Responsive image

Tuesday, 28 Mar 2023

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย


เอไอเอ ประเทศไทย จัดแข่งขัน “AIA Thailand Championship 2023” เฟ้นหาสุดยอดทีมนักฟุตบอลไทย ร่วมแข่งขันระดับโลก ณ ประเทศอังกฤษ

Mon 06/02/2566


เอไอเอ ประเทศไทย ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของสโมสรฟุตบอลท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สโมสรชั้นนำของ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ จัดกิจกรรมแข่งขัน “AIA Thailand Championship 2023” ซึ่งเป็นการแข่งขันฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ เพื่อเฟ้นหาสุดยอดทีมฟุตบอลเป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมการแข่งขันรอบสุดท้ายในระดับนานาชาติ ณ สนามฝึกซ้อม สโมสรฟุตบอลท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ พร้อมสัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับโอกาสได้ใกล้ชิดนักฟุตบอลคนดังของสโมสร อย่าง แฮร์รี เคน แบรนด์ แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของเอไอเอ รวมถึง ซน ฮึง มิน นักเตะดาวรุ่งทีมชาติเกาหลีใต้ และร่วมชมการแข่งขัน พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ระหว่างสโมสรท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ กับสโมสรฟุตบอลเบรนท์ฟอร์ดแบบติดขอบสนาม

 

โดยมี นายธนศักดิ์ สุระประเสริฐ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และนางสาวญดา วงศ์ทองคำ ผู้ช่วยผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารสิทธิพิเศษและกิจกรรมลูกค้า เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมเป็นประธานการแข่งขัน เพื่อมุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนไทยในการเริ่มต้นดูแลสุขภาพ พร้อมส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี ตอกย้ำคำมั่นสัญญาของเอไอเอ ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น ณ สนามฟุตบอล ฟิวเจอร์ อารีน่า รังสิต

 

ทั้งนี้ ทีมที่ชนะเลิศฝ่ายชาย ได้แก่ ทีม Forward United และทีมชนะเลิศฝ่ายหญิง ได้แก่ ทีมสมาคมฟุตบอลจังหวัดชลบุรี ซึ่งจะได้บินลัดฟ้าไปร่วมการแข่งขัน AIA Championship 2023 ระดับนานาชาติ รอบสุดท้าย ในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยทีมชายจะพบกับทีมฟุตบอลจากประเทศสิงคโปร์  อินโดนีเซีย เกาหลี เวียดนาม และกลุ่มบริษัทเอไอเอ สำหรับทีมหญิงจะพบกับทีมฟุตบอลจากประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย เกาหลี เวียดนาม และฟิลิปปินส์

 

 


Tags : เอไอเอ ประเทศไทย เอไอเอ AIA AIA Thailand Championship 2023 ธนศักดิ์ สุระประเสริฐ ญดา วงศ์ทองคำ


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

  เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นางพันทิพา ขัดงาม (กลาง) ผู้อำนวยการฝ่ายตัวแทนประกันชีวิตภาค 3 และนางสาวรพีพร วงศ์ทองคำ (ที่ 4 จากซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์ เป็นตัวแทนมอบเงินบริจาคจำนวน 1,000,000 บาท แก่มูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ภายใต้โครงการ "เอไอเอ เพื่อก้าวใหม่ ชีวิตใหม่ – AIA New Leg New Life" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 โดยมีนายแพทย์วิรัช พันธ์พานิช (ที่ 4 จากขวา) รองเลขาธิการมูลนิธิขาเทียมฝ่ายบริหาร เป็นตัวแทนรับมอบ เพื่อร่วมสนับสนุนมูลนิธิขาเทียมฯ สำหรับใช้จัดซื้อวัสดุ อุปกรณ์ในการผลิตขาเทียมให้แก่ผู้พิการยากไร้ทั่วประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาเอไอเอ ประเทศไทย ได้ร่วมมือกับมูลนิธิขาเทียมฯ มอบขาเทียมให้ผู้พิการที่ต้องการขาเทียมไปแล้วกว่า 5,000 ข้าง นับเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและมอบโอกาสให้ประชาชนผู้พิการทางขาได้สามารถกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติ รวมถึงประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ ทั้งนี้ เอไอเอ ประเทศไทย พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลและตอบแทนสังคมไทย และสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา 'Healthier, Longer, Better Lives' ณ โครงการออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ ครั้งที่ 161 จังหวัดราชบุรี

24 Mar 2023

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ด้วยปัจจุบันมีลูกค้าและประชาชนจำนวนมากที่ประสบภัยถูกมิจฉาชีพล่อลวงด้วยวิธีการต่าง ๆ เป็นเหตุให้ต้องสูญเสียทรัพย์สินโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ดังนั้น เพื่อเป็นการดูแลลูกค้าและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ประสบเหตุ ธนาคารออมสินจึงเปิดศูนย์รับแจ้งเหตุภัยมิจฉาชีพทางการเงิน ทาง GSB Contact Center โทร. 1115 กด 6 โดยลูกค้าธนาคารออมสินที่ประสบเหตุ พบธุรกรรมที่ผิดปกติ หรือสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยงจากการถูกล่อลวงและอาจสูญเสียเงินจากบัญชีธนาคารออมสิน สามารถติดต่อแจ้งเหตุที่ศูนย์ฯ ดังกล่าวได้ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ธนาคารขอย้ำเตือนลูกค้าและประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังอย่าหลงเชื่อหรือเผลอกดลิงก์ใด ๆ โดยธนาคารไม่มีการส่ง SMS ไปยังโทรศัพท์มือถือของลูกค้าชวนให้กดลิงก์ที่แนบไปพร้อมกับข้อความ หากลูกค้าได้รับข้อความ SMS หรือรับสายโทรศัพท์อ้างว่าติดต่อจากธนาคารออมสิน หรือ ได้รับข้อความทางโซเชียลมีเดียเชิญชวนให้แจ้งข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ธนาคารขอความร่วมมือโปรดตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อความก่อนทุกครั้ง โดยปัจจุบัน ช่องทางสื่อสารหลักของธนาคารออมสิน ได้แก่ www.gsb.or.th facebook : GSB Society LINE : GSB Society และ LINE : GSB Now รวมถึง GSB Contact Center โทร.1115  

06 Mar 2023

...

กบข. แจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพแอบอ้างใช้ชื่อ “กบข.” “ตราสัญลักษณ์” “ภาพผู้บริหาร” ชักชวนลงทุนโดยมีการประกันผลตอบแทนผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ย้ำ กบข. ไม่มีนโยบายเชิญชวนสมาชิกลงทุนผ่านช่องทางส่วนบุคคล นอกเหนือจากการเลือกแผนการลงทุนตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ซึ่งเงินสะสมของสมาชิกจะถูกหักจากบัญชีเงินเดือนและนำส่ง กบข. โดยเจ้าหน้าที่การเงินของหน่วยงานสมาชิกเท่านั้น ไม่มีการให้สมาชิกโอนเงินเข้าบัญชีด้วยตนเอง ดร.ศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า กบข. ได้รับแจ้งว่ามีมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นผู้บริหาร กบข. เชิญชวนให้เข้ากลุ่มไลน์ เพื่อหลอกลวงให้ร่วมลงทุน โดยมีพฤติกรรมสร้างบัญชีไลน์ ใช้ชื่อและรูปของผู้บริหาร กบข. เพื่อให้เข้าใจว่า กบข. เป็นผู้ชักชวน หลังจากนั้นได้ส่งข้อความหาสมาชิก กบข. และกระตุ้นให้เข้าร่วมกลุ่มไลน์และให้โอนเงินประกันผลตอบแทนเข้าระบบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอ้างว่าเป็นการทำภารกิจเพื่อให้ได้ผลกำไร พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำของมิจฉาชีพ ที่ทำให้สมาชิกต้องสูญเสียทรัพย์สินและเกิดความเสียหาย กบข. ขอชี้แจงว่า กบข. ไม่มีนโยบายเชิญชวนให้สมาชิกลงทุนผ่านสื่อต่าง ๆ เช่น LINE Facebook หรือช่องทางส่วนบุคคล นอกเหนือจากการเลือกแผนการลงทุนตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ซึ่งเงินสะสมของสมาชิกจะถูกหักจากบัญชีเงินเดือนและนำส่ง กบข. โดยเจ้าหน้าที่การเงินของหน่วยงานสมาชิกเท่านั้น ไม่มีการให้สมาชิกโอนเงินเข้าบัญชีด้วยตนเอง และขอแจ้งเตือนไปยังสมาชิกและประชาชนทั่วไปให้ใช้ความระมัดระวังไม่หลงเชื่อคำเชิญชวนต่าง ๆ หรือการติดต่อแอบอ้างจากช่องทางอื่น ๆ ที่ใช้ชื่อ “กบข.” “ตราสัญลักษณ์” หรือ “ภาพผู้บริหาร กบข.” ที่ไม่ใช่ช่องทางการสื่อสารหลักของ กบข. หากพบเห็นพฤติกรรมดังกล่าว หรือโฆษณาชักชวนลงทุนที่ผิดสังเกตสามารถแจ้งมาได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก โทร. 1179 Facebook page กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ที่มีเครื่องหมายถูกสีฟ้าหลังชื่อเพจเพื่อยืนยันบัญชีทางการ หรือ LINE Official Account ไอดีไลน์ @gpfcommunity มีเครื่องหมายโล่สีเขียวหน้าชื่อบัญชี เพื่อยืนยันบัญชีทางการ ทั้งนี้ กบข. กำลังรวบรวมหลักฐาน และส่งเรื่องจากผู้เสียหายที่มีหลักฐานครบถ้วนถึงการกระทำผิดที่เกี่ยวกับ กบข. ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด  

26 Feb 2023

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 ได้ผ่อนคลายลง  ส่งผลให้บรรยากาศทางเศรษฐกิจดีขึ้นและกลับมามีกิจกรรมทางธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว  มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว สามารถดำเนินกิจการและให้บริการอย่างราบรื่น คล่องตัว ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทุนหรือสภาพคล่อง ธนาคารออมสินจึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม และ Supply Chain ของโรงแรม ร้านอาหาร และกลุ่มผู้ประกอบการที่มีเอกลักษณ์หรืออัตลักษณ์ของท้องถิ่น ใช้บริการสินเชื่อ Soft Loan Re-Open อัตราดอกเบี้ยต่ำมาก 1.99% คงที่ 2 ปีแรก และสวนกระแสของภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นในขณะนี้  โดยสามารถรับข้อเสนอและเงื่อนไขพิเศษได้ที่เว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th หรือที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2566 นี้เท่านั้น สินเชื่อ Soft Loan Re-Open เปิดให้กู้เพื่อนำเงินไปปรับปรุง ซ่อมแซมสถานประกอบการ จัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการกลับมาเปิดกิจการอีกครั้ง โดยผู้กู้ต้องเป็นผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่มีบุคคลสัญชาติไทยถือหุ้นเกินร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียน วงเงินกู้ต่อรายสูงสุดถึง 5 ล้านบาท และมีระยะเวลากู้ได้นาน 10 ปี สามารถใช้หลักทรัพย์ หรือ บสย. อย่างใดอย่างหนึ่งในการค้ำประกันได้เต็มวงเงินกู้ หรือจะเลือกใช้ทั้งหลักทรัพย์และ บสย. ร่วมกันค้ำประกันก็ได้ คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก เพียง 1.99% ต่อปี โดยปีที่ 3-10 คิดอัตราดอกเบี้ยตามประเภทหลักทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกัน และได้รับสิทธิพิเศษปลอดชำระเงินต้นเป็นเวลานานสูงสุดถึง 2 ปี ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ GSB SME Call Center โทร. 02-2998899, GSB Contact Center โทร. 1115 และที่ facebook : GSB Society โดยธนาคารออมสินไม่มีนโยบายเชิญชวนให้ยื่นกู้ทางโซเชียลมีเดียหรือลิงก์ส่งทาง SMS แต่อย่างใด

25 Feb 2023

Banner Banner Banner Banner Banner

Banner
    ปี 2566 “ประกันภัย-การเงิน-สินเชื่อ” ยังคงมาแรง ธุรกิจที่ยังต้องรอรัฐบาลฟื้นฟู “ขายตรง-อสังหาฯ-SME”    หลังจากที่ประเทศไทยเริ่มผ่อนคลายจากไวรัสโควิด-19 ในปี 2566 ธุรกิจประกันภัย-การเงิน-สินเชื่อ ยังคงเป็นธุรกิจที่เติบโตต่อเนื่องในปี 2566 เพราะในช่วงวิกฤตโควิด ธุรกิจทั้ง 3 สาขาแม้จะได้รับผลกระทบ แต่ก็ยังยืนยงอยู่รอดปลอดภัย และเป็นธุรกิจที่ยังน่าสนใจลงทุนเป็นอันดับต้น ๆ ของธุรกิจในประเทศไทย และในต่างประเทศ ตราบใดที่ระบบสาธารณสุข และรัฐสวัสดิการของประเทศไทย ยังเป็นอยู่อย่างทุกวันนี้  ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในสองสิ่งนี้ การประกันชีวิตและการประกันภัยจึงยังเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญมากสำหรับคนไทย ที่อยากซื้อความคุ้มครองซื้ออนาคต และอยากมีสวัสดิการที่ขาดหายไปจากภาครัฐ ส่วนธุรกิจการเงินและธุรกิจสินเชื่อนั้น นับวันจะมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ตราบใดที่ประเทศไทยยังอยู่กับคำว่า “รวยเป็นกระจุก จนเป็นกระจาย” คนไทยยังต้องหวังพึ่งพาเงินในอนาคต เพื่อมาอุปโภคบริโภค ตราบนั้นทั้งธุรกิจการเงิน และสินเชื่อ ก็ยิ่งจะมีความสำคัญ เป็นธุรกิจที่เล็งเห็นกำไรและการเติบโต และน่าลงทุนมากขึ้นตามไปด้วย นี่คือธุรกิจยอดเยี่ยมในปี 2566 ที่ผมขอยกให้เป็นธุรกิจที่น่าลงทุน และน่าเข้าไปเกี่ยวข้อง สำหรับธุรกิจที่ยังต้องเร่งฟื้นฟู คือ ธุรกิจขายตรง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจSME ที่ยังคงสะบักสะบอมมาตั้งแต่ก่อนยุคโควิด-19 มาถึงวันนี้ก็ยังนิ่ง ๆ อยู่ ก็คงต้องรอให้รัฐบาลชุดใหม่มาบูรณะ คงต้องรอดูฝีมือของทีมงานเศรษฐกิจชุดใหม่ ที่ต้องทำงานได้ดีกว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันหลายเท่าตัวในการกอบกู้ธุรกิจไทย  และ 3 สาขาธุรกิจที่ยังคงรอให้รัฐบาลชุดใหม่มาเร่งฟื้นฟูในปี 2566 นี้  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner