Responsive image

Saturday, 05 Jul 2025

หน้าแรก > BUSINESS-MARKETING-SME /ธุรกิจ-การตลาด-ขายตรง-เอสเอ็มอี


กิฟฟารีน เตรียมสยายปีกต่างประเทศ ชูสมุนไพรเป็นเรือธงแข่งตลาดความงาม พร้อมร่วมงาน Cosmoprof CBE ASEAN 2023 เดินหน้าขยายฐานลูกค้าเต็มสูบ

Mon 05/06/2566


 

กิฟฟารีน พร้อมบุกธุรกิจเต็มสูบหลังโควิดคลี่คลาย ส่งแบรนด์ “PATTRENA” สยายปีกตลาดต่างประเทศ ชูจุดแข็งสมุนไพรไทย-นวัตกรรมสินค้า เจาะตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพ ตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภค แย้มเตรียมเปิดตัวสกินแคร์ โดยพัฒนามาจากข้าวหอมมะลิไทย พร้อมโดดร่วม งานแสดงสินค้าเพื่อธุรกิจความงามระดับโลก Cosmoprof CBE ASEAN 2023 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 14-16 กันยายนนี้ คาดขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น

 

              

น.ท.นพ.จักรพงศ์ ไพบูลย์ รองประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ แลบบอราทอรี่ แอนด์ เฮลท์แคร์ จำกัด เปิดเผยว่า แนวทางในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ จะยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้นวัตกรรมใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องของการใช้วัตถุดิบสมุนไพรในประเทศมาเป็นเรือธงในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างความโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่ง เนื่องจากสมุนไพรของไทยได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ และยังมีดีมานด์อยู่อีกมาก เห็นได้จากภายหลังจากวิกฤติโควิด-19 คลี่คลาย ผู้คนทั่วโลกต่างก็ให้ความสำคัญกับสินค้ากลุ่มสุขภาพ หรือแม้แต่กระทั่งมองหาผลิตภัณฑ์ที่มาจากสมุนไพรมากขึ้น บริษัทฯ จึงมั่นใจว่าสินค้าสุขภาพจากประเทศไทย จะเป็นที่ต้องการในตลาดโลก และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศได้เป็นอย่างดีไม่แพ้เรื่องการท่องเที่ยว

สำหรับโรงงานแห่งนี้ได้เริ่มต้นจากการผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ GIFFARINE ซึ่งเป็นแบรนด์ของธุรกิจเครือข่าย และได้พัฒนาจนปัจจุบันเป็นธุรกิจชั้นนำอันดับหนึ่งของธุรกิจเครือข่ายสัญชาติไทย ต่อมาบริษัทได้ให้ความสำคัญในการขยายตลาดต่างประเทศ จึงได้คิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์  PATTRENA โดยจะเป็นแบรนด์ของสินค้ากลุ่มสปาและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติซึ่งเป็นที่นิยมของตลาดต่างประเทศ ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมทั้งในตลาดต่างประเทศรวมถึงโรงแรมและสปาต่างๆ ในประเทศไทย

น.ท.นพ.จักรพงศ์ กล่าวว่า แบรนด์แพททรีน่า (PATTRENA) เป็นแบรนด์ที่บริษัทฯ มุ่งเน้นการขยายตลาดต่างประเทศและตลาดสปา ในช่วงที่ผ่านมาจึงได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติครั้งสำคัญอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นงานแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกงและเอเชีย Cosmoprof  Asia (Hong Kong) งานจัดแสดงสินค้าที่จัดมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี ในทวีปยุโรป Cosmoprof  Worldwide Bologna (Italy) และงานจัดแสดงสินค้าชื่อดังในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และสปาคุณภาพ Canton Beauty Expo(China), Shanghai Beauty Expo(China) และงาน อื่นๆ อีกมากมาย ทำให้บริษัทฯ ได้มีโอกาสพบลูกค้าที่มาจากทั่วโลก ล้วนแล้วแต่เป็นลูกค้าที่มีศักยภาพในแต่ละประเทศ

 

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ ได้มีการส่งออกสินค้า PATTRENA กว่า 20 ประเทศทั่วโลก คาดว่าหลังวิกฤติโรคระบาดโควิด -19  บริษัทฯ จะกลับมาขยายตลาดต่างประเทศได้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังทำตลาดแบรนด์ PATTRENA ในประเทศไทยด้วย โดยมุ่งเน้นช่องทางสปาและโรงแรมในจังหวัดท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต  พังงา กระบี่  เกาะสมุย  เชียงใหม่ เชียงราย ระยอง พัทยา เขาใหญ่ เป็นต้น ทำให้ปัจจุบันโรงแรม 4-5 ดาว และ Day Spa ต่างๆ ในจังหวัดดังกล่าว ได้ใช้และจำหน่ายสินค้า PATTRENA  รวมแล้วกว่า 180 แห่ง  และยังจะขยายการตลาดแพททรีน่าในประเทศผ่านช่องทางดังกล่าวอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

 “ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯมีกิจกรรมการตลาดต่างประเทศมากว่า 15 ปี โดยมีการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าทุกภูมิภาคทั่วโลก มุ่งเน้นการเข้าร่วมงานในประเทศที่มีศักยภาพทางการตลาดเป็นหลัก    ดังนั้นงานแสดงสินค้าจึงมีบทบาทสำคัญมาก มองว่า Cosmoprof CBE ASEAN 2023 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 14-16 กันยายน  ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมาก เชื่อว่าทางผู้จัดงานจะช่วยประชาสัมพันธ์งานนี้เพื่อกระตุ้นนักธุรกิจในกลุ่มอาเซียนและกลุ่มประเทศอื่นๆ ให้เข้ามาเยี่ยมชมงานนี้ และจะนำไปสู่งานแสดงสินค้าที่ประสบความสำเร็จที่ดีในอนาคตต่อไป”  น.ท.นพ.จักรพงศ์ กล่าว

               

สำหรับกิจกรรมทางการตลาดในปี 2566 นี้ นับว่าเป็นปีแรกหลังจากวิกฤติโรคระบาดโควิด -19 ที่บริษัทฯ ได้เริ่มเดินทางไปพบปะลูกค้าและไปร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ  รวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรมการเจรจาการค้าทางธุรกิจที่จัดขึ้นโดยกรมส่งเสริมการส่งออก ได้แก่

Business Matching – Hanoi, Vietnam (22-24 Feb,2023)

Thailand Week Exhibition- New Delhi, India (15-20 Mar,2023)

Thailand Week Exhibition- Chennai, India (3-8 May,2023)

Naturally Good Expo – Sydney, Australia (3-7 Jun,2023)

Cosmoprof CBE Bangkok (14-16 Sept,2023)

Cosmoprof Asia - Hong Kong (14-18 Nov,2023)

จัด Trip เยี่ยมชมลูกค้า Spa และโรงแรมในประเทศอย่างต่อเนื่องทั้งปี

นอกเหนือจากการตลาดทั้งในและต่างประเทศที่เข้มแข็งแล้ว บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญนับตั้งแต่สูตรการผลิต ทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ จะผ่านการค้นคว้าโดยทีมแพทย์ เภสัชกร นักวิทยาศาสตร์ในหน่วยงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติที่ดี มีการตรวจสอบคุณภาพตามหลักวิทยาศาสตร์โดยให้ความสำคัญกับห้องทดลองหรือห้องปฏิบัติการวิจัยภายในโรงงานมีเครื่องมือที่ทันสมัย ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี

ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับการออกแบบดีไซน์ที่ทันสมัยของบรรจุภัณฑ์ให้โดดเด่นและสะดุดตา  โดยจุดเด่นอีกอย่างโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ในแบรนด์ PATTRENA คือเรื่องการใช้สมุนไพรไทยที่มีอยู่หลากหลายในประเทศไทย เมื่อผ่านการเลือกสรรวัตถุดิบที่ได้มาตรฐานระดับสากล ทำให้ได้ผลตอบรับที่ดีสำหรับสินค้ากลุ่มสปา-สมุนไพรไทยจากประเทศไทย จึงนับเป็นจุดแข็งและความโดดเด่นของสินค้าจากประเทศไทยในตลาดโลก ที่เรามีเหนือคู่แข่งจากประเทศอื่น

 

ในปีนี้บริษัทฯ มีสินค้านวัตกรรมใหม่ในกลุ่ม SKIN CARE เพื่อบำรุงผิว ที่มีการใช้สมุนไพรไทยเป็นส่วนผสมหลักในสูตร โดยเลือกใช้สารสกัดที่มาจากธรรมชาติ คือ “ข้าวหอมมะลิไทย” ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก  ด้วยเทคโนโลยีทางชีวภาพทำให้สารสำคัญอยู่ในรูปนีโอโซมในระดับนาโน ส่งผลให้สารสำคัญคงสภาพและซึมสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพด้าน ชะลอการเกิดริ้วรอย (Anti-Aging) ผสานการทำงานร่วมกับสารสกัดจากเกสรดอกบัวหลวงจากประเทศไทย ดอกบัวหลวงเป็นดอกไม้ที่มีคุณค่า มีคุณสมบัติทำให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น กระจ่างใสอีกด้วย

นอกจากนี้ จากการที่ปัจจุบันผู้บริโภคมีการเข้าถึงข้อมูลต่างๆอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่องทางSocial media ที่นับว่ามีอิทธิพลต่อชีวิตของคนในปัจจุบัน ทำให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เริ่ม Transform องค์กรให้คุ้นเคยกับรูปแบบ Digital Platform ต่างๆ โดยได้มีการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องให้สมาชิกที่สนใจการขยายตลาดแบบ Digital จนมีสมาชิกจำนวนมากที่มีความรู้ความเข้าใจและสามารถปรับตัวให้เข้ากับการตลาดแบบ Hybrid โดยมีบริษัทเป็นผู้ที่จะช่วยให้ความรู้  มีระบบส่งเสริมและเกื้อหนุนให้สมาชิกทำงานได้ง่าย, สะดวกและรวดเร็ว

ทั้งนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการตลาดทั้งสองแบบ คือการตลาดแบบที่ต้องพบปะกับลูกค้าในงานแสดงสินค้าต่างๆ และการตลาดแบบ Online ที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้รวดเร็ว ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่า จึงพัฒนาข้อมูลของสินค้าให้เหมาะสมกับ Digital Platform ต่างๆ และใช้สื่อ Social Media ต่างๆ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น

 

              

น.ท.นพ.จักรพงศ์ กล่าวอีกว่า บริษัท ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1996  นับถึงปัจจุบันคือ 27 ปี นำโดยประธานบริษัท คือ แพทย์หญิง นลินี ไพบูลย์ ได้รวบรวมทีมแพทย์และเภสัชกรไทย เพื่อก่อตั้งโรงงานสำหรับผลิตสินค้ากลุ่มเครื่องสำอาง และอาหารเสริม โดยคัดสรรวัตถุดิบที่ได้มาตรฐานทั่วทุกภูมิภาคทั่วโลกมาผลิตเป็นสินค้าที่ดี  มีคุณภาพ โดยสินค้าภายใต้แบรนด์กิฟฟารีน (GIFFARINE) จะมีการจัดจำหน่ายในระบบขายตรงแบบเครือข่าย (Network Marketing) ผ่านทางศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีนกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการตลาดแบบ Digital ใน Platform หลากหลาย ทำให้การตลาดเป็นระบบ Hybrid คือมีทั้ง แบบ Online และ Offline

อย่างไรก็ดี ตลอดระยะเวลา 27 ปี บริษัทฯ ได้ตระหนักเรื่องการทำกิจกรรมเพื่อสังคมมาตลอดและต่อเนื่อง เช่น  ก่อตั้งมูลนิธิมงคลปิยะสุพรรณกัลยามอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กกำพร้าจำนวนมาก และยังได้ช่วยเหลือบริจาคผลิตภัณฑ์ให้แก่โรงพยาบาล โรงเรียนต่างๆ ทุกปีอย่างต่อเนื่อง


Tags : กิฟฟารีน น.ท.นพ.จักรพงศ์ ไพบูลย์ กิฟฟารีน สกายไลน์ แลบบอราทอรี่ แอนด์ เฮลท์แคร์ กิฟฟารีนร่วมงานCosmoprof CBE ASEAN 2023


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  ร่วมงาน “มหกรรมการเงินหาดใหญ่” ครั้งที่ 15 (MONEY EXPO 2025 HATYAI) ระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคม 2568 ณ บูธ F3 หาดใหญ่ฮอลล์ ชั้น 5 เซ็นทรัล หาดใหญ่ จ.สงขลา ยกขบวนผลิตภัณฑ์สินเชื่อครอบคลุมทุกกลุ่ม ตอบโจทย์ทุกความต้องการผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไฮไลท์ คือ สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่มและทุกความต้องการเอสเอ็มอีไทย ควบคู่บริการพัฒนาธุรกิจ ผ่านแพลตฟอร์ม “DX by SME D Bank” (dx.smebank.co.th)   ช่วยเสริมศักยภาพกิจการ ครบถ้วนในจุดเดียว ห้ามพลาด! พิเศษเฉพาะภายในงาน เมื่อยื่นขอสินเชื่อ และได้รับอนุมัติทุกวงเงิน รับโปรโมชันเสริมอีก 2 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 : ลดค่าธรรมเนียมวิเคราะห์สินเชื่อ (Front End Fee) สูงสุด 0.25% และต่อที่ 2 : รับบัตรกำนัล มูลค่า 500 บาท พร้อมเล่นเกม ลุ้นรับของที่ระลึกมากมาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

03 Jul 2025

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารประสบความสำเร็จได้รับรางวัลระดับเอเชีย Asia Responsible Enterprise Awards (AREA) 2025 สาขา Social Empowerment จาก MyMo Secure Plus นวัตกรรมความปลอดภัยบน Mobile Banking ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากภัยไซเบอร์ให้ลูกค้า บูรณาการร่วมกับ แคมเปญเตือนภัยมิจฉาชีพ เพื่อสื่อสารสร้างการรับรู้และเสริมภูมิคุ้มกันภัยทางการเงิน พร้อมกันนี้ ธนาคารออมสินยังได้รับรางวัลเกียรติคุณ Silver Emblem of Sustainability ในฐานะองค์กรที่มีความโดดเด่นและมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนในทุกมิติจนได้รับรางวัล AREA มาแล้ว 5 ปี จาก Enterprise Asia องค์กรพัฒนาเอกชนชั้นนำที่ส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการที่มีความรับผิดชอบในเอเชีย เพื่อเชิดชูและให้เกียรติองค์กรธุรกิจที่มีการดำเนินงานตามแนวทาง ESG และเป็นต้นแบบองค์กรชั้นนำในภูมิภาคเอเชียที่ขับเคลื่อนองค์กรสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ     ธนาคารออมสินถือเป็นธนาคารแรกที่พัฒนาโหมดปลอดมิจฉาชีพ ภายใต้ชื่อ MyMo Secure Plus เพื่อช่วยดูแลเงินฝากขั้นสูงสุดให้กับลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มที่ไม่รู้เท่าทันมิจฉาชีพที่เปลี่ยนรูปแบบการหลอกลวงตลอดเวลา ออกแบบโดยเน้นการทำธุรกรรมทางการเงินแบบจำกัดเฉพาะรายการที่จำเป็น อาทิ การโอนเงินไปยังบัญชีตนเองภายในธนาคารและต่างธนาคารที่ลงทะเบียนไว้ และการจำกัดวงเงินในการทำธุรกรรมต่อวัน ทั้งนี้ ธนาคารออมสินไม่เพียงพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นธนาคารแรกที่ดำเนินกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ (IMC) ผ่าน แคมเปญเตือนภัยมิจฉาชีพ ดำเนินการอย่างเข้มข้นผ่านช่องทางการสื่อสารที่ครบวงจร ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ สื่อนอกบ้าน หรืออินฟลูเอนเซอร์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวางและครอบคลุมมากที่สุด เนื่องจากธนาคารตระหนักดีถึงความสูญเสียของประชาชนและวิกฤตของอาชญากรรมออนไลน์ที่นับวันจะทวีความรุนแรงจนกลายเป็นภัยคุกคามระดับประเทศ จึงเป็นความพยายามของธนาคารในการที่จะกระตุ้นเตือนให้ประชาชนรู้เท่าทันกลลวงและไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพทางการเงิน     รางวัลเกียรติคุณ Silver Emblem of Sustainability และ Social Empowerment ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงบทบาทของธนาคารออมสินในฐานะ Social Bank ที่ไม่เพียงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับการให้บริการลูกค้าเท่านั้น แต่ยังขับเคลื่อนการสร้าง Social Impact เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนช่วยบรรเทาปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง ธนาคารยังคงยึดมั่นในหลักการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบตามแนวทาง ESG เพื่อก้าวสู่เป้าหมายความยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคม ตลอดจนเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว  

01 Jul 2025

...

นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT HD เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568  

29 Jun 2025

...

  บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมออกบูทในงานมหกรรมจำหน่ายรถยนต์ครบวงจร FAST Auto Show Thailand 2025   ระหว่างวันที่ 2 – 6 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ฮอลล์ EH 102 - 103  ในงานนี้ บริษัทฯ ได้จัดเต็มโปรโมชันสุดพิเศษ โดยมอบส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยสูงสุด 23% สำหรับผู้ที่ซื้อกรมธรรม์ใหม่ภายในงาน โดยมีทีมงานรับประกันภัยพร้อมบริการให้คำปรึกษา และคำแนะนำเกี่ยวกับแผนประกันภัยที่เหมาะสมกับความคุ้มครองที่หลากหลาย โดยนอกจากประกันภัยรถยนต์แล้วยังมีประกันอัคคีภัย ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันภัยการเดินทาง ประกันภัยสุขภาพ ประกันภัยโรคมะเร็ง และประกันภัยอื่นๆ ที่ให้ความคุ้มครองรองรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า นอกจากนี้ ยังสามารถผ่อนชำระเบี้ยประกันภัย ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน หรือ 10 เดือนผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ พร้อมรับของที่ระลึกที่เตรียมไว้สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ  พบกับกรุงเทพประกันภัยได้ที่บูท B11 ณ ศูนย์ประชุมนิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา ฮอลล์ EH 102 - 103 ในวันที่ 2 - 6 กรกฎาคม 2568    

29 Jun 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner