Responsive image

Tuesday, 30 Dec 2025

หน้าแรก > ECONOMY- FINANCE / เศรษฐกิจ - การเงิน


รักบ้านเกิด ร่วม EXIM BANK จัดโครงการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรด้วยเศรษฐกิจหมุนเวียน พร้อมเจาะลึกระบบบริหารเกษตรเพื่อส่งออก

Tue 30/11/2564


บริษัท รักบ้านเกิด จำกัด ร่วมกับ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM BANK จัด "โครงการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรด้วยเศรษฐกิจหมุนเวียน" เพื่อส่งเสริมศักยภาพเกษตรกร หนุนความพร้อมภายใต้แนวคิด "การเกษตรเพื่อการส่งออก" ให้สามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรให้ได้มาตรฐานและเข้าถึงตลาดโลก โดยพาผู้เข้าร่วมกิจกรรมเรียนรู้ขั้นตอนและกระบวนการผลิตมะพร้าวอย่างเจาะลึก ศึกษาระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเรียนรู้การบริหารธุรกิจเกษตร ทั้งแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการแปลงเกษตรอย่างยั่งยืนให้ปลอดวัสดุเหลือใช้ (ZERO Waste) พร้อมเรียนรู้การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ถึงแหล่งปลูก โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขามาร่วมบรรยายและให้ความรู้ ณ  สวนมะพร้าวน้ำหอมคุณราตรี จังหวัดฉะเชิงเทรา

นายพิรชัย เบญจรงคกุล  กรรมการผู้จัดการ บริษัท รักบ้านเกิด จำกัด กล่าวว่า "ทางรักบ้านเกิดรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จัดกิจกรรมร่วมกับทาง EXIM BANK ในโครงการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรด้วยเศรษฐกิจหมุนเวียน ทั้งยังได้รับความรู้จากพี่หนึ่ง ศราวุธ เกษตรกรสำนึกบ้านเกิดปี 2563 ซึ่งถือเป็นเกษตรกรต้นแบบ เป็นทั้งนักคิด นักสร้างสรรค์ นักพัฒนา และยังสามารถนำเอาองค์ความรู้ที่มีมาต่อยอดสวนมะพร้าวให้เป็นแหล่งการเรียนรู้แบบครบวงจร มีทั้งการปลูก การแปรรูป รวมถึงการจัดการของเสียภายในสวนได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็สอดคล้องและตรงตามวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ตัวผมหวังว่ากิจกรรมในครั้งนี้จะส่งผลให้พี่ๆ เกษตรกรและผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่านได้รับความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) การบริหารธุรกิจเกษตร ตลอดจนการส่งออกและการผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากของเหลือใช้ในสวน นำกลับไปพัฒนาและต่อยอดใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ฟาร์มและธุรกิจของทุกท่านเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืนครับ"

ด้าน ดร. รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM BANK ได้กล่าวว่า "EXIM BANK ร่วมมือกับ รักบ้านเกิด ในครั้งนี้ เพื่อต่อยอดและส่งเสริมเกษตรกรที่มีศักยภาพ ให้สามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรเพื่อส่งออกได้มากขึ้นและมีแนวทางดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ขณะที่ EXIM BANK มุ่งเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนา โดยมีบริการทั้งทางการเงินและไม่ใช่การเงินที่จะเติมทุนและความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อนำไปใช้ส่งเสริมและสนับสนุนการส่งออกและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องรวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและภาคอุตสาหกรรมของประเทศ เศรษฐกิจสีเขียว ตลอดจนการสร้าง Ecosystem ที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยอย่างยั่งยืน โดยผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่นและความเข้มแข็งของชุมชน อาทิ สวนมะพร้าวน้ำหอมคุณราตรี จังหวัดฉะเชิงเทราและเกษตรกรในชุมชนนี้"

 

ในด้าน นายศราวุธ พรชัยสิทธิ์ เกษตรกรสำนึกรักบ้าน เจ้าของสวนมะพร้าวน้ำหอมคุณราตรี จ.ฉะเชิงเทรา ก็ได้กล่าวถึงการให้ความรู้สึกในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ว่า "ผมรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างมาก ที่ทาง รักบ้านเกิด และทาง EXIM BANK ได้เล็งเห็นความสำคัญและพร้อมให้การสนับสนุนเกษตรกรไทยอย่าง ทำให้เกิดโครงการดีๆ แบบนี้ขึ้น ผมภูมิใจในอาชีพเกษตรกรไทย และจะไม่หยุดพัฒนาเพื่อให้สวนมะพร้าวน้ำหอมแห่งนี้หล่อเลี้ยงครอบครัวและคนในชุมชน รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อให้ทุกคนได้เข้ามาเรียนรู้และศึกษาดูงานกันครับ"

นอกจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้ร่วมเรียนรู้ความเป็นมาของสวนมะพร้าวน้ำหอมคุณราตรีแบบครบวงจร ทั้งในเรื่องการปลูก การแปรรูป จนถึงการจัดการของเสียภายในฟาร์มแบบเจาะลึก จากคุณหนึ่ง ศราวุธ แล้ว ยังได้รับความรู้จาก ดร.นงนุช พูลสวัสดิ์ นักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีและสารสนเทศเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (TIIS) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช) ที่มาร่วมบรรยายถึงหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy ให้ฟัง พร้อมมีการร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อการส่งออกไปกับ นายกิตติศักดิ์ พิพัฒน์คณาพร ผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งออกผลไม้ จากบริษัท ไทย เบสท์ โปรดักส์ โฮลดิ้ง จำกัด และในตอนท้ายผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่านก็ได้ลงมือผลิตและทำปุ๋ยอินทรีย์ถึงแหล่งปลูกด้วยตัวเอง

นับว่างานนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนได้ทั้งทฤษฎีและแนวทางการปฏิบัติกลับไปต่อยอดเป็นความรู้ทางภูมิปัญญา และสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดีไม่มากก็น้อย ซึ่งกิจกรรมดีๆ แบบนี้ยังคงจัดขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง สามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมดีๆ ของเรา ได้ที่  www.rakbankerd.com, www.facebook.com/rakbankerd  และ  IG: rakbankerd_official  หรือแอดไลน์มาพูดคุยกันได้ที่  Line@ : @rakbankerd


Tags : พิรชัย เบญจรงคกุล รักบ้านเกิด ดร. รักษ์ วรกิจโภคาทร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย EXIM BANK โครงการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรด้วยเศรษฐกิจหมุนเวียน


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น (SOE Awards) ประจำปี 2568 ให้แก่ธนาคารออมสิน โดยมีผู้แทนรับมอบรางวัลได้แก่ รศ.ดร. ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการธนาคารออมสิน พร้อมด้วย นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และผู้บริหาร ซึ่งเป็นปีที่ธนาคารออมสินได้รางวัลในระดับดีเด่นและเกียรติยศ ครบทั้ง 8 ประเภทรางวัลที่ธนาคารได้รับ จัดขึ้นโดยคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2568     นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในปี 2568 นี้ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. ได้พิจารณามอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นแก่ธนาคารออมสิน จำนวน 8 รางวัล ประกอบด้วย 1) รางวัลเกียรติยศรัฐวิสาหกิจยอดเยี่ยม ธนาคารได้รับเป็นปีที่ 3 ต่อเนื่อง โดยเป็นรางวัลที่มอบให้กับรัฐวิสาหกิจที่มีความโดดเด่นและมีมาตรฐานการดำเนินงานทุก ๆ ด้าน สามารถตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของประชาชน     2) รางวัลเกียรติยศคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจดีเด่น ได้รับเป็นปีที่ 3 ต่อเนื่อง จากการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ และผลักดันการบริหารงานให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี 3) รางวัลเกียรติยศการบริหารจัดการองค์กรดีเด่น ได้รับเป็นปีที่ 7 ต่อเนื่อง จากการรักษามาตรฐาน การบริหารจัดการเพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขัน พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำพาองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ   4) รางวัลผู้นำองค์กรดีเด่น ที่มอบให้แก่นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผลงานเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสิน 5) รางวัลการพัฒนาสู่รัฐวิสาหกิจดิจิทัล จากการสร้างสรรค์และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาองค์กร ในมิติต่าง ๆ พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล 6) รางวัลการพัฒนาสู่รัฐวิสาหกิจยั่งยืน จากการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นระบบ จนเกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม     7) รางวัลการดำเนินงานอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น โดยได้รับจากผลงานความสำเร็จของโครงการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบองค์รวม (Holistic Area-Based Development) - โครงการลิบงสุขใจ ออมสินพัฒนา อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 8) รางวัลความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมดีเด่น จากโครงการ GEN AI Branch Assistant : ผู้ช่วยสาขาอัจฉริยะ ที่ธนาคารพัฒนาขึ้นโดยการนำ AI มาใช้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการของสาขา   นับเป็นความภาคภูมิใจและเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของบุคลากรธนาคารออมสินทุกคนในการรักษามาตรฐานการบริหารจัดการองค์กรในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ภายใต้หลักธรรมาภิบาล โปร่งใส และการให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างสมดุล ควบคู่กับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ธนาคารเพื่อสังคม” เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกและความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจและสังคมไทยในระยะยาว    

26 Dec 2025

...

เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมมือกับ เอ ไลฟ์ (ALive Powered by AIA) โดยบริษัท เอไอเอ เวลเนส จำกัด ส่งความห่วงใยถึงคนไทยทั่วประเทศในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2569 มอบแคมเปญ “ฟรี!!! ประกันอุบัติเหตุ กรมธรรม์ประกันภัยอุ่นใจข้ามปี” โดยมอบกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่ (ไมโครอินชัวรันส์) ฟรีให้แก่ประชาชนทั่วไป ระยะเวลาคุ้มครองนาน 30 วัน ด้วยวงเงินคุ้มครองชีวิตสูงถึง 100,000 บาทต่อกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ พร้อมรับผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุตามจำนวนที่จ่ายจริงสูงสุด 5,000 บาท* เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีหลักประกันความคุ้มครองอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมเพิ่มความอุ่นใจสำหรับการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาเพื่อไปฉลองกับครอบครัว ซึ่งแคมเปญดังกล่าวยังเป็นการขานรับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) อีกทั้งยังสานต่อพันธกิจของเอไอเอที่ต้องการสนับสนุนให้ผู้คนกว่าพันล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives ทั้งนี้ สำหรับประชาชนทุกคนที่สนใจขอรับกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มฟรี สามารถลงทะเบียนรับสิทธิออนไลน์ได้ง่าย ๆ เพียงไปที่เว็บไซต์ https://aiathailand.info/panyPR  ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2568 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2569   หมายเหตุ: *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัท เอไอเอ เวลเนส จำกัด กำหนด

20 Dec 2025

...

รายงานข่าวจากธนาคารออมสิน ขอเชิญชวนผู้ประกอบการร้านค้า ประเภทบุคคลธรรมดา ที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” และยังไม่ได้ลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Smart Finance Upskill ขอให้เร่งสมัครผ่านเว็บไซต์ของธนาคารออมสิน www.gsb.or.th ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากขณะนี้เหลือเวลาเพียง 4 วันสุดท้าย ที่สามารถลงทะเบียนและเรียนให้จบหลักสูตร เพื่อรับสิทธิ์เงินสนับสนุนจากภาครัฐ นับจากวันที่พัฒนาทักษะสำเร็จจนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 สูงสุดไม่เกินรายละ 2,000 บาท หลักสูตร Smart Finance Upskill การพัฒนาความรู้ทางการเงินเพื่อร้านค้ารายย่อยโครงการคนละครึ่ง พลัสเป็นการเรียนออนไลน์กับธนาคารออมสิน ภายใต้โครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย ประเภทบุคคลธรรมดา มุ่งเสริมทักษะทางการเงินที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจ ครอบคลุมการทำบัญชี การคิดต้นทุน การตั้งราคาขาย และความรู้ก่อนยื่นขอกู้ ผู้ที่เรียนจบและผ่านเกณฑ์ จะได้รับประกาศนียบัตรและรับสิทธิ์เงินสนับสนุนจากภาครัฐตามเงื่อนไขที่กำหนด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Smart Finance Upskill และข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโครงการ Upskill/Reskill คนละครึ่ง พลัส ที่ GSB Contact Center โทร. 1115 กด 7

19 Dec 2025

...

ธ.ก.ส. เร่งให้ความช่วยเหลือทหาร และ ตชด. วีรบุรุษผู้เสียสละชีวิต จากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศไทย – กัมพูชา โดยให้ความช่วยเหลือกับทหาร และ ตชด. ที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. รวมถึงให้ความช่วยเหลือบิดา - มารดา หรือคู่สมรสที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ของวีรบุรุษผู้เสียสละชีวิต โดยยกหนี้ในส่วนของต้นเงินกู้ทุกสัญญา และยกหนี้ในส่วนของดอกเบี้ยทั้งจำนวน ภายใต้สัญญาที่ใช้แหล่งเงินทุน ธ.ก.ส. เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ลูกหนี้ และลดภาระให้สามารถดำรงชีพต่อไปได้อย่างมั่นคง นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชาได้กลับมาตึงเครียดในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี ตราด และสระแก้ว ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของเกษตรกรลูกค้าของธนาคาร โดยปัจจุบันมีทหารที่เป็นสมาชิกครอบครัวของลูกค้า ธ.ก.ส. เสียชีวิต และเพื่อให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ลูกค้า ธ.ก.ส. และเป็นการลดภาระเพื่อให้สามารถดำรงชีพต่อไปได้อย่างมั่นคง คณะกรรมการธนาคาร โดย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ ธ.ก.ส. ได้มีมติในการประชุมวันนี้ (9 ธันวาคม 2568) ให้ความช่วยเหลือลูกค้า กรณีทหาร หรือตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศไทย – กัมพูชา ที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. รวมถึงให้ความช่วยเหลือแก่บิดา มารดา หรือคู่สมรสที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ของวีรบุรุษผู้เสียสละชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยธนาคารจะยกหนี้ในส่วนของต้นเงินกู้ทุกสัญญา และยกหนี้ในส่วนของดอกเบี้ยค้างรับและดอกเบี้ยปรับทั้งจำนวน ภายใต้สัญญาที่ใช้แหล่งเงินทุน ธ.ก.ส. เป็นกรณีพิเศษ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้ให้ความช่วยเหลือครอบครัวทหารไปแล้ว จำนวน 7 ราย ธ.ก.ส. ขอแสดงความห่วงใยต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา คนข้างหลังไม่ต้องกังวล ธ.ก.ส. อยู่เคียงข้างและพร้อมก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ Call Center 02 555 0555 ตลอด 24 ชั่วโมง  

14 Dec 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner