Responsive image

Sunday, 09 Nov 2025

หน้าแรก > TECHNOLOGY - AUTO - PROPERTY


มองอดีต ส่องอนาคต 90 ปีของนิสสัน แบรนด์รถยนต์ในใจคนรักรถทั่วโลก

Sat 17/02/2567


นิสสัน รถยนต์แบรนด์จากญี่ปุ่นในดวงใจหลายคนเพิ่งฉลองครบ 90 ปีเต็มของการก่อตั้งไปหมาดๆ เมื่อปลายเดือนธันวาคมนี้เอง  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นิสสันมักมีสิ่งใหม่ๆ ที่คนคาดไม่ถึงมานำเสนออยู่เสมอ  มาดูเส้นทางการก้าวสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลกว่าตลอด 9 ทศวรรษที่ผ่านมานิสสันทำอะไร และมีอะไรบ้างที่นิสสัน กล้าที่จะทำในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้าทำ “dare to do what others don’t” 

นิสสัน มอเตอร์ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1933 ที่เมืองโยโกฮามา เพื่อผลิตรถยนต์ขึ้นเองในประเทศญี่ปุ่น เป็นรถยนต์ที่ผลิตจำนวนมากหรือ mass production  ราคาพอสมควร สามารถแข่งขันกับแบรนด์รถยนต์จากต่างประเทศได้  ให้คนมีโอกาสได้ใช้รถกันอย่างสะดวก หลังจากก่อตั้งแล้วไม่นาน นิสสัน มอเตอร์ ก็เริ่มส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชีย อเมริกา และภูมิภาคต่างๆ ก่อนจะขยายธุรกิจไปทั่วโลก มีโรงงานผลิตในหลายๆ ภูมิภาค  โดยในปัจจุบัน นิสสันมีโรงงานผลิตในประเทศไทยซึ่งผลิตทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถยนต์กระบะหนึ่งตันเพื่อการพาณิชย์ รวมถึงยังเป็นฐานการประกอบแบตเตอรี และชุดขับเคลื่อนของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบ อี-พาวเวอร์ เพื่อส่งออกไปทั่วภูมิภาคอาเซียน และหลายประเทศทั่วโลก

นิสสัน มอเตอร์ ยังได้ร่วมมือทางเทคนิค และเข้าซื้อกิจการบริษัทอื่นๆ เช่น การร่วมมือด้านเทคนิคกับออสติน มอเตอร์ ของอังกฤษ การเข้าซื้อกิจการ ปริ๊นซ์ มอเตอร์ เป็นต้น ทำให้รถยนต์ของนิสสันมีความหลากหลาย มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เมื่อผนวกกับความสามารถของทีมวิศวกรชั้นนำของนิสสัน ทำให้ตลอด 90 ปีที่ผ่านมา นิสสันได้สร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นครั้งแรกของโลกมากมาย เช่น รถมินิแวนรุ่นแรกของโลก (Prairie Model M10)  การใช้หุ่นยนต์แบบหลายแขน (multi-arm robot) เพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการผลิต  การพัฒนารถขับเคลื่อนสี่ล้อที่ใช้ระบบกันสะเทือนแบบมัลติลิ้งค์  เทคโนโลยี Bird Eye View Navigation   การพัฒนารถรุ่น Bluebird Sylphy ที่ผลิตไอเสียต่ำ หรือ super ultra-low emission vehicle ซึ่งปล่อยไอเสียน้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนดได้ถึง 75%  และรุ่นที่คนขับรถหลายคนทั่วโลกพอจะคุ้นหน้ากันคือ นิสสัน ลีฟ (LEAF) รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของโลกที่ผลิตและขายในเชิงพาณิชย์

 

Nissan LEAF (นิสสัน ลีฟ)

 

ผลงานที่สะท้อนความ Dare to do what others don’t มากที่สุดของนิสสัน จะมีทั้งสองขั้ว คือ ฝั่งสมรรถนะ กับฝั่งที่เป็นรถยนต์พลังงานทางเลือกเพื่อความยั่งยืน  

 

Nissan Skyline GT-R 1969 (นิสสัน สกายไลน์ จีที-อาร์ ปี 1969)

 

Nissan Z (นิสสัน แซท)

 

ในกลุ่มรถสมรรถนะสูง แน่นอนว่าชื่อของ สกายไลน์, จีที-อาร์, และ แซท (Z) ที่ล้วนแต่เป็นรถในฝันของนักเลงรถ เพราะไม่เป็นสองรองใครในเรื่องของวิศวกรรม การออกแบบ และประวัติในฐานะแชมป์สนามแข่งระดับตำนาน และสุดยอดความภูมิใจของนิสสัน อาทิ นิสสัน จีที-อาร์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นเทพในสนามแข่ง และเป็นครั้งแรกที่ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเอาชนะค่ายรถยนต์ที่เคยครองแชมป์สนามแข่งมาหลายปีในหลายๆ สนามได้อย่างราบคาบในยุค 1960s  และมีการพัฒนาต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้ รุ่นล่าสุดคือ GT-R R35  และแม้กระทั่งในงาน Japan Mobility Show หรือโตเกียวมอเตอร์โชว์โฉมใหม่ซึ่งจัดไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หนึ่งในคอนเซ็ปต์คาร์ของนิสสันก็ยังรวมถึงรถสมรรถนะสูงอย่าง ไฮเปอร์ ฟอร์ซ ซึ่งเปรียบเสมือนตัวตายตัวแทนของ จีที-อาร์ R35 อีกด้วย

 

Nissan TAMA

 

ในอีกขั้วหนึ่ง คือ รถยนต์พลังงานทางเลือกที่กำลังเป็นเทรนด์สำคัญในปัจจุบัน ซึ่งเรากำลังเผชิญผลกระทบจากภาวะโลกร้อน และความต้องการของการใช้พลังงานสะอาดอย่างยานยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ซึ่งที่จริงแล้วรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไม่ได้เป็นเรื่องใหม่สำหรับนิสสัน เพราะรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอยู่คู่ประวัติศาสตร์นิสสันมาเกือบ 80 ปีแล้ว  นั่นก็คือ รถไฟฟ้ารุ่นแรกที่ชื่อ TAMA ที่ถูกพัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี 1947 หลังสงครามโลกจบลงใหม่ๆ ญี่ปุ่นขาดแคลนน้ำมัน อาหาร และทรัพยากรต่างๆ แต่มีพลังงานไฟฟ้ามาก เพราะแทบจะไม่มีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านหรือการผลิตเลย จึงเกิดไอเดียที่จะพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าขึ้น  TAMA วิ่งได้ไกลถึง 96 กิโลเมตร ด้วยความเร็ว 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมงถือว่าล้ำหน้ามากในยุคนั้น

 

Nissan Ariya

 

นับจนถึงวันนี้ รถยนต์ไฟฟ้ากลับมาเป็นความหวังของคนทั้งโลกอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะพลังงานไฟฟ้ามีเหลือเฟือ แต่เพราะคนทั้งโลกตระหนักถึงความรับผิดชอบในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนมากขึ้น  นิสสันเอง ก็ได้พัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าต่อเนื่อง เช่น นิสสัน ลีฟ (Leaf) นิสสัน ซากุระ (Sakura) และ นิสสัน อริยะ (Ariya)  แม้กระทั่งคอนเซ็ปต์คาร์ทั้ง 5 รุ่นของนิสสันที่แสดงในงานเจแปน โมบิลิตี้ โชว์ ที่ผ่านมา เป็นรถพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด  รวมทั้งยังพลิกโฉมดีไซน์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน สะท้อนให้เห็นว่ารถยนต์แห่งอนาคตจะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้เต็มที่พร้อมกับแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมได้มากแค่ไหน สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานให้สอดคล้องกับวิถีการใช้ชีวิต ตอกย้ำมุมมองของนิสสันที่เชื่อว่ารถยนต์แห่งอนาคต คือ รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และเทคโนโลยีรถยนต์อัจฉริยะที่จะสร้างความตื่นเต้น (Vehicle intelligence that electrifies our future)

สำหรับลูกค้าชาวไทย นิสสันเป็นรถสามัญประจำบ้านของหลายครอบครัวมาตลอด 70 กว่าปีที่นิสสันเข้ามาในประเทศไทย ตั้งแต่รุ่นแรกๆ ที่ยังคงใช้แบรนด์ดัทสันก่อนจะเปลี่ยนชื่อมาเป็นนิสสัน เพราะความคุ้มค่า คุณภาพดี ขับขี่และดูแลรักษาง่าย ไม่ว่าจะเป็นรถบ้านหรือรถกระบะที่ขึ้นชื่อว่าทนทาน อึด บรรทุกของได้มาก วางใจได้  และในปัจจุบันก็มีรถยนต์ให้เลือกหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นรถซีดาน เอสยูวี รถสำหรับครอบครัวหรือ PPV และรถกระบะก็ตาม รวมทั้งยังมีเทคโนโลยีการขับเคลื่อนหลากหลายทั้งแบบที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ (e-POWER) ที่ให้ฟีลการขับขี่แบบรถยนต์ไฟฟ้า 100% แต่ไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่

แฟนของนิสสันที่มีแพลนไปเที่ยวญี่ปุ่น สามารถแวะไปเยี่ยมนิสสัน แกลเลอรี่ (Nissan Global Headquarters Gallery) ที่โยโกฮามาได้ด้วย ที่นี่เป็นที่รวมเอารถยนต์รุ่นสำคัญๆ จากอดีตถึงปัจจุบัน และคอนเซ็ปต์คาร์แห่งอนาคตไว้ในที่เดียว และเปิดให้ผู้เข้าชมสามารถเข้าไปนั่งได้ สัมผัสรถแต่ละรุ่นได้ ซึ่งจะทำให้ได้เห็นพัฒนาการของรถยนต์รุ่นต่างๆ เทคโนโลยีที่น่าสนใจตลอด 90 ปีที่ผ่านมา และถ้าไม่อยากเดินละเลียดชมทีละรุ่น นิสสันยังมีบอร์ดจัดแสดงรถจำลองคันจิ๋วครบทุกรุ่นตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท เรียงตามลำดับมาจนถึงปัจจุบันให้ได้ชมวิวัฒนาการกันเต็มที่  และมีมุมจำหน่ายของที่ระลึกเก๋ๆ ด้วย

ใครสนใจอยากทราบรายละเอียดมากกว่านี้ แนะนำให้เข้าไปดูวีดีโอ หรืออ่านข้อมูลเรื่องราวตลอด 90 ปีของนิสสัน ที่คุณอาจไม่เคยรู้ไว้ที่เว็บไซต์ https://www.nissan-global.com/EN/ หรือจะโหลดหนังสือที่สรุปเรื่อง 90 ปีไว้ในไม่กี่หน้าได้ที่  https://www.nissan-global.com/EN/BOOK/90TH_ANNIVERSARY/html5m.html#page=5

 


Tags : นิสสัน รถยนต์นิสสัน ส่องอนาคต90ปีของนิสสัน นิสสันมอเตอร์ รถยนต์แบรนด์จากญี่ปุ่น


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ขอเชิญร่วมงาน YWCA Diplomatic Charity Bazaar ครั้งที่ 70 งานชอปสินค้านานาชาติเพื่อการกุศลที่รวมกว่า 200 ร้านค้า และกว่า 40 สถานทูตจากทั่วโลก พบกับบูทกรุงเทพประกันภัย (บูท D46) ที่นำเสนอหลากหลายแผนประกันภัยให้เลือกตามความต้องการ พร้อมรับโปรโมชันสุดพิเศษ ได้ที่ CentralWorld Pulse ชั้น 7 ในวันที่ 6 – 9 พฤศจิกายน 2568   นอกจากนี้ บริษัทฯ ขอเชิญร่วมงานไทยเที่ยวนอก ครั้งที่ 5 งานท่องเที่ยวสุดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี พบกับโปรโมชัน “3 ต่อสุดคุ้ม” สำหรับนักเดินทางที่รักการท่องเที่ยว - ลดสูงสุด 18% สำหรับประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ - รับฟรี Starbucks Card มูลค่า 100 บาท เมื่อซื้อประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ ครบทุก 500 บาท (สูงสุด 800 บาท) - พร้อมของสมนาคุณเพิ่มเติมภายในงาน พิเศษสำหรับผู้รักการดำน้ำ บริษัทฯ นำเสนอแผนประกันภัยนักดำน้ำ — ประกันภัยเพื่อการท่องเที่ยวภายในประเทศที่ออกแบบสำหรับนักดำน้ำโดยเฉพาะ ซึ่งกรุงเทพประกันภัยเป็นรายแรกในประเทศไทยที่เสนอผลิตภัณฑ์นี้ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยใต้ท้องทะเล โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาด้านประกันภัยอย่างใกล้ชิด พบกับกรุงเทพประกันภัยได้ที่บูท M44 – M45 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์ 5 – 6 ชั้น LG ในวันที่ 6 – 9 พฤศจิกายน 2568  

08 Nov 2025

...

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นำโดย นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ ประธานกรรมการ  นางยุพา ล่ำซำ  นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นางสลิล ล่ำซำ  นางจันทรา บูรณฤกษ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริษัท นายกนิช บุณยัษฐิติ กรรมการบริษัท  ดร.ณฐพร พันธุ์อุดม กรรมการบริษัท นายภูมิชาย ล่ำซำ ที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ ดร.สุธี โมกขะเวส กรรมการผู้จัดการ  พร้อมด้วยนายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย นางสาววสุมดี วสีนนท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย นางสาวพิมพ์จุฑา สกุนสิทธิ์ธาดา ผู้อำนวยการเขตวัฒนา คณะผู้บริหารเขตวัฒนา  รวมทั้งคณะผู้บริหาร และพนักงาน  บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัทคู่ค้า ลูกค้า และผู้มีจิตศรัทธา ร่วมน้อมถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน  ประจำปี 2568  แด่พระสงฆ์จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส ณ วัดธาตุทอง กรุงเทพมหานคร   ในโอกาสนี้  เมืองไทยประกันชีวิต  ได้มอบเงินบริจาค “ผ้าป่าการศึกษา” ให้แก่ โรงเรียนในพระอุปถัมภ์ของวัดธาตุทอง โดยมี  นางธนาลัย ลิมปรัตนคีรี  ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลวัดธาตุทอง  นายพงศ์พิษณุ สุพรรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนดาราคาม  นายธีระยุทธ สมบูรณ์สุข ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดธาตุทอง  (เรือนเขียวสะอาด)  นายเจษฎา ศรีนวล ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง  ว่าที่พันตรี ดร.ณัฏฐกิตติ์ ชัยเฉลิมมงคล กรรมการบริหารและไวยาวัจกรวัดธาตุทอง ผู้แทนโรงเรียน พระปริยัติธรรมวัดธาตุทอง ร่วมในพิธี  ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายของบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคมในทุกด้าน ให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน.    

05 Nov 2025

...

นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินในฐานะสถาบันการออมของคนไทย ตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านการส่งเสริมการออมและให้ความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ธนาคารจึงถือโอกาสในการจัดงานวันออมแห่งชาติ วันที่ 31 ตุลาคม 2568 ยกระดับสู่ GSB SAVINGS FORUM 2025 ภายใต้แนวคิด “AI & AOM ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” เพื่อให้เป็นเวทีในการสื่อสารด้านการออมและจุดประกายการผสานพลังเทคโนโลยี “AI” (Artificial Intelligence) เข้ากับ “AOM” (การออม) อย่างสร้างสรรค์ผ่านกิจกรรมสำคัญ อาทิ มินิทอล์ก “ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” โดยกูรูและเซเลบริตี้ชื่อดัง การประกวดออกแบบ “กระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล” ด้วย AI รอบชิงชนะเลิศ ตลอดจนการเปิดตัว “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB โดยงาน GSB SAVINGS FORUM 2025 ในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีแรก และธนาคารตั้งเป้าจัดเป็นงานประจำทุกปีในวันออมแห่งชาติ เพื่อขับเคลื่อนภารกิจหลักของธนาคารในการให้ความรู้ทางการเงินและเป็นเวทีหลักด้านการส่งเสริมการออมแก่สังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ภายในงานพบกับไฮไลท์ เวทีมินิทอล์ก “ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” เวทีแห่งแรงบันดาลใจจากคนดังหลากหลายเจน ที่จะมาแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์วางแผนการออมและการเงินส่วนบุคคลในโลกดิจิทัล อาทิ คุณหนุ่ย-พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ คุณตั๊ก-มยุรา เศวตศิลา และ คุณธนัชภรณ์ นิชิยาม่า ร่วมสร้างสีสันการเสวนาโดย คุณป๋อมแป๋ม-นิติ ชัยชิตาทร พร้อมรับชมการแข่งขันพรอมพ์ AI เพื่อออกแบบ “กระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล” รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นการแข่งขันของผู้ผ่านเข้ารอบ 50 คน จากผู้ส่งผลงานกว่า 700 ผลงาน โดยธนาคารจัดการประกวดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีในการสร้างแรงบันดาลใจด้านการออม ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 100,000 บาท ตัดสินโดยกูรูวงการ AI และผู้เชี่ยวชาญจากแวดวงโฆษณาชั้นนำของประเทศ อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญคือการเปิดตัว “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB ที่ธนาคารออมสินได้ริเริ่มจัดทำโปรแกรมสร้างผู้เชี่ยวชาญวางแผนการเงิน ร่วมพัฒนาหลักสูตรโดยผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการให้ความรู้ทางการเงิน การออม การลงทุน และการวางแผนเกษียณ โดยมีพนักงานออมสินที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบทั้งข้อเขียนและภาคปฏิบัติ ได้รับการรับรองคุณวุฒิเป็น “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB รุ่นแรก รวม 44 ราย ที่จะทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ทางการเงิน และส่งเสริมให้ประชาชนมีการออมอย่างมีเป้าหมาย ซึ่งพนักงานที่ผ่านการทดสอบในโปรแกรมนี้ จะได้รับการติดเข็มวิทยฐานะ CMC สำหรับใช้แสดงตนเพื่อเป็นการรับรองความรู้ความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป  นอกจากนี้ ธนาคารยังเปิดตัวกระปุกออมสิน “แสงแห่งการออม” ในวาระวันออมแห่งชาติ ดีไซน์ล้ำด้วยลูกเล่นมีไฟส่องสว่างในตัว สำหรับผู้ฝากเงิน 500 บาทขึ้นไป ลงทะเบียนจองสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ www.gsb.or.th, Line Official : GSB Society หรือ แอปพลิเคชัน MyMo ตั้งแต่วันที่ 27 – 30 ตุลาคม 2568 และเปิดให้ฝากเงินได้ที่ธนาคารออมสินสาขา แอปพลิเคชัน MyMo หรือเครื่องรับฝากเงิน ADM พร้อมรับกระปุกออมสิน ณ ธนาคารออมสินสาขาที่ลงทะเบียนจองสิทธิ์ไว้ ในวันที่ 31 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน 2568 (จำกัด 1 คน ต่อ 1 สิทธิ์) ของมีจำนวนจำกัด สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน GSB SAVINGS FORUM 2025 ในวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 6 อาคาร 32 ชั้น ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ สามารถลงทะเบียนได้ทางระบบออนไลน์ https://www.zipeventapp.com/e/GSB-Savings-Forum-2025 ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2568 โดยผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้าจะได้รับกระปุกออมสิน “แสงแห่งการออม” (จำนวนจำกัด) หรือรับชมการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางเพจเฟซบุ๊ก GSB Society

23 Oct 2025

...

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดย คุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาด จับรายชื่อลูกค้าผู้โชคดีครั้งที่ 1 ภายใต้แคมเปญพิเศษ ฉลองครบรอบ 28 ปี กรุงไทย-แอกซ่า “แจกใหญ่ แจกเต็ม” เพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้าคนสำคัญที่ไว้วางใจให้บริษัทฯ ได้ดูแลให้ความคุ้มครองตลอดมา โดยลูกค้าที่เข้าร่วมแคมเปญเป็นไปตามเงื่อนไขใน ช่วงวันที่ 25 กรกฎาคม – 17 กันยายน 2568  ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ประกาศรายชื่อผู้โชคดีผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ https://www.krungthai-axa.co.th/th/luckydraw-2025-r1-announcement  ซึ่งผู้โชคดีจากแคมเปญดังกล่าวจะได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากผู้แทนบริษัทฯ เพื่อแจ้งรายละเอียดและยืนยันการรับสิทธิ์ สำหรับแคมเปญ “แจกใหญ่ แจกเต็ม” เปิดโอกาสให้ลูกค้าสะสมสิทธิ์และลุ้นรับรางวัลใหญ่จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 โดยกำหนดการจับรางวัลอีก 3 รอบ  ตามรายละเอียดด้านล่างนี้ ครั้งที่ 2: จับรางวัลในวันที่ 24 ตุลาคม 2568          ประกาศรายชื่อผู้โชคดีวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ครั้งที่ 3: จับรางวัลในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568   ประกาศรายชื่อผู้โชคดีวันที่ 1 ธันวาคม 2568 ครั้งที่ 4: จับรางวัลในวันที่ 23 มกราคม 2569        ประกาศรายชื่อผู้โชคดีวันที่ 1 กุมภาพันธ์  2569 หมายเหตุ: ชิ้นส่วนที่เหลือจากการจับรางวัลในแต่ละครั้ง จะถูกนำมารวบรวมเพื่อจับรางวัลในรอบถัดไป ทั้งนี้ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรม การบริการ และผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้ที่ www.krungthai-axa.co.th และศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร.1159

17 Oct 2025

Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner