Responsive image

Tuesday, 30 Dec 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


เมืองไทยประกันชีวิต จัดกิจกรรมสุดพิเศษผ่านโครงการ “Vaccine@Home” ฉีดวัคซีนที่บ้าน สำหรับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ

Sun 11/07/2564


นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทคำนึงถึงความสุขและประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญ พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการบริการอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กลยุทธ์ MTL Trusted Lifetime Partnerมุ่งมั่นในการเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าให้ความวางใจ พร้อมดูแลและเดินเคียงข้างในทุกช่วงของชีวิต ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการผ่านช่องทางการตลาดที่หลากหลาย ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุก Journey ในแบบที่มีความเฉพาะตัวของบุคคล (Personalization) มากยิ่งขึ้น ตลอดจนการสร้างสรรค์กิจกรรม สิทธิประโยชน์และแคมเปญต่างๆ ต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2564 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปี เมืองไทยประกันชีวิต

ทั้งนี้ เพื่อให้ตอบรับกับ Lifestyle ของลูกค้าในยุคปัจจุบัน ผ่าน “เมืองไทยสไมล์คลับ” ที่จะสร้างความสุขและรอยยิ้ม สำหรับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ ซึ่งสมาชิกฯ สามารถร่วมกิจกรรมแลกรับส่วนลด แลกรับสินค้า หรือแลกรับบริการผ่านแอปพลิเคชัน MTL Click ที่เมืองไทยสไมล์คลับจัดเตรียมเป็นพิเศษให้สมาชิกฯ สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ยังไม่คลี่คลาย รวมถึงการให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก และลดความเสี่ยงจากการเดินทางออกจากบ้านในช่วงสถานการณ์การดังกล่าว

ล่าสุด บริษัทฯ จึงได้จัดกิจกรรมสุดพิเศษผ่านโครงการ Vaccine@Home”  ซึ่งเป็นบริการฉีดวัคซีนที่บ้านให้กับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน โดยที่สมาชิกฯ ที่มีความประสงค์ ไม่ต้องเดินทางไปยังโรงพยาบาลเพื่อรับการฉีดวัคซีนดังนี้ วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์, วัคซีนป้องกันคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน, วัคซีนป้องกันปอดอักเสบ,วัคซีนป้องกันอีสุกอีใส, วัคซีนป้องกันงูสวัด และวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ซึ่งสิทธิพิเศษนี้สำหรับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับเท่านั้น เพียงใช้คะแนนสะสม Smile Point ก็สามารถแลกรับบริการฉีดวัคซีน    ที่บ้านได้ ภายใต้การให้บริการที่มีมาตรฐานของโรงพยาบาล รวมถึงเงื่อนไขที่กำหนดของโรงพยาบาลที่ร่วมโครงการ รายละเอียด ดังนี้

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

สมาชิกฯ ใช้คะแนนสะสม  680  Smile Points  แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ใช้คะแนนสะสม 900  Smile Points  แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันปอดอักเสบ (Pneumovax 23) ใช้คะแนนสะสม 1,300  Smile Points  แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันปอดอักเสบ (Prevnar 13) ใช้คะแนนสะสม 1,800 Smile Points  แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องอีสุกอีใส(2เข็ม) ใช้คะแนนสะสม 2,250  Smile Points  แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันงูสวัด ใช้คะแนนสะสม 2,500  Smile Points  แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก 2 เข็ม (Gardasil) ใช้คะแนนสะสม 3,700  Smile Points  แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก 3 เข็ม (Gardasil) และใช้คะแนนสะสม  530  Smile Points  แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์    โดยจะให้บริการเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ สำหรับผู้รับบริการที่อายุ 15 ปีขึ้นไป พร้อมรับฟรี JW Marriot Hotel x Bumrungrad High Tea Set มูลค่าใบละ 1,000 บาท (จำนวน 1 ใบ/รายการแลกคะแนน)

โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์

สมาชิกฯ ใช้คะแนนสะสม  440 Smile Points  แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ (สำหรับอายุ 15 ปีขึ้นไป) ใช้คะแนนสะสม 550 Smile Points แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ (สำหรับอายุต่ำกว่า 15 ปี) ใช้คะแนนสะสม 800 Smile Points แลกรับบริการฉีดวัคซีนปอดอักเสบ 23 สายพันธุ์ (สำหรับผู้มีอายุต่ำกว่า 60 ปี) และใช้คะแนนสะสม 1,200 Smile Points แลกรับบริการฉีดวัคซีนปอดอักเสบ 13 สายพันธุ์ (สำหรับผู้มีอายุ  60 ปีขึ้นไป) ซึ่งให้บริการเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และพื้นที่ปริมณฑล (ปทุมธานี, นนทบุรี และสมุทรปราการ)

โรงพยาบาลเวชธานี

สมาชิกฯ ใช้คะแนนสะสม 530 Smile Points แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์  ใช้คะแนนสะสม 800 Smile Points แลกรับ บริการฉีดวัคซีนปอดอักเสบ Pneumovax 23 สายพันธุ์ ใช้คะแนนสะสม 1,100 Smile Points แลกรับบริการฉีดวัคซีนปอดอักเสบ Prevnar 13 สายพันธุ์ ใช้คะแนนสะสม 3,200 Smile Points แลกรับบริการฉีดมะเร็งปากมดลูก Gardasai (ฉีด3เข็ม/ท่าน) โดยให้บริการเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ระยะทางไม่เกิน 15 กิโลเมตร จากโรงพยาบาล สำหรับผู้รับบริการที่อายุ 15 ปีขึ้นไป

โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิทและโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์

สมาชิกฯ ใช้คะแนนสะสม 530 Smile Points แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ (สำหรับ 1 ท่าน) ใช้คะแนนสะสม 730 Smile Points แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ (สำหรับ 2 ท่าน) ใช้คะแนนสะสม 930 Smile Points แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์(สำหรับ 3 ท่าน) ใช้คะแนนสะสม 1,200 Smile Points แลกรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์(สำหรับ 4 ท่าน) โดยให้บริการเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ สำหรับผู้รับบริการที่อายุ 15 ปีขึ้นไป พิเศษ รับ Code ส่วนลดค่าบริการปรึกษาแพทย์ online 24 ชั่วโมงผ่าน Samitivej Virtual Hospital มูลค่า500 บาท (1 สิทธิ์/รายกาแลกคะแนน) กรณีต้องการฉีดเสริมสำหรับบ้านที่มีเด็กอายุ 6 เดือน - 15 ปี คิดค่าวัคซีน ราคาพิเศษ 890 บาท จากราคาปกติ 990 บาท และค่ากุมารแพทย์ สำหรับคนแรก 800 บาท คนต่อไป 500 บาท (ลูกค้าชำระค่าใช้จ่ายเอง)

สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ สามารถแลกแลกคะแนน Smile Point เพื่อรับสิทธิ์ผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน MTL Click ได้ตั้งแต่วันนี้ - 30 พฤศจิกายน 2564  แล้วนำรหัสรับสิทธิ์ที่ได้รับ ติดต่อนัดหมายเพื่อรับบริการกับโรงพยาบาลที่ร่วมโครงการ สมาชิกฯ ยังสามารถติดตามกิจกรรมและสิทธิประโยชน์สุดพิเศษอื่นๆ ได้ที่แอปพลิเคชัน MTL Click ได้ฟรีทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android หรือ  www.muangthai.co.th  ตลอดจนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 1766 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ศูนย์บริการลูกค้าทุกสาขาทั่วประเทศ

“จุดยืนในความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านการประกันชีวิตและสุขภาพของเราไม่ใช่แค่เข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร   แต่เราจะคิดเผื่อไปมากกว่านั้น และสิ่งที่เรานำมามอบให้แก่ลูกค้าไม่ใช่แค่เรื่องของประกัน การเคลม หรือการติดต่อตัวแทนประกันชีวิต แต่เป็นการดูแลลูกค้าผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ที่ถูกออกแบบโดยการคิดเผื่อรอบด้าน เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงความรู้สึกคุ้มค่ามากกว่าแค่คุ้มครอง ผ่านสิทธิประโยชน์ และกิจกรรมที่ตอบโจทย์ทุกช่วงของชีวิต ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ ยกระดับการใช้ชีวิตสู่ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ผ่านแอปพลิเคชัน MTL Click  ซึ่งทั้งหมดนี้เพื่อสร้างประสบการณ์ ความสุขและรอยยิ้มแทนคำขอบคุณลูกค้า โดยสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ตลอดทั้งปี” นายสาระ กล่าว

 


Tags : เมืองไทยประกันชีวิต สาระ ล่ำซำ เมืองไทยสไมล์คลับ ฉีดวัคซีนที่บ้าน สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น (SOE Awards) ประจำปี 2568 ให้แก่ธนาคารออมสิน โดยมีผู้แทนรับมอบรางวัลได้แก่ รศ.ดร. ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการธนาคารออมสิน พร้อมด้วย นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และผู้บริหาร ซึ่งเป็นปีที่ธนาคารออมสินได้รางวัลในระดับดีเด่นและเกียรติยศ ครบทั้ง 8 ประเภทรางวัลที่ธนาคารได้รับ จัดขึ้นโดยคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2568     นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในปี 2568 นี้ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. ได้พิจารณามอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นแก่ธนาคารออมสิน จำนวน 8 รางวัล ประกอบด้วย 1) รางวัลเกียรติยศรัฐวิสาหกิจยอดเยี่ยม ธนาคารได้รับเป็นปีที่ 3 ต่อเนื่อง โดยเป็นรางวัลที่มอบให้กับรัฐวิสาหกิจที่มีความโดดเด่นและมีมาตรฐานการดำเนินงานทุก ๆ ด้าน สามารถตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของประชาชน     2) รางวัลเกียรติยศคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจดีเด่น ได้รับเป็นปีที่ 3 ต่อเนื่อง จากการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ และผลักดันการบริหารงานให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี 3) รางวัลเกียรติยศการบริหารจัดการองค์กรดีเด่น ได้รับเป็นปีที่ 7 ต่อเนื่อง จากการรักษามาตรฐาน การบริหารจัดการเพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขัน พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำพาองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ   4) รางวัลผู้นำองค์กรดีเด่น ที่มอบให้แก่นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผลงานเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสิน 5) รางวัลการพัฒนาสู่รัฐวิสาหกิจดิจิทัล จากการสร้างสรรค์และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาองค์กร ในมิติต่าง ๆ พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล 6) รางวัลการพัฒนาสู่รัฐวิสาหกิจยั่งยืน จากการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นระบบ จนเกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม     7) รางวัลการดำเนินงานอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น โดยได้รับจากผลงานความสำเร็จของโครงการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบองค์รวม (Holistic Area-Based Development) - โครงการลิบงสุขใจ ออมสินพัฒนา อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 8) รางวัลความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมดีเด่น จากโครงการ GEN AI Branch Assistant : ผู้ช่วยสาขาอัจฉริยะ ที่ธนาคารพัฒนาขึ้นโดยการนำ AI มาใช้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการของสาขา   นับเป็นความภาคภูมิใจและเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของบุคลากรธนาคารออมสินทุกคนในการรักษามาตรฐานการบริหารจัดการองค์กรในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ภายใต้หลักธรรมาภิบาล โปร่งใส และการให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างสมดุล ควบคู่กับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ธนาคารเพื่อสังคม” เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกและความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจและสังคมไทยในระยะยาว    

26 Dec 2025

...

เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมมือกับ เอ ไลฟ์ (ALive Powered by AIA) โดยบริษัท เอไอเอ เวลเนส จำกัด ส่งความห่วงใยถึงคนไทยทั่วประเทศในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2569 มอบแคมเปญ “ฟรี!!! ประกันอุบัติเหตุ กรมธรรม์ประกันภัยอุ่นใจข้ามปี” โดยมอบกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่ (ไมโครอินชัวรันส์) ฟรีให้แก่ประชาชนทั่วไป ระยะเวลาคุ้มครองนาน 30 วัน ด้วยวงเงินคุ้มครองชีวิตสูงถึง 100,000 บาทต่อกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ พร้อมรับผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุตามจำนวนที่จ่ายจริงสูงสุด 5,000 บาท* เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีหลักประกันความคุ้มครองอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมเพิ่มความอุ่นใจสำหรับการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาเพื่อไปฉลองกับครอบครัว ซึ่งแคมเปญดังกล่าวยังเป็นการขานรับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) อีกทั้งยังสานต่อพันธกิจของเอไอเอที่ต้องการสนับสนุนให้ผู้คนกว่าพันล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives ทั้งนี้ สำหรับประชาชนทุกคนที่สนใจขอรับกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มฟรี สามารถลงทะเบียนรับสิทธิออนไลน์ได้ง่าย ๆ เพียงไปที่เว็บไซต์ https://aiathailand.info/panyPR  ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2568 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2569   หมายเหตุ: *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัท เอไอเอ เวลเนส จำกัด กำหนด

20 Dec 2025

...

รายงานข่าวจากธนาคารออมสิน ขอเชิญชวนผู้ประกอบการร้านค้า ประเภทบุคคลธรรมดา ที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” และยังไม่ได้ลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Smart Finance Upskill ขอให้เร่งสมัครผ่านเว็บไซต์ของธนาคารออมสิน www.gsb.or.th ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากขณะนี้เหลือเวลาเพียง 4 วันสุดท้าย ที่สามารถลงทะเบียนและเรียนให้จบหลักสูตร เพื่อรับสิทธิ์เงินสนับสนุนจากภาครัฐ นับจากวันที่พัฒนาทักษะสำเร็จจนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 สูงสุดไม่เกินรายละ 2,000 บาท หลักสูตร Smart Finance Upskill การพัฒนาความรู้ทางการเงินเพื่อร้านค้ารายย่อยโครงการคนละครึ่ง พลัสเป็นการเรียนออนไลน์กับธนาคารออมสิน ภายใต้โครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย ประเภทบุคคลธรรมดา มุ่งเสริมทักษะทางการเงินที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจ ครอบคลุมการทำบัญชี การคิดต้นทุน การตั้งราคาขาย และความรู้ก่อนยื่นขอกู้ ผู้ที่เรียนจบและผ่านเกณฑ์ จะได้รับประกาศนียบัตรและรับสิทธิ์เงินสนับสนุนจากภาครัฐตามเงื่อนไขที่กำหนด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Smart Finance Upskill และข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโครงการ Upskill/Reskill คนละครึ่ง พลัส ที่ GSB Contact Center โทร. 1115 กด 7

19 Dec 2025

...

ธ.ก.ส. เร่งให้ความช่วยเหลือทหาร และ ตชด. วีรบุรุษผู้เสียสละชีวิต จากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศไทย – กัมพูชา โดยให้ความช่วยเหลือกับทหาร และ ตชด. ที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. รวมถึงให้ความช่วยเหลือบิดา - มารดา หรือคู่สมรสที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ของวีรบุรุษผู้เสียสละชีวิต โดยยกหนี้ในส่วนของต้นเงินกู้ทุกสัญญา และยกหนี้ในส่วนของดอกเบี้ยทั้งจำนวน ภายใต้สัญญาที่ใช้แหล่งเงินทุน ธ.ก.ส. เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ลูกหนี้ และลดภาระให้สามารถดำรงชีพต่อไปได้อย่างมั่นคง นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชาได้กลับมาตึงเครียดในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี ตราด และสระแก้ว ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของเกษตรกรลูกค้าของธนาคาร โดยปัจจุบันมีทหารที่เป็นสมาชิกครอบครัวของลูกค้า ธ.ก.ส. เสียชีวิต และเพื่อให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ลูกค้า ธ.ก.ส. และเป็นการลดภาระเพื่อให้สามารถดำรงชีพต่อไปได้อย่างมั่นคง คณะกรรมการธนาคาร โดย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ ธ.ก.ส. ได้มีมติในการประชุมวันนี้ (9 ธันวาคม 2568) ให้ความช่วยเหลือลูกค้า กรณีทหาร หรือตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศไทย – กัมพูชา ที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. รวมถึงให้ความช่วยเหลือแก่บิดา มารดา หรือคู่สมรสที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ของวีรบุรุษผู้เสียสละชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยธนาคารจะยกหนี้ในส่วนของต้นเงินกู้ทุกสัญญา และยกหนี้ในส่วนของดอกเบี้ยค้างรับและดอกเบี้ยปรับทั้งจำนวน ภายใต้สัญญาที่ใช้แหล่งเงินทุน ธ.ก.ส. เป็นกรณีพิเศษ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้ให้ความช่วยเหลือครอบครัวทหารไปแล้ว จำนวน 7 ราย ธ.ก.ส. ขอแสดงความห่วงใยต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา คนข้างหลังไม่ต้องกังวล ธ.ก.ส. อยู่เคียงข้างและพร้อมก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ Call Center 02 555 0555 ตลอด 24 ชั่วโมง  

14 Dec 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner