Responsive image

Friday, 29 Nov 2024

หน้าแรก > BUSINESS-MARKETING/ธุรกิจ-การตลาด-ขายตรง-SME


เคทีซีผนึกพันธมิตรธุรกิจ ร่วมบุกตลาดท่องเที่ยวไทยเต็มสตีม

Fri 29/10/2564


เคทีซีจัดงานเสวนาออนไลน์ “เคทีซีผนึกพันธมิตรธุรกิจ ร่วมบุกตลาดท่องเที่ยวไทยเต็มสตีม” โดยมีพันธมิตรผู้นำธุรกิจท่องเที่ยวเข้าร่วมพูดคุย เพื่อทราบถึงทิศทางและการเตรียมความพร้อมของธุรกิจท่องเที่ยวไทยรองรับการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว

นางสาวเจนจิต ลัดพลี ผู้อำนวยการ - การตลาดเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากพฤติกรรมในด้านการท่องเที่ยวของสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่เปลี่ยนแปลงไป มีความต้องการที่ชัดเจนและมีความคาดหวังกับการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น พร้อมที่จะจ่ายเงินจำนวนมากสำหรับการเดินทางที่เป็นส่วนตัวและขยายระยะเวลาของทริปให้ยาวนานขึ้น เพราะห่างหายจากการท่องเที่ยวมานาน จึงเกิดความโหยหาที่จะเดินทางท่องเที่ยว เคทีซีจึงได้เตรียมความพร้อมในเรื่องการให้บริการด้านการท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านบริการ KTC World Travel Service เพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ เคทีซียังได้จัดทำ Platform Domestic Travel Hub ภายใต้ concept หา เรื่อง เที่ยว เพื่อเป็นแหล่งรวม “เรื่องราว” “ประสบการณ์” และ “โปรโมชัน” ด้านการท่องเที่ยว อาทิ ที่พัก ตั๋วเครื่องบิน แพ็กเกจทัวร์ บัตรเข้าชมกิจกรรมต่างๆ รถเช่า และประกันภัยการเดินทาง โดยเน้นการเดินทางท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรอง รวมถึงชุมชนต่างๆ กว่า 40 พื้นที่ทั่วประเทศไทย ในส่วนของพันธมิตรธุรกิจ เคทีซีได้จัดแคมเปญ “เที่ยว อยู่ ได้” เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยทางเคทีซีให้การสนับสนุนด้านสื่อประชาสัมพันธ์ รวมถึงสิทธิประโยชน์ในด้านการส่งเสริมการขายอีกด้วย”

         

ายโชติช่วง ศูรางกูร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หนุ่มสาวทัวร์ จำกัด และอุปนายก สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า “ถึงแม้ภาพรวมของประเทศจะยังไม่พร้อม แต่ธุรกิจต้องพร้อมเสมอ ปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นในการเดินทางมากขึ้น เพราะเราผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว  ธุรกิจท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็น SME ก็จะขยับตัวได้คล่องแคล่ว สะท้อนถึงความมั่นใจในการกล้าลงทุนและพยายามเดินหน้าต่อไป โดยนักท่องเที่ยวจะเป็นกลุ่ม Medium-to-High End Market  ที่ต้องการความ Premium ในการท่องเที่ยวมากขึ้น ”

“การแข่งขันของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเริ่มปรับตัวสูงขึ้น หนุ่มสาวทัวร์จึงพร้อมสร้างความแตกต่าง ด้วยการสร้าง Value ที่ยั่งยืน อาทิ การศึกษาเข้าใจพฤติกรรมตลาด รู้ Insight ของลูกค้า เพื่อนำเสนอรายการที่โดนใจ เช่น ทัวร์วันเดย์ สำหรับคนที่ยังกล้าๆ กลัวๆ การออกไปเที่ยว ทัวร์ Silver age  และ Web-based app “NS Connect” ที่ให้บริการลูกค้าแบบเป็นดิจิตอลมากขึ้น นอกจากนี้ เรายังสร้าง Brand Trust เน้นความแตกต่างในตัวแบรนด์ เพิ่มคุณค่าและสร้างความเชื่อมั่น  รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อช่วยกันเสริมสร้างความแข็งแกร่งและขยายโอกาสทางธุรกิจ” 

นายปิ่นยศ พิบูลสงคราม  Head of Commercial สายการบินไทยเวียตเจ็ท กล่าวว่า “ในปัจจุบันสถานการณ์ของไทยเวียตเจ็ทเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ในตอนนี้ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ทำให้ตลาดนักท่องเที่ยวมีการตอบรับที่ดี และจากนโยบายที่ผ่อนปรนมากขึ้น ซึ่งทำให้เป็นผลดีต่อธุรกิจ ซึ่งจะเห็นได้จากยอดจองที่เพิ่มขึ้น และจำนวนผู้โดยสารอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยตัวเลขสูงกว่า 80% ซึ่งเป็นระดับที่สูงเกือบจะเท่ากับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19

สถานการณ์ปัจจุบัน การพัฒนาบริการ และการให้ประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้โดยสาร หรือ CUSTOMER EXPERIENCE เป็นเป้าหมายหลักของเรา โดยยึดหลักกลยุทธ์ทางธุรกิจ ดังนี้ 1) การปรับเปลี่ยนเครือข่ายและเส้นทางการบิน เพื่อตอบรับกับสถานการณ์ของตลาดในปัจจุบัน 2) การพัฒนาด้านนวัตกรรม เช่น ระบบคะแนนสะสม Loyalty Program : FunCoin การสร้างเครือข่ายการขนส่ง หรือ Cargo ในประเทศจีน และการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ และ 3) ความปลอดภัย โดยยึดหลักปฏิบัติตามกฎการเดินทางทางอากาศสากล และแนวทางความปลอดภัยด้านสุขอนามัย”

นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า   “สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรีเป็นตัวแทนภาคเอกชนทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของทุกสมาคมท่องเที่ยวในจังหวัด เพื่อประสานงานและขอความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) และสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา (ทกจ) โดยเรื่องหลักคือ เรื่องการเปิดเมืองพัทยา การจัดกิจกรรม และโปรโมชันต่างๆ เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังจังหวัดชลบุรี”

“ปัจจุบันปริมาณนักท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้ามาจังหวัดชลบุรีเพิ่มมากขึ้นประมาณ 30-40% สำหรับในวันหยุด เช่น วันเสาร์จะมีอัตราการเข้าพักเพิ่มเป็น 60% และ 80% สำหรับวันหยุดยาว (Long Weekend)  อย่างไรก็ตาม จำนวนโรงแรมในจังหวัดที่เปิดให้บริการแล้วมีเพียง 30-40% ซึ่งโรงแรมขนาดเล็กส่วนใหญ่ยังคงปิดกิจการอยู่ สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติยังมีจำนวนน้อยมากประมาณ 2-3% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนวิกฤตโควิด-19 (ปกติช่วง high season เรามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือนละประมาณ 1 ล้านคน) ทั้งนี้เนื่องจากปัญหาอุปสรรคต่างๆ อาทิ การขอ COE (Certificate of Entry) การตรวจ RT PCR หลายครั้ง รวมถึงข้อบังคับเรื่องการซื้อประกัน ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้สึกว่าการเดินทางมาประเทศไทยมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก เบื้องต้นถึงแม้ไทยจะสามารถเปิดประเทศได้ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 แต่ภาคเอกชนคาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังคงเข้ามาไม่มากนัก สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวไทย ผู้ประกอบการคงต้องจับมือกับพันธมิตรออกโปรโมชันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงโครงการของภาครัฐ เช่น เราเที่ยวด้วยกัน หรือ การสนับสนุนงบประมาณด้านการตลาดจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็ยังมีความจำเป็น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในประเทศ”  

    

นายวุฒิชัย เหลืองอมรเลิศ นายกสมาคมสวนสนุกและสวนพักผ่อนหย่อนใจแห่งประเทศไทย (TAPA) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามพาร์คซิตี้ จำกัด ผู้บริหารสวนน้ำ สวนสนุก สยาม อะเมซิ่งพาร์ค “สวนสยาม” กล่าวว่า “ภาพรวมของสวนสนุกทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่มีตลาดใหญ่ๆ ภายในประเทศ เช่น  สหรัฐอเมริกา  ยุโรป หรือ จีน  จะมีการเติบโตเพิ่มขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวในประเทศโดยไม่ต้องมีการกักตัวซึ่งต่างจาการเดินทางระหว่างประเทศ  เมื่อ Travel Restrictions หรือข้อจำกัดการเดินทางน้อยลง   การท่องเที่ยวก็มีแนวโน้มที่จะกลับสู่สภาวะปกติได้ในปี  2566 

สำหรับสยาม อะเมซิ่งพาร์ค (สวนสยาม) ตั้งแต่ปี 2563 เราได้มีการปรับตัวอยู่ตลอด เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินการต่อไปได้  เช่น การเปิดจำหน่ายบัตรล่วงหน้าราคาพิเศษ การขายบัตรออนไลน์  การเพิ่มช่องทางการชำระเงินแบบ  e-payment   และมีบริการอื่นๆ เพิ่มเติม   การร่วมมือกับพันธมิตรเช่น เคทีซี ในการขยายฐานกลุ่มลูกค้า การลดค่าใช้จ่าย  รวมถึงการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ได้แก่  โครงการ  Bangkok World  แหล่งชิม ช้อป เที่ยว ที่เดียว แบบ One Stop Service ที่กำลังดำเนินการอยู่ นอกจากนี้  ยังได้มีการนำเทคโนโ ลยีหรือแพลตฟอร์มต่างๆ  เข้ามา เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและรองรับพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป”

นายอติรัตน์ ด่านภัทรวรวัฒน์ เจ้าของแพ 500 ไร่ และนายกสมาคมการค้าธุรกิจที่พักบูติกไทยกล่าวว่า “ภาพรวมของที่พักโรงแรมบูติกไทย มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นเกือบเทียบเท่าช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งโรงแรมบูติกที่คนไทยนิยม พื้นที่ภาคเหนือ ได้แก่ น่าน เชียงคาน เชียงราย แม่ฮ่องสอน และพะเยา พื้นที่ภาคตะวันตก ได้แก่ หัวหินและปราณบุรี พื้นที่ภาคตะวันออก ได้แก่ บ้านกรูดและตราด และพื้นที่ภาคใต้  ได้แก่ เชี่ยวหลาน ขนอม และสิชล โดยคาดว่าโรงแรมบูติกไทยจะมีทิศทางที่ดีขึ้น เพราะตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ ที่ต้องการประสบการณ์และแสวงหาความแปลกใหม่ สำหรับภารกิจหลักของสมาคมการค้าธุรกิจที่พักบูติกไทยในตอนนี้ คือ การเร่งปรับแก้กฎ ระเบียบ ที่เป็นข้อจำกัดต่อที่พักขนาดเล็กและกลาง รวมถึงที่พักบูติกให้สามารถเข้าถึงทุนและการส่งเสริมสนับสนุนจากภาครัฐ สำหรับในส่วนของแพ 500ไร่ ได้มีการปรับกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเน้นการปรับจากพื้นฐานภายใน เช่น ต้นทุน รูปแบบบริการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ตามกระแส รวมถึงสร้างความมั่นใจในด้านสุขอนามัย”


Tags : เคทีซี KTC ตลาดท่องเที่ยวไทย บัตรกรุงไทย


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิต โดยเมืองไทยสไมล์คลับ เดินหน้าคัดสรรประสบการณ์แห่งการดูแล การสร้างสรรค์กิจกรรม และสิทธิประโยชน์ที่ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของสมาชิกฯ ทุกระดับ เพื่อตอกย้ำการส่งมอบความสุขและรอยยิ้ม ให้สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับอย่างต่อเนื่อง  ทั้งนี้เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี เมืองไทยสไมล์คลับ จึงได้จัดแคมเปญ “สุขหลายต่อ แจกจัดเต็ม” เพื่อเป็นการขอบคุณด้วยการส่งมอบความสุขให้กับสมาชิกคนสำคัญแบบจัดเต็ม และสามารถแลกรับสิทธิ์จากร้านค้าที่ร่วมแคมเปญได้ง่าย ๆ ผ่านทาง  MTL Click Application  โดยแคมเปญแห่งความสุขนี้ประกอบด้วย สุขหลายต่อ ทุกวันที่แดรี่ควีน ต่อที่ 1: รับฟรีซันเด สตรอว์เบอรี่ หรือช็อกโกแลต 1 ถ้วย ราคา 32 บาท (รับสิทธิ์ได้ทุกวัน 1สิทธิ์ / 1 ท่าน / 1 วัน) ต่อที่ 2 : รับฟรีส่วนลด 30 บาท สำหรับซื้อสินค้าที่แดรี่ควีน ยกเว้นน้ำดื่ม และน้ำอัดลม (รับสิทธิ์ได้ทุกวัน    1 สิทธิ์ / 1 ท่าน / 1 วัน)  ระยะเวลาแลกรับสิทธิ์ 1 พฤศจิกายน 2567 - 31 ธันวาคม 2567 (ใช้รหัสภายใน 60 นาที) สงวนสิทธิ์จำนวนรวม 8,000 สิทธิ์ตลอดโครงการ สุขหลายต่อ ทุกวันช้อปผ่าน Lazada สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับใช้คะแนนสะสม 20 คะแนน แลกรับส่วนลดมูลค่า 100 บาท (รับสิทธิ์ได้ทุกวัน 5 สิทธิ์ / 1 ท่าน / 1 วัน) เฉพาะการช้อปผ่าน Lazada Application หรือ lazada.co.th/   ระยะเวลาแลกรับสิทธิ์ 14 พฤศจิกายน 2567 - 31 ธันวาคม 2567 สงวนสิทธิ์จำนวน 1,000 สิทธิ์ตลอดโครงการ สามารถเก็บรหัสรับสิทธิ์ไว้ได้ถึง 31 มกราคม 2568 สุขหลายต่อ แลกสุขได้ทุกวันกับ ONESIAM สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ แลกสุขได้ทุกวันใช้คะแนนสะสม 20 Smile Points รับ 100 ONESIAM Coins สำหรับใช้แทนเงินสดในการซื้อสินค้า/บริการ ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการในศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ สยามพารากอน ไอคอนสยาม ไอซีเอส สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต และร้านค้าบน ONESIAM SuperApp (รับสิทธิ์ได้ทุกวัน 5 สิทธิ์ / 1 ท่าน / 1 วัน) ระยะเวลาแลกรับสิทธิ์ 18 พฤศจิกายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567  สงวนสิทธิ์จำนวน 623 สิทธิ์ตลอดโครงการ ONESIAM Coin มีอายุการใช้งานภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 เท่านั้น สุขหลายต่อ ลุ้นรับบัตรชมภาพยนตร์ที่นั่ง SF First Class สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับใช้คะแนนสะสม 0 คะแนน ลุ้นรับบัตรชมภาพยนตร์ที่นั่ง SF First Class จำนวน 1 รางวัล (2 ที่นั่ง) รวมรางวัล 50 รางวัล (1 รางวัล : 2 ที่นั่ง รวม 100 ที่นั่ง) ระยะเวลากิจกรรม 1 พฤศจิกายน – 25 ธันวาคม 2567 (รับสิทธิ์ได้ทุกวัน 1สิทธิ์ / 1 ท่าน / 1 วัน) บริษัทฯ จะมีการประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัล ผ่าน www.muangthai.co.thในหน้ากิจกรรม 20 ปี เมืองไทยสไมล์คลับ (เอสเอฟ เฟิร์สคลาส) วันที่ 6 มกราคม 2568 (จัดส่งบัตรภายใน 30 วันทำการหลังจากประกาศ) สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ ยังสามารถติดตามกิจกรรมรวมถึงสิทธิประโยชน์อื่นๆ เมืองไทยสไมล์คลับคัดสรรมาพิเศษแบบครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ และตอบโจทย์ความหลากหลายทุกความต้องการเพิ่มเติม ได้ที่ MTL Click Application สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android หรือเว็บไซต์ www.muangthai.co.th ตลอดจนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 1766 กด 4 เมืองไทยประกันชีวิต หรือศูนย์บริการลูกค้าทั่วประเทศ เงื่อนไข : 1. คะแนนสะสม Smile Point เป็นเพียงสัญลักษณ์ที่ใช้แสดงสิทธิ์เข้าร่วมโครงการเมืองไทยสไมล์คลับซึ่งจัดขึ้นเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าที่เป็นสมาชิกของเมืองไทยสไมล์คลับไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ 2. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.1766 เมืองไทยประกันชีวิตทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง 3. เงื่อนไขการแลกคะแนนเพื่อรับสิทธิ์ เป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต กำหนด  

27 Nov 2024

...

นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานเปิดกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) และสื่อมวลชน เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านประกันภัยสู่ประชาชน “CEO X PRESS” ประจำปี 2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาท ภารกิจของสำนักงาน คปภ. รวมทั้งเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสำนักงาน คปภ. และสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ณ ห้อง ThreeSixty Jazz Lounge ชั้น 32 โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ เลขาธิการ คปภ. เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจประกันภัยในปี 2568 สำนักงาน คปภ. ประมาณการว่า ภาพรวมธุรกิจประกันภัย (ม.ค.-ธ.ค.2568) จะมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรง 980,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 3.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ม.ค.-ธ.ค.2567) และคาดว่าในปี 2569 เบี้ยประกันภัยรับโดยตรงทั้งระบบน่าจะแตะที่ 1,000,000 ล้านบาท ในภาพรวมธุรกิจ ประกันภัยสุขภาพมีความโดดเด่นที่สุด สำนักงาน คปภ. ประมาณการว่า สิ้นปี 2567 ประกันภัยสุขภาพจะมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงที่ 100,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2568 ทั้งนี้ ภาคธุรกิจประกันภัยยังคงต้องติดตามปัจจัยท้าทายและปัจจัยความเสี่ยงต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความไม่แน่นอนจากเศรษฐกิจในประเทศและเศรษฐกิจโลก ซึ่งส่งผลต่อระดับอัตราดอกเบี้ย (Yield Curve) ที่ถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีทิศทางที่ปรับสูงขึ้นแต่ยังต้องมีความระมัดระวังในการเลือกลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภท รวมทั้งสงครามการค้าและความขัดแย้งระหว่างประเทศที่ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อและอำนาจซื้อของประชาชน ส่งผลให้ค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้ประชาชนเริ่มชะลอการใช้จ่ายมากขึ้น รวมถึงความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองทั้งในและต่างประเทศที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุน โดยภาคธุรกิจต้องติดตามอย่างใกล้ชิดและสามารถปรับเปลี่ยนทิศทางกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัทประกันภัยไปตามสถานการณ์อย่างทันท่วงที   อย่างไรก็ตาม สำนักงาน คปภ. และภาคธุรกิจประกันภัย มีการดำเนินการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับกับปัจจัยต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะในเรื่องของการบังคับใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 17 ที่จะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ซึ่งมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 17 นี้ สะท้อนให้เห็นงบการเงินที่แท้จริงว่า บริษัทประกันภัยมีกำไรในแต่ละปีมากน้อยเพียงใด มีการกระจายรายได้ และค่าใช้จ่ายออกไปอย่างไร มีการจัดกลุ่มประเภทผลิตภัณฑ์ เพื่อให้นักลงทุนได้เห็นภาพงบการเงินได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งสำนักงาน คปภ. มองว่าเรื่องความมั่นคงกับงบการเงินที่ได้มาตรฐานต้องดำเนินการควบคู่ไปพร้อมกัน อีกประเด็นที่อยู่ในกระแสข่าวและสื่อมวลชนเกี่ยวกับการยื่นคำทวงหนี้ต่อกองทุนประกันวินาศภัยในกรณีของบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่สิ้นสุดการยื่นคำทวงหนี้ไปเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 พบว่า มีเจ้าหนี้ยื่นคำร้องเข้ามาประมาณ 250,000 ราย และมีมูลหนี้ที่ต้องชำระประมาณ 22,000 ล้านบาท โดยกองทุนฯ มีรายได้จากเงินสมทบปีละประมาณ 1,400 ล้านบาท ซึ่งสำนักงาน คปภ. ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับกองทุนประกันวินาศภัยอย่างใกล้ชิด โดยกองทุนฯ ได้พยายามหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติม เช่น การกู้ยืมเงิน และอยู่ระหว่างการจ้างที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อเข้ามาช่วยวิเคราะห์แนวทางการบริหารจัดการการชำระหนี้ของกองทุนฯ รวมถึงแนวทางการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น   ประเด็นถัดมาที่อยากจะสื่อสารกับสื่อมวลชนไปยังสาธารณชนคือ ทิศทางการทำประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า โดยส่วนใหญ่บริษัทประกันภัยจะยื่นขออนุมัติกรมธรรม์แต่ละฉบับ ซึ่งสำนักงาน คปภ. พร้อมที่จะอนุมัติให้โดยเร็ว แต่บริษัทประกันภัยที่ยื่นขออนุมัติต้องมีการดำเนินการควบคุมความเสี่ยงเพื่อให้สำนักงาน คปภ. มั่นใจว่ามีการบริหารจัดการ ตั้งแต่กระบวนการการเสนอขาย การชดใช้ค่าสินไหมทดแทน การบริหารความเสี่ยง และการจัดการเรื่องร้องเรียน ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ในการบริหารจัดการประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า ประเด็นต่อมาที่อยากจะสื่อสารไปถึงประชาชน คือ กรณีบริษัทหรือตัวแทนนายหน้าขายประกันภัยต่างชาติ ที่มีการเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยในรูปแบบต่าง ๆ ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งบริษัทต่างชาติเหล่านี้ ไม่อยู่ในการกำกับดูแลของสำนักงาน คปภ. เนื่องจากไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย แต่หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนด้านประกันภัยจากบริษัทเหล่านี้ ทางสำนักงาน คปภ. ก็มีมาตรการดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยที่ผ่านมา สำนักงาน คปภ. ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อตำรวจกองปราบปรามไปหลายคดีแล้ว ดังนั้น จึงอยากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยจากบริษัทหรือตัวแทนนายหน้าขายประกันภัยต่างชาติที่ไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย   ประเด็นสุดท้ายคือเรื่อง การประกันภัยสุขภาพ ซึ่งในขณะนี้เบี้ยประกันภัยสุขภาพมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากอัตราเงินเฟ้อทางการแพทย์ที่เพิ่มสูงขึ้น และค่ารักษาพยาบาลที่เกินความจำเป็นทางการแพทย์ ทำให้ประชาชนเข้าถึงการประกันภัยสุขภาพได้ยาก สำนักงาน คปภ. จึงได้หารือเร่งด่วนกับภาคธุรกิจเพื่อหาแนวทางควบคุมค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลให้เหมาะสม และต้องไม่กระทบต่อสิทธิของผู้เอาประกันภัย โดยอาจมีการกำหนดหลักเกณฑ์ให้มีค่าใช้จ่ายร่วม (Copayment) ในเงื่อนไขการต่ออายุสัญญาเพิ่มเติมกรณีครบรอบปีกรมธรรม์ประกันภัย (Renewal) หากผู้เอาประกันภัยมีการเคลมเกินความจำเป็นทางการแพทย์ หรือมีการเคลมด้วยกลุ่มโรคป่วยเล็กน้อยทั่วไป (Simple Diseases) ตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป และมีอัตราการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนของผู้เอาประกันภัย แต่ละรายในรอบปีกรมธรรม์ประกันภัยตั้งแต่ 200% ของเบี้ยประกันภัย ซึ่งสำนักงาน คปภ. อยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสม เนื่องจากเล็งเห็นถึงประโยชน์ที่ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกวัย สามารถเข้าถึงระบบประกันภัยสุขภาพได้อย่างแท้จริงภายใต้เบี้ยประกันภัยที่เป็นธรรมและเหมาะสม

24 Nov 2024

...

นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานเปิดกิจกรรม “Road Show ให้ความรู้ด้านการประกันภัยและการฉ้อฉลประกันภัย ให้แก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และประชาชนเชิงรุก” ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ในโอกาสนี้ เลขาธิการ คปภ. ได้กล่าวมีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า สำนักงาน คปภ. มีภารกิจสำคัญในการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัยให้แก่พี่น้องประชาชน โดยมีสำนักงาน คปภ. ภาค/จังหวัด เป็นศูนย์กลางเผยแพร่ความรู้และประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัยให้แก่ประชาชนในภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อให้สามารถใช้การประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน   ดังนั้น ประชาชนจึงควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเงื่อนไขความคุ้มครองและข้อยกเว้นของกรมธรรม์ประกันภัย เพื่อให้สามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้เหมาะสมกับความต้องการในการบริหารความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม และสำนักงาน คปภ. ยังมีอีกหนึ่งภารกิจสำคัญในการป้องปรามการกระทำความผิดและลงโทษคนกลางประกันภัยที่กระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อฉลประกันภัย ซึ่งกฎหมายประกันชีวิตและกฎหมายประกันวินาศภัยได้กำหนดพฤติกรรม และลักษณะของการกระทำที่อาจเข้าข่ายเป็นการฉ้อฉลประกันภัย ซึ่งในปัจจุบันพัฒนาการของเทคโนโลยีและสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป กลอุบายการฉ้อฉลประกันภัยที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนและระบบประกันภัยในวงกว้างได้ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่สำนักงาน คปภ. ต้องเสริมสร้างองค์ความรู้และเกราะป้องกันความเสี่ยงแก่ประชาชน และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่พี่น้องประชาชนเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการกระทำความผิดฉ้อฉลประกันภัย     สำหรับโครงการส่งเสริมให้ความรู้ด้านการประกันภัย และการฉ้อฉลประกันภัย ให้แก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และประชาชนเชิงรุก ณ จังหวัดนครสวรรค์ ได้มีการจัดกิจกรรมตามโครงการดังกล่าวทั้งสิ้น 3 วัน ดังนี้ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 เป็นกิจกรรม Road Show ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีการบรรยายให้ความรู้แก่นิสิตนักศึกษาเกี่ยวกับหลักการเบื้องต้นของการประกันภัย บทบาทและหน้าที่ของสำนักงาน คปภ. การประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงหลักการเบื้องต้นเกี่ยวกับการฉ้อฉลประกันภัย พร้อมกันนี้ได้มีกิจกรรมให้นิสิตนักศึกษาร่วมสนุกลุ้นตอบคำถามด้วยกิจกรรม Kahoot ที่มุ่งเน้นส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาสาระที่วิทยากรได้บรรยายไปข้างต้น และวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 เป็นกิจกรรม Road Show ณ โรงเรียนนวมินทราชูทิศ มัชฉิม จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีกิจกรรมให้น้อง ๆ ร่วมสนุกตอบคำถามเกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับประกันภัย ผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม     นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมให้น้อง ๆ นักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย ร่วมสนุกในกิจกรรม "Bingo OIC" โดยให้น้อง ๆ รับชมคลิปที่เกี่ยวข้องกับการแนะนำองค์กร บทบาท หน้าที่และช่องทางการติดต่อสำนักงาน คปภ. การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ การประกันภัยอุบัติเหตุ รวมถึงหลักการเบื้องต้นของการฉ้อฉลประกันภัย เพื่อนำคำศัพท์ประกันภัยจากเรื่องดังกล่าวที่น่าสนใจมาร่วมสนุกเพื่อเล่นเกมบิงโกคำศัพท์ประกันภัยลุ้นรับของรางวัล โดยน้อง ๆ ได้ให้การตอบรับและร่วมกิจกรรมกันอย่างสนุกสนาน   สำหรับกิจกรรมการสัมมนา “โครงการส่งเสริมให้ความรู้ด้านการประกันภัย และการฉ้อฉลประกันภัย ให้แก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และประชาชนเชิงรุก” โดยนายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการด้านกฎหมายและตรวจสอบ ได้รับมอบหมายให้เป็นประธานเปิดงานดังกล่าว เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ณ โรงแรมโฟทูซี เดอะชิคโฮเต็ล จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีนางสาวชุติพร  เสชัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ได้ให้เกียรติกล่าวต้อนรับ ซึ่งการสัมมนาแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือช่วงเช้าจะเป็นการเสวนาในหัวข้อ “การประกันภัยสำหรับธุรกิจ SME” และ “การฉ้อฉลประกันภัย” ส่วนในช่วงบ่ายเป็นการบรรยายในหัวข้อ “กฎหมายและหลักการประกันภัย”และ“การฉ้อฉลประกันภัย” โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วย ผู้ประกอบการ หัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น สำนักงานคลังจังหวัดนครสวรรค์ สำนักงานธนารักษ์จังหวัดนครสวรรค์ สำนักยุติธรรมจังหวัดนครสวรรค์ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครสวรรค์ สภาหอการค้าจังหวัดนครสวรรค์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครสวรรค์ สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน ธนาคารพาณิชย์ ตลอดจน ตัวแทน นายหน้าประกันภัย และอาสาสมัครประกันภัย เข้าร่วมงานสัมมนาเป็นจำนวนมาก   โดยโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมความรู้ด้านการประกันภัยให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs เกี่ยวกับการฉ้อฉลประกันภัย ซึ่งในปัจจุบันพบว่ามีแนวโน้มที่การฉ้อฉลประกันภัยจำนวนเพิ่มมากขึ้น สืบเนื่องจากมีการนำวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในธุรกิจประกันภัยมากขึ้น ทำให้เกิดการฉ้อฉลประกันภัยได้หลายช่องทาง ซึ่งอาจส่งผลกระทบในระยะยาวต่อเบี้ยประกันภัยที่อาจปรับสูงขึ้นได้ในอนาคต ให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ประชาชน ผู้ประกอบการ คณาจารย์ นักเรียน นักศึกษา บุคคลากรของโรงเรียนและมหาวิทยาลัย หัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนภาครัฐ รวมทั้งเอกชน ให้มีความเข้าใจภารกิจของสำนักงาน คปภ. และเป็นการเสริมสร้างความรู้ด้านการประกันภัยและการฉ้อฉลประกันภัย เสริมความรู้เข้าใจในเงื่อนไขความคุ้มครอง ข้อยกเว้นของกรมธรรม์ประกันภัยประเภทต่าง ๆ ตลอดจนตระหนักถึงผลกระทบของการฉ้อฉลประกันภัยและร่วมกันป้องกันการฉ้อฉลประกันภัย เพื่อเป็นเกราะป้องกันและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนผู้เอาประกันภัยต่อไป   ทั้งนี้ หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านประกันภัยหรือมีปัญหาเกี่ยวกับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนดังกล่าวมายังสำนักงาน คปภ. ซึ่งมีกระบวนการพิจารณาข้อร้องเรียนด้านการประกันภัยหลายรูปแบบตามความต้องการและความซับซ้อนของเรื่อง ไม่ว่าจะการพิจารณาข้อร้องเรียนโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยผู้ไกล่เกลี่ยที่เป็นบุคคลภายนอกที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการประกันภัย หรือการระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงาน คปภ. ซึ่งเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชนผู้เอาประกันภัยในการใช้กระบวนการระงับข้อพิพาทที่มีความเป็นธรรมและรวดเร็วกว่าการดำเนินคดีทางศาล    

22 Nov 2024

...

ทิพยประกันภัย ขอเชิญชวนร่วมโครงการทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 46 ในการเดินทางไปเรียนรู้ และสัมผัสจิตวิญญาณแห่งการเป็นจิตอาสา ณ โครงการศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย จังหวัดอ่างทอง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพระปณิธานของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา (พระองค์ภา) ที่ทรงทุ่มเทอุทิศพระวรกายเพื่อช่วยเหลือประชาชน และสังคมส่วนรวมมาโดยตลอด และเรียนรู้แนวทางการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนตามแนวพระดำริ และศึกษาวิถีชีวิตพอเพียง รวมถึงแนวทางการพัฒนาอาชีพ เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับตัวเอง นอกจากนี้ จะได้ร่วมทำบุญปฏิบัติธรรม ณ วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ภา พระบรมวงศานุวงศ์ และสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยอีกด้วย พร้อมรับฟังการบรรยายด้านการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อความยั่งยืนในทุกมิติ จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี และ อาจารย์อดุลย์ ดาราธรรม ที่ปรึกษาและอดีตนายกสมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย ผู้คิดค้นนวัตกรรมสื่อการสอนสำหรับเยาวชนในศตวรรษที่ 21 หรือ Interactive Board Game หนึ่งเดียวในโลก เพื่อผลักดันให้เกิดนวัตกรรมแบบก้าวกระโดด และเตรียมความพร้อมประเทศไทยสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในปี 2030 เชิญร่วมโครงการทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 46 ในวันที่ 23 – 24 พฤศจิกายน 2567 ณ โครงการศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย บ้านทุ่งอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ คุณจารุกัญญ์ โทรศัพท์ 099 397 5333 FB: ตามรอยพระราชา-The King’s Journey

19 Nov 2024

Banner Banner Banner Banner Banner Banner

Banner
  ทิศทาง ceothailand.net ในปี 2567  “สื่อออนไลน์ CEO THAILAND”   ในปี 2567 จะเป็นปีที่ผม “นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์” จะมาทำหน้าที่บรรณาธิการบริหารสื่อ CEO THAILAND และผู้บริหารสื่อออนไลน์ ceothailand.net อย่างเต็มที่ หลังจากที่ผ่านมาได้ไปเดินแผนงานทางด้านการเมือง แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงการเลือกตั้งไปแล้วที่ผ่านมา จึงทำให้ช่วงเวลานี้มีเวลาที่จะมาวางแผนในการเดินหน้าธุรกิจสื่อได้มากขึ้น และในช่วงระยะเวลา 1-2 ปีนับจากนี้ จึงขอเข้ามารับหน้าที่สื่อมวลชน ในการเขียนบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ เรื่องราวในแวดวงเศรษฐกิจ-การเงิน และการประกันภัย ในฐานะของคอลัมนิสต์ ตลอดเวลาที่ผมเข้าไปทำงานทางการเมือง ต้องยอมรับว่าวงการข่าวและสื่อสารมวลชนเปลี่ยนไปเร็ว ตลอดเวลา 5 ปี  สื่อออนไลน์ที่รวดเร็วเข้ามาแทนที่สื่อหลักอย่างสื่อสิ่งพิมพ์ (ออฟไลน์)  เราต้องยอมรับในเรื่องความรวดเร็ว แต่ต้องไม่ลืมจุดด้อยของสื่อออนไลน์ คือข้อผิดพลาดในการกลั่นกรองข่าวสาร รวมทั้งบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ที่หายไป และข่าวที่ออกมามีความเหมือนกัน  ไม่แตกต่าง และเป็นเชิงภาพข่าว และกิจกรรมเท่านั้น ดังนั้นในปี 2567 นี้  ในหน้าสื่อออนไลน์ CEO THAILAND ท่านผู้อ่านจะได้สัมผัสกับข่าวสารเชิงวิเคราะห์ เจาะลึกแบบออนไลน์ต่อเนื่องในสื่อ CEO THAILAND รวมทั้งการจัดทำเป็น E-Magazine ใน www.ceothailand.net รวมทั้งการจัดทำเป็นรูปเล่มฉบับพิเศษสลับไปบ้างในเรื่องที่สำคัญๆ น่าสนใจ และเป็นประโยชน์กับประชาชนและสังคม ขอขอบพระคุณท่านลูกค้าและผู้สนับสนุนสื่อด้วยดีเสมอมา ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา และขอขอบพระคุณทุกท่าน รวมทั้งผู้อ่านที่ติดตามสื่อ CEO THAILAND ด้วยดีเสมอมาใน www.ceothailand.net   นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา) บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner