Responsive image

Tuesday, 15 Jul 2025

หน้าแรก > BUSINESS-MARKETING-SME /ธุรกิจ-การตลาด-ขายตรง-เอสเอ็มอี


เคทีซีผนึกพันธมิตรธุรกิจ ร่วมบุกตลาดท่องเที่ยวไทยเต็มสตีม

Fri 29/10/2564


เคทีซีจัดงานเสวนาออนไลน์ “เคทีซีผนึกพันธมิตรธุรกิจ ร่วมบุกตลาดท่องเที่ยวไทยเต็มสตีม” โดยมีพันธมิตรผู้นำธุรกิจท่องเที่ยวเข้าร่วมพูดคุย เพื่อทราบถึงทิศทางและการเตรียมความพร้อมของธุรกิจท่องเที่ยวไทยรองรับการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว

นางสาวเจนจิต ลัดพลี ผู้อำนวยการ - การตลาดเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากพฤติกรรมในด้านการท่องเที่ยวของสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่เปลี่ยนแปลงไป มีความต้องการที่ชัดเจนและมีความคาดหวังกับการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น พร้อมที่จะจ่ายเงินจำนวนมากสำหรับการเดินทางที่เป็นส่วนตัวและขยายระยะเวลาของทริปให้ยาวนานขึ้น เพราะห่างหายจากการท่องเที่ยวมานาน จึงเกิดความโหยหาที่จะเดินทางท่องเที่ยว เคทีซีจึงได้เตรียมความพร้อมในเรื่องการให้บริการด้านการท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านบริการ KTC World Travel Service เพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ เคทีซียังได้จัดทำ Platform Domestic Travel Hub ภายใต้ concept หา เรื่อง เที่ยว เพื่อเป็นแหล่งรวม “เรื่องราว” “ประสบการณ์” และ “โปรโมชัน” ด้านการท่องเที่ยว อาทิ ที่พัก ตั๋วเครื่องบิน แพ็กเกจทัวร์ บัตรเข้าชมกิจกรรมต่างๆ รถเช่า และประกันภัยการเดินทาง โดยเน้นการเดินทางท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรอง รวมถึงชุมชนต่างๆ กว่า 40 พื้นที่ทั่วประเทศไทย ในส่วนของพันธมิตรธุรกิจ เคทีซีได้จัดแคมเปญ “เที่ยว อยู่ ได้” เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยทางเคทีซีให้การสนับสนุนด้านสื่อประชาสัมพันธ์ รวมถึงสิทธิประโยชน์ในด้านการส่งเสริมการขายอีกด้วย”

         

ายโชติช่วง ศูรางกูร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หนุ่มสาวทัวร์ จำกัด และอุปนายก สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า “ถึงแม้ภาพรวมของประเทศจะยังไม่พร้อม แต่ธุรกิจต้องพร้อมเสมอ ปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นในการเดินทางมากขึ้น เพราะเราผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว  ธุรกิจท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็น SME ก็จะขยับตัวได้คล่องแคล่ว สะท้อนถึงความมั่นใจในการกล้าลงทุนและพยายามเดินหน้าต่อไป โดยนักท่องเที่ยวจะเป็นกลุ่ม Medium-to-High End Market  ที่ต้องการความ Premium ในการท่องเที่ยวมากขึ้น ”

“การแข่งขันของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเริ่มปรับตัวสูงขึ้น หนุ่มสาวทัวร์จึงพร้อมสร้างความแตกต่าง ด้วยการสร้าง Value ที่ยั่งยืน อาทิ การศึกษาเข้าใจพฤติกรรมตลาด รู้ Insight ของลูกค้า เพื่อนำเสนอรายการที่โดนใจ เช่น ทัวร์วันเดย์ สำหรับคนที่ยังกล้าๆ กลัวๆ การออกไปเที่ยว ทัวร์ Silver age  และ Web-based app “NS Connect” ที่ให้บริการลูกค้าแบบเป็นดิจิตอลมากขึ้น นอกจากนี้ เรายังสร้าง Brand Trust เน้นความแตกต่างในตัวแบรนด์ เพิ่มคุณค่าและสร้างความเชื่อมั่น  รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อช่วยกันเสริมสร้างความแข็งแกร่งและขยายโอกาสทางธุรกิจ” 

นายปิ่นยศ พิบูลสงคราม  Head of Commercial สายการบินไทยเวียตเจ็ท กล่าวว่า “ในปัจจุบันสถานการณ์ของไทยเวียตเจ็ทเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ในตอนนี้ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ทำให้ตลาดนักท่องเที่ยวมีการตอบรับที่ดี และจากนโยบายที่ผ่อนปรนมากขึ้น ซึ่งทำให้เป็นผลดีต่อธุรกิจ ซึ่งจะเห็นได้จากยอดจองที่เพิ่มขึ้น และจำนวนผู้โดยสารอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยตัวเลขสูงกว่า 80% ซึ่งเป็นระดับที่สูงเกือบจะเท่ากับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19

สถานการณ์ปัจจุบัน การพัฒนาบริการ และการให้ประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้โดยสาร หรือ CUSTOMER EXPERIENCE เป็นเป้าหมายหลักของเรา โดยยึดหลักกลยุทธ์ทางธุรกิจ ดังนี้ 1) การปรับเปลี่ยนเครือข่ายและเส้นทางการบิน เพื่อตอบรับกับสถานการณ์ของตลาดในปัจจุบัน 2) การพัฒนาด้านนวัตกรรม เช่น ระบบคะแนนสะสม Loyalty Program : FunCoin การสร้างเครือข่ายการขนส่ง หรือ Cargo ในประเทศจีน และการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ และ 3) ความปลอดภัย โดยยึดหลักปฏิบัติตามกฎการเดินทางทางอากาศสากล และแนวทางความปลอดภัยด้านสุขอนามัย”

นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า   “สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรีเป็นตัวแทนภาคเอกชนทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของทุกสมาคมท่องเที่ยวในจังหวัด เพื่อประสานงานและขอความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) และสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา (ทกจ) โดยเรื่องหลักคือ เรื่องการเปิดเมืองพัทยา การจัดกิจกรรม และโปรโมชันต่างๆ เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังจังหวัดชลบุรี”

“ปัจจุบันปริมาณนักท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้ามาจังหวัดชลบุรีเพิ่มมากขึ้นประมาณ 30-40% สำหรับในวันหยุด เช่น วันเสาร์จะมีอัตราการเข้าพักเพิ่มเป็น 60% และ 80% สำหรับวันหยุดยาว (Long Weekend)  อย่างไรก็ตาม จำนวนโรงแรมในจังหวัดที่เปิดให้บริการแล้วมีเพียง 30-40% ซึ่งโรงแรมขนาดเล็กส่วนใหญ่ยังคงปิดกิจการอยู่ สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติยังมีจำนวนน้อยมากประมาณ 2-3% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนวิกฤตโควิด-19 (ปกติช่วง high season เรามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือนละประมาณ 1 ล้านคน) ทั้งนี้เนื่องจากปัญหาอุปสรรคต่างๆ อาทิ การขอ COE (Certificate of Entry) การตรวจ RT PCR หลายครั้ง รวมถึงข้อบังคับเรื่องการซื้อประกัน ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้สึกว่าการเดินทางมาประเทศไทยมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก เบื้องต้นถึงแม้ไทยจะสามารถเปิดประเทศได้ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 แต่ภาคเอกชนคาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังคงเข้ามาไม่มากนัก สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวไทย ผู้ประกอบการคงต้องจับมือกับพันธมิตรออกโปรโมชันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงโครงการของภาครัฐ เช่น เราเที่ยวด้วยกัน หรือ การสนับสนุนงบประมาณด้านการตลาดจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็ยังมีความจำเป็น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในประเทศ”  

    

นายวุฒิชัย เหลืองอมรเลิศ นายกสมาคมสวนสนุกและสวนพักผ่อนหย่อนใจแห่งประเทศไทย (TAPA) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามพาร์คซิตี้ จำกัด ผู้บริหารสวนน้ำ สวนสนุก สยาม อะเมซิ่งพาร์ค “สวนสยาม” กล่าวว่า “ภาพรวมของสวนสนุกทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่มีตลาดใหญ่ๆ ภายในประเทศ เช่น  สหรัฐอเมริกา  ยุโรป หรือ จีน  จะมีการเติบโตเพิ่มขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวในประเทศโดยไม่ต้องมีการกักตัวซึ่งต่างจาการเดินทางระหว่างประเทศ  เมื่อ Travel Restrictions หรือข้อจำกัดการเดินทางน้อยลง   การท่องเที่ยวก็มีแนวโน้มที่จะกลับสู่สภาวะปกติได้ในปี  2566 

สำหรับสยาม อะเมซิ่งพาร์ค (สวนสยาม) ตั้งแต่ปี 2563 เราได้มีการปรับตัวอยู่ตลอด เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินการต่อไปได้  เช่น การเปิดจำหน่ายบัตรล่วงหน้าราคาพิเศษ การขายบัตรออนไลน์  การเพิ่มช่องทางการชำระเงินแบบ  e-payment   และมีบริการอื่นๆ เพิ่มเติม   การร่วมมือกับพันธมิตรเช่น เคทีซี ในการขยายฐานกลุ่มลูกค้า การลดค่าใช้จ่าย  รวมถึงการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ได้แก่  โครงการ  Bangkok World  แหล่งชิม ช้อป เที่ยว ที่เดียว แบบ One Stop Service ที่กำลังดำเนินการอยู่ นอกจากนี้  ยังได้มีการนำเทคโนโ ลยีหรือแพลตฟอร์มต่างๆ  เข้ามา เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและรองรับพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป”

นายอติรัตน์ ด่านภัทรวรวัฒน์ เจ้าของแพ 500 ไร่ และนายกสมาคมการค้าธุรกิจที่พักบูติกไทยกล่าวว่า “ภาพรวมของที่พักโรงแรมบูติกไทย มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นเกือบเทียบเท่าช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งโรงแรมบูติกที่คนไทยนิยม พื้นที่ภาคเหนือ ได้แก่ น่าน เชียงคาน เชียงราย แม่ฮ่องสอน และพะเยา พื้นที่ภาคตะวันตก ได้แก่ หัวหินและปราณบุรี พื้นที่ภาคตะวันออก ได้แก่ บ้านกรูดและตราด และพื้นที่ภาคใต้  ได้แก่ เชี่ยวหลาน ขนอม และสิชล โดยคาดว่าโรงแรมบูติกไทยจะมีทิศทางที่ดีขึ้น เพราะตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ ที่ต้องการประสบการณ์และแสวงหาความแปลกใหม่ สำหรับภารกิจหลักของสมาคมการค้าธุรกิจที่พักบูติกไทยในตอนนี้ คือ การเร่งปรับแก้กฎ ระเบียบ ที่เป็นข้อจำกัดต่อที่พักขนาดเล็กและกลาง รวมถึงที่พักบูติกให้สามารถเข้าถึงทุนและการส่งเสริมสนับสนุนจากภาครัฐ สำหรับในส่วนของแพ 500ไร่ ได้มีการปรับกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเน้นการปรับจากพื้นฐานภายใน เช่น ต้นทุน รูปแบบบริการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ตามกระแส รวมถึงสร้างความมั่นใจในด้านสุขอนามัย”


Tags : เคทีซี KTC ตลาดท่องเที่ยวไทย บัตรกรุงไทย


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank โดย นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT HD เมื่อเร็ว ๆ นี้      

14 Jul 2025

...

  นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เห็นชอบให้ธนาคารออมสินจัดทำมาตรการแก้ไขหนี้รายย่อยในโครงการของรัฐบาลที่ออกมาช่วยประชาชนในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อรายย่อยไม่มีหลักประกัน ที่มีสถานะหนี้เสีย (NPLs) จำนวนรวมกว่า 500,000 บัญชี ให้สามารถหลุดพ้นจากประวัติหนี้เสีย โดยธนาคารจะดำเนินการทันทีเพื่อที่ในอนาคตลูกหนี้จะมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้เร็วขึ้นเมื่อมีความจำเป็น โดยแบ่งการดำเนินการเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ดำเนินการปิดบัญชีหนี้ ตัดหนี้สูญ และไม่ติดตามหนี้ ของลูกหนี้ NPLs จำนวนกว่า 200,000 บัญชี ในโครงการสินเชื่อตามนโยบายรัฐที่ได้รับงบประมาณชดเชยแล้ว ระยะที่ 2 ธนาคารจะทยอยดำเนินการปิดบัญชีหนี้แก่ลูกหนี้ NPLs โครงการสินเชื่อสู้ภัย COVID-19 จำนวนกว่า 300,000 บัญชี ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2568 ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมาธนาคารได้จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยสำหรับมาตรการปลดหนี้สินเชื่อตามโครงการของรัฐบาลที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้แล้วเป็นจำนวนกว่า 1.3 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดหนี้รวมกว่า 11,000 ล้านบาท โดยธนาคารออมสินสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้รายย่อย และช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางให้สามารถประคับประคองสถานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวให้เดินต่อได้ มุ่งเน้นดำเนินการเพียงครั้งเดียวเพื่อไม่ให้ลูกหนี้ต้องเสียวินัยทางการเงิน และยังสามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินได้อีกในอนาคต  

07 Jul 2025

...

    สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้ปรับปรุงแนวทางการคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัยสำหรับสัญญาประกันภัยระยะสั้น พร้อมทั้งทบทวนหลักเกณฑ์การคำนวณเงินกองทุนด้านความเสี่ยง เพื่อยกระดับความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันภัยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยมุ่งเน้นการพิจารณาข้อมูลในระดับประเภทการรับประกันภัยแทนการพิจารณาภาพรวมทั้งบริษัท เพื่อให้การประเมินภาระผูกพันและการจัดสรรเงินกองทุนมีความละเอียด แม่นยำ และสอดคล้องกับลักษณะความเสี่ยงที่แท้จริงยิ่งขึ้น โดยระหว่างวันที่ 6-21 มีนาคม 2568 สำนักงาน คปภ. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจและผู้เกี่ยวข้อง และจัดการประชุมชี้แจงไปเมื่อวันที่ 10-11 มีนาคม 2568 รวมทั้งได้จัดการประชุมกลุ่มย่อยเชิงเทคนิค (Focus Group) เสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 เพื่อรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ทั้งนี้ ในการประชุมฯ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงประกาศที่เกี่ยวข้องกับสำรองเบี้ยประกันภัย ได้แก่ 1. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการส่งรายงานประจำปีการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันวินาศภัย 2. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการส่งรายงานประจำปีการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต และ 3. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดประเภทและชนิดของเงินกองทุน รวมทั้งหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคำนวณเงินกองทุนของบริษัทประกันวินาศภัย สำหรับหลักการที่ได้มีการปรับปรุง คือ ปรับปรุงวิธีการคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัย และเงินกองทุนสำหรับความเสี่ยงจากสำรองเบี้ยประกันภัย จากเดิม พิจารณาที่ระดับผลรวมทั้งหมดของสัญญาประกันภัยระยะสั้น เปลี่ยนเป็น พิจารณาที่ระดับประเภทการรับประกันภัย  ซึ่งสำนักงาน คปภ. จะเผยแพร่ประกาศอย่างเป็นทางการในลำดับถัดไป เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกำหนดในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ดังนั้น บริษัทประกันภัยและผู้ที่เกี่ยวข้อง ควรเตรียมความพร้อมในการดำเนินการ เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ใหม่ได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่วันเริ่มมีผลบังคับใช้

07 Jul 2025

...

  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  ร่วมงาน “มหกรรมการเงินหาดใหญ่” ครั้งที่ 15 (MONEY EXPO 2025 HATYAI) ระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคม 2568 ณ บูธ F3 หาดใหญ่ฮอลล์ ชั้น 5 เซ็นทรัล หาดใหญ่ จ.สงขลา ยกขบวนผลิตภัณฑ์สินเชื่อครอบคลุมทุกกลุ่ม ตอบโจทย์ทุกความต้องการผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไฮไลท์ คือ สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่มและทุกความต้องการเอสเอ็มอีไทย ควบคู่บริการพัฒนาธุรกิจ ผ่านแพลตฟอร์ม “DX by SME D Bank” (dx.smebank.co.th)   ช่วยเสริมศักยภาพกิจการ ครบถ้วนในจุดเดียว ห้ามพลาด! พิเศษเฉพาะภายในงาน เมื่อยื่นขอสินเชื่อ และได้รับอนุมัติทุกวงเงิน รับโปรโมชันเสริมอีก 2 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 : ลดค่าธรรมเนียมวิเคราะห์สินเชื่อ (Front End Fee) สูงสุด 0.25% และต่อที่ 2 : รับบัตรกำนัล มูลค่า 500 บาท พร้อมเล่นเกม ลุ้นรับของที่ระลึกมากมาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

03 Jul 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner