Responsive image

Sunday, 06 Jul 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


กรมการขนส่งทางบก จับมือ บริษัทกลางฯ ร่วมลงนาม MOU ในการแลกเปลี่ยนเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อยกระดับการแก้ไขปัญหาและลดอุบัติเหตุทางถนน

Sat 31/08/2567


นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และนางสาวพรรณี ปิติกุลตัง กรรมการผู้จัดการบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) แนวทางการแบ่งปันข้อมูล เพื่อแลกเปลี่ยนเชื่อมโยงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อยกระดับการแก้ไขปัญหาและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยมีผู้บริหารของทั้ง 2 หน่วยงานและสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน ณ กรมการขนส่งทางบก เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2567

 

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทยยังคงเป็นปัญหาสำคัญ ซึ่งไม่เพียงสร้างความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเท่านั้น ยังส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินมาตรการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การยกระดับใบอนุญาตขับรถโดยปรับปรุงหลักสูตรการอบรมผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถเพิ่มเติม เนื้อหาการคาดการณ์อุบัติเหตุ (Hazard Perception) การพัฒนามาตรฐานยานยนต์ การส่งเสริมเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนทั่วประเทศ เช่น โครงการนักเรียนรุ่นใหม่มีใบขับขี่ การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์และการให้ความรู้ต่างๆ  พร้อมทั้งได้บูรณาการการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ในการที่จะป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และในวันนี้การที่กรมการขนส่งทางบกและบริษัท กลางฯ ได้ร่วมบันทึกข้อตกลงแนวทางการแบ่งปันข้อมูลร่วมกัน จึงถือเป็นการยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพในการบูรณาการด้านข้อมูลและการทำงานร่วมกันของทั้งสองหน่วยงาน ในการแลกเปลี่ยนเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) โดยเฉพาะข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุทางถนน และนำมาทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อค้นหาสาเหตุรูปแบบพฤติกรรมการขับขี่ ปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุทั้งด้านผู้ขับรถ ด้านสภาพรถ และด้านสภาพแวดล้อม เพื่อให้หน่วยงานด้านความปลอดภัยทางถนนสามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ประกอบการพิจารณาตัดสินใจในการขับเคลื่อนการดำเนินงานเชิงนโยบาย การกำหนดแนวทางมาตรการในการป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน รวมถึงการประเมินผลการดำเนินงานต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายที่จะลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
ทางถนนตามแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนนให้เหลือ 12 คน ต่อแสนประชากรภายในปี 2570

 

นางสาวพรรณี ปิติกุลตัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด กล่าวว่า บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2540 ตามมาตรา 10 ทวิ โดยทำหน้าที่รับคำร้องขอและจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ประสบภัยจากรถแทนทุกบริษัทประกันภัยได้ โดยมีสาขาให้บริการประชาชนทุกจังหวัดทั่วประเทศ และมีพันธกิจองค์กรในการเสริมสร้างความปลอดภัยทางถนนด้วย จากจำนวนอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนนในแต่ละปีนั้น ได้ก่อให้เกิดความสูญเสียและความเสียหายอย่างมากมาย ทั้งทรัพย์สินและชีวิต-ร่างกายบุคคล และยังคงมีอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนอยู่ในอัตราที่สูงจากข้อมูลผู้มาใช้สิทธิประกันภัย พ.ร.บ. รวมถึงข้อมูลการรับแจ้งการเกิดอุบัติเหตุทางถนนร่วมกับภาคีเครือข่ายรับแจ้ง มูลนิธิ กู้ชีพ กู้ภัย โรงพยาบาล  บริษัทกลางฯ จึงได้นำข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุทางถนนทั้งหมด มาจัดทำเป็นสถิติรายงานการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ผ่านศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ www.Thairsc.com แบบ REAL TIME เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลไปใช้จัดทำแนวทางในการป้องกันและแก้ไขการเกิดอุบัติเหตุทางถนนตามสถานการณ์อุบัติเหตุในแต่ละพื้นที่ และในวันนี้กรมการขนส่งทางบก ที่เป็นหน่วยงานภาครัฐ ได้เห็นถึงความสำคัญของข้อมูล จึงเกิดเป็นความร่วมมือกัน ระหว่างกรมการขนส่งทางบก กับบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ในการแบ่งปันข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนจาก www.ThaiRSC.com เพื่อแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงข้อมูล นำไปขับเคลื่อนการดำเนินนโยบายและใช้ประโยชน์จากข้อมูล ดังกล่าวในการวิเคราะห์อุบัติเหตุเชิงลึก การบังคับใช้กฎหมาย และการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ รวมถึงการปกป้องและจัดเก็บข้อมูลตามข้อกำหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

 

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวทิ้งท้ายว่า กรมการขนส่งทางบกขอขอบคุณบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ซึ่งเป็นภาคเอกชนที่มีการดำเนินการอย่างโดดเด่นในการยกระดับความปลอดภัยทางถนนของประเทศไทย อันเป็นเป้าหมายเดียวกันกับกรมการขนส่งทางบก และนอกจากนั้นยังเป็นผู้นำด้านการจัดเก็บและใช้ประโยชน์จากข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุเพื่อสนับสนุนให้หน่วยงานอื่นๆ ที่ปฏิบัติงานด้านความปลอดภัย สามารถนำไปใช้พัฒนาการจัดการและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนให้เกิดประสิทธิภาพอย่างยั่งยืนต่อไป

 

 

 

 

 


Tags : บริษัทกลางฯ กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ Line @iRVP พรรณี ปิติกุลตัง กรมการขนส่งทางบก จิรุตม์ วิศาลจิตร การเสริมสร้างความปลอดภัยทางถนน


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  ร่วมงาน “มหกรรมการเงินหาดใหญ่” ครั้งที่ 15 (MONEY EXPO 2025 HATYAI) ระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคม 2568 ณ บูธ F3 หาดใหญ่ฮอลล์ ชั้น 5 เซ็นทรัล หาดใหญ่ จ.สงขลา ยกขบวนผลิตภัณฑ์สินเชื่อครอบคลุมทุกกลุ่ม ตอบโจทย์ทุกความต้องการผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไฮไลท์ คือ สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่มและทุกความต้องการเอสเอ็มอีไทย ควบคู่บริการพัฒนาธุรกิจ ผ่านแพลตฟอร์ม “DX by SME D Bank” (dx.smebank.co.th)   ช่วยเสริมศักยภาพกิจการ ครบถ้วนในจุดเดียว ห้ามพลาด! พิเศษเฉพาะภายในงาน เมื่อยื่นขอสินเชื่อ และได้รับอนุมัติทุกวงเงิน รับโปรโมชันเสริมอีก 2 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 : ลดค่าธรรมเนียมวิเคราะห์สินเชื่อ (Front End Fee) สูงสุด 0.25% และต่อที่ 2 : รับบัตรกำนัล มูลค่า 500 บาท พร้อมเล่นเกม ลุ้นรับของที่ระลึกมากมาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

03 Jul 2025

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารประสบความสำเร็จได้รับรางวัลระดับเอเชีย Asia Responsible Enterprise Awards (AREA) 2025 สาขา Social Empowerment จาก MyMo Secure Plus นวัตกรรมความปลอดภัยบน Mobile Banking ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากภัยไซเบอร์ให้ลูกค้า บูรณาการร่วมกับ แคมเปญเตือนภัยมิจฉาชีพ เพื่อสื่อสารสร้างการรับรู้และเสริมภูมิคุ้มกันภัยทางการเงิน พร้อมกันนี้ ธนาคารออมสินยังได้รับรางวัลเกียรติคุณ Silver Emblem of Sustainability ในฐานะองค์กรที่มีความโดดเด่นและมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนในทุกมิติจนได้รับรางวัล AREA มาแล้ว 5 ปี จาก Enterprise Asia องค์กรพัฒนาเอกชนชั้นนำที่ส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการที่มีความรับผิดชอบในเอเชีย เพื่อเชิดชูและให้เกียรติองค์กรธุรกิจที่มีการดำเนินงานตามแนวทาง ESG และเป็นต้นแบบองค์กรชั้นนำในภูมิภาคเอเชียที่ขับเคลื่อนองค์กรสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ     ธนาคารออมสินถือเป็นธนาคารแรกที่พัฒนาโหมดปลอดมิจฉาชีพ ภายใต้ชื่อ MyMo Secure Plus เพื่อช่วยดูแลเงินฝากขั้นสูงสุดให้กับลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มที่ไม่รู้เท่าทันมิจฉาชีพที่เปลี่ยนรูปแบบการหลอกลวงตลอดเวลา ออกแบบโดยเน้นการทำธุรกรรมทางการเงินแบบจำกัดเฉพาะรายการที่จำเป็น อาทิ การโอนเงินไปยังบัญชีตนเองภายในธนาคารและต่างธนาคารที่ลงทะเบียนไว้ และการจำกัดวงเงินในการทำธุรกรรมต่อวัน ทั้งนี้ ธนาคารออมสินไม่เพียงพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นธนาคารแรกที่ดำเนินกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ (IMC) ผ่าน แคมเปญเตือนภัยมิจฉาชีพ ดำเนินการอย่างเข้มข้นผ่านช่องทางการสื่อสารที่ครบวงจร ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ สื่อนอกบ้าน หรืออินฟลูเอนเซอร์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวางและครอบคลุมมากที่สุด เนื่องจากธนาคารตระหนักดีถึงความสูญเสียของประชาชนและวิกฤตของอาชญากรรมออนไลน์ที่นับวันจะทวีความรุนแรงจนกลายเป็นภัยคุกคามระดับประเทศ จึงเป็นความพยายามของธนาคารในการที่จะกระตุ้นเตือนให้ประชาชนรู้เท่าทันกลลวงและไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพทางการเงิน     รางวัลเกียรติคุณ Silver Emblem of Sustainability และ Social Empowerment ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงบทบาทของธนาคารออมสินในฐานะ Social Bank ที่ไม่เพียงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับการให้บริการลูกค้าเท่านั้น แต่ยังขับเคลื่อนการสร้าง Social Impact เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนช่วยบรรเทาปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง ธนาคารยังคงยึดมั่นในหลักการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบตามแนวทาง ESG เพื่อก้าวสู่เป้าหมายความยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคม ตลอดจนเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว  

01 Jul 2025

...

นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT HD เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568  

29 Jun 2025

...

  บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมออกบูทในงานมหกรรมจำหน่ายรถยนต์ครบวงจร FAST Auto Show Thailand 2025   ระหว่างวันที่ 2 – 6 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ฮอลล์ EH 102 - 103  ในงานนี้ บริษัทฯ ได้จัดเต็มโปรโมชันสุดพิเศษ โดยมอบส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยสูงสุด 23% สำหรับผู้ที่ซื้อกรมธรรม์ใหม่ภายในงาน โดยมีทีมงานรับประกันภัยพร้อมบริการให้คำปรึกษา และคำแนะนำเกี่ยวกับแผนประกันภัยที่เหมาะสมกับความคุ้มครองที่หลากหลาย โดยนอกจากประกันภัยรถยนต์แล้วยังมีประกันอัคคีภัย ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันภัยการเดินทาง ประกันภัยสุขภาพ ประกันภัยโรคมะเร็ง และประกันภัยอื่นๆ ที่ให้ความคุ้มครองรองรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า นอกจากนี้ ยังสามารถผ่อนชำระเบี้ยประกันภัย ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน หรือ 10 เดือนผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ พร้อมรับของที่ระลึกที่เตรียมไว้สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ  พบกับกรุงเทพประกันภัยได้ที่บูท B11 ณ ศูนย์ประชุมนิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา ฮอลล์ EH 102 - 103 ในวันที่ 2 - 6 กรกฎาคม 2568    

29 Jun 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner