Responsive image

Tuesday, 01 Jul 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


ไทยประกันชีวิต เปิดตัวโฆษณาชุดใหม่ “Live Life with no Regret” ส่งดิจิทัลแพลตฟอร์ม “Live Bright” นำเทคโนโลยี AI ช่วยพัฒนาและยกระดับการสร้างแรงบันดาลใจสู่การลงมือทำ

Tue 15/10/2567


ไทยประกันชีวิต ตอกย้ำการเป็นแบรนด์ที่สร้างแรงบันดาลใจ ส่งเสริมให้คนออกไปใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและความหมาย ส่งแคมเปญโฆษณาชุดใหม่ “Live Life with no Regret: มีชีวิต ที่คุณจะไม่เสียใจ” จุดประกายความคิดให้คนค้นหาแรงบันดาลใจ เพื่อให้ทุกวันของชีวิตมีความหมาย พร้อมเปิดตัวดิจิทัลแพลตฟอร์ม “Live Bright” ครั้งแรกในธุรกิจประกันชีวิตไทยที่ดึงเทคโนโลยี Generative AI มาพัฒนาข้อมูล สร้างแรงบันดาลใจ วางแผน และกระตุ้นให้ทำตามเป้าหมายแบบเฉพาะบุคคล

นายไชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI เปิดเผยว่า ไทยประกันชีวิต ดำเนินธุรกิจภายใต้เจตนารมณ์การเป็นทุกคำตอบของชีวิตและส่งมอบคุณค่าชีวิตให้กับคนในสังคม โดยการสร้างแบรนด์ผ่านภาพยนตร์โฆษณาที่มุ่งเน้นการสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตและคุณค่าของความรัก (Value of Life, Value of Love) ซึ่งสอดคล้องกับ Brand Purpose ของบริษัทฯ ในการเป็นแบรนด์ที่ได้รับความชื่นชอบ ความไว้วางใจ และสร้างแรงบันดาลใจให้คนในสังคม จนทำให้ภาพยนตร์โฆษณาไทยประกันชีวิตกลายเป็นเอกลักษณ์ ได้รับการจดจำ และความชื่นชอบจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ที่ผ่านมาภาพยนตร์โฆษณาของไทยประกันชีวิตได้รับการการันตีความสำเร็จ จากการได้รับรางวัลจากสถาบันต่าง ๆ ทั้งในระดับประเทศและระดับสากลมากมาย โดยเฉพาะภาพยนตร์โฆษณาชุด “ผิวของแม่: Under My Skin” ที่สามารถสร้างชื่อเสียงในระดับโลก ได้รับถึง 12 รางวัล จาก 5 เวทีประกวดผลงานโฆษณาที่สำคัญ อย่าง Cannes Lions 2024, ADFEST 2024, Spike Asia 2024, Clio Awards 2024 และ D&AD Awards 2024 นอกจากนี้ ยังมีภาพยนตร์โฆษณาที่ได้รับรางวัลระดับสากล อาทิ โฆษณาชุดเชื่อในความดี ได้รับรางวัลจากสถาบัน International Business Awards หรือ Stevie Awards 2023 ประเทศสหรัฐอเมริกา, โฆษณาชุด Until We Meet Again ได้รับรางวัล London International Awards (LIA) ประเทศอังกฤษ ฯลฯ

ปัจจุบันภาพยนตร์โฆษณาของไทยประกันชีวิต ได้ยกระดับสู่การสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต หรือ Live Life ด้วย “การทำชีวิตให้มีคุณค่าต่อตนเองและผู้อื่น” เพื่อร่วมกันสร้างสังคมให้น่าอยู่อย่างยั่งยืน โดยล่าสุด ไทยประกันชีวิต เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุด “Live Life with no Regret: มีชีวิต ที่คุณจะไม่เสียใจ” เผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2567 โดยถ่ายทอดเนื้อหาของ “การใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย” ด้วยการค้นหาแรงบันดาลใจเพื่อทำในสิ่งที่ตนเองรัก การออกไปใช้ชีวิตเพื่อพบกับสิ่งที่จะช่วยเติมเต็มความสุข และทำให้ทุกวันของชีวิตดำเนินไปอย่างมีคุณค่าและมีความหมายที่สุด

และเพื่อให้แบรนด์ไทยประกันชีวิตเป็นแบรนด์ที่สามารถสร้างและส่งมอบแรงบันดาลใจที่เป็นรูปธรรม มากกว่าเพียงการสร้างแรงบันดาลใจผ่านเนื้อหาของภาพยนตร์โฆษณา ไทยประกันชีวิตจึงได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม Live Bright เพื่อนผู้ช่วยสุดสมาร์ทที่ช่วยค้นหาสิ่งที่คุณอยากทำ” เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนได้ค้นหาแรงบันดาลใจของตนเองในการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า และออกไปใช้ชีวิตให้มีความสุข โดยใช้เทคโนโลยี Generative AI ในการนำเสนอข้อมูลในลักษณะเฉพาะบุคคล (Personalization) เพื่อช่วยวางแผน และลงมือทำเป้าหมายต่างๆ ให้สำเร็จและราบรื่น

นายไชยกล่าวว่า “นับเป็นครั้งแรกของธุรกิจประกันชีวิตไทยที่นำเทคโนโลยีดิจิทัล มาพัฒนาเป็นเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนให้คนสามารถออกไปใช้ชีวิตได้แบบ End 2 End ตั้งแต่การสร้างแรงบันดาลใจ การกระตุ้นให้เกิดการลงมือทำ การวางแผนหรือกำหนดรูปแบบกิจกรรมที่ตรงตามไลฟ์สไตล์ ตรงตามความชอบและความมุ่งหวัง ซึ่งสอดคล้องกับ Insight ของคนในปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตเร่งรีบ จนทำให้บางครั้งไม่มีเวลาในการวางแผนออกไปใช้ชีวิตตามที่ตัวเองชื่นชอบ หรือใช้เวลากับคนที่รักอย่างมีความหมาย”

Live Bright” ประกอบด้วย 5 ฟีเจอร์หลัก ได้แก่ 1. Personalize Bucket List Idea: ค้นหาแรงบันดาลใจ แนะนำไอเดียที่จะช่วยจุดประกายกิจกรรมให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ ผ่านบทความ ประสบการณ์การเดินทาง และกิจกรรมต่างๆ โดยสามารถเพิ่มรายการสิ่งที่อยากทำ เพื่อสร้างแผนกิจกรรมของตัวเอง และแชร์กิจกรรมนี้ให้กับคนที่รักสามารถร่วมทำกิจกรรมด้วยกัน 2. Smart Planning Tool: ตัวช่วยในการวางแผนสุดฉลาด โดยเทคโนโลยี Generative AI จะช่วยวิเคราะห์ความชอบ ความต้องการ พร้อมแนะนำที่พัก ร้านอาหาร จุดท่องเที่ยวที่เหมาะสม ตรงกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะบุคคล รวมถึงแนะนำทิปส์ในการเตรียมตัวก่อนทำกิจกรรม 3. TO-DO-LIST: คำแนะนำสิ่งที่ห้ามลืม และสิ่งของที่ควรเตรียม ให้เหมาะกับแต่ละกิจกรรม 4. Reminder Tool: แจ้งเตือนล่วงหน้า เพื่อไม่พลาดกิจกรรมสำคัญที่ได้วางแผนไว้ พร้อมฟังก์ชันในการเตรียมตัว เช่น เช็กสภาพอากาศ 5. Meaningful Wrap Up: สรุปผลประจำแต่ละเดือน เพื่อให้เห็นว่าเราใช้เวลาทำสิ่งที่มีความหมายกับใครไปบ้าง และสิ่งไหนที่ยังรอให้ลงมือทำ

ผู้สนใจสามารถใช้งาน Live Bright ได้บนสมาร์ทโฟน ผ่าน LINE OA: @ThaiLifeInsurance และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Live Bright ได้ที่ https://campaign.thailife.com/livebright

และสามารถติดตามชมภาพยนตร์โฆษณา Live Life with no Regret ได้ที่ YouTube Thailifechannel


Tags : ไทยประกันชีวิต ไชย ไชยวรรณ ดิจิทัลแพลตฟอร์ม Live Bright ไทยประกันชีวิตเปิดตัวโฆษณา


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT HD เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568  

29 Jun 2025

...

  บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมออกบูทในงานมหกรรมจำหน่ายรถยนต์ครบวงจร FAST Auto Show Thailand 2025   ระหว่างวันที่ 2 – 6 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ฮอลล์ EH 102 - 103  ในงานนี้ บริษัทฯ ได้จัดเต็มโปรโมชันสุดพิเศษ โดยมอบส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยสูงสุด 23% สำหรับผู้ที่ซื้อกรมธรรม์ใหม่ภายในงาน โดยมีทีมงานรับประกันภัยพร้อมบริการให้คำปรึกษา และคำแนะนำเกี่ยวกับแผนประกันภัยที่เหมาะสมกับความคุ้มครองที่หลากหลาย โดยนอกจากประกันภัยรถยนต์แล้วยังมีประกันอัคคีภัย ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันภัยการเดินทาง ประกันภัยสุขภาพ ประกันภัยโรคมะเร็ง และประกันภัยอื่นๆ ที่ให้ความคุ้มครองรองรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า นอกจากนี้ ยังสามารถผ่อนชำระเบี้ยประกันภัย ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน หรือ 10 เดือนผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ พร้อมรับของที่ระลึกที่เตรียมไว้สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ  พบกับกรุงเทพประกันภัยได้ที่บูท B11 ณ ศูนย์ประชุมนิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา ฮอลล์ EH 102 - 103 ในวันที่ 2 - 6 กรกฎาคม 2568    

29 Jun 2025

...

กรุงเทพประกันชีวิต ขอส่งมอบความ “อุ่นใจ” กับแผนสุขภาพและเงินออม ที่ “ใส่ใจ”ทุกคนในครอบครัว ในงาน แฟร์ที่คุณพ่อคุณแม่ห้ามพลาด Amarin Baby & Kids Fair Midyear 2025 เตรียมยกทัพแบบประกันดี ๆ ที่ออกแบบมาด้วยความใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็น “กรุงเทพ สมาร์ท คิดส์” แบบประกันสะสมทรัพย์ที่ซื้อ 1 ได้ถึง 4 มั่นใจกับผลตอบแทนที่แน่นอน พร้อมความคุ้มครองด้านสุขภาพ ตอบโจทย์ทุกเป้าหมายในอนาคตเพื่อลูกน้อย “กรุงเทพ สุดคุ้ม” แผนการออมที่คุ้มค่า และหลากหลายแผนคุ้มครองที่มอบความอุ่นใจในทุกช่วงเวลาสำหรับครอบครัว ระหว่างวันที่ 26 – 29 มิถุนายน 2568 ที่บูท C7-C8 ฮอลล์ 104 ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการ ไบเทคบางนา  ภายในงานพบกับกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของลูกน้อย และรับฟังสาระดี ๆ กับเวทีเสวนาห้องเรียน พ่อแม่ ในวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน เวลา 13.30 น. โดย ผศ.ดร.ปนัดดา ธนเศรษฐกร ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวกและการส่งเสริมทักษะสมอง EF สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมผู้เชี่ยวชาญจากกรุงเทพประกันชีวิตที่จะมาแนะนำการวางแผนการเงินเพื่ออนาคตลูก และโปรโมชันสุดพิเศษมากมาย สิทธิพิเศษภายในบูท เพียงซื้อแบบประกันใดก็ได้ (ยกเว้นแบบประกันยูนิต ลิงค์) และชำระเบี้ยประกันภัยปีแรกแบบรายปี รับโปรโมชันพิเศษ 3 ต่อ!!! ต่อที่ 1 รับกระเป๋าช้อปปิ้ง Together We Care สุดชิค ทันที! ต่อที่ 2 รับบัตรกำนัลเซ็นทรัลทันทีภายในงาน มูลค่าสูงสุด 2,500 บาท และต่อที่ 3 รับบัตรกำนัลเซ็นทรัลเพิ่ม มูลค่าสูงสุด 12,000 บาท พร้อมสิทธิ์ลุ้นรางวัลรวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท เมื่อดาวน์โหลดแอป BLA Happy Life ลงทะเบียน และเข้าใช้งาน ภายในวันที่ 31 กรกฏาคมนี้  เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด    

26 Jun 2025

...

SME D Bank เคียงข้างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ทุ่ม 3,500 ล้านบาท ออก 2 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ ได้แก่ “Smile Biz ธุรกิจยิ้มได้ (2568)” และ “จิ๋วสุดแจ๋ว Plus” มุ่งเติมทุนครอบคลุมทุกกลุ่มเอสเอ็มอี นำไปใช้ลงทุน หมุนเวียน เสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ   ควบคู่ยกระดับพัฒนาครบวงจร ช่วยเสริมแกร่ง ยืนหยัดและปรับตัวได้ในช่วงสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัว   นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า ธนาคารมีความห่วงใยผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และคู่ค้าที่เป็น Supply Chain  ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จากความไม่แน่นอนของสงครามการค้า  การล้นทะลักของสินค้าจากต่างประเทศ สถานการณ์ภัยพิบัติ แผ่นดินไหว ส่งผลต่อความเชื่อมั่น รวมถึง ในภาคธุรกิจท่องเที่ยว และเกี่ยวเนื่องที่ได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ดังนั้น SME D Bank   จัดวงเงิน  3,500 ล้านบาท ออก 2 สินเชื่อใหม่ สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในภาคผลิต บริการ และค้าส่งค้าปลีก  ทั้งรายย่อย รายย่อม และรายกลาง ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน นำไปเสริมสภาพคล่องกิจการ สามารถรับมือและก้าวผ่านสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้เหมาะสมและทันท่วงที อีกทั้ง ช่วยรักษาการจ้างงานในภาคธุรกิจเอสเอ็มอี โดยมีจุดเด่นเงื่อนไขผ่อนปรนเปิดกว้าง ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน สามารถใช้ บสย.ค้ำประกันได้  ได้แก่ “สินเชื่อ Smile Biz ธุรกิจยิ้มได้ (2568)” วงเงิน 3,000 ล้านบาท และ “สินเชื่อรายย่อย จิ๋วสุดแจ๋ว Plus” วงเงิน 500 ล้านบาท   สำหรับ “สินเชื่อ Smile Biz ธุรกิจยิ้มได้ (2568)” สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดย่อม และขนาดกลาง ทั้งบุคคลธรรมดา นิติบุคคล ที่มีรายได้ต่อปีเกินกว่า 1.8 ล้านบาท แต่ขาดหลักประกันให้เข้าถึงแหล่งทุน นำไปเสริมสภาพคล่อง  ลงทุน ขยาย ปรับปรุง หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ  เงินทุนหมุนเวียน  วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย เริ่มต้น MLR -1%ต่อปี หรือประมาณ 6.25%ต่อปี (ปัจจุบัน MLR เท่ากับ 7.25%) ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ผ่อนนานสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ปลอดชําระคืนเงินต้นสูงสุด 6 เดือน เปิดรับคำขอกู้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2569 หรือจนกว่าวงเงินสินเชื่อโครงการจะหมด แล้วแต่อย่างหนึ่งอย่างใดจะถึงก่อน   และ “สินเชื่อรายย่อย จิ๋วสุดแจ๋ว Plus”  สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อย (MICRO) ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล ที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 1.8 ล้านบาท แต่ขาดหลักประกันให้เข้าถึงแหล่งทุน นำไปลงทุน ขยาย ปรับปรุง ปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ หรือหมุนเวียนเสริมสภาพคล่องในธุรกิจ   วงเงินกู้ขั้นต่ำ 1  แสนบาท สูงสุดไม่เกิน 5 แสนบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย เริ่มต้น MRR +5.35% ต่อปี หรือประมาณ 12.925% ต่อปี (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 7.575%) ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ผ่อนนานสูงสุดไม่เกิน 5 ปี เปิดรับคำขอกู้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569 หรือจนกว่าวงเงินสินเชื่อโครงการจะหมด แล้วแต่อย่างหนึ่งอย่างใดจะถึงก่อน “ทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ ครอบคลุมการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกกลุ่ม และทุกประเภทในภาคการผลิต บริการ ค้าปลีกและค้าส่ง ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง ร้านค้าออนไลน์  ธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง เช่น ร้านขายของฝาก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ฯลฯ เพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน  นำไปเสริมสภาพคล่อง  หรือมีไว้สำรองเป็นค่าใช้จ่าย ช่วยให้สามารถรับมือกับภาวะเศรษฐกิจได้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ธุรกิจยืนหยัดและปรับตัวได้” นายพิชิต กล่าวเสริม นอกจากนี้ SME D Bank ยังให้บริการด้านการพัฒนาธุรกิจครบวงจรควบคู่ด้วย ผ่านแพลตฟอร์ม DX by SME D Bank (dx.smebank.co.th) ใช้บริการได้สะดวกสบาย ตลอด 24 ชม. มีฟีเจอร์สำคัญ ๆ  เช่น ระบบ  “Business Health Check”  ตรวจสุขภาพทางธุรกิจ  ระบบ E-Learning รวบรวมหลักสูตรความรู้สำคัญ ช่วยเพิ่มศักยภาพการประกอบธุรกิจ เรียนรู้ได้ด้วยตัวเองตลอด 24 ชั่วโมง ระบบ SME D Activity จองเข้าร่วมกิจกรรมเติมความรู้ได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ระบบ SME D Coach มีโค้ชมืออาชีพคอยเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำธุรกิจ  ระบบ SME D Market ช่วยขยายตลาดด้วย E-marketplace หนุนจับคู่ธุรกิจ  และระบบ SME D Privilege  ที่มอบสิทธิประโยชน์พิเศษมากมาย เป็นต้น  ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถแจ้งความประสงค์เข้ารับบริการด้านการเงิน และการพัฒนาจาก SME D Bank ได้ผ่านสาขา SME D Bank ทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น LINE Official Account : SME Development Bank  และ www.smebank.co.th เป็นต้น  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

26 Jun 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner