Responsive image

Tuesday, 15 Oct 2024

หน้าแรก > INSURANCE/ประกันภัย-ประกันชีวิต


กรุงเทพประกันชีวิต คว้ารางวัล “สุดยอดแบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภค” หรือ Most Admired Brand จากเวที Thailand Top Company Awards 2024

Mon 08/04/2567


นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (ตรงกลาง) 

นางสาวอรนาฎ นชะพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายกลยุทธ์การตลาดและบริหารจัดการลูกค้า (ขวา)


 

กรุงเทพประกันชีวิต รับมอบรางวัล Most Admired Brand Award 2024 หรือ “สุดยอดแบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภค” บนเวทีประกาศรางวัล Thailand Top Company Awards จัดโดยนิตยสาร BUSINESS+ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ภายใต้แนวคิด “The Future of AI-Enabled Enterprises” ตอกย้ำถึงความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินและสุขภาพให้กับผู้บริโภคคนไทย ต่อยอดแคมเปญ “ใส่ใจ”  ที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์ใหม่ๆ ด้วยจุดยืนที่มุ่งมั่นจะเป็น The Most Caring Insurance Brand แบรนด์ที่ดูแลใส่ใจลูกค้ามากกว่าแค่การประกันชีวิต

 

นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงรางวัล Most Admired Brand Award 2024 หรือ “สุดยอดแบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภค” ว่า กรุงเทพประกันชีวิตมีความภูมิใจกับรางวัลดังกล่าวซึ่งสะท้อนถึงการมีผลการดำเนินงานอันยอดเยี่ยมและมีความเป็นเลิศ ตอกย้ำถึงความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างความมั่นคงทางการเงินและสุขภาพให้กับผู้บริโภคคนไทยมาตลอด 73 ปี และจากปี 2565 ที่กรุงเทพประกันชีวิตเปิดตัวแคมเปญ “ใส่ใจ” เราเดินหน้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยกลยุทธ์จากนี้ไป เราจะมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการเป็นแบรนด์ที่ ใส่ใจและให้การดูแลลูกค้ามากกว่าการประกันชีวิต หรือ  “The Most Caring Insurance Brand” ซึ่งจะสร้างความแตกต่างและส่งมอบประสบการณ์เกินกว่าลูกค้าคาดหวังใน 3 เรื่อง คือ

1. การรับฟังลูกค้ามากขึ้น ที่ผ่านมา บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการทำการวิจัยกับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ การเริ่มต้นจากความเข้าใจลูกค้า ทำให้เราแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด เรามีการทำ Net Promotor Scores (NPS) ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าทำการประเมินความพึงพอใจในทุกจุดของการบริการ โดยในปีที่ผ่านมาบริการ Fax Claim หรือ การจ่ายเคลมตามความรับผิดชอบในสัญญาก่อนลูกค้าออกจากโรงพยาบาล เราได้คะแนนสูงถึง  71%  ซึ่งถือเป็นความสำเร็จและความภาคภูมิใจ และเรายังจะให้ความสำคัญกับ Net Promoter Scores (NPS) อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสียงสะท้อนจากลูกค้ามาปรับปรุง ทั้งเรื่องบริการผ่านระบบดิจิทัล รวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์

2. การเพิ่มสิทธิประโยชน์ 5 ด้าน โดยแบ่งเป็นเป็นสิทธิประโยชน์ Blue และ Indigo ตามสถานะลูกค้า ที่ครอบคลุม เรื่องสุขภาพ การเดินทางท่องเที่ยว โอกาสพิเศษของลูกค้าและครอบครัว ความบันเทิงและความรู้ในการดูแลสุขภาพกายใจ รวมถึง การสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้า เราเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถสร้างประสบการณ์ที่เกินความคาดหวังของลูกค้าจากสิทธิประโยชน์ทั้ง 5 ด้านนี้

“เรื่องที่ 3 เป็นจุดเด่นของเราในเรื่องการบริการเสริมด้านสุขภาพ ซึ่งเรียกว่า BLA EveryCare ที่มอบการดูแลสุขภาพลูกค้าแบบครบวงจร ตั้งแต่ก่อนเจ็บป่วย ด้วยบริการ Health Partner ซึ่งเรามีศูนย์บริการทางการแพทย์ให้ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามวิธีการดูแลสุขภาพ หรือขณะเจ็บป่วย หรือเหตุฉุกเฉิน ด้วยบริการ BLA Medevac Hotline สายด่วนที่พร้อมบริการรถพยาบาลจากเครือโรงพยาบาล BDMS ทั่วประเทศ รวมทั้งบริการ Pre-Authorization หรือการอนุมัติค่ารักษาพยาบาล ที่ลูกค้าสามารถวางแผนล่วงหน้าได้ ตลอดจนมีบริการ Driving Home นำส่งผู้ป่วยกลับบ้าน พร้อมดูแลติดตามอาการจากทีมแพทย์เพื่อฟื้นฟู หรือกายภาพบำบัดอีก ผ่านบริการ Home Health Care อีกด้วย” นายโชนกล่าว

ด้านนางสาวอรนาฎ นชะพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายกลยุทธ์การตลาดและบริหารจัดการลูกค้า เปิดเผยว่า ในปีนี้กรุงเทพประกันชีวิตได้รับรางวัล Most Admired Brand เป็นครั้งแรก จากที่เคยรับรางวัลจากเวทีนี้ 4 ปี ติดต่อกันในประเภทรางวัล Most Trusted Brand Award และ Most Admired Company Award  ซึ่งทั้งหมดล้วนนำมาซึ่งความภูมิใจของคนในองค์กร  และเป็นเครื่องยืนยันถึงมาตรฐานของคุณภาพสินค้าหรือการบริการที่ดี ภายใต้เจตนารมย์แบรนด์กรุงเทพประกันชีวิต คือ เข้าใจ ในความต้องการที่แตกต่างจึงพัฒนาแบบประกันที่หลากหลายเพื่อตอบสนองเป้าหมายทั้งการเงินและสุขภาพของคนทุกเจน จริงใจ ในการสื่อสารที่ชัดเจนและตรงใจลูกค้าและผู้บริโภค และ ใส่ใ กับคุณภาพการบริการทุกช่องทางทั้งก่อนหรือหลังการขาย 

“เราขอขอบคุณผู้จัดงานที่มองเห็นสิ่งที่เรามุ่งมั่นตั้งใจทำซึ่งทำให้เรามีกำลังใจในการสานต่อสิ่งดี ๆ ต่อไป และ ในปีนี้ เรายังคงสื่อสารแบรนด์ด้วยแคมเปญ “ใส่ใจ” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและให้ผู้บริโภคมองเห็นจุดแข็งที่แตกต่างของกรุงเทพประกันชีวิต ซึ่งความ “ใส่ใจ” เป็นเสียงสะท้อนที่เราได้รับมาจากลูกค้าถึงการได้รับประสบการณ์ที่ดีผ่านผลิตภัณฑ์ บริการต่างๆ รวมทั้งบริการเสริม BLA EveryCare ที่มอบการดูแลมากกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง นอกจากนี้ ลูกค้ายังมองเห็นถึงความจริงใจและใส่ใจของตัวแทนกรุงเทพประกันชีวิตโดยเฉพาะในช่วงที่ประสบปัญหาและได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที  และที่พิเศษสำหรับปีนี้ เรายังเพิ่มความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านสิทธิประโยชน์ต่างๆให้ลูกค้าได้เลือกสรรตามไลฟ์สไตล์เพื่อสร้างความสุขและอุ่นใจ ตอกย้ำจุดยืนของกรุงเทพประกันชีวิตที่มุ่งมั่นจะเป็น The Most Caring Insurance Brand หรือแบรนด์ที่ดูแลใส่ใจลูกค้ามากกว่าแค่การประกันชีวิต” นางสาวอรนาฎกล่าวในที่สุด

 


Tags : กรุงเทพประกันชีวิต โชน โสภณพนิช รับมอบรางวัล อรนาฎ นชะพงษ์ รับรางวัลสุดยอดแบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภค รับรางวัล


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

  บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดตัวแคมเปญสุดพิเศษ "Saving Fest เทศกาลสุดเซฟ...แห่งปี" เพื่อมอบส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 30% แก่ลูกค้าใหม่ที่ซื้อประกันออนไลน์ แคมเปญนี้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ประกันภัยหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยสุขภาพ ประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย ประกันภัยสัตว์เลี้ยง และประกันภัยอื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ง่าย ๆ เพียงกรอกโค้ด SAVE24 ก่อนการชำระเงินที่เว็บไซต์ www.tipinsure.com หรือคลิกที่ลิงก์ https://bit.ly/_SAVE24 เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมและซื้อประกันภัยออนไลน์  ได้ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน - 15 พฤศจิกายน 2567   #ทิพยประกันภัย #Dhipaya #Savingfest24  

08 Oct 2024

...

ตามที่ นางสาวเเพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายสั่งการให้หน่วยงานของรัฐ เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย ตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ณ วันที่ 26 กันยายน 2567 โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบหมายให้ธนาคารออมสินดำเนินการ ธนาคารจึงออก มาตรการช่วยเหลือโดยการพักหนี้อัตโนมัติ – พักจ่ายเงินต้นและไม่คิดดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 3 เดือน ช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2567 ซึ่งจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและแบ่งเบาภาระของลูกหนี้ธนาคารออมสินในพื้นที่ประสบภัยตามประกาศฯ จำนวนกว่า 110,000 บัญชี คิดเป็นเงินต้นรวมกว่า 43,000 ล้านบาท มาตรการพักหนี้อัตโนมัติ - พักจ่ายเงินต้นและไม่คิดดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อพักชำระหนี้ให้กับสินเชื่อ SMEs ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10 ล้านบาท และสินเชื่อรายย่อยทุกประเภทซึ่งรวมถึงสินเชื่อพัฒนากลุ่มอาชีพ และสินเชื่อสวัสดิการ (ยกเว้นสินเชื่อชีวิตสุขสันต์ และ สินเชื่อตามนโยบายรัฐ หรือ Public Service Account - PSA) โดยลูกหนี้ที่ได้รับสิทธิ์ให้เข้ามาตรการฯ ต้องมีภูมิลำเนา ที่อยู่ หรือที่ประกอบอาชีพ ในพื้นที่ประสบภัยตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ณ วันที่ 26 กันยายน 2567 ทั้งนี้ ธนาคารจะส่ง SMS หรือจดหมายแจ้งการพักชำระหนี้อัตโนมัติให้ลูกหนี้ทราบ ซึ่งจะมีผลในงวดเดือนตุลาคม - งวดเดือนธันวาคม 2567 หลังจากนั้นลูกหนี้จะต้องกลับมาชำระหนี้ตามปกติตั้งแต่งวดเดือนมกราคม 2568 เป็นต้นไป กรณีไม่ต้องการพักหนี้อัตโนมัติ สามารถชำระหนี้ได้เช่นเดิม โดยผู้เป็นลูกหนี้ปกติที่ชำระหนี้ในช่วงเวลา 3 เดือนของมาตรการฯ ธนาคารจะนำไปตัดต้นเงิน ส่วนผู้ที่ได้เข้าร่วมมาตรการพักหนี้ ลดดอกเบี้ยครึ่งหนึ่งมาแล้วก่อนหน้านี้ จะได้รับการพิจารณาเข้ามาตรการนี้โดยอัตโนมัติด้วยเช่นกัน สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินกู้เพื่อนำไปบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยพิบัติ สามารถยื่นขอสินเชื่อฉุกเฉิน หย่อนเกณฑ์อนุมัติ ให้กู้สูงสุดรายละไม่เกิน 10,000 บาท ไม่ต้องมีหลักประกันและไม่มีผู้ค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0% สำหรับ 3 เดือนแรก หลังจากนั้นเดือนที่ 4 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย 0.60% หรืออาจยื่นขอสินเชื่อวงเงินสูงขึ้นเป็นรายละไม่เกิน 50,000 บาท แบบมีหลักประกัน อัตราดอกเบี้ย 3 เดือนแรก 0% ต่อเดือนเช่นกัน รวมถึงมาตรการสินเชื่อเคหะสำหรับผู้ที่ต้องการซ่อมแซมฟื้นฟูที่อยู่อาศัยที่เสียหาย ธนาคารให้วงเงินกู้สูงถึง 100% ของราคาประเมิน อัตราดอกเบี้ยพิเศษเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.233% ต่อปี ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.gsb.or.th หรือที่ GSB Contact Center โทร.1115 และติดต่อขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่สาขาธนาคารออมสิน ภายใน 30 วัน นับจากวันที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัย    

30 Sep 2024

...

เอไอเอ ประเทศไทย สานต่อโครงการ “สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี - AIA Healthiest Schools” ซึ่งจัดขึ้นติดต่อเป็นปีที่ 3 โดยได้รับความร่วมมืออย่างต่อเนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดรับสมัครโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการเพื่อชิงรางวัลรวมกว่า 2 ล้านบาท และได้เป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติ เพื่อชิงรางวัลอีกกว่า 1.5 ล้านบาท รวมมูลค่ารางวัลถึง 3.5 ล้านบาท ตอกย้ำถึงพันธกิจสำคัญของเอไอเอ ที่มุ่งสนับสนุนเยาวชนและผู้คนในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก กว่าหนึ่งพันล้านคนให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’     โครงการ “สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี - AIA Healthiest Schools” เป็นโครงการที่กลุ่มบริษัทเอไอเอ และเอไอเอ ประเทศไทย ริเริ่มขึ้นเพื่อมุ่งเสริมสร้างและปลูกฝังพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพของนักเรียนที่มีอายุระหว่าง 5 - 16 ปี โดยมุ่งเน้นใน 4 ด้านสำคัญ ได้แก่ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การทำกิจกรรมที่แอคทีฟ การมีสุขภาพใจที่ดี และการพัฒนาสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดความยั่งยืน โดยเมื่อปีที่ผ่านมา ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากโรงเรียนทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการมากกว่า 600 โรงเรียน และส่งผลงานเข้าประกวดถึง 91 โรงเรียน ซึ่งโรงเรียนที่ชนะระดับประถมศึกษา ได้แก่ โรงเรียนเทศบาล 2 วัดดอนมูลชัย จังหวัดตาก และโรงเรียนที่ชนะระดับมัธยมศึกษา ได้แก่ โรงเรียนเทศบาล 1 กิตติขจร จังหวัดตาก สำหรับโรงเรียนระดับประถมและมัธยมศึกษาที่สนใจ สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ “สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี - AIA Healthiest Schools” ปีที่ 3 ได้แล้วที่เว็บไซต์ ahs.aia.com/th/th/ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 8 มีนาคม 2568  

29 Sep 2024

...

ตามที่รัฐบาลได้มอบหมายสั่งการให้ธนาคารออมสิน เร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเชียงรายที่ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่อยู่ขณะนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอแม่สาย ที่ธนาคารออมสินภาค 9 ได้รับมอบนโยบายลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้า อาทิ ถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของจำเป็น เพื่อใช้บรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น   ทั้งนี้ ธนาคารออมสินได้ออกชุดมาตรการทางการเงินเพื่อลดภาระของผู้ประสบภัย ประกอบด้วย มาตรการพักหนี้และลดดอกเบี้ย โดยให้พักชำระเงินต้นและจ่ายดอกเบี้ยครึ่งหนึ่ง ส่วนดอกเบี้ยที่เหลืออีกครึ่งธนาคารลดให้ เป็นระยะเวลา 3 เดือน สำหรับลูกค้าสินเชื่อรายย่อย ทั้งบุคคล และ SMEs ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10 ล้านบาท ไม่รวมลูกค้าสินเชื่อตามธุรกรรมนโยบายรัฐ (PSA) หรือโครงการผ่อนปรนอื่น ๆ โดยแจ้งความประสงค์ขอเข้ามาตรการผ่านทางเว็บไซต์ธนาคารออมสิน หรือติดต่อธนาคารออมสินในพื้นที่ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป     นอกจากนี้ ยังมีมาตรการสินเชื่อฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ผ่อนเกณฑ์อนุมัติ แบบไม่ต้องมีหลักประกันและไม่มีผู้ค้ำประกัน วงเงินกู้สูงสุดไม่เกินรายละ 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0% ใน 3 เดือนแรก และปลอดชำระเงินงวดนาน 3 เดือน จากนั้นเดือนที่ 4 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย 0.60% และสินเชื่อเคหะแก่ผู้ประสบภัย สำหรับลูกค้าธนาคารออมสินและประชาชนทั่วไป ที่จำเป็นต้องซ่อมแซมบ้านเรือนที่อยู่อาศัยซึ่งได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม วงเงินกู้สูงถึง 100% ของราคาประเมิน อัตราดอกเบี้ยลดพิเศษเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.233% ต่อปี ปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ย 2% ปีที่ 2 - 3 = 3.85% ต่อปี (MRR-2.745%) และปีที่ 4 เป็นต้นไป = 5.845% ต่อปี (MRR-0.750%)     นอกเหนือจากมาตรการทางการเงินแล้ว ยังมีมาตรการช่วยเหลือและฟื้นฟูเยียวยาหลังน้ำลด โดยร่วมกับภาคีเครือข่าย อาทิ วิทยาลัยเทคนิคในพื้นที่ เปิด “คลินิกสารพัดซ่อม” เพื่อปรับปรุงซ่อมแซมบ้านเรือนที่อยู่อาศัย รถจักรยานยนต์ อุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับความเสียหาย เป็นต้น และยังได้มอบหมายให้ธนาคารออมสินในพื้นที่ออกเยี่ยมเยียนและให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าประชาชนที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งขยายผลความช่วยเหลือไปยังพื้นที่รับน้ำอื่น ๆ ด้วย ธนาคารออมสินขอร่วมส่งกำลังใจให้ผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการช่วยเหลือในทุกพื้นที่ให้มีความปลอดภัยและขอให้ผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้โดยเร็ว  

16 Sep 2024

Banner Banner Banner Banner

Banner
  ทิศทาง ceothailand.net ในปี 2567  “สื่อออนไลน์ CEO THAILAND”   ในปี 2567 จะเป็นปีที่ผม “นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์” จะมาทำหน้าที่บรรณาธิการบริหารสื่อ CEO THAILAND และผู้บริหารสื่อออนไลน์ ceothailand.net อย่างเต็มที่ หลังจากที่ผ่านมาได้ไปเดินแผนงานทางด้านการเมือง แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงการเลือกตั้งไปแล้วที่ผ่านมา จึงทำให้ช่วงเวลานี้มีเวลาที่จะมาวางแผนในการเดินหน้าธุรกิจสื่อได้มากขึ้น และในช่วงระยะเวลา 1-2 ปีนับจากนี้ จึงขอเข้ามารับหน้าที่สื่อมวลชน ในการเขียนบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ เรื่องราวในแวดวงเศรษฐกิจ-การเงิน และการประกันภัย ในฐานะของคอลัมนิสต์ ตลอดเวลาที่ผมเข้าไปทำงานทางการเมือง ต้องยอมรับว่าวงการข่าวและสื่อสารมวลชนเปลี่ยนไปเร็ว ตลอดเวลา 5 ปี  สื่อออนไลน์ที่รวดเร็วเข้ามาแทนที่สื่อหลักอย่างสื่อสิ่งพิมพ์ (ออฟไลน์)  เราต้องยอมรับในเรื่องความรวดเร็ว แต่ต้องไม่ลืมจุดด้อยของสื่อออนไลน์ คือข้อผิดพลาดในการกลั่นกรองข่าวสาร รวมทั้งบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ที่หายไป และข่าวที่ออกมามีความเหมือนกัน  ไม่แตกต่าง และเป็นเชิงภาพข่าว และกิจกรรมเท่านั้น ดังนั้นในปี 2567 นี้  ในหน้าสื่อออนไลน์ CEO THAILAND ท่านผู้อ่านจะได้สัมผัสกับข่าวสารเชิงวิเคราะห์ เจาะลึกแบบออนไลน์ต่อเนื่องในสื่อ CEO THAILAND รวมทั้งการจัดทำเป็น E-Magazine ใน www.ceothailand.net รวมทั้งการจัดทำเป็นรูปเล่มฉบับพิเศษสลับไปบ้างในเรื่องที่สำคัญๆ น่าสนใจ และเป็นประโยชน์กับประชาชนและสังคม ขอขอบพระคุณท่านลูกค้าและผู้สนับสนุนสื่อด้วยดีเสมอมา ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา และขอขอบพระคุณทุกท่าน รวมทั้งผู้อ่านที่ติดตามสื่อ CEO THAILAND ด้วยดีเสมอมาใน www.ceothailand.net   นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา) บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner