Responsive image

Tuesday, 11 Nov 2025

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


ไทยประกันชีวิตตั้งเป้าปี 65 มุ่งเน้นขยายตลาดทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ ผ่านการนำเสนอสินค้าที่ตรงความต้องการ พร้อมผลักดันตัวแทนประกันชีวิตใช้เครื่องมือดิจิทัลเพิ่มขีดความสามารถ

Fri 11/03/2565


นายไชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (ไทยประกันชีวิต (Thai Life Insurance; TLI) หรือ บริษัทฯ) เปิดเผยว่า ไทยประกันชีวิตกำหนด Business Purpose ในการดำเนินธุรกิจสู่การเป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิต การประกันสุขภาพ และการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล หรือ Life Solutions Provider เพื่อรองรับวิสัยทัศน์การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืน

โดยเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯ กำหนดเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับปีแรกเพิ่มขึ้น โดยเน้นการขยายตลาดทั้งกลุ่มลูกค้าเก่า ผ่านการขายกรมธรรม์ที่สอง หรือ Second Policy รวมถึงการขายแบบทั้งครอบครัว และกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เน้นการขยายตลาดไปสู่ลูกค้าระดับบน  หรือกลุ่ม High Net Worth  และกลุ่มคนวัยทำงาน

บริษัทฯ มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจในทุกด้าน ทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล หรือ Personalization ในทุกช่วงของชีวิต (Life Stage) ทุกจังหวะชีวิต (Life Event) และทุกการใช้ชีวิต (Lifestyle) การพัฒนาบริการที่มากกว่าการประกันชีวิต รวมถึงการพัฒนาช่องทางจัดจำหน่ายต่างๆ อาทิ การ Upskill - Reskill ให้กับตัวแทนประกันชีวิต ผสานกับการปรับปรุงกระบวนการทำงานแบบครบวงจรด้วยระบบดิจิทัล โดยนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ตั้งแต่การวิเคราะห์ความต้องการ จนถึงการปิดการขาย การออกกรมธรรม์ และการชำระเงิน ซึ่งเป็นกระบวนการทำงานแบบ End-to-End” นายไชยกล่าว

ขณะเดียวกันบริษัทฯ ส่งเสริมให้บุคลากรฝ่ายขายใช้ Digital Tools เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้กลุ่มแอปพลิเคชัน MDA Plus ซึ่งจะเป็นกลุ่มแอปพลิเคชันที่สนับสนุนการทำงานของตัวแทนประกันชีวิต ทั้งการขาย การรีครูททีมงาน การบริการลูกค้า และการบริหารทีมงาน หรือการสนับสนุนให้ผู้เอาประกันภัยใช้แอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต ซึ่งนอกเหนือจากการดูข้อมูลแบบประกันที่ซื้อไว้ และทำธุรกรรมต่างๆ แล้ว บริษัทฯ วางแผนที่จะพัฒนาการจัดทำแพลตฟอร์มดิจิทัลด้านไลฟ์สไตล์ที่เป็นประโยชน์ตามความสนใจของลูกค้า (Interest-based Platform) เพื่อให้แบรนด์ไทยประกันชีวิตได้รับความไว้วางใจจากผู้เอาประกันภัย

สำหรับผลประกอบการในปี 2564 บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 10,270.65 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับปีต่อไป 72,747.72 ล้านบาท อัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์อยู่ที่ร้อยละ 88.6 เบี้ยประกันภัยรับจ่ายครั้งเดียว 7,430.64 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับรวม 90,451.49 ล้านบาท

 “จากข้อมูลเบี้ยประกันภัยรับใหม่ของบริษัทฯ พบว่า กลุ่มสินค้าที่มีเบี้ยประกันภัยรับใหม่สูงสุดในปี 2564 คือ ประกันชีวิตประเภทสะสมทรัพย์ ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 55.1 ของเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปีทั้งหมด ขณะที่สัญญาเพิ่มเติม ประกันชีวิตประเภทตลอดชีพ และประกันชีวิตประเภทควบการลงทุนมีสัดส่วนร้อยละ 13.6 ร้อยละ 12.3 และร้อยละ 7.3 ของเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปีทั้งหมดตามลำดับ อย่างไรก็ดี พบว่าประกันชีวิตประเภทควบการลงทุน และสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ มีอัตราการเติบโตของเบี้ยฯ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่เริ่มมองหาทางเลือกในการออมเงิน การลงทุนในรูปแบบอื่น เพื่อกระจายความเสี่ยง รวมถึงการมองหาหลักประกันด้านสุขภาพและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล” นายไชยกล่าว 

แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคดังกล่าว ส่งผลให้ในปี 2565 ไทยประกันชีวิตกำหนดเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับจากผลิตภัณฑ์ประเภทคุ้มครองชีวิตเติบโต รวมถึงเน้นการขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน ผลิตภัณฑ์ประเภทออมทรัพย์ที่มีส่วนร่วมในเงินปันผล หรือ Participating Product (PAR-Product) และสัญญาเพิ่มเติมประเภทต่างๆ

นายไชยกล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าในปี 2564 ธุรกิจประกันวินาศภัยบางส่วนจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่สถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออัตราการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากบริษัทฯ ไม่มีผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัย ในรูปแบบ “เจอ จ่าย จบ”(1) จึงส่งผลให้ค่าสินไหมทดแทนส่วนใหญ่เป็นการให้ความคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ โดยการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 โดยทั่วไปมาจากลูกค้าซึ่งซื้อสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพและสัญญาเพิ่มเติมชดเชยรายได้ระหว่างเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล

อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นของจำนวนการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนถูกหักกลบด้วยการลดลงของการเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลในกรณีอื่น เนื่องจากประชาชนหลีกเลี่ยงการไปโรงพยาบาลในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ อัตราส่วนการสูญเสีย (Loss Ratio) ที่เกี่ยวข้องกับค่ารักษาพยาบาลยังลดลงจากร้อยละ 5.8 ในปี 2562 เป็นร้อยละ 5.1 ในปี 2564 โดยสำหรับปี 2563 และปี 2564 การจ่ายเงินผลประโยชน์และค่าใช้จ่ายในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 มีจำนวน 1.6 ล้านบาท และ 899.6 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 0.04 และร้อยละ 19.47 ของการเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลโดยรวมและค่าใช้จ่ายในช่วงเวลาดังกล่าว ตามลำดับ

ทั้งนี้ สถานะทางการเงินของบริษัทฯ ยังคงมีความมั่นคง โดยมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio: CAR) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 อยู่ที่ร้อยละ 355.22 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายไชยกล่าวว่า ไทยประกันชีวิตให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานความมั่นคง การบริหารความเสี่ยงที่รอบคอบรัดกุม การกำกับดูแลกิจการที่ดี และการพัฒนาประสิทธภาพการทำงานพร้อมรับทุกความเปลี่ยนแปลง รวมถึงมุ่งเสริมสร้างสังคมไทยให้เข้มแข็งและยั่งยืน ด้วยการดำเนินกิจกรรมที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม ตามเป้าหมายการพัฒนาสู่ความยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs)

หมายเหตุ: 

(1)   ผลิตภัณฑ์ประเภท “เจอ จ่าย จบ” หมายถึง ผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ ที่ผู้เอาประกันจะได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินก้อน (Lump Sum) ตามวงเงินที่ได้ทำประกันไว้ หากตรวจพบโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เสนอขายโดยบริษัทประกันวินาศภัย


Tags : ไทยประกันชีวิต ไชย ไชยวรรณ


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

นางสาววชิรา การสุทธิ์ รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มการตลาดเพื่อความยั่งยืน เป็นประธานเปิดกิจกรรม School Trip ในโครงการธนาคารโรงเรียน ธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ธนาคารจัดขึ้นเพื่อมอบเป็นสิทธิพิเศษสำหรับสถานศึกษาที่มีผลการดำเนินงานส่งเสริมการออมดีเด่น สามารถจูงใจให้นักเรียนนักศึกษามีปริมาณการออมเติบโตต่อเนื่อง โดยในปี 2568 นี้ ธนาคารจัดเส้นทางทัศนศึกษาโดยรถไฟขบวนพิเศษจากกรุงเทพฯ สู่แหล่งท่องเที่ยว อำเภอหัวหิน เพื่อให้นักเรียนและอาจารย์ของสถานศึกษาได้ร่วมกิจกรรมสันทนาการ เสริมทักษะทางสังคม และการทำงานเป็นทีม ผ่านฐานกิจกรรมสุดสนุกและสร้างสรรค์   พร้อมทั้งเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ทางการเงิน GSB Learning Center ที่ธนาคารออมสินริเริ่มจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจด้านการเงินและการออมแก่เยาวชน โดยมี "โค้ชการเงินมืออาชีพ" (Certified Money Coach by GSB หรือ CMC by GSB) จากธนาคารออมสิน มาร่วมถ่ายทอดความรู้และสร้างสีสันการเรียนรู้ด้านการเงินและการออมตลอดทริป ณ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทั้งนี้ ธนาคารออมสินมุ่งสานต่อภารกิจส่งเสริมการออมด้วยการสร้างเยาวชนนักออมอย่างต่อเนื่อง เพื่อปลูกฝังวินัยการเงินตั้งแต่วัยเรียนและสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนเป็นต้นแบบสู่สังคมแห่งการออมในอนาคต   สถานศึกษาใดสนใจเข้าร่วมโครงการธนาคารโรงเรียน ธนาคารออมสิน สามารถสมัครได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายส่งเสริมการออมและ CSR ธนาคารออมสิน โทร. 0 2299 8000 ต่อ 810712-3    

09 Nov 2025

...

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ขอเชิญร่วมงาน YWCA Diplomatic Charity Bazaar ครั้งที่ 70 งานชอปสินค้านานาชาติเพื่อการกุศลที่รวมกว่า 200 ร้านค้า และกว่า 40 สถานทูตจากทั่วโลก พบกับบูทกรุงเทพประกันภัย (บูท D46) ที่นำเสนอหลากหลายแผนประกันภัยให้เลือกตามความต้องการ พร้อมรับโปรโมชันสุดพิเศษ ได้ที่ CentralWorld Pulse ชั้น 7 ในวันที่ 6 – 9 พฤศจิกายน 2568   นอกจากนี้ บริษัทฯ ขอเชิญร่วมงานไทยเที่ยวนอก ครั้งที่ 5 งานท่องเที่ยวสุดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี พบกับโปรโมชัน “3 ต่อสุดคุ้ม” สำหรับนักเดินทางที่รักการท่องเที่ยว - ลดสูงสุด 18% สำหรับประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ - รับฟรี Starbucks Card มูลค่า 100 บาท เมื่อซื้อประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ ครบทุก 500 บาท (สูงสุด 800 บาท) - พร้อมของสมนาคุณเพิ่มเติมภายในงาน พิเศษสำหรับผู้รักการดำน้ำ บริษัทฯ นำเสนอแผนประกันภัยนักดำน้ำ — ประกันภัยเพื่อการท่องเที่ยวภายในประเทศที่ออกแบบสำหรับนักดำน้ำโดยเฉพาะ ซึ่งกรุงเทพประกันภัยเป็นรายแรกในประเทศไทยที่เสนอผลิตภัณฑ์นี้ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยใต้ท้องทะเล โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาด้านประกันภัยอย่างใกล้ชิด พบกับกรุงเทพประกันภัยได้ที่บูท M44 – M45 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์ 5 – 6 ชั้น LG ในวันที่ 6 – 9 พฤศจิกายน 2568  

08 Nov 2025

...

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นำโดย นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ ประธานกรรมการ  นางยุพา ล่ำซำ  นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นางสลิล ล่ำซำ  นางจันทรา บูรณฤกษ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริษัท นายกนิช บุณยัษฐิติ กรรมการบริษัท  ดร.ณฐพร พันธุ์อุดม กรรมการบริษัท นายภูมิชาย ล่ำซำ ที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ ดร.สุธี โมกขะเวส กรรมการผู้จัดการ  พร้อมด้วยนายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย นางสาววสุมดี วสีนนท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย นางสาวพิมพ์จุฑา สกุนสิทธิ์ธาดา ผู้อำนวยการเขตวัฒนา คณะผู้บริหารเขตวัฒนา  รวมทั้งคณะผู้บริหาร และพนักงาน  บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัทคู่ค้า ลูกค้า และผู้มีจิตศรัทธา ร่วมน้อมถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน  ประจำปี 2568  แด่พระสงฆ์จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส ณ วัดธาตุทอง กรุงเทพมหานคร   ในโอกาสนี้  เมืองไทยประกันชีวิต  ได้มอบเงินบริจาค “ผ้าป่าการศึกษา” ให้แก่ โรงเรียนในพระอุปถัมภ์ของวัดธาตุทอง โดยมี  นางธนาลัย ลิมปรัตนคีรี  ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลวัดธาตุทอง  นายพงศ์พิษณุ สุพรรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนดาราคาม  นายธีระยุทธ สมบูรณ์สุข ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดธาตุทอง  (เรือนเขียวสะอาด)  นายเจษฎา ศรีนวล ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง  ว่าที่พันตรี ดร.ณัฏฐกิตติ์ ชัยเฉลิมมงคล กรรมการบริหารและไวยาวัจกรวัดธาตุทอง ผู้แทนโรงเรียน พระปริยัติธรรมวัดธาตุทอง ร่วมในพิธี  ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายของบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคมในทุกด้าน ให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน.    

05 Nov 2025

...

นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินในฐานะสถาบันการออมของคนไทย ตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านการส่งเสริมการออมและให้ความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ธนาคารจึงถือโอกาสในการจัดงานวันออมแห่งชาติ วันที่ 31 ตุลาคม 2568 ยกระดับสู่ GSB SAVINGS FORUM 2025 ภายใต้แนวคิด “AI & AOM ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” เพื่อให้เป็นเวทีในการสื่อสารด้านการออมและจุดประกายการผสานพลังเทคโนโลยี “AI” (Artificial Intelligence) เข้ากับ “AOM” (การออม) อย่างสร้างสรรค์ผ่านกิจกรรมสำคัญ อาทิ มินิทอล์ก “ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” โดยกูรูและเซเลบริตี้ชื่อดัง การประกวดออกแบบ “กระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล” ด้วย AI รอบชิงชนะเลิศ ตลอดจนการเปิดตัว “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB โดยงาน GSB SAVINGS FORUM 2025 ในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีแรก และธนาคารตั้งเป้าจัดเป็นงานประจำทุกปีในวันออมแห่งชาติ เพื่อขับเคลื่อนภารกิจหลักของธนาคารในการให้ความรู้ทางการเงินและเป็นเวทีหลักด้านการส่งเสริมการออมแก่สังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ภายในงานพบกับไฮไลท์ เวทีมินิทอล์ก “ออมยุคใหม่ สร้างสังคมไทยให้ยั่งยืน” เวทีแห่งแรงบันดาลใจจากคนดังหลากหลายเจน ที่จะมาแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์วางแผนการออมและการเงินส่วนบุคคลในโลกดิจิทัล อาทิ คุณหนุ่ย-พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ คุณตั๊ก-มยุรา เศวตศิลา และ คุณธนัชภรณ์ นิชิยาม่า ร่วมสร้างสีสันการเสวนาโดย คุณป๋อมแป๋ม-นิติ ชัยชิตาทร พร้อมรับชมการแข่งขันพรอมพ์ AI เพื่อออกแบบ “กระปุกออมสินแห่งโลกยุคดิจิทัล” รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นการแข่งขันของผู้ผ่านเข้ารอบ 50 คน จากผู้ส่งผลงานกว่า 700 ผลงาน โดยธนาคารจัดการประกวดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีในการสร้างแรงบันดาลใจด้านการออม ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 100,000 บาท ตัดสินโดยกูรูวงการ AI และผู้เชี่ยวชาญจากแวดวงโฆษณาชั้นนำของประเทศ อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญคือการเปิดตัว “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB ที่ธนาคารออมสินได้ริเริ่มจัดทำโปรแกรมสร้างผู้เชี่ยวชาญวางแผนการเงิน ร่วมพัฒนาหลักสูตรโดยผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการให้ความรู้ทางการเงิน การออม การลงทุน และการวางแผนเกษียณ โดยมีพนักงานออมสินที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบทั้งข้อเขียนและภาคปฏิบัติ ได้รับการรับรองคุณวุฒิเป็น “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB รุ่นแรก รวม 44 ราย ที่จะทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ทางการเงิน และส่งเสริมให้ประชาชนมีการออมอย่างมีเป้าหมาย ซึ่งพนักงานที่ผ่านการทดสอบในโปรแกรมนี้ จะได้รับการติดเข็มวิทยฐานะ CMC สำหรับใช้แสดงตนเพื่อเป็นการรับรองความรู้ความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป  นอกจากนี้ ธนาคารยังเปิดตัวกระปุกออมสิน “แสงแห่งการออม” ในวาระวันออมแห่งชาติ ดีไซน์ล้ำด้วยลูกเล่นมีไฟส่องสว่างในตัว สำหรับผู้ฝากเงิน 500 บาทขึ้นไป ลงทะเบียนจองสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ www.gsb.or.th, Line Official : GSB Society หรือ แอปพลิเคชัน MyMo ตั้งแต่วันที่ 27 – 30 ตุลาคม 2568 และเปิดให้ฝากเงินได้ที่ธนาคารออมสินสาขา แอปพลิเคชัน MyMo หรือเครื่องรับฝากเงิน ADM พร้อมรับกระปุกออมสิน ณ ธนาคารออมสินสาขาที่ลงทะเบียนจองสิทธิ์ไว้ ในวันที่ 31 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน 2568 (จำกัด 1 คน ต่อ 1 สิทธิ์) ของมีจำนวนจำกัด สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน GSB SAVINGS FORUM 2025 ในวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 6 อาคาร 32 ชั้น ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ สามารถลงทะเบียนได้ทางระบบออนไลน์ https://www.zipeventapp.com/e/GSB-Savings-Forum-2025 ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2568 โดยผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้าจะได้รับกระปุกออมสิน “แสงแห่งการออม” (จำนวนจำกัด) หรือรับชมการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางเพจเฟซบุ๊ก GSB Society

23 Oct 2025

Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner