Responsive image

Wednesday, 03 Dec 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


OCEAN LIFE ไทยสมุทร สู่ปีที่ 75 ก้าวกระโดดสู่ HEALTHIVERSE ยุคใหม่เพื่อโลกที่ยั่งยืนและสุขภาพที่ดีของคนไทย

Fri 29/03/2567


บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) รักคือพลังของชีวิต โดย คุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO) เผยว่าในปี 2567 ซึ่งเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปี จึงเป็นโอกาสที่ดีในการนำความพร้อมที่เราได้เตรียมไว้ เพื่อเริ่มต้นก้าวสู่โลกยุคใหม่ที่เราจะใช้ทั้งพลังความรักและศักยภาพด้านการประกันชีวิตที่เรามีทั้งหมด มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโลกที่ดีและยั่งยืนทั้งวันนี้และอนาคตให้กับทุกคน ทุกเจนเนอเรชั่นให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมั่นคง มั่นใจ ปลอดภัย และมีความสุข นอกจากการใช้พลังความรักเป็นแรงขับเคลื่อนด้วย Tagline “รักคือพลังของชีวิต” และแคมเปญ Love Mindset ที่สนับสนุนการใช้ชีวิตด้วยรัก 3 ด้านให้พร้อมรับมือกับทุกการเปลี่ยนแปลง ทั้ง Love Your Health, Love Your Wealth และ Love The World ในปี 2567 เราจะเน้นใช้กลยุทธ์ “HEALTHIVERSE สู่โลกใหม่…เพื่อชีวิตและสุขภาพที่ดีของคนไทย” โดยนำศักยภาพในเรื่องสุขภาพทั้ง 8 ด้าน มาช่วยให้คนไทยเข้าใจการดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง เพื่อที่จะไม่ป่วย อายุยืนแบบมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุในปัจจุบัน ด้วยแนวคิด LOVE’s Evolution into the NEW ERA รักคือพลังก้าวเข้าสู่โลกยุคใหม่ด้วยแนวคิดใหม่ ๆ ประกอบด้วย

  • LOVE YOUR HEALTH for HEALTHIVERSE โลกใหม่ที่ทุกคนรักและดูแลสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดี “เราจะไม่ป่วย” ด้วยการส่งเสริมการดูแลสุขภาพครอบคลุมทั้งสุขภาพกายใจ พร้อมสร้างความตระหนักรู้ในมิติต่าง ๆ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ และยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
  • LOVE YOUR WEALTH for WEALTHIVERSE  โลกใหม่ที่ทุกคนรู้จักวางแผนการเงิน ปิดความเสี่ยงในชีวิต โดยส่งเสริมให้ทุกคนมีความรู้พื้นฐานสำคัญด้านการเงิน ใช้เงินให้เป็น มีเงินออม มีทางเลือกการลงทุน เพิ่มความมั่งคั่ง และปิดความเสี่ยงด้วยประกันชีวิต 
  • LOVE THE WORLD for HAPPiVERSE รักษาโลกอย่างยั่งยืน ให้คนรุ่นหลังมีความสุข สนับสนุนการสร้างความยั่งยืนทุกด้านตามแนวทาง ESG และ SDGs ทั้งในด้านปลูกฝัง Mindset และมุ่งทำให้เกิดขึ้นจริง

 

โดยตลอดปี 2567 OCEAN LIFE ไทยสมุทร จะใช้พลังความรักรับมือโลกยุคใหม่ด้วยโครงการแคมเปญ กิจกรรม และสื่อต่าง ๆ ผ่านแนวคิด HEALTHIVERSE เพื่อให้คนไทย TOP FORM ไม่ป่วย ช่วยคนไทยด้วยศักยภาพทั้งหมดที่มี และได้เกิดเป็น NEW ERA ในมิติต่าง ๆ  ดังนี้

NEW ERA, NEW CAMPAIGN
เปิดตัวแคมเปญโฆษณาชุดใหม่ “Supreme Health” ยกระดับประกันสุขภาพคุ้มครอง 100 ล้านบาท

ในวาระครบรอบ 75 ปี OCEAN LIFE ไทยสมุทร ได้ยกระดับประกันสุขภาพ เปิดแคมเปญโฆษณาใหม่ล่าสุด ชวนคนไทยมา TOP FORM ไปกับ “โอ้” มาริโอ้ เมาเร่อ กับประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายระดับพรีเมี่ยม ที่ดีที่สุดของเรา โอเชี่ยนไลฟ์ ซูพรีม เฮลท์ (OCEAN LIEF SUPREME HEALTH) ที่คุ้มครองการรักษาสูงสุดถึง 100 ล้านบาท ตอบโจทย์การรักษาพยาบาลในทุกมิติ ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงนวัตกรรมการรักษาที่ล้ำสมัย พร้อมนวัตกรรมและบริการมากมาย จากพันธมิตรและโรงพยาบาลชั้นนำ อีกทั้งยังมีบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ (Telemedicine) ให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุดอย่างเหนือระดับ ในทุกที่ ทุกเวลา เพื่อปิด Gap ด้านสุขภาพให้ทุกคน TOP FORM

แต่เนื่องในสภาพแวดล้อมปัจจุบันโรคร้ายแรงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง จะดีกว่าไหมถ้ามีตัวช่วยมาปิดความเสี่ยงเรื่องโรคร้ายแรงที่มีสถิติเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเหตุนี้เราจึงได้สร้างสรรค์แบบประกันคุ้มครองโรคร้ายแรงที่ดีที่สุด และคุ้มครองโรคร้ายแรงได้มากที่สุดของ OCEAN LIFE ไทยสมุทร กับสัญญาเพิ่มเติม    โอเชี่ยนไลฟ์ ซูเปอร์ ซีไอ 120 (CI120)  คุ้มครอง 6 กลุ่มโรคร้ายแรงและกลุ่มความคุ้มครองพิเศษของโรคมะเร็งระยะลุกลาม รวมสูงสุดถึง 120 โรคร้ายแรง ที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนไทย นอกจากนี้ วิกฤตที่ผ่านมายังทำให้คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงความสำคัญของประกันสุขภาพ และความไม่แน่นอนของชีวิต  OCEAN LIFE ไทยสมุทร จึงได้นำเสนอประกันสุขภาพ โอชิ สมอล เฮลท์ ประกันสุขภาพไซซ์เล็ก  (OCHI SMALL HEALTH)  เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่มองหาความสะดวกสบายและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยเบี้ยประกันที่จับต้องได้ เริ่มต้นแค่วันละ 13 บาท ได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) สูงสุด 1,000 บาทต่อครั้ง พร้อมทั้งคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD) เหมาจ่ายตามจริงสูงสุด 50,000 บาทต่อครั้ง อีกทั้งยังสามารถปรึกษาเภสัชกรออนไลน์ (Telepharmacy) และรับยาจากร้านยาเครือข่ายใกล้บ้านได้อีกด้วย

NEW ERA >> NEW INNOVATION
เตรียมพบกับ NEW!! OCEAN CLUB APP 2024 ที่มาพร้อมกับ HEALTHIVERSE FUNCTION

จากแบบประกันทั้ง 3 ตัวที่กล่าวมา ช่วยปิด Gap ด้านสุขภาพของคนไทยได้ครอบคลุมทุก Segment ช่วยผลักดันให้คนไทยเข้าถึงนวัตกรรมการรักษาที่ล้ำสมัย นอกจากนี้ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ยังช่วยให้คนไทยได้รับเทคโนโลยีด้านสุขภาพได้แบบไม่มีค่าใช้จ่าย โดยได้พัฒนา NEW!! OCEAN CLUB APP : HEALTHIVERSE FUNCTION ฟังก์ชั่นใหม่ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อชีวิตและสุขภาพที่ดีของคนไทย นอกเหนือจากการสนับสนุนให้คนไทยดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย เดิน วิ่ง ขี่จักรยาน และพักผ่อนให้เพียงพอแล้ว เรายังส่งนวัตกรรมดูแลสุขภาพเพิ่มเติม เพื่อทำให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี มีร่างกายแข็งแรงครอบคลุมทั้ง 3 ฟังก์ชั่น 1.Nutrition การรับประทานอาหาร ที่มีทั้งเรื่อง Food Diet Tracking วางแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะสม Water reminder ดื่มน้ำที่ร่างกายต้องการ หรือแม้แต่การทำ Intermittent Fasting (IF) 2.Exercise การออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงข้อมูลแคลอรี่จากการเดิน วัด Heart Rate จากการวิ่ง หรือ Trackข้อมูลความเร็วในการปั่นจักรยาน และสุดท้ายคือ 3.Relax การพักผ่อน ครอบคลุมทั้งการนอนที่เพียงพอ การเต้นของชีพจร  และอัตราความเครียดของผู้ใช้งาน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีฟังก์ชั่นพิเศษ CANCER SCREENING เช็คความเสี่ยงโรคมะเร็ง ประเมินความเสี่ยงโรคมะเร็งเบื้องต้น พร้อมด้วยฟังก์ชั่น COMPETITION การแข่งขัน ทำให้ได้ท้าทายและสนุกกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น ซึ่งข้อมูลทั้งหมดได้รับคำแนะนำและการดูแลจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง นับว่าเป็นตัวช่วยที่จะทำให้คนไทยไม่ป่วยอีกทางเลือกหนึ่ง

 

NEW ERA, NEW ACTIVITIES
พบกับ HEALTHIVERSE SYMPOSIUM งานสัมมนาออนไลน์ด้านสุขภาพแนวใหม่ เร็ว ๆ นี้

เมื่อครบทั้งแบบประกันสุขภาพที่ดี APPLICATION ที่เป็นตัวช่วย OCEAN LIFE ไทยสมุทร ยังมุ่งหวังให้คนไทยมีความรู้ด้านสุขภาพ การออม และรักษ์โลกที่มากกว่าเดิม โดยในปี 2567 เราจะมีกิจกรรมอัดแน่นตลอดทั้งปี เพื่อเสริมทักษะความรู้ครบทั้งด้าน HEALTHIVERSE ความรู้ด้านสุขภาพ  ในงาน HEALTHIVERSE SYMPOSIUM งานสัมมนาออนไลน์ด้านสุขภาพแนวใหม่ ที่จะส่งเสริมให้ทุกคนเข้าถึงความรู้ด้านสุขภาพได้อย่างเท่าเทียมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และกูรูด้านสุขภาพชั้นนำของประเทศ เพื่อช่วยแนะนำให้คุณปิด Gap ด้านสุขภาพได้อย่างถูกต้องและตรงประเด็น นอกจากนั้น เรายังทำกิจกรรมอีกหลากหลาย ทั้งในส่วนของ WEALTHIVERSE ความรู้เรื่องการออมเงิน  และ HAPPiVERSE กิจกรรมตอบแทนสังคม ดูแลสิ่งแวดล้อม และยึดมั่นในธรรมาภิบาลตามแนวทาง ESG ตลอดทั้งปี พร้อมด้วยการจัดแคมเปญส่งมอบความสุขตอบแทนความไว้วางใจที่ลูกค้ามีให้กับเรามาตลอด 75 ปี  กับกิจกรรม “OCEAN LIFE ไทยสมุทร 75 ปี แจกทอง 75 บาท” ให้ลูกค้าลุ้นรับทองคำรูปโอชิหนัก 1 สลึงจำนวน 300 รางวัลตลอดปี  มูลค่ารวมกว่า 2.5 ล้านบาทอีกด้วย 

NEW ERA, NEW EXPERIENCE
เปิดตัวอย่างเป็นทางการ “OCEAN LIFE LOVE SPACE” พื้นที่ของทุก Generation เพื่อส่งมอบประสบการณ์ความรัก

เมื่อครบองค์ประกอบทั้งผลิตภัณฑ์ APPLICATION และกิจกรรมแบบอัดแน่นแล้ว ล่าสุด!! ได้เปิดตัว Flagship Store Concept โลกยุคใหม่ OCEAN LIFE LOVE SPACE” ที่ตกแต่งโดยใช้สีฟ้าและสีเมทัลไอซ์บลู ที่เปรียบเสมือนการผสานโลกเก่ากับโลกใหม่เป็นโลกที่ดีและยั่งยืนให้กับทุกเจเนอเรชั่นได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข OCEAN LIFE LOVE SPACE พร้อมเปิดให้บริการเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า และที่ปรึกษาประกันชีวิต ใช้เป็นพื้นที่แบ่งปันความรู้ Co-Working Space โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ทำเลที่ตั้งสะดวกสบายเดินทางใกล้ทั้ง BTS / MRT และ Airport Rail Link 

NEW ERA, NEW SERVICES ยกระดับการบริการครอบคลุมครบทุกมิติ

OCEAN LIFE ไทยสมุทร ไม่หยุดพัฒนานวัตกรรมการบริการต่าง ๆ เดินหน้าพัฒนาระบบ E-Service ครอบคลุมครบตั้งแต่การค้นหาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต จนถึงการสมัครทำประกัน การเคลมประกัน การรับผลประโยชน์ต่าง ๆ ตลอดจนการบริการหลังการขาย ไม่ว่าจะเป็น E-Buy ซื้อประกัน ผ่านทางเว็บไซต์ E-Application ลูกค้าสมัครทำประกันผ่านใบคำขอทำประกันอิเล็กทรอนิกส์ E-Policy เลือกรับกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ผ่านทาง Email  E-Claim เคลมสินไหมออนไลน์ด้วยตนเองตลอด 24 ชั่วโมง E-Loan การกู้เงินตามกรมธรรม์ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเดินทางติดต่อสาขา ซึ่งทั้งหมดนี้ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อบริการ OCEAN CONNECT ผ่าน LINE @oceanlife หรือ OCEAN CLUB APP ได้ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ

ขณะเดียวกัน ได้ยกระดับการบริการ ด้วยการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ OCEAN LIFE CONTACT CENTER ให้จำง่าย ติดต่อได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วยหมายเลข 4 หลัก “1503” พร้อมเป็นศูนย์กลางการติดต่อสอบถาม สามารถรับบริการได้สะดวก รวดเร็ว พร้อมส่งมอบประสบการณ์ประทับใจด้วยภาษาถิ่น ให้ลูกค้ารู้สึกคุ้นเคย สบายใจ และได้รับความพึงพอใจสูงสุด

 

ปี 2566 ตอกย้ำความเชื่อมั่นด้วยการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

ในปี 2566 ที่ผ่านมา นับเป็นปีที่ OCEAN LIFE ไทยสมุทร เตรียมความพร้อมทุกด้านเพื่อสร้างความมั่นคงและพัฒนาศักยภาพในการดูแลลูกค้าในทุกมิติ ทั้งคุณค่าแบรนด์ นวัตกรรมประกันและบริการ ช่องทางการขาย การจัดการข้อมูลดิจิทัล และการร่วมมือกับพันธมิตรด้านต่าง ๆ รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรให้มีความพร้อมรับมือกับโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ในปี 2566 บริษัทสามารถสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจโดยเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยสินทรัพย์ จำนวน 100,622 ล้านบาท เงินสำรองประกันชีวิต จำนวน 80,072 ล้านบาท และมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio - CAR) ที่ร้อยละ 361.54 สูงกว่าเงินกองทุนขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดที่ร้อยละ 120 นับว่าอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งเป็นอันดับแนวหน้าของธุรกิจประกันชีวิต ในขณะที่บริษัทสามารถสร้างรายได้จากเบี้ยประกันชีวิตรับรวม จำนวน 14,983 ล้านบาท มีเบี้ยประกันชีวิตรับปีแรก จำนวน 1,923 ล้านบาท และเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อที่ 12,450 ล้านบาท โดยมีอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ที่ร้อยละ 87 ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยแผนกลยุทธ์ที่มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และนโยบายการลงทุนที่รอบคอบรัดกุมทำให้บริษัทมีผลตอบแทนจากการลงทุนสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของธุรกิจประกันชีวิตที่ร้อยละ 4.90 ส่งผลให้ในปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 1,184 ล้านบาท

พิสูจน์กลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง ด้วยรางวัลเกียรติยศระดับสากล

จากผลของการวางรากฐานทางกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง โดยใช้พลังความรักสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และคำนึงถึงความเสมอภาคและเท่าเทียม ควบคู่ไปกับการสร้างนวัตกรรมโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล  ช่วยทำให้การบริการลูกค้าสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ส่งผลให้ในปี 2566 บริษัทและผู้นำองค์กรได้รับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจทั้งในระดับประเทศ ระดับเอเชียแปซิฟิก และระดับโลก  ทั้งรางวัล International Finance Awards 2023 : Most Innovative Health Insurance Campaign (Love Mindset) จาก International Finance Magazine (IFM) รางวัล ASIA CORPORATE EXCELLENCE & SUSTAINABILITY AWARDS 2023 : Outstanding Leaders in Asia จาก  Mors Group (Malaysia) รางวัลบริษัทประกันชีวิตที่มีการพัฒนาด้านความยั่งยืน จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) รางวัลองค์กรที่ส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ ในระดับดีเด่น จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รางวัลองค์กรภาคเอกชนที่รักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในระดับ “ยอดเยี่ยม” จากสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และรางวัล “บุคคลดีเด่นด้านการต่อต้านการทุจริต” จาก มูลนิธิต่อต้านการทุจริต

คุณนุสราฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่เราเตรียมพร้อมตลอดปีที่ผ่านมา และวันนี้เราพร้อมแล้วที่จะนำองค์กรก้าวสู่ยุคใหม่ของ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ที่จะขับเคลื่อนด้วยพลังความรัก และเชื่อว่าโลกจะดีขึ้นหากทุกคนใช้ความรักเป็นพลัง ไม่ว่าจะเป็นความรักในธุรกิจ รักทีมงาน รักลูกค้า รักสังคม เพื่อสร้างโลกใหม่ที่ดีขึ้นเพื่อคนรักสุขภาพ HEALTHIVERSE ให้เกิดขึ้นในปีนี้ และเราจะส่งมอบสิ่งดี ๆ อีกมากมายให้กับคนไทยตลอดทั้งปี” 

ร่วมก้าวสู่โลกใหม่เพื่อชีวิตและสุขภาพที่ดีกับ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ และกิจกรรมที่หลากหลายผ่านทาง OCEAN CLUB APPLICATION / LINE : @oceanlife / Facebook : Oceanlifepage และเว็บไซต์ www.ocean.co.th หรือ OCEAN LIFE CONTACT CENTER  1503
 


Tags : OCEANLIFEไทยสมุทร นุสรา(อัสสกุล)บัญญัติปิยพจน์ ไทยสมุทรประกันชีวิต ไทยสมุทรเผยรายได้ปี2566 ไทยสมุทรเผยแผนงานปี2567 ครบรอบ75ปีOCEANLIFEไทยสมุทร โอเชี่ยนไลฟ์ซูพรีมเฮลท์ มาริโอ้เมาเร่อ แผนประกันไทยสมุทรประกันชีวิต


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

ทิพยประกันภัยเดินหน้าต่อยอดประสบการณ์ด้านประกันภัยรถยนต์ เปิดตัวแคมเปญใหญ่ “TIP MOTOR EXTRA PRO ประกันรถสุดปัง อลังการสุดโปร” ในงาน Motor Expo 2025 เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่มองหาความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ครบวงจร พร้อมคัดสรรผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์หลากหลาย อาทิ TIP Premium Garage Plus, TIP Lady, TIP Rainbow, TIP Up to Mile และประกันรถยนต์ 2+ คุ้มทุน พร้อมทีมให้คำปรึกษา คำนวณเบี้ย และบริการต่ออายุกรมธรรม์ภายในงาน แคมเปญ “TIP MOTOR EXTRA PRO” มอบข้อเสนอสุดคุ้มสำหรับลูกค้า อาทิ • ส่วนลดเบี้ยประกันภัยสูงสุด 15% สำหรับลูกค้าใหม่ • รับของสมนาคุณ รวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท • ลุ้นรับรถยนต์ MITSUBISHI XFORCE รุ่น ULTIMATE มูลค่า 1,059,000 บาท • ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน • พิเศษ! ลูกค้าที่ต่ออายุประกันภัยรถยนต์ภายในงาน รับ บัตร Lotus’s มูลค่าสูงสุด 1,000 บาท ทิพยประกันภัยขอเชิญทุกท่านร่วมรับข้อเสนอสุดพิเศษเฉพาะงาน Motor Expo 2025 ได้ที่บูธ V07–V08 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568

30 Nov 2025

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือ โครงการศึกษาครัวเรือนฐานรากเพื่อสร้างการเข้าถึงแหล่งเงินในระบบ ระหว่าง ธนาคารออมสิน และ สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ เพื่อศึกษาความเป็นอยู่และพฤติกรรมทางการเงินของกลุ่มครัวเรือนฐานรากที่ยังไม่สามารถเข้าถึงการเงินในระบบ ที่จะนำไปสู่การต่อยอดองค์ความรู้ จากการวิจัยในการพัฒนาระบบการเงินที่เหมาะสม ช่วยยกระดับเศรษฐกิจและความเข้มแข็งทางการเงินของภาคครัวเรือนไทย โดยมี นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และ ดร.โสมรัศมิ์ จันทรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าว เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ณ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่   นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ภายใต้บทบาทการเป็น Social Bank ที่มุ่งลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินและสร้างการเข้าถึงแหล่งทุนที่เป็นธรรม ธนาคารเดินหน้าภารกิจหลักที่ 1 ในการสร้างการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบสถาบันการเงิน ซึ่งหากพิจารณาจากสถานการณ์การเข้าถึงสินเชื่อของคนไทย ปัจจุบันยังพบว่าครัวเรือนกว่าร้อยละ 30 ยังอยู่ในกลุ่ม Unserved และ Underserved โดยเป็นผู้มีรายได้น้อยและ/หรือรายได้ไม่แน่นอน ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบจากการขาดประวัติเครดิตทางการเงิน และกว่าครึ่งยังต้องพึ่งพาหนี้นอกระบบเพิ่มขึ้นและต้องเผชิญภาระดอกเบี้ยสูง ดังนั้น เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนบทบาทการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ธนาคารจึงได้จัดตั้งสถาบันวิจัยเศรษฐกิจฐานรากขึ้นเป็นครั้งแรก และได้ร่วมมือกับสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ เพื่อคิกออฟงานวิจัย “โครงการศึกษาครัวเรือนฐานรากเพื่อสร้างการเข้าถึงแหล่งเงินในระบบ” โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายของการศึกษาเป็นผู้เข้าร่วมโครงการสินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส ที่ธนาคารได้ดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี 2568 เพื่อปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ที่มีรายได้ แต่ไม่เคยมีประวัติเครดิตทางการเงิน หรือไม่เคยใช้บริการสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินอย่างน้อย 2 ปี ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ของโครงการนี้มีลักษณะตัวตน หรือ Customer Persona ที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของงานศึกษาวิจัยครั้งนี้ ทั้งนี้ ธนาคารหวังว่าจะสามารถนำผลลัพธ์ของงานวิจัยไปออกแบบเครื่องมือทางการเงิน หรือมาตรการสินเชื่อที่ตรงจุด สามารถตอบโจทย์ความคาดหวัง และสร้างระบบการเงินที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งการพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมาย SDGs และสอดคล้องตามบทบาทของธนาคารเพื่อสังคม   ดร. โสมรัศมิ์ จันทรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ เปิดเผยว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการศึกษาข้อมูลเชิงลึกของลูกหนี้ภายใต้โครงการ “สินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส” ของธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นต้นแบบสินเชื่อดิจิทัลที่เปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้แต่ไม่เคยเข้าถึงสินเชื่อในระบบสามารถกู้เงินได้เป็นครั้งแรก โดยธนาคารออมสินได้ปล่อยสินเชื่อเพื่อช่วยคนไทยสร้างประวัติเครดิตทางการเงินไปแล้วกว่า 200,000 ราย สะท้อนถึงความต้องการเข้าถึงสินเชื่อในระบบที่ยังมีอยู่จำนวนมาก การศึกษาครั้งนี้จึงมุ่งขยาย “ประตูสู่ระบบการเงิน” ให้กว้างขึ้น ผ่านการเก็บข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มคนที่อยู่นอกระบบเป็นครั้งแรก ใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1) ปัญหาเศรษฐกิจการเงิน พฤติกรรมและความต้องการทางการเงิน 2) โมเดลผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยให้ลูกหนี้ชำระคืนได้จริง 3) การทดลองใช้ข้อมูลใหม่และข้อมูลทางเลือกเพื่อค้นหาตัวชี้วัดความเสี่ยงที่แม่นยำยิ่งขึ้นให้กับสถาบันการเงิน 4) การติดตามผลการเข้าถึงสินเชื่อต่อรายได้และคุณภาพชีวิตของลูกหนี้ตลอดระยะเวลา 1 ปี เพื่อนำไปใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสม ซึ่งผลการศึกษาจะช่วยให้ธนาคารออมสินออกแบบผลิตภัณฑ์และกระบวนการพิจารณาสินเชื่อที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น สอดคล้องกับศักยภาพของลูกหนี้ และเพิ่มโอกาสในการชำระคืน   ขณะเดียวกัน สถาบัน ฯ จะมีองค์ความรู้เชิงลึกเพื่อนำไปสนับสนุนนโยบาย Your Data และโครงการ Risk-Based Pricing ของธนาคารแห่งประเทศไทย ช่วยให้สถาบันการเงินประเมินความเสี่ยงได้โปร่งใส เป็นธรรม และเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ “เคยถูกมองไม่เห็น” เข้าสู่ระบบการเงินได้มากขึ้น ถือเป็นก้าวสำคัญที่เปลี่ยนงานวิจัยให้เกิดผลจริงต่อประชาชนฐานราก เสริมรากฐานระบบการเงินที่เข้าถึงง่าย ยั่งยืน และช่วยยกระดับศักยภาพและคุณภาพชีวิตของครัวเรือนไทยได้อย่างมั่นคงในระยะยาว  

30 Nov 2025

...

จากสถานการณ์อุทกภัยส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ของภาคใต้ โดยขณะนี้จังหวัดสงขลาประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน จึงขอแจ้งปิดทำการกรุงเทพประกันภัย สาขาหาดใหญ่ เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยลูกค้าสาขาหาดใหญ่และใกล้เคียงสามารถติดต่อบริการด้านประกันภัยได้ที่ กรุงเทพประกันภัย สาขาสุราษฎร์ธานี โทร. 0 7727 3806 ทั้งนี้ กรุงเทพประกันภัยขอแสดงความห่วงใยและเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคใต้ และเพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อรับคำปรึกษาต่างๆ และแจ้งเคลมสินไหมทดแทนสำหรับบ้านที่อยู่อาศัยและสถานประกอบการ รวมถึงประกันภัยรถยนต์ หรือรับบริการรถยกเพื่อเคลื่อนย้ายรถไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้ที่ช่องทางต่างๆ ดังนี้ - LINE @bangkokinsurance - โทร. 1620 ตลอด 24 ชั่วโมง

25 Nov 2025

...

นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 เห็นชอบให้ดำเนินโครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” เพื่อช่วยยกระดับความสามารถในการหารายได้ของผู้ประกอบการรายเล็กบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งที่เป็นทักษะความรู้ด้านการเงินและด้านดิจิทัล โดยรัฐบาลสนับสนุนเงินเพิ่มสูงสุด 2,000 บาท/ราย สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ Upskill/Reskill และได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งโครงการดังกล่าวมีหน่วยงานพันธมิตรหลายรายเป็นผู้ให้บริการเรียนรู้และพัฒนาทักษะแก่ร้านค้า โดยมีธนาคารออมสินรับผิดชอบการพัฒนาทักษะแก่ผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย “ประเภทบุคคลธรรมดา” หลักสูตร “Smart Finance Upskill : การพัฒนาความรู้ทางการเงินเพื่อร้านค้ารายย่อยโครงการคนละครึ่ง พลัส” สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าบุคคลธรรมดา เน้นให้ความรู้ทางการเงินที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการร้านค้ายุคใหม่ ประกอบด้วยเนื้อหาสำคัญ 4 ด้าน ได้แก่ การทำบัญชี การคิดต้นทุน เทคนิคการตั้งราคาขาย และความรู้ก่อนยื่นขอกู้ พร้อมแบบจำลองการยื่นกู้ให้ผู้ประกอบการได้ฝึกเรียนรู้ด้วยตนเอง และสามารถนำแบบจำลองนั้นไปใช้ประกอบการยื่นกู้กับสถาบันการเงินได้ โดยผู้ที่ได้สมัครเรียนและผ่านการทดสอบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จะได้รับประกาศนียบัตรรับรองการผ่านหลักสูตรเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการรับสิทธิ์เงินเพิ่มสูงสุด 2,000 บาท ร้านค้าที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าเรียนได้แล้วตั้งแต่วันนี้ - 19 ธันวาคม 2568 ที่เว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th ตลอด 24 ชม. โดยผู้ที่สำเร็จหลักสูตรตามเงื่อนไขที่กำหนด จะมีการแจ้งผลการรับสิทธิ์เงินสนับสนุนจากภาครัฐ ผ่านแอปถุงเงินและข้อความ SMS ในวันที่ 23 ธันวาคม 2568 ทั้งนี้ ธนาคารขอแนะนำโปรดหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่มีผู้ใช้งานหนาแน่น ซึ่งอาจทำให้ประสบปัญหาเว็บไซต์ตอบสนองช้ากว่าปกติได้ กรณีประสบปัญหาการใช้บริการ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทะเบียนเรียนหลักสูตร Smart Finance Upskill และข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโครงการ Upskill/Reskill คนละครึ่ง พลัส สามารถติดต่อที่ GSB Contact Center โทร.1115 กด 7 ตลอด 24 ชม.   นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่สำเร็จหลักสูตร Smart Finance Upskill แล้ว ยังมีสิทธิ์ยื่นขอกู้เงื่อนไขพิเศษกับสินเชื่อ “สร้างงานสร้างอาชีพ พลัส” โดยกดยื่นขอกู้ได้จากหน้าเว็บไซต์หลังเรียนจบหลักสูตร เพื่อเชื่อมต่อกระบวนการยื่นขอกู้ทางแอป MyMo ได้โดยสะดวก ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) = 0.75% ต่อเดือน แบบไม่มีหลักประกัน (Clean Loan) ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2568 ทั้งนี้ ธนาคารพิจารณาให้กู้ตามความจำเป็นเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนหรือเสริมสภาพคล่อง และตามความสามารถในการชำระคืน ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.gsb.or.th    

23 Nov 2025

Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner