Responsive image

Wednesday, 16 Jul 2025

หน้าแรก > BUSINESS-MARKETING-SME /ธุรกิจ-การตลาด-ขายตรง-เอสเอ็มอี


ตลาดความงามผู้ชายขาขึ้น “สรรสร้างสุข” ปั้น DEVONTE (เดวอนเท่) เจาะกลุ่มวัย 30 อัพ ปูพรมขายออนไลน์ ตั้งเป้ายอดขาย 800 ล้านบาท

Fri 17/06/2565


ตลาดสกินแคร์ยังโตสวนกระแสพิษเศรษฐกิจ บริษัท สรรสร้างสุข จำกัด ส่ง DEVONTE (เดวอนเท่) ลงสนามผลิตภัณฑ์ความงามผู้ชาย เจาะกลุ่มวัย 30 ปีขึ้น ทุ่มงบการตลาดมากกว่า 100 ล้าน พร้อมดึง 4 คนดังจากหลากหลายวงการเป็นพรีเซนเตอร์ ชูจุดเด่นนวัตกรรม Biotechnology พร้อมเดินหน้าขายออนไลน์ หวังปี 66 โกยยอดขาย 800 ล้านบาท

 

นายวันธนบดี จิตตานุเคราะห์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สรรสร้างสุข จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบรนด์เดวอนเท่ เผยว่า ก่อนจะตัดสินใจปั้นแบรนด์เดวอนเท่ ได้ศึกษาตลาดและดูแนวโน้มการเติบโตตลาดสกินแคร์ผู้ชายมามากกว่า 5 ปี ทำให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตของตลาดนี้ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่ทั้งโลกต่างต้องเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจ หลายธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์กลับโตสวนกระแส รวมถึงตลาดสกินแคร์สำหรับผู้หญิงมีการแข่งขันสูง ในขณะที่กลุ่มผู้ชายมีคู่แข่งน้อยกว่า ประกอบกับพฤติกรรมของผู้ชายในยุคใหม่ให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง ทั้งเรื่อง รูปร่าง การแต่งกาย และการดูแลผิวพรรณ เมื่อนำมาผนวกภาพรวมการเติบโตของธุรกิจ Men’s Beauty (สกินแคร์และเครื่องสำอาง) จากข้อมูลการวิเคราะห์และสำรวจ มีการเติบโตสูงถึง 2 เท่า ในทุกปี ซึ่งในปี 2565 คาดว่าตัวเลขตลาดสกินแคร์สำหรับผู้ชายจะอยู่ที่ 41,600 ล้านบาท และอัตราการเติบโตของตลาดสกินแคร์สำหรับผู้ชายสามารถมีโอกาสเติบโตไปสูงถึง 62,400 ล้านบาทในอีก 5 ปี ข้างหน้า

จากปัจจัยบวกเหล่านี้จึงตัดสินใจ ปั้นแบรนด์ DEVONTE ลงชิงมาร์เก็ตแชร์ ในกลุ่มลักซ์ชัวรี่สกินแคร์ โดยเน้นเจาะกลุ่มผู้ชายอายุ 30 ปี มีไลฟ์สไตล์เป็นคนช่างเลือก ใส่ใจตัวเอง พร้อมชูจุดเด่นการนำนวัตกรรม Biotechnology หรือ เทคโนโลยีชีวภาพ ที่ให้ความสำคัญตั้งแต่ระดับเซลล์บำบัด พร้อมสารสกัดนานาชนิด อาทิ GenoWhite™ ที่ช่วยยับยั้งการทำงานของเมลานินเม็ดสีผิว EMlastic ซึ่งถือเป็น Super Protein อาหารผิวชั้นยอดสำหรับเซลล์ผิว ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่อยากมีผิวดูดี หน้าดูเด็ก เดาอายุไม่ถูก โดยนำร่อง 5 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ REFRESH POLISHING CLEANSER ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าเนื้อเจลพร้อมบำรุงในขั้นตอนเดียว DAILY DEFENSE DAY CREAM SPF 50 PA+++ บำรุงพร้อมปกป้องผิวจากรังสียูวี และละอองฝุ่น PM2.5 INTENSE SKIN BOOSTER SERUM เซรั่มบำรุงผิวเข้มข้นที่มี LAMININ COMPLEX EX7 สารสกัดเข้มข้น ถึง 7 เท่า DEEP RECOVERY NIGHT CREAM ฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลายจากแสงแดด มลภาวะ ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ คืนความชุ่มชื้นให้กับผิว และ ADVANCE WHITE ENRICH MASK มาส์กบำรุงผิวหน้า ช่วยให้ผิวหน้าแลดูสว่างกระจ่างใส โดยการเลือกสรรสารสกัดที่มีคุณภาพและใส่ลงไปในปริมาณที่เหมาะสม ทำให้เห็นผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ จึงเกิดเป็นการตลาดแบบปากต่อปาก ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

 

 

สำหรับกลยุทธ์การทำการตลาดบริษัทฯ ทุ่มงบมากกว่า 100 ล้านบาท เพื่อให้ครบคลุมทุกมิติของการสื่อสาร โดยดึง 4 หนุ่ม เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์, เคน-นครินทร์ วนกิจไพบูลย์, คิด-คณชัย เบญจรงคกุล และ กุน-กิตติคุณ ตันสุหัส เป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งแต่ละคนเป็นตัวแทนผู้ชายยุคใหม่ที่ประสบความสำเร็จจากหลากหลายวงการ และไม่ลืมที่จะใส่ใจดูแลตัวเองจนเดาอายุไม่ถูก นอกจากนี้ยังเป็นสปอนเซอร์ในรายการต่างๆ อย่างล่าสุดเป็นสปอนเซอร์ให้กับเวที Miss Grand Thailand 2022 และดึง ไฮดี้ - อมันดา อแมนด้า เจนเซ่น เป็น Friend of the Brand เพื่อสื่อสารในมุมมองของผู้หญิงที่รู้สึกดีกับต่อผู้ชายที่ดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ ในส่วนช่องทางการจัดจำหน่าย ปัจจุบันเน้นขายบนช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ได้แก่ www.devonte296.com, Shopee, Lazada, JD central และ We Love Shopping พร้อมชิมรางตั้ง pop up store ณ ศูนย์การค้า สยามพารากอน บริเวณแฟชั่น ฮอลล์ ระหว่างวันที่ 11 – 26 มิถุนายน และทางเชื่อมระหว่าง พาร์ค พารากอน, BTS สถานีสยาม และ ศูนย์การค้า สยาม เซ็นเตอร์ ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม และจัดเต็มกับกิจกรรมส่งเสริมการขาย และกิจกรรมทางการตลาดอีกมากมาย โดยคาดว่าภายในเดือนมีนาคม ปี 2566 จะสามารถทำยอดขายรวมอยู่ที่ 800 ล้านบาท

พบกับนวัตกรรมสุดล้ำ Biotechnology กับสารสกัดแห่งอนาคตที่ช่วยบำรุง ปกป้องและฟื้นฟูผิวจากริ้วรอยแห่งวัยจาก DEVONTE (เดวอนเท่) แบรนด์ลักซ์ชัวรี่สกินแคร์สำหรับบุรุษ ได้ที่ช่องทางออนไลน์ www.devonte296.com, Shopee, Lazada, JD central และ We Love Shopping


Tags : วันธนบดี จิตตานุเคราะห์ สรรสร้างสุข แบรนด์เดวอนเท่ ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ ผลิตภัณฑ์ความงามผู้ชาย


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank โดย นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT HD เมื่อเร็ว ๆ นี้      

14 Jul 2025

...

  นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เห็นชอบให้ธนาคารออมสินจัดทำมาตรการแก้ไขหนี้รายย่อยในโครงการของรัฐบาลที่ออกมาช่วยประชาชนในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อรายย่อยไม่มีหลักประกัน ที่มีสถานะหนี้เสีย (NPLs) จำนวนรวมกว่า 500,000 บัญชี ให้สามารถหลุดพ้นจากประวัติหนี้เสีย โดยธนาคารจะดำเนินการทันทีเพื่อที่ในอนาคตลูกหนี้จะมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้เร็วขึ้นเมื่อมีความจำเป็น โดยแบ่งการดำเนินการเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ดำเนินการปิดบัญชีหนี้ ตัดหนี้สูญ และไม่ติดตามหนี้ ของลูกหนี้ NPLs จำนวนกว่า 200,000 บัญชี ในโครงการสินเชื่อตามนโยบายรัฐที่ได้รับงบประมาณชดเชยแล้ว ระยะที่ 2 ธนาคารจะทยอยดำเนินการปิดบัญชีหนี้แก่ลูกหนี้ NPLs โครงการสินเชื่อสู้ภัย COVID-19 จำนวนกว่า 300,000 บัญชี ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2568 ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมาธนาคารได้จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยสำหรับมาตรการปลดหนี้สินเชื่อตามโครงการของรัฐบาลที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้แล้วเป็นจำนวนกว่า 1.3 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดหนี้รวมกว่า 11,000 ล้านบาท โดยธนาคารออมสินสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้รายย่อย และช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางให้สามารถประคับประคองสถานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวให้เดินต่อได้ มุ่งเน้นดำเนินการเพียงครั้งเดียวเพื่อไม่ให้ลูกหนี้ต้องเสียวินัยทางการเงิน และยังสามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินได้อีกในอนาคต  

07 Jul 2025

...

    สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้ปรับปรุงแนวทางการคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัยสำหรับสัญญาประกันภัยระยะสั้น พร้อมทั้งทบทวนหลักเกณฑ์การคำนวณเงินกองทุนด้านความเสี่ยง เพื่อยกระดับความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันภัยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยมุ่งเน้นการพิจารณาข้อมูลในระดับประเภทการรับประกันภัยแทนการพิจารณาภาพรวมทั้งบริษัท เพื่อให้การประเมินภาระผูกพันและการจัดสรรเงินกองทุนมีความละเอียด แม่นยำ และสอดคล้องกับลักษณะความเสี่ยงที่แท้จริงยิ่งขึ้น โดยระหว่างวันที่ 6-21 มีนาคม 2568 สำนักงาน คปภ. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจและผู้เกี่ยวข้อง และจัดการประชุมชี้แจงไปเมื่อวันที่ 10-11 มีนาคม 2568 รวมทั้งได้จัดการประชุมกลุ่มย่อยเชิงเทคนิค (Focus Group) เสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 เพื่อรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ทั้งนี้ ในการประชุมฯ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงประกาศที่เกี่ยวข้องกับสำรองเบี้ยประกันภัย ได้แก่ 1. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการส่งรายงานประจำปีการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันวินาศภัย 2. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการส่งรายงานประจำปีการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต และ 3. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดประเภทและชนิดของเงินกองทุน รวมทั้งหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคำนวณเงินกองทุนของบริษัทประกันวินาศภัย สำหรับหลักการที่ได้มีการปรับปรุง คือ ปรับปรุงวิธีการคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัย และเงินกองทุนสำหรับความเสี่ยงจากสำรองเบี้ยประกันภัย จากเดิม พิจารณาที่ระดับผลรวมทั้งหมดของสัญญาประกันภัยระยะสั้น เปลี่ยนเป็น พิจารณาที่ระดับประเภทการรับประกันภัย  ซึ่งสำนักงาน คปภ. จะเผยแพร่ประกาศอย่างเป็นทางการในลำดับถัดไป เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกำหนดในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ดังนั้น บริษัทประกันภัยและผู้ที่เกี่ยวข้อง ควรเตรียมความพร้อมในการดำเนินการ เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ใหม่ได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่วันเริ่มมีผลบังคับใช้

07 Jul 2025

...

  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  ร่วมงาน “มหกรรมการเงินหาดใหญ่” ครั้งที่ 15 (MONEY EXPO 2025 HATYAI) ระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคม 2568 ณ บูธ F3 หาดใหญ่ฮอลล์ ชั้น 5 เซ็นทรัล หาดใหญ่ จ.สงขลา ยกขบวนผลิตภัณฑ์สินเชื่อครอบคลุมทุกกลุ่ม ตอบโจทย์ทุกความต้องการผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไฮไลท์ คือ สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่มและทุกความต้องการเอสเอ็มอีไทย ควบคู่บริการพัฒนาธุรกิจ ผ่านแพลตฟอร์ม “DX by SME D Bank” (dx.smebank.co.th)   ช่วยเสริมศักยภาพกิจการ ครบถ้วนในจุดเดียว ห้ามพลาด! พิเศษเฉพาะภายในงาน เมื่อยื่นขอสินเชื่อ และได้รับอนุมัติทุกวงเงิน รับโปรโมชันเสริมอีก 2 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 : ลดค่าธรรมเนียมวิเคราะห์สินเชื่อ (Front End Fee) สูงสุด 0.25% และต่อที่ 2 : รับบัตรกำนัล มูลค่า 500 บาท พร้อมเล่นเกม ลุ้นรับของที่ระลึกมากมาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

03 Jul 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner