Responsive image

Saturday, 26 Apr 2025

หน้าแรก > INSURANCE/ประกันภัย-ประกันชีวิต


เอไอเอ ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จปี 2566 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์รักษาอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมประกันชีวิตและสุขภาพของไทย

Sun 07/04/2567


กรุงเทพฯ 5 เมษายน 2567 - เอไอเอ ประเทศไทย ผู้นำด้านธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ จัดงาน “A Conversation with CEO” โดยนายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2566 ด้วยส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) ที่สูงเป็นอันดับ 1 ในทุกมาตรวัด(1)และมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ที่เติบโตขึ้นถึงร้อยละ 21 ทำลายสถิติผลการดำเนินงานที่ผ่านมากว่า 8 ทศวรรษ ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นคงและความแข็งแกร่งของเอไอเอ ประเทศไทย นอกจากนี้ นายนิคฮิลยังได้บอกเล่าทิศทางและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของเอไอเอ ประเทศไทย ในปี 2567 เพื่อเป้าหมายในการยกระดับการดูแลคนไทยให้ครอบคลุมครบทุกมิติ ทั้งมิติด้านสุขภาพกาย สุขภาพใจ รวมถึงสุขภาพการเงิน สอดคล้องกับคำมั่นสัญญาของเอไอเอที่มุ่งสนับสนุนให้ทุกคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ‘Healthier, Longer, Better Lives’

นายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “เอไอเอ ประเทศไทย เติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีที่ผ่านมา โดยสามารถสร้างสถิติใหม่ด้วยการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 21 เป็น 24,857 ล้านบาท จากความสามารถของพลังตัวแทนและช่องทางพันธมิตร นอกจากนี้ เรายังเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมประกันชีวิตและสุขภาพ ด้วยส่วนแบ่งการตลาด (Market Share)(1) ที่สูงที่สุดในทุกมิติ ได้แก่

  • ร้อยละ 24 เบี้ยประกันภัยรับรายใหม่(2)(ANP)
  • ร้อยละ 50 ยอดขายสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ
  • ร้อยละ 57 ยอดขายสัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง
  • ร้อยละ 59 ยอดขายประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิต ลิงค์)
  • ร้อยละ 22 ยอดขายประกันกลุ่ม

“ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้เอไอเอ ประเทศไทย เติบโตอย่างโดดเด่นในปี 2566 มาจากการที่เรามีบุคลากรที่มีคุณภาพซึ่งทำให้เอไอเอแตกต่างจากคู่แข่ง ตลอดจนรูปแบบการทำงานที่เน้น Agility เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ช่องทางการขายที่แข็งแกร่งทั้งช่องทางพลังตัวแทนและช่องทางพันธมิตร โดยเอไอเอเป็นอันดับ 1 ในตลาด(1) ทั้งในแง่จำนวนตัวแทนที่มีมากกว่า 50,000 คนทั่วประเทศ รวมถึงจำนวนตัวแทนที่ได้รับคุณวุฒิ MDRT มากที่สุดนับตั้งแต่เอไอเอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพของพลังตัวแทนเอไอเอ และความสำเร็จของการสร้าง AIA Financial Advisor (AIA FA) ที่เพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 28 สำหรับช่องทางพันธมิตร เอไอเอ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน ในการสร้างสรรค์และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น นอกเหนือจากนั้น เอไอเอ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนากระบวนการดำเนินงานเพื่อส่งมอบการบริการที่ยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้า ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในขั้นตอนการพิจารณากรมธรรม์แบบอัตโนมัติ (STP) ในอัตราที่สูงถึงร้อยละ 87 เพิ่มศักยภาพในการอนุมัติกรมธรรม์ประกันชีวิตรายเดี่ยวได้มากถึง 1,500 กรมธรรม์ต่อวัน และพิจารณาเคลมได้สูงสุดถึง 9,000 เคสต่อวัน การลงทุนอย่างจริงจังในการพัฒนาบริการดิจิทัลและแอปพลิเคชันเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าและตัวแทนผ่านแอป AIA+ และ AIA ONE เป็นอีกปัจจัยหลักที่ทำให้เราก้าวทันยุคดิจิทัลและสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมแบบไร้รอยต่อได้อย่างต่อเนื่อง สุดท้ายคือการดำเนินธุรกิจอย่างมีวินัยเพื่อมุ่งนำเสนอความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพระยะยาวที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รวมทั้งสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

กลยุทธ์ ABCDEF เป็นกลยุทธ์ที่เอไอเอมุ่งเน้นเพื่อยกระดับการดูแลและการบริการลูกค้า พร้อมกับการรักษาอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมประกันชีวิตและสุขภาพ ซึ่งประกอบด้วย

  • A – Agency Transformation การพัฒนาช่องทางตัวแทนประกันชีวิตให้ทันสมัย ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลผลักดันการทำงานและการให้บริการลูกค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า พร้อมยกระดับการสรรหาตัวแทนที่มีคุณภาพ และมุ่งพัฒนาตัวแทนใหม่อย่างต่อเนื่อง
  • B – Business Partner Acceleration การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของช่องทางพันธมิตร โดยเอไอเอมุ่งเสริมความแกร่งของช่องทางขายผ่านพันธมิตรที่มีอยู่เดิม พร้อมขยายความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ ๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า
  • C – Customer Centricity การมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และมุ่งเปลี่ยนบทบาทจากเป็นเพียงผู้จ่ายเคลม (Payor) เป็นพาร์ตเนอร์ (Partner) ที่พร้อมดูแลลูกค้าในทุก ๆ วัน
  • DDigitalisation Journey การวางเส้นทางไปสู่ยุคดิจิทัลเพื่อตอกย้ำการเป็น Digital Insurer แห่งแรกของประเทศไทย โดยมุ่งพัฒนานวัตกรรมด้านดิจิทัลเพื่อเสริมการบริการให้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นผ่าน All-in-one Application สำหรับลูกค้าและตัวแทน
  • E – Employee Wellbeing ความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน โดยเอไอเอให้ความสำคัญกับการสร้างความเท่าเทียมในที่ทำงาน และเปิดโอกาสให้พนักงานได้เสนอความคิดเห็น เพื่อนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน
  • F – Future Healthcare การดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพและยั่งยืนเพื่อคนไทย ด้วยการนำเสนอโซลูชันด้านการดูแลและรักษาสุขภาพที่ตอบโจทย์ลูกค้า พร้อมส่งเสริมให้คนไทยทุกคนมีโอกาสเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีมาตรฐาน ตลอดจนได้รับความคุ้มครองด้านสุขภาพที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับแต่ละบุคคล

“เอไอเอ มุ่งมั่นเดินตามพันธกิจที่ต้องการสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งจากการที่ปัจจุบันเรามองเห็นแนวโน้มที่คนจะมีอายุขัยยืนยาวขึ้นเรื่อย ๆ และมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ถึงอายุ 100 ปี เนื่องด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวล้ำ แต่ในขณะที่อายุสุขภาพกลับไม่ยืนยาวสอดคล้องไปตามอายุขัย ฉะนั้นในช่วงบั้นปลายชีวิตของหลาย ๆ คนอาจตกอยู่ในภาวะที่เงินเก็บไม่เพียงพอสำหรับใช้ในการรักษาตัวเองหากเจ็บป่วย ด้วยเหตุนี้ เอไอเอจึงได้พัฒนาโซลูชันด้านสุขภาพให้สามารถดูแลคนไทยได้ครอบคลุมและคุ้มครองยาวนานขึ้นถึงอายุ 99 ปี(3) รวมทั้งได้ออกแคมเปญ Living to 100 ที่เราตั้งใจผลักดันให้คนไทยเตรียมวางแผนสุขภาพและการเงิน เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น

“เอไอเอ ยังคงเดินหน้าดูแลคนไทยในฐานะผู้นำธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพด้วยผลิตภัณฑ์และการบริการที่มีนวัตกรรมและตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง เพื่อสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งให้แก่คนไทยทุกคน” นายนิคฮิล กล่าวทิ้งท้าย

 

ที่มา:

(1) ข้อมูลจากสมาคมประกันชีวิตไทย ณ เดือนธันวาคม 2566

(2) เบี้ยประกันภัยรับรายใหม่: เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (FYP) + 10% เบี้ยประกันภัยรับชำระครั้งเดียว (SP)

(3) ความคุ้มครองเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมธรรม์

 


Tags : เอไอเอ ประเทศไทย เอไอเอ AIA นิคฮิล แอดวานี เอไอเอ ประกาศความสำเร็จปี 2566 ประกันชีวิตอันดับ 1 อุตสาหกรรมประกันชีวิต แผนงานเอไอเอในปี 2567


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  เดินหน้าสร้างโอกาสเพิ่มรายได้ขยายตลาดให้แก่ลูกค้าธนาคาร โดยเฉพาะกลุ่มลูกหนี้ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (Special Mention : SM) และผู้ประกอบการกลุ่มเปราะบางจากหน่วยงานพันธมิตร   รวมถึง ยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดจับจ่ายใช้สอย ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง  โดยจัดโครงการ  “SME D Market” เปิดพื้นที่บริเวณชั้น 1  สำนักงานใหญ่ SME D Bank อาคาร SME Bank Tower ให้ผู้ประกอบการมาออกบูธจำหน่ายสินค้าเป็นประจำทุก 2 เดือน ครั้งละ 2 วัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยครั้งนี้ กำหนดจัดในวันที่ 24-25 เมษายน 2568  นี้  เวลา 8.00-16.00 น.  ยกทัพผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกว่า 50 ราย   มาออกบูธพร้อมมอบโปรโมชันรับหน้าร้อนให้ช้อป ชิมอย่างจุใจ  ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องใช้ และเครื่องประดับ  เช่น “ดองบัง” แซลมอนดองซีอิ๊วเกาหลี  , ข้าวมันไก่  “โกป๊อก , โคขุน “จ้าวอาม” เจ้าดังบางขุนนนท์ , น้ำมะพร้าวปั่นนมสด “Coco Layer”  และ ยาสีฟัน “DentaMate” เป็นต้น  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357   

23 Apr 2025

...

  กรุงเทพประกันชีวิต เตรียมจัดงานสัมมนาครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในปี 2568 Bangkok Life Grand Open House นำโดย คุณจักรพงศ์ แสงแก้ว ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายงานตัวแทนและที่ปรึกษาการเงิน ที่จะเปิดบ้านต้อนรับผู้บริหารตัวแทน ตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน ตลอดจนผู้มุ่งหวังที่จะเข้าสู่อาชีพนักขายรุ่นใหม่เพื่อร่วมเส้นทางกับงานที่จะทำให้เปลี่ยนชีวิตสู่อิสรภาพทางการเงิน พิเศษ ช่วง Special Talk กับ ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน ผู้ดำเนินรายการชื่อดังของไทยจาก The Standard ในรายการ Morning Wealth และ 8 Minute ที่จะมาร่วมแชร์แนวคิดของ “งานที่ใช่ ใช้ชีวิตที่ชอบ: Live a Life Beyond Imagination” ในวันเสาร์ที่ 26 เมษายน 2568 ระหว่าง 9.30 – 12.00 น. ณ ห้องประชุม ชิน โสภณพนิช ชั้น 11 อาคารสำนักงานใหญ่ กรุงเทพประกันชีวิต (วงศ์สว่าง) พร้อมรับฟังความรู้อีกมากมายจากตัวแทนและที่ปรึกษาการเงินระดับท็อปของกรุงเทพประกันชีวิต ที่จะมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์บนเส้นทางแห่งความสำเร็จ พร้อมเปิดมุมมองใหม่กับอาชีพที่สามารถก้าวข้ามทุกข้อจำกัดสู่ชีวิตดี  ๆ แบบที่เคยฝันทั้งรายได้และอิสรภาพในการบริหารเวลา สามารถเติบโตก้าวหน้าได้ตามความสามารถ โดยผู้ร่วมงานคนใหม่ที่ยังไม่มีรหัสตัวแทน รับทันที เสื้อ T- Shirt “งานที่ใช่ ใช้ชีวิตที่ชอบ” พร้อมลุ้นของรางวัลมากมายในงาน สำหรับผู้บริหารที่ชวนผู้มุ่งหวังร่วมงาน รับทันทีกระเป๋าชอปปิง 1 ใบ

22 Apr 2025

...

  สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ประชุมร่วมกับเอกชนภาคอุตสาหกรรมประกันภัย ในรูปแบบออนไลน์ ผ่านระบบ Microsoft Teams Meeting เพื่อหารือแนวทางการเร่งตรวจสอบและออกหลักฐานรับผิดชอบให้แก่ประชาชนผู้ได้รับความเสียหาย โดย นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการ ด้านกฎหมายและตรวจสอบ สำนักงาน คปภ. ประธานที่ประชุม ได้ให้ความสำคัญของการให้บริการตรวจสอบความเสียหายและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเรียกร้องให้บริษัทประกันภัยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นพ้องกันว่าจะเร่งดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนโดยเร็วที่สุด ซึ่ง สำนักงาน คปภ. ขอให้ภาคเอกชนรายงานข้อมูลการพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ประชาชน ให้สำนักงาน คปภ. ทราบ เพื่อติดตาม ตรวจสอบความถูกต้อง สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการใช้ระบบประกันภัยบริหารความเสี่ยง และได้รับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัย ขณะนี้ สำนักงาน คปภ. โดยสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ ได้ปฏิบัติงานร่วมกับทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง โดยได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชนด้านการประกันภัย ณ ที่ทำการของสำนักงาน คปภ. ทั่วประเทศ พร้อมให้บริการสายด่วน คปภ. 1186 เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้ข้อมูล ให้คำปรึกษาเบื้องต้น หรือตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยจากผู้มีสิทธิขอรับข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ รองเลขาธิการ ด้านกฎหมายและตรวจสอบ ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า “การประชุมในครั้งนี้ เป็นไปตามภารกิจสำคัญของ สำนักงาน คปภ. ที่จะต้องให้ความคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านการประกันภัยอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การดูแลประชาชนในยามวิกฤตภัยพิบัติที่รุนแรง จำเป็นต้องมีการติดตามเร่งรัดให้มีการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเยียวยาความเสียหายแก่ประชาชนโดยเร็วที่สุด”  

21 Apr 2025

...

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (“TRIS Rating”) คงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH ที่ระดับ “AA” แนวโน้ม “Stable” และคงอันดับเครดิตองค์กรของบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP บริษัทแกนของกลุ่ม ที่ระดับ “AAA” แนวโน้ม “Stable” หลังประเมินผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว   TRIS Rating ชี้ผลกระทบทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นต่อ ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และ ทิพยประกันภัย จากการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่เกี่ยวข้องกับอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ ซึ่งทิพยประกันภัย ร่วมรับประกันภัยอยู่ในวงจำกัด และทิพยประกันภัย มีการประกันภัยต่อที่ครอบคลุม ทั้งการประกันภัยต่อความเสียหายส่วนเกินจากภัยพิบัติหรือมหันตภัย (Excess of Loss - XoL) การประกันภัยต่อแบบเฉพาะราย (Facultative Reinsurance) สำหรับโครงการขนาดใหญ่ ตลอดจนการประกันภัยต่อแบบสัดส่วน (Proportional Treaty) และแบบไม่เป็นสัดส่วน (Non-Proportional Treaty) ซึ่งจะช่วยจำกัดความคุ้มครองของทั้งอาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และอาคารที่สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยคู่สัญญาประกันภัยต่อ เป็นบริษัทประกันภัยต่อชั้นนำของโลก ที่มีอันดับเครดิตไม่ต่ำกว่า “A” ตามมาตรฐานการจัดอันดับสากล ทั้งนี้ ส่งผลให้ทิพยประกันภัย ยังคงมีความมั่นคงทางการเงิน และไม่มีผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ จากการประเมินดังกล่าว TRIS Rating จึงคงอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “AA” แนวโน้ม “Stable” ซึ่งเป็นอันดับเครดิตองค์กรสูงสุดในกลุ่มธุรกิจโฮลดิ้งส์ให้กับ ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และคงอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “AAA” แนวโน้ม “Stable” ซึ่งเป็นอันดับเครดิตองค์กรสูงสุดในกลุ่มธุรกิจประกันวินาศภัยให้กับทิพยประกันภัย ตอกย้ำความเชื่อมั่นในฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยมของกลุ่มบริษัท ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวย้ำอย่างมั่นใจว่า จากการประเมินของ TRIS Rating ในครั้งนี้ สะท้อนความสามารถในการบริหารจัดการความเสี่ยงของกลุ่มบริษัทได้เป็นอย่างดี และสะท้อนภาพความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่มบริษัทให้กับนักลงทุนได้เป็นที่ประจักษ์ เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของกลุ่มบริษัท เรายืนยันถึงความทุ่มเทของทุกฝ่ายในบริษัทที่ช่วยกันสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน  เราจะเดินหน้าสร้างการเติบโตทางธุรกิจควบคู่กับการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรัดกุมและรอบด้าน พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียในทุกภาคส่วน เพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนในระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้นต่อไป

13 Apr 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner