Responsive image

Wednesday, 16 Jul 2025

หน้าแรก > SOCIETY / ภาพข่าว - CSR - ข่าวการเมือง


ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชาครั้งที่ 21 ศึกษาแนวทางลดความรุนแรงจากภัยพิบัติธรรมชาติ

Wed 21/09/2565


ภาวะโลกร้อน เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ทุกคนบนโลกใบนี้ควรเริ่มตระหนัก และเข้าใจถึงผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยในขณะนี้ มาจากหลายสาเหตุทั้งจากการเปลี่ยนแปลงสภาวะแวดล้อมของโลกที่เกิดขึ้นเนื่องจากปัจจัยธรรมชาติ หรือจากการกระทำของมนุษย์  มีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2030 พื้นที่ 40% ของกรุงเทพมหานคร จะถูกน้ำท่วมเสียหาย ทั้งจากฝนที่ตกหนักและน้ำหนักของตึกระฟ้าที่ยิ่งส่งผลให้เมืองกรุงเทพฯต้องจมลงในอัตรา 0.8 นิ้วต่อปี (ข้อมูลจาก https://www.carethebear.com ) การที่โลกเรามีอุณหูมิสูงขึ้นเป็นสาเหตุให้เกิดคลื่นความร้อนที่ทำให้เกิดภัยแล้งอย่างรุนแรง หรือฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน ปัญหาภาวะโลกร้อนนี้ ไม่ใช่ปัญหาของใครคนใดคนหนึ่งซึ่งหากทุกคนมีความรับผิดชอบช่วยกันแก้ไขก็อาจช่วยบรรเทาปัญหาให้เบาบางลงได้  

โครงการทิพยสืบสาน รักษาต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 21 ณ โครงการสาธิตการปลูกพืชในพื้นที่ดินเค็มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนครราชสีมา คัดเลือกครูอาจารย์จากทั่วประเทศ และผู้บริหารจากหน่วยงานต่างๆ ลงพื้นที่ร่วมกิจกรรมในโครงการ เป็นการสอดแทรกความรู้ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดความตระหนักรู้และร่วมมือกันในการป้องกันเพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากภัยพิบัติธรรมชาติ รวมถึงตอกย้ำความเข้าใจในเรื่องปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

 

ทั้งนี้ ผู้ร่วมกิจกรรมจะได้ลงพื้นที่เรียนรู้การแก้ปัญหาดินและน้ำ ที่เป็นสาเหตุหลักในการทำให้ผืนดินเสื่อมโทรมเพาะปลูกพืชไม่ได้และเมื่อเกิดฝนตก ดินไม่อุ้มน้ำเพราะมีต้นไม้ช่วยชะลอน้ำ ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมขึ้น ซึ่งเมื่อทุกคนเกิดความเข้าใจจะสามารถช่วยกันเผยแพร่เพื่อป้องกันและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติบนผืนแผ่นดินนี้ได้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการทำปุ๋ยหมักแห้งสูตรพระราชทานเพื่อการเสริมสร้างอาชีพ  และเข้าร่วมฟังบรรยายจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ รศ. นพ. สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน)  ดร. ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี พร้อมร่วมกิจกรรม Workshop ถอดรหัสนวัตกรรมศาสตร์พระราชา เรียนรู้นวัตกรรมสื่อการสอนสำหรับเยาวชนในศตวรรษที่ 21 Interactive Board Game จากวิทยากร อาจารย์ อดุลย์ ดาราธรรม นายกสมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย เพื่อนำไปพัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้สำหรับเยาวชนคนรุ่นใหม่และการพัฒนานวัตกรรมแบบก้าวกระโดดสำหรับองค์กรต่อไป นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกิจกรรม “ธรรมดีช่วยเพื่อน” การปล่อยปลานิลกินพืชจำนวน 590 กิโล และมอบพันธุ์โคจำนวน 12 ตัว 20 ชีวิตให้กับนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองบัวทุ่ง ที่มีความขยัน ซื่อสัตย์ กตัญญู และชาวบ้านในตำบลตาจั่น อำเภอคง จ.นครราชสีมา ที่มีฐานะยากจน จำนวน 11 ครอบครัว เพื่อให้ครอบครัวของนักเรียนมีอาชีพ  และส่งเสริมการประกอบอาชีพของครอบครัวด้วยการนำไปขยายพันธุ์โคต่อไปเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้ชุมชน  และสร้างวิถีชีวิตตามแนวคุณธรรม 5 ประการ คือ พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา และกตัญญู

 

นางวิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โครงการทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา เราไม่ได้เน้นเฉพาะเรื่องความร่วมมือกับครูอาจารย์เท่านั้น เรายังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้ชุมชนในท้องถิ่นให้พึ่งตนเองได้มากขึ้น ด้วยการสร้างโอกาสและเสริมเครื่องมือในการประกอบอาชีพ”

 

 

“การไถ่ชีวิตและมอบโคจำนวน 12  ตัว 20 ชีวิต นับว่าเป็นกุศโลบายในการสร้างมหาบุญ ถึง 3 ต่อ คือ1) เราได้ร่วมบุญไถ่ชีวิตโคที่เป็นแม่ลูกอ่อนให้รอดพ้นจากการถูกฆ่า 2) เราได้ช่วยให้เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับครอบครัวของนักเรียนที่มีความประพฤติดี ขยัน ซื่อสัตย์ กตัญญู และ3) เงินทำบุญจากผู้มีจิตอันเป็นกุศลยังต่อไปยังโรงเรียน 590 แห่งทั่วประเทศในรูปแบบของชุดหนังสือมรดกแห่งแผ่นดินเป็นการส่งต่อแสงสว่างแห่งปัญญาเพื่อให้เด็กนักเรียนได้ศึกษาเรื่องราวประวัติศาสตร์แผ่นดินเพื่อไม่ให้ลืมรากเหง้าของประเทศไทย   ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่เราส่งเสริมให้เกิดการพึ่งพาตนเองในชุมชน   และเรามีความคาดหวังที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงและเติบโตของชุมชนจากการที่เราเข้ามาร่วมทำกิจกรรมในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาเยาวชนและครอบครัวที่มีความต้องการสร้างอาชีพเพื่อการดำรงอยู่อย่างมั่นคงของชุมชนต่อไปในอนาคต” นางวิชชุดา กล่าวเพิ่มเติม

 

ดร. ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี กล่าวว่า  “โครงการนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน 17 ข้อขององค์การสหประชาชาติ หรือ UN SDGs ภายในปี 2030 ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกองค์กร  บุคคล ต้องตระหนักและเตรียมการ ซึ่งการสร้างความรู้ ความเข้าใจเพื่อให้เกิดการพัฒนาได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้นั้น ต้องมีการวางแผนดำเนินการและสื่อสารอย่างทั่วถึง  รวมถึงการสร้างความเข้าใจในปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างถ่องแท้ จะช่วยให้เกิดการพัฒนาจากระดับตน ขยายผลไปสู่ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่จะช่วยให้คนไทยได้เข้าใจวิถีความยั่งยืนและนำพาให้พึ่งพาตนเองได้”

รศ. นพ. สุริยเดว ทรีปาตี  ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม กล่าวว่า “โครงการนี้เป็นการส่งเสริมให้ทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมตลอดทั้ง 2 วันได้ปฏิบัติด้วยการลงมือทำเพื่อให้เข้าใจในบริบทของคุณธรรม 5 ประการ พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา และกตัญญู ได้อย่างชัดเจน พร้อมย้ำว่า คุณธรรม สร้างได้  เพราะคุณธรรมคือ “วิถีชีวิต” และสามารถเริ่มได้จากตนเอง เพื่อช่วยให้คนดีมีพื้นที่ยืน และความดีมีพื้นที่ในสังคม”

 

โครงการ ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา  จัดโดย ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) มูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด สำนักโครงการและจัดการความรู้ (OKMD)  มูลนิธิธรรมดี  กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย คุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ และบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา  ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และถอดรหัสพระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ ๙  ในการทรงงานเพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของพสกนิกรให้มีความสุขและมีความเป็นอยู่ที่ดี อีกทั้งยังเพื่อสนองตามพระปฐมบรมราชโองการ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว “เราจะสืบสาน รักษา ต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”

 

 


Tags : ทิพยประกันภัย TIP วิชชุดาไตรธรรม ทิพยสืบสานรักษาต่อยอดนวัตกรรมศาสตร์พระราชาครั้งที่21 ดร.ดนัยจันทร์เจ้าฉาย


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank โดย นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT HD เมื่อเร็ว ๆ นี้      

14 Jul 2025

...

  นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เห็นชอบให้ธนาคารออมสินจัดทำมาตรการแก้ไขหนี้รายย่อยในโครงการของรัฐบาลที่ออกมาช่วยประชาชนในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อรายย่อยไม่มีหลักประกัน ที่มีสถานะหนี้เสีย (NPLs) จำนวนรวมกว่า 500,000 บัญชี ให้สามารถหลุดพ้นจากประวัติหนี้เสีย โดยธนาคารจะดำเนินการทันทีเพื่อที่ในอนาคตลูกหนี้จะมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้เร็วขึ้นเมื่อมีความจำเป็น โดยแบ่งการดำเนินการเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ดำเนินการปิดบัญชีหนี้ ตัดหนี้สูญ และไม่ติดตามหนี้ ของลูกหนี้ NPLs จำนวนกว่า 200,000 บัญชี ในโครงการสินเชื่อตามนโยบายรัฐที่ได้รับงบประมาณชดเชยแล้ว ระยะที่ 2 ธนาคารจะทยอยดำเนินการปิดบัญชีหนี้แก่ลูกหนี้ NPLs โครงการสินเชื่อสู้ภัย COVID-19 จำนวนกว่า 300,000 บัญชี ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2568 ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมาธนาคารได้จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยสำหรับมาตรการปลดหนี้สินเชื่อตามโครงการของรัฐบาลที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้แล้วเป็นจำนวนกว่า 1.3 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดหนี้รวมกว่า 11,000 ล้านบาท โดยธนาคารออมสินสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้รายย่อย และช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางให้สามารถประคับประคองสถานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวให้เดินต่อได้ มุ่งเน้นดำเนินการเพียงครั้งเดียวเพื่อไม่ให้ลูกหนี้ต้องเสียวินัยทางการเงิน และยังสามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินได้อีกในอนาคต  

07 Jul 2025

...

    สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้ปรับปรุงแนวทางการคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัยสำหรับสัญญาประกันภัยระยะสั้น พร้อมทั้งทบทวนหลักเกณฑ์การคำนวณเงินกองทุนด้านความเสี่ยง เพื่อยกระดับความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันภัยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยมุ่งเน้นการพิจารณาข้อมูลในระดับประเภทการรับประกันภัยแทนการพิจารณาภาพรวมทั้งบริษัท เพื่อให้การประเมินภาระผูกพันและการจัดสรรเงินกองทุนมีความละเอียด แม่นยำ และสอดคล้องกับลักษณะความเสี่ยงที่แท้จริงยิ่งขึ้น โดยระหว่างวันที่ 6-21 มีนาคม 2568 สำนักงาน คปภ. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจและผู้เกี่ยวข้อง และจัดการประชุมชี้แจงไปเมื่อวันที่ 10-11 มีนาคม 2568 รวมทั้งได้จัดการประชุมกลุ่มย่อยเชิงเทคนิค (Focus Group) เสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 เพื่อรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ทั้งนี้ ในการประชุมฯ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงประกาศที่เกี่ยวข้องกับสำรองเบี้ยประกันภัย ได้แก่ 1. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการส่งรายงานประจำปีการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันวินาศภัย 2. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการส่งรายงานประจำปีการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต และ 3. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดประเภทและชนิดของเงินกองทุน รวมทั้งหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคำนวณเงินกองทุนของบริษัทประกันวินาศภัย สำหรับหลักการที่ได้มีการปรับปรุง คือ ปรับปรุงวิธีการคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัย และเงินกองทุนสำหรับความเสี่ยงจากสำรองเบี้ยประกันภัย จากเดิม พิจารณาที่ระดับผลรวมทั้งหมดของสัญญาประกันภัยระยะสั้น เปลี่ยนเป็น พิจารณาที่ระดับประเภทการรับประกันภัย  ซึ่งสำนักงาน คปภ. จะเผยแพร่ประกาศอย่างเป็นทางการในลำดับถัดไป เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกำหนดในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ดังนั้น บริษัทประกันภัยและผู้ที่เกี่ยวข้อง ควรเตรียมความพร้อมในการดำเนินการ เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ใหม่ได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่วันเริ่มมีผลบังคับใช้

07 Jul 2025

...

  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  ร่วมงาน “มหกรรมการเงินหาดใหญ่” ครั้งที่ 15 (MONEY EXPO 2025 HATYAI) ระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคม 2568 ณ บูธ F3 หาดใหญ่ฮอลล์ ชั้น 5 เซ็นทรัล หาดใหญ่ จ.สงขลา ยกขบวนผลิตภัณฑ์สินเชื่อครอบคลุมทุกกลุ่ม ตอบโจทย์ทุกความต้องการผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไฮไลท์ คือ สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่มและทุกความต้องการเอสเอ็มอีไทย ควบคู่บริการพัฒนาธุรกิจ ผ่านแพลตฟอร์ม “DX by SME D Bank” (dx.smebank.co.th)   ช่วยเสริมศักยภาพกิจการ ครบถ้วนในจุดเดียว ห้ามพลาด! พิเศษเฉพาะภายในงาน เมื่อยื่นขอสินเชื่อ และได้รับอนุมัติทุกวงเงิน รับโปรโมชันเสริมอีก 2 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 : ลดค่าธรรมเนียมวิเคราะห์สินเชื่อ (Front End Fee) สูงสุด 0.25% และต่อที่ 2 : รับบัตรกำนัล มูลค่า 500 บาท พร้อมเล่นเกม ลุ้นรับของที่ระลึกมากมาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

03 Jul 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner