Responsive image

Thursday, 06 Nov 2025

หน้าแรก > BUSINESS-MARKETING-SME / ธุรกิจ - การตลาด - เอสเอ็มอี


เอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง จับมือ กรุงศรี ลงนามข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ นำนวัตกรรมเสริมแกร่งธุรกิจ ขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Net Zero มุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

Tue 14/05/2567


เอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง (บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด) และ กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในการนำนวัตกรรมของเอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง ผสานกับความเป็นผู้นำภาคการเงินเพื่อความยั่งยืนของกรุงศรี เร่งดำเนินการสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Green House Gas Emissions) เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศให้เปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ความร่วมมือระหว่างสององค์กรในครั้งนี้มีเป้าหมายร่วมกันที่จะศึกษา พัฒนา สรรหา และให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ Net Zero Building Materials ของวัสดุก่อสร้าง และโซลูชันต่างๆ ตลอดจน Construction Platform ที่เหมาะสมกับประเทศไทย เพื่อเตรียมความพร้อมในการมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ทั้งในแง่ของการ Decarbonization ของวัสดุก่อสร้าง และการพัฒนาวัสดุก่อสร้างที่เป็น Carbon Sink Based Product ตลอดจนการพัฒนาระบบการก่อสร้างที่จะทำให้มี Carbon Footprint ในองค์รวมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยจะได้นำผลของการดำเนินการต่อยอดสู่การพัฒนาโครงการให้ครบทั้ง Ecosystem เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม และยกระดับการอยู่อาศัยของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น

 

นายวิโรจน์ รัตนชัยสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง กล่าวว่า “สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ สอดคล้องกับกลยุทธ์ ESG ในการดำเนินธุรกิจของเอสซีจีโดยตรง ธุรกิจเอสซีจี สมาร์ทลีฟวิงมุ่งเสาะหา และพัฒนานวัตกรรมวัสดุก่อสร้างคาร์บอนต่ำ โซลูชันการอยู่อาศัยที่ทำให้เจ้าของบ้าน หรือเจ้าของโครงการลดการใช้พลังงาน รวมถึงกระบวนการก่อสร้างทางเลือกที่ทำให้การก่อสร้างในอนาคตลดการปล่อยคาร์บอนได้มากขึ้น”

“การลงนามในวันนี้เป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของ เอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง และ กรุงศรี ในการใช้จุดแข็งของทั้ง 2 ธุรกิจมาพัฒนาต่อยอดสู่เป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นพันธกิจของสังคมโลก เราหวังว่าแผนงานสำคัญที่ได้จากโครงการนี้จะมีส่วนสำคัญในการสร้างองค์ความรู้ ยกระดับศาสตร์การใช้วัสดุก่อสร้างเพื่อการอยู่อาศัยที่ดีขึ้น และสนับสนุนให้เกิดการผลิตวัสดุคาร์บอนต่ำมากยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ในการผลักดันให้เกิดนโยบาย หรือแผนงานที่มุ่งสู่ความเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญเพื่อโลกที่ยั่งยืนให้กับหลายๆ หน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ ต่อไปในอนาคต” นายวิโรจน์ กล่าวทิ้งท้าย

ด้านนายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ด้วยวิสัยทัศน์ของกรุงศรีสู่การเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ยั่งยืนที่สุดในประเทศไทย กรุงศรี ยินดีอย่างยิ่งในการสนับสนุนและส่งเสริมการดำเนินงานของเอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยความร่วมมือครั้งนี้ มีเป้าหมายในการช่วยส่งเสริมกระบวนการสร้างสรรค์โซลูชันรูปแบบใหม่ เพื่อยกระดับมาตรฐานงานก่อสร้างให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเร่งขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Net Zero ได้อย่างชัดเจนและยั่งยืน”

“กรุงศรีในฐานะผู้นำด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน (ESG Finance) จะช่วยเสริมสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสภาวะวิกฤตทางสภาพภูมิอากาศ และผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง ผ่านกิจกรรมส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ โดยใช้จุดแข็งของทั้งสองบริษัทให้คำแนะนำแบบครบวงจรเกี่ยวกับโซลูชันด้านการก่อสร้างและการเงินที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้กับบุคคลทั่วไป และผู้ประกอบการในห่วงโซ่ธุรกิจ การสนับสนุนการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) ผ่านเครือข่าย MUFG เพื่อขยายโอกาสในการทำธุรกิจ และเข้าถึงนวัตกรรมใหม่ รวมไปถึงการร่วมแสวงหาโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อความยั่งยืน เพื่อช่วยสนับสนุนความสำเร็จในการลดการปล่อยคาร์บอนทั้งกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งนี้ เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยให้ทั้งสองบริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมที่จะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของสังคมไทย และขับเคลื่อนประเทศสู่การพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในอนาคตต่อไป”


Tags : เอสซีจี เอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง กรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กรุงศรีอยุธยา วิโรจน์ รัตนชัยสิทธิ์ ไพโรจน์ ชื่นครุฑ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นำโดย นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ ประธานกรรมการ  นางยุพา ล่ำซำ  นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นางสลิล ล่ำซำ  นางจันทรา บูรณฤกษ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริษัท นายกนิช บุณยัษฐิติ กรรมการบริษัท  ดร.ณฐพร พันธุ์อุดม กรรมการบริษัท นายภูมิชาย ล่ำซำ ที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ ดร.สุธี โมกขะเวส กรรมการผู้จัดการ  พร้อมด้วยนายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย นางสาววสุมดี วสีนนท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย นางสาวพิมพ์จุฑา สกุนสิทธิ์ธาดา ผู้อำนวยการเขตวัฒนา คณะผู้บริหารเขตวัฒนา  รวมทั้งคณะผู้บริหาร และพนักงาน  บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัทคู่ค้า ลูกค้า และผู้มีจิตศรัทธา ร่วมน้อมถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน  ประจำปี 2568  แด่พระสงฆ์จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส ณ วัดธาตุทอง กรุงเทพมหานคร   ในโอกาสนี้  เมืองไทยประกันชีวิต  ได้มอบเงินบริจาค “ผ้าป่าการศึกษา” ให้แก่ โรงเรียนในพระอุปถัมภ์ของวัดธาตุทอง โดยมี  นางธนาลัย ลิมปรัตนคีรี  ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลวัดธาตุทอง  นายพงศ์พิษณุ สุพรรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนดาราคาม  นายธีระยุทธ สมบูรณ์สุข ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดธาตุทอง  (เรือนเขียวสะอาด)  นายเจษฎา ศรีนวล ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง  ว่าที่พันตรี ดร.ณัฏฐกิตติ์ ชัยเฉลิมมงคล กรรมการบริหารและไวยาวัจกรวัดธาตุทอง ผู้แทนโรงเรียน พระปริยัติธรรมวัดธาตุทอง ร่วมในพิธี  ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายของบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคมในทุกด้าน ให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน.    

05 Nov 2025

...

นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินในฐานะสถาบันการออมของคนไทย ตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านการส่งเสริมการออมและให้ความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ธนาคารจึงถือโอกาสในการจัดงานวันออมแห่งชาติ วันที่ 31 ตุลาคม 2568 ยกระดับสู่ GSB SAVINGS FORUM 2025 ภายใต้แนวคิด “AI & AOM ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” เพื่อให้เป็นเวทีในการสื่อสารด้านการออมและจุดประกายการผสานพลังเทคโนโลยี “AI” (Artificial Intelligence) เข้ากับ “AOM” (การออม) อย่างสร้างสรรค์ผ่านกิจกรรมสำคัญ อาทิ มินิทอล์ก “ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” โดยกูรูและเซเลบริตี้ชื่อดัง การประกวดออกแบบ “กระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล” ด้วย AI รอบชิงชนะเลิศ ตลอดจนการเปิดตัว “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB โดยงาน GSB SAVINGS FORUM 2025 ในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีแรก และธนาคารตั้งเป้าจัดเป็นงานประจำทุกปีในวันออมแห่งชาติ เพื่อขับเคลื่อนภารกิจหลักของธนาคารในการให้ความรู้ทางการเงินและเป็นเวทีหลักด้านการส่งเสริมการออมแก่สังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ภายในงานพบกับไฮไลท์ เวทีมินิทอล์ก “ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” เวทีแห่งแรงบันดาลใจจากคนดังหลากหลายเจน ที่จะมาแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์วางแผนการออมและการเงินส่วนบุคคลในโลกดิจิทัล อาทิ คุณหนุ่ย-พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ คุณตั๊ก-มยุรา เศวตศิลา และ คุณธนัชภรณ์ นิชิยาม่า ร่วมสร้างสีสันการเสวนาโดย คุณป๋อมแป๋ม-นิติ ชัยชิตาทร พร้อมรับชมการแข่งขันพรอมพ์ AI เพื่อออกแบบ “กระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล” รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นการแข่งขันของผู้ผ่านเข้ารอบ 50 คน จากผู้ส่งผลงานกว่า 700 ผลงาน โดยธนาคารจัดการประกวดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีในการสร้างแรงบันดาลใจด้านการออม ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 100,000 บาท ตัดสินโดยกูรูวงการ AI และผู้เชี่ยวชาญจากแวดวงโฆษณาชั้นนำของประเทศ อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญคือการเปิดตัว “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB ที่ธนาคารออมสินได้ริเริ่มจัดทำโปรแกรมสร้างผู้เชี่ยวชาญวางแผนการเงิน ร่วมพัฒนาหลักสูตรโดยผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการให้ความรู้ทางการเงิน การออม การลงทุน และการวางแผนเกษียณ โดยมีพนักงานออมสินที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบทั้งข้อเขียนและภาคปฏิบัติ ได้รับการรับรองคุณวุฒิเป็น “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB รุ่นแรก รวม 44 ราย ที่จะทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ทางการเงิน และส่งเสริมให้ประชาชนมีการออมอย่างมีเป้าหมาย ซึ่งพนักงานที่ผ่านการทดสอบในโปรแกรมนี้ จะได้รับการติดเข็มวิทยฐานะ CMC สำหรับใช้แสดงตนเพื่อเป็นการรับรองความรู้ความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป  นอกจากนี้ ธนาคารยังเปิดตัวกระปุกออมสิน “แสงแห่งการออม” ในวาระวันออมแห่งชาติ ดีไซน์ล้ำด้วยลูกเล่นมีไฟส่องสว่างในตัว สำหรับผู้ฝากเงิน 500 บาทขึ้นไป ลงทะเบียนจองสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ www.gsb.or.th, Line Official : GSB Society หรือ แอปพลิเคชัน MyMo ตั้งแต่วันที่ 27 – 30 ตุลาคม 2568 และเปิดให้ฝากเงินได้ที่ธนาคารออมสินสาขา แอปพลิเคชัน MyMo หรือเครื่องรับฝากเงิน ADM พร้อมรับกระปุกออมสิน ณ ธนาคารออมสินสาขาที่ลงทะเบียนจองสิทธิ์ไว้ ในวันที่ 31 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน 2568 (จำกัด 1 คน ต่อ 1 สิทธิ์) ของมีจำนวนจำกัด สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน GSB SAVINGS FORUM 2025 ในวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 6 อาคาร 32 ชั้น ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ สามารถลงทะเบียนได้ทางระบบออนไลน์ https://www.zipeventapp.com/e/GSB-Savings-Forum-2025 ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2568 โดยผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้าจะได้รับกระปุกออมสิน “แสงแห่งการออม” (จำนวนจำกัด) หรือรับชมการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางเพจเฟซบุ๊ก GSB Society

23 Oct 2025

...

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดย คุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาด จับรายชื่อลูกค้าผู้โชคดีครั้งที่ 1 ภายใต้แคมเปญพิเศษ ฉลองครบรอบ 28 ปี กรุงไทย-แอกซ่า “แจกใหญ่ แจกเต็ม” เพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้าคนสำคัญที่ไว้วางใจให้บริษัทฯ ได้ดูแลให้ความคุ้มครองตลอดมา โดยลูกค้าที่เข้าร่วมแคมเปญเป็นไปตามเงื่อนไขใน ช่วงวันที่ 25 กรกฎาคม – 17 กันยายน 2568  ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ประกาศรายชื่อผู้โชคดีผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ https://www.krungthai-axa.co.th/th/luckydraw-2025-r1-announcement  ซึ่งผู้โชคดีจากแคมเปญดังกล่าวจะได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากผู้แทนบริษัทฯ เพื่อแจ้งรายละเอียดและยืนยันการรับสิทธิ์ สำหรับแคมเปญ “แจกใหญ่ แจกเต็ม” เปิดโอกาสให้ลูกค้าสะสมสิทธิ์และลุ้นรับรางวัลใหญ่จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 โดยกำหนดการจับรางวัลอีก 3 รอบ  ตามรายละเอียดด้านล่างนี้ ครั้งที่ 2: จับรางวัลในวันที่ 24 ตุลาคม 2568          ประกาศรายชื่อผู้โชคดีวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ครั้งที่ 3: จับรางวัลในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568   ประกาศรายชื่อผู้โชคดีวันที่ 1 ธันวาคม 2568 ครั้งที่ 4: จับรางวัลในวันที่ 23 มกราคม 2569        ประกาศรายชื่อผู้โชคดีวันที่ 1 กุมภาพันธ์  2569 หมายเหตุ: ชิ้นส่วนที่เหลือจากการจับรางวัลในแต่ละครั้ง จะถูกนำมารวบรวมเพื่อจับรางวัลในรอบถัดไป ทั้งนี้ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรม การบริการ และผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้ที่ www.krungthai-axa.co.th และศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร.1159

17 Oct 2025

...

นายธีรลักษ์ แสงสนิท รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า คณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ได้มีมติเห็นชอบให้ประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสิน โดยผู้ที่สนใจสามารถยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการสมัครได้ตั้งแต่วันอังคารที่ 14 ตุลาคม - วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2568 สำหรับคุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร กำหนดให้ต้องมีสัญชาติไทย อายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ในวันยื่นใบสมัคร สามารถทำงานให้ธนาคารได้เต็มเวลา และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามประกาศคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สำหรับคุณสมบัติเฉพาะต้องมีความรู้ ความสามารถ ด้านเศรษฐกิจ การเงิน การตลาด และการธนาคารเป็นอย่างดี มีวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการองค์กร มีภาวะความเป็นผู้นำสูง มีความรอบรู้และประสบการณ์ในการบริหารจัดการองค์กร กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กร และมีระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งนั้นรวมกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันยื่นใบสมัคร หรือกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากหน่วยงานภาคเอกชน ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรที่มีรายได้ขององค์กรไม่น้อยกว่า 15,000 ล้านบาทต่อปี หรือเคยบริหารกิจการที่มีสินทรัพย์ขององค์กรไม่น้อยกว่า 200,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ต้องมีระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่า รองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรนั้นต่อเนื่องกันเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันยื่นใบสมัคร สามารถดาวน์โหลดใบสมัครและศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.gsb.or.th โดยยื่นใบสมัครด้วยตนเอง หรือมอบให้ตัวแทนเป็นผู้ยื่น โดยมีหนังสือมอบอำนาจ พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการสมัครได้ที่ ส่วนสรรหาและแต่งตั้งโยกย้าย ฝ่ายบริหารงานทรัพยากรบุคคล อาคาร 32 ชั้น ชั้น 15 ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันอังคารที่ 14 ตุลาคม - วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2568 ระหว่างเวลา 09.00 – 16.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2299-8000 ต่อ 810371 - 74          

11 Oct 2025

Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner