Responsive image

Friday, 18 Jul 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


“ทิพยประกันภัย” โตฝ่าโควิด-19 กำไร 638 ล้าน เพิ่ม 21% ไตรมาสแรกปี 64 เบี้ยประกันภัยเฉียด 7 พันล้าน พร้อมเดินหน้าดูแลประชาชน

Sat 29/05/2564


บมจ.ทิพยประกันภัย กำไรสุทธิไตรมาสแรก ปี 64 กว่า 638 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 21% เบี้ยประกันภัยรับรวมเพิ่ม 13% ทะลุ 6,900 ล้านบาท ผู้บริหาร “ดร.สมพร สืบถวิลกุล” ปลื้มเบี้ยประกันภัยโตทุกประเภท หลังปรับตัวรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดให้ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม ควบคู่กับการช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าก้าวขึ้นเป็นบริษัทฯ โฮลดิ้งส์ ภายใต้ชื่อ “ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์” ขยายขอบข่ายธุรกิจให้กว้างยิ่งขึ้น

ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 สิ้นสุด วันที่ 31 มีนาคม 2564  ว่า ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19   บริษัทฯ ได้พยายามปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การดำเนินงานออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยมีกำไรสุทธิสูงถึง 638.28 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.06 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 527.55 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.88 บาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 110.73 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 21

ขณะที่เบี้ยประกันภัยรับรวมกว่า 6,908.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 804.58 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 14 จากไตรมาสแรกปี 2563 ที่มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 6,103.45 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากเบี้ยประกันภัยรับทุกประเภท ได้แก่ เบี้ยประกันอัคคีภัย เพิ่มขึ้น 4.19% เบี้ยประกันภัยทางทะเลและขนส่ง เพิ่มขึ้น 14.41% เบี้ยประกันภัยรถยนต์ เพิ่มขึ้น 4.02% และเบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ด เพิ่มขึ้น 16.75%

ด้านฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 บมจ.ทิพยประกันภัย มีสินทรัพย์รวมที่ 47,382.98  ล้านบาท หนี้สินรวม 38,046.18 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 9,336.80 ล้านบาท

ดร.สมพร กล่าวถึงสาเหตุที่ส่งผลให้ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 2564 ขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สืบเนื่องจากบริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าที่ต้องการได้รับความคุ้มครองจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งการเพิ่มความคุ้มครองสำหรับกรมธรรม์ประกันภัยโควิด 19  ในด้านความคุ้มครองการแพ้วัคซีน หรือเพิ่มความคุ้มครองถึงการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิดให้กับบุคคลในครอบครัวฟรี เป็นต้น

รวมถึงบริษัทฯ ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และออกกรมธรรม์รูปแบบใหม่ ๆ เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่มีความหลากหลายและมี Lifestyle ที่แตกต่างกัน ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการ “TIP Rainbow” ที่สร้างสรรค์จากคนรุ่นใหม่ในโลกยุคสมัยใหม่ เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดต่าง ๆ ในการทำประกันภัย เพิ่มทางเลือกแก่ลูกค้าไม่ต้องระบุคำนำหน้าชื่อแบบเดิม สามารถระบุคู่ชีวิต คู่รัก ของตนเองเป็นผู้รับผลประโยชน์ โดยไม่จำเป็นต้องมีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด เพื่อให้ลูกค้าและผู้รับผลตอบแทนได้สิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่  นอกจากนี้ยังมีประกัน “TIP อัพทูไมล์” ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 รูปแบบใหม่   ที่ออกแบบให้สามารถเลือกจ่ายเบี้ยประกันภัยได้ตามความต้องการ หรือระยะไมล์ที่ใช้อย่างแท้จริง เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใช้รถน้อย หรือมีรถหลายคัน ให้ได้รับความคุ้มค่า และประโยชน์สูงสุดในการทำประกันตามระยะทางจริงที่ใช้

 "นอกจากการปรับตัวของทิพยประกันภัย เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมความต้องการให้แก่ลูกค้าแล้ว ประเด็นหลักที่ บมจ.ทิพยประกันภัย ได้ตระหนักและให้ความสำคัญ คือ การเอาใจใส่และให้ความช่วยเหลือดูแลสังคมและประชาชน เช่นมอบอุปกรณ์ป้องกันเพื่อความปลอดภัยส่วนบุคคลให้กับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนาม เปิดโครงการ “TIP ห่วงไทย สู้ภัยโควิด” ให้ประชาชนทั่วไปได้ลงทะเบียนรับความคุ้มครองการแพ้วัคซีนโควิด 19 ฟรี 1,000,000 สิทธิ์ เป็นต้น  เพื่อให้ประชาชนเกิดความอุ่นใจว่าจะได้รับการดูแลและเยียวยา หากเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายหลักของบริษัทฯ ในการเป็นประกันภัยอันดับหนึ่งในใจประชาชน อีกด้วย” ดร.สมพร กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2564 นั้น ดร.สมพร กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงยึดนโยบายการขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ารายย่อย ที่ยังมีอัตราการขยายตัวได้อีกมาก  ซึ่งบริษัทฯ จะเดินหน้าร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการพัฒนาเทคโนโลยี และผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ออกมารองรับความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่องรวมถึงบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพช่องทางการขายและช่องทางการให้บริการผ่านระบบดิจิทัลให้ดียิ่งขึ้น ให้มีความสะดวก รวดเร็ว และครอบคลุม เนื่องจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ทำให้ลูกค้ามีพฤติกรรมในการซื้อประกันหรือขอรับบริการผ่านช่องทางดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น และยังเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการเว้นระยะห่างลดการแพร่ระบาดหรือติดเชื้อไวรัสโควิด 19 อีกด้วย

อีกหนึ่งภารกิจหลักที่สำคัญ คือการปรับปรุงโครงสร้างและการดำเนินงานของบริษัทฯ ยกระดับเป็นบริษัทฯ โฮลดิ้งส์ และนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแทน ภายใต้ชื่อ บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และขยายขอบข่ายการดำเนินธุรกิจให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ซึ่งแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัทฯ ได้รับอนุญาตเบื้องต้นจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา


Tags : ทิพยประกันภัย ดร.สมพร สืบถวิลกุล โควิด-19 TIP ทิพยประกันภัยผลประกอบการไตรมาสแรกปี2564


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank โดย นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT HD เมื่อเร็ว ๆ นี้      

14 Jul 2025

...

  นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เห็นชอบให้ธนาคารออมสินจัดทำมาตรการแก้ไขหนี้รายย่อยในโครงการของรัฐบาลที่ออกมาช่วยประชาชนในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อรายย่อยไม่มีหลักประกัน ที่มีสถานะหนี้เสีย (NPLs) จำนวนรวมกว่า 500,000 บัญชี ให้สามารถหลุดพ้นจากประวัติหนี้เสีย โดยธนาคารจะดำเนินการทันทีเพื่อที่ในอนาคตลูกหนี้จะมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้เร็วขึ้นเมื่อมีความจำเป็น โดยแบ่งการดำเนินการเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ดำเนินการปิดบัญชีหนี้ ตัดหนี้สูญ และไม่ติดตามหนี้ ของลูกหนี้ NPLs จำนวนกว่า 200,000 บัญชี ในโครงการสินเชื่อตามนโยบายรัฐที่ได้รับงบประมาณชดเชยแล้ว ระยะที่ 2 ธนาคารจะทยอยดำเนินการปิดบัญชีหนี้แก่ลูกหนี้ NPLs โครงการสินเชื่อสู้ภัย COVID-19 จำนวนกว่า 300,000 บัญชี ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2568 ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมาธนาคารได้จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยสำหรับมาตรการปลดหนี้สินเชื่อตามโครงการของรัฐบาลที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้แล้วเป็นจำนวนกว่า 1.3 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดหนี้รวมกว่า 11,000 ล้านบาท โดยธนาคารออมสินสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้รายย่อย และช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางให้สามารถประคับประคองสถานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวให้เดินต่อได้ มุ่งเน้นดำเนินการเพียงครั้งเดียวเพื่อไม่ให้ลูกหนี้ต้องเสียวินัยทางการเงิน และยังสามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินได้อีกในอนาคต  

07 Jul 2025

...

    สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้ปรับปรุงแนวทางการคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัยสำหรับสัญญาประกันภัยระยะสั้น พร้อมทั้งทบทวนหลักเกณฑ์การคำนวณเงินกองทุนด้านความเสี่ยง เพื่อยกระดับความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันภัยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยมุ่งเน้นการพิจารณาข้อมูลในระดับประเภทการรับประกันภัยแทนการพิจารณาภาพรวมทั้งบริษัท เพื่อให้การประเมินภาระผูกพันและการจัดสรรเงินกองทุนมีความละเอียด แม่นยำ และสอดคล้องกับลักษณะความเสี่ยงที่แท้จริงยิ่งขึ้น โดยระหว่างวันที่ 6-21 มีนาคม 2568 สำนักงาน คปภ. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจและผู้เกี่ยวข้อง และจัดการประชุมชี้แจงไปเมื่อวันที่ 10-11 มีนาคม 2568 รวมทั้งได้จัดการประชุมกลุ่มย่อยเชิงเทคนิค (Focus Group) เสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 เพื่อรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ทั้งนี้ ในการประชุมฯ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงประกาศที่เกี่ยวข้องกับสำรองเบี้ยประกันภัย ได้แก่ 1. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการส่งรายงานประจำปีการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันวินาศภัย 2. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการส่งรายงานประจำปีการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต และ 3. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดประเภทและชนิดของเงินกองทุน รวมทั้งหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคำนวณเงินกองทุนของบริษัทประกันวินาศภัย สำหรับหลักการที่ได้มีการปรับปรุง คือ ปรับปรุงวิธีการคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัย และเงินกองทุนสำหรับความเสี่ยงจากสำรองเบี้ยประกันภัย จากเดิม พิจารณาที่ระดับผลรวมทั้งหมดของสัญญาประกันภัยระยะสั้น เปลี่ยนเป็น พิจารณาที่ระดับประเภทการรับประกันภัย  ซึ่งสำนักงาน คปภ. จะเผยแพร่ประกาศอย่างเป็นทางการในลำดับถัดไป เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกำหนดในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ดังนั้น บริษัทประกันภัยและผู้ที่เกี่ยวข้อง ควรเตรียมความพร้อมในการดำเนินการ เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ใหม่ได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่วันเริ่มมีผลบังคับใช้

07 Jul 2025

...

  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  ร่วมงาน “มหกรรมการเงินหาดใหญ่” ครั้งที่ 15 (MONEY EXPO 2025 HATYAI) ระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคม 2568 ณ บูธ F3 หาดใหญ่ฮอลล์ ชั้น 5 เซ็นทรัล หาดใหญ่ จ.สงขลา ยกขบวนผลิตภัณฑ์สินเชื่อครอบคลุมทุกกลุ่ม ตอบโจทย์ทุกความต้องการผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไฮไลท์ คือ สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่มและทุกความต้องการเอสเอ็มอีไทย ควบคู่บริการพัฒนาธุรกิจ ผ่านแพลตฟอร์ม “DX by SME D Bank” (dx.smebank.co.th)   ช่วยเสริมศักยภาพกิจการ ครบถ้วนในจุดเดียว ห้ามพลาด! พิเศษเฉพาะภายในงาน เมื่อยื่นขอสินเชื่อ และได้รับอนุมัติทุกวงเงิน รับโปรโมชันเสริมอีก 2 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 : ลดค่าธรรมเนียมวิเคราะห์สินเชื่อ (Front End Fee) สูงสุด 0.25% และต่อที่ 2 : รับบัตรกำนัล มูลค่า 500 บาท พร้อมเล่นเกม ลุ้นรับของที่ระลึกมากมาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

03 Jul 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner