการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันวินาศภัย 2. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการส่งรายงานประจำปีการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต และ 3. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดประเภทและชนิดของเงินกองทุน รวมทั้งหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคำนวณเงินกองทุนของบริษัทประกันวินาศภัย สำหรับหลักการที่ได้มีการปรับปรุง คือ ปรับปรุงวิธีการคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัย และเงินกองทุนสำหรับความเสี่ยงจากสำรองเบี้ยประกันภัย จากเดิม พิจารณาที่ระดับผลรวมทั้งหมดของสัญญาประกันภัยระยะสั้น เปลี่ยนเป็น พิจารณาที่ระดับประเภทการรับประกันภัย  ซึ่งสำนักงาน คปภ. จะเผยแพร่ประกาศอย่างเป็นทางการในลำดับถัดไป เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกำหนดในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ดังนั้น บริษัทประกันภัยและผู้ที่เกี่ยวข้อง ควรเตรียมความพร้อมในการดำเนินการ เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ใหม่ได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่วันเริ่มมีผลบังคับใช้

07 Jul 2025

...

  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  ร่วมงาน “มหกรรมการเงินหาดใหญ่” ครั้งที่ 15 (MONEY EXPO 2025 HATYAI) ระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคม 2568 ณ บูธ F3 หาดใหญ่ฮอลล์ ชั้น 5 เซ็นทรัล หาดใหญ่ จ.สงขลา ยกขบวนผลิตภัณฑ์สินเชื่อครอบคลุมทุกกลุ่ม ตอบโจทย์ทุกความต้องการผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไฮไลท์ คือ สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่มและทุกความต้องการเอสเอ็มอีไทย ควบคู่บริการพัฒนาธุรกิจ ผ่านแพลตฟอร์ม “DX by SME D Bank” (dx.smebank.co.th)   ช่วยเสริมศักยภาพกิจการ ครบถ้วนในจุดเดียว ห้ามพลาด! พิเศษเฉพาะภายในงาน เมื่อยื่นขอสินเชื่อ และได้รับอนุมัติทุกวงเงิน รับโปรโมชันเสริมอีก 2 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 : ลดค่าธรรมเนียมวิเคราะห์สินเชื่อ (Front End Fee) สูงสุด 0.25% และต่อที่ 2 : รับบัตรกำนัล มูลค่า 500 บาท พร้อมเล่นเกม ลุ้นรับของที่ระลึกมากมาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

03 Jul 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner