Responsive image

Wednesday, 19 Nov 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


เอไอเอ ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จปี 2566 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์รักษาอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมประกันชีวิตและสุขภาพของไทย

Sun 07/04/2567


กรุงเทพฯ 5 เมษายน 2567 - เอไอเอ ประเทศไทย ผู้นำด้านธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ จัดงาน “A Conversation with CEO” โดยนายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2566 ด้วยส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) ที่สูงเป็นอันดับ 1 ในทุกมาตรวัด(1)และมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ที่เติบโตขึ้นถึงร้อยละ 21 ทำลายสถิติผลการดำเนินงานที่ผ่านมากว่า 8 ทศวรรษ ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นคงและความแข็งแกร่งของเอไอเอ ประเทศไทย นอกจากนี้ นายนิคฮิลยังได้บอกเล่าทิศทางและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของเอไอเอ ประเทศไทย ในปี 2567 เพื่อเป้าหมายในการยกระดับการดูแลคนไทยให้ครอบคลุมครบทุกมิติ ทั้งมิติด้านสุขภาพกาย สุขภาพใจ รวมถึงสุขภาพการเงิน สอดคล้องกับคำมั่นสัญญาของเอไอเอที่มุ่งสนับสนุนให้ทุกคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ‘Healthier, Longer, Better Lives’

นายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “เอไอเอ ประเทศไทย เติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีที่ผ่านมา โดยสามารถสร้างสถิติใหม่ด้วยการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 21 เป็น 24,857 ล้านบาท จากความสามารถของพลังตัวแทนและช่องทางพันธมิตร นอกจากนี้ เรายังเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมประกันชีวิตและสุขภาพ ด้วยส่วนแบ่งการตลาด (Market Share)(1) ที่สูงที่สุดในทุกมิติ ได้แก่

  • ร้อยละ 24 เบี้ยประกันภัยรับรายใหม่(2)(ANP)
  • ร้อยละ 50 ยอดขายสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ
  • ร้อยละ 57 ยอดขายสัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง
  • ร้อยละ 59 ยอดขายประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิต ลิงค์)
  • ร้อยละ 22 ยอดขายประกันกลุ่ม

“ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้เอไอเอ ประเทศไทย เติบโตอย่างโดดเด่นในปี 2566 มาจากการที่เรามีบุคลากรที่มีคุณภาพซึ่งทำให้เอไอเอแตกต่างจากคู่แข่ง ตลอดจนรูปแบบการทำงานที่เน้น Agility เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ช่องทางการขายที่แข็งแกร่งทั้งช่องทางพลังตัวแทนและช่องทางพันธมิตร โดยเอไอเอเป็นอันดับ 1 ในตลาด(1) ทั้งในแง่จำนวนตัวแทนที่มีมากกว่า 50,000 คนทั่วประเทศ รวมถึงจำนวนตัวแทนที่ได้รับคุณวุฒิ MDRT มากที่สุดนับตั้งแต่เอไอเอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพของพลังตัวแทนเอไอเอ และความสำเร็จของการสร้าง AIA Financial Advisor (AIA FA) ที่เพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 28 สำหรับช่องทางพันธมิตร เอไอเอ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน ในการสร้างสรรค์และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น นอกเหนือจากนั้น เอไอเอ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนากระบวนการดำเนินงานเพื่อส่งมอบการบริการที่ยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้า ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในขั้นตอนการพิจารณากรมธรรม์แบบอัตโนมัติ (STP) ในอัตราที่สูงถึงร้อยละ 87 เพิ่มศักยภาพในการอนุมัติกรมธรรม์ประกันชีวิตรายเดี่ยวได้มากถึง 1,500 กรมธรรม์ต่อวัน และพิจารณาเคลมได้สูงสุดถึง 9,000 เคสต่อวัน การลงทุนอย่างจริงจังในการพัฒนาบริการดิจิทัลและแอปพลิเคชันเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าและตัวแทนผ่านแอป AIA+ และ AIA ONE เป็นอีกปัจจัยหลักที่ทำให้เราก้าวทันยุคดิจิทัลและสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมแบบไร้รอยต่อได้อย่างต่อเนื่อง สุดท้ายคือการดำเนินธุรกิจอย่างมีวินัยเพื่อมุ่งนำเสนอความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพระยะยาวที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รวมทั้งสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

กลยุทธ์ ABCDEF เป็นกลยุทธ์ที่เอไอเอมุ่งเน้นเพื่อยกระดับการดูแลและการบริการลูกค้า พร้อมกับการรักษาอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมประกันชีวิตและสุขภาพ ซึ่งประกอบด้วย

  • A – Agency Transformation การพัฒนาช่องทางตัวแทนประกันชีวิตให้ทันสมัย ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลผลักดันการทำงานและการให้บริการลูกค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า พร้อมยกระดับการสรรหาตัวแทนที่มีคุณภาพ และมุ่งพัฒนาตัวแทนใหม่อย่างต่อเนื่อง
  • B – Business Partner Acceleration การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของช่องทางพันธมิตร โดยเอไอเอมุ่งเสริมความแกร่งของช่องทางขายผ่านพันธมิตรที่มีอยู่เดิม พร้อมขยายความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ ๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า
  • C – Customer Centricity การมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และมุ่งเปลี่ยนบทบาทจากเป็นเพียงผู้จ่ายเคลม (Payor) เป็นพาร์ตเนอร์ (Partner) ที่พร้อมดูแลลูกค้าในทุก ๆ วัน
  • DDigitalisation Journey การวางเส้นทางไปสู่ยุคดิจิทัลเพื่อตอกย้ำการเป็น Digital Insurer แห่งแรกของประเทศไทย โดยมุ่งพัฒนานวัตกรรมด้านดิจิทัลเพื่อเสริมการบริการให้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นผ่าน All-in-one Application สำหรับลูกค้าและตัวแทน
  • E – Employee Wellbeing ความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน โดยเอไอเอให้ความสำคัญกับการสร้างความเท่าเทียมในที่ทำงาน และเปิดโอกาสให้พนักงานได้เสนอความคิดเห็น เพื่อนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน
  • F – Future Healthcare การดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพและยั่งยืนเพื่อคนไทย ด้วยการนำเสนอโซลูชันด้านการดูแลและรักษาสุขภาพที่ตอบโจทย์ลูกค้า พร้อมส่งเสริมให้คนไทยทุกคนมีโอกาสเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีมาตรฐาน ตลอดจนได้รับความคุ้มครองด้านสุขภาพที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับแต่ละบุคคล

“เอไอเอ มุ่งมั่นเดินตามพันธกิจที่ต้องการสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งจากการที่ปัจจุบันเรามองเห็นแนวโน้มที่คนจะมีอายุขัยยืนยาวขึ้นเรื่อย ๆ และมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ถึงอายุ 100 ปี เนื่องด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวล้ำ แต่ในขณะที่อายุสุขภาพกลับไม่ยืนยาวสอดคล้องไปตามอายุขัย ฉะนั้นในช่วงบั้นปลายชีวิตของหลาย ๆ คนอาจตกอยู่ในภาวะที่เงินเก็บไม่เพียงพอสำหรับใช้ในการรักษาตัวเองหากเจ็บป่วย ด้วยเหตุนี้ เอไอเอจึงได้พัฒนาโซลูชันด้านสุขภาพให้สามารถดูแลคนไทยได้ครอบคลุมและคุ้มครองยาวนานขึ้นถึงอายุ 99 ปี(3) รวมทั้งได้ออกแคมเปญ Living to 100 ที่เราตั้งใจผลักดันให้คนไทยเตรียมวางแผนสุขภาพและการเงิน เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น

“เอไอเอ ยังคงเดินหน้าดูแลคนไทยในฐานะผู้นำธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพด้วยผลิตภัณฑ์และการบริการที่มีนวัตกรรมและตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง เพื่อสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งให้แก่คนไทยทุกคน” นายนิคฮิล กล่าวทิ้งท้าย

 

ที่มา:

(1) ข้อมูลจากสมาคมประกันชีวิตไทย ณ เดือนธันวาคม 2566

(2) เบี้ยประกันภัยรับรายใหม่: เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (FYP) + 10% เบี้ยประกันภัยรับชำระครั้งเดียว (SP)

(3) ความคุ้มครองเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมธรรม์

 


Tags : เอไอเอ ประเทศไทย เอไอเอ AIA นิคฮิล แอดวานี เอไอเอ ประกาศความสำเร็จปี 2566 ประกันชีวิตอันดับ 1 อุตสาหกรรมประกันชีวิต แผนงานเอไอเอในปี 2567


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

กรุงเทพฯ, 17 พฤศจิกายน 2568 – เอไอเอ ประเทศไทย เปิดตัว “AIA Vitality รูปแบบใหม่ เพื่อทุกก้าวของสุขภาพ” และร่วมฉลองในโอกาสครบรอบ 10 ปี AIA Vitality ในประเทศไทย ที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์ใหม่ในรูปแบบ ‘ไวทัลลิตี้ โบนัส’ ให้โบนัสเงินคืนตามสถานะไวทัลลิตี้ สูงสุดถึง 20% ของเบี้ยประกันภัยมาตรฐานในแต่ละปีกรมธรรม์[1] เริ่มตั้งแต่ปีกรมธรรม์แรกโดยไม่ต้องรอสะสมคะแนน อีกทั้งยังมากับแรงจูงใจที่อยากให้สมาชิกดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องด้วยของรางวัลประจำเดือน[2] (Monthly Reward) ที่ยกขบวนความฟินมาเสิร์ฟให้สมาชิกแบบจุก ๆ ทุกเดือน ทั้งบัตรชมภาพยนตร์ สตรีมมิ่งออนไลน์ บริการนวด กาแฟ สมูทตี้ผักผลไม้ และอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งสมาชิกสามารถเลือกรับของรางวัลได้ทุกเดือน รวมถึงสิทธิประโยชน์จากพาร์ทเนอร์ชั้นนำต่าง ๆ อีกมากมาย ตอกย้ำถึงพันธกิจที่เอไอเอมุ่งสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’   นอกจากนี้ ยังได้ “หมาก ปริญ สุภารัตน์” AIA Vitality Ambassador มาร่วมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ที่มากับรูปแบบใหม่ของ AIA Vitality ให้สมาชิกได้สนุกมากขึ้นกับการดูแลสุขภาพเพื่อรับไวทัลลิตี้ โบนัส และของรางวัลทุกเดือน ยิ่งสะสมคะแนนได้สูง ยิ่งเลือกของรางวัลได้มาก พร้อมชวนคนไทยมาเปลี่ยนสถานะ (AIA Vitality Status) ไปด้วยกัน เพื่อสุขภาพที่ดีในแบบที่คุณชอบทำ   นายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลากว่าทศวรรษนับตั้งแต่เราเปิดตัว AIA Vitality ในประเทศไทย พันธกิจของเรายังคงชัดเจนเสมอมา นั่นคือเราต้องการส่งมอบโครงการสุขภาพที่มีพื้นฐานจากวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยได้สนุกกับการดูแลสุขภาพ โดยมีเอไอเอคอยอยู่เคียงข้างและสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนไปถึงเป้าหมายในการมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น จนทำให้ปัจจุบัน AIA Vitality เป็นโครงการสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีสมาชิกมากกว่า 900,000 คนทั่วประเทศ[3] ความสำเร็จของ AIA Vitality ไม่ได้เกิดจากเป้าหมายที่ชัดเจนเพียงอย่างเดียว แต่ยังมาจากความร่วมมือที่ดีจากพันธมิตรของเรา ซึ่งช่วยกันสร้างระบบนิเวศด้านสุขภาพที่ครอบคลุมที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ และจากที่เรามีสมาชิกเป็นจำนวนมาก เราจึงเข้าใจดีถึงความหลากหลาย ซึ่งสมาชิกแต่ละคนมีความสนใจด้านสุขภาพและแนวทางในการดูแลตัวเองแตกต่างกัน ฉะนั้นแรงจูงใจที่เราจะชวนให้เขาเริ่มต้นดูแลสุขภาพและสร้างนิสัยสุขภาพดีจึงต้องหลากหลายด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของ AIA Vitality รูปแบบใหม่ ที่เราได้ปรับสิทธิประโยชน์ให้เหมาะและสอดคล้องกับเป้าหมายด้านสุขภาพของแต่ละคน อีกทั้งยังสอดรับกับแนวคิด ‘Rethink Healthy’ ที่เอไอเอมุ่งส่งเสริมให้ผู้คนเริ่มต้นจากการปรับพฤติกรรมเล็ก ๆ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต เรามั่นใจว่า AIA Vitality รูปแบบใหม่นี้จะสามารถเข้าถึงทุกคน และกลายเป็นพาร์ทเนอร์ด้านสุขภาพที่จะช่วยสนับสนุนในสมาชิกทุกคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน”     นางสาวชลิดา นครชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เอไอเอ ประเทศไทย เผยว่า “AIA Vitality นับเป็น Game Changer ในตลาดประกันสุขภาพของประเทศไทย นับตั้งแต่เอไอเอเปิดตัว AIA Vitality เมื่อปี 2559 เราถือเป็นประกันชีวิตเจ้าแรกที่ให้ส่วนลดเบี้ยประกันจากการดูแลสุขภาพ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อมุ่งเน้นการป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ผ่านการสนับสนุนให้คนไทยเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพแบบยั่งยืน และจนถึงวันนี้เราได้พัฒนาโปรแกรมมาเรื่อย ๆ ทั้งในส่วนของแพลตฟอร์ม รวมถึงสิทธิประโยชน์และของรางวัล เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของสมาชิกให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ที่เราได้มาเป็นที่พอใจอยากยิ่ง จากดัชนีชี้วัดค่าสุขภาพที่ดีขึ้นของสมาชิกไวทัลลิตี้[4] ตัวอย่างเช่น สมาชิกที่มีการดูแลสุขภาพในโครงการ 2 ปีขึ้นไปมีดัชนี BMI (Body Mass Index) ดีขึ้น 22% ความดัน ดีขึ้น 49% คอเรสเตอรอล ลดลง 28% และระดับน้ำตาล ลดลงถึง 65% นอกจากนี้ สถิติที่น่าทึ่งของสมาชิกไวทัลลิตี้ที่เราพบคือ สมาชิกของเราตรวจสุขภาพและรับวัคซีนรวมแล้วกว่า 1 ล้านครั้ง ใช้เวลาในการออกกำลังกายแล้วกว่า 17.5 ล้านชั่วโมง เดินรวมกันแล้วกว่า 122 พันล้านก้าว ซึ่งเท่ากับประมาณ 98 ล้านกิโลเมตรเทียบเท่ากับการเดินรอบโลกมากกว่า 2,400 รอบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโปรแกรม AIA Vitality ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงในด้านสุขภาพให้แก่ผู้คนเป็นจำนวนมากได้อย่างแท้จริง “และในปีนี้เป็นโอกาสพิเศษครบรอบ 10 ปีของ AIA Vitality เราจึงมีการปรับรูปแบบสิทธิประโยชน์ของลูกค้าให้ง่าย เร็ว และมากขึ้น โดยลูกค้าที่สุขภาพดีจะมีเงินคืนตั้งแต่ปีแรกในรูปแบบ ‘ไวทัลลิตี้ โบนัส’ สูงสุด 20% สำหรับแบบประกันโรคร้ายแรง และสูงสุด 15% สำหรับแบบประกันสุขภาพ นอกจากนี้ยังสร้างจูงใจให้ลูกค้าดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องด้วย ‘ของรางวัลรายเดือน’ ที่สามารถกดรับได้เองทุกเดือนผ่านแอป AIA+ ยิ่งมีคะแนนสูง ยิ่งเลือกของรางวัลได้มาก ซึ่งเราจัดของรางวัลจากพันธมิตรชั้นนำมาให้อย่างหลากหลาย  เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกในแบบที่ใช่สำหรับตัวเอง “สำหรับเอไอเอ ในฐานะผู้นำตลาดประกันชีวิต สุขภาพ และโรคร้ายแรง เรามั่นใจว่า AIA Vitality รูปแบบใหม่นี้ นับเป็นครั้งแรกอีกครั้งสำหรับตลาดประกันสุขภาพของไทยที่ลูกค้าได้รับโบนัสเงินคืนจากการมีสุขภาพดี ตอกย้ำถึงเป้าหมายของเอไอเอ ในการมุ่งสนับสนุนให้ผู้คนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมผ่านโครงการสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย”   ด้านการประชาสัมพันธ์ไปสู่ลูกค้าทั่วประเทศ เอไอเอ ได้ส่งภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ที่ยังคงได้ “หมาก ปริญ สุภารัตน์” AIA Vitality Ambassador กลับมาอีกครั้งในเวอร์ชันอัพเกรด โดย นางสาวรพีพร วงศ์ทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์ เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “โฆษณาชุดนี้เราต้องการสื่อสารให้โดนใจลูกค้ามากที่สุด ให้เห็นเลยว่าวันนี้ AIA Vitality รูปแบบใหม่ มีอะไรที่ใหม่ และมากกว่าเดิมบ้าง ลูกค้าดูแล้วจะเข้าใจได้เลยว่าได้อะไรที่มากขึ้นและเป็นสิ่งที่จับต้องได้กับสิทธิประโยชน์ที่เราเตรียมไว้ให้แบบเยอะมาก ๆ ทั้งไวทัลลิตี้ โบนัส และของรางวัลรายเดือนที่เพิ่มเข้ามาใหม่ให้ลูกค้าเลือกรับของรางวัลได้ทุกเดือนตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง และแน่นอนว่าเห็นโฆษณา AIA Vitality ต้องเห็นคุณหมาก ปริญ ซึ่งทุกวันนี้คุณหมากเป็นมากกว่า Brand Ambassador แต่เป็น AIA Vitality Partner เพราะเป็นลูกค้าตัวจริงและอยู่กับเรามานานกว่า 8 ปีแล้ว ดังนั้นไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าคุณหมากที่จะถ่ายทอดเรื่องราวให้ทุกคนสนุกไปกับ AIA Vitality รูปแบบใหม่ เพื่อทุกก้าวของสุขภาพในแบบที่คุณชอบทำ เช่น บางคนชอบออกไปวิ่งในสวนสาธารณะ บางคนชอบทำอาหารสุขภาพทานเอง บางคนชอบแค่คาร์ดิโออยู่ที่บ้าน หรือแม้แต่ชอบนอนหลับพักผ่อน ทุกกิจกรรมล้วนดีต่อสุขภาพทั้งกายและใจ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มคะแนนไวทัลลิตี้ ให้ทุกคนได้เลื่อนสถานะเพื่อได้รับสิทธิประโยชน์ที่มากขึ้นอีกด้วย “สำหรับโฆษณาชุดใหม่นี้ ทุกคนจะได้เห็นทั้งในโทรทัศน์ บนสื่อออนไลน์ และสื่อ Out of Home ทั่วประเทศ อีกทั้งเรายังเน้นสื่อบนรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน เนื่องจากเราอยากให้ AIA Vitality ได้อยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคน ตื่นเช้ามาเดินทางไปทำงาน ไปทำธุระต่าง ๆ ก็จะได้เห็นคุณหมาก ปริญ ไปกับคุณด้วยทุกวัน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนเริ่มต้นดูแลสุขภาพ โดยเริ่มวันละนิด ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตวันละหน่อย เชื่อได้ว่าทุกคนจะสามารถสร้างผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่ดีขึ้นแบบยั่งยืนได้อย่างแน่นอน”   ติดตามรับชมภาพยนตร์โฆษณา “AIA Vitality รูปแบบใหม่ เพื่อทุกก้าวของสุขภาพ” ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ผ่านช่องทางออนไลน์ของเอไอเอ ประเทศไทย ทั้ง Facebook, Instagram, YouTube, TikTok และสื่อประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ หรือคลิกลิงก์ https://youtu.be/eayDsmdecIA สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ AIA Vitality รูปแบบใหม่ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.aia.co.th/th/health-wellness/vitality   หมายเหตุ:  [1] สิทธิประโยชน์กรมธรรม์และเงื่อนไขขึ้นอยู่กับแบบประกันที่เข้าร่วมโครงการ AIA Vitality หากไม่มีการเคลม [2]บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข และมูลค่าของรางวัลต่อรอบกิจกรรม ทั้งนี้บริษัทจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 วันผ่านทางแอปพลิเคชัน AIA+ หรือช่องทางสื่อสารของบริษัท [3] ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 [4] ข้อมูลจากการตรวจสุขภาพของสมาชิก AIA Vitality ที่อยู่ในโปรแกรมมาแล้วอย่างน้อย 2 ปี แต่ไม่เกิน 5 ปี ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2568  

18 Nov 2025

...

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ชวนรับชมรายการ "Once Upon BAAC Time" รายการท่องเที่ยวเชิงเกษตร (Agro Tourism) ที่จะลงพื้นที่บุกชุมชนของลูกค้า ธ.ก.ส. ด้วยการนำเสนอในรูปแบบวิดีโอ VLOG จำนวน 3 ตอน ที่สะท้อนถึงการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ภายใต้แนวคิด ‘เรียนรู้ สนุก ลงมือทำจริง’ ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ในการเข้าถึงการทำเกษตรยุคใหม่ พร้อมผลักดันสินค้าเกษตรไปสู่การรับรู้ในวงกว้าง เพื่อตอกย้ำบทบาทและหน้าที่ในการพัฒนาภาคเกษตรของ ธ.ก.ส. เจาะกลุ่มผู้ชมยุคใหม่เรียนรู้การลงพื้นที่จริง   โดยมีนายไพศาล หงษ์ทอง รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. พร้อมด้วยวง PROXIE ได้แก่ กร วรรณไพโรจน์ , โชกุน - ปวริศร์ ศรีชัยชนะ, อองรี - ออสการ์ เอ็ดเวิร์ด วัตราเศรษฐ์, กัน - รัชชานนท์ เรือนเพ็ชร์, วิคเตอร์ - วรเมธ อนุประพันธ์ และคิม - ปัณณธร จิรศาสตร์ ในโอกาสนี้ ขอเชิญมาร่วมสัมผัสเสน่ห์เฉพาะตัวของทั้ง 3 ชุมชน ประกอบด้วย     ตอนที่ 1 Lemon Me Farm จ.นครปฐม ฟาร์มเลมอนและคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสประสบการณ์การปลูกเลมอนที่เต็มไปด้วยคุณภาพ สะอาดและปลอดภัย   ตอนที่ 2 Air Orchid Farm จ.นครปฐม สวนกล้วยไม้ครบวงจร พื้นที่กว่า 200 ไร่ ผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาสายพันธุ์ กล้วยไม้ในห้องแล็บภายใต้โรงเรือนและการเพาะเลี้ยงที่ได้คุณภาพ และมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practices)   และตอนที่ 3 ไร่สุขพ่วง จ.ราชบุรี แหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรอินทรีย์แบบครบวงจรที่มีวิธีการจัดการแปลงแบบฮูกูลคัลเจอร์ (Hugelkultur) หรือการปลูกพืชบนพื้นดิน และยังมีการต่อยอดการจำหน่ายผลผลิตผ่านการจัดตลาดสุขพ่วง พ่วงสุข   โดยสามารถติดตามรายการ "Once Upon BAAC Time" ได้ทาง YouTube : BAAC Thailand https://www.youtube.com/watch?v=OBViI6FXteY&list=PL7gIwMaiyiX7fsS4XaslxV8p11DR6nniu และ ติดตามข่าวสารผลิตภัณฑ์และบริการอื่น ๆ จาก ธ.ก.ส. ได้ที่ Facebook : ธกส BAAC Thailand LINE : @baacfamily Instagram : @baacthailand X : @baacthailand และ TikTok : @baacthailand

15 Nov 2025

...

นางสาววชิรา การสุทธิ์ รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มการตลาดเพื่อความยั่งยืน เป็นประธานเปิดกิจกรรม School Trip ในโครงการธนาคารโรงเรียน ธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ธนาคารจัดขึ้นเพื่อมอบเป็นสิทธิพิเศษสำหรับสถานศึกษาที่มีผลการดำเนินงานส่งเสริมการออมดีเด่น สามารถจูงใจให้นักเรียนนักศึกษามีปริมาณการออมเติบโตต่อเนื่อง โดยในปี 2568 นี้ ธนาคารจัดเส้นทางทัศนศึกษาโดยรถไฟขบวนพิเศษจากกรุงเทพฯ สู่แหล่งท่องเที่ยว อำเภอหัวหิน เพื่อให้นักเรียนและอาจารย์ของสถานศึกษาได้ร่วมกิจกรรมสันทนาการ เสริมทักษะทางสังคม และการทำงานเป็นทีม ผ่านฐานกิจกรรมสุดสนุกและสร้างสรรค์   พร้อมทั้งเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ทางการเงิน GSB Learning Center ที่ธนาคารออมสินริเริ่มจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจด้านการเงินและการออมแก่เยาวชน โดยมี "โค้ชการเงินมืออาชีพ" (Certified Money Coach by GSB หรือ CMC by GSB) จากธนาคารออมสิน มาร่วมถ่ายทอดความรู้และสร้างสีสันการเรียนรู้ด้านการเงินและการออมตลอดทริป ณ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทั้งนี้ ธนาคารออมสินมุ่งสานต่อภารกิจส่งเสริมการออมด้วยการสร้างเยาวชนนักออมอย่างต่อเนื่อง เพื่อปลูกฝังวินัยการเงินตั้งแต่วัยเรียนและสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนเป็นต้นแบบสู่สังคมแห่งการออมในอนาคต   สถานศึกษาใดสนใจเข้าร่วมโครงการธนาคารโรงเรียน ธนาคารออมสิน สามารถสมัครได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายส่งเสริมการออมและ CSR ธนาคารออมสิน โทร. 0 2299 8000 ต่อ 810712-3    

09 Nov 2025

...

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ขอเชิญร่วมงาน YWCA Diplomatic Charity Bazaar ครั้งที่ 70 งานชอปสินค้านานาชาติเพื่อการกุศลที่รวมกว่า 200 ร้านค้า และกว่า 40 สถานทูตจากทั่วโลก พบกับบูทกรุงเทพประกันภัย (บูท D46) ที่นำเสนอหลากหลายแผนประกันภัยให้เลือกตามความต้องการ พร้อมรับโปรโมชันสุดพิเศษ ได้ที่ CentralWorld Pulse ชั้น 7 ในวันที่ 6 – 9 พฤศจิกายน 2568   นอกจากนี้ บริษัทฯ ขอเชิญร่วมงานไทยเที่ยวนอก ครั้งที่ 5 งานท่องเที่ยวสุดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี พบกับโปรโมชัน “3 ต่อสุดคุ้ม” สำหรับนักเดินทางที่รักการท่องเที่ยว - ลดสูงสุด 18% สำหรับประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ - รับฟรี Starbucks Card มูลค่า 100 บาท เมื่อซื้อประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ ครบทุก 500 บาท (สูงสุด 800 บาท) - พร้อมของสมนาคุณเพิ่มเติมภายในงาน พิเศษสำหรับผู้รักการดำน้ำ บริษัทฯ นำเสนอแผนประกันภัยนักดำน้ำ — ประกันภัยเพื่อการท่องเที่ยวภายในประเทศที่ออกแบบสำหรับนักดำน้ำโดยเฉพาะ ซึ่งกรุงเทพประกันภัยเป็นรายแรกในประเทศไทยที่เสนอผลิตภัณฑ์นี้ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยใต้ท้องทะเล โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาด้านประกันภัยอย่างใกล้ชิด พบกับกรุงเทพประกันภัยได้ที่บูท M44 – M45 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์ 5 – 6 ชั้น LG ในวันที่ 6 – 9 พฤศจิกายน 2568  

08 Nov 2025

Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner