Responsive image

Friday, 04 Jul 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


“คปภ.” ปลุกพลังบุคลากร มุ่งสู่การเป็นองค์การชั้นนำ ภายใต้แนวคิด “ทันโลก ก้าวไกล ร่วมใจ ใฝ่คิด พิชิตเป้าหมาย”

Mon 04/01/2564


เลขาธิการ คปภ. ปลุกพลังบุคลากรสำนักงาน คปภ. มุ่งสู่การเป็นองค์กรชั้นนำบุคลากรมีศักยภาพสูง กระบวนการทำงานมีความคล่องตัว และขับเคลื่อนด้วยฐานข้อมูลและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ภายใต้แนวคิด“ทันโลก ก้าวไกล ร่วมใจ ใฝ่คิด พิชิตเป้าหมาย”
 


ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานเปิดการสัมมนาพนักงาน คปภ. ประจำปี 2563 ภายใต้แนวคิด OIC 5G – ปลุกไฟ..ให้ลุกโชน “ทันโลก ก้าวไกล ร่วมใจ ใฝ่คิด พิชิตเป้าหมาย” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสรุปผลการดำเนินงานปี 2563 และแนวทางการดำเนินงานในปี 2564 พร้อมมอบนโยบายให้กับพนักงานและลูกจ้าง สำนักงาน คปภ. ณ โรงแรม เดอะ กรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า ในช่วงปี 2563 สำนักงาน คปภ. ต้องเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ มากมาย ทั้งการปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ๆ และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ COVID – 19 ที่ทำให้รูปแบบการใช้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในยุค New Normal แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นโอกาสในการปรับกระบวนการและวิธีการทำงานแบบใหม่ ภายใต้การรักษาระยะห่างทางสังคม Social distancing โดยใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ รวมถึงความร่วมแรงร่วมใจของพนักงานและภาคธุรกิจประกันภัย ที่ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมประกันภัยก้าวผ่านความท้าทายต่าง ๆ ได้ด้วยดี โดยผ่านมาตรการต่าง ๆ อาทิ การส่งเสริมให้บริษัทประกันภัยจัดทำผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) การพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ๆ (New Product Development) ที่ตอบสนองพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน หรือตามภูมิภาคหรือพื้นที่เฉพาะ ส่งเสริมการเข้าถึงระบบประกันภัยและการสร้างความรู้ความเข้าใจด้านประกันภัยแก่ประชาชน การคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านประกันภัย โดยเฉพาะกรณีการเกิดอุบัติภัยรายใหญ่ การจัดทำแนวทางปฏิบัติในการเตรียมพร้อมรองรับ พ.ร.บ. ข้อมูลส่วนบุคคลฯ ทบทวนความเหมาะสมของกฎหมายอนุบัญญัติ Regulatory Guillotine Project เพื่อลดละ เลิกกฎหมายที่ล้าสมัย หรือไม่จำเป็น การพัฒนาระบบงาน OIC Gateway การพัฒนาแอพพลิเคชั่นคนกลาง ForSure และการเพิ่มหลักเกณฑ์เรื่อง Digital Face to Face การเพิ่มช่องทาง OIC Chatbot เพื่อตอบปัญหาด้านการประกันภัย การพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลทะเบียนราษฎร์กับกรมการปกครอง และข้อมูลการประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับกับกรมการขนส่งทางบก การกำหนดทิศทางให้ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีด้านการประกันภัย (CIT) เป็น One Stop Service ด้านการประกันภัย มุ่งสู่การเป็น InsurTech Hub ของภูมิภาคอาเซียน การพัฒนานวัตกรรมด้านการประกันภัย ใน SandBox การเตรียมความพร้อมสำหรับการบังคับใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 17 (IFRS17) เรื่องสัญญาประกันภัย จัดทำข้อเสนอแนะหรือแนวปฏิบัติ (Guidelines) ประเมินความพร้อมและผลกระทบ (Gap and Impact Analysis) ทั้งของบริษัทประกันภัยและสำนักงาน คปภ. ส่งเสริมให้ระบบประกันภัยเข้าไปบริหารความเสี่ยงให้กับภาครัฐ เป็นต้น

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับนโยบายการดำเนินงานในปี 2564 ต้องเร่งขับเคลื่อนดำเนินการ ตามทิศทางยุทธศาสตร์ เป้าหมายที่คาดหวัง และกิจกรรมที่สำคัญ (Top Priorities) ตามแผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 4 ซึ่งเป็นนโยบายในการกำหนดทิศทางและนโยบายในการพัฒนาธุรกิจประกันภัยไทย เพื่อให้ “ระบบประกันภัยไทยมีความมั่นคง ยั่งยืน และแข่งขันได้ในเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนเข้าถึงการประกันภัยและใช้ประโยชน์ในการรองรับความเสี่ยง” แผนยุทธศาสตร์สำนักงาน คปภ. ระยะ 3 ปี ที่เป็นเสมือนเข็มทิศกำหนดทิศทางการดำเนินงานของสำนักงาน คปภ. ที่มีความยืดหยุ่น พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะสมและเท่าทันกับสภาพแวดล้อมในอนาคต แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศ ฉบับที่ 3 (IT Master Plan) เพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนสู่องค์กรกำกับดูแลดิจิทัลที่นำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงาน ลดการใช้กระดาษ (Paperless) และใช้เทคโนโลยีและข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจและสนับสนุนการปฏิบัติงานและให้บริการประชาชน และแผนกลยุทธ์ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล ระยะ 3 ปี เพื่อพัฒนาและยกระดับการทำงานด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลให้มีประสิทธิภาพ และเตรียมความพร้อมให้กับพนักงานภายใต้ธีม “SMART HR, SMART People, SMART OIC”โดยดำเนินการให้ครอบคลุมใน 4 มิติ คือ 1) มิติการปรับเปลี่ยน โดยการปรับเปลี่ยนและเพิ่มมิติการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง พร้อมรับมือความเสี่ยงใหม่ และสอดคล้องกติกาสากล อาทิ ศึกษามาตรการและแนวทาง (Policy tools) ในด้านผลิตภัณฑ์ประกันภัย การลงทุน และเงินกองทุน พัฒนากระบวนการกำกับดูแลแบบอัตโนมัติ รวมถึงพัฒนาฐานข้อมูลและเครื่องมือที่ใช้ในการกำกับและตรวจสอบธุรกิจประกันภัย และส่งเสริมให้ภาคธุรกิจมีการดำเนินธุรกิจและการลงทุนที่สะท้อนแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (ESG) อย่างเป็นรูปธรรม 2) มิติการเชื่อมั่น โดยสร้างความเชื่อมั่นและปลูกฝังค่านิยมด้านการประกันภัยด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยและกลไกที่เป็นธรรม พัฒนาเครื่องมือ วิธีการและช่องทางใหม่ๆ ในการให้ความรู้ และสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการประกันภัยให้กับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เพื่อให้การประกันภัยสอดแทรกเข้าไปในวิถีชีวิตประจำวันของประชาชนและการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนมากขึ้น ยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติงานของคนกลางประกันภัย และจัดทำมาตรฐานหรือแนวปฏิบัติในการให้บริการด้านการประกันภัยที่ดี รวมทั้งพัฒนาเครื่องมือของสำนักงาน คปภ. ในการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัย ทั้งในด้านการพัฒนาระบบงาน กระบวนการทำงานที่รวดเร็ว ฐานข้อมูลที่เชื่อมโยง

 

3) มิติการก้าวล้ำ โดยสนับสนุนให้ธุรกิจประกันภัยปรับตัวให้ทันกับความก้าวล้ำของเทคโนโลยีและนวัตกรรม ปรับปรุงหลักเกณฑ์และกระบวนการทดสอบนวัตกรรมในโครงการ Insurance Regulatory Sandbox ให้มีความยืดหยุ่นและรวดเร็ว พัฒนาระบบฐานข้อมูลการประกันภัย (Insurance Bureau System: IBS) และฐานข้อมูลการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (Claim Database) พัฒนากรอบและเครื่องมือในการประเมินความพร้อมด้านการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cyber Resilience assessment framework: CRAF) และสร้างกลไกความร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงานกำกับดูแลและผู้ที่เกี่ยวข้องในภาคการเงิน ขยายบทบาท CIT ให้เป็น One Stop Service สำหรับบริษัทประกันภัยและ Startup รวมถึงสร้างเครือข่ายและองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีการประกันภัย และ 4) มิติการพัฒนา โดยส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยและความสามารถในการรับความเสี่ยงภัยที่สอดคล้องกับภูมิทัศน์ความเสี่ยง (Risk Landscape) ของเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป และสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดได้รวดเร็วขึ้น (time to market) ส่งเสริมให้ภาคธุรกิจประกันภัยพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้สอดคล้องกับความต้องการและรูปแบบการดำรงชีวิตของประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งเสริมและขยายผลการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่จำเป็นและตอบสนองความต้องการของประชาชนที่หลากหลายมากขึ้น ผลักดันการประกันสุขภาพภาคเอกชน (Private Health Insurance) และประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการลดอุปสรรคและปัญหาของการประกันสุขภาพ และนำประกันสุขภาพไปต่อยอดสวัสดิการรักษาพยาบาล เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากการประกันสุขภาพได้อย่างแพร่หลาย ในราคาที่เหมาะสม ศึกษาความเป็นไปได้และกำหนดแนวทางในการเพิ่มบทบาทของการประกันภัยในการรองรับความเสี่ยงของภาครัฐ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐ ศึกษาและพัฒนาแนวทางในการเสริมสร้างศักยภาพในการรับเสี่ยงภัยของประเทศในรูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสม สอดคล้องกับบริบทความเสี่ยง และความมั่นคงของธุรกิจประกันภัย

 

ในโอกาสนี้ ยังได้เชิญคุณอรพิมพ์ รักษาผล หรือ คุณเบส วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก มาบรรยายพิเศษหัวข้อ “ปลุกพลังชีวิต พิชิตเป้าหมาย” เพื่อปลุกกระตุ้นพลังและไฟในการทำงาน รวมถึงการเสริมสร้างทัศนคติ ความรัก ความภูมิใจในองค์กร และการรวมพลังกันของพนักงานเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายร่วมกันในอนาคต นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายได้จัดให้มีกิจกรรม CSR โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ร่วมกิจกรรมทำประโยชน์เพื่อสังคม ได้แก่ กิจกรรมบำรุงศาสนาและทำความสะอาดห้องน้ำ ณ สำนักปฏิบัติธรรมวัดคลองตาลอง และกิจกรรมทำความสะอาดสถานที่ ให้อาหารช้าง และบริจาคสิ่งของที่จำเป็น ณ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เขาใหญ่ ส่วนกิจกรรมในช่วงเย็น เป็นการแสดงมุทิตาจิตให้กับผู้ที่เกษียณอายุประจำปี 2563 ซึ่งปีนี้มี ผู้เกษียณอายุจำนวน 11 คน โดยเลขาธิการ คปภ. ได้มอบโล่เกียรติคุณ ของที่ระลึก และกล่าวขอบคุณแก่พนักงานเกษียณที่ได้ทุ่มเททำงานให้กับสำนักงาน คปภ. อย่างเต็มความสามารถมาโดยตลอด จากนั้นได้จัดกิจกรรมสันทนาการร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีระหว่างพี่น้องชาว คปภ.


 

“การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ผ่านทุกมิติต้องตั้งอยู่บนรากฐานที่สำคัญ คือ การมุ่งสู่การเป็นองค์กรชั้นนำ บุคลากรมีศักยภาพสูง กระบวนการทำงานมีความคล่องตัว และขับเคลื่อนด้วยฐานข้อมูลและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไปพร้อมกับความร่วมมือ ร่วมใจ สามัคคี และความมุ่งมั่นทุ่มเทของพนักงานสำนักงาน คปภ. ทุกคน ซึ่งจะส่งผลให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายสูงสุด มุ่งสู่การเป็น Digital Insurance Regulator ได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง ได้รับความน่าเชื่อถือจากประชาชน และสร้างสรรค์คุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติและประชาชนต่อไป” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย



 


Tags : คปภ. ดร.สุทธิพลทวีชัยการ โควิด-19 NewNormal นโยบายการดำเนินงานในปี2564คปภ.


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  ร่วมงาน “มหกรรมการเงินหาดใหญ่” ครั้งที่ 15 (MONEY EXPO 2025 HATYAI) ระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคม 2568 ณ บูธ F3 หาดใหญ่ฮอลล์ ชั้น 5 เซ็นทรัล หาดใหญ่ จ.สงขลา ยกขบวนผลิตภัณฑ์สินเชื่อครอบคลุมทุกกลุ่ม ตอบโจทย์ทุกความต้องการผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไฮไลท์ คือ สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่มและทุกความต้องการเอสเอ็มอีไทย ควบคู่บริการพัฒนาธุรกิจ ผ่านแพลตฟอร์ม “DX by SME D Bank” (dx.smebank.co.th)   ช่วยเสริมศักยภาพกิจการ ครบถ้วนในจุดเดียว ห้ามพลาด! พิเศษเฉพาะภายในงาน เมื่อยื่นขอสินเชื่อ และได้รับอนุมัติทุกวงเงิน รับโปรโมชันเสริมอีก 2 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 : ลดค่าธรรมเนียมวิเคราะห์สินเชื่อ (Front End Fee) สูงสุด 0.25% และต่อที่ 2 : รับบัตรกำนัล มูลค่า 500 บาท พร้อมเล่นเกม ลุ้นรับของที่ระลึกมากมาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

03 Jul 2025

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารประสบความสำเร็จได้รับรางวัลระดับเอเชีย Asia Responsible Enterprise Awards (AREA) 2025 สาขา Social Empowerment จาก MyMo Secure Plus นวัตกรรมความปลอดภัยบน Mobile Banking ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากภัยไซเบอร์ให้ลูกค้า บูรณาการร่วมกับ แคมเปญเตือนภัยมิจฉาชีพ เพื่อสื่อสารสร้างการรับรู้และเสริมภูมิคุ้มกันภัยทางการเงิน พร้อมกันนี้ ธนาคารออมสินยังได้รับรางวัลเกียรติคุณ Silver Emblem of Sustainability ในฐานะองค์กรที่มีความโดดเด่นและมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนในทุกมิติจนได้รับรางวัล AREA มาแล้ว 5 ปี จาก Enterprise Asia องค์กรพัฒนาเอกชนชั้นนำที่ส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการที่มีความรับผิดชอบในเอเชีย เพื่อเชิดชูและให้เกียรติองค์กรธุรกิจที่มีการดำเนินงานตามแนวทาง ESG และเป็นต้นแบบองค์กรชั้นนำในภูมิภาคเอเชียที่ขับเคลื่อนองค์กรสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ     ธนาคารออมสินถือเป็นธนาคารแรกที่พัฒนาโหมดปลอดมิจฉาชีพ ภายใต้ชื่อ MyMo Secure Plus เพื่อช่วยดูแลเงินฝากขั้นสูงสุดให้กับลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มที่ไม่รู้เท่าทันมิจฉาชีพที่เปลี่ยนรูปแบบการหลอกลวงตลอดเวลา ออกแบบโดยเน้นการทำธุรกรรมทางการเงินแบบจำกัดเฉพาะรายการที่จำเป็น อาทิ การโอนเงินไปยังบัญชีตนเองภายในธนาคารและต่างธนาคารที่ลงทะเบียนไว้ และการจำกัดวงเงินในการทำธุรกรรมต่อวัน ทั้งนี้ ธนาคารออมสินไม่เพียงพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นธนาคารแรกที่ดำเนินกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ (IMC) ผ่าน แคมเปญเตือนภัยมิจฉาชีพ ดำเนินการอย่างเข้มข้นผ่านช่องทางการสื่อสารที่ครบวงจร ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ สื่อนอกบ้าน หรืออินฟลูเอนเซอร์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวางและครอบคลุมมากที่สุด เนื่องจากธนาคารตระหนักดีถึงความสูญเสียของประชาชนและวิกฤตของอาชญากรรมออนไลน์ที่นับวันจะทวีความรุนแรงจนกลายเป็นภัยคุกคามระดับประเทศ จึงเป็นความพยายามของธนาคารในการที่จะกระตุ้นเตือนให้ประชาชนรู้เท่าทันกลลวงและไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพทางการเงิน     รางวัลเกียรติคุณ Silver Emblem of Sustainability และ Social Empowerment ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงบทบาทของธนาคารออมสินในฐานะ Social Bank ที่ไม่เพียงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับการให้บริการลูกค้าเท่านั้น แต่ยังขับเคลื่อนการสร้าง Social Impact เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนช่วยบรรเทาปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง ธนาคารยังคงยึดมั่นในหลักการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบตามแนวทาง ESG เพื่อก้าวสู่เป้าหมายความยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคม ตลอดจนเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว  

01 Jul 2025

...

นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT HD เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568  

29 Jun 2025

...

  บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมออกบูทในงานมหกรรมจำหน่ายรถยนต์ครบวงจร FAST Auto Show Thailand 2025   ระหว่างวันที่ 2 – 6 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ฮอลล์ EH 102 - 103  ในงานนี้ บริษัทฯ ได้จัดเต็มโปรโมชันสุดพิเศษ โดยมอบส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยสูงสุด 23% สำหรับผู้ที่ซื้อกรมธรรม์ใหม่ภายในงาน โดยมีทีมงานรับประกันภัยพร้อมบริการให้คำปรึกษา และคำแนะนำเกี่ยวกับแผนประกันภัยที่เหมาะสมกับความคุ้มครองที่หลากหลาย โดยนอกจากประกันภัยรถยนต์แล้วยังมีประกันอัคคีภัย ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันภัยการเดินทาง ประกันภัยสุขภาพ ประกันภัยโรคมะเร็ง และประกันภัยอื่นๆ ที่ให้ความคุ้มครองรองรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า นอกจากนี้ ยังสามารถผ่อนชำระเบี้ยประกันภัย ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน หรือ 10 เดือนผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ พร้อมรับของที่ระลึกที่เตรียมไว้สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ  พบกับกรุงเทพประกันภัยได้ที่บูท B11 ณ ศูนย์ประชุมนิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา ฮอลล์ EH 102 - 103 ในวันที่ 2 - 6 กรกฎาคม 2568    

29 Jun 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner