Responsive image

Wednesday, 31 Dec 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


คปภ. ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือด้านประกันภัย กรณีเพลิงไหม้ “ย่านการค้าสำเพ็ง”

Tue 28/06/2565


  • เผยร้านค้าอาคารพาณิชย์หลังข้างเคียงทำประกันคุ้มครองทรัพย์สิน ทุนประกันกว่า 11 ล้านบาท  ส่วนร้านค้าต้นเพลิง ตรวจสอบเบื้องต้นไม่ได้ทำประกันภัยไว้แต่อย่างใด ด้านเลขาธิการ คปภ. เชิญชวนผู้ประกอบร้านค้าให้ความสำคัญทำประกันอัคคีภัยเพื่อนำระบบประกันภัยเยียวยาความสูญเสียต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร  

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนย่านการค้าสำเพ็ง บริเวณแยกคิคูยา ถนนราชวงศ์ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ประกอบธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์พลาสติกพีวีซีและกล่องกระดาษ และเพลิงได้ลุกไหม้ไปยังอาคารพาณิชย์ข้างเคียงอีก 5 คูหา ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้คาดว่ามาจากหม้อแปลงไฟฟ้าริมถนนที่มีสภาพเก่าเกิดการระเบิดทำให้เกิดเปลวไฟลุกลามไปยังอาคารพาณิชย์ดังกล่าว และจากเหตุในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 11 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2565 เบื้องต้นได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และสำนักงาน คปภ. เขตท่าพระ เร่งให้การช่วยเหลือและสำรวจความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยสำนักงาน คปภ. เขตท่าพระ ได้ลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการประกันภัยให้กับผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนี้อย่างใกล้ชิดแล้ว

ทั้งนี้ ได้รับรายงานจาก สำนักงาน คปภ. เขตท่าพระ ว่า จากการลงพื้นที่และตรวจสอบด้านการทำประกันภัย กรณีความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย อนามัย โดยเบื้องต้นพบว่า เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จำนวน 2 ราย ซึ่งเป็นลูกจ้างของร้านราชวงศ์รุ่งเรือง จำกัด โดยสำนักงาน คปภ. เขตท่าพระ ได้เร่งตรวจสอบว่าทั้ง 2 ราย มีการทำประกันชีวิต หรือประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลไว้กับบริษัทประกันภัยหรือไม่ ในส่วนของผู้บาดเจ็บทั้ง 11 ราย สำนักงาน คปภ. เขตท่าพระ ได้ประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งตรวจสอบรายชื่อว่ามีการทำประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลไว้หรือไม่ หากมีการทำประกันภัยจะแจ้งสิทธิประโยชน์ด้านประกันภัยให้ผู้บาดเจ็บได้ทราบต่อไป

สำหรับความเสียหายต่อทรัพย์สิน จากกรณีเพลิงไหม้ครั้งนี้ ตรวจสอบพบว่า มีอาคารพาณิชย์ได้รับความเสียหายจำนวน 6 อาคาร และรถยนต์ที่จอดบริเวณนั้น ได้รับความเสียหาย 2 คัน ได้แก่ 1. ร้านราชวงศ์รุ่งเรือง จำกัด ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 157 ถนนราชวงศ์ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ โดยมี นายสุรชาติ กิตติฤดีกุล เป็นผู้เช่าอาคาร และประกอบธุรกิจขายอุปกรณ์พลาสติกพีวีซีและกล่องกระดาษ ทั้งนี้ นายสุรชาติ ให้ข้อมูลเบื้องต้นแล้วว่า ร้านค้าที่ถูกเพลิงไหม้ไม่ได้ทำประกันภัยคุ้มครองทรัพย์สินแต่อย่างใด  

2. อาคารพาณิชย์ เลขที่ 158-159 ถนนราชวงศ์ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ โดยมีนายอารยัน นารูลา เป็นเจ้าของ ได้ทำประกันภัยคุ้มครองทรัพย์สินซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ไว้กับบริษัท อยุธยา อลิอันซ์ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เริ่มความคุ้มครองวันที่ 19 มีนาคม 2565 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 19 มีนาคม 2566 โดยกรมธรรม์ให้ความคุ้มครองตัวอาคาร (ไม่รวมรากฐานของสิ่งปลูกสร้าง) รวมส่วนปรับปรุงต่อเติมอาคาร เฟอร์นิเจอร์และเครื่องตกแต่งติดตั้งตรึงตรา ทุนประกันภัย 5,200,000 บาท คุ้มครองค่าเช่าและ/หรือ คุ้มครองค่าใช้จ่ายต่าง ๆ สำหรับค่าเช่าอาคารเดือนละไม่เกิน 500,000 บาท ระยะเวลาการชดใช้ไม่เกิน 12 เดือน ทุนประกันภัยในส่วนนี้เป็นเงิน 6,000,000 บาท รวมทุนประกันภัยทั้งสิ้น 11,200,000 บาท ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ.เขตท่าพระ ได้ประสานบริษัทประกันภัยลงพื้นที่เกิดเหตุและตรวจสอบความเสียหายเป็นที่เรียบร้อย

3. รถยนต์ฮอนด้า แจ๊ส ทะเบียน ษษ 1179 กท ได้รับความเสียหายสิ้นเชิง ตรวจสอบพบว่ารถยนต์คันดังกล่าว ทำประกันภัยรถยนต์ไว้กับบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) เริ่มความคุ้มครองวันที่ 19 เมษายน 2565 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 19 เมษายน 2566 โดยบริษัทฯ ยังคงมีหน้าที่ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย

ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. เขตท่าพระ จะเร่งตรวจสอบการทำประกันภัยของอาคารพาณิชย์ที่เหลือและรถยนต์อีก 1 คัน ว่า มีการทำประกันภัยไว้กับบริษัทประกันภัยด้วยหรือไม่ หากตรวจสอบพบจะเร่งแจ้งสิทธิประโยชน์ด้านประกันภัยให้เจ้าของทรัพย์สินได้ทราบต่อไป

 

“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมถึงผู้ประกอบการที่ประสบเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเช่นนี้เกิดขึ้นได้ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงฝากเตือนมายังผู้ประกอบการร้านค้า ควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยอัคคีภัยหรือการประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สินภายในสถานประกอบการ รวมทั้งการทำประกันภัยธุรกิจหยุดชะงักที่ให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จากกรณีที่ไม่สามารถประกอบธุรกิจได้ตามระยะเวลาและรายได้ที่ขาดหายไปในระหว่างที่กำลังซ่อมแซม รวมถึงการประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ที่ให้ความคุ้มครองกรณีที่ผู้ประกอบการมีความรับผิดต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่บุคคลอื่น เพื่อที่ระบบประกันภัยจะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยง และเยียวยาความสูญเสียต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร โดยสำนักงาน คปภ.จะเร่งรัดให้มีการเยียวยาด้านประกันภัยเพื่อบรรเทาความสูญเสียและความเดือดร้อนอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยด้านประกันภัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือLine Chatbot@Oicconnect ข้อมูลอัตโนมัติ 24 ชั่วโมง” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

 


Tags : คปภ. ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เพลิงไหม้ย่านการค้าสำเพ็ง ไฟไหม้ สำเพ็ง ไฟไหม้สำเพ็ง


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลให้เกิดความสูญเสียต่อกำลังพลผู้ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของประเทศ ล่าสุด ธนาคารออมสิน ออกชุดมาตรการเฉพาะกิจ ประกาศยกหนี้ปิดบัญชีสินเชื่อเป็นกรณีพิเศษ แก่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และกำลังพลหน่วยอื่น ๆ ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2568 เป็นต้นมา โดยการยกหนี้ยังครอบคลุมถึงบัญชีสินเชื่อของทายาท 3 ลำดับ ได้แก่ บิดามารดา คู่สมรส และบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงการมอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวกำลังพลที่เสียชีวิต ตลอดจนกำลังพลและพลเรือนที่บาดเจ็บจากการสู้รบ เพื่อเชิดชูเกียรติที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ และเป็นขวัญกำลังใจแก่ครอบครัวในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้   ด้านความช่วยเหลือสำหรับผู้อพยพที่ต้องได้รับผลกระทบเพราะเข้าพื้นที่ทำมาหากินไม่ได้ เป็นเหตุให้ต้องขาดรายได้ในช่วงเวลานี้ ธนาคารได้ออก มาตรการพักหนี้โดยให้พักชำระเงินต้นและไม่คิดดอกเบี้ย สำหรับลูกหนี้สินเชื่อธนาคารออมสินทุกประเภท* ครอบคลุมสินเชื่อองค์กรชุมชน ที่มีภูมิลำเนา ที่อยู่อาศัย หรือสถานที่ประกอบอาชีพในพื้นที่ภัยพิบัติตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ให้เริ่มพักชำระหนี้งวดแรกหลังจากได้รับอนุมัติ เป็นระยะเวลา 3 งวด/เดือน และไม่ถือเป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ให้คงชั้นหนี้เดิมก่อนเข้าร่วมมาตรการ โดยธนาคารจะยกดอกเบี้ยให้ทั้งหมด ส่วนเงินต้นที่พักไว้ 3 งวด จะถูกรวมไปชำระในงวดสุดท้าย ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนดระยะเวลาให้ลูกหนี้กลับมาชำระเงินงวดตามเงื่อนไขสัญญาเดิม ในกรณีสัญญาครบกำหนดแต่ไม่อาจชำระหนี้เงินต้นส่วนที่พักไว้ได้ ลูกหนี้สามารถติดต่อธนาคารเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ได้ในภายหลัง โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด สามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา หรือที่ศูนย์พักพิงของจังหวัดซึ่งธนาคารได้จัดทีมงานเข้าไปอำนวยความสะดวกให้ด้วย และทางแอปพลิเคชัน MyMo ภายในวันที่ 31 มกราคม 2569     นอกจากนี้ ธนาคารยังคงสนับสนุนงบประมาณให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะ ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยการสนับสนุนภารกิจของศูนย์พักพิง ได้แก่ การมอบถุงยังชีพ “ออมสินห่วงใย” รวมถึงเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และน้ำดื่ม แก่ผู้อพยพ และกำลังพลในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี สระแก้ว และจังหวัดตราด รวมมูลค่ากว่า 7.3 ล้านบาท ธนาคารออมสินขอแสดงความห่วงใยและส่งกำลังใจไปยังทหารและตำรวจตระเวนชายแดนที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งอยู่ในพื้นที่ ตลอดจนครอบครัวของทหารกล้าผู้เสียสละชีวิตปกป้องอธิปไตยของประเทศ และพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยมุ่งหวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและกลับสู่สภาวะปกติในเร็ววัน *หมายเหตุ : มาตรการพักหนี้ไม่รวมสินเชื่อบางประเภท เช่น สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่, สินเชื่อชีวิตสุขสันต์, สินเชื่อสำหรับผู้มีรายได้ประจำ โดยสินเชื่อ Soft loan สินเชื่อองค์กรชุมชน และสินเชื่อตามนโยบายรัฐ (PSA) และเงื่อนไขอื่น ๆ เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด  

30 Dec 2025

...

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น (SOE Awards) ประจำปี 2568 ให้แก่ธนาคารออมสิน โดยมีผู้แทนรับมอบรางวัลได้แก่ รศ.ดร. ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการธนาคารออมสิน พร้อมด้วย นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และผู้บริหาร ซึ่งเป็นปีที่ธนาคารออมสินได้รางวัลในระดับดีเด่นและเกียรติยศ ครบทั้ง 8 ประเภทรางวัลที่ธนาคารได้รับ จัดขึ้นโดยคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2568     นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในปี 2568 นี้ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. ได้พิจารณามอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นแก่ธนาคารออมสิน จำนวน 8 รางวัล ประกอบด้วย 1) รางวัลเกียรติยศรัฐวิสาหกิจยอดเยี่ยม ธนาคารได้รับเป็นปีที่ 3 ต่อเนื่อง โดยเป็นรางวัลที่มอบให้กับรัฐวิสาหกิจที่มีความโดดเด่นและมีมาตรฐานการดำเนินงานทุก ๆ ด้าน สามารถตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของประชาชน     2) รางวัลเกียรติยศคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจดีเด่น ได้รับเป็นปีที่ 3 ต่อเนื่อง จากการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ และผลักดันการบริหารงานให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี 3) รางวัลเกียรติยศการบริหารจัดการองค์กรดีเด่น ได้รับเป็นปีที่ 7 ต่อเนื่อง จากการรักษามาตรฐาน การบริหารจัดการเพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขัน พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำพาองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ   4) รางวัลผู้นำองค์กรดีเด่น ที่มอบให้แก่นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผลงานเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสิน 5) รางวัลการพัฒนาสู่รัฐวิสาหกิจดิจิทัล จากการสร้างสรรค์และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาองค์กร ในมิติต่าง ๆ พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล 6) รางวัลการพัฒนาสู่รัฐวิสาหกิจยั่งยืน จากการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นระบบ จนเกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม     7) รางวัลการดำเนินงานอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น โดยได้รับจากผลงานความสำเร็จของโครงการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบองค์รวม (Holistic Area-Based Development) - โครงการลิบงสุขใจ ออมสินพัฒนา อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 8) รางวัลความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมดีเด่น จากโครงการ GEN AI Branch Assistant : ผู้ช่วยสาขาอัจฉริยะ ที่ธนาคารพัฒนาขึ้นโดยการนำ AI มาใช้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการของสาขา   นับเป็นความภาคภูมิใจและเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของบุคลากรธนาคารออมสินทุกคนในการรักษามาตรฐานการบริหารจัดการองค์กรในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ภายใต้หลักธรรมาภิบาล โปร่งใส และการให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างสมดุล ควบคู่กับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ธนาคารเพื่อสังคม” เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกและความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจและสังคมไทยในระยะยาว    

26 Dec 2025

...

เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมมือกับ เอ ไลฟ์ (ALive Powered by AIA) โดยบริษัท เอไอเอ เวลเนส จำกัด ส่งความห่วงใยถึงคนไทยทั่วประเทศในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2569 มอบแคมเปญ “ฟรี!!! ประกันอุบัติเหตุ กรมธรรม์ประกันภัยอุ่นใจข้ามปี” โดยมอบกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่ (ไมโครอินชัวรันส์) ฟรีให้แก่ประชาชนทั่วไป ระยะเวลาคุ้มครองนาน 30 วัน ด้วยวงเงินคุ้มครองชีวิตสูงถึง 100,000 บาทต่อกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ พร้อมรับผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุตามจำนวนที่จ่ายจริงสูงสุด 5,000 บาท* เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีหลักประกันความคุ้มครองอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมเพิ่มความอุ่นใจสำหรับการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาเพื่อไปฉลองกับครอบครัว ซึ่งแคมเปญดังกล่าวยังเป็นการขานรับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) อีกทั้งยังสานต่อพันธกิจของเอไอเอที่ต้องการสนับสนุนให้ผู้คนกว่าพันล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives ทั้งนี้ สำหรับประชาชนทุกคนที่สนใจขอรับกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มฟรี สามารถลงทะเบียนรับสิทธิออนไลน์ได้ง่าย ๆ เพียงไปที่เว็บไซต์ https://aiathailand.info/panyPR  ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2568 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2569   หมายเหตุ: *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัท เอไอเอ เวลเนส จำกัด กำหนด

20 Dec 2025

...

รายงานข่าวจากธนาคารออมสิน ขอเชิญชวนผู้ประกอบการร้านค้า ประเภทบุคคลธรรมดา ที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” และยังไม่ได้ลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Smart Finance Upskill ขอให้เร่งสมัครผ่านเว็บไซต์ของธนาคารออมสิน www.gsb.or.th ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากขณะนี้เหลือเวลาเพียง 4 วันสุดท้าย ที่สามารถลงทะเบียนและเรียนให้จบหลักสูตร เพื่อรับสิทธิ์เงินสนับสนุนจากภาครัฐ นับจากวันที่พัฒนาทักษะสำเร็จจนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 สูงสุดไม่เกินรายละ 2,000 บาท หลักสูตร Smart Finance Upskill การพัฒนาความรู้ทางการเงินเพื่อร้านค้ารายย่อยโครงการคนละครึ่ง พลัสเป็นการเรียนออนไลน์กับธนาคารออมสิน ภายใต้โครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย ประเภทบุคคลธรรมดา มุ่งเสริมทักษะทางการเงินที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจ ครอบคลุมการทำบัญชี การคิดต้นทุน การตั้งราคาขาย และความรู้ก่อนยื่นขอกู้ ผู้ที่เรียนจบและผ่านเกณฑ์ จะได้รับประกาศนียบัตรและรับสิทธิ์เงินสนับสนุนจากภาครัฐตามเงื่อนไขที่กำหนด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Smart Finance Upskill และข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโครงการ Upskill/Reskill คนละครึ่ง พลัส ที่ GSB Contact Center โทร. 1115 กด 7

19 Dec 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner