Responsive image

Wednesday, 15 Oct 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


OCEAN LIFE ไทยสมุทร สู่ปีที่ 75 ก้าวกระโดดสู่ HEALTHIVERSE ยุคใหม่เพื่อโลกที่ยั่งยืนและสุขภาพที่ดีของคนไทย

Fri 29/03/2567


บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) รักคือพลังของชีวิต โดย คุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO) เผยว่าในปี 2567 ซึ่งเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปี จึงเป็นโอกาสที่ดีในการนำความพร้อมที่เราได้เตรียมไว้ เพื่อเริ่มต้นก้าวสู่โลกยุคใหม่ที่เราจะใช้ทั้งพลังความรักและศักยภาพด้านการประกันชีวิตที่เรามีทั้งหมด มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโลกที่ดีและยั่งยืนทั้งวันนี้และอนาคตให้กับทุกคน ทุกเจนเนอเรชั่นให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมั่นคง มั่นใจ ปลอดภัย และมีความสุข นอกจากการใช้พลังความรักเป็นแรงขับเคลื่อนด้วย Tagline “รักคือพลังของชีวิต” และแคมเปญ Love Mindset ที่สนับสนุนการใช้ชีวิตด้วยรัก 3 ด้านให้พร้อมรับมือกับทุกการเปลี่ยนแปลง ทั้ง Love Your Health, Love Your Wealth และ Love The World ในปี 2567 เราจะเน้นใช้กลยุทธ์ “HEALTHIVERSE สู่โลกใหม่…เพื่อชีวิตและสุขภาพที่ดีของคนไทย” โดยนำศักยภาพในเรื่องสุขภาพทั้ง 8 ด้าน มาช่วยให้คนไทยเข้าใจการดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง เพื่อที่จะไม่ป่วย อายุยืนแบบมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุในปัจจุบัน ด้วยแนวคิด LOVE’s Evolution into the NEW ERA รักคือพลังก้าวเข้าสู่โลกยุคใหม่ด้วยแนวคิดใหม่ ๆ ประกอบด้วย

  • LOVE YOUR HEALTH for HEALTHIVERSE โลกใหม่ที่ทุกคนรักและดูแลสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดี “เราจะไม่ป่วย” ด้วยการส่งเสริมการดูแลสุขภาพครอบคลุมทั้งสุขภาพกายใจ พร้อมสร้างความตระหนักรู้ในมิติต่าง ๆ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ และยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
  • LOVE YOUR WEALTH for WEALTHIVERSE  โลกใหม่ที่ทุกคนรู้จักวางแผนการเงิน ปิดความเสี่ยงในชีวิต โดยส่งเสริมให้ทุกคนมีความรู้พื้นฐานสำคัญด้านการเงิน ใช้เงินให้เป็น มีเงินออม มีทางเลือกการลงทุน เพิ่มความมั่งคั่ง และปิดความเสี่ยงด้วยประกันชีวิต 
  • LOVE THE WORLD for HAPPiVERSE รักษาโลกอย่างยั่งยืน ให้คนรุ่นหลังมีความสุข สนับสนุนการสร้างความยั่งยืนทุกด้านตามแนวทาง ESG และ SDGs ทั้งในด้านปลูกฝัง Mindset และมุ่งทำให้เกิดขึ้นจริง

 

โดยตลอดปี 2567 OCEAN LIFE ไทยสมุทร จะใช้พลังความรักรับมือโลกยุคใหม่ด้วยโครงการแคมเปญ กิจกรรม และสื่อต่าง ๆ ผ่านแนวคิด HEALTHIVERSE เพื่อให้คนไทย TOP FORM ไม่ป่วย ช่วยคนไทยด้วยศักยภาพทั้งหมดที่มี และได้เกิดเป็น NEW ERA ในมิติต่าง ๆ  ดังนี้

NEW ERA, NEW CAMPAIGN
เปิดตัวแคมเปญโฆษณาชุดใหม่ “Supreme Health” ยกระดับประกันสุขภาพคุ้มครอง 100 ล้านบาท

ในวาระครบรอบ 75 ปี OCEAN LIFE ไทยสมุทร ได้ยกระดับประกันสุขภาพ เปิดแคมเปญโฆษณาใหม่ล่าสุด ชวนคนไทยมา TOP FORM ไปกับ “โอ้” มาริโอ้ เมาเร่อ กับประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายระดับพรีเมี่ยม ที่ดีที่สุดของเรา โอเชี่ยนไลฟ์ ซูพรีม เฮลท์ (OCEAN LIEF SUPREME HEALTH) ที่คุ้มครองการรักษาสูงสุดถึง 100 ล้านบาท ตอบโจทย์การรักษาพยาบาลในทุกมิติ ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงนวัตกรรมการรักษาที่ล้ำสมัย พร้อมนวัตกรรมและบริการมากมาย จากพันธมิตรและโรงพยาบาลชั้นนำ อีกทั้งยังมีบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ (Telemedicine) ให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุดอย่างเหนือระดับ ในทุกที่ ทุกเวลา เพื่อปิด Gap ด้านสุขภาพให้ทุกคน TOP FORM

แต่เนื่องในสภาพแวดล้อมปัจจุบันโรคร้ายแรงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง จะดีกว่าไหมถ้ามีตัวช่วยมาปิดความเสี่ยงเรื่องโรคร้ายแรงที่มีสถิติเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเหตุนี้เราจึงได้สร้างสรรค์แบบประกันคุ้มครองโรคร้ายแรงที่ดีที่สุด และคุ้มครองโรคร้ายแรงได้มากที่สุดของ OCEAN LIFE ไทยสมุทร กับสัญญาเพิ่มเติม    โอเชี่ยนไลฟ์ ซูเปอร์ ซีไอ 120 (CI120)  คุ้มครอง 6 กลุ่มโรคร้ายแรงและกลุ่มความคุ้มครองพิเศษของโรคมะเร็งระยะลุกลาม รวมสูงสุดถึง 120 โรคร้ายแรง ที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนไทย นอกจากนี้ วิกฤตที่ผ่านมายังทำให้คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงความสำคัญของประกันสุขภาพ และความไม่แน่นอนของชีวิต  OCEAN LIFE ไทยสมุทร จึงได้นำเสนอประกันสุขภาพ โอชิ สมอล เฮลท์ ประกันสุขภาพไซซ์เล็ก  (OCHI SMALL HEALTH)  เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่มองหาความสะดวกสบายและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยเบี้ยประกันที่จับต้องได้ เริ่มต้นแค่วันละ 13 บาท ได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) สูงสุด 1,000 บาทต่อครั้ง พร้อมทั้งคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD) เหมาจ่ายตามจริงสูงสุด 50,000 บาทต่อครั้ง อีกทั้งยังสามารถปรึกษาเภสัชกรออนไลน์ (Telepharmacy) และรับยาจากร้านยาเครือข่ายใกล้บ้านได้อีกด้วย

NEW ERA >> NEW INNOVATION
เตรียมพบกับ NEW!! OCEAN CLUB APP 2024 ที่มาพร้อมกับ HEALTHIVERSE FUNCTION

จากแบบประกันทั้ง 3 ตัวที่กล่าวมา ช่วยปิด Gap ด้านสุขภาพของคนไทยได้ครอบคลุมทุก Segment ช่วยผลักดันให้คนไทยเข้าถึงนวัตกรรมการรักษาที่ล้ำสมัย นอกจากนี้ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ยังช่วยให้คนไทยได้รับเทคโนโลยีด้านสุขภาพได้แบบไม่มีค่าใช้จ่าย โดยได้พัฒนา NEW!! OCEAN CLUB APP : HEALTHIVERSE FUNCTION ฟังก์ชั่นใหม่ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อชีวิตและสุขภาพที่ดีของคนไทย นอกเหนือจากการสนับสนุนให้คนไทยดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย เดิน วิ่ง ขี่จักรยาน และพักผ่อนให้เพียงพอแล้ว เรายังส่งนวัตกรรมดูแลสุขภาพเพิ่มเติม เพื่อทำให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี มีร่างกายแข็งแรงครอบคลุมทั้ง 3 ฟังก์ชั่น 1.Nutrition การรับประทานอาหาร ที่มีทั้งเรื่อง Food Diet Tracking วางแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะสม Water reminder ดื่มน้ำที่ร่างกายต้องการ หรือแม้แต่การทำ Intermittent Fasting (IF) 2.Exercise การออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงข้อมูลแคลอรี่จากการเดิน วัด Heart Rate จากการวิ่ง หรือ Trackข้อมูลความเร็วในการปั่นจักรยาน และสุดท้ายคือ 3.Relax การพักผ่อน ครอบคลุมทั้งการนอนที่เพียงพอ การเต้นของชีพจร  และอัตราความเครียดของผู้ใช้งาน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีฟังก์ชั่นพิเศษ CANCER SCREENING เช็คความเสี่ยงโรคมะเร็ง ประเมินความเสี่ยงโรคมะเร็งเบื้องต้น พร้อมด้วยฟังก์ชั่น COMPETITION การแข่งขัน ทำให้ได้ท้าทายและสนุกกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น ซึ่งข้อมูลทั้งหมดได้รับคำแนะนำและการดูแลจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง นับว่าเป็นตัวช่วยที่จะทำให้คนไทยไม่ป่วยอีกทางเลือกหนึ่ง

 

NEW ERA, NEW ACTIVITIES
พบกับ HEALTHIVERSE SYMPOSIUM งานสัมมนาออนไลน์ด้านสุขภาพแนวใหม่ เร็ว ๆ นี้

เมื่อครบทั้งแบบประกันสุขภาพที่ดี APPLICATION ที่เป็นตัวช่วย OCEAN LIFE ไทยสมุทร ยังมุ่งหวังให้คนไทยมีความรู้ด้านสุขภาพ การออม และรักษ์โลกที่มากกว่าเดิม โดยในปี 2567 เราจะมีกิจกรรมอัดแน่นตลอดทั้งปี เพื่อเสริมทักษะความรู้ครบทั้งด้าน HEALTHIVERSE ความรู้ด้านสุขภาพ  ในงาน HEALTHIVERSE SYMPOSIUM งานสัมมนาออนไลน์ด้านสุขภาพแนวใหม่ ที่จะส่งเสริมให้ทุกคนเข้าถึงความรู้ด้านสุขภาพได้อย่างเท่าเทียมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และกูรูด้านสุขภาพชั้นนำของประเทศ เพื่อช่วยแนะนำให้คุณปิด Gap ด้านสุขภาพได้อย่างถูกต้องและตรงประเด็น นอกจากนั้น เรายังทำกิจกรรมอีกหลากหลาย ทั้งในส่วนของ WEALTHIVERSE ความรู้เรื่องการออมเงิน  และ HAPPiVERSE กิจกรรมตอบแทนสังคม ดูแลสิ่งแวดล้อม และยึดมั่นในธรรมาภิบาลตามแนวทาง ESG ตลอดทั้งปี พร้อมด้วยการจัดแคมเปญส่งมอบความสุขตอบแทนความไว้วางใจที่ลูกค้ามีให้กับเรามาตลอด 75 ปี  กับกิจกรรม “OCEAN LIFE ไทยสมุทร 75 ปี แจกทอง 75 บาท” ให้ลูกค้าลุ้นรับทองคำรูปโอชิหนัก 1 สลึงจำนวน 300 รางวัลตลอดปี  มูลค่ารวมกว่า 2.5 ล้านบาทอีกด้วย 

NEW ERA, NEW EXPERIENCE
เปิดตัวอย่างเป็นทางการ “OCEAN LIFE LOVE SPACE” พื้นที่ของทุก Generation เพื่อส่งมอบประสบการณ์ความรัก

เมื่อครบองค์ประกอบทั้งผลิตภัณฑ์ APPLICATION และกิจกรรมแบบอัดแน่นแล้ว ล่าสุด!! ได้เปิดตัว Flagship Store Concept โลกยุคใหม่ OCEAN LIFE LOVE SPACE” ที่ตกแต่งโดยใช้สีฟ้าและสีเมทัลไอซ์บลู ที่เปรียบเสมือนการผสานโลกเก่ากับโลกใหม่เป็นโลกที่ดีและยั่งยืนให้กับทุกเจเนอเรชั่นได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข OCEAN LIFE LOVE SPACE พร้อมเปิดให้บริการเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า และที่ปรึกษาประกันชีวิต ใช้เป็นพื้นที่แบ่งปันความรู้ Co-Working Space โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ทำเลที่ตั้งสะดวกสบายเดินทางใกล้ทั้ง BTS / MRT และ Airport Rail Link 

NEW ERA, NEW SERVICES ยกระดับการบริการครอบคลุมครบทุกมิติ

OCEAN LIFE ไทยสมุทร ไม่หยุดพัฒนานวัตกรรมการบริการต่าง ๆ เดินหน้าพัฒนาระบบ E-Service ครอบคลุมครบตั้งแต่การค้นหาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต จนถึงการสมัครทำประกัน การเคลมประกัน การรับผลประโยชน์ต่าง ๆ ตลอดจนการบริการหลังการขาย ไม่ว่าจะเป็น E-Buy ซื้อประกัน ผ่านทางเว็บไซต์ E-Application ลูกค้าสมัครทำประกันผ่านใบคำขอทำประกันอิเล็กทรอนิกส์ E-Policy เลือกรับกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ผ่านทาง Email  E-Claim เคลมสินไหมออนไลน์ด้วยตนเองตลอด 24 ชั่วโมง E-Loan การกู้เงินตามกรมธรรม์ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเดินทางติดต่อสาขา ซึ่งทั้งหมดนี้ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อบริการ OCEAN CONNECT ผ่าน LINE @oceanlife หรือ OCEAN CLUB APP ได้ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ

ขณะเดียวกัน ได้ยกระดับการบริการ ด้วยการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ OCEAN LIFE CONTACT CENTER ให้จำง่าย ติดต่อได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วยหมายเลข 4 หลัก “1503” พร้อมเป็นศูนย์กลางการติดต่อสอบถาม สามารถรับบริการได้สะดวก รวดเร็ว พร้อมส่งมอบประสบการณ์ประทับใจด้วยภาษาถิ่น ให้ลูกค้ารู้สึกคุ้นเคย สบายใจ และได้รับความพึงพอใจสูงสุด

 

ปี 2566 ตอกย้ำความเชื่อมั่นด้วยการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

ในปี 2566 ที่ผ่านมา นับเป็นปีที่ OCEAN LIFE ไทยสมุทร เตรียมความพร้อมทุกด้านเพื่อสร้างความมั่นคงและพัฒนาศักยภาพในการดูแลลูกค้าในทุกมิติ ทั้งคุณค่าแบรนด์ นวัตกรรมประกันและบริการ ช่องทางการขาย การจัดการข้อมูลดิจิทัล และการร่วมมือกับพันธมิตรด้านต่าง ๆ รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรให้มีความพร้อมรับมือกับโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ในปี 2566 บริษัทสามารถสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจโดยเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยสินทรัพย์ จำนวน 100,622 ล้านบาท เงินสำรองประกันชีวิต จำนวน 80,072 ล้านบาท และมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio - CAR) ที่ร้อยละ 361.54 สูงกว่าเงินกองทุนขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดที่ร้อยละ 120 นับว่าอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งเป็นอันดับแนวหน้าของธุรกิจประกันชีวิต ในขณะที่บริษัทสามารถสร้างรายได้จากเบี้ยประกันชีวิตรับรวม จำนวน 14,983 ล้านบาท มีเบี้ยประกันชีวิตรับปีแรก จำนวน 1,923 ล้านบาท และเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อที่ 12,450 ล้านบาท โดยมีอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ที่ร้อยละ 87 ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยแผนกลยุทธ์ที่มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และนโยบายการลงทุนที่รอบคอบรัดกุมทำให้บริษัทมีผลตอบแทนจากการลงทุนสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของธุรกิจประกันชีวิตที่ร้อยละ 4.90 ส่งผลให้ในปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 1,184 ล้านบาท

พิสูจน์กลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง ด้วยรางวัลเกียรติยศระดับสากล

จากผลของการวางรากฐานทางกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง โดยใช้พลังความรักสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และคำนึงถึงความเสมอภาคและเท่าเทียม ควบคู่ไปกับการสร้างนวัตกรรมโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล  ช่วยทำให้การบริการลูกค้าสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ส่งผลให้ในปี 2566 บริษัทและผู้นำองค์กรได้รับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจทั้งในระดับประเทศ ระดับเอเชียแปซิฟิก และระดับโลก  ทั้งรางวัล International Finance Awards 2023 : Most Innovative Health Insurance Campaign (Love Mindset) จาก International Finance Magazine (IFM) รางวัล ASIA CORPORATE EXCELLENCE & SUSTAINABILITY AWARDS 2023 : Outstanding Leaders in Asia จาก  Mors Group (Malaysia) รางวัลบริษัทประกันชีวิตที่มีการพัฒนาด้านความยั่งยืน จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) รางวัลองค์กรที่ส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ ในระดับดีเด่น จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รางวัลองค์กรภาคเอกชนที่รักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในระดับ “ยอดเยี่ยม” จากสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และรางวัล “บุคคลดีเด่นด้านการต่อต้านการทุจริต” จาก มูลนิธิต่อต้านการทุจริต

คุณนุสราฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่เราเตรียมพร้อมตลอดปีที่ผ่านมา และวันนี้เราพร้อมแล้วที่จะนำองค์กรก้าวสู่ยุคใหม่ของ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ที่จะขับเคลื่อนด้วยพลังความรัก และเชื่อว่าโลกจะดีขึ้นหากทุกคนใช้ความรักเป็นพลัง ไม่ว่าจะเป็นความรักในธุรกิจ รักทีมงาน รักลูกค้า รักสังคม เพื่อสร้างโลกใหม่ที่ดีขึ้นเพื่อคนรักสุขภาพ HEALTHIVERSE ให้เกิดขึ้นในปีนี้ และเราจะส่งมอบสิ่งดี ๆ อีกมากมายให้กับคนไทยตลอดทั้งปี” 

ร่วมก้าวสู่โลกใหม่เพื่อชีวิตและสุขภาพที่ดีกับ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ และกิจกรรมที่หลากหลายผ่านทาง OCEAN CLUB APPLICATION / LINE : @oceanlife / Facebook : Oceanlifepage และเว็บไซต์ www.ocean.co.th หรือ OCEAN LIFE CONTACT CENTER  1503
 


Tags : OCEANLIFEไทยสมุทร นุสรา(อัสสกุล)บัญญัติปิยพจน์ ไทยสมุทรประกันชีวิต ไทยสมุทรเผยรายได้ปี2566 ไทยสมุทรเผยแผนงานปี2567 ครบรอบ75ปีOCEANLIFEไทยสมุทร โอเชี่ยนไลฟ์ซูพรีมเฮลท์ มาริโอ้เมาเร่อ แผนประกันไทยสมุทรประกันชีวิต


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

นายธีรลักษ์ แสงสนิท รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า คณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ได้มีมติเห็นชอบให้ประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสิน โดยผู้ที่สนใจสามารถยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการสมัครได้ตั้งแต่วันอังคารที่ 14 ตุลาคม - วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2568 สำหรับคุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร กำหนดให้ต้องมีสัญชาติไทย อายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ในวันยื่นใบสมัคร สามารถทำงานให้ธนาคารได้เต็มเวลา และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามประกาศคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สำหรับคุณสมบัติเฉพาะต้องมีความรู้ ความสามารถ ด้านเศรษฐกิจ การเงิน การตลาด และการธนาคารเป็นอย่างดี มีวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการองค์กร มีภาวะความเป็นผู้นำสูง มีความรอบรู้และประสบการณ์ในการบริหารจัดการองค์กร กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กร และมีระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งนั้นรวมกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันยื่นใบสมัคร หรือกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากหน่วยงานภาคเอกชน ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรที่มีรายได้ขององค์กรไม่น้อยกว่า 15,000 ล้านบาทต่อปี หรือเคยบริหารกิจการที่มีสินทรัพย์ขององค์กรไม่น้อยกว่า 200,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ต้องมีระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่า รองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรนั้นต่อเนื่องกันเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันยื่นใบสมัคร สามารถดาวน์โหลดใบสมัครและศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.gsb.or.th โดยยื่นใบสมัครด้วยตนเอง หรือมอบให้ตัวแทนเป็นผู้ยื่น โดยมีหนังสือมอบอำนาจ พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการสมัครได้ที่ ส่วนสรรหาและแต่งตั้งโยกย้าย ฝ่ายบริหารงานทรัพยากรบุคคล อาคาร 32 ชั้น ชั้น 15 ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันอังคารที่ 14 ตุลาคม - วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2568 ระหว่างเวลา 09.00 – 16.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2299-8000 ต่อ 810371 - 74          

11 Oct 2025

...

ธนาคารออมสิน เตรียมจัดงานใหญ่ GSB SAVINGS FORUM 2025 เนื่องในวันออมแห่งชาติ 31 ตุลาคม 2568 ภายใต้แนวคิด “AI & AOM ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” เพื่อเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์ด้านการออมในโลกดิจิทัล สะท้อนการผสานพลัง “AI” (Artificial Intelligence) เข้ากับ “AOM” (การออม) ในการสร้างวินัยทางการเงินและสังคมแห่งการออมที่ยั่งยืน หนึ่งในไฮไลท์สำคัญคือ กิจกรรมประกวดออกแบบ “กระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล” เชิญชวนคนรุ่นใหม่ร่วมสร้างสรรค์งานออกแบบผ่าน AI Generative Tools ถ่ายทอดแนวคิดการออมในมิติใหม่ พร้อมชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 110,000 บาท ตอกย้ำภารกิจสำคัญของธนาคารในการส่งเสริมการออมและสร้างวินัยทางการเงินอย่างต่อเนื่อง กิจกรรมประกวดออกแบบ “กระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล” เปิดรับผลงานจากผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป โดยผู้ที่สนใจสามารถส่งผลงานออกแบบชิ้นงานใดก็ได้ ที่สร้างสรรค์ด้วย AI Generative Tools คนละ 1 ชิ้น ขนาดไฟล์ไม่เกิน 5MB ในรูปแบบ JPEG หรือ PNG ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 15 ตุลาคม 2568 โดยธนาคารจะคัดเลือกและประกาศรายชื่อผู้ที่จะได้เข้าร่วมแข่งขันในวันที่ 21 ตุลาคม 2568 จากนั้นจะจัดการแข่งขันเพื่อเฟ้นหาผู้ชนะเลิศ ในงาน GSB SAVINGS FORUM วันที่ 31 ตุลาคม 2568 (วันออมแห่งชาติ) ณ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ ซึ่งผู้ร่วมแข่งขันจะต้องออกแบบ “กระปุกออมสิน” ภายใต้โจทย์และเวลาที่กำหนดโดยใช้ AI Generative Tools โดยการตัดสินได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจากธนาคารออมสิน และผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าจากวงการ AI และโฆษณา อาทิ คุณเมธากวี สีตบุตร ผู้เชี่ยวชาญด้าน Generative AI และ Trainer ของ MidJourney และ คุณวีรยุทธ์ คุณวิทยไพศาล Executive Producer บริษัท Montage Studio และกรรมการตัดสิน Adman Awards 2023 ทั้งนี้ ผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล จำนวน 50,000 บาท รางวัลที่ 2 จำนวน 30,000 บาท รางวัลที่ 3 จำนวน 20,000 บาท และรางวัล Popular Vote จำนวน 10,000 บาท รวมมูลค่ารางวัลทั้งสิ้น 110,000 บาท ผู้สนใจสามารถสมัครและดูรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านลิงก์หรือสแกนคิวอาร์โค้ด (QR Code) ที่กำหนด   สมัครพร้อมติดตามรายละเอียดและกติกาการแข่งขันเพิ่มเติมได้ที่ Link https://forms.gle/1wHqR8V8e337M8wg8  หรือ QR Code  

06 Oct 2025

...

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้รับใบประกาศเกียรติคุณชั้นที่ 2 จากสภากาชาดไทย ในฐานะองค์กรที่ให้การสนับสนุนและความร่วมมือในการจัดหาผู้บริจาคโลหิตเป็นหมู่คณะอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการบริจาคโลหิตมาตั้งแต่ปี 2531 และจัดกิจกรรมทุก 3 เดือน เพื่อสนับสนุนการสำรองโลหิตให้เพียงพอสำหรับการรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ ถือเป็นการต่อชีวิตและยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของคนในสังคม ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนนโยบายพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ตลอดระยะเวลากว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา บริษัทฯ มุ่งมั่นสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน ด้วยการเชิญชวนผู้บริหาร พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า ตลอดจนประชาชนทั่วไป เข้าร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิต รวมถึงการบริจาคอวัยวะและดวงตา เพื่อสนับสนุนภารกิจของสภากาชาดไทย อันเป็นการสืบสานเจตนารมณ์แห่งการให้และการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง

06 Oct 2025

...

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดโครงการ “Responsible Voices สำหรับ Finfluencer รุ่นที่ 2” ณ สำนักงาน ก.ล.ต. โดยมีศาสตราจารย์ ดร.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. เป็นประธานในพิธี และได้รับเกียรติจากผู้แทนหน่วยงานกำกับทั้ง 3 หน่วยงานเข้าร่วม ซึ่งเป็นการจัดต่อเนื่องจากความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของรุ่นที่ 1 ที่สิ้นสุดไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยได้คัดเลือก Financial Influencer (Finfluencer) จำนวน 40 คน จากหลากหลายแพลตฟอร์ม เข้าร่วมอบรมในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการให้ข้อมูลด้านการเงิน การลงทุน และการประกันภัย   นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. เปิดเผยว่า โครงการนี้มีเป้าหมายสำคัญในการสร้าง “Finfluencer เชิงบวก”  ที่สามารถนำเสนอข้อมูลด้านประกันภัย การเงิน และการลงทุนได้อย่างถูกต้อง เข้าใจง่าย และตระหนักถึงผลกระทบต่อสังคม  โดยสำนักงาน คปภ. ได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการบ่มเพาะผู้สร้างสรรค์ Content ที่มีความรู้ด้านการประกันภัย เพื่อถ่ายทอดต่อไปยังประชาชนในวงกว้าง ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ผู้แทนสายกลยุทธ์องค์กร เข้าร่วมในพิธีเปิดและกิจกรรมการบรรยาย โดยสำนักงาน คปภ. ยังได้ร่วมจัด Workshop เชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “การสื่อสารด้านการประกันภัยอย่างมีความรับผิดชอบ” เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการผลิตคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน   โครงการ Responsible Voices สำหรับ Finfluencer รุ่นที่ 2 จัดขึ้นภายใต้การร่วมมือของทั้ง 3 หน่วยงานกำกับดูแล โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้ Financial Influencer (Finfluencer) จากภาคการเงิน การลงทุน และประกันภัย มีความรู้ความเข้าใจ และสามารถเผยแพร่ข้อมูลให้แก่ผู้ติดตามได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ยกระดับสู่การเป็น Finfluencer ที่นำเสนอข้อมูลอย่างมีความรับผิดชอบ และคำนึงถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อผู้ติดตามและสังคม รวมทั้งขยายผลสู่การสร้างความตระหนักต่อผู้ประกอบธุรกิจที่มีการสื่อสารผ่าน Finfluencer ซึ่งจากความสำเร็จในรุ่นที่ 1 กลุ่ม Finfluencer ได้ระดมความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ และร่วมกันจัดทำเนื้อหาด้านการเงิน การลงทุน และประกันภัยในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย   โดยผู้ที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการฯ ในรุ่นที่ 1 มีผู้ติดตาม (followers) จำนวนรวมมากกว่า 14 ล้านคน ซึ่งสะท้อนถึงพลังของการสื่อสารและสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ Finfluencer ให้ตระหนักถึงบทบาทของตนเองในการให้ข้อมูลอย่างมีความรับผิดชอบ และมีการช่วยเหลือกันภายในเครือข่าย เพื่อส่งเสริมให้เกิดสังคมการให้ข้อมูลที่มีความรับผิดชอบ พร้อมทั้งร่วมเป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่กระจายข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์จากหน่วยงานกำกับดูแลทั้ง 3 แห่ง ไปสู่ประชาชนในวงกว้าง จึงเป็นที่มาของการดำเนินการต่อเนื่องในรุ่นที่ 2 โดยยังคงยึดเป้าหมายในการส่งเสริมการสื่อสารด้วยเสียงที่สร้างสรรค์และมีความรับผิดชอบ เพื่อเสริมสร้างกลไกการคุ้มครองผู้ลงทุนและประชาชนให้เกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืน   ทั้งนี้ โครงการ Responsible Voices สำหรับ Finfluencer รุ่นที่ 2 จะจัดขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคม และวันที่ 8 ตุลาคม 2568 ณ สำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งเนื้อหาการอบรมแต่ละครั้งจะเป็นการบรรยาย การระดมความคิด และการทำ Workshop โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากทั้ง 3 หน่วยงานกำกับดูแล ครอบคลุมหัวข้อความรู้เกี่ยวกับการสื่อสารด้านการเงิน การลงทุน และการประกันภัยที่เหมาะสม การอัปเดตสถานการณ์ทางการเงิน การลงทุน และประกันภัย เพื่อนำความรู้ความเข้าใจที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ในการจัดทำและนำเสนอ Content ที่ถูกต้อง รวมทั้งสร้างหลักคิดที่ชวนให้ตระหนักรู้เกี่ยวกับการให้ข้อมูลที่บิดเบือนอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย  ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการตามเกณฑ์ที่กำหนดจะได้รับประกาศนียบัตรเพื่อรับรองการเข้าร่วมโครงการ  

06 Oct 2025

Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner