Responsive image

Friday, 26 Dec 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


เมืองไทยประกันชีวิต เปิดตัวกลยุทธ์ “Happiness Reinvented” ตอบโจทย์ทุกความสุขในสไตล์คุณ ด้วยความคุ้มครองที่ตรงใจ-เข้าถึงง่าย-ออกแบบได้เอง

Sun 05/02/2566


เมืองไทยประกันชีวิต เปิดตัวกลยุทธ์ “Happiness Reinvented : เพราะความสุขคือทุกอย่าง… ร่วมสร้างความสุขสไตล์คุณไปกับเมืองไทยประกันชีวิต” เน้นเดินหน้าสานต่อความมุ่งมั่นในการสร้างความสุขให้แก่ทุกๆ คน ทั้งลูกค้า พนักงาน พาร์ทเนอร์ และสังคมโดยรวม ผ่านผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ความคุ้มครองสุขภาพ การบริการอื่นๆ เพื่อส่งมอบความสุขแบบครบวงจรอย่างแท้จริง

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL เปิดเผยว่า ในปี 2565 ถือเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทายที่หลากหลาย จากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ค่อย ๆ    ฟื้นตัว หลังจากการระบาดอย่างรุนแรงของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มาหลายปี  การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของผู้บริโภคในโลกยุคใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว  อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่เต็ม     ไปด้วยความท้าทาย เมืองไทยประกันชีวิต ยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความแข็งแกร่ง เพื่อการตอบโจทย์และเดินเคียงข้างลูกค้าคนสำคัญอย่างยั่งยืน โดยมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับใหม่ที่ 10% และเบี้ยประกันสุขภาพและโรคร้ายแรงที่ 7% โดยในปีที่ผ่านมา สำหรับธุรกิจในภูมิภาค CLMV มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง

ในด้านความแข็งแกร่งและด้านเสถียรภาพทางด้านการเงิน บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Rating) จาก S&P Global Ratings อยู่ที่ระดับ BBB+ โดยแนวโน้มมีเสถียรภาพ และจาก Fitch Ratings อยู่ที่ระดับ A- โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS Rating) ที่ AAA(tha) โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ซึ่งถือเป็นอันดับเครดิตในระดับประเทศที่สูงที่สุด และยังมีความเพียงพอของเงินกองทุนอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งโดยสะท้อนจากอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนสูงกว่า 300% ณ สิ้นปี 2565 ซึ่งสูงกว่าระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรง ตามเกณฑ์ที่ 140%

นายสาระ กล่าวว่า “ในปี 2566 นี้ ถือเป็นปีสำคัญของเมืองไทยประกันชีวิต ในการอยู่เคียงข้างสร้างรอยยิ้มแก่คนไทยครบ 72 ปี พร้อมกำหนดทิศทางการดำเนินงานในปีนี้ของบริษัทฯ  ด้วยการตั้งเป้าหมายในการเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในทุกมิติ ด้วยการดำเนินกลยุทธ์ “Happiness Reinvented” เพราะความสุขคือทุกอย่าง...ร่วมสร้าง

ความสุขสไตล์คุณไปกับเมืองไทยประกันชีวิต  ประกาศปักธงเป็นอันดับหนึ่งในฐานะคู่คิดด้านชีวิตและสุขภาพที่ลูกค้าวางใจ (No.1 Most Trusted Life & Health Partner) ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย ทุกกลุ่มเป้าหมาย ทุกไลฟ์สไตล์ และทุกบทบาทของชีวิตที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อสร้างการเข้าถึงได้ของประกันชีวิตให้กับทุกๆคน (Democratizing Insurance) โดยบริษัทฯ มุ่งดำเนินงานผ่าน 4 แกนสำคัญ ได้แก่ บุคลากร (People) พาร์ทเนอร์ (Preferred Partner) ลูกค้า (Customers) และ นอกเหนือจากลูกค้า (Beyond Our Customers)

บริษัทฯ  มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาบุคลากรในทุกๆ มิติ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญที่จะช่วยเชื่อมต่อการส่งมอบความสุขไปยังลูกค้า ผ่านการพัฒนาในหลากหลายรูปแบบ อาทิ การส่งเสริมวัฒนธรรมที่เปิดกว้างทางความคิดและความหลากหลาย การพัฒนาทักษะรอบด้าน การปรับกระบวนการภายในให้มีความรวดเร็ว ความแม่นยำ และความสามารถในการรองรับการขยายตัวของธุรกิจ การมีพื้นที่การทำงานที่ทันสมัยเพื่อรองรับการทำงานรูปแบบ Squad Team ไม่ว่าจะเป็นที่ศูนย์การเรียนรู้สรรค์สาระ The Garage และ 66 Tower นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความใส่ใจในการสร้างความสุขที่ยั่งยืนตลอดการทำงานและหลังการเกษียณอายุไปแล้ว  ผ่านกิจกรรมพัฒนาความรู้และสร้างเสริมทักษะรอบด้านทั้ง สุขภาพ ความมั่งคั่ง ทักษะแห่งอนาคต และทักษะอาชีพอื่น ๆ ให้กับพนักงานอย่างต่อเนื่อง 

เมืองไทยประกันชีวิต ยังมีที่ปรึกษาประกันชีวิต และพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งจากหลากหลายธุรกิจ (Preferred Partner) เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างแท้จริง (Democratizing Insurance) พร้อมสรรสร้างนวัตกรรมร่วมกับพาร์ทเนอร์ของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริการลูกค้า ผ่านแอปพลิเคชันและเครื่องมือดิจิทัลที่ล้ำสมัย ระบบกระบวนการทำงานอัตโนมัติ และทีมสนับสนุนที่เชี่ยวชาญและมากความสามารถในด้านต่าง ๆ 

อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างความสุขที่ยั่งยืนผ่านสุขภาพที่ดีในทุกมิติ ทั้งทางกาย ทางใจ และทางการเงินให้กับลูกค้า เมืองไทยประกันชีวิตยังดำเนินงานโดยยึดหลักการมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centricity) และนำเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และเงื่อนไขที่แตกต่างกันของชีวิตทุก ๆ คนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านความคุ้มครองสุขภาพ ความคุ้มครองโรคร้ายแรง ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน และแอปพลิเคชันด้านสุขภาพอย่าง MTL Fit ที่เข้าถึงลูกค้าในแบบที่มีความเฉพาะตัวได้มากยิ่งขึ้น (Personalization) อีกทั้งเน้นการสร้างความแตกต่าง และสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างเข้าถึง เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรม และครอบคลุมกลุ่มลูกค้าในทุกเพศ ทุกวัย 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเน้นการส่งต่อความสุขสู่สังคม ซึ่งรวมถึงทุกๆ คนที่นอกเหนือจากลูกค้าของเรา (Beyond Our Customers) ด้วยการร่วมมือกับบริษัทฯ ในเครือต่างๆ ทั้งการเป็นพันธมิตรกับสตาร์ทอัพ ด้าน Insurtech และ Healthtech การนำเสนอและเปรียบเทียบประกันภัยออนไลน์ และการพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างครบวงจร เพื่อร่วมกันนำเสนอทางเลือกที่เป็นมากกว่าประกันชีวิตแก่ ทั้งลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตและบุคคลทั่วไป พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังประกาศความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามนโยบายและเป้าหมายด้าน ESG อย่างครบถ้วนทุกมิติ ทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล และเศรษฐกิจ เพื่อสร้างความสุขอย่างยั่งยืนกับทั้งบริษัทและสังคมโดยรวมต่อไป”

นายสาระ กล่าวว่า ล่าสุดเมืองไทยประกันชีวิต ได้ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเข้าถึงและตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มให้มากยิ่งขึ้น เพราะทุกคนมีความต้องการที่แตกต่าง  YOUnique Health เมืองไทยประกันชีวิตเข้าใจทุกความต้องการในแบบคุณ” อีกทั้งได้เปิดตัวแคมเปญ A True Story” เพื่อสะท้อนถึงความสำคัญของสุขภาพ และถ่ายทอดเรื่องราวด้านความคุ้มครองสุขภาพจากเมืองไทยประกันชีวิต ที่ได้รับความไว้วางใจและเชื่อมั่นจากลูกค้า ด้วยการเปิดมุมมองและประสบการณ์จากลูกค้าตัวจริง ถึงการให้ความสำคัญต่อการเลือกซื้อความคุ้มครองสุขภาพในยุค ที่ความเจ็บป่วยใกล้ตัวกว่าที่คิด และโรคอุบัติใหม่ที่มาได้แบบไม่ทันตั้งตัว โดยรูปแบบการทำเสนอในซีซั่นนี้ จะเต็มไปด้วยความสนุก และเล่าเรื่องราวเจาะลึกแบบเป็นกันเองเหมือนทุกท่านมาบอกเล่าประสบการณ์แบบ Exclusive ที่ไม่สามารถหาชมที่ไหนได้ง่าย ๆ เพราะไม่ว่าจะอาชีพอะไร ไลฟ์สไตล์ แบบไหน ...เมืองไทยประกันชีวิตเข้าใจทุกความต้องการในแบบคุณ 

โดยสามารถติดตามหลากหลายเรื่องราวแบบประกันที่ใช่กับสไตล์คุณ  YOUnique Health & A True Story 2” ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ www.muangthai.co.th YouTube  Facebook Instagram Twitter และ LINE Official Account


Tags : เมืองไทยประกันชีวิต สาระ ล่ำซำ เปิดตัวกลยุทธ์ Happiness Reinvented MTL


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น (SOE Awards) ประจำปี 2568 ให้แก่ธนาคารออมสิน โดยมีผู้แทนรับมอบรางวัลได้แก่ รศ.ดร. ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการธนาคารออมสิน พร้อมด้วย นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และผู้บริหาร ซึ่งเป็นปีที่ธนาคารออมสินได้รางวัลในระดับดีเด่นและเกียรติยศ ครบทั้ง 8 ประเภทรางวัลที่ธนาคารได้รับ จัดขึ้นโดยคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2568     นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในปี 2568 นี้ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. ได้พิจารณามอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นแก่ธนาคารออมสิน จำนวน 8 รางวัล ประกอบด้วย 1) รางวัลเกียรติยศรัฐวิสาหกิจยอดเยี่ยม ธนาคารได้รับเป็นปีที่ 3 ต่อเนื่อง โดยเป็นรางวัลที่มอบให้กับรัฐวิสาหกิจที่มีความโดดเด่นและมีมาตรฐานการดำเนินงานทุก ๆ ด้าน สามารถตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของประชาชน     2) รางวัลเกียรติยศคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจดีเด่น ได้รับเป็นปีที่ 3 ต่อเนื่อง จากการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ และผลักดันการบริหารงานให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี 3) รางวัลเกียรติยศการบริหารจัดการองค์กรดีเด่น ได้รับเป็นปีที่ 7 ต่อเนื่อง จากการรักษามาตรฐาน การบริหารจัดการเพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขัน พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำพาองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ   4) รางวัลผู้นำองค์กรดีเด่น ที่มอบให้แก่นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผลงานเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสิน 5) รางวัลการพัฒนาสู่รัฐวิสาหกิจดิจิทัล จากการสร้างสรรค์และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาองค์กร ในมิติต่าง ๆ พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล 6) รางวัลการพัฒนาสู่รัฐวิสาหกิจยั่งยืน จากการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นระบบ จนเกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม     7) รางวัลการดำเนินงานอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น โดยได้รับจากผลงานความสำเร็จของโครงการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบองค์รวม (Holistic Area-Based Development) - โครงการลิบงสุขใจ ออมสินพัฒนา อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 8) รางวัลความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมดีเด่น จากโครงการ GEN AI Branch Assistant : ผู้ช่วยสาขาอัจฉริยะ ที่ธนาคารพัฒนาขึ้นโดยการนำ AI มาใช้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการของสาขา   นับเป็นความภาคภูมิใจและเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของบุคลากรธนาคารออมสินทุกคนในการรักษามาตรฐานการบริหารจัดการองค์กรในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ภายใต้หลักธรรมาภิบาล โปร่งใส และการให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างสมดุล ควบคู่กับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ธนาคารเพื่อสังคม” เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกและความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจและสังคมไทยในระยะยาว    

26 Dec 2025

...

เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมมือกับ เอ ไลฟ์ (ALive Powered by AIA) โดยบริษัท เอไอเอ เวลเนส จำกัด ส่งความห่วงใยถึงคนไทยทั่วประเทศในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2569 มอบแคมเปญ “ฟรี!!! ประกันอุบัติเหตุ กรมธรรม์ประกันภัยอุ่นใจข้ามปี” โดยมอบกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่ (ไมโครอินชัวรันส์) ฟรีให้แก่ประชาชนทั่วไป ระยะเวลาคุ้มครองนาน 30 วัน ด้วยวงเงินคุ้มครองชีวิตสูงถึง 100,000 บาทต่อกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ พร้อมรับผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุตามจำนวนที่จ่ายจริงสูงสุด 5,000 บาท* เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีหลักประกันความคุ้มครองอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมเพิ่มความอุ่นใจสำหรับการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาเพื่อไปฉลองกับครอบครัว ซึ่งแคมเปญดังกล่าวยังเป็นการขานรับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) อีกทั้งยังสานต่อพันธกิจของเอไอเอที่ต้องการสนับสนุนให้ผู้คนกว่าพันล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives ทั้งนี้ สำหรับประชาชนทุกคนที่สนใจขอรับกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มฟรี สามารถลงทะเบียนรับสิทธิออนไลน์ได้ง่าย ๆ เพียงไปที่เว็บไซต์ https://aiathailand.info/panyPR  ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2568 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2569   หมายเหตุ: *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัท เอไอเอ เวลเนส จำกัด กำหนด

20 Dec 2025

...

รายงานข่าวจากธนาคารออมสิน ขอเชิญชวนผู้ประกอบการร้านค้า ประเภทบุคคลธรรมดา ที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” และยังไม่ได้ลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Smart Finance Upskill ขอให้เร่งสมัครผ่านเว็บไซต์ของธนาคารออมสิน www.gsb.or.th ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากขณะนี้เหลือเวลาเพียง 4 วันสุดท้าย ที่สามารถลงทะเบียนและเรียนให้จบหลักสูตร เพื่อรับสิทธิ์เงินสนับสนุนจากภาครัฐ นับจากวันที่พัฒนาทักษะสำเร็จจนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 สูงสุดไม่เกินรายละ 2,000 บาท หลักสูตร Smart Finance Upskill การพัฒนาความรู้ทางการเงินเพื่อร้านค้ารายย่อยโครงการคนละครึ่ง พลัสเป็นการเรียนออนไลน์กับธนาคารออมสิน ภายใต้โครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย ประเภทบุคคลธรรมดา มุ่งเสริมทักษะทางการเงินที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจ ครอบคลุมการทำบัญชี การคิดต้นทุน การตั้งราคาขาย และความรู้ก่อนยื่นขอกู้ ผู้ที่เรียนจบและผ่านเกณฑ์ จะได้รับประกาศนียบัตรและรับสิทธิ์เงินสนับสนุนจากภาครัฐตามเงื่อนไขที่กำหนด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Smart Finance Upskill และข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโครงการ Upskill/Reskill คนละครึ่ง พลัส ที่ GSB Contact Center โทร. 1115 กด 7

19 Dec 2025

...

ธ.ก.ส. เร่งให้ความช่วยเหลือทหาร และ ตชด. วีรบุรุษผู้เสียสละชีวิต จากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศไทย – กัมพูชา โดยให้ความช่วยเหลือกับทหาร และ ตชด. ที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. รวมถึงให้ความช่วยเหลือบิดา - มารดา หรือคู่สมรสที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ของวีรบุรุษผู้เสียสละชีวิต โดยยกหนี้ในส่วนของต้นเงินกู้ทุกสัญญา และยกหนี้ในส่วนของดอกเบี้ยทั้งจำนวน ภายใต้สัญญาที่ใช้แหล่งเงินทุน ธ.ก.ส. เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ลูกหนี้ และลดภาระให้สามารถดำรงชีพต่อไปได้อย่างมั่นคง นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชาได้กลับมาตึงเครียดในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี ตราด และสระแก้ว ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของเกษตรกรลูกค้าของธนาคาร โดยปัจจุบันมีทหารที่เป็นสมาชิกครอบครัวของลูกค้า ธ.ก.ส. เสียชีวิต และเพื่อให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ลูกค้า ธ.ก.ส. และเป็นการลดภาระเพื่อให้สามารถดำรงชีพต่อไปได้อย่างมั่นคง คณะกรรมการธนาคาร โดย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ ธ.ก.ส. ได้มีมติในการประชุมวันนี้ (9 ธันวาคม 2568) ให้ความช่วยเหลือลูกค้า กรณีทหาร หรือตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศไทย – กัมพูชา ที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. รวมถึงให้ความช่วยเหลือแก่บิดา มารดา หรือคู่สมรสที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ของวีรบุรุษผู้เสียสละชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยธนาคารจะยกหนี้ในส่วนของต้นเงินกู้ทุกสัญญา และยกหนี้ในส่วนของดอกเบี้ยค้างรับและดอกเบี้ยปรับทั้งจำนวน ภายใต้สัญญาที่ใช้แหล่งเงินทุน ธ.ก.ส. เป็นกรณีพิเศษ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้ให้ความช่วยเหลือครอบครัวทหารไปแล้ว จำนวน 7 ราย ธ.ก.ส. ขอแสดงความห่วงใยต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา คนข้างหลังไม่ต้องกังวล ธ.ก.ส. อยู่เคียงข้างและพร้อมก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ Call Center 02 555 0555 ตลอด 24 ชั่วโมง  

14 Dec 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner